กลิ่นหอมละมุนแบบกาแฟคั่วสดกับคาราเมลหอมกลิ่นไหม้อ่อนๆ ลอยฟุ้งกลางอากาศ ราวกับเรียกร้องให้ใครบางคนตามมันไป
ธีโอ หยุดยืนกลางโถง สูดหายใจลึกอีกครั้ง ดวงตาทอประกายสว่างขึ้นในทันที “เขาออกไปแล้ว...แต่กลิ่นยังไม่หาย” เสียงฝีเท้าเขาดังชัดในทางเดินที่ไร้ผู้คน กลิ่นของวิคเตอร์ไม่ชัดเจนเหมือนตอนอยู่ใกล้ แต่มันก็ชัดพอจะพาเขาเดินเลี้ยวออกจากตัวอาคาร มุ่งหน้าสู่โรงจอดรถ ลมเย็นภายนอกตีกลิ่นจางๆ กระจายไปทั่ว แต่ธีโอกลับตามมันได้อย่างแม่นยำอย่างเหลือเชื่อ “คุณวิคเตอร์...หนีผมไม่พ้นหรอกครับ” เสียงกระซิบของเขาดังแผ่วเบาเหมือนคำสัญญาในเงามืด ในโรงจอดรถ ไฟบางส่วนยังเปิดอยู่ และในความเงียบที่ปกคลุม รถหรูคันหนึ่งจอดนิ่งอยู่ข้างใน ประตูด้านคนขับปิดไม่สนิทดีนัก ราวกับมีใครบางคนรีบหนีเข้าไป ธีโอหยุดยืนตรงหน้า ยกมือแตะฝากระโปรงเบาๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้น ดวงตาเยือกเย็นกลับกลายเป็นร้อนแรง เขายื่นหน้าเข้าไปใกล้หน้าต่างรถ สูดลมหายใจลึกอีกครั้ง กลิ่นวิคเตอร์เข้มข้นราวกับเพิ่งปล่อยออกมาเมื่อครู่ “นั่นแหละ… นี่แหละกลิ่นของคุณ” เขาพึมพำ ภายในรถ วิคเตอร์นั่งนิ่งอยู่ในเบาะหลัง ดวงตาเบิกกว้างเมื่อเห็นเงาร่างของธีโอเคลื่อนใกล้เข้ามา ใบหน้าเขาเริ่มซีดเล็กน้อย ข้างกายมีโคโค่แมวอ้วนที่ฟุบลงไปกับเบาะ มองหน้าเขาด้วยแววตา “ก็บอกแล้วให้หนีไกลกว่านี้!” ประตูรถถูกเปิดออกอย่างนุ่มนวล แต่หนักแน่น ธีโอโน้มตัวเข้าไปช้าๆ ก่อนจะยิ้มบาง “หนีผมมาทำไมครับคุณวิคเตอร์?” เสียงเขานุ่มลึกจนขนลุก คล้ายกลิ่นไวน์เข้มๆ ที่ชวนให้หลงใหล " ก็ให้พวกคุณ..สองคนเคลียร์กันไงครับ แฮะๆ.." วิคเตอร์ไม่พูดอะไรต่อ กลืนน้ำลายลงคอขณะถอยตัวชิดขอบเบาะ ธีโอพิงประตู มองเขาอย่างไม่ละสายตา “เหมือนคุณจะไม่รู้เลยนะครับ...ว่ากำลังปล่อยกลิ่นออกมาไม่รู้ตัว” เขายื่นหน้าเข้าใกล้ “ไม่ใช่แค่เขาที่อยากได้คุณหรอกครับ” ธีโอยื่นมือไปแตะแขนวิคเตอร์เบาๆ ดวงตาสีแดงเข้มทอประกายเหมือนนักล่า “ผมก็ด้วย” เสียงเครื่องยนต์เดินเรียบขณะที่รถเคลื่อนตัวออกจากโรงจอดรถ ไฟถนนสาดเงาสีเหลืองนวลวูบไหวเข้ามาในตัวรถเป็นจังหวะ วิคเตอร์นั่งนิ่งอยู่หลังพวงมาลัย ในหัวก็คิดทบทวนซ้ำๆ ว่าไม่น่ารับไอพระเอกบ้านี่ขึ้นรถมาเลย ดวงตาจับจ้องถนนเบื้องหน้า แต่หางตายังคงเหลือบมองมือของธีโอเป็นพักๆ มือขาวจัดที่กำลังลูบเจ้าโคโค่เบาๆ ขณะมันนอนเหยียดยาวอยู่บนตักของเขา ธีโอมองแมวอ้วนในอ้อมแขน ก่อนจะหัวเราะเบาๆ “โคโค่ดูจะชอบผมนะครับ” “มันไม่ค่อยชอบคนแปลกหน้าน่ะ…” วิคเตอร์ว่าเสียงเบา พลางหันไปสบตาแมวของตัวเองที่ตอนนี้เหมือนจะกลายเป็นหนูในอุ้งมือเสือไปแล้ว “ถ้าอย่างนั้น...