บทที่ 44
ชะตากรรมของบ้านเสิ่น
ตั้งแต่เสิ่นเทาถูกทางการเรียกตัว หนิงลี่ร้อนรนเหมือนไฟลนก้น เรียกทุกคนมารวมตัวกันที่ห้องโถง หารือว่าจะช่วยเสิ่นเทาอย่างไร
เพียงไม่นาน เสิ่นเซียวอวี้กับจางเหมยเหมยก็มาถึง
พ่อบ้านเสิ่นกับไฉ่ไฉ่มารอก่อนแล้ว จึงไม่ต้องเสียเวลานาน
หนิงลี่นั่งไม่ติดเก้าอี้ เดินกลับไปกลับมาพลางว่า “สามีข้าถูกทางการเรียกตัว ไต่สวนคดีปล่อยกู้และติดสินบน พวกเจ้าช่วยคิดหาวิธีช่วยเขาออกมาหน่อย”
พ่อบ้านเสิ่นครุ่นคิด ก่อนจะเสนอให้ยัดเงินนายอำเภอเซวีย
ไฉ่ไฉ่นั้นจนปัญญา ไม่มีความคิดดีๆ เนื่องจากยังตรอมใจที่คนรักทอดทิ้งนางไป
ด้านจางเหมยเหมยกลุ้มใจยิ่งกว่า เป็นแค่สะใภ้ที่แต่งเข้า ไม่คิดว่าจะต้องมาติดร่างแหไปด้วย ทั้งยังจับต้นชนปลายไม่ถูก
ในขณะที่ทุกคนร้อนใจจะเป็นจะตายเรื่องที่เสิ่นเทาถูกจับ กลับมีเพียงคนคนเดียวที่ไม่ทุกข์ร้อน นั่งหัวเราะคิกคักราวกับเห็นเป็นเรื่องตลก
คนคนนั้นก็คือเสิ่นเซียวอวี้!
เสิ่นเซียวอวี้กวาดสายตามองสีหน้าเป็นทุกข์ของทุกคนในห้องโถง ชี้หน้าเรียงตัวพร้อมกับขบขันยกใหญ่ ไม่ต่างจากคนเมา
“ลูกอวี้ เจ้าหัวเราะอะไร พ่อเจ้าถูกจับไปนะ” หนิงลี่พูดกับลูกชายด้วยสีหน้าจนใจ
“โธ่ ท่านแม่ ท่านจะร้อนรนทำไม ที่ผ่านมาท่านพ่อถูกนายอำเภอเรียกตัวไปสอบสวนตั้งกี่ครั้งแล้ว แต่ก็กลับมาอย่าปลอดภัยไม่ใช่หรือ”
หนิงลี่ถลึงตาใส่ลูกชาย
ทุกครั้งที่เสิ่นเทารอดปลอดภัยกลับมา เพราะหลักฐานไม่พอเอาผิดไม่เพียงพออย่างไรเล่า
หนิงลี่อยากจะพูดออกไป แต่ดูจากสภาพของเสิ่นเซียวอวี้ พูดอะไรออกไปก็คงไม่เข้าใจ
ไม่เพียงไม่ทุกข์ร้อน กลิ่นสมุนไพรบนตัวของเสิ่นเซวียวอวี้ยังฉุนมาก เห็นชัดว่า เขากลับมาเสพต้าหมาอีกแล้ว
ถึงกระนั้น เสิ่นเซวียวอวี้ก็เป็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวน ต่อให้ทำตัวเลอะเลือน หนิงลี่ก็โกรธไม่ลง
นางทอดถอนใจคราหนึ่ง แสร้งทำเป็นว่าเสิ่นเซียวไม่ได้อยู่ในห้องนี้
“พวกเจ้าไม่มีความคิดที่ดีกว่าแล้วหรือ”
หนิงลี่ย้อนกลับมาประเด็นเดิม คิดหาวิธีช่วยเสิ่นเทา “ติดสินบนเคยทำแล้ว พวกเจ้าก็รู้ นายอำเภอเซวียไม่รับเงินสกปรก”
“เช่นนั้นก็ข่มขู่” ไฉ่ไฉ่ว่า
“เจ้าบ้าไปแล้วหรือ ข่มขู่นายอำเภอ โทษถึงตายเชียว” หนิงลี่ตวาดใส่สาวใช้คนสนิท
พรืด!
