หลังจากที่กนกได้รู้ความจริงว่า คนที่เขาเจอในฝันที่เหมือนจริงมาตลอดคือ พี่ภพ พี่ชายข้างบ้านที่เขาลืมไปแล้ว ความทรงจำในวัยเด็กของเขาหายไปเหมือนกระดาษหน้าหนึ่งที่ถูกฉีกทิ้ง ทุกครั้งที่พยายามนึกย้อนก็มักจบลงด้วยความสับสนจนปวดหัวแต่ถึงแม้เขาจะไม่เข้าใจว่าทำไมพี่ภพถึงโผล่มาหาเขาแบบนี้ หรือเหตุผลอะไรที่ทำให้พี่ภพก้าวเข้ามาในชีวิตเขาอีกครั้ง…แต่สิ่งหนึ่งที่เขาสัมผัสได้คือ ความอบอุ่น เสมอเมื่ออยู่ในอ้อมกอดนั้น
ช่วงนี้ พี่ภพมาหาเขาทุกเย็น เอาของอร่อยมาให้ กนกก็มักจะรับมันมาด้วยท่าทางเก้ๆ กังๆ อาจเป็นเพราะยังไม่คุ้นเคย หรือเพราะเขายังไม่เข้าใจสถานะของพวกเขาในตอนนี้
"เราแข็งแรงดีไหม?"
"ครับ"
"ช่วงนี้ใกล้สอบแล้วสินะ"
"ครับ"
"ขนมที่พี่ซื้อมาถูกใจไหม?"
"ครับ"
กนกตอบรับสั้นๆ ทุกคำถามโดยแทบไม่ได้คิดอะไร แต่แล้วคำพูดต่อมาของพี่ภพกลับทำให้เขาสะดุด
"เรานี่น่ารักเหมือนเมื่อก่อนเลยนะ"
กนกเผลอชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะรีบตอบ "คะ...ครับ?"
"แถมยังโตขึ้นกว่าเมื่อก่อนอีก"
"คะ...ครับ?"
"เป็นแฟนกันได้แล้วสิ"
"ห่ะ!?" กนกเผลอทำขนมในมือหล่นและสายตาที่เต็มไปด้วยความตกใจ "พี่ว่าอะไรนะ!"
"ก็หมายความตามนั้นแหละ" พี่ภพยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ "เราโตแล้ว เป็นแฟนกันได้แล้วสิ"
"ระ...เราเป็นแฟนกันได้ยังไง!? ผมกับพี่เป็นผู้ชายนะ แล้วผมก็..."
"แต่พี่ชอบเรานะ"
กนกเงียบกริบไปชั่วขณะ เขาไม่รู้ว่าควรรู้สึกยังไงดีหัวใจเต้นแรงขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว
"ฮะๆ เรานี่ตลกดีนะ" พี่ภพหัวเราะเบาๆ
"ไว้วันไหนพี่จะขอมาอ่านหนังสือที่ห้องเราด้วยได้ไหม?"
"อ่า..." กนกยังไม่ทันตั้งตัวกับบทสนทนานี้ แต่พอเห็นสายตาอ้อนๆของอีกฝ่ายที่มองมาแบบไม่ลดละใจเขาก็อ่อนลงโดยไม่รู้ตัว
"...ก็ได้"
"โอเค" พี่ภพยิ้มพอใจ
ก่อนจะจากไป พี่ภพขอเบอร์โทรศัพท์ของกนก กนกลังเลเล็กน้อยแต่สุดท้ายก็ยื่นโทรศัพท์ให้ พี่ภพกดเบอร์ของตัวเองลงไปไม่นานมือถือของกนกก็สั่นขึ้นมาพร้อมกับชื่อของพี่ภพที่ปรากฏบนหน้าจอ
"นี่เบอร์พี่ครับ...รับโทรศัพท์พี่ด้วยนะ"
กนกพยักหน้ารับเบาๆ "อะ...คะ ครับ"
"พี่ไปละ...อย่าอ่านนิยายเพลินจนลืมกินข้าวล่ะ"
มืออุ่นๆ ของพี่ภพวางลงบนศีรษะของเขาก่อนจะขยี้เบาๆอย่างเอ็นดู แล้วเดินกลับหอไปทิ้งให้กนกยืนอยู่ตรงนั้น...พร้อมกับหัวใจที่เต้นผิดจังหวะไปหมด
ตอนกลางวัน พี่ภพไลน์มาหาเขา บอกว่าวันนี้จะขอมานั่งอ่านหนังสือที่ห้อง เพราะช่วงนี้แถวหอของพี่เขามีการก่อสร้างเสียงดังจนไม่มีสมาธิ กนกอ่านข้อความแล้วชะงักไปเล็กน้อย เขาไม่รู้จะปฏิเสธยังไงเลยพิมพ์ตอบกลับไปสั้นๆ ว่า "ได้ครับ"
ก๊อก ๆ ๆ
เสียงเคาะประตูดังขึ้นตอนห้าโมงเย็นตรง กนกลุกไปเปิดประตูอย่างเก้ๆ กังๆ
"สวัสดีครับ"
"ทำอะไรอยู่หรอ?" พี่ภพถามพลางมองเข้าไปในห้อง
"เพิ่งกลับมาถึงหอ...กำลังจะเก็บของครับ"
"กินข้าวมายัง?"