แสดงว่าผมไม่ใช่คนแปลกหน้าแล้วสินะครับ” ธีโอตอบทันควัน พร้อมรอยยิ้มเอื่อยเฉื่อยที่ทำเอาอุณหภูมิในรถพุ่งขึ้นอย่างไร้เหตุผล วิคเตอร์กระแอมเล็กน้อย พยายามเปลี่ยนเรื่อง “แล้วกับมิเอล…พวกคุณตกลงกันได้แล้วเหรอ?” ธีโอยิ้มกว้างขึ้นอย่างอารมณ์ดี “เรียบร้อยดีครับ ไม่ต้องห่วง เขาเข้าใจแล้วว่าผมไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นกับคุณ” ดวงตาคมหันมามองเขาโดยตรง “แต่อันที่จริงผมน่ะ...คิดนะครับ” วิคเตอร์กลืนน้ำลายลงคอเงียบๆ ไม่ตอบอะไร พวงมาลัยในมือเริ่มถูกบีบแน่นขึ้นทีละน้อย จนกระทั่งเสียงทุ้มเอื่อยของธีโอดังขึ้นอีกครั้ง “เปลี่ยนใจแล้วละครับ ตอนนี้ผมอยากไปบ้านคุณ” “ห้ะ?” วิคเตอร์หันขวับ หางคิ้วกระตุกขึ้น “คุณไม่ต้องไปส่งบ้านผมแล้วครับ ไปบ้านคุณดีกว่า” ธีโอตอบเสียงนิ่งราวกับเป็นคำขอเล็กๆ “ผมอยากเล่นกับโคโค่ต่อ” เขาเอียงคอ มองแมวในอ้อมแขน แล้วส่งสายตาล้อเลียน “โคโค่เองก็ดูเหมือนไม่อยากห่างผมเลยด้วย” แมวอ้วนเหลือบมองเจ้าของเหมือนจะพูดว่า "ช่วยที ฉันไม่เอาแล้วนะคนนี้!" วิคเตอร์กำลังจะอ้าปากปฏิเสธ แต่ทันใดนั้น ตึ๊ง! แผ่นหน้าต่างโปร่งแสงปรากฏขึ้นตรงเบื้องหน้า > [STATS UPDATE] วิคเตอร์ (Victor): ความนิยมของตัวละครพุ่งทะยาน! อันดับคู่จิ้นล่าสุด: ธีโอ x วิคเตอร์ — แซงมิเอลนายเองแล้ว! ข้อความพิเศษจากโคโค่: “ถึงฉันจะไม่ชอบสถานการณ์แบบนี้ แต่ดูเหมือนนักอ่านจะเชียร์คู่นายกับธีโอแล้วนะ... สู้ๆ ล่ะ” “โว้ยยยยยยยย!!” วิคเตอร์ หรือภีมในร่างของตัวละครรอง แทบกรีดร้องออกมาในใจ จนเท้าเขาเผลอกระแทกเบรคจนโคโค่ไถลหล่นจากตักลงพื้นไป ธีโอหัวเราะในลำคอเบาๆ ขณะรถหยุดหน้าบ้าน วิคเตอร์ถอนหายใจยาวเหมือนคนกำลังยอมจำนนต่อโชคชะตา คืนนี้…เขาคงหนีไม่พ้นคำว่า "คู่จิ้น" แล้วจริงๆ สินะ และคนที่อยู่ข้างเขา ก็คือ พระเอกของเรื่อง…ที่ควรจะต้องไปอยู่กับนายเอกสิตอนนี้ ภายในบ้านของวิคเตอร์เป็นคอนโดหรูขนาดใหญ่ ตกแต่งเรียบแต่มีรสนิยม โทนสีเทาเข้มสลับน้ำตาลอ่อน เฟอร์นิเจอร์แต่ละชิ้นดูเหมือนเลือกมาอย่างตั้งใจ ไม่มีของตกแต่งจุกจิกมากนัก ให้ความรู้สึกเงียบ เรียบ และ ‘ปลอดภัย’ ...