แชร์

หนียังไงให้พ้น

ผู้เขียน: jalix-ren
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-05 22:46:13

กลางวันแสกๆ ของห้องทำงานชั้นบนสุด ที่ควรจะสงบเงียบ…

แต่กลับมีเสียงพึมพำของโคโค่เจ้าแมวอ้วนลอยมาก่อนใครเพื่อน "นายเห็นไหม พระเอกจ้องจะเล่นนาย… เอ็งหนีไม่พ้นหรอกเว้ย วิคเตอร์"

บนโต๊ะทำงานหรูดีไซน์มินิมอลของวิคเตอร์ มีทั้งกาแฟดำที่ใกล้เย็นสนิท กับแผ่นโปร่งแสงของ AI ที่ลอยอยู่เหนือพื้นโต๊ะ แสดงค่าพารามิเตอร์ความนิยมของตัวละครชื่อ “วิคเตอร์” กำลังขึ้นสูงแบบผิดคาด

“นี่มันบ้าไปแล้ว… ตัวละครประกอบอย่างผมควรจะตายตั้งแต่บทที่ 3” วิคเตอร์บ่นพลางจ้องตัวเลขด้วยสีหน้าปลงๆ

แต่โคโค่กลับขำแห้งๆ แล้วพ่นออกมาหนึ่งประโยค “นายโดนระบบเรือใหญ่เลือกไปแล้วอะดิ”

วิคเตอร์กำลังจะเถียงอะไรกลับ แต่จู่ๆ โคโค่เงียบกริบ ดวงตาเรืองแสงของแมวอ้วนเบิกกว้างขึ้นอย่างระแวดระวัง “เดี๋ยว มีคนกำลังเดินมา...”

แล้วมันก็ทำตามสัญชาตญาณของแมวทันทีกระโดดกลับไปนอนกลมบนโต๊ะ เสมือนว่าไม่เคยพูดอะไรเลยแม้แต่น้อย ก่อนจะยกอุ้งมือขึ้นมาเลียราวกับแมวบ้านธรรมดา

แกร๊ก ประตูเปิดออกพร้อมเสียงฝีเท้านุ่มนวล และกลิ่นหอมของอาหารโฮมเมด วิคเตอร์เงยหน้าขึ้นก่อนจะชะงัก “มาเอล…?”

คนที่ปรากฏตัวคือนายเอกของเรื่องในร่างบางผิวขาวนวล สวมเชิ้ตแขนยาวสีขาวสะอาด มือหนึ่งถือกล่องอาหาร อีกมือหนึ่งยิ้มบางอย่างอ่อนโยน

“ผมแค่… เอาของอร่อยมาให้เพื่อนครับ วิคเตอร์ นายเองเป็นคนพูดว่าเราเป็นเพื่อนได้ไม่ใช่เหรอ?”

คำว่า “เพื่อน” ของมิเอลฟังดูไร้พิษภัยแต่กลับทำเอาวิคเตอร์รู้สึกเหมือนโดนลูกโป่งอัดอากาศยิงใส่ใจกลางอก แต่จะปฏิเสธก็ไม่ได้ เพราะไอ้คำว่า “เพื่อน” นั่นแหละที่เขาเป็นคนพูดเองแท้ๆ และแล้ว มื้อกลางวันก็บังเกิด…

โต๊ะอาหารกลางห้องทำงานถูกจัดวางอย่างเรียบง่าย มีเพียงอาหารฝีมือนายเอกคนสวยวางอยู่ตรงกลาง และตัวละครประกอบรูปหล่อที่นั่งเกร็งๆ อยู่ฝั่งตรงข้าม

โคโค่นั่งกอดหางบนโซฟาแอบมองด้วยสายตาที่อยากจะชิ่งหนีเต็มทน แต่ต้องอยู่เป็นพยานความช่วยเหลือ เพื่อนวิคเตอร์เวอร์ชั่นเด็กมอปลายจะเอาตัวไม่รอด