"เอ่อ...กินมาแล้วครับ"
" พี่ซื้อของอร่อยมาด้วยนะ" พี่ภพยิ้มก่อนจะยกถุงอาหารขึ้นโชว์
กนกมองมันแวบหนึ่งก่อนจะพยักหน้า "พี่นั่งทานตรงโต๊ะอ่านหนังสือก็ได้นะครับเดี๋ยวผมเคลียร์โต๊ะให้"
เขารีบหยิบหนังสือกับของจุกจิกบนโต๊ะออกไปไว้ที่เตียง เปิดพื้นที่ให้พี่ภพได้วางกล่องข้าวลง
"วันนี้เรียนเหนื่อยไหมครับ?"
"ก็...เหนื่อยครับ งานเยอะ ใกล้สอบแล้วด้วย"
"สู้ๆ นะครับ" พี่ภพเงยหน้าขึ้นมาพูด พร้อมกับรอยยิ้มหวานที่ส่งมาให้
กนกเผลอหลบตาไปทางอื่น ใจเต้นแปลกๆ
... พอได้สังเกตใกล้ๆ พี่ภพก็ดูดีไม่เบา เขาเลยเบี่ยงความสนใจตัวเองด้วยการหันไปจัดของต่อ ขณะที่พี่ภพนั่งกินข้าวเงียบๆ เมื่อพี่ภพทานเสร็จ ก็นั่งเปิดหนังสืออ่าน กนกเองก็รู้สึกเหนียวตัวจากการเดินทางทั้งวัน จึงหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วเดินเข้าห้องน้ำ
พอปิดประตู เขาก็ชะงักไปนิดหน่อย...
เราไว้ใจเขาขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ...?
เขาเพิ่งเจอพี่ภพแค่ไม่กี่อาทิตย์ แต่กลับไม่กังวลเลยว่าอีกฝ่ายจะขโมยของหรือทำอะไรไม่ดี
…แปลกจริงๆ
กนกถอนหายใจเบาๆ สะบัดหัวไล่ความคิดฟุ้งซ่านออกไป ก่อนจะเปิดน้ำและอาบไปอย่างเงียบๆ
เสียงพลิกหน้ากระดาษและขีดเขียนของปากกาดังแผ่วเบา ท่ามกลางความเงียบของห้อง หลังจากอาบน้ำเสร็จ กนกเดินออกมาเห็นพี่ภพยังคงก้มหน้าจดอะไรบางอย่างลงในสมุดสีหน้ามุ่งมั่นของเขาทำให้กนกเผลอยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว
คืนนี้กนกเลือกนั่งอ่านหนังสือที่เตียง หวังว่าจะอ่านได้สักบทก่อนที่เปลือกตาจะหนักลง เวลาล่วงเลยไปจนถึงสี่ทุ่ม พี่ภพวางปากกาลง ลุกขึ้นบิดขี้เกียจเล็กน้อยท่าทางเหมือนเตรียมจะกลับ
"พี่ว่าจะกลับแล้วล่ะ สี่ทุ่มกว่าแล้ว"
"ครับ..." กนกตอบสั้นๆ
พี่ภพเก็บของ ก่อนจะเดินมาหาเขาที่เตียงทว่าจู่ๆ สายตาของอีกฝ่ายก็หยุดลงที่บางอย่าง เขาเอื้อมมือไปหยิบมันขึ้นมา
ตุ๊กตาหมีสีเหลืองตัวนั้นตัวนั้น...
