 LOGIN
LOGIN“เรื่องนี้นะคะ จูนอนผีดุ”
“ใช่ค่ะ ต้องทำไงคะ”
แน่นอนว่าฉันมาดูหนังผีจ้า เห็นโปรโมทกันหนักหน่วงจริง ๆ เขาบอกว่าเป็นหนังผีจากประเทศญี่ปุ่นน่ากลัวมากอะไรประมาณนี้
แต่ฉันว่าชื่อมันแปลก ๆ นะ ช่างเหอะไหน ๆ ไม่มีไรทำละก็ดู ๆ ไปเพราะฉันไม่กลัวผีจ้ะ
“มากี่ท่านค่ะ?”
ฉันกำลังจะอ้าปากตอบพี่พนักงาน แต่ก็มีเสียงแทรกมาซะก่อน
“สองคน!”
“นี่นาย! คนเดียวค่ะพี่ ไอ้บ้านี่เป็นใครก็ไม่รู้”
“เอ่อ...”
พี่พนักงานอ้ำอึ้งกับพวกเรามาก เนื่องจากตอนนี้ฉันกับไอ้บ้านี่กำลังยืนเถียงกันอยู่
แต่สุดท้ายฉันก็ต้องยอมแพ้กับความหน้าด้านของเขา โอ๊ยปวดหัวว่ะ!
ฉันกับไอ้บ้านี่กำลังเดินไปที่โรงภาพพยนตร์อยู่ เสียงไอ้บ้านี่ก็ดังขึ้นมา
“เชี่ย! ดูหนังห่าไรของมึงวะ”
“หน้าตาก็ไม่ได้ดูโง่นะ ไหงถามคำถามควาย ๆ ออกมาซะได้”
โดนอีสร้อยด่าไปหนึ่งดอกจ้ะ เขาเพียงหันมาทำหน้าโมโหใส่ มีเรอะคนอย่างฉันจะสนใจ เดินต่อดีกว่า
“ขออนุญาตตรวจตั๋วนะคะ”
“นอกจากจะตรวจตั๋วแล้ว น้องคนสวยรับตรวจหัวใจด้วยไหมครับ?”
เชื่อเขาเลยจ้า ใครสอนมันเล่นมุกแบบนี้วะ ส่วนน้องคนที่โดนถามหน้านี่แดงเป็นแตงโมเลย อะไรจะเขินเบอร์นั้น
“น้องคะ พี่เข้าไปได้หรือยัง”
ฉันพูดออกมาเสียงดัง ขัดบรรยากาศของทั้งสองคนที่ตอนนี้มีแต่หัวใจผุดขึ้นเต็มอย่างกับการ์ตูนอนิเมะ
“เอ่อ..เชิญค่ะ ๆ”
ฉันพยักหน้าขอบคุณก่อนจะเดินเข้าไปในโรง ปล่อยให้ไอ้บ้านั่นจีบน้องเขาไป ฉันจะได้นั่งดูแบบสบายใจ
“ทำไมหึงกูเหรอ”
ได้แค่คิด เพราะไอ้บ้านี่เดินตามฉันมาทันทีที่ฉันเดินเข้ามา
“หลงตัวเองไปปะ มีดีไรให้ต้องหึง ถ้าต้องด่าก็ว่าไปอย่าง”
“ปากดี ระวังจะปากแตก!”
“กลัวตาย ทำไม!จะตบผู้หญิงว่างั้น?”
“ไม่ตบหรอกคนแบบมึงต้องจูบซะให้เข็ด”
“สมองคิดได้แต่เรื่องแบบนี้เนอะ ทุเรศ!”
พูดจบฉันก็ตรงไปหาที่นั่งตัวเอง ตามมาด้วยไอ้บ้านั่นมานั่งลงข้าง ๆ
หลังจากนั้นหนังก็เริ่มฉาย ผ่านไปได้ไม่นานฉันก็รู้สึกงั้น ๆ เพราะหนังก็ไม่ได้น่ากลัวแบบที่โฆษณาเลย
ฉันเลยว่าจะหันไปถามไอ้บ้านี่สักหน่อยตั้งแต่หนังเริ่มฉายเขาก็เอาแต่เงียบไปเลย แต่ฉันรู้ละว่าทำไมเขาเงียบไป
ก็ดูสภาพเขาตอนนี้สิน่าขำฉิบหาย
“นายกลัวเหรอ^^”
“หนังปัญญาอ่อนแบบนี้กูจะกลัวให้ได้ไรขึ้นมา”
เลิกแอ๊บจ้ะ! ดูออก!