บทสนทนาเริ่มต้นด้วยเรื่องอากาศ และลามไปถึงการใช้ชีวิตหลังเลิกกันไปแล้วของวิคเตอร์ แต่ไม่ทันที่บทพูดจะจบ…

เสียงโวยวายของเลขาก็ดังขึ้นจากด้านนอก “คุณธีโอ! เดี๋ยวก่อนค่ะ! ยังไม่ถึงเวลานัด—”

ปัง !ประตูเปิดออกพร้อมเสียงหัวเราะคุ้นเคย และน้ำเสียงทักทายที่ไม่เคยขาดความมั่นใจ

“หวา~ คุณวิคเตอร์ทำไมไม่ตอบข้อความผมละครับ ”

คนที่วิคเตอร์อยากจะหนีมากที่สุดในจักรวาลนี้ยืนอยู่ตรงหน้า พร้อมพลังงานระดับมารน้อยที่เข้ามายึดห้อง

เลขาคนสวยทำหน้าซีดเผือด รีบเอ่ยเสียงเบา“ขอโทษค่ะ ฉันห้ามไม่ให้เขาเข้ามาแล้ว แต่เขาไม่ฟังเลย…”

“ไม่เป็นไรครับ” วิคเตอร์ฝืนยิ้มให้เลขา แม้ในใจจะกรีดร้องลั่นเหมือนคนเห็นผี

และแล้ว...โต๊ะที่ควรจะมีแค่ อดีตคนรักที่ตอนนี้เป็นแค่เพื่อนสองคน กลับกลายเป็นสนามรบของสายตา และช้อนส้อมที่แทบจะกลายเป็นอาวุธฟาดฟัน

บรรยากาศเต็มไปด้วยคลื่นใต้น้ำที่เดือดดาล แม้จะไม่มีคำพูดใดโจ่งแจ้ง แต่สายตาของธีโอที่จ้องมาเอลนั้น ไม่ได้เป็นมิตรเอาเสียเลย

ในขณะที่มาเอลก็นั่งจิบซุปอย่างช้าๆ เหมือนไม่สนใจ แต่ทุกคำพูดของเขากลับพุ่งเป้าไปที่วิคเตอร์อย่างจงใจ

ส่วนวิคเตอร์…ก็ได้แต่นั่งท่ามกลาง “ความหวังดี” จากคนสองคนที่เขาไม่ได้ขอ พร้อมคิดในใจว่า หนียังไงให้พ้นวะเนี่ย

บรรยากาศมื้อเที่ยงในห้องทำงานของวิคเตอร์กำลังคุกรุ่นราวกับสนามรบกลางวันแสกๆ หลังจากมิเอลแสดงความตั้งใจ “เป็นห่วงเพื่อน” ด้วยการยกข้าวกล่องมาส่งถึงที่ แล้วธีโอก็โผล่เข้ามาแบบไม่ให้ตั้งตัว ทุกคำพูดที่หลุดจากริมฝีปากของทั้งคู่กลายเป็นลูกดอกเหน็บแนม แทงสวนกันไม่หยุด

“อ้อ วันนี้เปลี่ยนลุคมาแนวใสซื่อเหรอครับ คุณมาเอล” ธีโอเท้าแขนกับโต๊ะ หันมายิ้มร้ายใส่

“ไม่เหมือนบางคนที่เอาแต่ตามวิคเตอร์แจ ราวกับไม่มีงานการจะทำน่ะครับ” มิเอลยิ้มหวานกลับ แต่ดวงตาเฉียบคมจงใจบาดใจ

ลูกดอกอารมณ์พุ่งปะทะกลางโต๊ะ จนวิคเตอร์ที่นั่งอยู่ตรงกลางเริ่มลูบขมับตัวเองเบาๆ ในขณะที่โคโค่ แมวอ้วนคู่ใจซึ่งตอนแรกแกล้งเป็นแมวธรรมดานอนซึมอยู่บนโต๊ะ ลืมตาปริบๆ แล้วลอยขึ้นอย่างเงียบๆ ก่อนจะค่อยๆ...ลอยออกไปจากห้องด้วยสีหน้าชัดเจนว่า “กูไม่อยู่แล้วนะเว้ย”

