Home / วาย / เขื่อนขุนเขา / เขื่อนขุนเขา 14

Share

เขื่อนขุนเขา 14

Author: Meithimm
last update Last Updated: 2025-05-09 15:30:53

หนึ่งเดือนต่อมา

ร่างกายของขุนเขาฟื้นตัวเร็วกว่าที่แพทย์คาดการณ์ไว้มาก แผลผ่าตัดสมานดี กล้ามเนื้อเริ่มกลับมาแข็งแรง แม้ยังต้องระวังแผลลึกกับอาการอ่อนเพลีย แต่หมออนุญาตให้กลับบ้านได้แล้วในที่สุด

เช้านั้น ขุนแผนในชุดสูทสีเข้มเรียบหรู ยืนรอรับน้องชายที่หน้าโรงพยาบาลเช่นเคย รอยยิ้มอ่อนโยนแตะมุมปาก ร่างสูงโปร่งผึ่งผายสะท้อนแสงแดดอ่อนของฤดูหนาว

ขุนเขาเดินออกมาช้า ๆ ด้วยท่าทางสงบในเสื้อเชิ้ตบางคลุมทับด้วยคาร์ดิแกนไหมสีอ่อน ใบหน้าหวานซีดจางแต่มีรอยสีชมพูระเรื่อกลับคืนมาเล็กน้อย

“กลับบ้านกันนะ” เสียงนุ่มของขุนแผนเอ่ย ขณะยื่นมือมาช่วยประคองน้อง

รถยนต์เบนท์ลีย์สีดำเงาวาวแล่นผ่านถนนส่วนตัวที่ทอดยาวเกือบหนึ่งกิโลเมตร สองข้างทางเป็นแนวต้นสนและไม้ประดับนับสิบสายพันธุ์ที่ตัดแต่งอย่างประณีต แดดยามสายกระทบยอดไม้เป็นประกายระยิบระยับ

บ้านหลังใหญ่…ไม่สิ คฤหาสน์ 4 ชั้นตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้า ตัวอาคารสไตล์นีโอคลาสสิก ผนังหินอ่อนสีขาวอมเทา แกะสลักลวดลายงดงาม ซุ้มโค้งและเสาคอรินเธียนเรียงรายอย่างสง่างาม รอบบ้านมีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ น้ำใสจนเห็นพื้นกระเบื้องโมเสก สวนหย่อมกว้างมีศาลาไม้สักและเส้นทางเดินหินอ่อนวนรอบ

บ้านแม่บ้านและคนรถแยกออกไปด้านหลัง ทว่าก็ใหญ่โตไม่แพ้กัน โรงจอดรถติดแอร์จอดรถหรูเรียงรายทั้งโรลส์-รอยซ์ พอร์เช่ และเฟอร์รารี่หลากสี

เมื่อรถจอดสนิทที่หน้าประตูใหญ่ แม่บ้านนับสิบในชุดยูนิฟอร์มสุภาพก็ยืนเรียงแถวต้อนรับ รอยยิ้มทั้งน้ำตาแต่งแต้มบนใบหน้าของหลายคน

ดวงตาของขุนเขาเบิกโตเล็กน้อยเมื่อก้าวลงจากรถ

แต่สิ่งที่ทำให้บรรยากาศเต็มไปด้วยความซาบซึ้งก็คือ…

เข็มกลัดเงินบริเวณหน้าท้องของเขา — เครื่องหมายพิเศษที่สกุลนี้ใช้ระบุตัวตนของคุณหนูผู้สาบสูญเมื่อสิบปีก่อน

แม่บ้านบางคนถึงกับสะอื้นเบา ๆ หลายคนยิ้มทั้งน้ำตา ดวงตาเปื้อนความคิดถึงและดีใจจนกลั้นไม่อยู่

“คุณหนูกลับมาแล้ว…”

เสียงกระซิบเบา ๆ ดังขึ้นระคนกัน

ขุนแผนยิ้มบาง หันไปเอ่ยถาม

“ห้องเรียบร้อยใช่ไหมครับ?”

แม่บ้านคนหนึ่งก้มศีรษะยิ้มแย้ม “เรียบร้อยค่ะคุณชาย ทุกอย่างจัดเตรียมไว้พร้อมแล้วค่ะ”

ขุนเขายืนมองทุกอย่างตะลึงงัน

บ้านนี้… พี่ชายของเขา… ร่ำรวยขนาดนี้เลยเหรอ?

วันก่อนเขายังแกล้งถามเล่น ๆ อยู่เลย

“พี่ทำงานอะไร ทำไมดูว่างจัง?”