ตกเย็น...
หลังจากดูหนังจบฉันก็เดินเล่นดูอะไรไปเรื่อย ๆ พร้อมกับมีหมา เอ๊ย ไอ้บ้านี่เดินตามอยู่นั่น เขาว่างมากหรือไง
“นี่นายถามจริงเหอะ ไอ้ตำแหน่งประธานของนายเนี่ยมันว่างมากขนาดเดินตามฉันเหมือนหมาแบบนี้เลยเหรอ”
“มึงว่าใครเป็นหมานะ!”
“อายุก็ไม่ได้เยอะนะแต่ทำไมหูตึงซะล่ะ”
“อย่ามาปากดีกับกูให้มาก!”
เขาพูดออกมาด้วยท่าทางโมโห แต่สักพักก็มีเสียงเล็ก ๆ แทรกเข้ามา
“อ่าวเคียร์”
ฉันกับไอ้บ้านั่นหันไปทางต้นเสียงพร้อมกัน ฉันเห็นเป็นผู้หญิงตัวเล็กหน้าตาน่ารักมีหน้าท้องที่นู้นออกมาเล็กน้อยบ่งบอกว่าเธอคนนั่นท้องอยู่นั่นเอง

“อ๊ะ อ๊า จะ..จุกไป ๆ” เธอใช้มืออีกข้างที่ไม่ได้กอดคอเขาไว้มากุมท้องตัวเองที่จุกจากการกระแทกลึกของเขา “ยืนแป๊บ” เคียร์เอ่ยบอกหญิงสาวที่ทำหน้างงก่อนจะวางเธอลงในท่ายืน เขาจับเธอหันหลังดันเธอให้ติดกับกระจกหน้าต่าง เขาดึงก้นเธอเข้ามาแนบชินก่อนจะสอดใส่เจ้ามังกรเปียกชุ่มเข้าจากทางด้านหลัง “อ๊า อื้ออออ ไม่..เอาท่านี้สิ อื้อออ” หญิงสาวร้องออกมาเมื่อท่านี้มันทำให้แก่นกายใหญ่ของเขาเข้ามาได้ลึกกว่าเดิมอีก ไหนจะหน้าอกหน้าใจของเธอที่กำลังเบียดเสียดรูดขึ้นลงกับกระจกที่แนบชิดอยู่ สร้างความเสียวราคะทุกโซนประสาทจริง ๆ “ตอดขนาดนี้จะแตกแล้วเหรอหืมม ซี้ดด” เมื่อรับรู้ถึงการตอดถี่ของหญิงสาวว่าใกล้จะแตะขอบสวรรค์แล้วเขาก็เร่งเครื่องติดจรวดทันที กระแทกเข้าออกไม่ยั้ง “อ๊ามะไหวว/อื้อออซี้ดด” เสียงครางกระเส่าดังขึ้นประสานกันเมื่อทั้งคู่แตะที่จุดสุดยอดในที่สุด ชายหนุ่มกระแทกสองสามทีรีดน้ำรักเข้าไปในตัวของหญิงสาวจนหมดก่อนจะชักออกมา ส่งผลให้หญิงสาวที่มีขาอ่อนจากความเสียวในตอนแรกนั่งพับ
ตอนพิเศษ ๓ NC+++สถานที่ ประเทศ USAตอนเช้า... ชายหนุ่มหญิงสาวคู่รักข้าวใหม่ปลามันที่เพิ่งแต่งงานกันไปได้ไม่นานก้าวขาลงจากเครื่องบินส่วนตัวเพียงสองคน วันนี้เธอและเขามาฮันนีมูนกันนั่นเอง โดยได้คุณแม่ของเธอและคุณแม่ของเคียร์ที่กำลังเห่อน้อง กำไล รับไปดูแล จนทำให้เธอกับเขาได้มีโอกาสเที่ยวกันสองคน “อยากไปที่ไหนเป็นพิเศษไหม?” มือใหญ่วางทาบลงบนหัวคนตัวเล็กที่กำลังยืนชั่งใจคิดว่าจะเที่ยวที่ไหนดี เนื่องจากก่อนมาพวกเขาไม่ได้ทำการวางแพลนใด ๆ เลย “อืม...