Share

กอด

last update Last Updated: 2025-05-06 18:30:32

  มิวมาพักกับกนกได้ราวหนึ่งสัปดาห์ ก่อนจะต้องกลับไปอ่านหนังสือและติวให้เพื่อนกลุ่มอื่น คืนนี้จึงเป็นคืนแรกในรอบหลายวันที่กนกต้องนอนคนเดียวอีกครั้ง เขาปิดไฟและพลิกตัวซุกผ้าห่ม ตั้งใจจะข่มตานอน แต่แล้ว...

แกร๊ก!

เสียงของลูกบิดประตูที่หมุนเบาๆ ทำให้ร่างทั้งร่างแข็งค้างหัวใจเขาเต้นระรัวพร้อมลมหายใจที่ติดขัด ราวกับถูกพันธนาการด้วยความกลัวที่บีบรัดแน่นจนแทบหายใจไม่ออก

ใคร?

น้ำตาค่อยๆไหลออกมาพร้อมกับร่างกายที่เริ่มสั่นสะท้าน สติเริ่มตีกันยุ่งเหยิง เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าใกล้เข้ามาใกล้ๆ

จนกระทั่ง...

อ้อมแขนอบอุ่นโอบกอดเขาไว้แน่น

"ไม่ต้องกลัวนะ..." เสียงทุ้มกระซิบข้างหูนั้นแผ่วเบาและมั่นคง

 "ไม่มีใครทำร้ายกนกได้อีกแล้ว" กลิ่นหอมอ่อนๆ ลอยมาจากเสื้อตัวหนาของชายแปลกหน้า อ้อมแขนที่กอดแน่นนั้นให้ความรู้สึกคุ้นเคยจนน่าแปลกใจ กนกหอบหายใจหนักขึ้นและร่างกายยังคงสั่นสะท้านแต่สัมผัสจากคนตรงหน้ากลับช่วยให้หัวใจที่เต้นกระหน่ำเริ่มสงบลงทีละนิด

"พี่ขอโทษ...พี่ขอโทษสำหรับทุกอย่าง" เสียงนั้นแฝงไปด้วยความรู้สึกผิดที่อัดแน่น

กนกไม่เข้าใจว่าเขาขอโทษเรื่องอะไร แต่พอได้ยินน้ำเสียงอบอุ่นนั้นกระซิบแผ่วเบาข้างหู ความรู้สึกบางอย่างก็ไหลทะลักออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ น้ำตาที่พยายามกลั้นไว้กลับไหลพราก แล้วจู่ๆ ชายปริศนาผู้นั้นก็ร้องไห้ออกมา... ร้องไห้อย่างเงียบงัน แต่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดบางอย่างที่กนกสัมผัสได้เขาที่เต็มไปด้วยความสับสนและไม่เข้าใจทำได้เพียงโอบกอดอีกฝ่ายไว้แน่นอย่างไม่รู้ตัว

ไม่มีคำพูดใดถูกเอื้อนเอ่ย มีเพียงเสียงสะอื้นแผ่วเบาของทั้งสองที่แทรกผ่านความเงียบของค่ำคืน

พวกเขากอดกันแน่น ท่ามกลางบรรยากาศที่อบอุ่นแต่เต็มไปด้วยปริศนา แล้วไม่นาน กนกก็หลับไปในอ้อมแขนนั้น...

แสงอ่อนๆ ของเช้าวันใหม่ส่องลอดม่านเข้ามา กนกค่อยๆลืมตาขึ้น พลันรู้สึกหนักอึ้งที่กระบอกตาราวกับมีบางสิ่งกดทับอยู่ คงเป็นเพราะการร้องไห้อย่างหนักเมื่อคืนทำให้ทั้งปวดตาและปวดหัวจนต้องขยับนิ้วมือนวดขมับเบาๆ เขาพลิกตัวก่อนจะค่อยๆลุกขึ้นจากเตียงเดินไปยังห้องน้ำเพื่อชะล้างคราบความเหนื่อยล้าบนใบหน้า

ดีที่ไม่ต้องรีบร้อนเหมือนทุกวัน เขาเหลือบไปมองนาฬิกาบนผนัง ตอนนี้เลยแปดโมงกว่าแล้วถ้าวันนี้เป็นวันธรรมดาป่านนี้คงต้องรีบวิ่งไปมหาวิทยาลัยให้ทันก่อนอาจารย์เช็กชื่อแน่ๆ ขณะที่กำลังยืดเส้นยืดสายหลังจากคืนที่ยาวนาน สายตาของเขาก็เหลือบไปเห็นใครบางคนที่ฟุบหลับอยู่ที่โต๊ะอ่านหนังสือ...

เงาร่างคุ้นตาที่ทำให้หัวใจเขาเต้นแรงอีกครั้ง

ชายแปลกหน้าเมื่อคืน...

เขายังอยู่ที่นี่

กนกลุกขึ้นเดินเข้าไปใกล้ก่อนจะเรียกเบาๆ

"คุณ..."

เปลือกตาของชายหนุ่มขยับเล็กน้อย ก่อนจะลืมขึ้นเผยให้เห็นดวงตาคมที่ยังคงเจือความง่วงงุน

"ตื่นแล้วเหรอ เป็นไงบ้าง?" เสียงแหบพร่าเพราะเพิ่งตื่นดังขึ้น

กนกเม้มปาก ไม่รู้จะตอบยังไงดี

"ยังกลัวอยู่ไหม?"

คำถามนั้นทำให้กนกเผลอส่ายหน้าแทนคำตอบ

ชายหนุ่มคลี่ยิ้มบางๆ ก่อนจะถอนหายใจอย่างโล่งอก

"พี่ขอโทษที่เข้ามาทำให้เราตกใจ เราอาจจะจำพี่ไม่ได้...แต่น้าเพชรฝากให้พี่มาดูแลเรา"

ชื่อนั้นทำให้กนกชะงัก

"น้าเพชร...แม่เหรอ?"