ขุนแผนเพียงยิ้มแล้วตอบสบาย ๆ

“ไม่ต้องทำงานก็ใช้เงินได้ยันตาย”

ขุนเขานึกว่าเขาแค่พูดเล่น แต่วันนี้ทุกอย่างตรงหน้าพิสูจน์ว่าเขาไม่ได้ล้อเล่นแม้แต่นิดเดียว

บริษัทยักษ์ใหญ่ 19 แห่ง ทั้งในประเทศและต่างประเทศอยู่ภายใต้การดูแลของขุนแผน แม้เจ้าตัวจะเข้าไปดูแค่ประปราย ตรวจเช็คบ้างตามหน้าที่ แต่รายได้มหาศาลก็ไหลเข้ามาไม่ขาดสาย

ขุนแผนหันมายิ้มอ่อนโยน “อยู่ที่นี่ได้ตลอดนะ ตลอดชีวิตยังได้”

ขุนเขายิ้มเขิน ๆ แหะ ๆ ก่อนถูกพี่ชายพาเข้าตัวบ้าน และบังคับให้นั่งลิฟต์ขึ้นไปยังชั้นสองเพื่อไม่ให้ร่างกายเหนื่อยเกินไป

คนที่พาขุนเขาขึ้นลิฟต์คือ แม่นมเพ็ญ หญิงวัยกลางคนใจดี ใบหน้าอบอุ่นที่ขุนเขาจำได้ราง ๆ — แม่นมของเขาและขุนแผนก่อนเขาจะถูกลักพาตัวไป

เมื่อเข้าห้องนอน เสียงเปิดประตูก็เผยให้เห็นห้องกว้างที่ตกแต่งแบบยุโรปสุดหรู ราวกับห้องเจ้าชายในเทพนิยาย ผ้าม่านกำมะหยี่สีกรมท่า เฟอร์นิเจอร์ไม้แกะสลัก เคาน์เตอร์ทองเหลืองอ่อน เตียงหลังใหญ่ปูผ้าลินินเนื้อดี โคมไฟระย้าคริสตัลพร่างพราว

แม่นมเพ็ญยิ้มอย่างภูมิใจ

“ชอบไหมคะคุณหนู?”

ขุนเขาพยักหน้าเบา ๆ ดวงตาเป็นประกาย

“ชอบครับ… ขอบคุณนะครับ แม่นม”

แม่นมเพ็ญยิ้มกริ่ม น้ำตาซึมด้วยความปลื้มใจ ก่อนขุนเขาจะเอ่ยเสียงเบา

“แม่นม เล่าเรื่องที่บ้านให้ผมฟังหน่อยสิครับ ผมอยากรู้…”

แม่นมเพ็ญยิ้มอ่อน ก่อนจะค่อย ๆ เล่าเรื่องราวตั้งแต่สมัยคุณชายคุณหญิงจีบกัน แต่งงาน จนมีขุนแผนและขุนเขา เสียงของเธอนุ่มนวล อบอุ่น

เล่าต่อไปถึงวันที่ทั้งสองท่านจากไปอย่างสงบ และขุนแผนรับช่วงดูแลธุรกิจต่อ

“บ้านเรา… กับอีกบ้านหนึ่ง ร่วมกันทำสัมปทานรังนกค่ะ ปีนี้ยอดขายดีจนซื้อรถเพิ่มได้อีกสิบคันแน่ะค่ะ” แม่นมเพ็ญพูดด้วยน้ำเสียงภูมิใจ

แต่ทันใดนั้น… คำว่า “สัมปทานรังนก” ก็ทำให้ร่างบางของขุนเขาชะงัก

ดวงตากลมสวยเบิกกว้าง ความรู้สึกเย็นเฉียบแล่นปราดผ่านสันหลัง เหมือนกระแสไฟฟ้าวาบ

หัวใจเต้นโครมคราม ใบหน้าซีดเผือด มือขาวซีดสั่นเล็กน้อย

จี๊ดดด…

อาการปวดหัวแล่นแปลบจนขุนเขาเผลอเอามือกุมขมับ หายใจติดขัด โลกหมุนคว้างไปชั่วขณะ

แม่นมเพ็ญตกใจ รีบเข้ามาประคองนุ่มนวล

“คุณหนู! เป็นอะไรไปคะ ใจเย็น ๆ นะคะ”

“นอนพักก่อนเถอะ ตื่นมานมจะนำอาหารมาให้นะคะ”

ขุนเขาพยักหน้าอ่อนแรง ยอมปล่อยตัวให้นอนลงบนเตียงหนานุ่ม ไม่อยากฝืนอะไรอีกเพราะศีรษะปวดตุบ ๆ หนักเกินทน

ขณะที่เปลือกตาค่อย ๆ ปิดลง… ภาพบางอย่างแวบผ่านเข้ามาในหัวของเขา ทะเลคลื่นซัด โขดหินสูงใหญ่ ถ้ำมืด… และเสียงนกแหลม ๆ นับพันตัวโอบล้อม — ก่อนทุกอย่างจะดับวูบลง

