Share

เงารักนายมาเฟีย
เงารักนายมาเฟีย
Author: พีชชี่

บทที่ 1

Author: พีชชี่
เป็นเวลาห้าปีที่ฉันมีสองหน้าที่ เป็นช่างบูรณะงานศิลปะของหัวหน้าแก๊งมาเฟียดันเต้ คอสเตลโล และเป็นความลับของเขา เป็นคนรักของเขา

จากนั้นครอบครัวของเขาก็บีบบังคับให้หมั้นหมาย และในคืนงานเลี้ยงนั้นเอง ที่ฉันตัดสินใจจะจากชายที่ฉันไม่ควรจะได้ครอบครองไป

“ฉันขอลาออกค่ะ” ฉันยื่นใบลาออกให้อันโตนิโอ หัวหน้าพ่อบ้านของเขา

“แน่ใจหรือครับ?” อันโตนิโอทำหน้าแปลกใจ “นายท่านพอใจในผลงานของคุณเสมอมา”

พอใจ?

ฉันเกือบจะหัวเราะออกมา

เขาคือดันเต้ คอสเตลโล หัวหน้าแก๊งมาเฟีย ผู้นำของแก๊งอาชญากรรมที่ทรงอิทธิพลที่สุดในนิวยอร์ก

ส่วนฉันเป็นแค่เด็กสาวที่เขาให้การสนับสนุนด้านการศึกษา เป็นช่างบูรณะงานศิลป์ที่ต้องที่ทำงานใช้หนี้ เหมือนต้องโทษจำคุกตลอดชีวิต

เรามาจากคนละโลกกัน

“ฉันตัดสินใจแล้วค่ะ” เสียงของฉันนิ่งกว่าที่คิด “ฉันใช้หนี้หมดแล้ว ถึงเวลาที่ฉันต้องไปแล้วค่ะ”

“เรื่องนี้ต้องได้รับการอนุมัติจากนายท่านเป็นการส่วนตัวครับ”

“งั้นก็บอกเขาเถอะ” ฉันหันไปทางประตู “ฉันรอได้ไม่นานหรอกค่ะ”

ขณะเดินออกจากคฤหาสน์ ฉันสัมผัสสร้อยคอที่ลำคอ มันมีจี้รูปเกรียงเล็ก ๆ สำหรับผสมสี

มันราคาถูก แต่มีความหมาย

ฉันซื้อมันให้ตัวเองตอนเรียนจบจากโรงเรียนศิลปะ

มันเป็นเครื่องเตือนใจถึงชีวิตที่ฉันควรจะมี ชีวิตที่ปกติธรรมดา

เขาพบฉันในคืนที่ฝนตกเมื่อสิบปีก่อน และเขาให้การสนับสนุนด้านการศึกษาแก่ฉัน

ฉันไม่เคยคิดเลยว่าระหว่างเราจะมีอะไรเกินเลยไปกว่านั้น

ตอนนั้น ฉันมีเพียงความซาบซึ้งและรู้สึกเป็นหนี้บุญคุณ หลังเรียนจบ ฉันจึงตกลงทำงานให้เขาเพื่อชดใช้ “ความเมตตา” อันใหญ่หลวงของเขา

ฉันรู้ว่าตัวเองไม่สามารถเป็นส่วนหนึ่งในโลกของเขาได้

แต่คืนหนึ่ง ดันเต้เมามาย ริมฝีปากของเขาสัมผัสผิวฉัน และฉันก็ไร้เรี่ยวแรงที่จะต้านทาน

ห้าปีต่อมา ฉันต้องเผชิญหน้ากับความจริง ว่าฉันตกหลุมรักเขา

แต่ฉันต้องไปแล้ว

ฉันกลับไปที่อะพาร์ตเมนต์และบรรจงวางภาพสีน้ำมันภาพสุดท้ายที่บูรณะเสร็จแล้วลงในกล่องป้องกัน

ขณะที่กำลังจะเก็บของ ข้อความจากดันเต้ก็เข้ามา

[เธอสัญญาแล้วนี่ว่าจะมางานหมั้นของฉัน ฉันส่งชุดไปให้แล้ว]

มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น ลูกน้องของดันเต้คนหนึ่งยืนอยู่ตรงนั้นพร้อมชุดราตรีผ้าซาตินสีขาว

“นายท่านกำลังรอคุณอยู่ครับ คุณผู้หญิง”

เขาต้องการให้ฉันไปดูเขามีความสุขกับผู้หญิงคนอื่นอย่างนั้นเหรอ?

