LOGINเมฆาขยับนิ้วแกร่งชักเข้าออกในร่องรักแสนหวาน เพื่อสร้างความคุ้นเคยให้กับเธอก่อน แต่ว่าตัวเองก็ทรมานไม่น้อย เพราะว่าท่อนแกร่งมันแข็งขึงจนปวดร้าว ชายหนุ่มแลบลิ้นออกมาปาดเลียตรงกลีบอวบอูม น้ำลายเหนียว ๆ บวกกับน้ำหวานที่หญิงสาวหลั่งออกมามันทำให้เกิดเสียงดังจ๊วบ ฟังแล้วก็กระตุ้นอารมณ์พิศวาสให้ทั้งสองได้เป็นอย่างดี
ภูริตาเริ่มคุ้นเคยกับการสัมผัสจากเขา เธอไม่กลัวและไม่เกร็งแล้ว คราวนี้หญิงสาวอยากลองสัมผัสร่างกายของเมฆาบ้าง เธอจึงได้ยกมือขึ้นมาขยุ้มกลุ่มผมดกดำบนศีรษะทุย และยกสะโพกขึ้นมารองรับนิ้วแกร่งและลิ้นร้อนชื้นของเขา เมฆาเห็นการตอบสนองจากเธอ ก็อยากจะให้หญิงสาวลองสัมผัสตัวตนของเขาดูบ้าง เขาจึงส่งนิ้วแกร่งเข้าไปในร่องสวาทหวานเน้น ๆ อีกสี่ห้าครั้ง และดูดดึงตุ่มคริสตัลอีกสองสามที ก่อนจะผละริมฝีปากและดึงนิ้วออกมาจากร่องรักนั้น เขาขยับร่างกายขึ้นไปคร่อมทับร่างบอบบางเอาไว้อีกครั้ง และประกบจูบกับหญิงสาวอย่างเร่าร้อน คราวนี้ภูริตาจูบเก่งขึ้นและรู้จักจูบตอบกลับเขา ปลายลิ้นเล็กของเธอเกี่ยวกระหวัดกับปลายลิ้นใหญ่อย่างซุกซน เมฆาพอใจเป็นอย่างมากที่นักเรียนของเขาหัวไว จูบกับเธอเร่าร้อนเนิ่นนานแล้วก็ผละริมฝีปากออก ริมฝีปากอวบอิ่มบวมเจ่อ ชายหนุ่มใช้นิ้วชี้ไล้ไปตามริมฝีปากที่บวมเจ่อนั้น พลางคิดว่าถ้าหากริมฝีปากนี้ดูดดึงปลายลำลึงค์ของเขา มันจะรู้สึกเช่นไร "ภูริตา ฉันอยากให้เธอสัมผัสร่างกายและตัวตนของฉัน" เมฆาก้มลงไปกระซิบชิดริมใบหูเล็ก ภูริตาขนลุกซู่เธอไม่ปฏิเสธเพราะว่ากำลังอยากลองสัมผัสร่างกายของเขาอยู่พอดี ชายหนุ่มจึงลงไปนอนหงายลงข้าง ๆ เธอ ร่างบางจึงลุกขึ้นนั่ง สายตาของเธอมองไปที่แก่นกลางกายของชายหนุ่ม ภูริตาตะลึงงันกับความใหญ่โตและแข็งขึงของตัวตนของเมฆา แม้ว่าจะรู้สึกหวาดหวั่นแต่ว่าความอยากรู้และอยากลองมีมากกว่า เธอเอื้อมมือเล็กไปสัมผัสแท่งแกร่งนั้นแผ่วเบา "อื้อ..ดะดีมาก" เมฆาสะดุ้งเฮือกครางอื้อออกมาเมื่อมือเล็กสัมผัสตัวตนของเขา รู้สึกได้ถึงความอุ่นร้อนของมือเล็ก ความเจ็บปวดแล่นพล่านไปทั่วร่างปลายถอกบานผงกหัวหงึก ๆ ตอบรับการสัมผัสจากเธอ หญิงสาวลูบไล้ไปทั่วทั้งแท่งแกร่งนั้น มันอุ่นจนร้อนและแข็งขึง เส้นเลือดรอบ ๆ ลำลึงค์ปูดโปนขึ้นมาและเต้นตุ้บ ๆ หัวใจดวงน้อยของภูริตาเต้นแรง และเธอก็รู้สึกได้ว่าร่องสวาทของเธอก็เต้นเร่า ๆ เหมือนกัน แถมยังหลั่งน้ำหวานฉ่ำแฉะออกมาอีกด้วย "เลียมัน" เมฆาบอกกับเธอเสียงแหบพร่าใบหน้าหล่อเหลาบิดเบี้ยวเหยเก ภูริตาจึงโน้มใบหน้าลงไปแล้วก็แลบลิ้นออกมาปาดเลียปลายถอกบานนั้นเบา ๆ "อาว์ ดีมาก" ชายหนุ่มครางเสียงกระเส่าและเอ่ยชมเธอ คราวนี้ภูริตาตวัดปลายลิ้นเล็กรัวเร็วปาดเลียปลายถอกบานถี่รัว เมฆาซ่านเสียวไปทั่วร่าง ความปวดตึงปวดร้าววิ่งเข้าเล่นงานเขาระลอกแล้วระลอกเล่า ไม่นึกเลยว่าหญิงสาวจะหัวไวทำให้เขาเสียวได้ขนาดนี้ มือเล็กของภูริตาก็ชักรูดหนังหุ้มปลายขึ้น ๆ ลง ๆ ด้วย ทุกอย่างที่เธอทำนี้เป็นสัญชาตญาณไม่ใช่ความเชี่ยวชาญแต่อย่างใด แต่ถึงกระนั้นมันก็สร้างความสุขสมให้เมฆาเป็นอย่างมาก ชายหนุ่มครางเสียงแหบพร่าตลอดเวลา คราวนี้หญิงสาวอ้าปากขึ้นจนกว้างดูดอมแท่งแกร่งเข้าไปในปากอ่อนนุ่ม แล้วก็เริ่มขยับโยกศีรษะขึ้น ๆ ลง ๆ สองมือเล็กก็ชักรูดแท่งแกร่งรัวเร็ว "อาว์ เสียวมาก" เมฆาครางไม่เป็นภาษาไม่นึกเลยว่าภูริตาที่ดูนุ่มนิ่มในยามปกติ แต่เวลาที่อยู่บนเตียงจะร้อนแรงและน่ารักได้มากขนาดนี้ ชายหนุ่มทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว ขืนปล่อยให้เธอปรนเปรอเขาด้วยปากและลิ้นแบบนี้อีกเพียงแม้ครึ่งนาที มีหวังเขาได้แตกสลายก่อนแน่ ๆ "พอก่อน" ชายหนุ่มบอกกับภูริตาเสียงสั่นพร่า ภูริตาจึงได้หยุดขยับศีรษะและปล่อยแท่งแกร่งออกจากปากอ่อนนุ่ม เมฆาลุกขึ้นมาและผ่อนร่างบอบบางนอนราบลงไปอีกครั้ง แล้วก็ขยับร่างกายแทรกเข้าไปตรงหว่างขาเรียว พร้อมกับแยกขาของเธอออกให้กว้าง ภูริตาสบตากับเมฆาด้วยสายตาหวาดหวั่น ชายหนุ่มยิ้มให้เธอย่างอ่อนโยนแล้วเขาก็จดจ่อแท่งกายใหญ่โตตรงปากทางเข้าถ้ำสวาท สีแดงสดของร่องรักเพราะยังไม่เคยมีสิ่งใดรุกล้ำเข้าไป และน้ำหวานที่หลั่งออกมานั้นดูช่างยั่วยวนเขาอยู่ในที แล้วเมฆาก็ค่อย ๆ ดุนดันแท่งแกร่งเข้าไปในร่องรักแสนหวาน มันคับแน่นมากแต่ว่ามันก็ค่อย ๆ ชำแรกเข้าไปในร่องรักฉ่ำชื้นได้ทีละน้อย ทีละน้อย จนกระทั่งเข้าไปได้มิดโคน "อ้า..เจ็บ" "ฮึ่มม..นะแน่นจริง" เมื่อแท่งแกร่งเข้าไปได้จนสุดลำแล้ว เมฆาก็อยู่นิ่ง ๆ ก่อนยังไม่ได้ขยับสะโพกโยกเอวสอบ เพราะเขาต้องการให้ร่างกายของภูริตาได้ปรับตัว ชายหนุ่มเอื้อมมือไปลูบไล้หน้าอกอวบใหญ่แผ่วเบา เพื่อเป็นการเล้าโลมและปลอบโยนเธอ "อื้อ" หญิงสาวครางออกมาเสียงแผ่วหวาน ความเจ็บปวดในคราแรกเริ่มหายไป เหลือเพียงความซ่านเสียวเข้ามาแทนที่ เมฆาเห็นว่าภูริตาเริ่มผ่อนคลายและร่างกายของเธอก็ปรับตัวได้แล้ว ชายหนุ่มก็เริ่มขยับสะโพกส่งดุ้นแกร่งเข้าหาร่องรักเบา ๆ ในคราแรก แล้วก็ค่อย ๆ เพิ่มความเร็วและแรงขึ้นมาในคราหลัง "อ๊าา คุณเมฆา" "อื้มม..