บนโต๊ะประชุมหรูหราในอาคารสำนักงานสูงระฟ้ากลางกรุงเทพฯ ชายหนุ่มรูปร่างสูงสง่า ใบหน้าเย็นขรึมในชุดสูทเข้ารูป กำลังนั่งอยู่หัวโต๊ะ ท่ามกลางเหล่าผู้บริหารและทีมงานจำนวนหนึ่ง

“ยอดขายรังนกไตรมาสนี้เติบโตขึ้นเกือบสองเท่า” เสียงเลขาคนสนิทเอ่ยรายงาน ขณะวางแฟ้มเอกสารตรงหน้าเขื่อน

ชายหนุ่มพยักหน้าน้อยๆ สายตาเรียบเฉย เขาไม่ได้แปลกใจนัก เพราะสัมปทานรังนกที่เขาและครอบครัวดูแลมานาน เพิ่งกลับมาอยู่ในสภาพสมบูรณ์หลังจากจัดการเรื่องข้อพิพาทต่างๆ สำเร็จ

แต่ถึงผลประกอบการจะดีแค่ไหน ใจของเขื่อนกลับไม่ได้อยู่กับตัวเลขพวกนี้เลย—

หลังจากได้รับข่าวคราวว่าอาจพบเบาะแสของขุนเขา ที่หายตัวไปนับเดือน เขื่อนก็ตัดสินใจย้ายฐานการทำงานหลักจากเกาะปันรักและหมู่เกาะโดยรอบที่เขาคุมสัมปทานเอง มาขึ้นฝั่งอย่างถาวร เขามอบหมายให้ลูกน้องคนสนิทบริหารกิจการบนเกาะต่อแทน

“เรื่องงานบนเกาะ ฉันฝากนายดูแลเต็มตัว” เขื่อนเคยบอกลูกน้องคนสนิทเมื่อไม่กี่เดือนก่อน “ฉันต้องโฟกัสเรื่องของครอบครัว”

และวันนี้ เขื่อนนั่งอยู่ในสำนักงานของบริษัทแม่,สำนักงานที่เคยปล่อยว่างไว้หลายปี เพราะเขามุ่งมั่นทำงานกลางทะเลเพียงลำพัง ทว่าในที่สุด เขาก็กลับมา

ในใจมีเพียงหนึ่งเป้าหมาย — คนรักที่เขาตามหาไม่เคยหยุด

เสียงเลขาเอ่ยถามเบาๆ

“คุณเขื่อนจะให้ดิฉันส่งรายงานนี้ไปให้คุณขุนแผนด้วยเลยไหมคะ?”

เขื่อนเงยหน้าขึ้นแผ่วเบา สายตานิ่งเฉียบ

“อืม ส่งไป” น้ำเสียงทุ้มต่ำแต่หนักแน่น

เขื่อนหลับตาลงชั่วครู่

ภาพใบหน้าคนรักที่ยิ้มให้กับตนยามอยู่ที่เกาะ ในความทรงจำรอยยิ้มนั้น…ยังแจ่มชัดไม่จางหาย

‘อีกนานแค่ไหน…..เราถึงจะได้พบกันอีก’

ชายหนุ่มลืมตาขึ้น แววตาเด็ดเดี่ยวยิ่งกว่าเดิม

*

ภายในร้านเหล้าแห่งหนึ่ง — ชั้นสองของร้านแต่งแบบลอฟต์ ผนังอิฐเปลือยกับไฟวอร์มโทนสลัว คนไม่หนาแน่นมากนัก เสียงดนตรีแจ๊ซแผ่วเบาคลอไปกับเสียงแก้วกระทบกัน

ศักดิ์ ทิวา แม็กซ์ และเจริญชัย สี่เพื่อนสนิทล้อมวงกันอยู่โต๊ะไม้กลม ตรงมุมกระจกบานใหญ่ที่มองเห็นวิวถนนยามค่ำ

เหล้าวิสกี้ในขวดแก้วใสพร่องลงไปเกือบครึ่ง

บทสนทนาเรื่องธุรกิจวนเวียนตั้งแต่เรื่องสัมปทานรังนก ไปจนถึงแนวโน้มเศรษฐกิจระยะถัดไป ท่ามกลางเสียงหัวเราะเบาๆ และคำแซวสไตล์เพื่อนเก่า

มีเพียงสหัสวรรษ หรือที่พวกมันเรียกกันติดปากว่า ‘เขื่อน’ นั่งนิ่ง ไม่ร่วมวงสนทนา ใบหน้าหล่อคมในเสื้อเชิ้ตขาวปล่อยกระดุมสองเม็ด สาบเสื้อคลุมกางเกงสแลคดำ ท่อนแขนเสื้อพับลวกๆ เผยเส้นเลือดจางๆ บนท่อนแขน

