Masuk2 สัปดาห์ต่อมา
ตลาดเย็นเป็นสุข
ในวันหยุดสุดสัปดาห์ที่มีตลาดนัดเย็นแบบนี้ 2 สาวกำลังช่วยกันขายน้ำปั่นจนมือเป็นระวิง
“เอาอะไรคะพี่” สาวสวยใส่เสื้อยืดตัวใหญ่สีขาวชี้ถามคนที่ยืนอยู่หน้าร้านเพื่อจดออเดอร์ให้เพื่อน ส่วนคนที่ถูกถามนั้นหันซ้ายหันขวามองข้าง ๆ เหมือนไม่มั่นใจนัก “พี่นั่นแหละค่ะสั่งน้ำมั้ยคะ” หญิงสาวร้องถามเมื่อเห็นลูกค้ามองหน้ามองหลัง
“อะ อ๋อ น้ำ 1 ขวด” ชายหนุ่มรีบตอบพลางขยับหน้ากากอนามัยแล้วล้วงกระเป๋าหยิบเหรียญมายื่นให้ตามราคาที่เขียนหน้าร้านแล้วรับน้ำเดินออกจากร้าน หญิงสาวได้แต่มองตามขมวดคิ้วสะดุดตากับผิวขาวใสและนาฬิกาคุ้นตาเรือนนั้น
“เฮ้อ...หรือจะเป็นรุ่นฮิตขนาดลุงไรเดอร์ยังใส่ นายคนที่เดินชนเราที่ห้างก็ใส่ ผู้ชายสมัยนี้ทำไมมันผิวขาวสวยกันจังวะ” หญิงสาวพึมพำก่อนจะยักไหล่เบา ๆ แล้วหันไปสนใจลูกค้าคนต่อไป
ส่วนคนที่เดินออกมานั้นหลบเข้ามุมข้าง ๆ เดินไปนั่งที่เก้าอี้มองหญิงสาวไกล ๆ แต่ก็พอได้ยินเสียงเจื้อยแจ้วของเธอที่พูดคุยหยอกล้อกับลูกค้าอย่างสนิทสนม ซึ่งดูเธอเป็นคนร่าเริงเข้ากับคนได้ง่ายมากชายหนุ่มได้แต่นั่งยิ้มที่มุมปากล้วงมือถือออกมาจากกระเป๋ากางเกงกดรับสาย
“ว่าไงชาตินี้”
‘บอสครับ ท่านประธานไม่ได้เข้าออฟฟิศมา 2 อาทิตย์แล้วนะครับ แม่ยายท่านป่วย อาทิตย์นี้ก็น่าจะยังไม่ได้เข้า’ เสียงสุรชาติอ่อนเพลียมาตามสาย
“อืม...”
‘บอส เอกสารกองจะท่วมหน้าห้องบอสแล้วนะครับ’
“อืม...”
‘ขอภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษหรือฝรั่งเศสก็ได้ ประโยคยาว ๆ ที่ทำให้ชาตินี้ของบอสชื่นใจซัก 1 ประโยคได้มั้ยครับ ชาตินี้ต้องการกำลังใจ’ สุรชาติโอดครวญกับอืมสั้น ๆ ของผู้เป็นนาย ที่เขาเหนื่อยไม่ใช่เรื่องเอกสารแต่เป็นเรื่องผู้ช่วย ที่คนหนึ่งจะจ้องแต่จะจิกหัวใช้เพื่อนโดยอ้างตำแหน่งของตัวเองขณะที่อีกคนก็ดูความอดทนจะสั้นลงเรื่อย ๆ
“มีอะไร?” เสียงทุ้มเอ่ยถามในขณะที่สายตาหลังแว่นดำกำลังมองแม่ค้าตัวเล็กคุยเล่นกันนายตำรวจหนุ่มที่มีดาวบนบ่าอย่างสนิทสนม
‘ริชชี่ทำตัวเป็นประธานบริษัท สั่งอาหารมาทานในห้องทำงานแถมโทรลงไปให้แม่บ้านเอาขึ้นมาให้อีก วันก่อนมีคำสั่งให้ทำเอกสารสัญญาจ้างให้เธอเซ็นเงินเดือนแสนห้าผมเลยระงับเอกสารกับฝ่ายบุคคลไว้ก่อน บอสจะให้เธอเซ็นเลยมั้ยครับ’ สุรชาติรายงานและถามในประโยคเดียวกัน
“ฉีกทิ้งไปเลย” ชายหนุ่มตอบสั้น ๆ
