แม้เมื่อคืนจะไม่ได้ดื่มจนเมามาก เขายังพาตัวเองกลับมาคอนโดได้อย่างปลอดภัยโดยไม่ต้องพึ่งพาใครให้ช่วย แต่อย่างไรปริมาณแอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไปก็ล้วนส่งผลบางอย่างกับร่างกายของคนที่บริโภคมันเสมอ
ในตอนนี้ทิพากรจึงต้องมาชดใช้กรรมด้วยการจ้ำอ้าวตรงไปยังบริษัทซึ่งเป็นลูกค้าที่เขาจะเข้าไปดูแลโปรเจกต์ให้ อาการมึนหัวหลังตื่นนอนเมื่อเช้าหายไปตั้งแต่เขาเห็นเวลาบนหน้าปัดนาฬิกาดิจิตอลที่หัวเตียง ซึ่งมันบ่งบอกว่าเขาตื่นสายกว่าปกติมากแล้ว
ใช้เวลาไม่นานทิพากรก็ทำธุระส่วนตัวจนเสร็จ และเลือกการเดินทางในเมืองหลวงยามเช้าอันแสนวุ่นวายด้วยการขนส่งที่เร็วที่สุดเท่าที่จะหาได้...วินมอเตอร์ไซค์
“คุณทิ!”
เสียงเอ่ยทักทายจากคนในทีมเดียวกันดังขึ้นเมื่อทิพากรสาวเท้าเข้ามาถึงด้านในโถงต้อนรับของอาคารสูงซึ่งบริษัทจุดหมายปลายทางของเขาตั้งอยู่บนชั้นที่ 32
ทิพากรเอ่ยทักทายกลับไป ก่อนที่ทั้งเขาและทีมจะเดินตรงไปยังลิฟต์ เมื่อเข้ามาอยู่ภายในกล้องเหล็กสี่เหลี่ยมเสียงพูดคุยก็หยุดลง ทิพากรลอบถอนหายใจพรางจัดเสื้อคลุมให้ดูเรียบร้อย ก่อนจะถกปลายแขนเสื้อคลุมขึ้นมาเล็กน้อยเพื่อดูเวลาจากนาฬิกาข้อมือ
โชคดีที่ยังไม่สายมากนัก
ติ๊ง
เสียงร้องเตือนดังขึ้นในลิฟต์ ทิพากรเหลือบมองเลขแสดงชั้น หน้าจอแสดงตัวเลข 17 เพียงเสี้ยวนาทีประตูลิฟต์ก็เปิดออกเพื่อต้อนรับผู้โดยสารคนใหม่ที่จะเข้ามาร่วมยืนเบียดเสียดในกล่องเหล็กนี้
ทิพากรกำลังจะก้าวเท้าถอยหลังให้ตัวเองไปชิดกับผนังลิฟต์ด้านข้างเพื่อเพิ่มพื้นที่ให้ผู้มาใหม่ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ขยับตัวแม้แต่เซนติเมตรเดียว เพราะคนที่ก้าวเข้ามายืนตรงหน้านั้นคือ...
คุณกานต์ หรือ คุณอติกานต์ พงศ์รัตนา
เจ้าของบริษัทที่เป็นลูกค้าของเขา และที่สำคัญเป็นคนที่เขาเคยปฏิเสธคำสารภาพรักออกไปทั้งที่ในเกือบทุกค่ำคืนยังคงจินตนาการถึงและครางเรียกชื่อคนคนนี้ซ้ำ ๆ อย่างหน้าไม่อาย
ในจังหวะที่สมองของทิพากรยังประมวลสถานการณ์ไม่ทันว่าต้องทำอย่างไรต่อ สายตาของเขาก็สบเข้ากับดวงตาคมเฉี่ยวของคนในความคิด คุณกานต์มองเขานิ่งอยู่อย่างนั้นไม่พูดอะไร ไม่แสดงสีหน้าอะไร นั่นยิ่งทำให้ทิพากรรู้สึกราวกับร่างกายโดนแช่แข็งทำอะไรไม่ถูกไปกันใหญ่
ความรู้สึกผิดที่ไม่มีที่มาที่ไปเกิดขึ้นมาในทันที บางทีเขาควรเอ่ยทักทายอีกฝ่ายออกไปหรือเปล่านะ ทำเหมือนว่าเรื่องราวในอดีตได้ผ่านพ้นจากใจของเขาไปแล้ว หรือว่าเขาควรปล่อยให้ความเงียบทำงานอย่างนี้ต่อไป
“สวัส...”