"อืม..."

กนกขมวดคิ้ว หัวใจเริ่มเต้นรัวด้วยความสับสน

"คุณเป็นใครกันแน่?"

ชายหนุ่มมองหน้าเขานิ่งๆ ก่อนจะยิ้มบาง

"เอาเป็นว่า...พี่อยากให้เราดูแลตัวเองดีๆ น้าเพชรเป็นห่วงเรามาก"

"คุณ..." กนกพยายามขุดลึกลงไปในความทรงจำ แต่มันกลับมีเพียงช่องว่างมืดดำ

"เรารู้จักกันดีเลยนะ แต่กนกอาจจะลืมพี่ไปแล้ว" ชายคนนั้นพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลดวงตาสีน้ำตาลเข้มทอดมองมาด้วยความอ่อนโยน

"แต่พี่น่ะ...ไม่เคยลืมกนกเลย" คำพูดนั้นทำให้กนกยิ่งงุนงง พยายามคุ้ยหาความทรงจำเกี่ยวกับคนตรงหน้าแต่ยิ่งคิดก็ยิ่งไม่เข้าใจ

"คุณ... นาย... พี่... คือ คนที่ตามเราหรอ?" ชายหนุ่มตรงหน้าหัวเราะเบาๆ ก่อนเอื้อมมือมาลูบหัวเขาเบาๆราวกับเคยทำแบบนี้มาก่อน 

"เรียกพี่เหมือนเดิมก็ได้..."

"เหมือน...เดิม?" กนกทวนคำอย่างไม่เข้าใจจ้องมองใบหน้านั้นอย่างพิจารณา

ชายปริศนายิ้มบาง "น้าเพชรให้กุญแจห้องเรามากับพี่" เขาชูพวงกุญแจให้ดู

"ไม่ต้องถามน้าเพชรให้มากหรอกนะ เพราะยังไงน้าเพชรก็บอกให้เรามาถามกับพี่เอง"

กนกเม้มริมฝีปากแน่นยังไม่แน่ใจว่าควรรู้สึกยังไงกับเรื่องนี้

"เหนื่อยก็พักนะ... วันนี้พี่มีเรียน"

"เรียน... คุณ เอ่อ... พี่ก็เรียนที่นี่เหรอ?"

"ช่าย พี่เรียนปี 4"

"ปี 4..."

"รอเราตั้งนาน..."

รอ...

คำพูดแปลกๆ หลุดออกมาให้เขาพยายามคิด แต่ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกปวดหัว…

"ไม่ต้องคิดอะไรแล้ว เด็กน้อย" ชายปริศนาเอื้อมมือมาขยี้ผมเขาเบาๆ ก่อนจะยิ้มบางให้ราวกับรู้ว่าเขากำลังสับสนและคิดมาก

กนกยังคงมองอีกฝ่ายอย่างไม่วางตา รู้สึกว่ามีบางอย่างคุ้นเคยอยู่ในน้ำเสียง ท่าทาง และแววตานั้นแต่กลับนึกไม่ออกว่าเคยเจอที่ไหน

ชายคนนั้นถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะหันหลังเดินออกไปจากห้อง ทิ้งไว้เพียงความเงียบงันและหัวใจที่เต้นแรงของกนก เขายังคงนั่งนิ่งอยู่ที่เดิม พยายามเรียบเรียงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนและคำพูดที่อีกฝ่ายทิ้งไว้ให้ แต่ยิ่งคิดก็ยิ่งสับสน…

"พี่ภพ..."

ชื่อหนึ่งแวบขึ้นมาในหัวอย่างไม่รู้ตัว...

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   กนก

    "แม่ครับ อ่านเรื่องนี้ให้ฟังหน่อย!""นิยายเรื่องนี้สนุกไหมครับแม่?""กนกอยากนอนหลับไปกับกองนิยายเล้ยย!"เสียงสดใสของกนกดังขึ้นท่ามกลางบรรยากาศอบอุ่นของบ้านหลังเล็ก ที่นี่เต็มไปด้วยเสียงพูดคุยเกี่ยวกับหนังสือแทบทุกวัน แม่ของเขาชอบอ่านหนังสือสารคดีแปลก ๆ แล้วมักจะเล่าเรื่องให้ลูกชายฟังด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ส่วนพ่อก็เป็นสายหนังสือพัฒนาตัวเอง ชอบสอนกนกเรื่องแนวคิดการเติบโตและการใช้ชีวิต ทุกเย็นบ้านนี้แทบไม่เงียบเหงา เพราะมื้อค่ำมักกลายเป็นวงสนทนาเกี่ยวกับหนังสือที่แต่ละคนกำลังอ่าน ราวกับเป็นสโมสรนักอ่านขนาดย่อมแต่ในบรรดาหนังสือทั้งหมด กนกรักนิยายรักของแม่มากที่สุด ตู้หนังสือของแม่เต็มไปด้วยเล่มปกสีหวาน บางเล่มเก่าจนกระดาษเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ตอนเด็ก ๆ เขาหยิบมาอ่านเพราะคิดว่ามันตลก แต่พอโตขึ้น เขากลับหลงรักเรื่องราวในนั้นอย่างไม่รู้ตัว"กนกลูก มากินข้าวกันครับ"เสียงแม่ดังแว่วมาจากชั้นล่าง ในขณะที่กนกกำลังจมอยู่กับฉากสำคัญของนิยาย"แป๊บนึงนะครับแม่... อีกนิดเดียวจะจบแล้ว!""แม่รอนะลูก แต่อย่านานล่ะ ข้าวจะเย็นหมด""ได้ครับแม่" กนกตอบลอย ๆ แต่สายตายังคงตรึงอยู่กับหน้ากระดาษ "อีกแค่สามหน้าเอง