‘แต่ว่าบอสครับ’
“มึงฟังกูสิวะ ถ้าอยากฟังคำสั่งย่ากู กูจะกลับฝรั่งเศสให้ย่ากูมาทำงานเองซะมึงจะได้ทำตามคำสั่งท่าน” ชายหนุ่มสวนขึ้นอย่างอารมณ์เสียพลางลุกขึ้นยืนคว้าหมวกกันน็อกมาถือเตรียมจะเดินออกจากตลาด เขาเพิ่งกลับมาจากรีสอร์ตของเพื่อนคุณอาที่เชียงใหม่วันนี้ หลังจากกลับจากดูงานแทนพ่อที่จีน ชายหนุ่มก็เดินทางไปที่เชียงใหม่เพื่อบริจาคสิ่งของเด็กบนดอยและช่วยสร้างโรงอาหารให้โรงเรียนที่นั่น ก่อนจะแวะเข้าไปทักทายเพื่อนรักของคุณอาที่บ้านของท่านและพักที่รีสอร์ตตามคำเชิญ และเล่าปัญหาของตัวเองกับคุณย่าให้เพื่อนของคุณอาที่เขานับถือเป็นอาอีกคนฟัง ซึ่งท่านก็เข้าใจทั้งยังบอกว่าเหตุการณ์นี้เคยเกิดกับท่านมาก่อนและท่านก็ได้แต่บอกว่าให้ใจเย็นเพราะถ้าชายหนุ่มตัดสินใจทิ้งโรงทอและครอบครัวไปบริหารบริษัทของตัวเองที่ฝรั่งเศสตอนนี้ ความลำบากจะตกอยู่ที่คุณอาของเขาทั้งหมด ซึ่งท่านก็อายุ 50 กว่าไปแล้วและตอนนี้ทั้งคุณแม่และแม่ยายก็ป่วยพร้อมกัน จนทำให้ท่านเคยเปรยกับเพื่อนว่านอนไม่ค่อยหลับและหูอื้อแต่ไม่อยากบอกให้คนในครอบครัวรู้โดยเฉพาะภรรยาและหลานชายเพราะกลัวว่าจะเป็นห่วงเพิ่มไปอีก เมื่อสบายใจชายหนุ่มจึงได้ลาเพื่อนของคุณอากลับมาเพื่อจะเข้าออฟฟิศในวันจันทร์ที่จะถึง
‘ผมก็ไม่อยากฟังหรอกครับบอสสุดที่รัก แต่ตอนนี้อีกไม่กี่วันก็สิ้นเดือน ต้องมีสัญญาจ้างให้ฝ่ายบุคคลเตรียมทำเงินเดือนครับ’ สุรชาติให้เหตุผลเสียงอ่อน ‘กลับเข้าออฟฟิศหน่อยเถอะนะทูนหัวของบ่าว แว้บ ๆ มาให้ชาตินี้ได้เห็นเงาลาง ๆ พอได้ชื่นใจก็ยังดี’
“มึงโทรมาสั่งกูแค่นี้ใช่มั้ย” ชายหนุ่มกระแทกเสียงถามเหมือนประชดแต่ก็ยิ้มขำกับความอ้อนของเลขา
‘เอ้อ...แล้วตอนนี้บอสอยู่ที่ไหนครับ ในไทยหรือเปล่า’ สุรชาติถามขึ้นเหมือนเพิ่งนึกได้เพราะตอนนี้เขาโทรไลน์ไม่ได้โทรเบอร์
“กูอยู่ไทย วันจันทร์เข้าออฟฟิศ แล้วทั้งอาทิตย์กูจะอยู่ให้มึงใช้งานกูตามสะดวกเลยครับชาติ”
‘ขอบคุณครับบอส เป็นบุญหูของชาตินี้จริง ๆ วันหยุดได้นอนหลับสนิทซะที งั้นไม่รบกวนแล้วครับ สวัสดีครับ’ คนสบายใจพูดอย่างอารมณ์ดีกล่าวลาแล้วกดวางสาย ชายหนุ่มส่ายหน้าขำ ๆ พลางกดโทรออกหาน้องชายที่เป็นหมอเพื่อนัดออกมาข้างนอก แล้วออกมาที่ลานจอดรถควบมอเตอร์ไซค์คันใหญ่เปลี่ยนเส้นทางจากตั้งใจกลับบ้านเป็นเข้าเมืองไปอีกรอบ
..........//..........