“น้องทิ ผมข้างหลังเด้งเยอะเลย มา เดี๋ยวพี่จัดทรงให้ ออกไปแบบนี้เดี๋ยวลูกค้าตกใจแย่”
ทิพากรปิดคำทักทายเบา ๆ ของตนไว้เพียงเท่านั้น เมื่อพี่คนหนึ่งในทีมหันมาพูดกับเขาเรื่องทรงผมลูกเป็ดซึ่งคงเกิดจากการนั่งวินมอเตอร์ไซค์สายด่วนเมื่อเช้านี้ เขาเอ่ยขอบคุณและพยักหน้าเพียงเล็กน้อย ทิพากรขยับตัวให้รุ่นพี่สาวจัดแต่งทรงผมเขาให้เรียบร้อยได้ถนัดขึ้น ในขณะที่หันไปมองคนที่ยังเอ่ยทักทายไม่จบอีกครั้ง แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้เป็นจุดสนใจจากดวงตาคมอีกแล้ว
ใบหน้าหล่อเหลาหันมองตรงไปยังหน้าลิฟต์ จากตำแหน่งที่ยืนและความต่างของส่วนสูง ทิพากรเห็นเพียงเสี้ยวหน้าด้านข้างของอติกานต์เท่านั้น แม้เพียงแค่เสี้ยวหน้าด้านข้างชายคนนี้ก็ยังจัดว่าเป็นลูกรักพระเจ้าได้อย่างสมบูรณ์แบบ สันกรามคมชัดกับจมูกโด่งโดดเด่นยิ่งทำให้คนตรงหน้าน่ามองยิ่งขึ้นไปอีก
ทิพากรเผลอมองสำรวจอีกฝ่ายอย่างหลงใหลและนึกชื่นชมในใจจนเมื่อประตูลิฟต์เปิดรับผู้โดยสารอีกครั้งตำแหน่งการยืนในลิฟต์จึงไม่สะดวกต่อการลอบมองอีกต่อไป ในตอนนี้คุณกานต์ถอยหลังจนมาหยุดยืนข้างตัวเขา ทิพากรใจเต้นแรงอีกครั้งเมื่อหลังมือของร่างใหญ่เฉียดสัมผัสกับหลังมือของตน
ความอุ่นจากผิวเนื้อของอติกานต์ล่อลวงจิตใจของทิพากรให้เผลอขยับนิ้วชี้ไปเกี่ยวกับนิ้วก้อยยาวอย่างลืมตัว เป็นเวลาเพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น ก่อนที่ทิพากรจะถูกปลุกจากภวังค์ด้วยเสียงกระแอมไปแผ่วเบาของเจ้าของนิ้วก้อยนั้น
อติกานต์ปรายตามองคนตัวเล็กกว่า ก่อนจะขยับมือขึ้นไปกอดอกเอาไว้แล้วเบี่ยงไหล่หันมาหาคนตัวเล็กกว่า จนเห็นว่าอีกฝ่ายยังคงยืนมองเขานิ่งด้วยสีหน้าตกใจทั้งดวงตายังไหวสั่นคล้ายกับเจ้าตัวกำลังจะร้องไห้ อติกานต์จึงพยักพเยิดหน้าให้คนตัวเล็กกว่าหันไปมองยังประตูหน้าลิฟต์ ทิพากรจึงได้เร่งรีบฝีเท้าเดินออกไป
ชั้น 32