ทิ้งให้วิคเตอร์อยู่ท่ามกลางแรงอาฆาตแรงระดับนิวเคลียร์ของสองหนุ่มที่ทั้งคู่เหมือนจะมาเยือนด้วยมิตรภาพ แต่กลายเป็นขุดหลุมฝังศพกันกลางโต๊ะ

ในที่สุด เมื่อความอดทนหมดขีด วิคเตอร์ก็ฟาดเสียงขึ้นเสียงดังก้อง “พวกคุณ ถ้าโกรธกัน งอนกัน ไม่พอใจกัน ไปเคลียร์กันดีๆ ได้ไหมครับ! อย่าดึงผมเข้าไปเป็นไม้กันหมาแบบนี้!”

เสียงนั้นทำให้ทั้งธีโอและมิเอลเงียบกริบทันที ดวงตาทั้งสองคู่เบิกกว้าง

วิคเตอร์หันไปหาธีโอ “คุณธีโอครับ ถึงจะไม่ชอบหน้าคุณมาเอล แต่ก็ลองคุยกันดีๆแบบไม่ต้องเน็บแนมกันได้มั้ยครับ”

แล้วหันไปมองอีกฝ่ายอย่างไม่อ้อมค้อม “ส่วนคุณมิเอล ผมขอบคุณสำหรับอาหาร แต่ได้โปรดหยุดเถอะครับ เราเป็นเพื่อนกันก็จริง แต่สิ่งที่คุณทำ...มันมากกว่าเพื่อนไปมาก”

เขาดึงสูทตัวนอกขึ้นมาสวมด้วยสีหน้าเอือมระอาเต็มขั้น “อยากเคลียร์ก็รีบเคลียร์กันให้จบครับ ใช้ห้องนี้ตามสบาย ผมจะไปที่อื่น...”

แล้วเขาก็เดินออกไปจากห้อง พร้อมจังหวะปิดประตูที่แน่นเปรี๊ยะ บ่งบอกความอัดอั้นเต็มพิกัด แต่ทันทีที่หลุดออกจากระยะสายตา...

“โว้ยยยย!!” วิคเตอร์สบถ แล้ววิ่งสี่คูณร้อยสุดแรงเกิดไปยังโรงจอดรถ ตรงไปยังยานพาหนะคู่ใจที่เจ้าโคโค่กลับมานั่งรออยู่บนหลังคารถแล้วอย่างรู้หน้าที่

“นายออกมาช้ากว่าที่คิดน้า” โคโค่ยกอุ้งเท้าเลียหน้าตัวเองอย่างไม่เดือดเนื้อร้อนใจ

วิคเตอร์หยิกพุงเจ้าแมวเต็มแรง “แล้วทำไมไม่ชวนล่ะ! ปล่อยให้ผมอยู่ในสถานการณ์แบบนั้นคนเดียวทำไม ไอ้แมวทรยศ!”

โคโค่สะบัดหางเหมือนไม่รู้ไม่ชี้ ส่วนวิคเตอร์ก็ฟุบหัวลงกับพวงมาลัยรถ ร้องโอดโอยในใจว่าความสงบสุขในชีวิตคนเขียนบทตัวประกอบ กำลังจะไม่มีอีกต่อไปแล้วจริงๆ

และฝั่งของพระนาย ภายในห้องทำงานที่เงียบลงทันตา หลังจากวิคเตอร์เดินออกไปพร้อมกับเสียงปิดประตูที่ดังก้องจนความรู้สึกอึดอัดทิ้งตัวลงเต็มห้อง มิเอลและธีโอจ้องหน้ากันโดยไร้คำพูด ทั้งอึดอัด ทั้งสับสน และทั้ง...โกรธ