Bova pubz
ร่างสูงโปร่งในชุดกางเกงยีนส์สีเข้มเสื้อยืดคอกลมสีขาวรองเท้าเดินป่า เดินเข้ามาในร้านในขณะที่เจ้าของร้านยิ้มร่ารีบวิ่งลงมาจากบันไดสวมกอดคนที่นับถือเป็นพี่ชายอย่างดีใจ
“เซอร์ไพรส์มากพี่ชาย ถ้าไอ้เจมันไม่โทรมาก่อนผมไม่รู้เลยนะนี่ว่าพี่จะมา” คริสหนุ่มหล่อรุ่นน้องเจ้าของร้านทักทายเสียงดังแข่งกับเสียงเทสเสียงภายในร้าน
“กูเพิ่งกลับจากเหนือ แวะไปหาอาเทนมาบ่นฉิบหายว่าเพื่อนมึงต่อโทอีกใบจริง ๆ” ชายหนุ่มว่าพลางกอดคอเจ้าของร้านเดินขึ้นด้านบน
“ปล่อยมันเหอะ เห็นไอ้เจบอกว่าอีกปีกว่า ๆ ก็จบแล้ว ถ้ามันไม่ต่ออีกใบ” คริสว่าพลางหัวเราะกับเพื่อนรักที่ได้ทุนไปเรียนต่อปริญญาโทที่ต่างประเทศเมื่อเรียนจบจึงออกทุนเรียนเองอีกสาขาเลยไม่ได้กลับมาพร้อมเพื่อนรักที่ได้ทุนไปเรียนพร้อมกัน
“ระหว่างนี้ให้ไอ้เจมันเรียนบริหารตามคำสั่งอาโรม กูแม่งโคตรเบื่อ ไอ้เจใช้ทุนจบเมื่อไหร่กูว่าจะหนีไปหาซื้อเกาะนอนเงียบ ๆ ล่ะไอ้ห่า ย่ากูวุ่นวายเรื่องแม่พันธุ์ตั้งแต่กูกลับมาเดือนแรก จนตอนนี้ลามเข้าไปในออฟฟิศ ไปประกาศว่าเป็นว่าที่คู่หมั้นกูด้วยนะ แม่ง!” ชายหนุ่มพูดอย่างหัวเสียพลางเปิดประตูเข้าไปในห้อง vip. ชั้น 2 อย่างคุ้นเคย
“มันพูดอยู่เมื่อวานมันก็มา เสนอมาไม่สนองกลับซักดอกล่ะวะพี่”
“สนองเชี้ยไร หน้าก็ยังไม่เคยเห็นแล้วมันคนประเภทไหนมึงดูไม่ออกเหรอขนาดไม่เคยเจอกูยังกล้าประกาศว่าเป็นว่าที่คู่หมั้น” ชายหนุ่มตอบรุ่นน้องอย่างอารมณ์เสีย
“งั้นพี่ใช้สูตรไอ้เจดิคุณย่าจะได้ไม่วุ่นวาย” คริสว่าพลางหัวเราะกับสูตรลับไม่ให้คุณย่ากวนของเพื่อนรักเมื่อกลับมาถึงไทย
“ไอ้บ้า เด็กไป๊ กูจะ 32 แล้วนะจะให้กูไปไล้ไปขื่อเด็กเกรด 9 สมองมึงดีอยู่มั้ยเนี่ย” ชายหนุ่มโวยวายกับวิธีการที่เพื่อนน้องชายเสนอ ก่อนกลับไทยน้องชายของขอความช่วยเหลือจากเพื่อนของคุณอาโดยขอใช้ลูกสาวของท่านอ้างกับคุณย่าว่ากำลังคุยกันอยู่ ซึ่งน้องเพิ่งเรียนมัธยมต้นเท่านั้นโดยให้เหตุผลว่าเขายังต้องใช้ทุนมหาวิทยาลัยและต้องเรียนบริหารเพิ่มเพื่อมาช่วยงานที่บ้านยังไม่อยากคิดเรื่องนี้ ซึ่งท่านก็เข้าใจเพราะเห็นจาติรัชเป็นแบบอย่างและครอบครัวทั้ง 2 ก็สนิทสนมกันเป็นอย่างดีจึงไม่มีปัญหา คุณย่าเลยไม่ได้เข้าไปวุ่นวายเรื่องส่วนตัวของคุณหมอหนุ่ม (คุณหมอฉลาดเอาตัวรอดแล้ว 1)
“พี่ครับ พี่จะไปไล้ไปขื่อเด็กทำไมล่ะครับ ออฟฟิศโสด ๆ ไม่มีหลงเหลือหรือไง” คริสแนะนำพลางยักคิ้ว
“สัตว์! ใกล้ตัวไป เจ้าอาวาสไม่แดกไก่เลี้ยงหรอก” ชายหนุ่มว่าพลางรับแก้วจากพนักงานที่ยื่นให้ แต่ในสมองกลับมีภาพของผู้ช่วยเลขาคนใหม่แว้บขึ้นมาในหัวแล้วยิ้มที่มุมปากน้อย ๆ อย่างไม่รู้ตัว
“โห...คิดไกล ไก่เดินเข้าวัดมาเองไม่มีเจ้าของก็แดกเถอะครับถ้าหิว
นั่นไงคุณคริสกำลังสอนปลาสวายว่ายน้ำนะนั่น ...
