مشاركة

21. เจียวซินกับคณะราชทูต (4)

last update آخر تحديث: 2025-06-25 22:18:54

เมื่อเข้ามาในตำหนักก็พบเข้ากับฮองเฮา รัชทายาท และองค์หญิงเฟยเฟิ่งรออยู่แล้ว เห็นดังนั้นเจียวซินจึงวางองค์ชายลงเพื่อที่จะกล่าวถวายพระพรต่อฮองเฮา รัชทายาทและองค์หญิงองค์ชาย

“มิต้องมากพิธี ขึ้นมานั่งเถิด”

“ขอบพระทัยเพคะ” เมื่อเจียวซินขึ้นไปนั่งบนเก้าอี้ก็มีร่างเล็กพยายามปีนขึ้นมานั่งบนตัก เจียวซินจึงอุ้มองค์ชายน้อยขึ้นมาบนตัก

“หนิงหลงเจ้าจะรบกวนพระชายาเกินไปแล้ว” องค์หญิงเฟยเฟิ่งที่ยังมิพ้นวัยปักปิ่นกล่าวเตือนน้องชาย

“เจียวซินอุ้มน้องท้างวัน ท้างวันเลย”

“ได้ยินว่าตกน้ำตกท่าจนวิปลาส หายดีแล้วหรือ” ฮองเฮาหลี่กล่าวถามเจียวซิน

ป๊าป! เข้าให้ หน้าชาไปครึ่งหน้าแล้วกระมัง

“หายดีแล้วเพคะ มีเพียงความจำที่หดหายไปเพคะ”

“หากความจำเจ้าหดหายไปแล้วเป็นผู้เป็นคนส่งเสริมสวามีเช่นนี้ ก็ภาวนะ อย่าให้ความจำมันกลับมาเลย”

ป๊าป! ชาทั้งหน้าแล้วหล่ะตอนนี้

“แหะๆ เพคะ หม่อมฉันก็คิดเห็นดังนั้นเพคะ” เจียวซินยิ้มแห้งๆ ส่งไปให้

“จริงสิ รู้ตัวผู้บงการเหตุลอบทำร้ายพวกเจ้าหรือยังน้องสาม” องค์รัชทายาทเฟยฉีกล่าวเปลี่ยนเรื่องทันทีมิให้บรรยากาศอึมครึมไปมากกว่านี้

“หากจะคุยเรื่องนี้ก็เข้าไปคุยในที่ห้องทำงาน กำแพงกั้นยังมีหู* อ
استمر في قراءة هذا الكتاب مجانا
امسح الكود لتنزيل التطبيق
الفصل مغلق

أحدث فصل

  • เกิดใหม่อีกที เป็นพระชายาก็ไม่เลว   25. เจียวซินกับค่ายทหาร (4)

    ด้านเฟยเทียนเมื่อได้รับจดหมายข่าวจากรองแม่ทัพซีห่าวก็ยินดีที่ รองแม่ทัพซีห่าวได้รับชัยในสงครามกับพวกนอกด่านครานี้และจะเดินทางกลับมาวังหลวงในอีกหนึ่งหนาวข้างหน้า ด้วยเหตุที่ว่าต้องช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากสงครามก่อนจะนำทัพกลับมาเมืองหลวง แต่ยินดีได้ไม่นาน รองแม่ทัพซีห่าวก็ได้รายงานเรื่องที่น่าหนักใจไม่น้อย เนื่องจากหน่วยลาดตระเวนของรองแม่ทัพซีห่าวได้ไปพบการซ่องสุมกำลังหลายพันคนบริเวณชายแดนทางเหนือเยื้องไปทางตะวันออกกำลังจะเริ่มแล้วสินะ“ท่านอ๋อง หม่อมฉันเข้าไปได้หรือไม่เพคะ” เสียงเจียวซินทำให้เฟยเทียนหลุดจากภวังค์“อืม เข้ามาได้…พวกเจ้าออกไปให้หมด” เมื่อเจียวซินเข้ามาเฟยเทียนจึงสั่งให้ทหารและหนิงเออร์ออกไปรอด้านนอก“มีอันใดหรือเพคะ” เจียวซินที่กำลังงุนงงกับคำสั่งของเฟยเทียนเอ่ยถามขึ้น“พี่ชายเจ้าเขียนจดหมายมาถึงเจ้า หากอยากอ่านก็เดินอ้อมมาตรงนี้” เจียวซินที่อยากอ่านจดหมายจากพี่ชายเดินอ้อมไปหาท่านอ๋อง แต่ทว่านางต้องตกใจเมื่อท่านอ๋องรวบตัวนางให้นั่งลงบนตักแกร่งตึกตักๆ ตึกตักๆ“อ๊ะ ท่านอ๋อง…ทำอันใดเพคะ ปล่อยหม่อมฉันเถิดเพคะ”“ข้าก็จะให้เจ้าอ่านจดหมายของพี่ชายเจ้าอย่างไร นั่งเช