ดีมาก ครางออกมาเลย" ทั้งสองคนครางกระเส่าลมหายใจหอบถี่ ร่างกายใหญ่โตสอดประสานเข้าไปในร่างกายเล็กได้อย่างพอเหมาะพอเจาะ และทุกจังหวะที่เมฆาส่งแรงกระแทกเข้าไปนั้นทั้งอ่อนโยนแต่ก็ดุดันอยู่ในคราวเดียวกัน สองมือใหญ่เพิ่มแรงขยำขยี้สองเต้าให้อวบมากขึ้น ตามระดับของอารมณ์พิศสวาทหวาน ส่วนสองมือเล็กก็ขยุ้มผ้าปูที่นอนแน่น ใบหน้าสวยหวานแดงก่ำส่งเสียงครางหวานออกมาแทบตลอดเวลา สะโพกอวบยกขึ้นส่ายร่อนรองรับการรุกรานจากกายแกร่ง แม้ว่าบทรักครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกของเธอ แต่หญิงสาวก็ปล่อยตัวปล่อยใจไปตามความรู้สึกและตามสัญชาตญาณ มันจึงเป็นการตอบสนองเขาได้อย่างน่ารักน่าใคร่ เมฆาเองก็ชอบการตอบสนองของเธอ แม้จะดูไม่ประสาแต่ก็ดูเซ็กซี่ ถึงจะเป็นครั้งแรกแต่ว่าร่างกายของเธอก็รองรับตัวตนใหญ่โตของเขาได้เป็นอย่างดี และเขาเชื่อว่าครั้งต่อไปภูริตาจะต้องเก่งกว่านี้แน่นอน ชายหนุ่มใกล้จะไปถึงปลายฝั่งฝันแล้วความเสียวซ่านวิ่งพล่านไปทั้งร่าง เขากัดฟันกรอดส่งตัวตนเข้าใส่ร่องรักฉ่ำชื้นถี่รัว ภูริตาเองก็เช่นกันร่างกายของเธอราวกับถูกไฟช็อตครั้งแล้วครั้งเล่า "อื้อ..ภูริตาเธอนี่มันเยี่ยมจริง ๆ" "อื้อ..ตาเสียว" ทั้งสองคนครางเสียงแหบพร่าประสานกันออกมา และในที่สุดเมฆาก็ส่งแท่งแกร่งเข้าใส่ร่องสวาทหวานเป็นจังหวะสุดท้าย ความสุขสมระลอกใหญ่พุ่งเข้าใส่คนทั้งสอง ร่องสวาทหวานตอดรัดปลายลำลึงค์ถี่รัว แท่งแกร่งของเมฆาก็พ่นลาวาสีขาวขุ่นเข้ารินรดเนินดอกไม้งามจนชุ่มฉ่ำ กายหนาฟุบลงกับเนินอกอวบลมหายใจหอบถี่ เขาจูบตรงปลายยอดอกสีสวยเบา ๆ อย่างหลงใหล ก่อนจะถอดถอนแก่นกายออกจากร่างกายบอบบาง คืนนั้นเมฆาไม่ยอมให้ภูริตาหลับนอนได้ง่าย ๆ เขาเฝ้าสอนบทรักแสนหวานให้เธออีกหลายครั้ง จนกระทั่งหญิงสาวสลบไป ดูท่าว่าชายหนุ่มจะหลงใหลในตัวเธอเข้าให้แล้วสิเช้าวันต่อมาภูริตาตื่นขึ้นมาในช่วงเจ็ดโมงครึ่ง ด้วยอาการเวียนหัวและมวนในท้อง จนเธอต้องรีบวิ่งไปอาเจียนในห้องน้ำ เมฆารีบตามไปลูบหลังไหล่ให้ด้วยความเป็นห่วง หญิงสาวอาเจียนออกมามีเพียงลมและน้ำขม ๆ เท่านั้น"ดีขึ้นหรือยัง ไปหาหมอดีกว่า ?""