    Last Updated : 2025-04-24
  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   ความฝัน

    แล้วพวกเขา 3 คนก็เดินทางไปห้องสมุดด้วยกัน สถานที่ที่กว้างขวาง เงียบสงบเหมาะสำหรับการอ่านหนังสือและการทำงานอย่างจริงจัง กนก มิวและพราวต่างก็มีเป้าหมายของตัวเอง มิวและพราวตั้งใจจะหาหนังสือเกี่ยวกับวิชาเคมีเพื่อใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงสำหรับรายงาน ส่วนกนกนั้นแม้ว่าจะไม่ได้มีงานเร่งด่วนอะไรแต่เขาก็อยากมาหาหนังสือนิยายรักโรแมนติกเล่มใหม่เอาไว้อ่านสักหน่อยเมื่อเดินเข้าไปในห้องสมุด มิวและพราวก็แยกย้ายไปหาหนังสือในส่วนของวิทยาศาสตร์ ในขณะที่กนกเดินตรงไปที่ชั้นหนังสือวรรณกรรม เขาหยิบนิยายรักโรแมนติกเล่มหนึ่งที่เขาคิดว่าน่าสนใจแล้วก็หามุมสงบในห้องสมุดเพื่อนั่งอ่านต่อหลังจากนั้นไม่นาน มิวและพราวก็เสร็จสิ้นจากการค้นหาหนังสือและเดินมาหากนก ที่กำลังจดจ่ออยู่กับหนังสือเล่มหนา"นี่กนก ยังอ่านไม่จบอีกเหรอ" มิวยื่นหน้าไปถามกระซิบเสียงเบา"กำลังถึงตอนสำคัญเลย พระเอกเพิ่งจะสารภาพรักนางเอก" กนกตอบด้วยแววตาที่เป็นประกาย"แกนี่น่ะ..." พราวยิ้มเล็กๆหมั่นไส้เจ้าเพื่อนหนอนหนังสือ "แต่เอาเถอะ เราเสร็จแล้ว กลับกันไหม?"กนกพยักหน้าแล้วปิดหนังสืออย่างเสียดายแต่เขาก็รู้ว่าต้องกลับมาอ่านต่อในวันหลัง พวกเขาทั้งสามเดิน

    Last Updated : 2025-04-24
  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   ความรู้สึกแปลก

    ร่างของชายปริศนาแนบชิดเข้ามา กนกแทบไม่ได้มีเวลาตั้งตัว ก่อนที่ลมหายใจร้อนจะเคลื่อนเข้าใกล้ กลิ่นหอมอ่อนๆ ที่เขาไม่คุ้นเคยลอยอวลอยู่รอบตัว เสี้ยววินาทีต่อมา ริมฝีปากของชายแปลกหน้ากดลงมาบนริมฝีปากของเขา...อ่อนโยน ทว่าตราตึงในความรู้สึกเขา กนกเบิกตากว้างพร้อมหัวใจเต้นกระหน่ำราวกับจะทะลุออกจากอก เขาพยายามจะขยับตัวแต่กลับถูกอ้อมแขนแข็งแรงตรึงไว้อย่างมั่นคง ไม่ใช่การบังคับขืนใจแต่เป็นสัมผัสที่เต็มไปด้วยแรงดึงดูดลึกลับราวกับอีกฝ่ายกำลังเฝ้าค้นหาอะไรบางอย่างจากตัวเขา“คุณ...” เสียงของกนกสั่นไหว ไม่แน่ใจว่าควรผลักออกหรือหยุดนิ่ง ความอบอุ่นที่แนบชิดส่งผ่านความรู้สึกบางอย่างที่เขาอธิบายไม่ได้ชายปริศนาโน้มลงมา สูดลมหายใจช้าๆ ใกล้ต้นคอของเขา ปลายนิ้วเย็นเฉียบไล้ผ่านข้างแก้มก่อนกระซิบเบาๆ ข้างหู“...ในที่สุด พี่ก็เจอเราสักที”นี่มันอะไรกัน... เขาคิดในใจ แต่ร่างกายของเขากลับตอบสนองต่อความรู้สึกที่แปลกใหม่นี้ผู้ชายคนนั้นยิ้มให้เขาอีกครั้งแล้วก็พูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน"ไม่ต้องกลัวนะ...พี่จะไม่ทำร้ายเธอ"กนกรู้สึกว่าหัวใจของเขาเต้นแรงขึ้น เขาพยายามจะพูดอะไรแต่คำพูดก็ติดอยู่ในลำคอ ผู้ชายคนนั้นยิ้มให

    Last Updated : 2025-04-24
  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   ใคร