เขื่อนเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง ใจลอยไปไกลแสนไกล แก้วในมือหมุนเบาๆ จนน้ำแข็งกระทบขอบแก้วเสียงแผ่ว

ทิวาที่นั่งข้างๆ เหลือบมองแล้วขมวดคิ้ว ก่อนจะยื่นมือมาสะกิดต้นแขนเพื่อน

“ไอ้เขื่อน เฮ้ มึงเหม่ออีกแล้ว”

เขื่อนหันมามองในกลุ่มเพื่อน ช้าๆ สายตาเหมือนเพิ่งหลุดจากห้วงความคิด

ทุกคนต่างสบตากันแล้วส่ายหน้าเบาๆ ด้วยความรู้กันดีว่าเรื่องอะไร คนนี้คงจะหนักพอตัว

“มีไร” เขื่อนเอ่ยเสียงทุ้มต่ำ

ศักดิ์ที่นั่งตรงข้ามยกแก้วขึ้นดื่มอึกหนึ่ง ก่อนจะวางแก้วลงแล้วพูดขึ้นเสียงเรียบ

“อาทิตย์หน้ามีงานประชุมบริษัทในเครือ เขาฝากกูมาเชิญมึงไปด้วย ตัดสูทไปด้วยละกัน งานใหญ่อยู่ มีทั้งประชุมทั้งงานเลี้ยง เห็นว่าเป็นงานฉลองการกลับมาอะไรสักอย่างนี่แหละ”

เขื่อนพยักหน้าเบาๆ รับคำ ตอบรับในลำคอแผ่วเบา ก่อนจะละสายตากลับออกไปนอกหน้าต่างอีกครั้ง

นิ้วเรียวกระดิกแก้วในมือตัวเองช้าๆ ริมฝีปากเม้มแน่นเล็กน้อย แววตาไกลลิบเหมือนภาพซ้อนซ่อนใครบางคนอยู่ในใจ

เพื่อนๆ ต่างถอนหายใจแทบพร้อมกัน แม็กซ์ส่ายหน้าเบาๆ

“ปล่อยมันไปเหอะ กูว่าอีกนานกว่ามันจะหาย”

เจริญชัยยกแก้วขึ้นจิบ ก่อนหัวเราะเบาๆ

“หรือไม่ก็ต้องเจอคนที่มันหาอยู่นั่นแหละ ถึงจะหายเหม่อ”

ทิวาไหวไหล่แล้วหยิบขวดมาเติมแก้วตัวเอง “งั้นพวกเราดื่มกันต่อไปก่อนละกัน”

แก้วกระทบกันเบาๆ เสียงหัวเราะประปรายยังมีอยู่ในวง

มีเพียงเขื่อน ที่ใจยังไกลแสนไกล จมอยู่กับภาพใบหน้าและรอยยิ้มของขุนเขาในความทรงจำไม่เคยจาง

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เขื่อนขุนเขา    เขื่อนขุนเขา 17

    เดือนที่ผ่านมา ขุนเขาดูเปล่งประกายขึ้นผิดหูผิดตา ผิวเนียนละเอียด ผ่องขึ้นเหมือนคนสุขภาพดี แววตาก็อ่อนโยนขึ้น รอยยิ้มหวานแบบที่ไม่ค่อยมีใครเห็นก็ปรากฏให้คนรอบตัวได้เห็นบ่อยขึ้น ส่วนอาการแพ้ท้องที่เคยทรมานหนักในช่วงเดือนก่อนก็ค่อย ๆ เบาบางลง ขุนเขาดูสดใสและสบายตัวขึ้นเรื่อย ๆ แม่บ้านต่างรักและเอ็นดูดูแลไม่ขาดตกบกพร่อง ทั้งหาของเปรี้ยวของหวาน ทั้งพาเดินเล่นยืดเส้นยืดสาย พี่ชายอย่างขุนแผนก็ใจเย็นและดูแลน้องเป็นพิเศษ ไม่เคยปล่อยให้น้องเหงาหรือทำอะไรหนักไปมากกว่ายกจานข้าว ดูสิว่าพี่ชายของขุนเขาเวอร์วังสักแค่ไหน สัปดาห์ก่อน ขุนแผนพาขุนเขาไปเยี่ยมหลุมศพของพ่อแม่ที่สุสานประจำตระกูล สองพี่น้องยืนเงียบงันหน้าหลุมศพคู่ที่ประดับด้วยดอกไม้ขาวสะอาด ขุนเขาค่อย ๆ ทรุดตัวลง นั่งพับเพียบก้มกราบหลุมศพ น้ำตาเงียบไหลซึมออกมาโดยไม่รู้ตัว “พ่อ…แม่…ผมกลับมาแล้วนะครับ” เสียงขุนเขาเบาแต่สั่น เขายกมือไหว้แนบอก ยังคงพูดกับแผ่นป้ายชื่อที่ตั้งนิ่งตรงหน้า “ผมขอโทษที่หายไปนาน ผมคิดถึงพ่อกับแม่มาก ผมจะดูแลตัวเอง นี่ลูกของผม เป็นเด็กผู้ชาย…” ร่างบางพูดพลางลูบท้องที่ยื่นออกมา “จะดูแลลูกให้ดี…ไม่ต้องห่ว

