 LOGIN
LOGINกรี๊ด ฉันมากกว่าไหมที่ต้องรำคาญไอ้บ้านี่ เขาไม่พูดเปล่ายังจับฉันยัดเข้าไปในรถอีก ก่อนจะเดินอ้อมไปทางฝั่งคนขับ ไม่นาน รถก็แล่นออกจากห้างไปในที่สุด
“นี่นาย ถามจริงเกิดเป็นบ้าอะไรขึ้นมา”
“แค่ไปแดกข้าวจะอะไรหนักหนาวะ”
“ก็เพราะฉันไม่อยากไปกับนายไงไอ้บ้า!”
“ปากดีแบบนี้กูจูบซะเลยดีไหม?”
เขาไม่พูดเปล่ายังขยับตัวมาทางฉันอีก ไอ้โรคจิต
“นี่นายทำบ้าอะไร! หันไปมองถนนสิวะฉันยังไม่อยากตายนะเว้ย!”
“ทำไม กลัวตายว่างั้น?”
พูดจบเขาก็เร่งเครื่องขับไวขึ้นกว่าเดิม ไอ้ฉิบหายฉันจะได้ไปแดกข้าวในนรกแทนไหมเนี่ย เงียบดีสุดอีสร้อย ใจเย็นไว้
“...”
“กูคิดว่าจะแน่ หึ!”
อย่าให้ถึงทีฉันนะ แม่จะตบให้หน้าสั่นเลย
สถานที่ ร้านอาหารสุดหรู
ทุกคนเป็นพยาน! ไอ้ส้นตีนนี่มันต้องการแกล้งฉันชัด ๆ ทำไมนะเหรอ ก็มันพาฉันมาร้านอาหารที่หรูมาก ทุกคนอาจจะคิดว่าก็ดีแล้วนี่ จะบอกว่ามันไม่ใช่เลยเพราะฉันยังอยู่ในชุดทำงาน! แล้วไอ้บ้านี่มันพาฉันมาแกล้งชัด ๆ ดูหน้ามันยกยิ้มใหญ่
“นี่นายทำไมต้องมาแดกอะไรหรู ๆ แบบนี้ด้วย”
“ทำไม หรือว่าอาย?”
ดูหน้ามันนนน ตบได้ไหม ตบได้ไหม!! ฉันไม่ตอบอะไร พนักงานร้านก็มาต้อนรับพร้อมกับพาไปยังโต๊ะ
ส่วนเขาก็สั่งอาหารไป ฉันก็สั่งส่วนของฉัน ราคาก็แรงเอาเรื่องอยู่ ฉันจะไม่จ่ายค่ะ ในเมื่อลากมาไอ้บ้านั่นก็ต้องจ่าย
อีกอย่างตอนนี้ฉันคิดแผนออกละ เดี๋ยวเจอ รู้จักอีสร้อยน้อยไปละ!
“กินเลยนะไม่ต้องเกรงใจ คนแบบมึงคงไม่มีปัญญาได้กินของดี ๆ แบบนี้หรอก มื้อนี้กูเลี้ยงเอง”
อดทนไว้! เดี๋ยวได้เจอแน่
“ขอบพระคุณเป็นอย่างสูงเลยนะคะ^^”
พูดจบฉันก็ใช้มือหยิบไปที่เส้นสปาเก็ตตี้ ใช่แล้วค่ะ ฉันใช้มือลงไปจกแล้วหยิบเส้นขึ้นมา ความอายมันได้หายไปแล้วตอนนี้ในหัวมีแต่แผนเอาคืนเท่านั่น!
“ทำบ้าอะไรของมึงเนี่ย!”
เขาดูตกใจไม่น้อยที่เห็นว่าอยู่ดี ๆ ฉันก็ใช้มือกิน ส่วนเหล่าพนักงานและลูกค้าคนอื่น ๆ ก็พากันมองมาที่ฉันกับเขาเป็นจุดเดียวกัน
“อ่าว ก็กินไง อืมมม อร่อยดีนะคะเนี่ย”
ฉันไม่พูดเปล่า ยกนิ้วขึ้นมาดูดพร้อมกับหันไปชมพนักงาน
“หยุดทำตัวอุบาทว์ ๆ เดี๋ยวนี้นะยัยบ้า”
“ไหนว่าหิวไม่ใช่เหรอ กินสิอย่ามัวแต่พูดมาก อะ”
พูดจบฉันก็จกไปที่เส้นหยิบมันขึ้นมายัดใส่ปากไอ้บ้านั่น ดูหน้าเขาสิเหวอแดกไปเลยจ้า ฮ่า ๆ
“แค่ก ๆ ยัยบ้า!”
