Home / วาย / เขื่อนขุนเขา / เขื่อนขุนเขา 19

Share

เขื่อนขุนเขา 19

Author: Meithimm
last update Last Updated: 2025-05-24 10:18:14

เขื่อนดึงเก้าอี้ข้างเตียงเบาๆ ก่อนจะนั่งลงอย่างระมัดระวัง ดวงตาเขาไม่ละจากใบหน้าของขุนเขาเลยสักวินาทีเดียว

ขุนเขาเอียงหน้ามองเขาอย่างสุภาพ แต่ก็ยังดูระวังตัวนิดๆ เหมือนคนที่ยังไม่คุ้นกันจริงๆ

“คุณชื่อเขื่อนใช่ไหมครับ?”

เสียงทุ้มนุ่มถามขึ้น พลางขยับผ้าห่มคลุมหน้าท้องให้เรียบร้อยกว่าเดิม

“ใช่ครับ… เขื่อน” เขาตอบพลางยิ้มอ่อน “คุณชื่อขุนเขาใช่ไหมครับ?”

ขุนเขาพยักหน้าเบาๆ

“ครับ เรียกขุนเฉยๆ ก็ได้”

“ขุน… ฟังดูเหมาะกับคุณดีครับ” เขื่อนตอบ น้ำเสียงเจือความเอ็นดูที่ไม่อาจซ่อน

ขุนเขาหัวเราะเบาๆ

“ปกติคนจะชมว่าชื่อแปลกนะครับ ไม่คิดว่าจะมีคนชมว่าดี…”

เขื่อนสบตา

“ผมว่าเหมาะดีครับ มันดูเข้มแข็ง แต่ก็ฟังแล้วอบอุ่น”

ขุนเขานิ่งไปครู่หนึ่ง มองมือตัวเองที่วางบนหน้าท้อง

“คุณเป็นเพื่อนกับพี่แผนมานานแล้วเหรอครับ?”

“ก็…พอสมควรครับ เจอกันที่ทำงานบ่อย แต่ผมไม่เคยรู้มาก่อนว่าคุณแผนมีน้องชาย” เขื่อนว่า พยายามให้เสียงฟังดูธรรมดาที่สุด

ขุนเขายิ้มจางๆ ก่อนจะมองหน้าต่าง

“อาจเพราะช่วงก่อนหน้านี้…ผมไม่ค่อยได้เจอใครนอกจากคนในบ้านครับ พี่แผนคงไม่พูดถึงผมเท่าไหร่”

เขื่อนพยักหน้าเงียบๆ แล้วถามต่อด้วยรอยยิ้มอบอุ่น

“ตอนนี้คุณอยู่ที่นี่ตลอดเลยหรือครับ?”

“ครับ อยู่กับพี่แผน มีแม่บ้านกับเลขาช่วยดูแล ช่วงนี้ก็เลยไม่ออกไปไหนมาก”

เขื่อนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดช้าๆ

“ถ้า…วันไหนคุณเบื่อ ผมพอจะพาออกไปเดินเล่นได้นะครับ ไม่ต้องไปไกล แค่ในสวนก็ยังดี ผมไม่วุ่นวายมากหรอกครับ”

ขุนเขาเงยหน้ามองเขื่อนตรงๆ

“ทำไมคุณอยากทำแบบนั้นล่ะครับ?”

เขื่อนนิ่งไปก่อนจะยิ้มบาง

“เพราะคุณดูเหมือนคนที่…อยู่ในโลกเงียบๆ มานานแล้ว ผมแค่อยากเป็นเพื่อนกับคุณจริงๆ ไม่ได้หวังอะไรครับ”

ขุนเขามองเขื่อนนิ่งนาน แล้วหลบตาลงเบาๆ ริมฝีปากขยับตอบเบาแผ่ว

“…ขอบคุณนะครับ”

คำตอบนั้น ทำให้หัวใจของเขื่อนเหมือนได้รับแสงแดดอุ่นครั้งแรกในรอบหลายเดือน

ถึงแม้คนตรงหน้าจะจำเขาไม่ได้…

แต่บางที ความรักครั้งนี้…อาจได้เริ่มต้นใหม่อีกครั้งก็ได้

สามวันหลังจากอยู่โรงพยาบาล เขื่อนแวะเวียนมาหาทุกวัน คุยเล่น ถามเรื่องไร้สาระบ้าง เรื่องขนมบ้าง หรือแม้กระทั่งตั้งคำถามแปลกๆ อย่าง “ถ้าเลือกเป็นสัตว์ได้ อยากเป็นอะไร?”