ตอนนั้นเอง จู่ๆ เสิ่นเซียวอวี้ก็พ่นหัวเราะออกมา
สายตาทุกคู่มองไปทางชายหนุ่มด้วยความสงสัย
“ตอนนี้หน้าตาของทุกคนตลกยิ่งนัก ฮะๆๆ” เสิ่นเซียวอวี้พูดพลางหัวเราะ “เอาน่า พวกเจ้าก็ด้วย จะร้อนรนกันไปทำไม เดี๋ยวท่านพ่อข้าก็กลับมาแล้ว”
“ลูกอวี้ แม่ไม่ว่าที่เจ้าไม่เข้าใจเรื่องราว แต่ว่า…ครั้งนี้เกรงว่าพ่อของเจ้าจะรอดยากแล้วกระมัง”
หนิงลี่มั่นใจยิ่ง เรื่องนี้เป็นแผนของเฟิงหยางอย่างแน่นอน
มิหนำซ้ำ เฟิงหยางยังทำอย่างรัดกุม ทั้งเปลี่ยนแซ่ ทั้งหย่ากับฉินหรู ทั้งหมดนั้นเพื่อไม่ให้ตัวเองกับนางตัวแสบต้องมาติดร่างแห ร้ายกาจยิ่งนัก!
ก่อนหน้านี้ หนิงลี่ตั้งใจจะใช้ประโยชน์จากฐานะของเฟิงหยาง ไม่คิดเลยว่ากลับเป็นนางเสียเองที่เสียท่า
เคยเข้าใจว่าเฟิงหยางนั้นโง่เขลา แต่ความเป็นจริงฝ่ายนั้นปิดบังความสามารถมาตลอด
เผลอๆ เฟิงหยางอาจล่วงรู้ความลับโครงสร้างบ้านหลังนี้ด้วย รู้กระทั่งทั้งเส้นทางลับไปที่ห้องใต้ดิน สถานที่นั้นซุกซ่อนเงินและหลักฐาน…
หนิงลี่พลันนึกถึงเรื่องสำคัญขึ้นมา
จริงด้วย ในห้องลับมีเอกสารและเงินหลายหีบ ของพวกนั้นเป็นหลักฐานสำคัญในคดี
เมื่อก่อน เสิ่นเทาถูกเรียกตัวไปสอบสวนหลายครั้ง แต่ที่รอดมาได้เพราะไม่มีหลักฐานเอาผิด
ทว่าตอนนี้เฟิงหยางกลับมาเมืองฉางแล้ว ฝ่ายนั้นต้องรู้เรื่องห้องลับแน่นอน ไม่อย่างนั้น นายอำเภอเซวียจะเรียกตัวเสิ่นเทาอย่างกะทันหันหรือ!?