  • เกิดใหม่อีกที เป็นพระชายาก็ไม่เลว   24. เจียวซินกับค่ายทหาร (3)

    “พอเท่านี้ก่อน เจ้าเตะต่อยได้ดีเช่นที่เคยโอ้อวดไว้จริงๆ” เฟยเทียนกล่าวหยุดการประลองในครานี้“เป็นเช่นนั้นเพคะ” เจียวซินยืดอกอย่างภูมิใจ ถือว่านางพอสู้คนได้ แม้จะเจ็บบ้างแต่ก็ไม่มากมายอันใด รอยฟกซ้ำเป็นเรื่องธรรมดาในตอนที่นางเรียนเทควันโดในโลกก่อน“แต่ท่วงท่าของเจ้าช่างประหลาดเหลือเกิน ไปเล่าเรียนจากที่ใดมาหรือ” คำถามของเฟยเทียนทำให้เหล่าทหารต่างพยักหน้าตาม พวกเขาเองก็อยากรู้เช่นกันเผื่อจะได้ไปเล่าเรียนดูบ้าง“เอ่อ เรียนจาก…จากตำราเพคะ มิได้มีผู้ใดสอนหม่อมฉันศึกษาด้วยตนเอง” เฟยเทียนยังไม่ทันได้เอ่ยถามต่อก็มีทหารคนหนึ่งเข้ามาเรียกเฟยเทียน“ท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ รองแม่ทัพซีห่าวส่งจดหมายมาพ่ะย่ะค่ะ”“ท่านพี่…” เจียวซินพึมพำขึ้น“เจ้าจะไปด้วยหรือไม่ ข้ากับห่าวซวนจะไปทำงานสักครู่” เฟยเทียนกล่าวถามเจียวซิน“หม่อมฉันขอเดินเล่นบริเวณนี้สักครู่นะเพคะ แล้วจะตามเข้าไป”“อืม ส่วนพี่ชายเจ้า หากเขาส่งจดหมายถึงเจ้าข้าจะนำมาให้” เฟยเทียนส่งสัญญาณให้องค์รักษ์เงาทั้งสามติดตามเจียวซินอย่างใกล้ชิด“ขอบพระทัยเพคะ” เมื่อเฟยเทียนเดินจากไป ก็มีทหารหนุ่มผู้หนึ่งเดินเข้ามา“พระชายา มิได้พบกันเสียนาน พระองค์สบายดีหร

  • เกิดใหม่อีกที เป็นพระชายาก็ไม่เลว   23. เจียวซินกับค่ายทหาร (2)

    “อันใดของเจ้า” เฟยเทียนถึงกับงุนงง นางยื่นมือมาให้เขาทำไมกัน หรือนางอยากทักทายแบบชาวตะวันตก คิดเช่นนั้นเขาจึงยื่นมือไปจับมือนาง“มิใช่เพคะ…หนึ่งตำลึงเงินเพคะ” เจียวซินเอ่ยทวงขึ้นมาอีกครั้ง“หนึ่งตำลังเงิน ทำไมงั้นหรือ” เฟยเทียนที่ยังงุนงงก็ถามกลับ“ก็ค่าน้ำชากับขนมอย่างไรเพคะ นี่หม่อมฉันนำมาให้ตั้งสองชุด อีกอย่างนะ เพคะ…ขนมนี้หม่อมฉันเข้าครัวเองเลยนะ ดูนี่ อันที่บิดๆ เบี้ยวๆ นี่หล่ะที่หม่อมฉันทำ หนึ่งตำลึงเงินถือว่าลดราคาแล้วเพคะ” เจียวซินอธิบายร่ายยาวเป็นแถบ“ห๊า!! ค่าขนมกับน้ำชา ทั้งที่เงินซื้อวัตถุดิบต่างๆ เป็นเงินข้า ข้ายังต้องจ่ายให้เจ้าอีกหรือ”“ก็ค่าทำ ค่าขนส่งอย่างไรเพคะ…พูดเช่นนี้ท่านจะกินแล้วไม่จ่ายหรือ” เจียวซินลุกขึ้นเท้าสะเอวจ้องท่านอ๋องตาเขม็ง ราวกับยักษ์ที่กำลังเกรี้ยวโกรธ“เห้อออ…จ่ายๆ นี่หนึ่งตำลึงเงินของเจ้า” เฟยเทียนถึงกับถอนหายใจ“ขอบพระทัยเพคะ ท่านอ๋องมีสิ่งใดเรียกใช้หม่อมฉันได้นะเพคะ คิดเพียงงานละหนึ่งตำลึงเงินเท่านั้น ท่านขันทีกับท่านห่าวซวนก็ด้วยเรียกใช้ข้าได้ๆ” เมื่อได้เงินก็ยิ้มแย้มราวกับร่างยักษ์เมื่อครู่มิได้มีอยู่จริง“เป็นถึงชายาเอกของข้าเจ้าจะให้ผู้อื่นเ