ขุนเขาหัวเราะทุกครั้ง และไม่รู้ตัวเลยว่าเขากลายเป็นคนที่รอเสียงเคาะประตูยามบ่าย รอคนที่เข้ามาพร้อมรอยยิ้มอบอุ่นแบบไม่มีพิษภัย

มันแปลก…

แปลกที่รู้สึกเหมือนคุ้นเคยกันมานาน

แปลกที่เขารู้สึกสบายใจเวลาอยู่ใกล้เขื่อนอย่างไม่มีเหตุผล

และวันนี้ เป็นวันที่สองหลังจากเขากลับมาอยู่ที่คฤหาสน์

มือถือสั่นเบาๆ ขุนเขาหยิบขึ้นมาดู เห็นชื่อ ‘คุณเขื่อน’ บนหน้าจอ

“ฮัลโหล?”

เสียงของขุนเขาใสกว่าทุกวัน เพราะอารมณ์ดีตั้งแต่เช้า

[เสียงปลายสาย:] “วันนี้บ่ายๆ ว่างไหมครับ? มีร้านขนมเปิดใหม่ที่ห้าง แถวพาราไดซ์ฯ เห็นแล้วนึกถึงคุณเลย”

ขุนเขาเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะหัวเราะเบาๆ

“เพราะอะไรครับ? เพราะผมหน้าเหมือนขนมหรือไง”

“ไม่หรอกครับ เพราะหน้าคุณเหมือนคนชอบกินขนมมากกว่า”

ปลายสายตอบติดตลก ขุนเขาหัวเราะร่วน

“งั้นตกลงครับ บ่ายเจอกันนะ”

หลังวางสาย ขุนเขาก็ลุกขึ้นเดินตรงไปยังตู้เสื้อผ้า

เขาไล่มือไปตามแร็คเสื้อ ดึงชุดโน้นลอง ชุดนี้ดู ก่อนจะถอนหายใจแรงๆ

“ไม่เห็นมีอะไรน่ารักเลย…” เขาพึมพำกับตัวเอง

มือหนึ่งลูบท้องเบาๆ ก่อนจะยิ้มบาง

เขาอยากดูดี

เขาไม่รู้ว่าเพราะอะไร

แต่แค่อยากให้เขื่อนมองเขาแล้วยิ้ม…ก็พอแล้ว

สุดท้าย ขุนเขาเลือกเดรสผ้าฝ้ายสีครีมพิมพ์ลายจุดเล็กๆ ที่พี่แผนซื้อให้เมื่อนานมาแล้ว ทรงหลวมพอดีกับหน้าท้องที่เริ่มชัด และใส่สบายมากพอจะเดินในห้างได้

“หวังว่าจะดูไม่โทรมเกินไปนะ…”

เขาบอกกับตัวเองหน้ากระจก ยิ้มออกมานิดหนึ่ง และออกจากห้องพร้อมกับหัวใจที่เต้นแผ่วเบา แต่รัวเร่งอย่างไม่ทราบสาเหตุ

ห้างพาราไดซ์ยามบ่ายไม่คึกคักนัก ผู้คนเดินผ่านไปมาประปราย เสียงเพลงบรรเลงเบา ๆ คลอไปกับเสียงฝีเท้าของขุนเขา ที่เดินช้า ๆ อยู่หน้าทางเข้า

ไม่นานนัก เขื่อนก็มาถึง

วันนี้เขาไม่ได้ใส่สูทแบบวันงานเลี้ยง แต่เลือกเชิ้ตสีขาวพับแขนกับกางเกงสแล็กสีดำธรรมดา ใบหน้าเกลี้ยงเกลาไร้หนวดเครา ต่างจากวันแรกที่พบกันอย่างสิ้นเชิง

เขื่อนยิ้มทันทีที่เห็นขุนเขา

“คุณมาเร็วจังครับ ผมนึกว่าจะต้องเดินหาซะแล้ว”