“ต้องกำจัดหลักฐาน” หนิงลี่หลุดพึคำพูด
“หลักฐานอะไรหรือเจ้าคะ” จางเหมยเหมยถามอย่างร้อนรน มือทั้งสองข้างกำหมัดแน่นบ้านเสิ่นปิดบังเรื่องอะไรอีก นางไม่รู้เลยสักนิด
“เอ่อ เรื่องนั้น…”
ตอนแรก หนิงลี่ตั้งใจปิดบังจางเหมยเหมย แต่ครั้นคิดว่าจางเหมยเหมยแต่งเข้ามาเป็นสะใภ้ในบ้านเสิ่น นับเป็นคนของตระกูลเสิ่น ถือว่าลงเรือลำเดียวกัน ตอนนี้ถึงเวลาต้องพึ่งพาอำนาจตระกูลจางแล้ว
หนิงลี่เปลี่ยนมายิ้มประจบเอาใจลูกสะใภ้ กล่าวกับจางเหมยเหมยว่า “ลูกสะใภ้ ตอนนี้ตระกูลเสิ่นกำลังตกที่นั่งลำบาก สะใภ้อย่างเจ้าก็พลอยเดือดร้อนไปด้วย ถ้าเจ้าไม่อยากเดือดร้อน ช่วยส่งข่าวไปทางตระกูลจาง ขอความช่วยเหลือสักครั้งได้หรือไม่”
เห็นชัดเลยว่าหนิงลี่ตั้งใจดึงจางเหมยเหมยให้ตกที่นั่งลำบากด้วยกัน
จางเหมยเหมยรู้สึกเจ็บใจ กระนั้น สิ่งที่กลัวมากกว่าคือตนจะได้รับความเดือดร้อนทั้งที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่
จางเหมยครุ่นคิดอย่างเคร่งเครียด
หนิงลี่คว้ามือจางเหมยเหมย ตบหลังมือของลูกสะใภ้เบาๆ พร้อมกับเกลี่ยกล่อมอีกครั้ง
“ลูกสะใภ้ ถือว่าแม่สามีขอร้องเจ้าละ ช่วยเหลือพ่อสามีสักครั้งเถอะนะ ดูสิ เจ้าท้องโตใกล้คลอดแล้ว หากตระกูลเสิ่นเดือดร้อนตอนนี้ ทั้งตัวเจ้าและลูกของจะลำบากไม่ใช่หรือ”
จงใจข่มขู่กันชัดๆ เลย จางเหมยเหมยคิดอย่างเจ็บใจ แต่ว่า…นางที่มีชีวิตสุขสบายมาตลอด ต้องเดือดร้อนเพราะบ้านสามีเอาตอนนี้ แน่นอนว่าย่อมรับไม่ได้
“เช่นนั้น ท่านแม่ช่วยเล่าทุกอย่างให้ข้าฟังได้หรือไม่ ข้าจะได้หาวิธีช่วยท่าน” จางเหมยเหมยถาม
“ตอนนี้ไม่มีเวลามาอธิบาย เอาเป็นว่า เจ้ารีบส่งข่าวไปขอความช่วยเหลือตระกูลจางก่อน แล้วข้าจะค่อยๆ เล่าให้เจ้าฟัง”
จางเหมยเหมยครุ่นคิดอีกสักครู่ ก่อนจะพยักหน้าและยอมรับปาก
หลังจากนั้น จางเหมยเหมยก็เรียกตัวสาวใช้คนสนิทเข้ามา สั่งให้ฝ่ายนั้นส่งข่าวไปที่บ้านจาง ใช้อำนาจตระกูลจาง ขอให้นายอำเภอเซวียปล่อยเสิ่นเทา
สาวใช้ตอบรับ เจ้าค่ะ แล้วรีบวิ่งออกไปส่งข่าว