ฉันกลั้นน้ำตาไว้และเปลี่ยนไปสวมชุดนั้น

ความสัมพันธ์นี้ต้องจบลง มันต้องการฉากจบที่ชัดเจน

รถจอดที่สถานที่จัดงาน ฉันสูดหายใจลึก แล้วก้าวลงจากรถ

หอแชมเปญส่องประกายภายใต้โคมระย้าคริสตัล แขกในชุดราคาแพงหัวเราะและพูดคุยกัน

ภาพวาดทุกภาพบนผนังล้วนเคยผ่านมือฉันมาก่อน ถูกฉันบูรณะ และกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง

แต่คืนนี้ ฉันเป็นเพียงคนนอก

ฉันกวาดสายตามองหาใบหน้าที่คุ้นเคยในห้อง

แล้วฉันก็เห็นเขา

ดันเต้ยืนอยู่กลางห้อง ชุดทักซิโด้สีดำทำให้เขาดูสูงและน่าเกรงขามยิ่งขึ้น

แขนของเขากอดสาวสวยคนหนึ่งเอาไว้ เธอคืออิซาเบลล่า รอสซี่ คู่หมั้นของเขา

เธอสวมชุดราตรีสีแดงเข้ม ดุจกุหลาบที่กำลังเบ่งบาน

ฉันรู้สึกว่าหน้าอกของฉันบีบรัดแน่น

ฉันจำคืนนั้นเมื่อสามเดือนก่อนได้ ตอนที่เขากอดฉันเอาไว้

เขาขยับเข้าออกในตัวฉันอย่างรุนแรงและรวดเร็ว ยังจูบซับน้ำตาของฉันด้วย

เขาบอกว่าไม่อยากแต่งงานกับอิซาเบลล่า แต่โดนครอบครัวบังคับ เขาบอกว่าอยากอยู่กับฉันตลอดไป

เช้าวันรุ่งขึ้น เขากลับทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นและประกาศการหมั้น

“ดูสิว่าใครมา” เสียงแหลมดังมาจากด้านหลังฉัน

ฉันหันไป อิซาเบลล่ากำลังเดินมาทางฉันพร้อมแก้วไวน์แดงหนึ่งแก้ว ใบหน้ายิ้มแย้มตามมารยาททางสังคม

“เอลาร่า คืนนี้เธอดู… สวยจนตะลึงเลยนะ” เสียงของเธอหวานจนเลี่ยน

“ขอบคุณค่ะ” ฉันตอบสั้น ๆ

“สีขาวเหมาะกับเธอดี” เธอกล่าว พลางหยุดยืนอยู่ตรงหน้าฉัน แววตาฉายไปด้วยความร้ายกาจ “สีที่บริสุทธิ์สำหรับอาชีพที่บริสุทธิ์ใช่ไหม? การบูรณะภาพวาดเก่า ๆ เป็นงานที่… สง่างามจริง ๆ”

ฉันรู้สึกว่าสายตาของคนทั้งห้องหันมามองเรา “อิซาเบลล่า ฉันแค่มาเพื่อ…”

“มาเพื่ออะไร?” เธอพูดตัดบทฉัน เสียงของเธอก็แหลมปี๊ดขึ้นทันที “มาทำลายงานหมั้นของฉันเหรอ? มาย้ำเตือนคู่หมั้นของฉันว่าเขายังมีเมียเก็บอยู่ใช่ไหม?”