“ผมก็คิดว่าคุณจะมาช้าเหมือนทุกวัน” ขุนเขาตอบกลับพร้อมรอยยิ้มบาง แต่ตาเป็นประกาย

เขื่อนหัวเราะ

“วันนี้มีแรงจูงใจดีครับ เลยรีบมา”

ขุนเขาไม่ได้ตอบ แต่แก้มขึ้นสีจาง ๆ เขื่อนเห็นแล้วก็ยิ่งอยากแกล้ง

“เอ่อ… คุณใส่ชุดนี้แล้วดูน่ารักดีนะครับ”

“ขอบคุณครับ” ขุนเขาก้มหน้าลงเล็กน้อย มือจับชายเสื้อเบา ๆ “จริง ๆ ผมลังเลนานเลยว่าจะใส่อะไรดี…”

“ดีแล้วครับที่เลือกชุดนี้ มันน่ารัก…พอดีกับคุณเลย”

เสียงของเขื่อนนุ่มและจริงใจจนขุนเขาเผลอเงยหน้ามองนานเกินไป ก่อนจะรีบเบือนตาไปทางอื่น

“เอ่อ… ร้านขนมอยู่ตรงไหนเหรอครับ?”

“ชั้นบนครับ ผมเห็นคนต่อคิวพอสมควรเลยนะ แต่เขาบอกว่าข้างในมีที่นั่งสบาย เดินกันไหวไหมครับ?”

ขุนเขาพยักหน้า

“วันนี้รู้สึกดีขึ้นมากครับ”

“ดีแล้วครับ” เขื่อนยิ้มอีกครั้ง ก่อนจะเดินนำไปอย่างไม่ลืมหันมาดูว่าขุนเขาเดินตามทันไหม

ระหว่างทาง ทั้งสองคนคุยกันเรื่องขนม เรื่องร้านกาแฟ เรื่องภาพยนตร์ และเรื่องสัตว์เลี้ยง

ไม่มีคำถามเกี่ยวกับความทรงจำ

ไม่มีคำพูดที่ทำให้ขุนเขาอึดอัด

มีแค่เสียงหัวเราะเบา ๆ

กับสายตาที่เขื่อนแอบมองขุนเขาเป็นระยะ ราวกับอยากบันทึกทุกรอยยิ้มของเขาไว้ในความทรงจำ

จนกระทั่งถึงหน้าร้านขนมที่มีคนยืนต่อแถวอยู่บ้าง ขุนเขาหยุดมองเมนูหน้าร้านตาเป็นประกาย

“อยากกินหมดเลยครับ” เขาว่า

“งั้นเดี๋ยวผมจัดให้… ขอให้คุณนั่งสบาย ๆ อย่างเดียวพอ”

เขื่อนพูดพร้อมกับเดินไปต่อคิว ขุนเขามองตามแล้วก็ยิ้มอย่างไม่รู้ตัว

หัวใจที่เคยว่างเปล่า มันเหมือนมีบางอย่างค่อย ๆ เติมเข้ามาทีละนิด… ทีละนิด…

ในร้านขนมบรรยากาศอบอุ่น กลิ่นหอมของวานิลลาและช็อกโกแลตคลุ้งในอากาศ ขุนเขานั่งตรงข้ามกับเขื่อน โต๊ะเล็กๆ ติดกระจกบานใหญ่ที่มองเห็นผู้คนเดินผ่านไปมา เขื่อนวางจานขนมลงตรงหน้า พร้อมกับยื่นแก้วน้ำผลไม้ให้ขุนเขา

“ลองอันนี้ก่อนนะครับ พนักงานแนะนำว่าขายดีสุด”

ขุนเขาพยักหน้ารับ ลองตักเค้กคำเล็กๆ เข้าปากแล้วตาเป็นประกาย

“อร่อยมากครับ หวานกำลังดีเลย”

เขื่อนยิ้มจางๆ มองคนตรงหน้าเงียบๆ สักพัก ก่อนจะพูดขึ้นเบาๆ

“ขอถามอะไรหน่อยได้ไหมครับ?”