คราวนี้ จางเหมยเหมยหันมาถามแม่สามี “ว่าแต่ว่า หลักฐานที่ท่านแม่พูดถึงอยู่ที่ไหน และต้องทำอย่างไรกับสิ่งนั้นหรือ”
“หลักฐานนั่นอยู่ห้องใต้ดิน ต้องรีบเอาไปซ่อนที่อื่น” หนิงลี่กล่าวรัว
เมื่อพูดจบ ก็เรียกบ่าวรับใช้ทั้งหมดในบ้านมารวมตัวกันที่ห้องโถง
“ท่านแม่ พวกเขาไว้ใจได้หรือ” จางเหมยเหมยถามอย่างกังวล
หนิงลี่ทำหน้าชั่วร้าย ตอบสั้นๆ ว่า “หากมีคนปากมากก็กำจัด”
จางเหมยเหมยเม้มปาก พลันตระหนักได้ หนิงลี่คนนี้เป็นคนเลือดเย็น ภรรยาของอดีตคุณชายใหญ่ตั้งครรภ์อยู่ ยังวางยาทำแท้งลงคอ ช่วยเหลือคนแบบนี้ คิดถูกแล้วจริงๆ หรือ
“ลูกสะใภ้ เจ้าเหม่ออะไรหรือ” หนิงลี่เอ่ยถามเมื่อเห็นจางเหมยเหมยยืนนิ่ง
หญิงสาวได้สติ สั่นหน้าแล้วตอบว่า “เปล่าเจ้าค่ะ”
“จริงสินะ เจ้าท้องแก่ใกล้คลอดแล้ว ข้าคิดว่าเจ้านั่งพักที่ห้องนี้ดีกว่า ไม่ต้องตามพวกเราไปที่ห้องลับนั้นก็ได้”
จางเหมยเหมยเห็นด้วย นางท้องโตใกล้คลอดเต็มที ทั้งยังเดินอุ้ยอ้าย ถึงจะไปที่ห้องลับนั้นก็คงช่วยอะไรไม่ได้อยู่ดี
คิดแล้ว จางเหมยเหมยก็พยักหน้าแล้วบอกว่าจะรอที่นี่
จากนั้น หนิงลี่นำบ่าวรับใช้กลุ่มใหญ่ไปยังห้องลับ
จางเหมยเหมยนั่งรอที่ห้องโถง โดยมีเสิ่นเซวียวอวี้นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม
ภายในบ้านเวิ่นเวลานี้วุ่นวายมาก แต่เสิ่นเซวียวอวี้กลับนั่งตาลอย หัวเราะกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง
ตั้งแต่ที่อดีตคุณชายใหญ่และอดีตพี่สะใภ้มาเยี่ยมบ้านครั้งนั้น เสิ่นเซียวอวี้ก็ออกจากบ้านทุกวัน กลับเข้าบ้านอีกทีคือเช้าอีกวัน สภาพหลังจากนั้นคือเลื่อนลอย และมีความสุขในโลกของตัวเอง
พอคิดมาถึงตรงนี้ สาวใช้ส่วนตัวของจางเหมยเหมยวิ่งเข้ามาในสภาพแตกตื่น
“คุณหนู!”
“เจ้าไม่ส่งข่าวไม่ใช่หรือ ทำไมถึงกลับมาเร็วนัก ไม่สิ สีหน้าแบบนั้นคือ…”
“ขออภัยที่บุกรุกเข้ากะทันหัน”
เสียงทุ้มและห้าวหาญของชายคนหนึ่งดังหน้าประตู เมื่อหันมอง ก็เห็นว่าผู้ปรากฏตัวคือหัวหน้ามือปราบและลูกน้องกลุ่มหนึ่ง
จางเหมยเหมยพลันตะลึง ลุกพรวดจากเก้าอี้ “พวกท่านคือ?”