"ไม่...ผมไม่อยากเห็นมัน!" กนกเบี่ยงหน้าหนี พยายามไม่มอง
พี่ภพชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะก้มลงมองตุ๊กตาในมือ "แต่เราเอาไว้ที่หัวนอนเลยนะ" เขาพูดเสียงเบา ค่อยๆก้าวเข้ามาใกล้ กนกกำมือแน่นหัวใจเต้นแรงขึ้นอย่างควบคุมไม่อยู่ เขาไม่อยากมองมัน... ถ้ามองมันแล้วเขาจะร้องไห้ ภพรับรู้ได้ถึงความสั่นไหวของกนก จึงค่อยๆ วางตุ๊กตาลงก่อนจะขยับเข้ามานั่งข้างๆ
แขนแข็งแกร่งโอบกอดเขาอย่างอ่อนโยน สัมผัสที่ไม่คาดคิดทำให้กนกเบิกตากว้างและพยายามดันอีกฝ่ายออก ทว่าพี่ภพเพียงแค่ลูบหลังเขาเบาๆ กระซิบข้างหูด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
"ไม่ต้องร้องแล้วนะ... พี่จะปกป้องเราเอง จากนี้และตลอดไป"
คำพูดนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าลูบหลังปลอบโยนไม่หยุด ถึงแม้จะไม่เข้าใจว่าทำไมถึงรู้สึกเช่นนี้แต่ในอ้อมกอดนี้... มีเพียงความอบอุ่นที่โอบล้อม น้ำตาหยดลงมาเงียบๆความหวาดกลัวค่อยๆจางลง
"เด็กดี ไม่ต้องร้องนะครับ... จากนี้ พี่จะไม่หายไปไหนแล้ว"
พี่ภพพูดเสียงแผ่วพรางพลิกใบหน้าของกนกให้หันมาสบตา ในดวงตาที่คลอไปด้วยน้ำตานั้นเต็มไปด้วยความสับสน
"ถ้าสอบเสร็จแล้ว... กลับบ้านกันนะ แล้วพี่จะเล่าให้ฟังทุกอย่าง"
เขาเอื้อมมือซับน้ำตาที่เปื้อนแก้มใส ก่อนจะกดจูบลงบนหน้าผากเบาๆ แล้วเลื่อนไปแตะลงบนแก้มเปียกน้ำตา
ริมฝีปากของเขาแนบลงมาที่ปากบางของน้อง...
กนกเบิกตากว้างขึ้นเล็กน้อย หัวใจเต้นแรงขึ้นอย่างห้ามไม่อยู่
"พี่จะไม่ทำร้ายเรา... ขอให้เราเชื่อใจพี่นะ ได้ไหมครับ?"