บรรยากาศหยุดชะงักงัน

การสนทนาทั้งหมดหยุดลง

ทุกคนจ้องมอง

เมียเก็บ

คำนั้นเหมือนมีดกรีดเข้าที่หัวใจฉัน

“ฉันไม่ได้…”

ทันใดนั้น อิซาเบลล่าก็สาดไวน์ใส่ฉัน

ของเหลวเย็นเยียบเปียกชุ่มผ้าซาตินสีขาว คล้ายดอกไม้สีแดงเลือดกำลังบานบนหน้าอกฉัน

ทุกสิ่งรอบกายเงียบกริบ

“อุ๊บ ตายจริง ฉันขอโทษ” อิซาเบลล่าอ้าปาก พลางยกมือปิดปากด้วยท่าทางตกใจเกินจริง “มือฉันลื่นไปหน่อย ก็เหมือนกับที่บางคนชอบ “ลื่น” เข้าไปในที่ที่ไม่ควรอยู่ อย่างเช่นบนเตียงของนายท่าน”

ผู้คนเริ่มซุบซิบ

ฉันได้ยินคำว่า “เมียเก็บของนายท่าน” และ “ใช้ร่างกายชดใช้หนี้”

ฉันยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น รู้สึกถึงไวน์ที่หยดจากชุดลงสู่พื้น

ในเวลานั้นเอง ฝูงชนก็แหวกออก

ดันเต้เดินเข้ามา

หัวใจของฉันเต้นระรัว

เขาจะปกป้องฉันไหม?

เขาจะบอกทุกคนไหมว่าฉันไม่ใช่แค่เมียเก็บ แต่เป็นผู้หญิงที่เขารัก?

เขาหยุดอยู่ตรงหน้าเรา สายตาของเขามองสลับระหว่างฉันกับอิซาเบลล่า

“เกิดอะไรขึ้น?” เสียงของเขาสงบ เย็นชา เป็นความเย็นชาเดียวกับเช้าวันที่เขาตื่นขึ้นมาข้างฉัน

“ที่รักคะ ฉันขอโทษจริง ๆ” อิซาเบลล่ารีบพุ่งตัวเข้ากอดเขา “ฉันแค่พยายามทักทายคุณแวนซ์ แล้วบังเอิญชนเธอเข้า”

ดวงตาของดันเต้ ดวงตาเดียวกับที่จ้องมองฉันบนเตียงและกระซิบคำว่ารัก ตอนนี้กลายเป็นน้ำแข็ง

“คุณคอสเตลโลคะ” ฉันเริ่มพูด เสียงสั่นเครือ “ฉันอธิบายได้…”

“ไม่จำเป็น” เขาตัดบทฉัน จากนั้นหันไปพูดกับฝูงชน เขาหยุดชั่วครู่ สายตากวาดมองทั่วห้องที่เงียบงัน จากนั้นเขาก็พูดถ้อยคำที่ทำลายเศษซากหัวใจที่เหลืออยู่ของฉัน

“คุณแวนซ์เป็นลูกจ้าง” เขากล่าว เสียงของเขาสงบอย่างน่ากลัว “ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น ความสัมพันธ์ของเธอกับครอบครัวนี้เป็นไปเฉพาะทางด้านหน้าที่การงานอย่างเคร่งครัด เธอไม่มีสิทธิ์จะมาทำให้งานเลี้ยงนี้วุ่นวายหรือทำให้คู่หมั้นของฉันไม่สบายใจ”

โลกเริ่มหมุน ดวงตาของเขาเย็นชามาก ราวกับจะฉีกฉันเป็นชิ้น ๆ ได้ แต่เขาเป็นคนขอให้ฉันมา...

“เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย” เสียงของดันเต้ดังไปทั่วห้อง “พาเธอออกไป” อิซาเบลล่ายิ้มเยาะอย่างพึงพอใจในอ้อมแขนเขา

ฉันมองพวกเขา มองชายที่ฉันบอกตัวเองว่าห้ามรัก แต่ก็ตกหลุมรักมายาวนานตลอดห้าปี

เขากอดผู้หญิงคนอื่น ทำเป็นมองไม่เห็นความอับอายของฉัน

การ์ดเริ่มเดินเข้ามาหาฉัน

“ไม่ต้องลำบากหรอกค่ะ” ฉันพูด ยืดหลังตรง “ฉันไปเองได้”

ฉันหันหลังและเดินออกไป

ที่ด้านหลัง ฉันได้ยินเสียงหวาน ๆ ของอิซาเบลล่า “ที่รักคะ ไปเต้นรำกันเถอะค่ะ"

ฉันผลักประตูออกและพบกับม่านฝนอันเย็นยะเยือก

ฉันยืนอยู่ตรงนั้น ปล่อยให้มันชะล้างน้ำตาบนใบหน้าและไวน์บนหน้าอกฉันไป

สิบปีก่อน ฉันสะดุดล้มกลางถนน รถของเขาชนฉัน

ฉันจำได้ว่านอนอยู่บนพื้นยางมะตอยเปียก ๆ สายฝนซัดสาดใส่ฉัน ฉันพร้อมที่จะตายทุกเมื่อ

เขายืนอยู่เหนือร่างฉันเหมือนพระเจ้า เป็นผู้กอบกู้จากด้านมืดที่ดึงฉันออกจากเศษซากของชีวิต

แต่คืนนี้ เขาคือคนที่โยนฉันกลับเข้าไปในกองไฟ

เมื่อกลับมาถึงอะพาร์ตเมนต์ ฉันเพิ่งเปลี่ยนชุดที่เปียกเสร็จ โทรศัพท์ก็สั่น

มีข้อความเข้ามา

[อย่ามาทำลายการแต่งงานของฉันกับอิซาเบลล่า เธอก็รู้ผลที่จะตามมา คืนเหล่านั้นเป็นความผิดพลาด ลืมมันไปซะ - ด.ค. ]

ฉันจ้องมองหน้าจอ หัวใจของฉันกลายเป็นน้ำแข็ง

ความผิดพลาด

ทุกสิ่งที่เราเคยมีร่วมกันเป็นเพียงความผิดพลาด

นิ้วของฉันลอยอยู่เหนือหน้าจอเป็นเวลานาน ก่อนที่ฉันจะตอบกลับไปในที่สุด

[ไม่ต้องห่วงค่ะ คุณคอสเตลโล ฉันเลิกรักคุณแล้ว]

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เงารักนายมาเฟีย   บทที่ 21

    มุมมองของเอลาร่าหกเดือนต่อมา ที่ปารีส ในวันแต่งงานของฉันฉันสวมชุดที่จูเลียนช่วยออกแบบ ผ้าลูกไม้เรียบ ๆ ประดับด้วยไข่มุกเม็ดเล็ก ๆ ราวกับน้ำค้างยามเช้าก่อนพิธีจะเริ่ม มีพัสดุปริศนาอีกกล่องมาถึงข้างในเป็นเครื่องประดับที่ออกแบบโดยอัลฟองส์ มูชา ปรมาจารย์ศิลปะด้านอาร์ตนูโว เป็นชุดอัญมณีอเล็กซานไดรต์ ซึ่งมีค่าประเมินไม่ได้อเล็กซานไดรต์เปลี่ยนสีเมื่ออยู่ใต้แสงที่ต่างกัน “มรกตในเวลากลางวัน ทับทิมในเวลากลางคืน” เป็นสัญลักษณ์ของชีวิตคู่ที่ซับซ้อนและการคืนดีกันในที่สุดการ์ดใบเล็กมีข้อความเดียวที่เขียนด้วยลายมืออันเฉียบคมที่คุ้นเคยของเขา ‘แด่ผู้หญิงที่เธอควรจะเป็นมาตลอด’ฉันรู้ว่านี่คือการอำลาครั้งสุดท้ายของเขาฉันปิดกล่องและวางมันไว้อีกด้าน จากนั้นฉันก็สวมสร้อยคอรูปดอกทานตะวันเรียบง่ายที่จูเลียนแกะสลักให้ฉันสมบัติที่แท้จริงของฉัน ชนิดที่ไม่จำเป็นต้องอาศัยความมืดมิดในการเปล่งประกายภายในโบสถ์ ฉันเดินลงจากทางเดินกลางโดยมีแม่ของฉันควงแขนมา มุ่งหน้าไปหาจูเลียนที่แท่นพิธีเมื่อบาทหลวงถามว่าฉันจะรับเขาเป็นสามีหรือไม่ ฉันมองเข้าไปในดวงตาของเขาที่เต็มไปด้วยความรัก และตอบด้วยความมั่นใจอ