ตลอดครึ่งเช้าทิพากรและทีมประชุมเกี่ยวกับรายละเอียดของโปรเจกต์ที่จะต้องเข้ามาดูแลซึ่งมีทีมงานของบริษัทคุณกานต์เป็นคนมาชี้แจงให้ทีมของทิพากรฟัง เมื่อทุกอย่างถูกอธิบายและซักถามกันจนจบข้อสงสัย รุ่นพี่สาวในทีมเขาจึงเอ่ยถามถึงการเซ็นสัญญาขึ้นมา
“ขอโทษนะคะ ไม่ทราบว่าคุณอติกานต์จะสะดวกเข้ามาเซ็นสัญญาเมื่อไหร่เหรอคะ” หญิงสาวถามขึ้น เพราะในตอนแรกที่ได้รับการแจ้งให้เข้ามารับฟังรายละเอียดของเนื้องาน ทางนี้บอกว่าจะมีการเซ็นสัญญาการดูแลโปรเจกต์เลย รวมถึงสัญญาในการรักษาความลับที่ทางทีมของทิพากรต้องเซ็นด้วยเช่นกัน
แต่เมื่อมาถึงกลับไม่พบแม้แต่เงาของประธานบริษัทที่มีรายชื่ออยู่ในการประชุมและเป็นเจ้าของลายเซ็นสำคัญในการประชุมวันนี้
“วันนี้คุณกานต์ติดธุระด่วนค่ะ คุณกานต์เพิ่งโทรมาแจ้งก่อนเราเริ่มประชุมไม่ถึงห้านาที คุณกานต์ฝากขอโทษทุกคนด้วยค่ะที่เข้ามาร่วมประชุมไม่ได้ แต่แจ้งไว้ว่าถ้าทางทีมเรากับทีมคุณไม่ติดขัดในข้อไหนหรือส่วนไหนของงานก็สามารถฝากเอกสารไว้ได้เลยค่ะ คุณกานต์จะเข้ามาเซ็นให้ภายหลัง แล้วจะรีบส่งเอกสารกลับไปให้ทันทีที่เสร็จค่ะ”
รุ่นพี่สาวของทิพากรยิ้มรับ คนในห้องประชุมไม่มีใครติดใจอะไร อันที่จริงมันเป็นเรื่องปกติที่คนตำแหน่งสำคัญในบริษัทเกือบทุกบริษัทมักจะงานรัดตัวจนต้องเลือกสักอย่างที่สำคัญกว่า เพียงแต่ว่า...
ทิพากรรู้ดีแก่ใจว่าคุณอติกานต์ หรือ คุณกานต์ ที่ถูกเอ่ยถึงนั้นเพิ่งจะยืนอยู่ข้างเขาในลิฟต์ตัวเดียวกันเมื่อเช้า ทั้งยังเดินตามหลังทีมเขาออกมาก่อนจะเลี้ยวไปยังห้องกระจกที่ติดฟิล์มฝ้าซึ่งอยู่ถัดห้องประชุมนี้ไปไม่ไกล
คนที่รู้จักหน้าตาของเจ้าของชื่อเป็นอย่างดีอย่างทิพากรจึงเป็นคนเดียวในทีมที่รู้ว่าคำเอ่ยอ้างเหล่านั้นล้วนแต่เป็นคำโกหกทั้งเพ
แล้วทำไมเขาถึงต้องมารู้สึกน้อยใจกับข้ออ้างของคนที่เขาปฏิเสธไปเองด้วย
ไร้สาระชะมัดไอ้ทิ
ลายเซ็นของทิพากรและคนในทีมค่อย ๆ ถูกบรรจงเซ็นลงในสัญญารักษาความลับของโปรเจกต์บริษัทคุณกานต์ เช่นเดียวกับสัญญาของบริษัทเขาก็ถูกเลื่อนไปไว้ตรงหน้าหัวหน้าทีมของอีกฝ่าย เพื่อฝากไว้ให้ประธานบริษัทเซ็นในภายหลัง
เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้วก็ถึงเวลาที่ทิพากรต้องกลับไปยังออฟฟิศของตัวเองก่อนที่จะกลับมาที่บริษัทนี้ใหม่ในอาทิตย์หน้าเพื่อเริ่มงานที่ตกลงกันไว้
คนในทีมของทิพากรกำลังพูดคุยเกี่ยวกับมื้อกลางวันก่อนกลับไปยังออฟฟิศว่าจะแวะกินที่ร้านไหนดีระหว่างที่พวกเขายืนรอลิฟต์ตัวเดียวกับที่พาพวกเขาขึ้นมาส่งยังชั้น 32 นี้
เงาสูงของบางคนเดินเฉียดผ่านหลังทิพากรไปในตอนที่ประตูลิฟต์เปิดออก ขาเรียวก้าวเข้าไปยืนในลิฟต์ตามสัญชาตญาณ ก่อนจะหันตัวกลับมายืนตรงมองออกไปยังด้านนอกของกล่องเหล็กเคลื่อนที่
ชายร่างสูงในชุดสูทภูมิฐานสีกรมท่า กำลังเดินไปยังประตูห้องประชุมที่เขาและทีมเพิ่งก้าวออกมาเมื่อไม่กี่นาทีก่อน ในตอนที่ฝ่ามือใหญ่จับที่บานประตู ใบหน้าหล่อเหลาก็หันมามองยังลิฟต์ซึ่งประตูกำลังค่อย ๆ ปิดลง
สบสายตากลมโตของคนด้านในเพียงชั่วเสี้ยวนาที แล้วบานประตูห้องประชุมก็ถูกเปิดออก เช่นเดียวกับลิฟต์ตัวนั้นที่กำลังเคลื่อนตัวลงไปยังชั้นล่างของอาคารสูง
การเผชิญหน้าคนที่ยังคงติดอยู่ในความคิดมาตลอดหลายเดือนอย่างคุณกานต์อีกครั้งทำให้ความรู้สึกโหยหาก่อตัวขึ้นมาในจิตใจของทิพากรอย่างห้ามไม่อยู่ ทั้งที่โดนเมินอย่างชัดเจน แต่ความคิดที่อยากเข้าไปร้องขอโอกาสครั้งที่สองกลับกู่ร้องดังขึ้นมาภายในใจ
อยากลงไปนั่งแทบพื้นกอดเกี่ยวลำขาแกร่งนั้นไว้แล้วขอให้ลงโทษเขาสักทีที่ปฏิเสธคำรักแสนอบอุ่นนั่นไปพร้อมกลิ่นอายกาแฟในร้านคาเฟ่
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ความคิดของทิพากรตีกันในหัว อยากย้อนเวลาขอเรียกกลับคำสารภาพรักนั้นมาครอบครอง แต่ก็จะถูกเอ่ยแย้งจากความคิดด้วยอดีตที่ผ่านมาของตัวเขาเองเสมอ
ใครจะรับได้เรื่องความชอบแสนประหลาดของตัวเขา