ขุนเขาหันมามอง

“ได้สิครับ”

เขื่อนสบตาเขาอย่างลังเลนิดหนึ่ง แต่สุดท้ายก็เอ่ยออกมา

“ถ้าสมมติว่า… คุณมีคนรัก คุณคิดว่าคุณจะเลือกรักคนแบบไหนเหรอครับ?”

คำถามนั้นทำให้ขุนเขานิ่งไปเล็กน้อย เขาก้มลงมองช้อนในมือ เล่นกับมันเบาๆ ก่อนจะยิ้มบางๆ

“ผมไม่แน่ใจนะครับ แต่ถ้าเป็นผม… คงเลือกคนที่อยู่ด้วยแล้วรู้สึกสบายใจ”

เขื่อนพยักหน้า ไม่ได้พูดแทรก

“…ไม่ต้องพยายามฝืน ไม่ต้องเป็นใครที่ไม่ใช่ตัวเอง เวลามองตาแล้วรู้ว่าผมปลอดภัย แค่นั้นก็คงพอแล้วล่ะครับ”

เขื่อนเงียบไปนิด รอยยิ้มบนริมฝีปากเจือความเศร้าอย่างที่ขุนเขาไม่เห็น

“แล้วคุณล่ะครับ?” ขุนเขาถามกลับ “ถ้าคุณมีคนรัก… คุณจะเลือกรักคนแบบไหน?”

เขื่อนหัวเราะในลำคอเบาๆ

“ผมเหรอครับ… คงเหมือนกัน”

“เหมือนกันยังไงครับ?”

เขื่อนมองตาเขาอย่างตรงไปตรงมา

“ผมก็อยากอยู่กับคนที่เป็นตัวของตัวเอง… คนที่ไม่ต้องพูดอะไรก็รู้สึกได้ ว่าเขายังอยู่ตรงนี้ ไม่ไปไหน…”

ขุนเขานิ่งไปนิด

หัวใจของเขาเต้นช้าลงแล้วก็ดังขึ้นอย่างไร้สาเหตุ

รู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างที่ไม่อาจอธิบาย

“คุณเคยมีคนแบบนั้นไหมครับ?” เขาถามเสียงแผ่ว

เขื่อนยิ้ม ดวงตาคล้ายซ่อนความเศร้าไว้ใต้ความอ่อนโยน

“เคยครับ… แต่เขาหายไปนานแล้ว”

ขุนเขาไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่ใจกลับแน่นขึ้นเล็กน้อย ทั้งที่ไม่รู้ว่าทำไม

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เขื่อนขุนเขา    เขื่อนขุนเขา 19

    เขื่อนดึงเก้าอี้ข้างเตียงเบาๆ ก่อนจะนั่งลงอย่างระมัดระวัง ดวงตาเขาไม่ละจากใบหน้าของขุนเขาเลยสักวินาทีเดียวขุนเขาเอียงหน้ามองเขาอย่างสุภาพ แต่ก็ยังดูระวังตัวนิดๆ เหมือนคนที่ยังไม่คุ้นกันจริงๆ“คุณชื่อเขื่อนใช่ไหมครับ?”เสียงทุ้มนุ่มถามขึ้น พลางขยับผ้าห่มคลุมหน้าท้องให้เรียบร้อยกว่าเดิม“ใช่ครับ… เขื่อน” เขาตอบพลางยิ้มอ่อน “คุณชื่อขุนเขาใช่ไหมครับ?”ขุนเขาพยักหน้าเบาๆ“ครับ เรียกขุนเฉยๆ ก็ได้”“ขุน… ฟังดูเหมาะกับคุณดีครับ” เขื่อนตอบ น้ำเสียงเจือความเอ็นดูที่ไม่อาจซ่อนขุนเขาหัวเราะเบาๆ“ปกติคนจะชมว่าชื่อแปลกนะครับ ไม่คิดว่าจะมีคนชมว่าดี…”เขื่อนสบตา“ผมว่าเหมาะดีครับ มันดูเข้มแข็ง แต่ก็ฟังแล้วอบอุ่น”ขุนเขานิ่งไปครู่หนึ่ง มองมือตัวเองที่วางบนหน้าท้อง“คุณเป็นเพื่อนกับพี่แผนมานานแล้วเหรอครับ?”“ก็…พอสมควรครับ เจอกันที่ทำงานบ่อย แต่ผมไม่เคยรู้มาก่อนว่าคุณแผนมีน้องชาย” เขื่อนว่า พยายามให้เสียงฟังดูธรรมดาที่สุดขุนเขายิ้มจางๆ ก่อนจะมองหน้าต่าง“อาจเพราะช่วงก่อนหน้านี้…ผมไม่ค่อยได้เจอใครนอกจากคนในบ้านครับ พี่แผนคงไม่พูดถึงผมเท่าไหร่”เขื่อนพยักหน้าเงียบๆ แล้วถามต่อด้วยรอยยิ้มอบอุ่น“ตอนนี้ค