  • เงารักนายมาเฟีย   บทที่ 20

    มุมมองของเอลาร่าสองเดือนต่อมา จูเลียนกับฉันอยู่ที่สนามบินเรากำลังจะย้ายไปปารีสเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่โดยสมบูรณ์เมืองในออเรกอนสวยงาม แต่การปรากฏตัวของดันเต้เป็นเหมือนหยดหมึกที่เปื้อนมหาสมุทรทั้งหมดฉันต้องการการตัดขาดที่หมดจด ต้องการเริ่มต้นใหม่ที่แท้จริงดันเต้ไม่ปรากฏตัวอีกเลยหลังจากคืนนั้นแต่ “ของขวัญ” แห่งการไถ่บาปของเขาไม่เคยหยุดหย่อนภาพร่างงานออกแบบซึ่งฉันคิดว่าถูกทำลายไปนานแล้ว ได้รับการซ่อมแซมเอกสารสำหรับมูลนิธิศิลปะที่จัดตั้งขึ้นในนามของฉันแม้แต่โฉนดโรงแรมแกรนด์โคสตัลในชิคาโกของขวัญแต่ละชิ้นเป็นเหมือนโซ่ตรวนอีกเส้น ที่พยายามดึงฉันกลับไปสู่อดีตฉันส่งทุกอย่างคืนไป โดยไม่ได้เปิดดู พร้อมแนบข้อความเดียวไป【ฉันไม่ต้องการอะไรจากคุณ ความผิดของคุณคือภาระที่คุณต้องแบกรับเอง ปล่อยฉันไปตามลำพัง】ก่อนขึ้นเครื่อง จูเลียนไปตรวจสอบกระเป๋าเดินทางของเรา ฉันนั่งคนเดียวในพื้นที่รอจากระยะไกล ฉันเห็นเขาเขายืนอยู่อีกฝั่งหนึ่งของจุดตรวจรักษาความปลอดภัย สวมเสื้อโค้ทสีดำเรียบ ๆไม่มีบอดี้การ์ด เขาดูผอมลงมาก ดูอ่อนล้าเขาดูเหมือนรูปปั้นที่ถูกทิ้งไว้กลางสายฝน ดูสึกกร่อน ถูกลืม แ