  • เขื่อนขุนเขา    เขื่อนขุนเขา 16

    หลายวันผ่านไปเพนต์เฮ้าส์ของเขื่อนเงียบสงัดกว่าทุกครั้ง แสงแดดจาง ๆ จากปลายฤดูฝนทอดผ่านกระจกบานใหญ่ เขื่อนนั่งนิ่งอยู่ที่โซฟา ดวงตาจ้องมองกระดาษและแฟ้มเอกสารที่วางกระจัดกระจายบนโต๊ะ กระจกแก้วใสที่มีคราบน้ำแข็งละลายค่อย ๆ ซึมออกจากแก้วกาแฟเย็นที่ถูกลืมไว้ ไม่มีเสียงเพลง ไม่มีโทรทัศน์ มีเพียงเสียงลมที่ลอดผ่านหน้าต่างสูงของเพนต์เฮ้าส์ใจกลางกรุง เสียงเคาะประตูดังขึ้นแผ่วเบา ประตูเปิดออกเผยให้เห็นทิวา เขาเดินเข้ามาช้า ๆ ก่อนวางซองเอกสารสีน้ำตาลลงบนโต๊ะตรงหน้าเขื่อน สายตาของทิวาหนักแน่นและจริงจังกว่าทุกครั้ง ทิวานั่งลงพลางสูดลมหายใจลึก เงียบไปชั่วครู่ก่อนจะเริ่มพูด น้ำเสียงแผ่วต่ำเหมือนระวังไม่ให้ใครนอกห้องได้ยิน “ข่าวที่กูบอกว่ากำลังตามอยู่…เรื่องขุนเขา กูเพิ่งได้มา” เขื่อนเงยหน้ามองเพื่อนสนิท สายตาคมกริบเริ่มมีประกายขึ้นมาเล็กน้อย ทิวาค่อย ๆ ดึงเอกสารออกจากซอง รูปถ่ายสองสามใบปรากฏบนโต๊ะ เป็นภาพถ่ายจากมุมไกลเบลอเล็กน้อย แต่ก็พอมองออกว่าเป็นขุนแผนที่กำลังพูดคุยกับคนกลุ่มหนึ่งที่แต่งตัวคล้ายลูกน้องเก่าแก๊งประจิม “มีข่าวลือว่าขุนแผนเป็นคนสั่งฆ่าล้างบางพวกแก๊งประจิม ญาติของขุน

  • เขื่อนขุนเขา    เขื่อนขุนเขา 15

    — หนึ่งสัปดาห์ต่อมา บ้านหลังใหญ่ยามเช้า แสงแดดอ่อนกระทบกระจกบานใหญ่ภายในโถง ขุนเขาในชุดเสื้อคลุมบ้านสีขาวสะอาดเดินออกจากประตูบ้านอย่างระมัดระวัง มือหนึ่งประคองหน้าท้องที่เริ่มนูนชัด เข้าเดือนที่ 4 แล้ว อาการแพ้ท้องยังคงหนักหน่วงกว่าปกติ ตรงหน้าบันได ขุนแผนยืนแต่งตัวเต็มยศ — สูทสีกรมท่าตัดเข้ารูป รองเท้าหนังขัดเงา ผมจัดทรงเนี้ยบผิดจากวันปกติ ใบหน้าคมเข้มมีแววลังเลกับการต้องออกไปโดยทิ้งน้องชายไว้ที่บ้าน ขุนเขาเดินมายืนตรงหน้าเขา ใบหน้ายิ้มจางๆ แม้ร่างกายจะอ่อนแรง “ไปเถอะพี่แผน เดี๋ยวงานฉลองบริษัทเดือนหน้า ผมไปด้วยแน่นอน” ขุนแผนสบตาน้องนิ่งอยู่ครู่ ก่อนพยักหน้าอย่างจำยอม มือหนายกขึ้นลูบหน้าท้องนุ่มของขุนเขาอย่างเบามือ ริมฝีปากกระซิบเสียงนุ่ม “ไม่ต้องขอโทษนะ… อยู่บ้านพักผ่อนให้ดี เป็นเด็กดีนะครับตัวเล็ก ลุงจะรอหนูออกมา” ขุนเขาหัวเราะน้อยๆ ยิ้มอ่อนโยนให้คนพี่ ก่อนจะยืนมองแผ่นหลังกว้างของขุนแผนเดินออกจากบ้านขึ้นรถไป เช้านั้น ขุนเขาเดินเข้าครัวบอกป้าแม่บ้านเสียงใส “ป้า ผมอยากกินของเปรี้ยวมากๆ เลย มะม่วงเปรี้ยวมีไหม” ป้าแม่บ้านหัวเราะเอ็นดูแล้วจัดมะม่วงเปรี้ยวแช่เย็นมา