ไม่เป็นไรหรอกค่ะ แค่อาจจะนอนน้อย"เพราะว่าเมื่อคืนนี้กว่าเมฆาจะปล่อยให้เธอนอนได้ก็หกโมงเช้าแล้ว พอตื่นขึ้นมาจึงอึน ๆ มึน ๆ แบบนีี้น่าจะเป็นเรื่องปกติ "อืม..ถ้าอย่างนั้นเราอาบน้ำลงไปทานข้าวเถอะ ป่านนี้ป้าวันทาคงบ่นแย่""ค่ะ"แล้วทั้งสองคนก็อาบน้ำพร้อมกันซึ่งก็ใช้เวลานานเกือบชั่วโมง และพอเมฆากับภูริตาลงไปทานข้าวก็ปรากฎว่าคุณบงกชกับคุณลือชาทานเสร็จเรียบร้อยไปแล้ว พอเห็นนายหัวกับนายหญิงมาแล้วป้าวันทาก็รีบนำข้าวต้มกุ้งมาเสิร์ฟ แต่พอวางถ้วยข้าวต้มลงตรงหน้าของภูริตา เธอก็รีบเอามือปิดปากเพราะรู้สึกเหม็นมาก"อุ๊บ..เหม็นจังเลยค่ะป้า""เหม็นอะไรคะ เหม็นข้าวต้มเหรอ ?"ภูริตาไม่ตอบแต่เธอพยักหน้าแทน เมฆาที่กำลังตักข้าวต้มเข้าปากก็มองเธอด้วยความเป็นห่วง แล้วเขาก็เล่าอาการของหญิงสาวให้ป้าวันทาฟัง"เมื่อเช้าก็อ้วกแบบนี้ไปรอบนึงแล้วครับป้า""เอ๋..แบบนี้มันน่าจะผิดปกติแล
"คือ..หนูแค่รู้สึกไม่สบายใจที่บางทีนายหัวเค้าก็เย็นชากับหนูมากเกินไป หนูก็รู้แหละว่าเขาไม่ได้รัก เพราะว่าที่เราต้องมาแต่งงานกันก็เพราะสถานการณ์มันบังคับ แต่หนูก็อดน้อยใจไม่ได้ค่ะป้า"ภูริตาบอกเล่าความรู้สึกของเธอให้ป้าวันทาฟังด้วยน้ำเสียงเศร้า ๆ แต่ว่าป้าวันทากลับยิ้มกว้างออกมา เพราะมองออกว่าผัวเมียคู่นี้รักกัน แต่กลับไม่ยอมบอกให้อีกฝ่ายได้รับรู้"คุณตาคะ..ไม่แปลกหรอกที่เราจะรู้สึกน้อยใจสามี บางทีนายหัวก็งานยุ่งเกินไปจริง ๆ นั่นแหละ แถมยังเอาใจผู้หญิงไม่เป็นจึงดูเหินห่างเย็นชามากไป แต่ว่าป้าเอาหัวเป็นประกันเลยนะคะว่า นายหัวน่ะรักคุณตา""จริงเหรอคะ จะเป็นไปได้ยังไง เขาไม่เคยพูดออกมาเลยนะ ?""จริงสิคะ ถ้าเขาไม่พูดเราก็ถามสิ แล้วก็อีกอย่างนะคะหากเรารู้สึกยังไงก็ควรบอกเขาเหมือนกัน""เอาแบบนั้นเหรอคะป้า"ป้าวันทาพยักหน้าให้นายหญิงรัว ๆ เพื่อเป็นการยืนยัน ภูริตาเองก็คิดหนักเธอยอมรับกับตัวเองว่าเธอรักเขา แต่ที่ไม่กล้าพูดออกไปนั่นก็เป็นเพราะว่าเธอกลัวว่าเขาจะปฏิเสธ ภูริตาเข้านอนด้วยจิตใจที่ว้าวุ่นหยิบมือถือขึ้นมาดูหลายครั้ง คิดจะโทรไปหาเมฆาแต่ก็กลัวว่าจะรบกวนการทำงานของเขาจึงไม่ได้โทร คืนนั้