เสียงของมิเอลดังขึ้นในที่สุด ท่ามกลางความเงียบที่เริ่มอึดอัดเหมือนฝนตั้งเค้า “ทั้งหมดนี่เป็นความผิดนาย... การที่นายทำแบบนี้ ไม่ได้ทำให้วิคเตอร์สนใจนายขึ้นมาหรอกนะ ธีโอ”

ธีโอหัวเราะในลำคอเบาๆ ก่อนจะยิ้มเยาะ “ผมว่าคนที่ควรหยุด คงเป็นโอเมก้าอย่างคุณมิเอลมากกว่านะครับ” เขาก้าวเข้าใกล้หนึ่งก้าว ดวงตาเปล่งแสงแห่งชัยชนะบางอย่าง “เขาไม่ได้รักคุณ เลิกยุ่งวุ่นวายกับเขาได้แล้ว”

คำพูดนั้นฟาดลงกลางใจ มิเอลนิ่งไป สีหน้าเหมือนโดนฝ่ามือซัดกลางหน้าอย่างแรง ก่อนจะกัดปากล่างเข้าหากันแน่น

“แล้วนายคิดว่าตัวเองเป็นใคร? คิดว่านายคนเดียวที่ยุ่งกับวิคเตอร์ได้หรือไง?”

ธีโอยิ้มออกมาอย่างช้าๆ เป็นรอยยิ้มที่ทั้งเจ้าเล่ห์และ...จริงจังอย่างไม่น่าเชื่อ

“ตอนแรกผมก็แค่อยากเล่นสนุก แต่ตอนนี้..ผมคิดว่าผมตกหลุมรักวิคเตอร์เข้าไปเต็มๆแล้วครับ”

เพล้ง เหมือนเสียงบางอย่างในใจของมิเอลแตกสลาย เขาหันหลัง วิ่งพรวดออกจากห้องไปโดยไม่แม้แต่จะหันกลับมา ดวงตาแดงก่ำ พึมพำอย่างเคียดแค้น “ปล่อยกลิ่นกดเราเหรอ... คิดว่าตัวเองเป็นอัลฟ่าแล้วจะทำอะไรก็ได้งั้นสิ?”

แต่ยังไม่ทันพ้นระยะสามสิบเมตร ร่างกายของเขาก็สะดุดกับความร้อนที่ระอุภายใน ก้อนฮีทตีขึ้นเหมือนเปลวเพลิงจากใต้ผิวหนัง มิเอลกัดฟันแน่น รีบวิ่งพุ่งเข้าไปยังห้องน้ำใกล้ๆ โดยไม่แม้แต่จะล็อกประตู หวังเพียงแค่จะหลบสายตาใครซักคน ไม่ให้ใครเห็นเขาในสภาพแบบนี้

...แต่กลิ่นของเขา ไม่ได้ซ่อนใครได้เลย ไอแซค อัลฟ่าเพื่อนรักของวิคเตอร์ที่เพิ่งมาถึงพอดี กำลังเดินตามกลิ่นกาแฟของวิคเตอร์ แต่กลับสะดุดกับกลิ่นที่แทรกเข้ามาอย่างรุนแรงและเย้ายวนกว่าทุกสิ่ง

กลิ่นหอมละมุนแบบหวานอ่อนคล้ายกลิ่นลูกแพร์ผสมมัสค์... กลิ่นที่ทำให้เขาแทบหยุดหายใจ

“...ใคร?” เขาขมวดคิ้ว ก้าวตามกลิ่นนั้นไปจนหยุดอยู่หน้าห้องน้ำ เสียงลมหายใจหอบเบาๆ จากด้านในทำให้หัวใจเขาเต้นแรงขึ้นโดยไม่รู้ตัว

ด้านธีโอเดินออกมาจากห้อง สีหน้าเรียบเฉย ก่อนจะหยุดกลางโถง แล้วสูดกลิ่นอากาศเข้าเต็มปอด กลิ่นดอกไม้หลากชนิดเจือปนอยู่ในอากาศ กลิ่นชา กลิ่นเอกสาร กลิ่น...โอเมก้าหลายคน