  • เขื่อนขุนเขา    เขื่อนขุนเขา 14

    หนึ่งเดือนต่อมา ร่างกายของขุนเขาฟื้นตัวเร็วกว่าที่แพทย์คาดการณ์ไว้มาก แผลผ่าตัดสมานดี กล้ามเนื้อเริ่มกลับมาแข็งแรง แม้ยังต้องระวังแผลลึกกับอาการอ่อนเพลีย แต่หมออนุญาตให้กลับบ้านได้แล้วในที่สุด เช้านั้น ขุนแผนในชุดสูทสีเข้มเรียบหรู ยืนรอรับน้องชายที่หน้าโรงพยาบาลเช่นเคย รอยยิ้มอ่อนโยนแตะมุมปาก ร่างสูงโปร่งผึ่งผายสะท้อนแสงแดดอ่อนของฤดูหนาว ขุนเขาเดินออกมาช้า ๆ ด้วยท่าทางสงบในเสื้อเชิ้ตบางคลุมทับด้วยคาร์ดิแกนไหมสีอ่อน ใบหน้าหวานซีดจางแต่มีรอยสีชมพูระเรื่อกลับคืนมาเล็กน้อย “กลับบ้านกันนะ” เสียงนุ่มของขุนแผนเอ่ย ขณะยื่นมือมาช่วยประคองน้อง รถยนต์เบนท์ลีย์สีดำเงาวาวแล่นผ่านถนนส่วนตัวที่ทอดยาวเกือบหนึ่งกิโลเมตร สองข้างทางเป็นแนวต้นสนและไม้ประดับนับสิบสายพันธุ์ที่ตัดแต่งอย่างประณีต แดดยามสายกระทบยอดไม้เป็นประกายระยิบระยับ บ้านหลังใหญ่…ไม่สิ คฤหาสน์ 4 ชั้นตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้า ตัวอาคารสไตล์นีโอคลาสสิก ผนังหินอ่อนสีขาวอมเทา แกะสลักลวดลายงดงาม ซุ้มโค้งและเสาคอรินเธียนเรียงรายอย่างสง่างาม รอบบ้านมีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ น้ำใสจนเห็นพื้นกระเบื้องโมเสก สวนหย่อมกว้างมีศาลาไม้สักและเส้นท

  • เขื่อนขุนเขา    เขื่อนขุนเขา 13

    เขื่อนเดินลากเท้าช้า ๆ บนพื้นปูนเก่า ท่ามกลางแดดร้อนจัดของเมืองท่า กลิ่นทะเลเจือควันบุหรี่และน้ำมันเครื่องยังคงแตะจมูกไม่จาง มือหนากำแผ่นพับข้อมูลไว้แน่น ใบหน้าคมเต็มไปด้วยความกังวล สามวันแล้ว…สามวันที่ขุนเขาหายไปไร้วี่แวว แม้จะส่งเพื่อนออกตามหาแทบพลิกเมือง แต่กลับได้แค่ข่าวร้ายว่า ‘ชัย’ คนที่พาขุนเขาไป ถูกฆ่าปิดปากไปแล้ว เขื่อนกัดกรามแน่น ใจเหมือนถูกกรีดซ้ำไปมา ตัดภาพไปที่โรงพยาบาล ในห้องพักฟื้นกว้างขวาง ตกแต่งเรียบหรูด้วยโทนสีขาวและเทา ร่างบางของขุนเขานอนสงบอยู่บนเตียงสีขาว ผ้าห่มปกคลุมถึงอก ผิวซีดขาวจนดูเปราะบาง ชายรูปร่างสูงโปร่ง 193 เซนติเมตร นั่งไขว่ห้างบนเก้าอี้ไม้ข้างเตียง สูทสีดำสนิทแนบกายเผยเรือนร่างสมส่วน ผมสีเทาเงินเซ็ตเรียบร้อย ตาคมเข้มกริบใต้คิ้วหนา ริมฝีปากบางขยับน้อย ๆ อย่างคนที่มีความอดทนสูง เสียงเคาะประตูดังขึ้นเบา ๆ “นายครับ มีเอกสารที่ต้องเซ็นครับ” หนึ่งในลูกน้องในชุดดำเอ่ยขึ้นพลางยื่นแฟ้ม ชายสูงใหญ่ปรายตาไปทางลูกน้อง เสียงทุ้มต่ำเย็นเยียบตอบกลับอย่างเฉียบคม “แล้วมันด่วนไหม แค่นี้มึงคิดไม่ได้หรือไง” ลูกน้องก้มหน้ารับคำทันทีแล้วถอยออกจากห้องอย่า