อยากไปดูที่เขาแปะมือกับดาราอะ แบบมีการประทับมือดาราดัง ๆ ลงแผ่นไรสักอย่างอะ” เคียร์พยักหน้าเข้าใจในสิ่งที่ภรรยาตัวเองพูด ก่อนจะยกมือถือโทรหาคนขับรถของประเทศนี้ เพียงไม่นานรถหรูก็เคลื่อนเข้ามาจอดตรงหน้า พร้อมกับมีพนักงานลงมาเปิดประตูต้อนรับแขกคนพิเศษ พวกเขาคุยกันเป็นภาษาอังกฤษ สร้อยเองก็ทำหน้าไม่ค่อยจะเข้าใจมากเท่าไหร่ “รู้งี้ตั้งใจเรียนภาษาดีกว่า” ภรรยาตัวแสบนั่งบ่นให้เขาฟัง ส่วนเขาได้แต่นั่งยิ้มกับความน่าเอ็นดูของเธอ “อยากเรียนไหมล่ะ”
ตอนพิเศษ ๒ ใช้เวลาพักฟื้นตัวหลังคลอดได้ไม่นานก็ถึงเวลาเตรียมการจัดงานแต่งงานที่เคยสัญญาไว้แล้ว “ฝากเจ้าตัวเล็กด้วยนะคะแม่ สร้อยจะรีบกลับมาค่ะ” เสียงหญิงสาวเอ่ยบอกคนเป็นแม่ คุณยายของเจ้าตัวเล็กในอ้อมกอด เธอจะต้องออกไปลองชุดและซื้อของต่าง ๆ เพื่อจัดเตรียมงานแต่งที่กำลังใกล้จะถึงกับว่าที่สามีของเธอ “ไปเถอะลูก เจ้าตัวเล็กนี่แม่จะดูแลเอง เนอะหลานยาย” หญิงสาวมีอายุหันไปหยอกล้อเล่นกับหลานตัวน้อยอย่างเอ็นดูหลายชั่วโมงผ่านไป... ใช้เวลาหลายชั่วโมงเลยทีเดียวกว่าจะเตรียมของจนเสร็จ นอกนั้นก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของออร์แกไนเซอร์ เนื่องจากว่าที่สามีของเธอได้จ้างวานมาเอง “เหนื่อยไหมวันนี้” เคียร์เอ่ยถามเจ้าตัวแสบของเขา พลางวางมือหนาไว้บนหัวของว่าที่ภรรยาสาวไปด้วย “นิดหน่อย บอกแล้วไม่ต้องจัดก็ได้” เธอเพียงมุ่ยหน้าเล็กน้อย สร้างรอยยิ้มเอ็นดูให้กับคนตรงหน้าได้มากทีเดียว “ได้ไง คนดังอย่างกูแต่งงานทั้งทีเลยนะ” ชายหนุ่มพูดออกมาได้ไม่อายปาก หญิงสาวได้แต่ส่ายหัวไปมาแท
ตอนพิเศษ ๑8 เดือนผ่านไป...เวลา 04.35 น. ภายในห้องกว้างมีเพียงสองร่างชายหญิงกำลังนอนหลับใหล ความเย็นจากเครื่องปรับอากาศกำลังทำงานส่งผลให้ทั้งคู่หลับอย่างสบาย เพียงแค่ไม่กี่วินาทีต่อมาจากความเงียบสงบแปรเปลี่ยนเป็น.... “อะ โอ้ยยยย” หญิงสาวท้องโตสะดุ้งตื่นพร้อมกับส่งเสียงถึงความเจ็บปวดที่ได้รับ เสียงที่เธอร้องออกมาดังจนปลุกให้ชายร่างกำยำมีลายสักที่คอสะดุ้งตื่น “สร้อยเป็นอะไร!” เขาถามเธอออกไปด้วยความตระหนกตกใจ เมื่อเห็นหญิงสาวลุกขึ้นมานั่งกุมท้องใหญ่ “ละ..ลูก จะคลอด! โอ๊ยยยยยเจ็บบบ” หญิงสาวท้องโตพูดออกมาด้วยความเจ็บปวด เตียงที่เคยแห้งกลับกลายเป็นเปียกโชก บ่งบอกได้ดีว่าเด็กน้อยในท้องพร้อมที่จะออกมาลืมตาดูโลกแล้ว “เวรเอ๊ย! อดทนก่อนกูจะรีบพามึงไปโรงพยาบาล” ชายร่างกำยำรีบจัดการเสื้อผ้าบนตัวก่อนจะวิ่งอ้อมมาหาหญิงสาวด้วยความรีบร้อน “หนักฉิบหายเลยโว๊ยยยยย” ปากหนาบ่นอุบอิบ หญิงสาวไม่มีเวลามาสนใจเนื่องจากต้องทนกับอาการเจ็บปวดที่ได้รับ ฝ่ายชายรีบอุ้มหญิงสาววิ่งไปที่รถ