  • เงารักนายมาเฟีย   บทที่ 19

    มุมมองของดันเต้เมืองชายฝั่งในรัฐออเรกอนเป็นเวลาสามวันที่ผมเป็นเหมือนผีในชีวิตใหม่ของเธอ เป็นนักแอบมองในเงามืด กระหายที่จะได้เห็นเธอเพียงสักแวบหนึ่งผมเห็นเธอ ผมของเธอสั้นและดูเฉียบคมขึ้น ตอนนี้เธอสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวเรียบง่ายแสงอาทิตย์ยามบ่ายสาดส่องไปทั่วใบหน้าที่กำลังจดจ่อของเธอ เคลือบคลุมเธอด้วยรัศมีสีทองเธอไม่ใช่ผู้หญิงที่ดูประหม่าอยู่เสมอข้างกายผมแล้ว เธอเปล่งประกายผมเห็นผู้ชายใจดีคนหนึ่งมารับเธอจากที่ทำงานทุกเย็นเขาจะรับกระเป๋าเครื่องมือจากมือเธอ แล้วกอบกุมมือเธอไว้ในมือเขาเธอจะประสานนิ้วมือกับเขา ซึ่งเป็นไปอย่างธรรมชาติผมเห็นพวกเขาไปซื้อของที่ซูเปอร์มาร์เก็ต เถียงกันเล่น ๆ เรื่องยี่ห้อนมทุกรอยยิ้มที่เธอมอบให้เขาคือมีดร้อน ๆ ที่บิดคว้านอยู่ในท้องของผมความหึงหวงเป็นดั่งเถาวัลย์พิษ รัดหัวใจผมจนแทบหายใจไม่ออกแต่ในขณะเดียวกัน ความรู้สึกพึงพอใจอันน่าสะพรึงกลัวก็ท่วมท้นเข้ามาเธอสบายดี เธอมีความสุข เธอมีชีวิตอยู่จนกระทั่งคืนที่มีหิมะตกคืนนั้นในวันเกิดของเธอผมมองดูเขาขอเธอแต่งงาน ผ่านหน้าต่างผมมองดูเขาจูบเธออย่างอ่อนโยนและผมมองดูเธอยกปลายเท้าขึ้นเพื่อรับจู

  • เงารักนายมาเฟีย   บทที่ 18

    มุมมองของดันเต้มือของผมคลายออกปืนลูกโม่ชุบทองที่กำลังจะตัดสินชะตากรรมของอิซาเบลล่าตกลงกระทบพื้นอิซาเบลล่ารีบคว้ามันไว้ราวกับเป็นสายใยสุดท้ายของชีวิตเธอคลานเข้ามากอดขาผม ใบหน้าเต็มไปด้วยน้ำตาและน้ำมูก “ดันเต้! ดันเต้ ฟังฉันนะ! ฉันรู้ว่าเธออยู่ที่ไหน! ฉันรู้ว่าเธออยู่ที่ไหน!”ผมค่อย ๆ ก้มลงมองผู้หญิงที่น่าสมเพชที่เท้าผม ดวงตาของผมเย็นชาจนกลายเป็นน้ำแข็ง“พูดอีกทีสิ”“ฉันรู้ว่าเธออยู่ที่ไหน!” อิซาเบลล่าคิดว่าเธอเจอข้อต่อรองแล้ว เธอเงยหน้าขึ้นอย่างกระตือรือร้น “คนของฉันพบเธอก่อนคนของคุณอีก! ที่เมืองเล็ก ๆ ริมชายฝั่งในออเรกอน เธอเปลี่ยนชื่อเป็นเอเลน่า มอร์ริสัน และเปิดสตูดิโอออกแบบ! ดันเต้ ฉันรู้ทุกอย่าง!”มือที่มองไม่เห็นบีบรัดหัวใจของผม บีบจนมันแทบจะหยุดเต้นเธอไม่ได้แค่เจอเอลาร่าจากสีหน้าของเธอ มันมีอะไรมากกว่านั้นมาก“เธอ ทำ อะไร กับ หล่อน?” เสียงของผมคำรามต่ำ แต่ละคำราวกับเป็นก้อนหินหนัก ๆ ที่สัญญาว่าจะบดขยี้เธอดวงตาของอิซาเบลล่าเหลียวมองอย่างประหม่า เธอเห็นแววสังหารในสายตาของผมเธอไม่กล้าซ่อนอะไรอีกแล้ว เธอสารภาพทุกอย่าง “ฉัน... ฉันแค่ให้คนโพสต์ภาพเก่า ๆ และข่าวของเ