แต่สิ่งที่ดึงดูดเขาที่สุดกลับเป็นกลิ่นของอัลฟ่าเพียงคนเดียว กลิ่นที่หอมหวานขมปลายลิ้นเหมือนอยู่ในคาเฟ่ แต่แฝงแรงดึงดูดจนเขารู้สึกเหมือนใจเต้นผิดจังหวะ

ธีโอกระตุกยิ้ม เอ่ยเบาๆ “ไม่ว่าที่นี่จะมีกลิ่นเยอะแค่ไหน... แต่กลิ่นเหมือนอยู่ในคาเฟ่นี่แหละ ที่ทำให้ผมต้องเดินตามมันไป”

แล้วเขาก็ก้าวเดินช้าๆ อย่างมั่นคง ตามกลิ่นนั้นไปโดยไม่รู้ตัวว่ากำลังเดินเข้าสู่ศูนย์กลางความสับสนของเนื้อเรื่องที่ผิดเพี้ยน..

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เกิดใหม่เป็นอัลฟ่าป้ายแดง   ดูหนังหรือดูเธอ

    "ดูหนังกันมั้ยครับ " ธีโอพูดขึ้นเชิญชวนวิคเตอร์ผู้เป็นเจ้าของบ้านทันทีที่เขาเห็นจอทีวี" เอ่อ..นี่มันก็น่าจะดึกแล้ว ให้ผมไปส่งคุณที่บ้านไม่ดีกว่าหรอครับ " วิคเตอร์พยายามพูดเพื่อให้แขกยอมกลับบ้าน ทั้งกินมื้อค่ำแล้วยังเดินเล่นในบ้านของเขาราวกับเป็นสนามเด็กเล่นวิคเตอร์เห็นทีว่าต้องส่งแขก แต่ดูเหมือนแขกคนนี้ค่อนข้างดื้อและมึนสุดๆ จนสุดท้ายก็...ทีวีจอใหญ่ระดับ IMAX ขนาดเกือบเท่าฝาบ้านฉายแสงสีนวลอุ่นๆ วิคเตอร์นั่งตัวตรงราวกับเป็นบอดี้การ์ด ไม่ได้เอนหลังพิงโซฟาแม้แต่นิด ขณะที่ธีโอนั่งข้างๆ ด้วยท่าทีที่ "ไม่รู้เลยว่านี่นั่งดูหนังหรือจะดูเจ้าของบ้านมากกว่า"ผมเรียกวิคเตอร์ ว่าพี่ได้มั้ยครับ เราน่าจะสนิทกันแล้วนี่น่า~" ธีโอพูดเล่นพร้อมยิ้มกริ่ม ก่อนจะลุกขึ้นไปหยิบรีโมต “พี่เองก็เรียกผมธีโอจะได้แฟร์ๆกัน”“อ่า ได้สิ…” วิคเตอร์ตอบช้าๆ แอบกลืนน้ำลายเล็กน้อยเมื่อธีโอทิ้งตัวลงนั่งข้างเขาอีกครั้ง แบบใกล้เกินระยะปลอดภัยของชาวอัลฟ่าจนหนังเริ่มฉาย...แต่วิคเตอร์ไม่ได้ดูหนังเล เพราะทุกๆ ครั้งที่เขาขยับตัว หรือเงยหน้าขึ้นมองจอ ก็จะเห็นธีโอนั่งหันมาทางเขาแบบ...จ้องจ้องแบบลึก จ้องแบบอยากขอข้อมูลพันธุกร

