“ญาติของคนเจ็บหรือเปล่าครับ...ตอนนี้คนเจ็บปลอดภัยแล้วนะครับ”
ทั้งกมิตตรากับคุณอรรดายิ้มออกมาอย่างยินดี ดวงตาของคุณอรรดาชื้นไปด้วยหยาดน้ำตาแห่งความปีติ มือของนางจับกอบกุมจับมือบางของกมิตตราแน่น
“เห็นไหมคะ...แก้มบอกแล้วว่าคุณลุงต้องปลอดภัย คุณหมอกำลังย้ายคุณลุงไปห้องพักฟื้น เราไปรอที่ห้องกันก่อนดีกว่าไหมคะ...คุณป้าจะได้พักด้วย”
คุณอรรดามองหน้ากมิตตราด้วยแววตาขอบคุณก่อนจะพยักหน้าเบา ๆ ทั้งสองประคองกันไปยังห้องพักในขณะที่คนไข้ยังมาไม่ถึง กมิตตราประคองร่างของคุณอรรดาลงนั่ง เพียงครู่ร่างของคนป่วยก็ถูกบุรุษพยาบาลเข็นเข้ามาก่อนที่ทุกอย่างจะชุลมุนเล็กน้อย ในที่สุดร่างของคุณคริสก็นอนบนเตียงคนป่วยรอบศีรษะถูกพันด้วยผ้าพันแผล สายน้ำเกลือระโยงระยางยิ่งทำให้คู่ชีวิตอย่างคุณอรรดาสงสารผู้เป็นสามีจับใจ
กมิตตรามองภาพคุณอรรดาจับมือหนาของสามีไว้แน่นยิ่งสะท้อนในหัวใจ ถ้าเธอมีพ่อกับแม่อยู่กันพร้อมหน้าแบบนี้ก็คงอบอุ่น ดวงตากลมโตของหญิงสาวร้อนผ่าวขึ้นมาเมื่อคิดถึงเรื่องรันทดของตัวเองถึงแม้เธอจะพยายามบอกตัวเองว่าเธอมีความสุขที่มีคุณแม่อธิการทั้งสองดูแล และมีคุณพ่ออาเธอร์ที่เปรียบเสมือนบิดาของเธอเลี้ยงดู แต่ส่วนลึกของหัวใจแล้วมันกลับโหยหาอ้อมกอดของผู้บังเกิดเกล้า
เปลือกตาบางกะพริบถี่ ๆ เพื่อขับไล่หยาดน้ำตาที่วิ่งมาขังคลอหน่วยตาของเธอออกไปให้พ้น สายตาของหญิงสาวทอดมองภาพคู่ชีวิตของคนตรงหน้าอย่างชื่นชม อิจฉาคนที่เกิดมาเป็นลูกของทั้งสองคนนี่เหลือเกิน นั่นสิ...ตั้งแต่เธอมาอยู่ตรงนี้หลายชั่วโมงยังไม่เห็นหน้าคนเป็นลูกของคุณอรรดาเลย หรือว่าทั้งคู่ไม่มีลูก
“คุณป้าอยู่เป็นเพื่อนคุณลุงก่อนนะคะ เดี๋ยวแก้มลงไปซื้อของใช้ส่วนตัวกับอาหารมาให้นะคะ”
ไม่ได้รอคำตอบรับจากคุณอรรดาทั้งสิ้นเมื่อร่างบางลุกออกไปจากห้องพักฟื้นคนป่วยอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้คุณอรรดามองตามอย่างอ่อนใจ นางอยากบอกเหลือเกินว่าไม่จำเป็นต้องไปซื้อของพวกนั้นเองหรอก คนของนางก็อยู่เดี๋ยวใช้ให้พวกนั้นไปซื้อก็ได้ แต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว คุณอรรดาส่ายหน้าไปมาเล็กน้อยสายตามองตามหลังกมิตตราอย่างเอ็นดู
ร่างบางของกมิตตราหยุดชะงักเล็กน้อยเมื่อกลับมายังห้องพักของคุณคริส คิ้วเรียวของหญิงสาวขมวดเข้าหากันเมื่อเห็นชายสองคนยืนอยู่หน้าห้องคนป่วย เธอมองของในมืออย่างครุ่นคิด ปล่อยให้คุณอรรดาอยู่กับสามีของเธอจะดีกว่า คนนอกอย่างเธอควรกลับไปยังที่ของตัวเองได้แล้ว ร่างบางเดินเข้าไปใกล้พร้อมกับฝากของในมือให้กับชายหนุ่มที่ยืนอยู่หน้าห้องพักของคริส ก่อนจะเดินออกไปไม่ฟังเสียงเรียกของบุรุษผู้นั้นแม้แต่น้อย