  • เขื่อนขุนเขา    เขื่อนขุนเขา 18

    เสียงครึกครื้นจากภายในงานยังดังลอดออกมา แต่เขื่อนกลับยืนนิ่งอยู่ตรงระเบียงด้านข้างของฮอล์หรู แสงไฟจากสวนแต่งแต้มบรรยากาศให้ดูอบอุ่น แต่ในใจเขากลับเย็นเยียบ ดวงตากวาดมองไปในความมืดเบื้องหน้าเหมือนพยายามหาคำตอบอะไรบางอย่าง เขายกมือขึ้นกดหว่างคิ้ว ลมหายใจหนัก ๆ ผ่อนออกมาทีละนิด รู้ตัวอีกที น้ำตาก็ไหลอาบแก้มเงียบ ๆ มันใช่จริง ๆ ใช่ไหม…เขาพึมพำเบา ๆ กับตัวเอง ร่างสูงยืนนิ่ง ดวงตาสั่นไหวเต็มไปด้วยความปั่นป่วน ความรู้สึกทั้งหมดในอกปะทุขึ้นมาไม่ทันตั้งตัว ทั้งคิดถึง ทั้งเสียใจ ทั้งดีใจจนแทบล้ม “แล้วนั่นใคร… เด็กในท้อง…” เขาพูดกับตัวเอง เขื่อนกัดฟันแน่น กลืนก้อนสะอื้นกลับเข้าไป เสียงรองเท้าของใครบางคนเดินเข้ามาใกล้จากทางด้านหลัง แต่เขาไม่ได้หันไปมอง รู้ดีว่าเป็นแม็กซ์ “มึงโอเคไหม?” “…ไม่ กูไม่โอเค” เขื่อนตอบเบา ๆ น้ำเสียงแหบแห้ง แม็กซ์ถอนหายใจ ยืนข้าง ๆ พร้อมมองท้องฟ้าที่ไม่มีดาวเหมือนคืนนี้จะมีพายุ “แล้วจะทำไงต่อ?” “กูไม่รู้ กูแค่…อยากกอดเขา อยากรู้ว่าเขาโอเคไหม แต่อีกใจก็กลัว กลัวรู้คำตอบทุกอย่างจริง ๆ…” “มึงรักเขามากเลยนะ” เขื่อนหลุบตาลงช้า ๆ ยิ้มจาง ๆ ทั้งน้ำตา “มากจนกูยังฝ