“ข้าน้อยคือหัวหน้ามือปราบ ได้รับคำสั่งให้มาค้นหาหลักฐานในบ้านเสิ่น ส่วนนี้คือป้ายคำสั่ง”
หัวหน้ามือปราบกล่าวหน้านิ่งพร้อมกับชูป้ายคำสั่ง จากนั้นไม่พูดพล่ามอีก นำกำลังไปยังห้องลับทันที
จางเหมยเหมยทรุดนั่ง หัวเราะออกมาด้วยความสิ้นหวัง
บทพิเศษมิตรภาพ หลังจากเฟิงหยางออกบ้านไปได้สักพัก เสี่ยวจินกับไป๋เหิงก็มาเยือน หญิงสาวทั้งสามยังคงสนิทสนมกันดี แม้ภายหลังต่างแยกย้ายไปมีเส้นทางของตนเอง แต่พวกนางมักมารวมตัวกันบ้านเฟิงบ่อยๆ ไป๋เหิงกับคุณชายใหญ่เซวียเยี่ยนจื่อ คุยกำหนดการและวันแต่งงานเรียบร้อยแล้ว เห็นว่าพธีแต่งงานจะจัดขึ้นในอีกสองอาทิตย์ข้างหน้า เสี่ยวจินลงเอยกับเฉินต้านเมื่อไม่นานมานี้ แม้ไม่ได้จัดงานแต่งงานใหญ่โตเหมือนกับไป๋เหิง แต่อย่างน้อย นางได้กราบไหว้ฟ้าดินและทำพิธีคารวะญาติผู้ใหญ่ “เสี่ยวหรู สามีเจ้าเพิ่งออกไปค่ายทหารหรือ ระหว่างทางพวกข้าเห็นเขาควบม้าออกไปพอดี นี่ๆ เจ้ากับสามีหักโหมเกินไปหรือไม่ ทำเขาไปสายแล้ว” เสี่ยวจินเปิดประเด็น ท้ายประโยคยังแซวสหายพลางหัวเราะคิก “ใช่ๆ ไปค่ายเวลานี้ ไม่นับว่าสายไปหรือ” ไป๋เหิงยิ้มแย้ม เอ่อออกับเสี่ยวจิน ฉินหรูแกล้งทำหน้ามุ่ย โบกมือแล้วกล่าวตัดบทพวกนางทั้งสอง “ช่างเรื่องของสามีเถอะ ข้าสนใจเรื่องของพวกพี่สาวมากกว่า พี่เสี่ยวจิน วันนี้ปักปิ่นมาสวยเชียว ไม่คิดเลยว่าเฉินต้านจะเป็นสามีที่เอาอกเอ
บทพิเศษเป็นวันที่ดี รุ่งอรุณมาเยือน แสงอาทิตย์สีทองทอประกายเข้ามาทางหน้าต่าง ทันทีที่เฟิงหยางลืมตาตื่นขึ้น พลันพลิกตัวนอนตะแคง มุมปากยกยิ้มขณะมองภรรยาที่ยังหลับใหลบนที่นอน เมื่อคืนเขาคงรังแกนางมากไปหน่อย ทำให้นางอ่อนเพลียต้องตื่นสายแล้ว คิดจบ เฟิงหยางก็ยื่นมือออกไปลูบไล้แก้มเนียนของภรรยาแผ่วเบา ทุกครั้งที่ตื่นขึ้นมาท่ามกลางความมืด เขารู้สึกถึงความสุขและอุ่นหัวใจเมื่อเห็นว่านางยังอยู่เคียงข้าง ครู่ต่อมา ขนตาหนาเป็นแพรของหญิงสาวขยับไหวราวกับปีกผีเสื้อ ก่อนดวงตาคู่สวยจะเปิดปรือขึ้น ฉินหรูค่อยๆ ลืมตาตื่น ทันใดนั้นก็เห็นว่าสามีกำลังยิ้มมองนางอยู่ ริมฝีปากของนางพลันคลี่ยิ้มให้เขาด้วยความอ่อนเพลีย ขณะเดียวกัน ดวงตาคู่สวยก็เต็มไปด้วยความรักที่ไม่มีวันหมด “ท่านพี่...” ริมฝีปากของฉินหรูขยับเรียกสามีแผ่วเบา “ข้าทำเจ้าตื่นหรือ” แม้เฟิงหยางจะถามเช่นนั้น หากนิ้วมือกลับเลื่อนลงมาลูบไล้กลีบปากอิ่มสวย ราวกับไม่อาจหักห้ามใจให้ปล่อยมือจากนาง “ปกติข้าตื่นเช้ากว่