กมิตตรารีบเดินเข้าไปในโบสถ์อย่างรวดเร็วเมื่อเห็นคุณแม่อธิการเภตรายืนชะเง้อด้วยสีหน้ากังวล พอเห็นเธอเข้าเท่านั้นรอยยิ้มของคุณแม่อธิการก็แย้มออกมาอย่างโล่งใจ
“แก้ม...แม่นึกกังวลอยู่”
กมิตตรายกมือขึ้นไหว้คุณแม่อธิการอย่างสำนึกผิด
“แก้มขอโทษค่ะที่ทำให้คุณแม่อธิการเป็นห่วง”
คุณแม่อธิการเภตรายิ้มออกมาพร้อมกับส่ายหน้าไปมา ก่อนจะเอื้อมมือไปจูงมือกมิตตราเดินเข้าไปด้านในอันเป็นส่วนของบ้านพักของเด็กกำพร้า
“ไม่เป็นไรลูก...กินอะไรมาหรือยัง”
คำถามของคุณแม่อธิการเรียกรอยยิ้มของกมิตตราออกมาทันที แววตาชุ่มน้ำของหญิงสาวมองคุณแม่อธิการด้วยแววตาขอบคุณ
“แก้มดีใจที่สุดเลยค่ะ...นึกขอบคุณพ่อกับแม่ที่แท้จริงของแก้มทุกครั้งที่ทิ้งแก้มไว้ที่หน้าโบสถ์แห่งนี้ ทำให้แก้มได้มาเจอคุณแม่อธิการเภตราและคุณแม่อธิการจันดา”
คิ้วที่ค่อนข้างบางของคุณแม่อธิการเภตราขมวดมุ่นเล็กน้อย นางไม่ได้ยินกมิตตราพูดแบบนี้นานแล้ว นางยังจำเหตุการณ์วันนั้นได้ดี ท่ามกลางอากาศที่เริ่มหนาวเสียงเด็กน้อยคนหนึ่งร้องเสียงดังอยู่หน้าประตูโบสถ์ ทั้งบาทหลวงและพวกเธอต่างวิ่งเข้าไปดูจึงเห็นเด็กน้อยหน้าตาน่ารักคนนี้ นางจำได้ว่าตัวของเด็กน้อยในตอนนั้นเย็นเฉียบก่อนจะอุ้มเด็กน้อยมากอดเอาไว้ให้ความอุบอุ่น นับจากวันนั้นจนถึงวันนี้ก็กินเวลานับหลายสิบปี
“อย่าโกรธพ่อกับแม่ของหนูนะแก้ม อย่างน้อยพวกท่านก็มีบุญคุณทำให้แก้มได้เกิดมาลืมตาดูโลก แก้มควรดีใจที่เกิดมาอวัยวะครบสามสิบสอง ชีวิตของเราดีกว่าคนอื่น ๆ อีกนับร้อยนับพัน มองในทางที่เป็นบวก ชีวิตเราจะได้มีสุข”
น้ำเสียงโอบอ้อมอารีของคุณแม่อธิการเภตราเรียกหยาดน้ำตาให้วิ่งมาคลอหน่วยตาทั้งสองข้างของเธอ ไม่เคยเลยสักครั้งที่จะคิดโกรธจะเกลียดผู้ให้กำเนิด แต่ก็มีบางครั้งที่นึกน้อยใจในโชคชะตาของตัวเอง ยามที่คิดว่าเธอเกิดมาโดยที่ไม่มีใครรักแม้กระทั่งผู้ให้กำเนิด
“แก้มเข้าใจค่ะ...แต่บางครั้งแก้มก็อดคิดไม่ได้ว่าไม่มีใครรักแก้ม แม้กระทั่งพ่อกับแม่ของตัวเอง”
น้ำเสียงสั่นเครือของกมิตตราทำให้คุณแม่อธิการยกมือขึ้นลูบศีรษะของหญิงสาวอย่างอ่อนโยน
“มีน้อง ๆ เพื่อน ๆ มีคุณแม่อธิการทั้งสองคน คุณพ่อบาทหลวงอีกหนึ่งคน พวกเรารักแก้มทั้งนั้น แค่นี้ยังไม่พออีกหรือลูก”
คำพูดของคุณแม่อธิการเภตราทำให้กมิตตราเงยหน้าขึ้นมองด้วยใบหน้าที่มีน้ำตาคลอหน่วยตาทั้งสองข้าง
“พอแล้วค่ะ...แค่นี้ก็พอแล้ว”