    เขารู้สึกว่าวันนี้เป็นวันที่ยาวนานและวุ่นวายเพราะเขามีเรียนตั้งแต่เช้าถึงสองทุ่ม ทั้งบรรยายวิชาชีวะและทำแล็ปการทดลองเคมีภาคค่ำ กว่าจะลากสังขารกลับหอได้ก็พากันหมดแรง"ทำไมวันนี้โหดขนาดนี้...ใครจัดตารางเรียนว่ะ" "นั่นนะสิ...จะแบ้ล้า นี่มันเด็กปีหนึ่งนะเว้ย" พราวสมทบอีกหนึ่งเสียง"แล้วพวกแกจะบ่นเพื่อ...กินข้าว กลับบ้านแยกย้ายกัน" "เย้ อาหารจะช่วยชีวิตพวกเรา ฉันอยากกินยำ อยากกินยำ" พราวพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น"กนกกินอะไรดี?" "อ่า...อะไรดีอ่าา อยากกินกระเพาะแล้วกัน กระเพาะเนื้อ" "อืม งั้นไปร้านป้าข้างหอพราว แล้วค่อยเดินกลับมาหอในแล้วกัน" "อืม..." กนกพยักหน้ารับระหว่างทาง กนกก็เหม่อมองบรรยากาศโดยรอบ วันนี้รู้สึกเหนื่อยตั้งแต่เช้าที่ต้องวิ่งมาเรียน ข้าวเช้าก็ไม่ได้กินแล้วมาเรียนแล็ปต่อ ปวดหัวจะแย่ คิดถึงหนังสือนิยายที่อยู่ที่หอจะแย่อยู่แล้ว เมื่อไหร่จะได้กลับไปอ่านต่อนะ... แต่ในตอนนี้ เขาต้องกินข้าวให้อิ่มก่อนแล้วค่อยกลับไปหาหนังสือเล่มโปรดที่รอเขาอยู่"ป้าคะ หนูขอยำแซ่บๆหนึ่งจานค่ะ ขอเผ็ดๆเลยนะคะ" พราวสั่งอาหารด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยหิวกระหาย"กินเผ็ดเดี๋ยวก็ปว

    Last Updated : 2025-04-24
  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   กลับบ้าน

    เพราะความรู้สึกบางอย่างที่ทำให้อยากกลับบ้าน จึงตัดสินใจว่ากลับบ้านไปตามหาอะไรบางอย่างน่าจะดีกว่า"อ้าว...ทำไมกลับ เดินทางตั้งหลายชั่วโมงนะ" ใช่...เพื่อนเขาพูดถูก พวกเราทั้งสามคนสอบติดมหาวิทยาลัยในกรุงเทพ แต่บ้านของพวกเราอยู่ชลบุรี ถึงจะนั่งรถตู้ไปถึงสถานีใช้เวลาประมาณสองชั่วโมงแต่จากสถานีก็ต้องนั่งรถสองแถวเข้าบ้านอีกตั้งสี่สิบนาที นานๆ ทีพวกเราถึงจะกลับบ้านกัน"อืม...มีธุระนิดหน่อยน่ะ" เขาไลน์บอกแม่ว่าจะกลับบ้านไปทำธุระ แม่ก็ไม่ได้ว่าอะไร"เป็นไงบ้าง เหนื่อยไหม มาถึงดึกเชียว" "เหนื่อยครับแม่ ดีที่วันนี้กนกเรียนแค่คาบเช้า ไม่งั้นดึกกว่านี้แน่เลย" "งั้นไปพักผ่อนแล้วลงมาทานข้าวเย็นด้วยกันนะ" "ไม่เป็นไรครับ ผมกินข้าวบ้านน้าแป้นมาแล้ว""อ่อ...เออ พูดถึงน้าแป้น" "หืมม...ทำไมหรอครับ" "เห็นแกบอกว่าลูกชายเขาก็ไปเรียนกรุงเทพนะ แต่ที่ไหนแม่ก็จำไม่ได้""หรอครับ แต่พี่...อ่าา จำไม่ได้แล้วอ่า" "อืมม... จำได้ว่าน่าจะเป็นรุ่นพี่เรานะ" "อ่าา...ครับ" กนกพยักหน้า"กนกขึ้นไปพักก่อนนะ""รีบพักนะลูก" กนกรีบขึ้นไปพักบนห้องของตัวเอง บ้านของเขาไม่ได้ใหญ่โตมากนัก แม้ว่าพ่อกับแม่จะรักการอ่านหนังสือมากแ

    Last Updated : 2025-04-24
  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   ลึกลับ

    ถึงแม้ว่ารู้สึกยังพักผ่อนไม่เต็มที่ แต่ด้วยภารกิจในการเรียนทำให้กนกต้องเดินทางกลับมาที่หอตั้งแต่เช้ามืด ความเศร้าที่อยู่ภายในใจยังเกาะกิน ความผูกพันธ์ที่เขามีต่อหนังสือเล่มนั้นทำให้เขารู้สึกว่ามันอาจมีอะไรซ่อนอยู่ ซึ่งอาจจะเชื่อมโยงกับตัวเขาเอง ทำให้รู้สึกว่าวันนี้บรรยากาศรอบตัวมีแต่ความหมองหม่น ความเหม่อลอยตลอดเส้นทางการเดินไปมหาวิทยาลัยทำให้เขาเกือบจะโดนรถเฉี่ยวปิ๊ดดด!แต่ทันใดนั้น กลับมีใครบางคนดึงตัวเขากลับมาได้ทันเวลา หัวใจเขาตื่นระรัวด้วยความตกใจ และกำลังจะหันกลับไปขอบคุณคนใจดีคนนั้น แต่กลับไม่เห็นใครอยู่ตรงนั้นเลย มีเพียงสายลมที่พัดผ่านและเสียงใบไม้ที่สั่นไหว เหมือนกับว่ามีใครสักคนหายไปในอากาศ“ใครนะ...?” เขาพูดเบาๆ กับตัวเอง แต่ไม่มีใครตอบ มีเพียงเสียงลมพัดผ่านหูเบาๆ เหมือนเสียงกระซิบที่เขาคุ้นเคยถึงแม้จะยังคงสงสัย แต่พอดูนาฬิกาก็พบว่าใกล้จะถึงเวลาเข้าเรียนแล้ว เลยรีบกวดฝีเท้าให้เร็วขึ้นเพื่อจะเข้าเรียนให้ทัน เขาวิ่งกระหืดกระหอบมาทันเวลาพอดี มองหาเพื่อนสนิทก็เห็นพราวโบกมือทักทายให้มานั่งข้าง เมื่อถึงที่นั่งก็ฟุบลงกับโต๊ะ แสดงอาการเหนื่อยหอบ“เป็นไงกลับบ้านมา...สนุกไหม?” “น่