ซึ่งแน่นอนว่าไม่มีอะไรปลอดภัยสำหรับธีโอ “บ้านคุณสะอาดกว่าที่คิดนะครับ” เขาเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงติดขำ ก้มมองรองเท้าแตะลายหมีที่วางข้างชั้นวางรองเท้าหรู “น่ารักดีครับ…ไม่เข้ากับบุคลิกคุณเลย” วิคเตอร์ถอนหายใจ เดินไปเปิดประตูห้องนอน “ผมขอไปเปลี่ยนเสื้อก่อนนะครับ” “อ้อ ได้ครับ” ธีโอยิ้มหวาน “เปลี่ยนให้นานๆ เลยก็ได้ ผมอยากสำรวจบ้านคุณต่อสักหน่อย” “ไม่ต้องเลยครับ” วิคเตอร์ขมวดคิ้ว ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องพร้อมกับคว้าโคโค่ที่กำลังจะเดินตามธีโอขึ้นโซฟาเข้าไปด้วยกันแบบไม่ไว้ใจ แกร๊ก ประตูห้องปิดลง ธีโอหันกลับมา มองไปรอบห้องนั่งเล่นด้วยแววตาเหมือนเด็กได้ของเล่นใหม่ เขาเดินลัดเลาะไปตามมุมต่างๆ ลูบขอบโต๊ะบ้าง หยิบกรอบรูปขึ้นมาดูบ้าง ยิ้มบางๆ ขณะอ่านชื่อหนังสือที่วางเรียงอยู่ในชั้น “โอ้… ‘คู่มือเพศรอง?’ จริงเหรอครับคุณวิคเตอร์” เขาพึมพำกับตัวเอง หัวเราะเบาๆ อย่างคนรู้ทัน ในห้องนอน วิคเตอร์ยืนพิงตู้เสื้อผ้า ขณะปล่อยให้โคโค่ลงไปนั่งบนเตียง เขาหยิบเสื้อยืดตัวใหม่ออกมาเตรียมเปลี่ยนพลางบ่นพึมพำกับแมว “เธอเห็นมั้ยโคโค่…หมอนั่นมันแปลกมาก” เจ้าแมวอ้วนกลอกตาแล้วกลิ้งตัวม้วนหนึ่งรอบ "เขาไม่ได้แปลก…เขาแค่สนใจนายจนแทบบ้า" “โคโค่!! นี่เธออยู่ทีมไหนกันแน่!” วิคเตอร์หน้าร้อนผ่าว ถึงจะรู้ว่าแมวตัวเองอารมณ์ศิลปินแต่ก็ไม่คิดว่าจะไปเข้าข้างธีโอขนาดนี้ "นักอ่านเขาเชียร์ไง ฉันไม่อยากฝืนกระแส" “นี่มันชีวิตผมนะ!” วิคเตอร์แทบจะกรีดร้องอยู่กับแผ่นโปร่งแสงตรงหน้า เสียงฝีเท้าขยับใกล้ประตูทำให้เขาชะงัก “เฮ้ คุณวิคเตอร์ ผมเจอห้องครัวแล้วนะครับ! ขอกาแฟหน่อยได้ไหม?” “อย่าทำอะไรครัวผมนะ!” วิคเตอร์ร้องสวนไป ธีโอหัวเราะลั่นอย่างพอใจจากอีกฟากของบ้าน ขณะที่วิคเตอร์ถอนหายใจเฮือกใหญ่ พลางกุมขมับเขารู้แล้วว่า...คืนนี้จะไม่ใช่คืนธรรมดาแน่นอน"ดูหนังกันมั้ยครับ " ธีโอพูดขึ้นเชิญชวนวิคเตอร์ผู้เป็นเจ้าของบ้านทันทีที่เขาเห็นจอทีวี" เอ่อ..นี่มันก็น่าจะดึกแล้ว ให้ผมไปส่งคุณที่บ้านไม่ดีกว่าหรอครับ " วิคเตอร์พยายามพูดเพื่อให้แขกยอมกลับบ้าน ทั้งกินมื้อค่ำแล้วยังเดินเล่นในบ้านของเขาราวกับเป็นสนามเด็กเล่นวิคเตอร์เห็นทีว่าต้องส่งแขก แต่ดูเหมือนแขกคนนี้ค่อนข้างดื้อและมึนสุดๆ จนสุดท้ายก็...