  • เขื่อนขุนเขา    เขื่อนขุนเขา 12

    เสียงเครื่องยนต์คำรามต่ำ รถตู้สีดำแล่นฉิวไปบนถนนใหญ่ ขุนเขานั่งเบียดชิดกระจก ร่างบางสั่นเทิ้ม ดวงตาคมกริบคลอไปด้วยน้ำใส ริมฝีปากเม้มแน่นแต่เสียงสะอื้นหลุดลอดออกมาอย่างห้ามไม่ได้ สายตาเขาเหลือบมองออกไปนอกหน้าต่าง ตึกรามสูงเสียดฟ้า รถราแน่นขนัด ผู้คนเดินขวักไขว่บนฟุตบาท…แต่ไม่มีใครแม้แต่คนเดียวจะสังเกตเห็นว่าเขากำลังถูกจับตัว มือแข็งแรงของชายชุดดำคนหนึ่งวางบนต้นแขนเขาแน่น “ร้องให้มันน้อยๆ หน่อย ไอ้เด็กเวร!” เสียงเหี้ยมตวาดดังขึ้น ขุนเขาสะดุ้งสุดตัว ริมฝีปากเม้มแน่นยิ่งกว่าเดิม เสียงสะอื้นยังสะท้านในลำคอแต่เขาพยายามกลั้นน้ำตาไว้ หัวใจบีบแน่น ร่างกายเย็นเฉียบ แม้เสื้อผ้าจะยังเปื้อนทรายและกลิ่นดินปืนจากการปะทะก่อนหน้า เวลาผ่านไป ถนนค่อยๆ เปลี่ยนจากตึกสูงระฟ้าเป็นเส้นทางโล่งและรกเรื้อ ต้นไม้หนาทึบ โอบล้อมถนนเล็กๆ ดั่งอุโมงค์เขียวครึ้ม เสียงนกร้องและแมลงหึ่งเบาๆ

  • เขื่อนขุนเขา    เขื่อนขุนเขา 11

    เขื่อนก้มตัวหลบหลังแผงไม้ไผ่ เสียงกระสุนเฉียดผ่านหูวูบวาบ กลิ่นดินและควันปืนคละคลุ้งเต็มบรรยากาศ ลูกน้องของเขากระจายกำลังตามจุดที่เตรียมไว้ สาดกระสุนโต้กลับอย่างแม่นยำ เรือสปี๊ดโบ้ทของแก๊งประจิมจอดเทียบท่าเร็วราวสายฟ้า พวกมันสวมชุดดำสนิท ใบหน้าโหดเหี้ยมเต็มไปด้วยอาวุธหนัก “ยิง! อย่าให้มันขึ้นฝั่ง!” เขื่อนตะโกนสั่ง เสียงดังฝ่ากระสุน เขาไถลตัวออกจากที่กำบัง เปลี่ยนแม็กกระสุนอย่างรวดเร็ว ก่อนสาดกระสุนชุดใหญ่ใส่ศัตรูที่กำลังพยายามวิ่งขึ้นฝั่ง กระสุนปืนลูกซองจากพวกเขื่อนกระแทกเข้ากับเกราะกันกระสุนของฝ่ายตรงข้าม เสียงโลหะกระทบดังสนั่น เขื่อนกรามแน่น ใจเย็นอย่างเหลือเชื่อ เขารู้ดีว่าสถานการณ์นี้มันต้องเกิด แต่ไม่คิดว่าจะมาเร็วจนตั้งตัวไม่ทัน ทันใดนั้น ลูกน้องคนหนึ่งของเขื่อนพุ่งเข้ามา “เฮีย! ขุนเขาปลอดภัยครับ ชัยพาไปหลบหลังเกาะแล้ว!” เขื่อนพยักหน้าก่อนตะโกนสั่งเสียงแข็ง “จัดการให้จบเร็วที่สุด! มันจะต้องไม่เหยียบเข้ามาถึงบ้านเราเด็ดขาด!” เสียงปืนดังต่อเนื่อง กลิ่นดินปนควันปืนและไอเค็มของทะเลหลอมรวมเป็นสนามรบเต็มรูปแบบ เขื่อนกราดสายตามองคู่ต่อสู้ ไม่มีความลังเลในแววตาแม