“เพิ่งรู้นะคะว่าคุณจาทานอาหารอีสานรสจัดพวกนี้ได้” หญิงสาวว่าขึ้นพลางมองชายหนุ่มที่กำลังเอร็ดอร่อยกับอาหารอีสานรสจัดที่บางอย่างเธอกับเพื่อนก็ไม่สามารถทานได้แต่ดูง่ายมากสำหรับจาติรัช *นักเรียนนอกนี่มันนอกตรงไหนวะ นอกเทศบาลละมั้งกูว่าซดปลาร้าคล่องมากพ่อ...* หญิงสาวแอบคิดในใจ“คุณยายผม (หมายถึงแม่ยายคุณอา) เป็นคนอีสาน ผมไปหาบ่อย ๆ” คนพูดสั้นเริ่มพูดยาวขึ้น“ทำงานที่เดียวกับน้องสาวผมหรือครับ” หมอกพยายามผูกมิตรพลางแอบมองหน้าน้องสาวแล้วชำเลืองคนนั่งข้าง ๆ อย่างมีเลศนัย“ครับ ที่เดียวกัน”“ผมทำงานอยู่อีกฝั่งนาน ๆ ถึงจะมีเวลามาหาน้อง ๆ” รองสารวัตรหนุ่มพูดยิ้ม ๆ“บ้านคุณย่าผมก็อยู่อีกฝั่งเหมือนกัน แต่ไม่ค่อยได้ไปเท่าไหร่” ว่าพลางรับแก้วน้ำที่หญิงสาวรินส่งให้มาดื่มจนหมดแก้ว“แล้วนี่คุณจาพักอยู่ไกลมั้ยครับ ผมว่าเราปล่อยสาว ๆ ขายของเราไปดื่มกันต่อดีกว่ามั้ย” คำชวนของพี่ชายที่ชวนรองประธานไปดื่มทำเอาน้องสาวถลึงตาใส่ทันที แต่ที่หมอกชวนดื่มเพราะสังเกตการณ์พูดแบบสั้น ๆ ถามคำตอ
ตลาดเย็นเป็นสุขในวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผู้คนพลุกพล่านตั้งแต่ตลาดเริ่มตั้ง เพราะวันนี้นอกจากจะมีตลาดนัดแล้วยังมีมีดนตรีสดของนักเรียนนักศึกษาให้รับฟังกันฟรี ๆ ในสัปดาห์ต้นเดือนแบบนี้ ทำให้ตลาดมีความครึกครื้นขึ้นมาก 2 สาวเพื่อนรักรีบช่วยกันจัดร้านเสร็จตั้งแต่ก่อนบ่ายให้พร้อมขายก่อนจะพากันนั่งทานมื้อเที่ยงพร้อมกับมองลูกค้าเผื่อมาซื้อน้ำไปด้วย“เออ...หมี่ บิ๊กไบก์โรงทอคันนั้นไม่เห็นหลายวันแล้วนะ แม่บ้านบอกว่าเหมือนเขาไม่กลับมาเลย เข้าไปแอร์ไม่ฉ่ำ” น้ำฝนว่าพลางตักข้าวเข้าปาก“ไปต่างประเทศมั้งออฟฟิศก็ไม่เห็นตั้งแต่วันอังคารที่แล้วแล้วนี่” หญิงสาวตอบพลางตักกับข้าวใส่จานตัวเองไปด้วย“มึงรู้จักเขาแล้วดิ ใครวะ” น้ำฝนถามขึ้นไม่จริงจังนัก“ก็... เชี้ย!” หญิงสาวกำลังจะตอบแต่ต้องเปลี่ยนเป็นอุทานอย่างตกใจ เมื่อคนที่พวกเธอกำลังพูดถึงมายืนอยู่หน้าร้าน ถึงเขาจะใส่หน้ากากอนามัยปิดหน้ากับหมวกแก๊ป แต่ผิวขาวใสที่พ้นเสื้อยืดกับรูปร่างสูงโปร่งนั้นเธอจำได้ดี และเพิ่งนึกได้ว่าผู้ชายคนนี้คือลูกค้าประจำน้ำเปล่าของร้านเธอก่อนหน้าจะ