ทีวีจอใหญ่ระดับ IMAX ขนาดเกือบเท่าฝาบ้านฉายแสงสีนวลอุ่นๆ วิคเตอร์นั่งตัวตรงราวกับเป็นบอดี้การ์ด ไม่ได้เอนหลังพิงโซฟาแม้แต่นิด ขณะที่ธีโอนั่งข้างๆ ด้วยท่าทีที่ "ไม่รู้เลยว่านี่นั่งดูหนังหรือจะดูเจ้าของบ้านมากกว่า"ผมเรียกวิคเตอร์ ว่าพี่ได้มั้ยครับ เราน่าจะสนิทกันแล้วนี่น่า~" ธีโอพูดเล่นพร้อมยิ้มกริ่ม ก่อนจะลุกขึ้นไปหยิบรีโมต “พี่เองก็เรียกผมธีโอจะได้แฟร์ๆกัน”“อ่า ได้สิ…” วิคเตอร์ตอบช้าๆ แอบกลืนน้ำลายเล็กน้อยเมื่อธีโอทิ้งตัวลงนั่งข้างเขาอีกครั้ง แบบใกล้เกินระยะปลอดภัยของชาวอัลฟ่าจนหนังเริ่มฉาย...แต่วิคเตอร์ไม่ได้ดูหนังเล เพราะทุกๆ ครั้งที่เขาขยับตัว หรือเงยหน้าขึ้นมองจอ ก็จะเห็นธีโอนั่งหันมาทางเขาแบบ...จ้องจ้องแบบลึก จ้องแบบอยากขอข้อมูลพันธุกร
กลิ่นหอมละมุนแบบกาแฟคั่วสดกับคาราเมลหอมกลิ่นไหม้อ่อนๆ ลอยฟุ้งกลางอากาศ ราวกับเรียกร้องให้ใครบางคนตามมันไปธีโอ หยุดยืนกลางโถง สูดหายใจลึกอีกครั้ง ดวงตาทอประกายสว่างขึ้นในทันที “เขาออกไปแล้ว...แต่กลิ่นยังไม่หาย”เสียงฝีเท้าเขาดังชัดในทางเดินที่ไร้ผู้คน กลิ่นของวิคเตอร์ไม่ชัดเจนเหมือนตอนอยู่ใกล้ แต่มันก็ชัดพอจะพาเขาเดินเลี้ยวออกจากตัวอาคาร มุ่งหน้าสู่โรงจอดรถลมเย็นภายนอกตีกลิ่นจางๆ กระจายไปทั่ว แต่ธีโอกลับตามมันได้อย่างแม่นยำอย่างเหลือเชื่อ“คุณวิคเตอร์...หนีผมไม่พ้นหรอกครับ” เสียงกระซิบของเขาดังแผ่วเบาเหมือนคำสัญญาในเงามืดในโรงจอดรถ ไฟบางส่วนยังเปิดอยู่ และในความเงียบที่ปกคลุม รถหรูคันหนึ่งจอดนิ่งอยู่ข้างใน ประตูด้านคนขับปิดไม่สนิทดีนัก ราวกับมีใครบางคนรีบหนีเข้าไป ธีโอหยุดยืนตรงหน้า ยกมือแตะฝากระโปรงเบาๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้น ดวงตาเยือกเย็นกลับกลายเป็นร้อนแรงเขายื่นหน้าเข้าไปใกล้หน้าต่างรถ สูดลมหายใจลึกอีกครั้ง กลิ่นวิคเตอร์เข้มข้นราวกับเพิ่งปล่อยออกมาเมื่อครู่“นั่นแหละ… นี่แหละกลิ่นของคุณ” เขาพึมพำภายในรถ วิคเตอร์นั่งนิ่งอยู่ในเบาะหลัง ดวงตาเบิกกว้างเมื่อเห็นเงาร่างของธีโอเคลื่อนใ