  • เกิดใหม่เป็นอัลฟ่าป้ายแดง   คู่จิ้น

    กลิ่นหอมละมุนแบบกาแฟคั่วสดกับคาราเมลหอมกลิ่นไหม้อ่อนๆ ลอยฟุ้งกลางอากาศ ราวกับเรียกร้องให้ใครบางคนตามมันไปธีโอ หยุดยืนกลางโถง สูดหายใจลึกอีกครั้ง ดวงตาทอประกายสว่างขึ้นในทันที “เขาออกไปแล้ว...แต่กลิ่นยังไม่หาย”เสียงฝีเท้าเขาดังชัดในทางเดินที่ไร้ผู้คน กลิ่นของวิคเตอร์ไม่ชัดเจนเหมือนตอนอยู่ใกล้ แต่มันก็ชัดพอจะพาเขาเดินเลี้ยวออกจากตัวอาคาร มุ่งหน้าสู่โรงจอดรถลมเย็นภายนอกตีกลิ่นจางๆ กระจายไปทั่ว แต่ธีโอกลับตามมันได้อย่างแม่นยำอย่างเหลือเชื่อ“คุณวิคเตอร์...หนีผมไม่พ้นหรอกครับ” เสียงกระซิบของเขาดังแผ่วเบาเหมือนคำสัญญาในเงามืดในโรงจอดรถ ไฟบางส่วนยังเปิดอยู่ และในความเงียบที่ปกคลุม รถหรูคันหนึ่งจอดนิ่งอยู่ข้างใน ประตูด้านคนขับปิดไม่สนิทดีนัก ราวกับมีใครบางคนรีบหนีเข้าไป ธีโอหยุดยืนตรงหน้า ยกมือแตะฝากระโปรงเบาๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้น ดวงตาเยือกเย็นกลับกลายเป็นร้อนแรงเขายื่นหน้าเข้าไปใกล้หน้าต่างรถ สูดลมหายใจลึกอีกครั้ง กลิ่นวิคเตอร์เข้มข้นราวกับเพิ่งปล่อยออกมาเมื่อครู่“นั่นแหละ… นี่แหละกลิ่นของคุณ” เขาพึมพำภายในรถ วิคเตอร์นั่งนิ่งอยู่ในเบาะหลัง ดวงตาเบิกกว้างเมื่อเห็นเงาร่างของธีโอเคลื่อนใ

  • เกิดใหม่เป็นอัลฟ่าป้ายแดง   หนียังไงให้พ้น

    กลางวันแสกๆ ของห้องทำงานชั้นบนสุด ที่ควรจะสงบเงียบ…แต่กลับมีเสียงพึมพำของโคโค่เจ้าแมวอ้วนลอยมาก่อนใครเพื่อน "นายเห็นไหม พระเอกจ้องจะเล่นนาย… เอ็งหนีไม่พ้นหรอกเว้ย วิคเตอร์"บนโต๊ะทำงานหรูดีไซน์มินิมอลของวิคเตอร์ มีทั้งกาแฟดำที่ใกล้เย็นสนิท กับแผ่นโปร่งแสงของ AI ที่ลอยอยู่เหนือพื้นโต๊ะ แสดงค่าพารามิเตอร์ความนิยมของตัวละครชื่อ “วิคเตอร์” กำลังขึ้นสูงแบบผิดคาด“นี่มันบ้าไปแล้ว… ตัวละครประกอบอย่างผมควรจะตายตั้งแต่บทที่ 3” วิคเตอร์บ่นพลางจ้องตัวเลขด้วยสีหน้าปลงๆ แต่โคโค่กลับขำแห้งๆ แล้วพ่นออกมาหนึ่งประโยค “นายโดนระบบเรือใหญ่เลือกไปแล้วอะดิ”วิคเตอร์กำลังจะเถียงอะไรกลับ แต่จู่ๆ โคโค่เงียบกริบ ดวงตาเรืองแสงของแมวอ้วนเบิกกว้างขึ้นอย่างระแวดระวัง “เดี๋ยว มีคนกำลังเดินมา...”แล้วมันก็ทำตามสัญชาตญาณของแมวทันทีกระโดดกลับไปนอนกลมบนโต๊ะ เสมือนว่าไม่เคยพูดอะไรเลยแม้แต่น้อย ก่อนจะยกอุ้งมือขึ้นมาเลียราวกับแมวบ้านธรรมดาแกร๊ก ประตูเปิดออกพร้อมเสียงฝีเท้านุ่มนวล และกลิ่นหอมของอาหารโฮมเมด วิคเตอร์เงยหน้าขึ้นก่อนจะชะงัก “มาเอล…?”คนที่ปรากฏตัวคือนายเอกของเรื่องในร่างบางผิวขาวนวล สวมเชิ้ตแขนยาวสีขาวสะอาด