    Last Updated : 2025-04-25
  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   พี่หรอ

    วันนี้ชั่วโมงเรียนของกนกลากยาวมาถึง 5 โมงเย็น ความเหนื่อยล้าตั้งแต่เช้าส่งผลให้ช่วงเย็น ขณะที่กำลังรออาหารตามสั่งจากร้านป้านิด เขาก็เผลอพิงศีรษะกับแขนตัวเอง ดวงตาปรือคล้ายจะหลับสนิท ท่ามกลางเสียงพูดคุยของเพื่อน ๆ ที่ยังดังอยู่รอบตัว“กนก ตื่นก่อน!” พราวเรียกด้วยเสียงดัง“ใช่ๆ กินข้าวก่อน นี่กระเพาะกุ้งของชอบแกไง กินก่อนแล้วค่อยกลับไปนอน” มิวพูดพร้อมกับยื่นช้อนให้“อืมม...” กนกพยักหน้าเบาๆ แต่สายตาของเขาดูเหมือนจะปิดลงทุกที เขายิ้มบาง ๆ แต่ก็ยังไม่ยอมลืมตาขึ้นเต็มที่ ความเหนื่อยสะสมทำให้ร่างกายของเขาหนักอึ้ง จนเผลอคิดไปว่า... ถ้าตอนนี้ได้เอนตัวลงนอนที่ไหนสักที่ก็คงดี แต่ระหว่างที่กำลังจะหลับตาลงอีกครั้ง “ป้าได้ยังคะ? เพื่อนหนูจะหลับตาโต๊ะแล้วค่าา” พราวหันไปเรียกป้านิด เจ้าของร้านอาหาร“ฮ่ะๆ วันนี้เรียนหนักกันหรอคะ? เพิ่งวันจันทร์กันเอง” ป้านิดถามด้วยน้ำเสียงอบอุ่น“วันนี้ไม่หนักเท่าไรค่ะป้านิด แต่กนกมันเพิ่งกลับบ้านมา ตื่นตั้งแต่ตี 4 วันนี้เรียนตั้งแต่เช้าลากถึงเย็นคงจะง่วงเต็มที่” “น้องกนกรีบทานจะได้รีบไปพักนะคะ” ป้านิดพูดพร้อมกับยิ้มให้“ขอบคุณครับป้านิด ผมจะรีบกิน...จะได้รีบไปนอน

    Last Updated : 2025-04-28
  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   ของขวัญกำลังใจ

    ช่วงเวลาสอบกลางภาคกำลังจะเริ่มขึ้น ทำให้บรรยากาศของนักศึกษาใหม่ชั้นปีที่ 1 เต็มไปด้วยความกดดัน อาจารย์เร่งสอนเนื้อหาให้ทันก่อนสอบ ขณะที่นักศึกษาทุกคนต่างต้องเร่งอ่านหนังสือและทบทวนบทเรียนอย่างเคร่งเครียด ไม่เว้นแม้แต่กลุ่มของกนกเองที่ตอนนี้กำลังปรึกษากันว่าหลังจากทานอาหารกลางวันเสร็จแล้วพวกเขาจะไปอ่านหนังสือกันที่ไหนต่อ“หลังจากนี้คงต้องติวให้เยอะกว่าเดิม” กนกพูดขึ้นขณะที่พราวและมิวกำลังกดโทรศัทพ์เปิดดูแหล่งบันเทิงเพื่อผ่อนคลายจากความเคร่งเครียดที่เพิ่งผ่านกันมา“ก็คงงั้นแหละ เพราะบางคาบแกก็หลับในห้องไง กนก” พราวอมยิ้มและดูสนุกที่ได้แซวเพื่อนตัวเล็ก“ทำเป็นพูดนะพราว เหมือนแกไม่เคยหลับ”“ถึงชั้นจะหลับ แต่ก็ไม่ได้หลับเกือบทุกคาบเหมือนแก” ก่อนที่เพื่อนทั้งสองจะเถียงกันจะเกิดเสียงดังและอาจจะมีการโกรธเคืองเกิดขึ้น“ทั้งสองหยุดเลย เลิกทะเลาะกันได้แล้ว” มิวแทรกเข้ามาด้วยเสียงหนักแน่น“หลังจากกินข้าววันนี้ เราจะไปหาหนังสือที่ห้องสมุด ใครจะไปบ้าง?”“เราไป&rdquo

    Last Updated : 2025-04-29

Latest chapter

  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   กอด

    มิวมาพักกับกนกได้ราวหนึ่งสัปดาห์ ก่อนจะต้องกลับไปอ่านหนังสือและติวให้เพื่อนกลุ่มอื่น คืนนี้จึงเป็นคืนแรกในรอบหลายวันที่กนกต้องนอนคนเดียวอีกครั้ง เขาปิดไฟและพลิกตัวซุกผ้าห่ม ตั้งใจจะข่มตานอน แต่แล้ว...แกร๊ก!เสียงของลูกบิดประตูที่หมุนเบาๆ ทำให้ร่างทั้งร่างแข็งค้างหัวใจเขาเต้นระรัวพร้อมลมหายใจที่ติดขัด ราวกับถูกพันธนาการด้วยความกลัวที่บีบรัดแน่นจนแทบหายใจไม่ออกใคร?น้ำตาค่อยๆไหลออกมาพร้อมกับร่างกายที่เริ่มสั่นสะท้าน สติเริ่มตีกันยุ่งเหยิง เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าใกล้เข้ามาใกล้ๆจนกระทั่ง...อ้อมแขนอบอุ่นโอบกอดเขาไว้แน่น"ไม่ต้องกลัวนะ..." เสียงทุ้มกระซิบข้างหูนั้นแผ่วเบาและมั่นคง"ไม่มีใครทำร้ายกนกได้อีกแล้ว" กลิ่นหอมอ่อนๆ ลอยมาจากเสื้อตัวหนาของชายแปลกหน้า อ้อมแขนที่กอดแน่นนั้นให้ความรู้สึกคุ้นเคยจนน่าแปลกใจ กนกหอบหายใจหนักขึ้นและร่างกายยังคงสั่นสะท้านแต่สัมผัสจากคนตรงหน้ากลับช่วยให้หัวใจที่เต้นกระหน่ำเริ่มสงบลงทีละนิด"พี่ขอโทษ...พี่ขอโทษสำหรับท