กลางวันแสกๆ ของห้องทำงานชั้นบนสุด ที่ควรจะสงบเงียบ…แต่กลับมีเสียงพึมพำของโคโค่เจ้าแมวอ้วนลอยมาก่อนใครเพื่อน "นายเห็นไหม พระเอกจ้องจะเล่นนาย… เอ็งหนีไม่พ้นหรอกเว้ย วิคเตอร์"บนโต๊ะทำงานหรูดีไซน์มินิมอลของวิคเตอร์ มีทั้งกาแฟดำที่ใกล้เย็นสนิท กับแผ่นโปร่งแสงของ AI ที่ลอยอยู่เหนือพื้นโต๊ะ แสดงค่าพารามิเตอร์ความนิยมของตัวละครชื่อ “วิคเตอร์” กำลังขึ้นสูงแบบผิดคาด“นี่มันบ้าไปแล้ว… ตัวละครประกอบอย่างผมควรจะตายตั้งแต่บทที่ 3” วิคเตอร์บ่นพลางจ้องตัวเลขด้วยสีหน้าปลงๆ แต่โคโค่กลับขำแห้งๆ แล้วพ่นออกมาหนึ่งประโยค “นายโดนระบบเรือใหญ่เลือกไปแล้วอะดิ”วิคเตอร์กำลังจะเถียงอะไรกลับ แต่จู่ๆ โคโค่เงียบกริบ ดวงตาเรืองแสงของแมวอ้วนเบิกกว้างขึ้นอย่างระแวดระวัง “เดี๋ยว มีคนกำลังเดินมา...”แล้วมันก็ทำตามสัญชาตญาณของแมวทันทีกระโดดกลับไปนอนกลมบนโต๊ะ เสมือนว่าไม่เคยพูดอะไรเลยแม้แต่น้อย ก่อนจะยกอุ้งมือขึ้นมาเลียราวกับแมวบ้านธรรมดาแกร๊ก ประตูเปิดออกพร้อมเสียงฝีเท้านุ่มนวล และกลิ่นหอมของอาหารโฮมเมด วิคเตอร์เงยหน้าขึ้นก่อนจะชะงัก “มาเอล…?”คนที่ปรากฏตัวคือนายเอกของเรื่องในร่างบางผิวขาวนวล สวมเชิ้ตแขนยาวสีขาวสะอาด
เสียงประตูล็อกดังแกร๊ก ทำเอาวิคเตอร์กลืนน้ำลายอึกใหญ่ กลิ่นหอมบางของน้ำหอมในบ้านผสานกลิ่นไวน์แดง ทำให้เขารู้ทันทีว่า...เกมนี้ไม่ใช่แค่ดื่มธรรมดา ใช่แล้วสุดท้ายเขาก็จำยอมมากับพระเอกทั้งที่รู้ว่าไม่น่าไว้ใจเลยแท้ๆบ้านของธีโอหรูเกินกว่าจะเรียกว่าบ้าน แถมเป็นมากกว่านั้น...เหมือนพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่มีเจ้าของเป็นจิ้งจอกแสนร้าย“เดินดูรอบ ๆ ก่อนสิครับคุณวิคเตอร์” ธีโอเอ่ยอย่างใจดีเกินเบอร์ มือเรียวโบกไปทางห้องรับแขก เปิดไฟอุ่น ๆ ที่ทำให้บ้านยิ่งดูอบอุ่นแบบน่าระแวงวิคเตอร์เดินตามอย่างเสียไม่ได้ รองเท้าหนังสะท้อนกับพื้นไม้ขัดมัน แววตาเขากวาดไปทั่วบ้านแบบคนกำลังหาทางหนี ก่อนจะจบลงที่โซฟาหนังวัวนุ่มลึกกลางบ้าน ธีโอลากไวน์ขวดละหลายพันขึ้นมาเทช้า ๆ ก่อนยื่นแก้วให้เขาด้วยรอยยิ้ม“เชิญครับ แขกพิเศษของคืนนี้”วิคเตอร์กลืนน้ำลายอึกใหญ่ ขณะรับแก้วมา มือเย็นเฉียบเพราะเขากำลังคิดถึงแมวบางตัวที่ควรจะโผล่มาช่วยในเวลานี้แทนที่จะปล่อยให้เขาเผชิญด่านบอส“วันนี้ผม...ต้องขอโทษเรื่องมื้อเย็นด้วยจริงๆนะครับ” ธีโอเปิดบทสนทนา เสียงทุ้มนุ่มมีน้ำหนักวิคเตอร์เอียงคอ “หืม.. ครับ?”“ที่ผมอาจจะทำตัวเสียมารยาทน่ะครับ...แ