  • เกิดใหม่เป็นอัลฟ่าป้ายแดง   ศัตรูหัวใจ

    เสียงประตูล็อกดังแกร๊ก ทำเอาวิคเตอร์กลืนน้ำลายอึกใหญ่ กลิ่นหอมบางของน้ำหอมในบ้านผสานกลิ่นไวน์แดง ทำให้เขารู้ทันทีว่า...เกมนี้ไม่ใช่แค่ดื่มธรรมดา ใช่แล้วสุดท้ายเขาก็จำยอมมากับพระเอกทั้งที่รู้ว่าไม่น่าไว้ใจเลยแท้ๆบ้านของธีโอหรูเกินกว่าจะเรียกว่าบ้าน แถมเป็นมากกว่านั้น...เหมือนพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่มีเจ้าของเป็นจิ้งจอกแสนร้าย“เดินดูรอบ ๆ ก่อนสิครับคุณวิคเตอร์” ธีโอเอ่ยอย่างใจดีเกินเบอร์ มือเรียวโบกไปทางห้องรับแขก เปิดไฟอุ่น ๆ ที่ทำให้บ้านยิ่งดูอบอุ่นแบบน่าระแวงวิคเตอร์เดินตามอย่างเสียไม่ได้ รองเท้าหนังสะท้อนกับพื้นไม้ขัดมัน แววตาเขากวาดไปทั่วบ้านแบบคนกำลังหาทางหนี ก่อนจะจบลงที่โซฟาหนังวัวนุ่มลึกกลางบ้าน ธีโอลากไวน์ขวดละหลายพันขึ้นมาเทช้า ๆ ก่อนยื่นแก้วให้เขาด้วยรอยยิ้ม“เชิญครับ แขกพิเศษของคืนนี้”วิคเตอร์กลืนน้ำลายอึกใหญ่ ขณะรับแก้วมา มือเย็นเฉียบเพราะเขากำลังคิดถึงแมวบางตัวที่ควรจะโผล่มาช่วยในเวลานี้แทนที่จะปล่อยให้เขาเผชิญด่านบอส“วันนี้ผม...ต้องขอโทษเรื่องมื้อเย็นด้วยจริงๆนะครับ” ธีโอเปิดบทสนทนา เสียงทุ้มนุ่มมีน้ำหนักวิคเตอร์เอียงคอ “หืม.. ครับ?”“ที่ผมอาจจะทำตัวเสียมารยาทน่ะครับ...แ