  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   สายตาของใครบางคน

    วันนี้กนกเริ่มรู้สึกว่า…บางที คนที่ตามเขาอาจไม่ใช่ผีอย่างที่เขาคิด สายตาของใครบางคนเหมือนเฝ้าจับจ้องเขาจากที่ไกลๆ มันไม่ได้เป็นเพียงความรู้สึกวูบไหวหรือภาพหลอนที่เกิดจากความหวาดระแวง แต่มันชัดเจนจนทำให้ขนที่ต้นคอลุกชัน"หืม…มีอะไรเหรอ?" พราวถามขึ้นระหว่างกำลังตักข้าวเข้าปากในโรงอาหารกนกขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะส่ายหน้า "เปล่าๆ ไม่มีอะไรหรอก" พราวเหลือบตามองอย่างสงสัยแต่ก็ไม่ได้เซ้าซี้ต่อช่วงบ่าย ขณะเดินไปห้องแล็บ มิวเข้ามากระซิบที่ข้างหูพราว เสียงของเขาเบาราวกับไม่ต้องการให้ใครได้ยิน พราวชะงักไปเล็กน้อย สีหน้าตกใจแต่ก็พยายามเก็บอาการแล้วทั้งสองค่อยๆลดความเร็วในการเดินราวกับกำลังจับตาดูอะไรบางอย่างตรงข้ามกับพวกเขา กนกกลับเดินนำหน้าอย่างสบายใจ หูฟังเสียบอยู่กับหู ขยับปากร้องเพลงเบาๆ โดยไม่รู้ตัวเลยว่ามีสายตาคู่หนึ่งจับจ้องอยู่และมันก็เป็นอย่างที่คิด...เมื่อมิวกับพราวถอยห่างออกมา ก็เห็นชายคนหนึ่งที่ไม่เคยพบมาก่อน สวมหมวกและผ้าปิดปาก เดินลอบเลียบเลาะตามกนกอย่างแนบเนียน ทว่า…มีบางอย่างผิดปกติวันนี้เขาใส่เสื้อแขนยาว

  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   ห้วงความฝัน

    ห้วงความฝันเด็กชายตัวเล็กพยายามยื้อแย่งตุ๊กตาในอ้อมปากของเจ้าหมาจอมดื้อ"อื้ออ... อย่าเอาของน้อง! แงงง!"เขาร้องไห้สะอึกสะอื้น ดึงสุดแรงเกิด แต่แรงเด็กน้อยสู้หมาตัวโตไม่ไหว ตุ๊กตาหมีสีเหลืองยังคงถูกคาบแน่นในปากของมัน"แง... แงงง!" เสียงร้องดังลั่นไปทั่วสนามหญ้า จนเด็กอีกคนวิ่งเข้ามาพร้อมกับไม้ในมือ"ไอ้หมา! ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ!"...ฟาด!... ฟาด!เจ้าหมาสะดุ้งเฮือก ส่ายหัวไปมา ก่อนจะทนความเจ็บไม่ไหว ยอมคลายตุ๊กตาหมีสีเหลืองออกจากปาก"เย้ๆๆ!" เด็กน้อยกระโดดดีใจ เสียงหัวเราะสดใสดังขึ้น พี่ชายใจดีที่ช่วยปกป้องเขาหยิบตุ๊กตาขึ้นมา"อันนี้ของเราสินะ แต่มันเปื้อนหมดเลย""ไม่เป็นไรครับ... หมูเหลืองไปซักได้"เด็กชายตัวน้อยยิ้มกว้าง ดวงตาเป็นประกาย ก่อนภาพทุกอย่างจะเลือนหายไป…...วี๊วอ! วี๊วอ!เสียงไซเรนรถพยาบาลดังระงมไปทั่ว ความวุ่นวาย เสียงตะโกนของเจ้าหน้าที่ เสียงวิทยุสื่อสารแทรกเป็นระยะมือของเขาเปื้อนเลือด...เลือด