กนกเม้มปาก คำว่า "ครับ" หลุดออกมาโดยไม่รู้ตัว
เพียงเท่านั้น พี่ภพก็โน้มลงมาแนบจูบที่อบอุ่นอีกครั้ง ค่อยๆปลอบโยนเขาอย่างแผ่วเบา
แม้ตอนนี้กนกจะจำเขาไม่ได้
แต่เขา... ไม่มีวันลืมน้องได้
"เฮ้ย ไอ้ภพ มึงกลับบ้านกับเด็กนั่นทุกวันเลยเหรอวะ"เสียงแซวของเพื่อนในห้องดังขึ้น ขณะที่ภพกำลังนั่งเขียนอะไรบางอย่างอยู่ เขาเงยหน้าขึ้นมามองอย่างงุนงง"ทำไมหรอ?" เพื่อนยักไหล่ยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนจะว่าต่อ "ก็น้องชายมึงก็ไม่ใช่... มึงลองพามันไปบ้านมึงดิ๊"ภพหลุดหัวเราะเบาๆ พลางส่ายหน้า "มึงอยากให้กนกไปบ้านกูจริงดิ เดี๋ยวพ่อกูก็อาละวาดบ้านแตกหรอก""แม่มึงก็เก่งเนอะ อยู่กับพ่อมึงได้""แล้วกูไม่เก่งหรอวะที่อยู่กับพ่อแม่ได้""ไอ้เหี้ย มึงเป็นลูกมึงก็ต้องอยู่กับพ่อแม่ป่ะวะ""มั้ง..."เสียงหัวเราะเบาๆ ปะปนกับการพูดคุยเล่นกันในห้องเรียนแต่ภพกลับไม่ได้สนใจนัก เขาเพียงแต่เงียบลงเมื่อนึกถึงกนกเด็กน้อยที่มักจะรอเขากลับจากโรงเรียนทุกวัน มันเป็นเรื่องจริง... เพราะเส้นทางที่เขากลับบ้านผ่านสำนักงานสาธารณสุขตำบลพอดี ทุกเย็นน้าเพชรจะพากนกมาทำงานด้วย และกนกก็มักจะมาเล่นอยู่ที่สวนข้างสำนักงานรอให้ภพพากลับบ้านด้วยกัน มันเป็นแบบนี้มาเกือบสองเดือนแล้ว ตั้งแต่ที่พวกเขารู้จักกัน"พี่ภพ..."กนกน้อยจับเสื้อภพเขย่าเบาๆ ขณะที่พวกเขากำ
"เราจำตุ๊กตาตัวนี้ได้ไหม..."พี่ภพค่อยๆ หยิบตุ๊กตาตัวนั้นมาให้กนก ตุ๊กตาหมีสีเหลืองตัวเดิมผ้าขนหนูที่คลุมอยู่บนตักร่วงลงพื้น เขาหันหน้าหนีปิดตาแน่นไม่กล้ามองสิ่งที่ทำให้เขาหวาดกลัว มันเป็นอะไรที่เขาอธิบายไม่ได้แค่เห็นภาพนั้นกล้ามเนื้อก็เริ่มเกร็งหัวใจเต้นแรง และเริ่มหายใจหอบ“น้องกนก...” พี่ภพเรียกเบาๆ ด้วยน้ำเสียงกังวล กนกไม่ตอบจนพี่ภพรีบขึ้นไปบนเตียง โอบกอดน้องไว้แน่น“เราไม่ต้องกลัว...เราจะปลอดภัย”“ผะ...ผม...ผมไม่อยากเห็นมัน...” หอบถี่และหนักหน่วง สะท้อนถึงความหวาดหวั่นที่ก่อตัวขึ้นในอก มือที่กำเสื้อของพี่ภพไว้สั่นระริก ความอบอุ่นจากร่างกายของอีกฝ่ายเป็นสิ่งเดียวที่ช่วยยึดเหนี่ยวเขาไว้ในตอนนี้“เราจะไม่เป็นอะไร...พี่จะอยู่ข้างเรา...จะไม่มีใครทำอะไรเรา” เสียงกระซิบของพี่ภพนุ่มนวลและอบอุ่น ราวกับสายลมอ่อนที่พัดผ่านใจ เขาเผลอหลับตาลงปล่อยให้ถ้อยคำเหล่านั้นแทรกซึมเข้ามาอย่างแผ่วเบา มันเหมือนมีมนต์สะกดค่อยๆปลดเปลื้องความตึงเครียดในอกไปทีละนิด ลมหายใจที่เ