เวลาของครึ่งวันที่เหลือหลังกลับจากบริษัทคุณกานต์ดูจะเดินช้ากว่าตอนเช้าอยู่มาก กว่าที่เข็มนาฬิกาจะชี้บอกเวลาเลิกงานทิพากรก็แทบหมดแรงไปกับการเตรียมการที่จะต้องย้ายไปทำงานที่บริษัทลูกค้าตั้งแต่อาทิตย์หน้าเป็นต้นไป จนกว่าโปรเจกต์ที่ดูแลจะเสร็จเรียบร้อยตามที่ในสัญญาระบุ
เมื่อเป็นอิสระจากการสวมบทพนักงานออฟฟิศ ทิพากรก็พาตัวเองมายังซอยหนึ่งใกล้กับที่พักซึ่งเป็นสถานที่ประจำหากเขาเกิดความต้องการบางอย่างขึ้นมา ขาเรียวก้าวตรงไปยังร้านซึ่งประดับด้วยไฟสีม่วงและชมพูดูฉูดฉาดแต่กลับตั้งอยู่เกือบท้ายซอยซึ่งไม่ค่อยมีคนเดินไปถึงเท่าไหร่นัก
ตอนนี้เริ่มเข้าช่วงหน้าหนาวแล้วท้องฟ้าจึงมืดเร็วกว่าปกติ นั่นทำให้ทิพากรไม่เสียเวลาขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่คอนโดเหมือนทุกทีก่อนจะแวะมาร้านนี้ เขาอยากรีบซื้อของที่ต้องการให้เสร็จ เพื่อจะเอาเวลาที่เหลือไปใช้กับตัวเองในค่ำคืนนี้
ทิพากรหยุดยืนมองตู้โชว์สินค้าหน้าร้านซึ่งถูกจัดจนแน่นด้วยของชิ้นเล็กชิ้นน้อย ของในตู้โชว์จะเปลี่ยนไปทุกรอบที่ทิพากรแวะมา เขาไม่แน่ใจนักว่ามันถูกจัดใหม่ในทุกกี่วันเพราะถึงจะเรียกว่าร้านประจำ แต่เขาก็ไม่ได้มาบ่อยขนาดที่จะรู้รายละเอียด
เขารู้เพียงแต่ว่าของในตู้โชว์หน้าร้านมักจะเป็นของเข้าใหม่ ซึ่งรวมถึงถุงน่องลูกไม้สีดำประดับหมุดเหล็กแหลมที่สายรัดหนังช่วงต้นขาที่วางโชว์เด่นอยู่กลางตู้นั้นด้วย
ดวงตากลมจ้องมองรายละเอียดของสินค้าอยู่หน้าตู้โชว์ด้วยความรู้สึกตื่นเต้น ความเครียดและเรื่องมากมายในหัววันนี้ของเขาต้องการการถูกระบายออกไป และอาจจะเพราะเป็นวันที่ได้เจอหน้าคุณกานต์อีกครั้ง ภาพอีกฝ่ายที่เคยอยู่เพียงจินตนาการของเขาในยามค่ำคืนจึงชัดขึ้น ทิพากรใช้เรื่องนี้เป็นข้ออ้างให้ตัวเองในการซื้อของเล่นชิ้นใหม่ไปใช้บรรเทาความเครียด
คืนนี้...เขาต้องได้สวมถุงน่องคู่นี้
เมื่อตัดสินใจได้แล้วทิพากรจึงละความสนใจออกจากตู้โชว์เพื่อจะก้าวไปยังประตูเข้าร้าน เพียงแต่ว่า...
“คุณทิ”
“คุณกานต์!”