  • เขื่อนขุนเขา    เขื่อนขุนเขา 17

    เดือนที่ผ่านมา ขุนเขาดูเปล่งประกายขึ้นผิดหูผิดตา ผิวเนียนละเอียด ผ่องขึ้นเหมือนคนสุขภาพดี แววตาก็อ่อนโยนขึ้น รอยยิ้มหวานแบบที่ไม่ค่อยมีใครเห็นก็ปรากฏให้คนรอบตัวได้เห็นบ่อยขึ้น ส่วนอาการแพ้ท้องที่เคยทรมานหนักในช่วงเดือนก่อนก็ค่อย ๆ เบาบางลง ขุนเขาดูสดใสและสบายตัวขึ้นเรื่อย ๆ แม่บ้านต่างรักและเอ็นดูดูแลไม่ขาดตกบกพร่อง ทั้งหาของเปรี้ยวของหวาน ทั้งพาเดินเล่นยืดเส้นยืดสาย พี่ชายอย่างขุนแผนก็ใจเย็นและดูแลน้องเป็นพิเศษ ไม่เคยปล่อยให้น้องเหงาหรือทำอะไรหนักไปมากกว่ายกจานข้าว ดูสิว่าพี่ชายของขุนเขาเวอร์วังสักแค่ไหน สัปดาห์ก่อน ขุนแผนพาขุนเขาไปเยี่ยมหลุมศพของพ่อแม่ที่สุสานประจำตระกูล สองพี่น้องยืนเงียบงันหน้าหลุมศพคู่ที่ประดับด้วยดอกไม้ขาวสะอาด ขุนเขาค่อย ๆ ทรุดตัวลง นั่งพับเพียบก้มกราบหลุมศพ น้ำตาเงียบไหลซึมออกมาโดยไม่รู้ตัว “พ่อ…แม่…ผมกลับมาแล้วนะครับ” เสียงขุนเขาเบาแต่สั่น เขายกมือไหว้แนบอก ยังคงพูดกับแผ่นป้ายชื่อที่ตั้งนิ่งตรงหน้า “ผมขอโทษที่หายไปนาน ผมคิดถึงพ่อกับแม่มาก ผมจะดูแลตัวเอง นี่ลูกของผม เป็นเด็กผู้ชาย…” ร่างบางพูดพลางลูบท้องที่ยื่นออกมา “จะดูแลลูกให้ดี…ไม่ต้องห่ว

  • เขื่อนขุนเขา    เขื่อนขุนเขา 16

    หลายวันผ่านไปเพนต์เฮ้าส์ของเขื่อนเงียบสงัดกว่าทุกครั้ง แสงแดดจาง ๆ จากปลายฤดูฝนทอดผ่านกระจกบานใหญ่ เขื่อนนั่งนิ่งอยู่ที่โซฟา ดวงตาจ้องมองกระดาษและแฟ้มเอกสารที่วางกระจัดกระจายบนโต๊ะ กระจกแก้วใสที่มีคราบน้ำแข็งละลายค่อย ๆ ซึมออกจากแก้วกาแฟเย็นที่ถูกลืมไว้ ไม่มีเสียงเพลง ไม่มีโทรทัศน์ มีเพียงเสียงลมที่ลอดผ่านหน้าต่างสูงของเพนต์เฮ้าส์ใจกลางกรุง เสียงเคาะประตูดังขึ้นแผ่วเบา ประตูเปิดออกเผยให้เห็นทิวา เขาเดินเข้ามาช้า ๆ ก่อนวางซองเอกสารสีน้ำตาลลงบนโต๊ะตรงหน้าเขื่อน สายตาของทิวาหนักแน่นและจริงจังกว่าทุกครั้ง ทิวานั่งลงพลางสูดลมหายใจลึก เงียบไปชั่วครู่ก่อนจะเริ่มพูด น้ำเสียงแผ่วต่ำเหมือนระวังไม่ให้ใครนอกห้องได้ยิน “ข่าวที่กูบอกว่ากำลังตามอยู่…เรื่องขุนเขา กูเพิ่งได้มา” เขื่อนเงยหน้ามองเพื่อนสนิท สายตาคมกริบเริ่มมีประกายขึ้นมาเล็กน้อย ทิวาค่อย ๆ ดึงเอกสารออกจากซอง รูปถ่ายสองสามใบปรากฏบนโต๊ะ เป็นภาพถ่ายจากมุมไกลเบลอเล็กน้อย แต่ก็พอมองออกว่าเป็นขุนแผนที่กำลังพูดคุยกับคนกลุ่มหนึ่งที่แต่งตัวคล้ายลูกน้องเก่าแก๊งประจิม “มีข่าวลือว่าขุนแผนเป็นคนสั่งฆ่าล้างบางพวกแก๊งประจิม ญาติของขุน