ผมพยายามไม่รอเขา...แต่ก็อดไม่ได้ที่จะเหลือบมองนาฬิกาบนมือถือทุกๆ สิบนาที ไม่ดูหรอก...ก็ตั้งใจอ่านหนังสือนิยายอยู่นะ วันนี้เป็นวันพักผ่อนหลังสอบ ควรจะผ่อนคลายสักหน่อย แต่ไม่รู้ทำไม ตัวหนังสือที่เคยสนุกกลับกลายเป็นแค่ตัวอักษรที่เรียงกันไม่มีความหมาย หรือว่าผมกำลัง...ก็อกๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้น ผมรีบวิ่งไปเปิดประตูทันที ใจเต้นแรงเหมือนเด็กน้อยที่รอคอยของขวัญ แต่คนที่ยืนอยู่ตรงนั้นกลับไม่ใช่พี่ภพ..."คนเก่ง...ได้ท็อปเลยดิ ยังอ่านหนังสือทั้งที่วันนี้ก็วันศุกร์" มิวยืนอยู่หน้าประตู ยิ้มกว้างพร้อมกับชีทที่ถืออยู่ในมือผมพยักหน้าเล็กน้อย พยายามเก็บความรู้สึกผิดหวังไว้ในใจ "ทำไมวันนี้มาหาเรา...ลืมอะไรหรือเปล่า""ลืม...ลืมชีทที่เราให้แกวันติวไว้""อ้าว แล้วไม้โทรมาบอก" ผมถามด้วยน้ำเสียงที่พยายามให้เป็นปกติ"ก็ห้องอยู่แค่ชั้นเดียว เดินมาหากันก็ได้" มิวยักไหล่แล้วก็ส่งสายตามองผมอย่างสนใจ"...ไม่ใช่หรอ หรือแกมีอะไร""มีอะไรล่ะ ไม่มี"มิวหัวเราะเบาๆ "แล้วนี่ไม่กลัวแล้วหรอ...พี่ชายข้างบ้านยังมาหาอยู่ไหม""ก็มา
ช่วงสอบปลายภาค พี่ภพแวะมาหาเขาเกือบทุกวัน บางวันก็ขอแวะมานอนด้วยโดยอ้างว่า "หอพี่แอร์เสีย" หรือ "อยากติวหนังสือเป็นเพื่อน" แต่กนกรู้ดีว่ามันเป็นเพียงข้ออ้างเพราะสุดท้ายแล้วพี่ภพก็ไม่ได้แตะหนังสือสักเท่าไหร่ มีแต่เขาส่วนพี่ภพก็นอนกลิ้งเล่นอยู่ข้างๆแรกๆ กนกยังรู้สึกเกร็งเวลาถูกพี่ภพจ้องมอง ทุกครั้งที่เงยหน้าขึ้นจากหนังสือเขามักจะพบสายตาอบอุ่นคู่นั้นมองอยู่เสมอเป็นสายตาที่ทำให้ใจเต้นแปลกๆราวกับว่าพี่ภพเห็นบางสิ่งในตัวเขาที่แม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่เข้าใจ แต่เมื่อเวลาผ่านไป... ความรู้สึกพวกนั้นก็ค่อยๆจางหาย สายตาที่เคยหลบเลี่ยงหรืออาการประหม่าเมื่อต้องอยู่ใกล้พี่ภพเริ่มหายไปเช่นกันแทนที่ด้วย...ความสบายใจการมีพี่ภพอยู่ด้วยกลายเป็นเรื่องปกติของชีวิตประจำวัน ห้องที่เคยเงียบเหงาก็กลับมีเสียงพูดคุย เสียงหัวเราะและกลิ่นหอมของขนมที่พี่ภพชอบซื้อมาให้หัวใจที่เคยปิดกั้นเริ่มเปิดออกทีละนิด"ไงครับคนเก่ง วันนี้เป็นไงบ้าง เหนื่อยไหม?"เสียงทุ้มที่ฟังแล้วอบอุ่นเสมอดังขึ้นจากด้านหลัง กนกเงยหน้าขึ้นมองก่อนจะถอนหายใจยาว