หยาดน้ำตาไหลรินอาบสองแก้มแต่กมิตตราก็ยังยิ้มออกมาได้เมื่อคิดถึงคำพูดของคุณแม่อธิการเภตรา เธอยังมีน้อง ๆ ที่น่ารักอีกหลายคน คุณแม่อธิการที่เธอรักมากและคุณพ่อบาทหลวงที่เธอนับถืออีกหนึ่งคน เพียงแค่นี้ก็เพียงพอแล้ว เธอไม่ต้องการอะไรอีก
“แล้ววันนี้เป็นไงบ้างลูก...แก้มยังไม่ได้เล่าให้แม่ฟังเลย คนที่หนูไปช่วยเอาไว้ปลอดภัยหรือเปล่า”
สีหน้าคุณแม่อธิการเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียดเมื่อถามถึงคนเจ็บที่ประสบอุบัติเหตุและกมิตตราช่วยพาส่งโรงพยาบาล
“ปลอดภัยแล้วค่ะ...แต่น่าสงสารคุณลุงกับคุณป้าคู่นั้นนะคะ แก้มอยู่เป็นเพื่อนตั้งนานยังไม่เห็นลูกหลานแกมาเลย หรือแกไม่มีลูกก็ไม่รู้...แต่ถ้ามี เขาก็ใจร้ายมากที่ปล่อยให้แม่เฝ้าพ่อเพียงลำพัง ในขณะที่แม่ต้องการกำลังใจเป็นอย่างมาก...แก้มเห็นแกหน้าซีดมาก ชวนให้กินอะไรก็ไม่กิน”
“ตายจริง...ถ้าเป็นอย่างนั้นก็น่าสงสาร แก้มก็ไปเยี่ยมคุณลุงคนนั้นบ้างก็ได้นะ ไปเป็นกำลังใจให้แกถือว่าเอาบุญ”
กมิตตราพยักหน้าเร็ว ๆ สีหน้าของหญิงสาวฉายแววครุ่นคิดออกมาเมื่อคิดว่าเธอจะเล่าเรื่องที่เพิ่งเผชิญมาให้คุณแม่อธิการฟังดีหรือไม่...เรื่องที่เธอรู้ว่าคุณลุงคนนั้นไม่ได้ประสบอุบัติเหตุ แต่เป็นเพราะมีคนตั้งใจคิดจะฆ่าแก และเธอก็ได้ยินคนร้ายคุยกัน แต่ถ้าบอกไปคุณแม่อธิการคงต้องเป็นห่วงและคิดมาก เธอไม่อยากเพิ่มเรื่องหนักใจให้คุณแม่อธิการอีก กมิตตราตัดสินใจเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ
ทันทีที่เท้าเหยียบแผ่นดินของเมืองเชียงใหม่ในประเทศไทย อนรรฆ เอียน แบรนดอน ก็รีบเดินทางไปยังโรงพยาบาลอย่างเร่งรีบ สีหน้าของชายหนุ่มเคร่งเครียดเป็นอย่างมาก ตลอดการเดินทางอนรรฆไม่เอ่ยอะไรออกมาทั้งสิ้นจนแดนไทยไม่กล้าที่จะชวนคุย อนรรฆหยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองออกมากดหามารดาของตัวเองทันที“แม่ครับ...ตอนนี้พ่อเป็นยังไงบ้างครับ”ทันทีที่ได้ยินน้ำเสียงของคนเป็นลูก คุณอรรดาถึงกับน้ำตาคลอหน่วยตาทั้งสอง เมื่อคิดว่าเธอไม่ต้องอยู่ตามลำพังอีกแล้ว“ปลอดภัยแล้วลูก...กันต์ก็ปลอดภัยแล้ว เอียนอยู่ไหนแล้วลูก”น้ำเสียงสั่นสะท้านน้อย ๆ ของมารดาทำให้คนเป็นลูกกัดสันกรามตัวเองแน่น ถ้าหายตัวได้เขาก็อยากหายตัวไปหามารดาตอนนี้เลย เพราะคิดว่ามารดาคงตกใจน่าดูที่ต้องเผชิญเหตุการณ์นี้เพียงลำพัง“ใกล้ถึงโรงพยาบาลแล้วครับ...เดี๋ยวเจอกันนะครับแม่”อนรรฆกดตัดสายมารดาและเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นจนแดนไทยเดินจนเกือบจะวิ่งอยู่แล้ว แต่บอดี้การ์ดหนุ่มหัวใจสาวก็ไม่ได้บ่นเพราะเป็นห่วงผู้เป็นเจ้านายและเพื่อนรักอย่างกันต์ด้วยเช่นเดียวกัน“คุณคริสเป็นยังไงบ้างครับบอส”แดนไทยเก็บความอยากรู้เอาไว้ไม่ไหวจึงถามออกไปด้วยความเป็นห่วงคนทั้งสอ