  • เกิดใหม่อีกที เป็นพระชายาก็ไม่เลว   22. เจียวซินกับค่ายทหาร (1)

    “พวกเจ้าดูดีๆ ว่าครบแล้วหรือยัง” เจียวซินยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ยืนอยู่หน้าตำหนักมองข้ารับใช้ขนหีบของรางวัลที่ได้รับจากองค์ฮ่องเต้มาไว้ที่ตำหนัก“ครบถ้วนแล้วพ่ะย่ะค่ะพระชายา”“ขอบใจพวกเจ้าทุกคนมาก ขนมนี้ก็นำกลับไปกินกันเถิด” เจียวชินให้ หนิงเออร์จัดเตรียมขนมของว่างเอาไว้แล้ว“ขอบพระทัยพ่ะย่ะค่ะพระชายา” ข้ารับใช้ต่างรับขนมกลับไปด้วยความดีใจ ตั้งแต่พระชายาตกน้ำตกท่าครานั้นก็ใจดีขึ้นมาก“หนิงเออร์ เจ้าว่าหยกพวกนี้จะขายได้สักเท่าใด”“ได้หลายตำลึงทองเพคะ แต่ของพระราชทานเช่นนี้พระชายาจะขายมิได้นะเพคะ” หนิงเออร์พูดดักทันที“เหตุใดจึงขายมิได้”“พวกเชื้อพระวงศ์และขุนนางเขาต่างเก็บไว้เป็นเกียรติ ไว้ประดับบารมีเพคะ”“โง่เง่าเสียจริง จะเอาเกียรติเอาบารมีไปเพื่อสิ่งใด สู้ขายแล้วนำเงินมาใช้จ่าย มิดีกว่าหรือ” เจียวซินขัดเคืองกับความคิดเช่นนี้อย่างมาก มัวแต่กอดบารมีเอาไว้จะอดตายเอาได้“แล้วเดือนนี้ท่านอ๋องจะจ่ายเบี้ยหวัดเมื่อใดหรือ” ปากถามไปพลาง มือก็หยิบสำรวจของรางวัลที่ได้ว่าครบหรือไม่ หากไม่ครบจะได้ไปแจ้งท่านอ๋อง ให้ท่านอ๋องไปทวงจากฮ่องเต้ให้“เอ่อ…หม่อมฉันลืมบอกไปเพคะ”“ว่า…?” เจียวซินละสายตาจากหีบขึ้นม

  • เกิดใหม่อีกที เป็นพระชายาก็ไม่เลว   21. เจียวซินกับคณะราชทูต (4)