  • เกิดใหม่เป็นอัลฟ่าป้ายแดง   สงครามเย็น

    กลิ่นหอมของเนื้อย่างและไวน์ชั้นดีลอยฟุ้งปะทะประสาทรับรู้ แต่สิ่งที่กระแทกอารมณ์มากกว่านั้นคือสงครามเย็นระหว่างสองชายหนุ่มที่นั่งขนาบซ้ายขวาของวิคเตอร์หลังคำจิกกัดเผ็ดร้อนแบบมีดโกนของมิเอลกับธีโอ ภีมหรือวิคเตอร์ ก็แทบไม่กล้าขยับตัว กลัวว่าจะกลายเป็นเหมือนลูกโซ่ที่ทำให้ระเบิดลูกต่อไปทำงานใส่ตัวเอง“ว่าแต่…” ธีโอเลิกคิ้ว มองวิคเตอร์ด้วยสายตาสนอกสนใจแบบจงใจ “คุณวิคเตอร์นี่แปลกตาดีนะครับ ผมขาว ตาสีทองอร่าม…เหมือนลูกแก้วเลย งดงามแบบไม่เหมือนใคร”คำพูดนั้นเหมือนลูกศรที่พุ่งเข้ากลางใจมาเอลทันที เขาขยับคิ้วขึ้นนิดหนึ่งแต่ไม่พูดอะไร สายตากลับหันไปมองวิคเตอร์แทน“อ๋อ พอดีผมเป็นลูกเสี้ยวหลายเชื้อชาติน่ะครับ” วิคเตอร์หัวเราะแหะ ๆ มือกำชายเสื้อแน่น “คงได้มารวมกันเยอะไปหน่อย”“ตอนคบกัน นายชอบใส่แว่นไม่ใช่เหรอ?” เสียงเรียบของมิเอลแทรกเข้ามากลางวงอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย “ทำไมตอนนี้ถึงถอดมันล่ะ?”“แว่นมันเกะกะน่ะ” วิคเตอร์ยิ้มแหย “ถอดแล้วมองอะไรชัดขึ้นเยอะเลย”“แต่นายก็ดูดีมากเลยนะตอนนี้” มิเอลยิ้มบาง แต่ดวงตานั้นกลับทอดเงาลึกชวนสงสัย “ใช่มั้ย…เพื่อน(รัก)?”คำว่า เพื่อนรัก ถูกเน้นหนักจนวิคเตอร์รู้สึกได้ถ

  • เกิดใหม่เป็นอัลฟ่าป้ายแดง   ทำตามบัญชาของแมว

    เสียงเพลงป๊อปแดนซ์จังหวะกระชากใจดังลั่นไปทั่วคอนโดหรู วิคเตอร์ หรือ ภีม ในชื่อเดิมของเขากำลังสวมเสื้อกล้าม กางเกงขาสั้น เดินเต้นลั้ลลาแบบไม่สนโลก ราวกับว่าชีวิตในจักรวาลโอเมก้าเวิร์สนี้ไม่มีอะไรร้ายแรงไปกว่าการเลือกว่าจะกินข้าวหรือกาแฟก่อนดี"ถ้าให้เธอเป็นเสื้อ..คงเป็นเบบี้ที~” เขาหมุนตัวเองหน้าโซฟาอย่างภาคภูมิ ก่อนจะชี้นิ้วฟาดจังหวะเข้ากับเสียงเพลงที่ดังสนั่น…จนกระทั่ง...ปึ้ง! เพลงเงียบลงทันใดวิคเตอร์กะพริบตาปริบ ๆ หันขวับไปมองต้นเสียง แมวดำตัวอ้วนกลมที่ชื่อว่า โคโค่ นั่งกอดอกอยู่บนโต๊ะกาแฟกลางห้อง แพขนฟู ๆ ยกหูรีโมตขึ้นแล้ววางอย่างช้า ๆ แบบโคตรมีเจตนา“โอ้ย โคโค่! เพลงกำลังมันส์ ทำไมปิดอะ!”“เพลงไม่สำคัญเท่า ‘เนื้อเรื่อง’ นะยะ” โคโค่หรี่ตาเหมือนจะกลืนเขาเข้าไปทั้งตัว “นายรู้มั้ยว่า คะแนนความชอบของแม่ยก ที่ให้กับตัวละคร ‘วิคเตอร์’ ตอนนี้มันหยุดนิ่ง! นาน! แล้ว! เพราะอะไร? เพราะคุณลูกชายเอาแต่นอนเป็นส้มในคอนโด ไม่ไปเข้าเนื้อเรื่องหลักไงล่ะ!”วิคเตอร์ทำท่าจะโวยแต่ก็กลายเป็นแค่ถอนหายใจ ก่อนจะเดินลากสลิปเปอร์กลับไปที่โซฟาแล้วหยิบหมอนมาฟาดหน้าตัวเองอย่างเซ็ง ๆ “พูดอีกละ พูดทุกวัน หูผมชา

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status