ช่วงเวลาการสอบปลายภาคของปีหนึ่งผ่านไปอย่างแสนเหนื่อย เขาอดนอนมาหลายคืนเพื่ออ่านหนังสือทบทวนเนื้อหา ร่างกายอ่อนล้า แต่จิตใจกลับว้าวุ่นยิ่งกว่าเดิมหลังจากที่รู้ว่าคนแปลกหน้าที่เข้ามาในชีวิตไม่ใช่ผี และยังเป็นคนรู้จักกับแม่ ความหนักอึ้งในใจกลับเบาลงและรู้สึกปลอดภัยขึ้นโดยไม่รู้ตัวแต่สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจยิ่งกว่านั้นคือ พี่ภพยังมาหาเขาเป็นประจำบางวันมาตอนบ่าย พร้อมกับขนมของว่างวางไว้บนโต๊ะเรียนของเขาบางวันมาตอนเย็น ยืนรออยู่หน้าหอพักด้วยสีหน้าเรียบเฉยแต่แววตากลับดูอ่อนโยน กนกพยายามปฏิเสธแต่สุดท้ายก็ต้องยอมรับ เพราะกลิ่นหอมๆ นั้นทำให้ท้องร้องทุกทีและบางคืน...ชายคนนั้นมาเพียงเพื่อบอก "ฝันดีนะ"เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นพร้อมมืออุ่นที่ลูบเบาๆ บนศีรษะ กนกมักจ้องมองอีกฝ่ายด้วยความไม่เข้าใจ ทำไมถึงดูแลเขาขนาดนี้ แต่พอรู้ตัวอีกที หัวใจของเขาก็ไม่เคยรู้สึกโดดเดี่ยวเหมือนเมื่อก่อนแล้วแต่ที่ทำให้สับสนยิ่งกว่าคือ บางคืน...เขากลับเข้ามากอด อ้อมแขนนั้นแน่นหนา แข
หลังจากที่กนกได้รู้ความจริงว่า คนที่เขาเจอในฝันที่เหมือนจริงมาตลอดคือ พี่ภพ พี่ชายข้างบ้านที่เขาลืมไปแล้ว ความทรงจำในวัยเด็กของเขาหายไปเหมือนกระดาษหน้าหนึ่งที่ถูกฉีกทิ้ง ทุกครั้งที่พยายามนึกย้อนก็มักจบลงด้วยความสับสนจนปวดหัวแต่ถึงแม้เขาจะไม่เข้าใจว่าทำไมพี่ภพถึงโผล่มาหาเขาแบบนี้ หรือเหตุผลอะไรที่ทำให้พี่ภพก้าวเข้ามาในชีวิตเขาอีกครั้ง…แต่สิ่งหนึ่งที่เขาสัมผัสได้คือ ความอบอุ่น เสมอเมื่ออยู่ในอ้อมกอดนั้นช่วงนี้ พี่ภพมาหาเขาทุกเย็น เอาของอร่อยมาให้ กนกก็มักจะรับมันมาด้วยท่าทางเก้ๆ กังๆ อาจเป็นเพราะยังไม่คุ้นเคย หรือเพราะเขายังไม่เข้าใจสถานะของพวกเขาในตอนนี้"เราแข็งแรงดีไหม?""ครับ""ช่วงนี้ใกล้สอบแล้วสินะ""ครับ""ขนมที่พี่ซื้อมาถูกใจไหม?""ครับ"กนกตอบรับสั้นๆ ทุกคำถามโดยแทบไม่ได้คิดอะไร แต่แล้วคำพูดต่อมาของพี่ภพกลับทำให้เขาสะดุด"เรานี่น่ารักเหมือนเมื่อก่อนเลยนะ"กนกเผลอชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะรีบตอบ "คะ...ครับ?"
มิวมาพักกับกนกได้ราวหนึ่งสัปดาห์ ก่อนจะต้องกลับไปอ่านหนังสือและติวให้เพื่อนกลุ่มอื่น คืนนี้จึงเป็นคืนแรกในรอบหลายวันที่กนกต้องนอนคนเดียวอีกครั้ง เขาปิดไฟและพลิกตัวซุกผ้าห่ม ตั้งใจจะข่มตานอน แต่แล้ว...แกร๊ก!เสียงของลูกบิดประตูที่หมุนเบาๆ ทำให้ร่างทั้งร่างแข็งค้างหัวใจเขาเต้นระรัวพร้อมลมหายใจที่ติดขัด ราวกับถูกพันธนาการด้วยความกลัวที่บีบรัดแน่นจนแทบหายใจไม่ออกใคร?น้ำตาค่อยๆไหลออกมาพร้อมกับร่างกายที่เริ่มสั่นสะท้าน สติเริ่มตีกันยุ่งเหยิง เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าใกล้เข้ามาใกล้ๆจนกระทั่ง...อ้อมแขนอบอุ่นโอบกอดเขาไว้แน่น"ไม่ต้องกลัวนะ..." เสียงทุ้มกระซิบข้างหูนั้นแผ่วเบาและมั่นคง"ไม่มีใครทำร้ายกนกได้อีกแล้ว" กลิ่นหอมอ่อนๆ ลอยมาจากเสื้อตัวหนาของชายแปลกหน้า อ้อมแขนที่กอดแน่นนั้นให้ความรู้สึกคุ้นเคยจนน่าแปลกใจ กนกหอบหายใจหนักขึ้นและร่างกายยังคงสั่นสะท้านแต่สัมผัสจากคนตรงหน้ากลับช่วยให้หัวใจที่เต้นกระหน่ำเริ่มสงบลงทีละนิด"พี่ขอโทษ...พี่ขอโทษสำหรับท