คุณบงกชมองดูลูกสาวที่กำลังช่วยนายดำทำงานอย่างขะมักเขม้น ท่านเองก็ไม่รู้หรอกว่าจะดีใจหรือเสียใจดี เพราะว่าตั้งแต่นลินีได้แต่งงานกับนายดำนั้นก็ดูเปลี่ยนไปมาก จนเหมือนไม่ใช่นลินีคนเดิม"คุณท่าน..มองอะไรอยู่คะ ? ได้เวลาทานข้าวแล้วค่ะ"คุณบงกชหันไปตามเสียงเรียก ก่อนจะยกมือขึ้นมาปาดน้ำตาที่มันไหลลงมาที่หางตา แล้วก็เดินตามภูริตาไปยังโต๊ะทานข้าว ซึ่งตอนนี้มีเมฆาแล้วก็คุณลือชานั่งรออยู่ก่อนแล้ว หญิงสาวขยับเก้าอี้ให้คุณบงกชนั่ง แล้วเธอก็ขยับไปนั่งข้าง ๆ เมฆา หลังจากนั้นทุกคนก็เริ่มลงมือทานข้าวเช้าทั้งคุณบงกชและคุณลือชายังได้รับสิทธิ์ในการทานข้าวร่วมโต๊ะกับเมฆา รวมทั้งได้อาศัยอยู่บนบ้านใหญ่เพราะว่าภูริตาเป็นคนขอเอาไว้ มีเพียงนลินีคนเดียวที่ย้ายลงไปอยู่บ้านพักคนงานกับนายดำผู้เป็นสามีหลังจากทานข้าวเช้าเสร็จแล้วเมฆาก็ออกไปทำงาน ส่วนภูริตาก็ช่วยป้าวันทาทำงานบ้าน เพราะว่าตอนนี้แจ่มใสได้ย้ายไปเรียนในเมืองแล้ว เธอจึงมาคอยช่วยป้าวันทาอีกแรง เพราะว่าขาดลูกมือคนเก่งอย่างแจ่มใสไป"แม่ตา..ฉันขอคุยด้วยหน่อยสิ"คุณบงกชเดินมาเรียกภูริตาที่กำลังช่วยป้าวันทาตากปลาแห้งและกุ้งแห้ง หญิงวัยกลางคนรีบส่งสายตาห้ามนาย
วันนี้เป็นวันที่เกาะเมฆินทร์มีงานเลี้ยง เพราะว่าเมฆาเลี้ยงฉลองให้กับแจ่มใสที่เธอจะไปเรียนต่อในเมือง ทุกคนในเกาะต่างก็กินดื่มกันอย่างสนุกสนานรวมทั้งนลินีด้วย สถานที่จัดงานก็คือริมชายหาด"คุณเมฆาคะ ตาขอตัวก่อนนะคะไม่ไหวตาง่วงแล้ว""อืม..ไปนอนเถอะ เดี๋ยวฉันตามไป"งานเลี้ยงยังคงมีทีท่าว่าจะไม่เลิกราง่าย ๆ แม้เวลาจะผ่านไปดึกแค่ไหนก็ตาม จนภูริตาง่วงนอนขนาดเธอไม่ได้ดื่มนะเนี่ย จึงได้ขอตัวกลับเข้าบ้านเพื่อไปนอน แจ่มใสเองพอเห็นภูริตากลับแล้วเธอก็กลับบ้าง มีหลายคนทยอยกันกลับไม่ว่าจะเป็นคุณบงกชกับคุณลือชารวมทั้งป้าวันทาด้วย แต่ก็ยังมีคนงานอีกหลายคนที่ยังอยู่กินดื่มต่อและหนึ่งในนั้นก็คือนลินี เธอลอบยิ้มออกมาอย่างดีใจเมื่อเห็นว่าภูริตาเดินเข้าบ้านไปแล้ว นังเด็กแจ่มใสนั่นก็ด้วย ดีเลยเธอจะได้ลงมือตามแผนสักทีเวลาผ่านไปจนเลยเที่ยงคืนไปแล้ว ตอนนี้มีหลายคนที่นอนหลับไปตามชายหาด จนกระทั่งเหลือคนงานไม่กี่คน เมฆาที่มีอาการมึนเมาเล็กน้อยก็เตรียมจะเดินเข้าบ้าน นลินีจึงถือโอกาสนี้รีบชงเหล้าจนเต็มแก้ว และใส่ผงอะไรบางอย่างลงไปในเหล้าแก้วนั้น แล้วเธอก็เดินไปดักหน้าของน้องเขยเอาไว้"คุณเมฆาคะ ให้เกียรตินีหน่อยนะ