“ไหวไหมนั่น” ฉันทำท่าทางจะลุกเดินไปหา แต่เขาห้ามไว้ซะก่อน “อย่าแกล้งพ่อเขาหนักสิลูก” ฉันนอนลูบท้องเปล่งเสียงเบาบอกลูกของตัวเอง ส่วนเขาก็เดินขึ้นมานอนข้าง ๆ “ดีแล้วที่กูแพ้แทนมึง เพราะถ้ามึงแพ้เองกูคงไม่มีกะจิตกะใจทำงานแน่” แหนะ ยังจะมาปากหวานอีก “พูดถูกใจตลอดด” ฉันแอบแซวเขาพร้อมกับเอื้อมมือขึ้นไปหยิกแก้มทั้งสองไปมา “กูพูดตามความรู้สึก” เขาเอื้อมมือมากุมมือฉันที่กำลังหยิกเขา แล้วหอมมือฉันอย่างแผ่วเบา “รู้ไหมว่ารักมาก?” “อือรู้ ฉันก็รักพี่มากเหมือนกัน” “แล้วรู้ไหมว่ากู หวง ห่วง มึงมาก?” “รู้สิ สร้อยก็ หวง ห่วง พี่เหมือนกันนะ” “งั้นก็รู้ไว้ซะ ว่ามึงคือผู้หญิงของกูคนเดียวและเป็นแม่ของลูกกูด้วย” “>////พี่ก็เหมือนกันเป็นพ่อของลูกสร้อย” ความร้อนรุ่มแทรกผ่านเข้ามาที่ใบหน้าของฉัน เครื่องปรับอาการที่ว่าเย็นมากแล้วยังต้องยอมแพ้กลับความร้อนที่เผาผลาญอยู่บนหน้าของฉัน เขานี่มันพูดได้ไม่อายเลยจริง
บทที่ 31 END “ทำงี้กะจะให้กูหลงจนโงหัวไม่ขึ้นเลยเหรอวะ” บ้าที่สุดดด ชอบพูดคำน่าอายอยู่นั่น “รีบไปได้แล้ว >///” ฉันออกแรงผลักไล่ให้เขาขยับตัวออก แล้วไล่ดุนหลังเขาจนไปถึงหน้าห้อง “เดี๋ยวรีบกลับนะ จุ๊บ” ว่าจับเขาก็จุ๊บลงบนปากของฉันอีกครั้ง แล้วหมุนตัวเดินออกไป กว่าจะได้ออกไปทำงานฉันก็เปลืองตัวไปกับเขามากโขแล้ว หุหุหัวค่ำ...Rrrr Rrr เสียงริงโทนดังขึ้นเรียกความสนใจให้ฉันละสายตาออกจากทีวี พลางก้มลงไปมองสายที่โทรเข้ามา ฉันยกยิ้มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าปลายสายเป็นใครโทรเข้ามา “จะกลับแล้วเหรอ” ฉันกดรับก่อนจะเอ่ยถามคนปลายสาย “อืม ใกล้ถึงแล้ว” เขาตอบเสียงเรียบ “ใกล้ถึงแล้วจะโทรมาให้เปลืองเงินทำไมเล่า” “คิดถึง เพิ่งมีเวลาจับมือถือเอง” เสียงออดอ้อนของปลายสายสร้างความรู้สึกดีให้ฉันไม่น้อย “คิดถึงเหมือนกัน วางสายก่อนขับรถอยู่อันตราย” “ครับ” เขาตอบรับด้วยคำสุภาพทำเอาฉันรู้สึกกระดากหูที่ได้ยิน ไม่