บทพิเศษอุ่นรัก(อีกครั้ง) กลิ่นอาหารที่กำลังปรุงใหม่ๆ ลอยมาจากโต๊ะกลางห้อง กลิ่นนั้นหอมมาก ทั้งยังทำให้กระเพาะของเฟิงหยางถึงกับร้องระงม ตั้งแต่รับนางกับลูกกลับมาอยู่ด้วยกัน ผ่านมาหลายเดือนแล้ว แม้นานๆ ครั้งนางจะเข้าครัวสักที แต่เฟิงหยางย่อมรู้ถึงความอร่อยในรสมือของฉินหรู นอกจากนี้ยังทำให้เขาคลั่งไคล้อย่างที่สุด เช้านี้เฟิงหยางครึ้มอกครึ้มใจเป็นพิเศษ เพราะไม่มีเรื่องใดให้เขาต้องปวดหัวหรือเป็นกังวลอีกแล้ว เหนืออื่นใด คนงามของเขาเป็นยอดภรรยาหาผู้ใดเทียบไม่ได้ หัวใจเขามอบให้นางไปจนหมดสิ้น สิ่งที่ทั้งคู่ยังขาดคือการเติมความหวานละมุนละไมให้แก่กัน อีกอย่างหนึ่ง ช่วงนี้อาเหยาอ้อนไปอยู่บ้านท่านตาเพราะกำลังเห่อน้องสาว นับว่าทางสะดวก! หลังจากจบคดีความของเสิ่นเทา ผ่านมาแล้วสองเดือน เขากับนางไม่ได้ร่วมเตียงกันอีกเลย เขาเองก็เป็นบุรุษ ย่อมมีความใคร่ อยากกอดภรรยาใจจะขาดอยู่รอมร่อ ตั้งแต่กลับมาอยู่ด้วยกัน เขาเพิ่งจะกอดนางไปแค่คืนเดียวก็ตอนที่อาเหยาไปอยู่กับท่านตาท่านยาย! เวลานี้ เฟิงหยางกำลังแช่ตัวอยู่ใน
บทที่ 45บทสรุป ย้อนกลับมา ณ ที่ว่าการอำเภอเมืองฉาง หลังจากหัวหน้ามือปราบยกหีบเก็บเงิน เอกสารรายรับรายจ่ายและสมุดรายชื่อเข้ามาในที่ว่าการ เสิ่นเทาก็ทรุดลงกับพื้นทันที คร่ำครวญว่าตนเป็นผู้บริสุทธิ์ หีบเงินและสมุดรายชื่อเหล่านี้เป็นของผู้อื่น ตนถูกคนใส่ความ แน่นอนว่า คำพูดของเสิ่นเทาโกหกอย่างเห็นได้ชัด ตอนที่หัวหน้ามือปราบไปยังห้องลับนั้น หนิงลี่กำลังสั่งให้พวกบ่าวขนย้ายข้าวของออกไปพอดี เรียกได้ว่าจับได้แบบคาหนังคาเขา ในเมื่อหลักฐานแน่นหนาถึงเพียงนี้ เหล่าขุนนางกังฉินยังประทับลายนิ้วมือ สารภาพผิดกันหมดแล้ว เสิ่นเทาก็ไร้หนทางรอดเช่นกัน วันต่อมา เสิ่นเทายอมรับสารภาพ ทั้งยังขอร้องให้ละเว้นชีวิตของเสิ่นเซียวอวี้และหลานที่กำลังจะคลอด นายอำเภอเซวียไม่ได้ตอบทันที แต่ใช้เวลาพิจารณคดีสองวันสองคืน ในที่สุด การตัดสินคดีก็ถูกติดบนป้ายประกาศ ขุนนางกังฉินและเสิ่นเทาเกี่ยวข้องกับคดีมากมาย ทั้งคดีฆาตกรรมทั้งหาเงินมาอย่างมิชอบ ได้รับโทษประหารในอีกเจ็ดวันให้หลัง เสิ่นเซียวอวี้ผู้เป็น