"เสร็จหรือยัง ? เร็ว ๆ หน่อยสิ ฉันง่วงแล้ว"เมฆาเอ่ยเร่งภูริตาที่กำลังเป่าผมอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง เขารู้สึกว่าช่วงนี้หญิงสาวจะดูสวยมากเป็นพิเศษ ดูมีน้ำมีนวลอย่างไรก็ไม่รู้ ทำให้เขาอดใจไม่ไหวจนต้องจับเธอกดให้จมเตียงแทบทุกคืนหญิงสาวมองค้อนเขาหน้าแดง พลางคิดในใจว่านายหัวนี่ช่างหื่นกามเสียจริง ๆ ไอ้ที่บอกว่าง่วงน่ะไม่ใช่หรอก น่าจะอยากทำอย่างอื่นมากกว่า แต่ว่าวันนี้คงไม่ได้เพราะว่ารอบเดือนเธอมาภูริตาเป่าผมต่ออีกหน่อยก็เก็บไดร์เป่าผม สางผมยาวสลวยนั้นอีกสองสามทีจึงได้ปีนขึ้นไปบนเตียงกว้าง มือหนารีบคว้าร่างอวบอิ่มให้เข้ามาอยู่ในอ้อมกอดทันที แล้วก็ขยับตัวขึ้นมาคร่อมทับหญิงสาวเอาไว้ ก้มใบหน้าลงไปซุกไซ้ซอกคอหอมกรุ่นเบา ๆ"อื้อ..คุณเมฆาคะ คืนนี้ไม่ได้ค่ะตามีรอบเดือน""อะไรกัน เพิ่งมีไปไม่ใช่หรือไง ?""ก็นั่นมันของเดือนที่แล้วนี่คะ""ฉันไม่เชื่อ"เมฆาโต้เถียงกับภูริตาอย่างหงุดหงิด เขาไม่เชื่อหรอกว่าเธอจะมีรอบเดือนจริง ๆ ก็เขาจำได้ว่าเพิ่งจะมีไปนี่นา ซึ่งความจริงแล้วคำว่าเพิ่งของชายหนุ่มก็คือเมื่อสี่สัปดาห์ก่อนหน้า แต่เขาคิดว่าเธอไม่อยากมีอะไรกับเขามากกว่าเมื่อไม่เชื่อเมฆาจึงต้องพิสูจน์ เขาล้ว
เช้าวันต่อมาภูริตาก็ได้มาบอกคุณบงกชกับคุณลือชาและนลินีว่า นายหัวเมฆาอนุญาตให้ทั้งสามคนอยู่ที่นี่ได้ตลอดไป พร้อมทั้งได้จัดห้องให้กับนลินีห้องใหม่ด้วย"จริงเหรอยัยตา ?""จริงสิคะคุณนี""ไม่เสียแรงที่ฉันเลี้ยงเธอมา"คุณบงกชพูดกับภูริตา หญิงสาวก็ได้แต่นิ่งเงียบเช่นเคย แล้วก็ขอตัวไปช่วยคนงานตากปลาหมึกตากกุ้งเหมือนเช่นทุกวัน นลินีเบ้ปากตามหลังน้องสาวบุญธรรมไป พลางคิดในใจถ้าหากเธอรวบหัวรวบหางเมฆาได้เมื่อไหร่ เธอจะให้ภูริตาย้ายไปอยู่ที่บ้านพักคนงานทันทีสามคนของบ้านหวังรักษณ์มาอยู่ที่นี่ก็ไม่ได้ช่วยหยิบจับทำงานอะไรเลย กินนอนไปวัน ๆ แถมยังจิกหัวใช้ป้าวันทากับแจ่มใสอีกด้วย จนเด็กสาวต้องบ่นกับแม่ขณะที่กำลังช่วยกันทำกับข้าว"โอ๊ยแม่ ! หนูจะทนไม่ไหวแล้วนะ เบื่อสามคนพ่อแม่ลูกนั้นมากเลย""เออ..ทน ๆ เอาหน่อยเถอะวะ ยังไงเขาก็เป็นครอบครัวคุณภูริตา อีกหน่อยเอ็งก็จะได้ไปเรียนหนังสือแล้วไม่ใช่เหรอ ?""ก็เพราะว่าเป็นพ่อกับแม่แล้วก็พี่สาวของคุณตานี่แหละ ฉันถึงได้ทน"แจ่มใสบอกออกมาตอนนี้เธอญาติดีกับภูริตาแล้ว เพราะว่าเมียนายหัวนั้นดีกับเธอมาก ๆ และพอรู้ว่าเด็กสาวจะไปเรียนต่อยังได้แนะนำเกี่ยวกับเรื่องเรียนให้