  • เขื่อนขุนเขา    เขื่อนขุนเขา 15

    — หนึ่งสัปดาห์ต่อมา บ้านหลังใหญ่ยามเช้า แสงแดดอ่อนกระทบกระจกบานใหญ่ภายในโถง ขุนเขาในชุดเสื้อคลุมบ้านสีขาวสะอาดเดินออกจากประตูบ้านอย่างระมัดระวัง มือหนึ่งประคองหน้าท้องที่เริ่มนูนชัด เข้าเดือนที่ 4 แล้ว อาการแพ้ท้องยังคงหนักหน่วงกว่าปกติ ตรงหน้าบันได ขุนแผนยืนแต่งตัวเต็มยศ — สูทสีกรมท่าตัดเข้ารูป รองเท้าหนังขัดเงา ผมจัดทรงเนี้ยบผิดจากวันปกติ ใบหน้าคมเข้มมีแววลังเลกับการต้องออกไปโดยทิ้งน้องชายไว้ที่บ้าน ขุนเขาเดินมายืนตรงหน้าเขา ใบหน้ายิ้มจางๆ แม้ร่างกายจะอ่อนแรง “ไปเถอะพี่แผน เดี๋ยวงานฉลองบริษัทเดือนหน้า ผมไปด้วยแน่นอน” ขุนแผนสบตาน้องนิ่งอยู่ครู่ ก่อนพยักหน้าอย่างจำยอม มือหนายกขึ้นลูบหน้าท้องนุ่มของขุนเขาอย่างเบามือ ริมฝีปากกระซิบเสียงนุ่ม “ไม่ต้องขอโทษนะ… อยู่บ้านพักผ่อนให้ดี เป็นเด็กดีนะครับตัวเล็ก ลุงจะรอหนูออกมา” ขุนเขาหัวเราะน้อยๆ ยิ้มอ่อนโยนให้คนพี่ ก่อนจะยืนมองแผ่นหลังกว้างของขุนแผนเดินออกจากบ้านขึ้นรถไป เช้านั้น ขุนเขาเดินเข้าครัวบอกป้าแม่บ้านเสียงใส “ป้า ผมอยากกินของเปรี้ยวมากๆ เลย มะม่วงเปรี้ยวมีไหม” ป้าแม่บ้านหัวเราะเอ็นดูแล้วจัดมะม่วงเปรี้ยวแช่เย็นมา

  • เขื่อนขุนเขา    เขื่อนขุนเขา 14

    หนึ่งเดือนต่อมา ร่างกายของขุนเขาฟื้นตัวเร็วกว่าที่แพทย์คาดการณ์ไว้มาก แผลผ่าตัดสมานดี กล้ามเนื้อเริ่มกลับมาแข็งแรง แม้ยังต้องระวังแผลลึกกับอาการอ่อนเพลีย แต่หมออนุญาตให้กลับบ้านได้แล้วในที่สุด เช้านั้น ขุนแผนในชุดสูทสีเข้มเรียบหรู ยืนรอรับน้องชายที่หน้าโรงพยาบาลเช่นเคย รอยยิ้มอ่อนโยนแตะมุมปาก ร่างสูงโปร่งผึ่งผายสะท้อนแสงแดดอ่อนของฤดูหนาว ขุนเขาเดินออกมาช้า ๆ ด้วยท่าทางสงบในเสื้อเชิ้ตบางคลุมทับด้วยคาร์ดิแกนไหมสีอ่อน ใบหน้าหวานซีดจางแต่มีรอยสีชมพูระเรื่อกลับคืนมาเล็กน้อย “กลับบ้านกันนะ” เสียงนุ่มของขุนแผนเอ่ย ขณะยื่นมือมาช่วยประคองน้อง รถยนต์เบนท์ลีย์สีดำเงาวาวแล่นผ่านถนนส่วนตัวที่ทอดยาวเกือบหนึ่งกิโลเมตร สองข้างทางเป็นแนวต้นสนและไม้ประดับนับสิบสายพันธุ์ที่ตัดแต่งอย่างประณีต แดดยามสายกระทบยอดไม้เป็นประกายระยิบระยับ บ้านหลังใหญ่…ไม่สิ คฤหาสน์ 4 ชั้นตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้า ตัวอาคารสไตล์นีโอคลาสสิก ผนังหินอ่อนสีขาวอมเทา แกะสลักลวดลายงดงาม ซุ้มโค้งและเสาคอรินเธียนเรียงรายอย่างสง่างาม รอบบ้านมีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ น้ำใสจนเห็นพื้นกระเบื้องโมเสก สวนหย่อมกว้างมีศาลาไม้สักและเส้นท

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status