บทที่ 44ชะตากรรมของบ้านเสิ่น ตั้งแต่เสิ่นเทาถูกทางการเรียกตัว หนิงลี่ร้อนรนเหมือนไฟลนก้น เรียกทุกคนมารวมตัวกันที่ห้องโถง หารือว่าจะช่วยเสิ่นเทาอย่างไร เพียงไม่นาน เสิ่นเซียวอวี้กับจางเหมยเหมยก็มาถึง พ่อบ้านเสิ่นกับไฉ่ไฉ่มารอก่อนแล้ว จึงไม่ต้องเสียเวลานาน หนิงลี่นั่งไม่ติดเก้าอี้ เดินกลับไปกลับมาพลางว่า “สามีข้าถูกทางการเรียกตัว ไต่สวนคดีปล่อยกู้และติดสินบน พวกเจ้าช่วยคิดหาวิธีช่วยเขาออกมาหน่อย” พ่อบ้านเสิ่นครุ่นคิด ก่อนจะเสนอให้ยัดเงินนายอำเภอเซวีย ไฉ่ไฉ่นั้นจนปัญญา ไม่มีความคิดดีๆ เนื่องจากยังตรอมใจที่คนรักทอดทิ้งนางไป ด้านจางเหมยเหมยกลุ้มใจยิ่งกว่า เป็นแค่สะใภ้ที่แต่งเข้า ไม่คิดว่าจะต้องมาติดร่างแหไปด้วย ทั้งยังจับต้นชนปลายไม่ถูก ในขณะที่ทุกคนร้อนใจจะเป็นจะตายเรื่องที่เสิ่นเทาถูกจับ กลับมีเพียงคนคนเดียวที่ไม่ทุกข์ร้อน นั่งหัวเราะคิกคักราวกับเห็นเป็นเรื่องตลก คนคนนั้นก็คือเสิ่นเซียวอวี้! เสิ่นเซียวอวี้กวาดสายตามองสีหน้าเป็นทุกข์ของทุกคนในห้องโถง ชี้หน้าเรียงตัวพร้อ
บทที่ 43ไต่สวน คดีขุนนางทุจริตเกี่ยวโยงกับคดีปล่อยกู้ของเสิ่นเทา นอกจากนี้ พบว่าวิธีการทวงหนี้ของเสิ่นเทานั้นยังโหดร้ายทารุณ ถึงขั้นมีผู้เสียชีวิตไม่น้อย ในเมื่อมีผู้เสียชีวิตย่อมเป็นคดีฆาตกรรม แต่เสิ่นเทารอดพ้นความผิดมาได้เพราะความช่วยเหลือจากขุนนางกังฉิน อย่างไรก็ตาม การฆาตกรรมที่เกิดขึ้นซ้ำๆ ย่อมมีหลักฐาน บัดนี้ หลักฐานและพยานบุคคลครบเรียบร้อย นายอำเภอเซวียจึงเรียกขุนนางกังฉินเหล่านั้นสอบสวนทีละคน สุดท้ายถึงค่อยเป็นเสิ่นเทา หลายวันต่อมา เสิ่นเทาถูกเรียกตัวมายังที่ว่าการอำเภอ จากนั้นผู้ช่วยนายอำเภออ่านสรุปสำนวนคดี เสิ่นเทาเบื้องหน้าทำธุรกิจค้าขาย แต่เบื้องหลังปล่อยกู้ มอบเงินสินบนแก่ขุนนาง และยังชุบเลี้ยงโจรกลุ่มหนึ่ง หากลูกหนี้ใช้หนี้คืนไม่ตรงตามกำหนด เสิ่นเทาจะใช้วิธีทวงเงินอย่างโหดเหี้ยมทารุณ กังขังหน่วงเหนี่ยว ทรมานจนถึงแก่ชีวิตก็มี ญาติของลูกหนี้ที่เป็นผู้หญิง จะถูกจับไปขายให้กับหอคณิกา อ้างว่าเพื่อขัดดอก... ทั้งที่เสิ่นเทาทำการอุกอาจ แต่ยังลอยนวลม