ภายในเพนต์เฮาส์สุดหรูชั้นบนสุดของตึกสูงระฟ้า บรรยากาศเงียบสงัดเมื่อแม่บ้านเก่าแก่ถูกขอให้ลงไปที่ชั้นล่างก่อนถึงเวลาพัก ชายหนุ่มผิวขาวก้าวเท้าเปลือยเปล่าลงมานั่งคุกเข่ารอเจ้าของบ้านอยู่ที่หน้าลิฟต์ทิพากรสวมชุดนอนสายเดี่ยวสั้นสีขาวสะอาด เช่นเดียวกับถุงน่องตาข่ายที่สวมขึ้นมาถึงต้นขา ชั้นในเล็กจิ๋วเนื้อบางทำหน้าที่โอบอุ้มส่วนอ่อนไหวเอาไว้ราวกับขนนกบนรังที่รายล้อมไข่ใบเล็กของแม่นกอย่างนุ่มนวลมือเรียวสวยสวมถุงมือโปร่งสีขาวแต่งระบายลูกไม้และโบเล็ก ๆ น่าทะนุถนอม ที่คอยังใส่ปลอกคอกระดิ่งเสียงใส รอคอยให้เจ้านายกลับมาใส่สายจูง ได้จิมอบชุดนี้ให้เขาในตอนที่ขับรถมาส่งเขาที่นี่ ก่อนที่จะขับจากไป ทิพากรก้มมองของอีกสองอย่างที่มาพร้อมกับชุดซึ่งเขายังไม่ได้สวมใส่ให้ครบบัตต์ปลั๊กหางกลมขนฟูนิ่มสีขาว เหมือนของบันนี่เพื่อนที่ชวนเขาไปงานปาร์ตี้ไม่ผิดเพี้ยน มันมาคู่กับคาดผมหูกระต่ายเข้าคู่กัน ทิพากรเขินตัวเองเล็กน้อยเมื่อต้องสวมคาดผมหูกระต่ายนี้ไว้บนหัว มือเล็กจับปลายหางนุ่มฟูอ้อมไปจ่อไว้ที่ช่องทางด้านหลัง ก่อนที่เขาจะเดินมานั่งรอที่ตรงนี้เขาได้ทำความสะอาดและหล่อลื่นช่อ
ทิพากรลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็ไม่พบใครอยู่ในห้องแล้ว บนโซฟาตัวยาวหน้าห้องมีเสื้อผ้าชุดใหม่พับวางเอาไว้ให้ เขาลุกขึ้นเดินไปหยิบมาเปลี่ยน ไซซ์พอดีจนน่าเหลือเชื่อ ดวงตากลมมองสำรวจไปรอบห้อง ทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเขากับอติกานต์เมื่อคืนก็พานให้ใจสั่นไหว ไม่รู้ทำไมความสัมพันธ์เขาถึงเดินมาถึงจุดนี้ได้ขณะที่กำลังจะหันหลังเดินออกไปจากห้องนี้ สายตาก็เหลือบไปเห็นซองกระดาษสีแดงที่ข้างหมอน เขาจำได้ว่าอติกานต์เป็นคนวางซองนี้เอาไว้ก่อนที่จะเดินจากเขาไป ทิพากรหยิบมันขึ้นมาดู ทำใจอยู่สักพักจึงเปิดซองดึงการ์ดขึ้นมาอ่านสายตาไล่ไปตามตัวอักษรทีละบรรทัด แล้วความจริงก็ค่อย ๆ ปรากฏขึ้น ใจของคนอ่านเต้นแรงเมื่อรู้ว่าสิ่งที่เขาฟูมฟายไปเป็นอาทิตย์ ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องที่เขาปรุงแต่งขึ้นมาเอง ตัดสินอีกฝ่ายโดยที่ไม่ซักถามความสงสัย“คุณทิ ตื่นแล้วเหรอ” เสียงเรียกจากด้านหลังเรียกให้ทิพากรหันไปดูชายหนุ่มร่างสูงเพรียวที่เขาเคยเห็นก่อนจะหลับไปปรากฏขึ้นที่ประตูหน้าห้อง ทิพากรเคยเห็นเขาคนนี้มาก่อนหน้านี้แล้วกับอติกานต์ที่ร้านประจำของเขาเมื่อนานมาแล้ว แต่ไม่ร