กลิ่นหอมของเนื้อย่างและไวน์ชั้นดีลอยฟุ้งปะทะประสาทรับรู้ แต่สิ่งที่กระแทกอารมณ์มากกว่านั้นคือสงครามเย็นระหว่างสองชายหนุ่มที่นั่งขนาบซ้ายขวาของวิคเตอร์หลังคำจิกกัดเผ็ดร้อนแบบมีดโกนของมิเอลกับธีโอ ภีมหรือวิคเตอร์ ก็แทบไม่กล้าขยับตัว กลัวว่าจะกลายเป็นเหมือนลูกโซ่ที่ทำให้ระเบิดลูกต่อไปทำงานใส่ตัวเอง“ว่าแต่…” ธีโอเลิกคิ้ว มองวิคเตอร์ด้วยสายตาสนอกสนใจแบบจงใจ “คุณวิคเตอร์นี่แปลกตาดีนะครับ ผมขาว ตาสีทองอร่าม…เหมือนลูกแก้วเลย งดงามแบบไม่เหมือนใคร”คำพูดนั้นเหมือนลูกศรที่พุ่งเข้ากลางใจมาเอลทันที เขาขยับคิ้วขึ้นนิดหนึ่งแต่ไม่พูดอะไร สายตากลับหันไปมองวิคเตอร์แทน“อ๋อ พอดีผมเป็นลูกเสี้ยวหลายเชื้อชาติน่ะครับ” วิคเตอร์หัวเราะแหะ ๆ มือกำชายเสื้อแน่น “คงได้มารวมกันเยอะไปหน่อย”“ตอนคบกัน นายชอบใส่แว่นไม่ใช่เหรอ?” เสียงเรียบของมิเอลแทรกเข้ามากลางวงอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย “ทำไมตอนนี้ถึงถอดมันล่ะ?”“แว่นมันเกะกะน่ะ” วิคเตอร์ยิ้มแหย “ถอดแล้วมองอะไรชัดขึ้นเยอะเลย”“แต่นายก็ดูดีมากเลยนะตอนนี้” มิเอลยิ้มบาง แต่ดวงตานั้นกลับทอดเงาลึกชวนสงสัย “ใช่มั้ย…เพื่อน(รัก)?”คำว่า เพื่อนรัก ถูกเน้นหนักจนวิคเตอร์รู้สึกได้ถ
เสียงเพลงป๊อปแดนซ์จังหวะกระชากใจดังลั่นไปทั่วคอนโดหรู วิคเตอร์ หรือ ภีม ในชื่อเดิมของเขากำลังสวมเสื้อกล้าม กางเกงขาสั้น เดินเต้นลั้ลลาแบบไม่สนโลก ราวกับว่าชีวิตในจักรวาลโอเมก้าเวิร์สนี้ไม่มีอะไรร้ายแรงไปกว่าการเลือกว่าจะกินข้าวหรือกาแฟก่อนดี"ถ้าให้เธอเป็นเสื้อ..คงเป็นเบบี้ที~” เขาหมุนตัวเองหน้าโซฟาอย่างภาคภูมิ ก่อนจะชี้นิ้วฟาดจังหวะเข้ากับเสียงเพลงที่ดังสนั่น…จนกระทั่ง...ปึ้ง! เพลงเงียบลงทันใดวิคเตอร์กะพริบตาปริบ ๆ หันขวับไปมองต้นเสียง แมวดำตัวอ้วนกลมที่ชื่อว่า โคโค่ นั่งกอดอกอยู่บนโต๊ะกาแฟกลางห้อง แพขนฟู ๆ ยกหูรีโมตขึ้นแล้ววางอย่างช้า ๆ แบบโคตรมีเจตนา“โอ้ย โคโค่! เพลงกำลังมันส์ ทำไมปิดอะ!”“เพลงไม่สำคัญเท่า ‘เนื้อเรื่อง’ นะยะ” โคโค่หรี่ตาเหมือนจะกลืนเขาเข้าไปทั้งตัว “นายรู้มั้ยว่า คะแนนความชอบของแม่ยก ที่ให้กับตัวละคร ‘วิคเตอร์’ ตอนนี้มันหยุดนิ่ง! นาน! แล้ว! เพราะอะไร? เพราะคุณลูกชายเอาแต่นอนเป็นส้มในคอนโด ไม่ไปเข้าเนื้อเรื่องหลักไงล่ะ!”วิคเตอร์ทำท่าจะโวยแต่ก็กลายเป็นแค่ถอนหายใจ ก่อนจะเดินลากสลิปเปอร์กลับไปที่โซฟาแล้วหยิบหมอนมาฟาดหน้าตัวเองอย่างเซ็ง ๆ “พูดอีกละ พูดทุกวัน หูผมชา