วันนี้กนกเริ่มรู้สึกว่า…บางที คนที่ตามเขาอาจไม่ใช่ผีอย่างที่เขาคิด สายตาของใครบางคนเหมือนเฝ้าจับจ้องเขาจากที่ไกลๆ มันไม่ได้เป็นเพียงความรู้สึกวูบไหวหรือภาพหลอนที่เกิดจากความหวาดระแวง แต่มันชัดเจนจนทำให้ขนที่ต้นคอลุกชัน"หืม…มีอะไรเหรอ?" พราวถามขึ้นระหว่างกำลังตักข้าวเข้าปากในโรงอาหารกนกขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะส่ายหน้า "เปล่าๆ ไม่มีอะไรหรอก" พราวเหลือบตามองอย่างสงสัยแต่ก็ไม่ได้เซ้าซี้ต่อช่วงบ่าย ขณะเดินไปห้องแล็บ มิวเข้ามากระซิบที่ข้างหูพราว เสียงของเขาเบาราวกับไม่ต้องการให้ใครได้ยิน พราวชะงักไปเล็กน้อย สีหน้าตกใจแต่ก็พยายามเก็บอาการแล้วทั้งสองค่อยๆลดความเร็วในการเดินราวกับกำลังจับตาดูอะไรบางอย่างตรงข้ามกับพวกเขา กนกกลับเดินนำหน้าอย่างสบายใจ หูฟังเสียบอยู่กับหู ขยับปากร้องเพลงเบาๆ โดยไม่รู้ตัวเลยว่ามีสายตาคู่หนึ่งจับจ้องอยู่และมันก็เป็นอย่างที่คิด...เมื่อมิวกับพราวถอยห่างออกมา ก็เห็นชายคนหนึ่งที่ไม่เคยพบมาก่อน สวมหมวกและผ้าปิดปาก เดินลอบเลียบเลาะตามกนกอย่างแนบเนียน ทว่า…มีบางอย่างผิดปกติวันนี้เขาใส่เสื้อแขนยาว
ห้วงความฝันเด็กชายตัวเล็กพยายามยื้อแย่งตุ๊กตาในอ้อมปากของเจ้าหมาจอมดื้อ"อื้ออ... อย่าเอาของน้อง! แงงง!"เขาร้องไห้สะอึกสะอื้น ดึงสุดแรงเกิด แต่แรงเด็กน้อยสู้หมาตัวโตไม่ไหว ตุ๊กตาหมีสีเหลืองยังคงถูกคาบแน่นในปากของมัน"แง... แงงง!" เสียงร้องดังลั่นไปทั่วสนามหญ้า จนเด็กอีกคนวิ่งเข้ามาพร้อมกับไม้ในมือ"ไอ้หมา! ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ!"...ฟาด!... ฟาด!เจ้าหมาสะดุ้งเฮือก ส่ายหัวไปมา ก่อนจะทนความเจ็บไม่ไหว ยอมคลายตุ๊กตาหมีสีเหลืองออกจากปาก"เย้ๆๆ!" เด็กน้อยกระโดดดีใจ เสียงหัวเราะสดใสดังขึ้น พี่ชายใจดีที่ช่วยปกป้องเขาหยิบตุ๊กตาขึ้นมา"อันนี้ของเราสินะ แต่มันเปื้อนหมดเลย""ไม่เป็นไรครับ... หมูเหลืองไปซักได้"เด็กชายตัวน้อยยิ้มกว้าง ดวงตาเป็นประกาย ก่อนภาพทุกอย่างจะเลือนหายไป…...วี๊วอ! วี๊วอ!เสียงไซเรนรถพยาบาลดังระงมไปทั่ว ความวุ่นวาย เสียงตะโกนของเจ้าหน้าที่ เสียงวิทยุสื่อสารแทรกเป็นระยะมือของเขาเปื้อนเลือด...เลือด