เขาสำลักเสร็จก็หยิบน้ำขึ้นมากินทันที
“เป็นไง อร่อยเนอะ”
ตอนนี้หน้าเขาดูโมโหมาก แต่แล้วไงใครแคร์ ไม่กลัวหรอกจ้ะ อิอิ
“โอ้ยยยอิ่มจังเยยย^^ ขอบคุณนะคะท่านประธาน”
ตอนนี้ฉันกลับมาทำงานตามปกติโดยมีท่านประธานมาส่งเหมือนเดิม พร้อมกับหน้าตาที่เหมือนคนอมทุกข์ ฮ่า ๆ
“อย่าให้ถึงทีกูนะยัยบ้า!”
พูดจบนางก็ฟึดฟัดเดินไปที่รถตัวเองเลยจ้า บอกแล้วรู้จักอีสร้อยน้อยไปจ้ะ
วันต่อมา...
วันนี้เป็นวันหยุดฉัน เย้ เย้ ว่าแต่จะไปเดินเที่ยวไหนดีน้า ว่าแล้วก็ไปชวนแม่ด้วยดีกว่า
ฉันคิดได้ดังนั้นก็รีบเข้าไปอาบน้ำแปรงฟันทันที
“แม่จ้ะ ไปเที่ยวกันไหมสร้อยว่าจะไปเที่ยวสักหน่อย”
“ไปเถอะลูก แม่อยากอยู่บ้านมากกว่า”
“โห สร้อยเสียใจจัง”
“ไปเถอะลูก ไปเปิดหูเปิดตาบ้าง”
แม่ฉันพูดออกมายิ้ม ๆ ที่แม่ฉันพูดแบบนี้ก็เพราะแต่ก่อนฉันไม่มีเวลาไปไหนเลยนอกจากทำงานหาเงิน แล้วแม่ไม่ไปด้วยแบบนี้ฉันก็ต้องไปคนเดียวเหงา ๆ แน่เลย T^T
จะชวนพี่ครามไปพี่เขาก็ทำงานอยู่ด้วย โอ้ยอีสร้อยคนไร้เพื่อน
สถานที่ โรงภาพยนตร์
สุดท้ายก็ไปไหนไม่ได้ไกลจากที่พักตัวเอง ฉันเลยเลือกมาดูหนังดีกว่า เพราะตอนทำงานอยู่เห็นว่าเรื่องที่ฉันกำลังจะไปดูมันโปรโมทหนักมาก น่าจะสนุกอยู่แหละ แต่ว่าเพิ่งเคยมาดูที่โรงครั้งแรกมันต้องทำยังไงบ้างวะ
“พี่คะ ถ้าจะดูหนังเรื่องนี้ต้องทำยังไงบ้างคะ?”
ฉันเดินเข้าไปถามพี่พนักงาน

“อ๊ะ อ๊า จะ..จุกไป ๆ” เธอใช้มืออีกข้างที่ไม่ได้กอดคอเขาไว้มากุมท้องตัวเองที่จุกจากการกระแทกลึกของเขา “ยืนแป๊บ” เคียร์เอ่ยบอกหญิงสาวที่ทำหน้างงก่อนจะวางเธอลงในท่ายืน เขาจับเธอหันหลังดันเธอให้ติดกับกระจกหน้าต่าง เขาดึงก้นเธอเข้ามาแนบชินก่อนจะสอดใส่เจ้ามังกรเปียกชุ่มเข้าจากทางด้านหลัง “อ๊า อื้ออออ ไม่..เอาท่านี้สิ อื้อออ” หญิงสาวร้องออกมาเมื่อท่านี้มันทำให้แก่นกายใหญ่ของเขาเข้ามาได้ลึกกว่าเดิมอีก ไหนจะหน้าอกหน้าใจของเธอที่กำลังเบียดเสียดรูดขึ้นลงกับกระจกที่แนบชิดอยู่ สร้างความเสียวราคะทุกโซนประสาทจริง ๆ “ตอดขนาดนี้จะแตกแล้วเหรอหืมม ซี้ดด” เมื่อรับรู้ถึงการตอดถี่ของหญิงสาวว่าใกล้จะแตะขอบสวรรค์แล้วเขาก็เร่งเครื่องติดจรวดทันที กระแทกเข้าออกไม่ยั้ง “อ๊ามะไหวว/อื้อออซี้ดด” เสียงครางกระเส่าดังขึ้นประสานกันเมื่อทั้งคู่แตะที่จุดสุดยอดในที่สุด ชายหนุ่มกระแทกสองสามทีรีดน้ำรักเข้าไปในตัวของหญิงสาวจนหมดก่อนจะชักออกมา ส่งผลให้หญิงสาวที่มีขาอ่อนจากความเสียวในตอนแรกนั่งพับ