“ญาติของคนเจ็บหรือเปล่าครับ...ตอนนี้คนเจ็บปลอดภัยแล้วนะครับ”ทั้งกมิตตรากับคุณอรรดายิ้มออกมาอย่างยินดี ดวงตาของคุณอรรดาชื้นไปด้วยหยาดน้ำตาแห่งความปีติ มือของนางจับกอบกุมจับมือบางของกมิตตราแน่น“เห็นไหมคะ...แก้มบอกแล้วว่าคุณลุงต้องปลอดภัย คุณหมอกำลังย้ายคุณลุงไปห้องพักฟื้น เราไปรอที่ห้องกันก่อนดีกว่าไหมคะ...คุณป้าจะได้พักด้วย”คุณอรรดามองหน้ากมิตตราด้วยแววตาขอบคุณก่อนจะพยักหน้าเบา ๆ ทั้งสองประคองกันไปยังห้องพักในขณะที่คนไข้ยังมาไม่ถึง กมิตตราประคองร่างของคุณอรรดาลงนั่ง เพียงครู่ร่างของคนป่วยก็ถูกบุรุษพยาบาลเข็นเข้ามาก่อนที่ทุกอย่างจะชุลมุนเล็กน้อย ในที่สุดร่างของคุณคริสก็นอนบนเตียงคนป่วยรอบศีรษะถูกพันด้วยผ้าพันแผล สายน้ำเกลือระโยงระยางยิ่งทำให้คู่ชีวิตอย่างคุณอรรดาสงสารผู้เป็นสามีจับใจกมิตตรามองภาพคุณอรรดาจับมือหนาของสามีไว้แน่นยิ่งสะท้อนในหัวใจ ถ้าเธอมีพ่อกับแม่อยู่กันพร้อมหน้าแบบนี้ก็คงอบอุ่น ดวงตากลมโตของหญิงสาวร้อนผ่าวขึ้นมาเมื่อคิดถึงเรื่องรันทดของตัวเองถึงแม้เธอจะพยายามบอกตัวเองว่าเธอมีความสุขที่มีคุณแม่อธิการทั้งสองดูแล และมีคุณพ่ออาเธอร์ที่เปรียบเสมือนบิดาของเธอเลี้ยงดู แต่ส่ว
“บอสฮะ...แดนนี่สับขาหลอกบรรดาสาว ๆ ของบอสจนเก่งกว่านักฟุตบอลแล้วนะ แดนนี่มาเป็นบอดี้การ์ดนะฮะ...ไม่ใช่นักสับรางรถไฟ”แดนไทยจีบปากจีบคอพูดกับคนเป็นเจ้านายพร้อมกับค้อนให้อีกฝ่ายเล็กน้อย ยามพูดถึงบรรดานังชะนีสองขาของอนรรฆ บอดี้การ์ดหนุ่มหัวใจสาวเห็นสายตาคมเข้มของผู้เป็นเจ้านายมองเขาเขม็ง ร่างสูงของแดนไทยถึงกับถอยหลังไปอีกเล็กน้อยเพื่อให้พ้นระยะปลายเท้า ถ้าหากผู้เป็นเจ้านายจะเหวี่ยงมาที่เขา แต่อนรรฆก็ยังไม่ได้ทำอะไรเพราะโทรศัพท์มือถือส่วนตัวของเขาดังขึ้นเสียก่อนซึ่งโทรศัพท์เครื่องนี้มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้เบอร์ ส่วนมากก็เป็นคนในครอบครัวและเพื่อนสนิทจริง ๆ ของเขาเท่านั้น รอยยิ้มของอนรรฆแย้มออกมาทันทีเมื่อเห็นชื่อของคนที่โทร. เข้ามา“ว่าไงครับแม่”เสียงนุ่มทุ้มของชายหนุ่มดังออกมาจนคนที่ยืนฟังอีกคนถึงกับยิ้มออกมาด้วยเช่นเดียวกัน ไม่ต้องเดาแดนไทยก็รู้ว่าน้ำเสียงแบบนี้อนรรฆพูดกับใครเพราะมีอยู่คนเดียวที่ทำให้อนรรฆเอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มทุ้มน่าฟังนั่นก็คืออรรดา มารดาของเขานั่นเอง“เอียน...เกิดเรื่องใหญ่แล้วลูก...พ่อ...พ่อ...”น้ำเสียงสะอื้นไห้ของมารดาทำให้อนรรฆหุบยิ้มทันที ใบหน้าอ่อนโยนเมื่อส