  • เงารักนายมาเฟีย   บทที่ 17

    มุมมองของดันเต้ผมใช้เวลาสองปีในการสานแหขนาดมหึมา เพื่อดักตระกูลรอสซี่ไว้ผมตัดเส้นทางธุรกิจของพวกเขา หนุนหลังศัตรูของพวกเขา และปล่อยให้พวกเขาตายอย่างช้า ๆ อย่างทรมานผมคิดว่าผมกำลังทำเพื่อศักดิ์ศรีของตัวเอง เพื่อชื่อเสียงของตระกูลคอสเตลโลจนกระทั่งลูก้าวางรายงานการสืบสวนที่มีอายุสองปีที่เต็มไปด้วยฝุ่นไว้ตรงหน้าผม“นายท่านครับ ตามผลการค้นพบล่าสุดของเรา... ภาพหลุดในงานพิธีที่โรงแรม และเกมรัสเซียนรูเล็ตต์... พวกมันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ”ผมเงยหน้าขึ้น แววตาเต็มไปด้วยความสับสนลูก้ากลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก เสียงของเขาเคร่งเครียด “ทุกอย่างเป็นฝีมือของอิซาเบลล่าครับ นายท่าน เธอติดสินบนทีมงานฝ่ายเทคนิคเพื่อประจานคุณแวนซ์ต่อสาธารณะ เธอยังสมคบคิดกับคุณวาเลนติเพื่อจัดฉากเกมนั้นขึ้นมา เธอปั่นหัวคุณ ใช้คุณเป็นอาวุธเพื่อทรมาน… และอาจถึงขั้นฆ่า… เอลาร่า”เพล้งแก้ววิสกี้ในมือผมแตกละเอียดเศษแก้วบาดลึกเข้าไปในฝ่ามือ เลือดผสมกับเหล้าหยดลงบนพรมราคาแพง แต่ผมไม่รู้สึกอะไรเลยจิตใจของผมว่างเปล่าตลอดเวลาที่ผ่านมา ผมคิดว่าผมเป็นคนควบคุมทุกอย่าง แต่ผมเป็นเพียงเบี้ยในเกมฆาตกรรมของอิซาเบลล่าเท่านั้น

  • เงารักนายมาเฟีย   บทที่ 16

    มุมมองของดันเต้สองเดือนก่อน สายโทรศัพท์ภายในในห้องทำงานของผมดังขึ้น“นายท่านครับ” เสียงของลูก้าฟังดูลังเล “เราเจอใครบางคนในโรมครับ... ใครบางคนที่ควรจะตายไปแล้วเหมือนมีมือมาบีบรัดรอบหัวใจของผม มันบีบแน่น จนเลือดในกายของผมกลายเป็นน้ำแข็ง"ใคร?” ผมได้ยินเสียงของตัวเองที่อยู่ไกลออกไป ราวกับว่าเป็นเสียงของคนอื่น“อันโตนิโอ ริชชี่”สามวันต่อมา ในเซฟเฮาส์ที่ไม่มีหน้าต่างนอกนิวยอร์ก ผมได้พบกับอันโตนิโอการ์ดสองคนลากเขาเข้ามา เขาเป็นเพียงโครงกระดูกในเสื้อเชิ้ตหลวม ๆ... แต่ดวงตาของเขายังคงลุกโชนด้วยแววท้าทาย เขาดูเหมือนคนที่ยอมรับชะตากรรมวาระสุดท้ายของตัวเองแล้วผมโบกมือให้การ์ดออกไป เราอยู่กันตามลำพังในห้องคอนกรีตขนาดใหญ่ผมไม่พูดอะไร ผมแค่เดินวนรอบตัวเขา เหมือนนักล่าที่กำลังประเมินเหยื่อ อากาศหนักอึ้งพอที่จะระเบิดได้ปืนของผมวางอยู่บนโต๊ะ โลหะเย็น ๆ สะท้อนแสงสีขาวนวลจากหลอดไฟดวงเดียวที่อยู่เหนือศีรษะ“บนเครื่องบิน...” ในที่สุดผมก็พูด เสียงของผมแหบพร่า “เธอกลัวไหม?”อันโตนิโอเงยหน้าขึ้น แววตาประหลาดใจวูบหนึ่ง ก่อนถูกแทนที่ด้วยความเกลียดชังที่รุนแรงและบาดลึกอย่างรวดเร็ว“กลัวเหรอ?

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status