ตอนพิเศษ ๓ NC+++สถานที่ ประเทศ USAตอนเช้า... ชายหนุ่มหญิงสาวคู่รักข้าวใหม่ปลามันที่เพิ่งแต่งงานกันไปได้ไม่นานก้าวขาลงจากเครื่องบินส่วนตัวเพียงสองคน วันนี้เธอและเขามาฮันนีมูนกันนั่นเอง โดยได้คุณแม่ของเธอและคุณแม่ของเคียร์ที่กำลังเห่อน้อง กำไล รับไปดูแล จนทำให้เธอกับเขาได้มีโอกาสเที่ยวกันสองคน “อยากไปที่ไหนเป็นพิเศษไหม?” มือใหญ่วางทาบลงบนหัวคนตัวเล็กที่กำลังยืนชั่งใจคิดว่าจะเที่ยวที่ไหนดี เนื่องจากก่อนมาพวกเขาไม่ได้ทำการวางแพลนใด ๆ เลย “อืม...อยากไปดูที่เขาแปะมือกับดาราอะ แบบมีการประทับมือดาราดัง ๆ ลงแผ่นไรสักอย่างอะ” เคียร์พยักหน้าเข้าใจในสิ่งที่ภรรยาตัวเองพูด ก่อนจะยกมือถือโทรหาคนขับรถของประเทศนี้ เพียงไม่นานรถหรูก็เคลื่อนเข้ามาจอดตรงหน้า พร้อมกับมีพนักงานลงมาเปิดประตูต้อนรับแขกคนพิเศษ พวกเขาคุยกันเป็นภาษาอังกฤษ สร้อยเองก็ทำหน้าไม่ค่อยจะเข้าใจมากเท่าไหร่ “รู้งี้ตั้งใจเรียนภาษาดีกว่า” ภรรยาตัวแสบนั่งบ่นให้เขาฟัง ส่วนเขาได้แต่นั่งยิ้มกับความน่าเอ็นดูของเธอ “อยากเรียนไหมล่ะ”
ตอนพิเศษ ๒ ใช้เวลาพักฟื้นตัวหลังคลอดได้ไม่นานก็ถึงเวลาเตรียมการจัดงานแต่งงานที่เคยสัญญาไว้แล้ว “ฝากเจ้าตัวเล็กด้วยนะคะแม่ สร้อยจะรีบกลับมาค่ะ” เสียงหญิงสาวเอ่ยบอกคนเป็นแม่ คุณยายของเจ้าตัวเล็กในอ้อมกอด เธอจะต้องออกไปลองชุดและซื้อของต่าง ๆ เพื่อจัดเตรียมงานแต่งที่กำลังใกล้จะถึงกับว่าที่สามีของเธอ “ไปเถอะลูก เจ้าตัวเล็กนี่แม่จะดูแลเอง เนอะหลานยาย” หญิงสาวมีอายุหันไปหยอกล้อเล่นกับหลานตัวน้อยอย่างเอ็นดูหลายชั่วโมงผ่านไป... ใช้เวลาหลายชั่วโมงเลยทีเดียวกว่าจะเตรียมของจนเสร็จ นอกนั้นก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของออร์แกไนเซอร์ เนื่องจากว่าที่สามีของเธอได้จ้างวานมาเอง “เหนื่อยไหมวันนี้” เคียร์เอ่ยถามเจ้าตัวแสบของเขา พลางวางมือหนาไว้บนหัวของว่าที่ภรรยาสาวไปด้วย “นิดหน่อย บอกแล้วไม่ต้องจัดก็ได้” เธอเพียงมุ่ยหน้าเล็กน้อย สร้างรอยยิ้มเอ็นดูให้กับคนตรงหน้าได้มากทีเดียว “ได้ไง คนดังอย่างกูแต่งงานทั้งทีเลยนะ” ชายหนุ่มพูดออกมาได้ไม่อายปาก หญิงสาวได้แต่ส่ายหัวไปมาแท
ตอนพิเศษ ๑8 เดือนผ่านไป...เวลา 04.35 น. ภายในห้องกว้างมีเพียงสองร่างชายหญิงกำลังนอนหลับใหล ความเย็นจากเครื่องปรับอากาศกำลังทำงานส่งผลให้ทั้งคู่หลับอย่างสบาย เพียงแค่ไม่กี่วินาทีต่อมาจากความเงียบสงบแปรเปลี่ยนเป็น.... “อะ โอ้ยยยย” หญิงสาวท้องโตสะดุ้งตื่นพร้อมกับส่งเสียงถึงความเจ็บปวดที่ได้รับ เสียงที่เธอร้องออกมาดังจนปลุกให้ชายร่างกำยำมีลายสักที่คอสะดุ้งตื่น “สร้อยเป็นอะไร!” เขาถามเธอออกไปด้วยความตระหนกตกใจ เมื่อเห็นหญิงสาวลุกขึ้นมานั่งกุมท้องใหญ่ “ละ..