Jaguar partหลังจากที่คุณย่ามาที่โรงทอ ตลอดทั้งสัปดาห์รถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ที่เคยจอดอยู่ในที่จอดส่วนบุคคลหายไป มีรถของริชชี่เข้ามาจอดแทนที่โดยที่เธอจะเข้ามาเช้ากว่าปกติแต่ก็หลังจากที่ออฟฟิศเข้ามางานแล้วแทบทุกวัน ซึ่งทำให้ทั้งออฟฟิศต่างมั่นใจกับข่าวลือที่ว่าริชชี่คือว่าที่คู่หมั้นตัวจริงของรองประธานจาติรัช เพราะวันนั้นเธอออกไปทานข้าวพร้อมกับครอบครัวคุณย่า คุณพ่อและคุณอาของชายหนุ่มชายหนุ่มนั่งถอนหายใจอยู่บนห้างส่องสัตว์ในขณะที่น้องชายกำลังนอนอ่านการ์ตูนในแท็ปเล็ตของพี่ชายอย่างสบายใจ“ไหนมึงบอกว่าหยุด 3 วันไงเจ” เสียงทุ้มเอ่ยถามน้องชายที่นอนยกขาขึ้นไขว่ห้างหนุนกระเป๋าของตัวเองอยู่ *แล้วดูแม่งอ่าน นี่มันเป็นหมอหรือเป็นคนไข้กันแน่วะ...* ชายหนุ่มคิดในใจมองน้องชายที่ยังไม่รู้จักโตของตัวเองขำ ๆ“ลาต่อไง ทำงานวันจันทร์” น้องชายตอบแบบไม่รู้ร้อนรู้หนาวกับการมานอนป่าเข้าคืนที่ 3 ของคนทั้งคู่ที่ตรงนี้ไม่ไกลจากกรุงเทพมากนัก และจาติรัชก็มาหลายรอบเพราะชอบเป็นการส่วนตัวจนสนิทกับเจ้าหน้าที่อุทยานและพรานนำทางเป็นอย่างดี“กูมีงานต้องทำนะเ
‘ผมหยุด 3 วัน พาผมเข้าป่าหน่อยนะเฮียนะ ให้ไปไหนก็ไปทั้งนั้นแหละยกเว้นค่ายมวยพ่อใหญ่อัฐ ผมไม่อยากเข้าออฟฟิศ’ น้องชายรีบอ้อนทันที เขาเป็นหมอเพิ่งกลับมาจากเรียนต่อปริญญาโทเข้ามาทำงานได้ไม่ถึง 3 เดือนและนาน ๆ จะมีวันหยุดยาวซักครั้ง แต่คุณพ่ออยากให้เข้าไปเรียนรู้งานในบริษัท เลยเกิดอาการงอแงอยากพัก จึงมาอ้อนให้พี่ชายพาหนีเข้าป่า“อยากเข้าป่า?” พี่ชายถามน้องชายขำ ๆ แล้วหันหลังเดินลงบันไดเพื่อกลับไปที่รถอีกครั้ง‘อือ...บอกทางมาสิครับผมติดไฟแดงอยู่เนี่ยจะให้เลี้ยวซ้ายหรือขวา’“เฮ้อ... กลับบ้านกูเลยเดี๋ยวกูกลับไปเอาเสื้อผ้าที่บ้าน ไปเอารถใหญ่ออก” ว่าจบกดวางสายสวมหมวกกันน็อกอีกรอบเพื่อจะกลับบ้านพลางมองสาวตัวเล็กที่เธอเปลี่ยนชุดเป็นกางเกงขาสามส่วนกับเสื้อยืดคอกลมตัวใหญ่เดินลงมาจากบนตึก“หมี่!” เสียงทุ้มเอ่ยเรียกในขณะที่ขายาวก้าวคร่อมมอเตอร์ไซค์สตาร์ทเครื่องเสียงดังกระหึ่ม“คะ?” ขานรับพลางเดินเข้าไปหา *เรียกคล่องจนจะหลอนแล้วนะคะบอส...เอ้อ*“ขึ้นมาสิเดี๋ยวไปส่ง” ชายหนุ่มว่