“คุณคะ...คุณ”กมิตตราพยายามส่งเสียงเรียกคนเจ็บที่เริ่มหายใจรวยริน เห็นจากหน้าตาแล้วเขาไม่ใช่คนไทยอย่างแน่นอน คงจะเป็นนักท่องเที่ยว...แต่นักท่องเที่ยวที่ไหนทำไมถึงได้โดนรถบรรทุกคันนั้นตั้งใจขับชนหมายจะเอาชีวิต“คุณลุงคะ...อดทนนิดนะคะ รถพยาบาลกำลังจะมาถึง”เปลือกตาที่จะปิดแหล่ไม่ปิดแหล่ของคนบาดเจ็บพยายามมองหญิงสาวตรงหน้าให้ชัดเจน แต่มันก็เป็นเรื่องยากสำหรับเขา ในที่สุดเปลือกตาหนาของผู้บาดเจ็บก็ปิดลงทันทีพร้อมกับลมหายใจรวยรินที่ทำให้กมิตตราต้องหันซ้ายหันขวาเพื่อมองหารถพยาบาล และทันใดนั่นเองเสียงหวอของรถกู้ภัยฉุกเฉินก็ดังขึ้นมา“คุณลุงคะ...รถพยาบาลมาแล้ว แข็งใจอีกนิดนะคะ”มือเล็กของหญิงสาวบีบมือหนาที่เริ่มเย็นเพราะความเปียกชื้นของละอองฝน เธอพยายามส่งกำลังใจให้คนเจ็บเผื่อว่าแรงใจของเธอมันจะช่วยทำให้ชายสูงวัยคนนี้มีพลังขึ้นมาบ้าง“เจ้านายผม...ช่วยเจ้านายผมด้วย”กันต์พยายามเอ่ยปากขอร้องชายหนุ่มที่ช่วยเหลือเขาออกมาจากรถให้ช่วยเจ้านายของเขาซึ่งอาจจะติดอยู่ในรถหรือเปล่าเขาก็ไม่รู้...เขากับนพขับรถพาคริสออกจากท่าอากาศยานเพื่อไปยังบ้านพัก ในขณะที่ขับรถออกมาพอเห็นว่าฝนตกเขาก็กำชับนพบอกให้ขับอย่างระ
บทที่ 1 เริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมดคิ้วเรียวราวกับปีกนกของสาวน้อยคนหนึ่งขมวดเข้าหากัน เมื่อท้องฟ้าที่เคยสวยงามเมื่อสักครู่แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นมืดครึ้ม สายลมที่พัดโชยเอื่อยเปลี่ยนเป็นแรงจนโบกสะบัดเส้นผมยาวสลวยจรดกลางแผ่นหลังบอบบางปลิวสยายจนเจ้าตัวต้องใช้โบว์มัดผมที่ใส่ข้อมือเอาไว้ออกมารัด ไม่ให้สายลมตีผมเธอจนยุ่ง ดวงตากลมโตประดุจกวางป่าล้อมกรอบด้วยแพขนตาสีดำสนิทเหมือนเส้นผมหรี่ลงเล็กน้อย เพื่อป้องกันไม่ให้ฝุ่นละอองปลิดปลิวเข้าดวงตาทั้งสองข้างของเธอ กมิตตราเร่งฝีเท้าของตัวเองให้เร็วขึ้นเพราะถ้าขืนช้าไปกว่านี้เธอคงหนีไม่ทันฝน“โอ๊ย...พี่ฝนขา อย่าเพิ่งตกลงมานะคะ ขอให้แก้มกลับถึงบ้านก่อน”แต่ดูเหมือนพี่ฝนของกมิตตราจะไม่ให้ความร่วมมือ เพราะตอนนี้พี่ฝนเริ่มตกมาเป็นละอองฝอย ๆ เสียแล้ว เมื่อไม่กี่นาทีก่อนตอนที่เธอกำลังปั่นจักรยานไปยังตลาดนัดเล็ก ๆ ข้างหมู่บ้านซึ่งตลาดแห่งนี้จะมีทุกวันพุธ มีทั้งอาหารคาวหวานจากแม่ค้าที่อาศัยอยู่ละแวกนี้ ตอนนั้นอากาศยังดีอยู่เลย ท้องฟ้าแจ่มใสจนไม่ส่อแววว่าจะมีฝนตกด้วย ดวงตากลมโตมองข้าวของหน้าตะกร้าจักรยานด้วยสีหน้าที่ร้อนรน เธอต้องรีบนำผักสดพวกนี้ไปให้คุณแม่อธ