ลูก จะคลอด! โอ๊ยยยยยเจ็บบบ” หญิงสาวท้องโตพูดออกมาด้วยความเจ็บปวด เตียงที่เคยแห้งกลับกลายเป็นเปียกโชก บ่งบอกได้ดีว่าเด็กน้อยในท้องพร้อมที่จะออกมาลืมตาดูโลกแล้ว “เวรเอ๊ย! อดทนก่อนกูจะรีบพามึงไปโรงพยาบาล” ชายร่างกำยำรีบจัดการเสื้อผ้าบนตัวก่อนจะวิ่งอ้อมมาหาหญิงสาวด้วยความรีบร้อน “หนักฉิบหายเลยโว๊ยยยยย” ปากหนาบ่นอุบอิบ หญิงสาวไม่มีเวลามาสนใจเนื่องจากต้องทนกับอาการเจ็บปวดที่ได้รับ ฝ่ายชายรีบอุ้มหญิงสาววิ่งไปที่รถ
“ไหวไหมนั่น” ฉันทำท่าทางจะลุกเดินไปหา แต่เขาห้ามไว้ซะก่อน “อย่าแกล้งพ่อเขาหนักสิลูก” ฉันนอนลูบท้องเปล่งเสียงเบาบอกลูกของตัวเอง ส่วนเขาก็เดินขึ้นมานอนข้าง ๆ “ดีแล้วที่กูแพ้แทนมึง เพราะถ้ามึงแพ้เองกูคงไม่มีกะจิตกะใจทำงานแน่” แหนะ ยังจะมาปากหวานอีก “พูดถูกใจตลอดด” ฉันแอบแซวเขาพร้อมกับเอื้อมมือขึ้นไปหยิกแก้มทั้งสองไปมา “กูพูดตามความรู้สึก” เขาเอื้อมมือมากุมมือฉันที่กำลังหยิกเขา แล้วหอมมือฉันอย่างแผ่วเบา “รู้ไหมว่ารักมาก?” “อือรู้ ฉันก็รักพี่มากเหมือนกัน” “แล้วรู้ไหมว่ากู หวง ห่วง มึงมาก?” “รู้สิ สร้อยก็ หวง ห่วง พี่เหมือนกันนะ” “งั้นก็รู้ไว้ซะ ว่ามึงคือผู้หญิงของกูคนเดียวและเป็นแม่ของลูกกูด้วย” “>////พี่ก็เหมือนกันเป็นพ่อของลูกสร้อย” ความร้อนรุ่มแทรกผ่านเข้ามาที่ใบหน้าของฉัน เครื่องปรับอาการที่ว่าเย็นมากแล้วยังต้องยอมแพ้กลับความร้อนที่เผาผลาญอยู่บนหน้าของฉัน เขานี่มันพูดได้ไม่อายเลยจริง
บทที่ 31 END “ทำงี้กะจะให้กูหลงจนโงหัวไม่ขึ้นเลยเหรอวะ” บ้าที่สุดดด ชอบพูดคำน่าอายอยู่นั่น “รีบไปได้แล้ว >///” ฉันออกแรงผลักไล่ให้เขาขยับตัวออก แล้วไล่ดุนหลังเขาจนไปถึงหน้าห้อง “เดี๋ยวรีบกลับนะ จุ๊บ” ว่าจับเขาก็จุ๊บลงบนปากของฉันอีกครั้ง แล้วหมุนตัวเดินออกไป กว่าจะได้ออกไปทำงานฉันก็เปลืองตัวไปกับเขามากโขแล้ว หุหุหัวค่ำ...Rrrr Rrr เสียงริงโทนดังขึ้นเรียกความสนใจให้ฉันละสายตาออกจากทีวี พลางก้มลงไปมองสายที่โทรเข้ามา ฉันยกยิ้มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าปลายสายเป็นใครโทรเข้ามา “จะกลับแล้วเหรอ” ฉันกดรับก่อนจะเอ่ยถามคนปลายสาย “อืม ใกล้ถึงแล้ว” เขาตอบเสียงเรียบ “ใกล้ถึงแล้วจะโทรมาให้เปลืองเงินทำไมเล่า” “คิดถึง เพิ่งมีเวลาจับมือถือเอง” เสียงออดอ้อนของปลายสายสร้างความรู้สึกดีให้ฉันไม่น้อย “คิดถึงเหมือนกัน วางสายก่อนขับรถอยู่อันตราย” “ครับ” เขาตอบรับด้วยคำสุภาพทำเอาฉันรู้สึกกระดากหูที่ได้ยิน ไม่