ร่างสูงเพรียวยืนพิงหลังกับผนังหน้าประตูห้องรับรองของลูกค้า VIP ข้างกายมีเด็กหนุ่มผิวสีแทนสวมเพียงกางเกงชั้นในหนังสีน้ำตาลนั่งหมอบอยู่แทบเท้า ที่คอมีปลอกคอหนังสีเดียวกับชั้นในสวมใส่อยู่ซึ่งมันถูกโซ่สีเงินวาวคล้องเอาไว้ โดยที่ปลายของมันอยู่ในมือของคนที่ยืนมองบานประตูด้วยใบหน้าเคร่งเครียดสุนัขหนุ่มคลอเคลียใบหน้ากับหน้าแข้งเรียวภายใต้กางเกงเนื้อผ้านิ่มราคาแพงของเจ้าของบาร์แห่งนี้อย่างเอาใจ เมื่อได้ยินเสียงเจ้านายถอนหายใจดังขึ้นอีกครั้ง เกือบครึ่งชั่วโมงแล้วที่เจ้านายของเขายืนมองบานประตูฟังเสียงร้องครวญครางที่เขาเองก็บอกไม่ถูกเหมือนกันว่า คนด้านในกำลังสุขสมหรือเจ็บปวดไดจิยืนกอดอกครุ่นคิดว่าจะเอาอย่างไรดีกับดวงใจของเพื่อนสนิทที่เจ้าตัวละทิ้งไว้ในห้องรับรองภายในบาร์ตนเอง ก้มมองดูเวลาที่นาฬิกาข้อมือ นานแล้วที่อติกานต์เดินจากไป ทิ้งไว้เพียงประโยคสั้น ๆ กับเขาแค่ว่า…“ฝากดูแลทิด้วย เขาอยากได้อะไรก็หาให้ด้วย ค่าใช้จ่ายมาคิดที่กู”ไดจิคลายมือออกลดมือลงไปลูบหัวสุนัขตัวโปรด จากนั้นจึงกระตุกโซ่จูงหนึ่งครั้งก่อนจะก้าวขาเดินไปยังบานประตู
ภาพเบื้องหน้าของผู้ต้องหาคือฉากเซ็กซ์อันเร่าร้อนของกระต่ายน้อยกับเหยี่ยวหนุ่ม ซึ่งกำลังใช้เข็มขัดฟาดลงที่ก้นงอนงามหลายต่อหลายทีอยู่ที่กลางเวทียกสูง ช่างดูสวยงามและกระตุ้นอารมณ์ของผู้คนภายในงานเป็นอย่างยิ่งหากทิพากรได้เป็นผู้ชมอยู่ในปาร์ตี้ข้างล่าง เขาก็คงอยู่ในอารมณ์ไม่ต่างจากผู้คนมากมายที่รายล้อมเวทีกลมนั้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว ตอนนี้เขาไม่ต่างอะไรจากนักโทษที่กำลังจะถูกตัดสินเสียงโซ่ดังทุกครั้งที่ร่างกายเขาไหวสะท้านกับแส้หนังที่อติกานต์ฟาดลงมาทั่วทั้งตัว มันไม่ได้เจ็บมาก แต่เมื่อโดนฟาดซ้ำที่เดิมอยู่บ่อยครั้งก็ทิ้งความแสบร้อนและรอยแดงที่ผิวได้เช่นกัน น้ำลายสายเล็กไหลย้อยออกมาจากช่องว่างระหว่างลูกบอลที่ปิดปากเขาไว้ หยดลงที่พื้นพรมสีแดงเบอร์กันดีนุ่มเท้าจนขึ้นเป็นวงสีเข้มทุกครั้งที่เส้นหนังฟาดลงมาที่ผิวเนื้อ มันทั้งสร้างความเจ็บปวดและกระตุ้นความต้องการบางอย่างให้ก่อเกิด ทั้งที่ไม่อยากให้เป็นแบบนั้นเลยสักนิด แต่ร่างกายของทิพากรกลับตอบสนองตรงกันข้ามความเจ็บที่เกิดขึ้นที่ผิวเนื้อจึงย้ายเข้ามาเกาะกุมที่หัวใจดวงเล็กของเขาแทน แล้วปล่อยให้อวัยวะ