  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   ตุ๊กตาหมีสีเหลือง

    ขณะที่พวกเขานั่งกินข้าวกันอยู่ที่โรงอาหาร บรรยากาศในช่วงบ่ายคล้อยยังคงเต็มไปด้วยเสียงพูดคุยจอแจของนักศึกษา คนเดินผ่านไปมาถือถาดอาหาร บ้างนั่งจับกลุ่มคุยกัน บ้างจดจ่ออยู่กับจอโทรศัพท์จู่ๆ รุ่นพี่ต่างคณะก็เดินเข้ามาหากนก พร้อมกับยื่นกล่องของขวัญขนาดใหญ่ให้โดยไม่พูดอะไรนัก กนกเงยหน้ามองงงๆ พลางรับของมา ก่อนที่พี่คนนั้นจะเดินจากไปท่ามกลางสายตาสงสัยของเพื่อนๆ“มิวกับพราวแซวเขาว่า เดี๋ยวนี้ฮอตมาก มีคนเอาของมาให้ตลอดเลยนะ”“ก็ไม่ขนาดนั้นหรอก” กนกตอบเรียบๆ พลางมองกล่องของขวัญในมือ“หรือจะเป็นพี่รหัสที่กำลังจะซิ่วไปเรียนที่อื่น?” มิวตั้งข้อสันนิษฐาน“ไม่รู้อะ” กนกส่ายหน้าพราวเบิกตากว้าง มือเกาะโต๊ะพลางเขย่าเบาๆ “แต่กล่องใหญ่มากอ่ะ! อยากดูแล้ว!”“เดี๋ยวเลิกเรียนก่อน ค่อยมาดูกัน” กนกหัวเราะกับท่าทางกระตือรือร้นของพราว“เย้ๆ” พราวแทบกระโดดมิวส่ายหน้าอย่างระอา “พราวเวอร์มาก อะไรจะดีใจ

  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   ประกอบสิ่งที่แตกสลาย

    ในวัย 13 ปี… เขากลายเป็นคนที่แตกสลายโดยสมบูรณ์ภาพในความทรงจำตีกลับมาอีกครั้ง...เสียงของพ่อตวาดดังลั่นเป็นสิ่งที่เด็ก 13 ปีไม่เคยเจอมาก่อนในชีวิต...เสียงของแม่กรีดร้องด้วยความทุกข์ทรมาณ...เลือดไหลเป็นสายลงบนพื้นไม้...และร่างของเขาถูกเหวี่ยงกระแทกกับโต๊ะอย่างแรง เสียงนั้นดังสะท้อนในหัวของเขาเหมือนแผ่นเสียงตกร่องภพสะดุ้งเฮือก ลืมตาโพลง หัวใจเต้นระรัวจนเหมือนจะระเบิดออกมา"ไม่ ไม่เอาแล้ว... พอเถอะ..."เขาอยากกรีดร้องออกมาดิ้นพราดอยู่บนเตียง ร่างกายสั่นเทาเหมือนคนกำลังจะจมน้ำป้าได้ยินเสียงผิดปกติ เธอรีบเข้ามาดูเขา และพบว่าเขากำลังกระตุกอยู่บนเตียง"ภพ! ใจเย็นๆ นะลูก ป้าอยู่ตรงนี้!"มือของป้ากอบกุมมือของเขาไว้แน่น น้ำตาของเธอไหลออกมาอย่างเงียบงัน เขาต้องฝืนใจมีชีวิตอยู่ ทั้งที่หัวใจของเขาแทบจะตายไปแล้วแม้จะเจ็บปวดแค่ไหน แม้จะร้องไห้ในใจมากเท่าไร แต่ไม่มีวันไหนที่ภพมีน้ำตา เขากัดฟันเผชิญหน้ากับทุกความเจ็บปวด... เพราะเขาไม่อยากให้แม่ต้องร้องไห้อีกแล้ว แม่คือคนเดียวที่เหล

  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   ลิขิตรักจากฟากฟ้า

    หลังจากสอบกลางภาคเสร็จ กนกก็มีเวลาผ่อนคลายมากขึ้น เขากลับมาหาเพื่อนเก่าที่เขารัก นั่นคือหนังสือนิยาย เย็นวันนั้น ฝนโปรยปรายลงมาบางเบา กลิ่นดินหลังฝนอบอวลอยู่ในอากาศ ลมเย็นพัดผ่านหน้าต่างที่เปิดแง้มไว้ทำให้ผ้าม่านสีขาวพลิ้วไหวไปตามจังหวะลม กนกนั่งขัดสมาธิอยู่บนเตียง ผ้าห่มนุ่มคลุมกาย เขาหยิบหนังสือเรื่อง ลิขิตรักจากฟากฟ้า มาอ่านอีกครั้งแสงไฟจากโคมข้างเตียงส่องกระทบตัวอักษร สะท้อนเป็นเงาจาง ๆ บนหน้ากระดาษ เรื่องราวความรักที่เศร้าและซับซ้อนในเล่มเหมือนพาเขาหลุดเข้าไปอยู่ในโลกของเจ้าหญิงและองครักษ์ซึ่งเปรียบเสมือนตนเองเป็นทาสผู้ซื่อสัตย์ เสียงฝนที่ตกกระทบกลายเป็นท่วงทำนองแผ่วเบา คลอเคล้าไปกับเสียงหัวใจที่เต้นตามจังหวะของเนื้อเรื่อง ดอกเยอบีร่าและความรักที่เบ่งบาน''องค์หญิงดูนี่สิพะยะค่ะ'' ซาเลล องค์รักษ์หนุ่มคุกเข่าลงข้างหนึ่ง ยื่นมือไปเด็ดดอกไม้ป่าที่ขึ้นอยู่ริมลำธาร ก่อนเงยหน้าขึ้นมององค์หญิงเอมม่า ผู้เป็นองค์หญิงน้องสุดท้องของอาณาจักร บัดนี้พระองค์ทรงก้าวเข้าสู่วัยสาวแล้ว พระบิดาจึงเข้มงวดกับทุกเรื่องราวรอบตัว กระทั่งการออกไปสู