  • เขื่อนขุนเขา    เขื่อนขุนเขา 10

    เช้าวันใหม่ แสงแดดยามเช้าสาดส่องลอดม่านเข้ามาในห้อง เสียงคลื่นกระทบฝั่งดังแผ่วเบา เขื่อนลืมตาตื่นขึ้นอย่างเชื่องช้า แขนยังโอบร่างบางของขุนเขาไว้แน่น คนในอ้อมแขนยังคงหลับสนิท ใบหน้าซุกอยู่กับแผ่นอกกว้างของเขา เขื่อนก้มลงมองเสี้ยวหน้าคนรักก่อนจะค่อยๆ ผละตัวออกอย่างแผ่วเบา เขาแต่งตัวเรียบร้อยและเดินออกจากห้องไปยังห้องรับรองเพื่อประชุมกับเพื่อน วันนี้ เพื่อนสนิททั้งสามคน — เจริญชัย ทิวา และศักดิ์ รวมถึงแม็กซ์ มารออยู่แล้ว เอกสารสัมปทานรังนกที่เตรียมไว้ถูกวางกระจายเต็มโต๊ะ เงื่อนไขใหม่จากกรมทรัพยากรธรรมชาติที่เพิ่งส่งมายังเกาะเมื่อคืนนี้ ถูกเปิดอ่านอย่างเคร่งเครียด “เขื่อน เอกสารนี้มันไม่ชอบมาพากลว่ะ” ศักดิ์พูดเสียงเข้ม เขาผลักแฟ้มเอกสารไปตรงหน้าเพื่อน เขื่อนเลื่อนเอกสารมาตรวจดูอย่างรวดเร็ว ใบหน้าเคร่งเครียดขึ้นทันที “สัมปทานชุดใหม่นี้เพิ่มข้อบังคับเรื่องเขตกันชนจากฝั่งเกาะ 15 กิโล ถ้าเรายอมเซ็น… พื้นที่รังนกเราจะหายไปครึ่งหนึ่ง” เจริญชัยอธิบายต่อ น้ำเสียงจริงจัง “มันจงใจบีบเรา” ทิวาเสริม “พวกมันรู้ว่าเราถือหุ้นใหญ่ที่สุด ถ้าถูกบีบแบบนี้ อีกไม่นานราคาสัมปทานจะตก แล้วพวกมันจะย

  • เขื่อนขุนเขา    เขื่อนขุนเขา 9

    หลังจากอาบน้ำเสร็จ ทั้งคู่ก็พากันมานั่งที่โซฟาเพื่อพูดคุยถึงเรื่องที่เกิดขึ้น แม้ยามนี้จะดึกมากเพียงใดก็ตาม ย้อนกลับไปเมื่อตอนเช้า ก่อนที่เขื่อนจะออกไปข้างนอก เขาโทรนัดเพื่อนให้มาที่เกาะเพื่อคุยเรื่องสัมปทาน แม้เพื่อนของเขาจะไม่ได้ทำธุรกิจนี้โดยตรง แต่พวกเขาก็เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ร่วมกับเขาอยู่ โชคยังดีที่พวกเขามาทันเวลา หากมาไม่ทัน ร่างขาวตรงหน้าเขาอาจถูกจับตัวไปแล้วก็เป็นได้ เขื่อนหันไปมองคนข้างกายที่ตาปรือเต็มทนแต่ยังไม่ยอมไปนอน มือของทั้งคู่ยังคงประสานกันแน่น สหัสวรรษได้สายตาล้อเลียนจากทิวา แต่เขาก็ไม่ได้สนใจนัก “ตรวจหน่อยไหม” แม็กซ์ที่นั่งเงียบฟังอยู่นานโพล่งขึ้นมา เสียงของเขาทำให้เจริญชัย ทิวา ศักดิ์ และเขื่อนหันไปมอง “ตรวจอะไร ร่องรอยลายนิ้วมือพวกมันหรือไง?” ทิวาเอ่ยขึ้น พลางยกน้ำดื่มขึ้นจิบแก้กระหาย แม็กซ์จ้องไปที่ท้องของคนรักเพื่อน แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ มีเพียงสายตาของเขื่อนที่เริ่มสงสัยและเหลือบมองไปยังท้องของร่างบาง ทว่าก่อนจะทันได้เอ่ยปากถาม ลูกน้องคนสนิทสองคน ชัยและหนึ่ง ก็วิ่งเข้ามา สีหน้าตื่นตระหนกจนคนเป็นนายรอฟังคำตอบแทบไม่ไหว “นายครับ” ชัยพูดขึ้นพลางหอบห

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status