ไวน์ ค็อกเทล วิสกี้ และเครื่องดื่มอีกมากมายมีสำหรับบริการให้ผู้ร่วมงานซึ่งซื้อบัตรเข้างานมาในราคาแพงอย่างไม่อั้น จะสั่งกี่อย่างหรือกี่แก้วก็ได้ ทุกอย่างถูกบริการเพื่อเสริมสร้างความมอมเมาเท่าที่แขกผู้มีเกียรติต้องการปกติทิพากรไม่ค่อยได้ดื่มเครื่องดื่มพวกนี้บ่อยนัก จึงไม่ค่อยรู้ว่าเครื่องดื่มแบบไหนเป็นอย่างไรบ้าง เขาเลือกหยิบจากบริกรมาหนึ่งแก้วที่มองดูแล้วสีถูกใจเขาที่สุด หลังจากจิบไปเพียงอึกแรก ตั้งแต่ลำคอลงไปถึงท้องเขาก็ร้อนวูบวาบ ทิพากรวางแก้วทรงแปดเหลี่ยมนั้นลงไม่ได้กินต่ออีก มันคงแรงไปสำหรับเขา แต่หากคิดอีกแง่ ก็ดีเหมือนกัน เพราะอย่างน้อยความร้อนของมันก็คลายความหนาวจากการสวมใส่เสื้อผ้าเพียงน้อยชิ้นได้ใต้แสงไฟสะท้อนจากลูกบอลดิสโก้ขนาดใหญ่เหนือฟลอร์เต้นรำ กระต่ายขาว นายพรานหนุ่ม และเหยี่ยวดำหลายคนกำลังกอดรัดกันนัวเนียอยู่บนนั้น ไม่รู้ว่าเป็นเพราะบรรยากาศ ความตื่นเต้น หรือเพราะเครื่องดื่มที่เพิ่งดื่มไปที่ทำให้ทิพากรรู้สึกร้อนผะผ่าวขึ้นมาจึงถึงกกหูเขาเอื้อมมือไปหยิบแก้วน้ำเปล่าขึ้นมาดื่ม เมื่อวางมันลงบนโต๊ะ ขนนกสีเทาปนน้ำตาลอันหนึ่งก็ถูกยื่นมาตรง
Bunny Night Partyค่ำคืนของกระต่ายป่า นั่นเป็นชื่อปาร์ตี้ของคนที่มีรสนิยมคล้ายกันจะมารวมตัว ค่ำคืนที่เหล่าผู้กระหายอยากสัมผัสและอยากถูกสัมผัสได้มาพบปะกันอย่างอิสระ ปาร์ตี้ที่นาน ๆ ทีจะจัดขึ้นสักครั้ง และทิพากรเคยใฝ่ฝันว่าจะได้มาร่วมงานนี้สักหน เพียงแต่เขาไม่เคยกล้าพอ จนกระทั่งงานนี้หายเงียบไปในวงการ BDSM ต่างรู้กันดีว่าบาร์ของคุณไดจิเป็นอันดับหนึ่งสำหรับคนในวงการเสมอ แต่นั่นไม่ได้แปลว่าบาร์นี้จะจัดกิจกรรมด้านนั้นอย่างเป็นปกติและเปิดเผย ค่ำคืนแห่งกระต่ายป่าจึงเป็นกิจกรรมที่ทุกคนที่มีความชอบแบบเดียวกันต่างรอคอยโดยปกติแล้วจะจัดเดือนละหนึ่งครั้ง แต่ไม่รู้ทำไมตั้งแต่กลางปีก่อนกิจกรรมนี้ก็ถูกยกเลิกไป การกลับมาจัดใหม่ในรอบเกือบปีจึงเป็นที่พูดถึงกันมาก ทิพากรเคยคิดว่าหากได้เข้าร่วมงานนี้พร้อมกับคนรักก็คงจะดี ไม่คิดว่าพอถึงเวลาได้มาจริง ๆ เขาจะไม่มีใครคนนั้นยืนข้างกาย“คุณซันใช่ไหมครับ”เสียงเรียกจากทางด้านหลังเรียกให้ทิพากรหันไปมอง เขายืนอยู่ที่ข้างบาร์หรูสาขาใหญ่สุด ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางแหล่งท่องเที่ยวยามราตรีของเมืองหลวง สวมเสื้อ