    เมื่อเข้ามาในตำหนักก็พบเข้ากับฮองเฮา รัชทายาท และองค์หญิงเฟยเฟิ่งรออยู่แล้ว เห็นดังนั้นเจียวซินจึงวางองค์ชายลงเพื่อที่จะกล่าวถวายพระพรต่อฮองเฮา รัชทายาทและองค์หญิงองค์ชาย“มิต้องมากพิธี ขึ้นมานั่งเถิด”“ขอบพระทัยเพคะ” เมื่อเจียวซินขึ้นไปนั่งบนเก้าอี้ก็มีร่างเล็กพยายามปีนขึ้นมานั่งบนตัก เจียวซินจึงอุ้มองค์ชายน้อยขึ้นมาบนตัก“หนิงหลงเจ้าจะรบกวนพระชายาเกินไปแล้ว” องค์หญิงเฟยเฟิ่งที่ยังมิพ้นวัยปักปิ่นกล่าวเตือนน้องชาย“เจียวซินอุ้มน้องท้างวัน ท้างวันเลย”“ได้ยินว่าตกน้ำตกท่าจนวิปลาส หายดีแล้วหรือ” ฮองเฮาหลี่กล่าวถามเจียวซินป๊าป! เข้าให้ หน้าชาไปครึ่งหน้าแล้วกระมัง“หายดีแล้วเพคะ มีเพียงความจำที่หดหายไปเพคะ”“หากความจำเจ้าหดหายไปแล้วเป็นผู้เป็นคนส่งเสริมสวามีเช่นนี้ ก็ภาวนะ อย่าให้ความจำมันกลับมาเลย”ป๊าป! ชาทั้งหน้าแล้วหล่ะตอนนี้“แหะๆ เพคะ หม่อมฉันก็คิดเห็นดังนั้นเพคะ” เจียวซินยิ้มแห้งๆ ส่งไปให้“จริงสิ รู้ตัวผู้บงการเหตุลอบทำร้ายพวกเจ้าหรือยังน้องสาม” องค์รัชทายาทเฟยฉีกล่าวเปลี่ยนเรื่องทันทีมิให้บรรยากาศอึมครึมไปมากกว่านี้“หากจะคุยเรื่องนี้ก็เข้าไปคุยในที่ห้องทำงาน กำแพงกั้นยังมีหู* อ

  • เกิดใหม่อีกที เป็นพระชายาก็ไม่เลว   20. เจียวซินกับคณะราชทูต (3)

    “ขอคำนับราชทูตทุกท่าน ยินดีต้อนรับเข้าสู่แคว้นเฉินของเรา ตัวข้ามีนามว่า จางเจียวซิน จะเป็นผู้แปลสารของท่านให้องค์ฮ่องเต้ได้รับรู้เจ้าค่ะ”“ยินดีที่ได้รู้จักแม่นางเจียวซิน” หนึ่งในราชทูตกล่าวขึ้นพร้อมกับยื่นมือมาให้เจียวซินจับเป็นการทักทาย“ขออภัยท่านราชทูต ตัวข้าเป็นหญิงที่แต่งงานแล้ว ตามธรรมเนียมของแคว้นเฉินตัวข้าจึงมิอาจจับมือทักทายกับท่านได้ หากท่านมิรังเกียจจับมือทักทายกับสามีของข้าแทนได้หรือไม่เจ้าคะ” เจียวซินพูดด้วยท่าทีนอบน้อม เพราะเกรงจะทำให้ราชทูตมิพอใจ แต่ทว่าราชทูตหนุ่มผู้นั้นกับหัวเราะเบาๆ“ข้ามิรังเกียจ อยากรู้จักชายโชคดีผู้นั้นเช่นกัน”“ท่านอ๋องสามเพคะ” เจียวซินเอ่ยเรียกเฟยเทียน“ท่านราชทูต นี่เป็นท่านอ๋องสามเฉินเฟยเทียนโอรสขององค์ฮ่องเต้ของแคว้นเฉินเจ้าค่ะ” ราชทูตจับมือทักทายเฟยเทียน ซึ่งเฟยเทียนมิได้ตื่นตระหนกกับธรรมเนียมเช่นนี้ เพราะเคยอ่านผ่านตำรามาบ้าง ทั้งเจียวซินยังสอนวิธีการทักทายเช่นนี้อยู่บ่อยครั้ง“กราบทูลฝ่าบาท เมื่อสักครู่เป็นธรรมเนียมการทักทายโดยการสัมผัสที่มือ เพคะ”“เช่นนั้นหรือ ชายจับชาย หญิงจับหญิงหรือ”“แท้จริงแล้วชายจับมือทักทายกับหญิงได้ถือเป็นปกติเพ

فصول أخرى
استكشاف وقراءة روايات جيدة مجانية
الوصول المجاني إلى عدد كبير من الروايات الجيدة على تطبيق GoodNovel. تنزيل الكتب التي تحبها وقراءتها كلما وأينما أردت
اقرأ الكتب مجانا في التطبيق
امسح الكود للقراءة على التطبيق
DMCA.com Protection Status