  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   พี่รหัส

    หลังจากสอบเสร็จ วันเฉลยพี่รหัสก็มาถึงช่วงเย็น พวกเรานัดรวมตัวกันที่โถงกลางคณะ เสียงจอแจของพี่ปีสองและปีสามดังไปทั่ว ทำให้บรรยากาศคึกคักเต็มไปด้วยความตื่นเต้น เสียงหัวเราะแทรกผ่านเสียงพูดคุย ดนตรีจากลำโพงเปิดคลอสร้างความสนุกสนาน ไฟสีส้มจากโถงกลางทอดเงาลงบนพื้น ทำให้ทุกอย่างดูอบอุ่นและคึกครื้นกว่าปกติ นี่เป็นครั้งแรกที่เราจะได้รู้ว่าพี่รหัสที่คอยดูแลเราอยู่เงียบ ๆ เป็นใครกัน“สำหรับน้องๆ คนไหนที่มาถึงโถงกลางแล้ว ก็ไปนั่งรวมกับเพื่อนได้เลยนะ” เสียงประกาศจากพี่ฝ่ายสันทนาการดังขึ้น ท่ามกลางความตื่นเต้นของทุกคน กนกกับเพื่อน ๆ เพิ่งเรียนเสร็จ เมื่อได้ยินประกาศจึงรีบไปรวมตัวที่โถงกลางทันที“ชั้นว่าพี่รหัสชั้นต้องเป็นผู้ชายแน่เลย” พราวกระซิบ พลางมองไปรอบ ๆ ด้วยสายตาเป็นประกาย“ทำไม?” มิวถามเสริมขึ้นมา“ก็ไม่เคยให้อะไรเลยไง”“แต่ของกนกต้องเป็นผู้หญิงแน่ ๆ”“ทำไมล่ะ?” กนกเลิกคิ้ว“ก็แกได้ของตลอดไง เนอะ มิว”“อืม...อาจจะ” กนกตอบแบบไม่แน่ใจนัก ก่อนจะหันไปมองรอบ ๆ อย่างครุ่นคิด

  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   อบอุ่น

    เป็นครั้งแรกที่นักศึกษาปีหนึ่งได้สัมผัสกับบรรยากาศของการสอบในมหาวิทยาลัยแตกต่างจากสมัยมัธยมโดยสิ้นเชิง ไม่มีอาจารย์มาเดินเตือน ไม่มีใครคอยกำกับให้เข้าห้องสอบเป็นแถวเป็นแนว ทุกอย่างขึ้นอยู่กับตัวเองล้วนๆกนกนั่งอยู่ที่โต๊ะอ่านหนังสือของห้องพัก หอพักนักศึกษาดูเงียบผิดปกติ เพราะทุกคนต่างจมอยู่กับกองตำรา บางคนท่องจำจนหัวหมุน บางคนยังนั่งกุมขมับเหมือนเพิ่งเริ่มต้นอ่านวันนี้ บรรยากาศของมหาวิทยาลัยที่เคยเต็มไปด้วยเสียงพูดคุยกลับเงียบลงเหลือเพียงเสียงพลิกกระดาษและเสียงถอนหายใจเบาๆ เขาก็เป็นหนึ่งในนั้นที่รู้สึกว่าชีวิตมหาวิทยาลัยให้เวลาอิสระมากกว่าสมัยมัธยม แต่นั่นก็หมายความว่าความรับผิดชอบเพิ่มขึ้นด้วยการสอบไม่ได้มีขอบเขตที่แน่นอนเหมือนเดิม และเขาต้องวางแผนการอ่านเองทั้งหมด ถึงจะพยายามแบ่งเวลา แต่สุดท้ายแล้ว เวลาว่างของเขาก็ถูกกลืนหายไปหมด จนไม่มีแม้แต่เวลาแตะนิยายเล่มโปรดที่เคยอ่านก่อนนอน คืนนี้เขาใช้เวลาทบทวนเนื้อหาไปเรื่อยๆ จนรู้สึกว่าตัวหนังสือเริ่มซ้อนกันไปมา เปลือกตาหนักอึ้ง แต่สมองยังคงวนเวียนคิดถึงเนื้อหาสอบ วันพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไรนะ... เช้านี้มหาว

  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   ของขวัญกำลังใจ

    ช่วงเวลาสอบกลางภาคกำลังจะเริ่มขึ้น ทำให้บรรยากาศของนักศึกษาใหม่ชั้นปีที่ 1 เต็มไปด้วยความกดดัน อาจารย์เร่งสอนเนื้อหาให้ทันก่อนสอบ ขณะที่นักศึกษาทุกคนต่างต้องเร่งอ่านหนังสือและทบทวนบทเรียนอย่างเคร่งเครียด ไม่เว้นแม้แต่กลุ่มของกนกเองที่ตอนนี้กำลังปรึกษากันว่าหลังจากทานอาหารกลางวันเสร็จแล้วพวกเขาจะไปอ่านหนังสือกันที่ไหนต่อ“หลังจากนี้คงต้องติวให้เยอะกว่าเดิม” กนกพูดขึ้นขณะที่พราวและมิวกำลังกดโทรศัทพ์เปิดดูแหล่งบันเทิงเพื่อผ่อนคลายจากความเคร่งเครียดที่เพิ่งผ่านกันมา“ก็คงงั้นแหละ เพราะบางคาบแกก็หลับในห้องไง กนก” พราวอมยิ้มและดูสนุกที่ได้แซวเพื่อนตัวเล็ก“ทำเป็นพูดนะพราว เหมือนแกไม่เคยหลับ”“ถึงชั้นจะหลับ แต่ก็ไม่ได้หลับเกือบทุกคาบเหมือนแก” ก่อนที่เพื่อนทั้งสองจะเถียงกันจะเกิดเสียงดังและอาจจะมีการโกรธเคืองเกิดขึ้น“ทั้งสองหยุดเลย เลิกทะเลาะกันได้แล้ว” มิวแทรกเข้ามาด้วยเสียงหนักแน่น“หลังจากกินข้าววันนี้ เราจะไปหาหนังสือที่ห้องสมุด ใครจะไปบ้าง?”“เราไป&rdquo

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status