“อย่าบอกใครว่าผมอยู่ในห้องนี้และอย่าบอกใครว่าผมเป็นใคร”“ทำไม?”“การเป็นผมมันไม่สนุก” ชายหนุ่มว่าพลางถอนหายใจ“ถ้าจะอธิบายยาว ๆ พูดภาษาที่ท่านรองถนัดหมี่ก็พอฟังได้นะคะ แต่ขอแบบช้า ๆ หน่อย” หญิงสาวว่ายิ้ม ๆ ซึ่งจากน้ำเสียงเธอก็พอเข้าใจถึงสิ่งชายหนุ่มบอกและพอจะเดาออกว่าอะไรเกิดขึ้นกับเขาจากเหตุการณ์วันนี้“คุณย่าผมท่านอยากให้ผมแต่งงานเลยพยายามหาคู่มาให้ ซึ่งเป็นใครก็ไม่รู้ที่ผมไม่เคยเห็นหน้า คนพวกนั้นเอาลูกหลานมาเสนอท่านเพราะหวังหุ้นของที่นี่และริชชี่ก็ไม่ใช่ว่าที่คู่หมั้นผมหรอกนะ” เมื่อรู้ว่าหญิงสาวฟังออกคำพูดก็ยืดยาวจนแทบฟังไม่ทันขึ้นมาทันที“เข้าใจแล้วค่ะ เรื่องที่ท่านรองอยู่ที่นี่หมี่จะไม่บอกใครค่ะ” ว่าจบทำท่าจะเดินออกจากห้องอีกรอบ“หมี่” “คะ?”“ผมชื่อจากัวร์ คนที่นี่เรียกผมว่าบอส แต่ถ้าเจอข้างนอกเรียกผมว่าจา” คำสั่งของชายหนุ่มทำให้หญิงสาวขมวดคิ้วคิดตามทันทีแล้วต้องตาโตเมื่อนึกอะไรออกมาได้“จากัวร์? คุณคือคนที่เดิ
“เมื่อไหร่พี่จาจะกลับมา” คำถามเศร้า ๆ ทำเอาหลานชายที่นั่งฟังอยู่ในห้องอยากออกมากอดคุณย่าของเขาใจแทบขาด แต่ก็ต้องทำใจแข็งเพราะถ้าออกมาตอนนี้คนที่นี่ต้องรู้ว่าเขาอยู่ที่ไทยและจะวุ่นวายไม่จบสิ้น“คุณแม่ลืมหรือครับว่าจามันมีบริษัทของตัวเองต้องดูแล ตอนนี้โรมก็มาทำงานได้มันก็ต้องไปดูแลบริษัทมันสิครับ มันแค่มาช่วยเราเฉย ๆ นะ” คุณสรัญพูดกับคุณแม่ยิ้ม ๆ พลางยกข้อมือดูนาฬิกา “ตอนนี้ 11 โมงกว่าแล้วเดี๋ยวเราออกไปทานข้าวกันเลยดีกว่า ผมจะพาคุณแม่ไปหาหมอเองนะครับ”“ก็ได้ งั้นหนูริชชี่ไปทานข้าวกับคุณย่านะคะลูก” ตอบรับลูกชายแล้วหันไปมาชวนคนที่อยากได้เป็นหลานสะใภ้ยิ้ม ๆ“แต่ว่าตอนนี้ยังไม่เที่ยงเลยนะคะคุณย่า ริชว่า...”“ไม่เป็นไรหรอกหนู ยังไงวันนี้หนูก็มาสายอยู่แล้วนี่ ตอนนี้หนูก็ยังไม่เริ่มทำงานเลย ฉันจะถือว่าเธอลางานช่วงเช้าก็แล้วกัน เอาเป็นว่าไปกินข้าวด้วยกันหมดนี่แหละ ไปชาติลุก” ท่านประธานตัดบทเพราะไม่อยากขัดใจคุณแม่ หันไปชวนเลขาหลานชายและเลยไปเรียกสาวสวยตัวเล็กที่นั่งหน้าประตูไปด้วย “หนูก็ด้







