Masukแล้วร่างบอบบางก็เปลือยเปล่าต่อหน้าเขา ผิวขาวเนียนนั้นสะท้อนแสงไฟดูแล้วก็น่าลูบไล้ไปทั้งตัว หน้าอกอวบใหญ่ปรากฎแก่สายตาคม มันดูใหญ่มากกว่าตอนที่มีเสื้อผ้าปกปิดเกือบเท่าตัว บอกแล้วว่าภูริตาน่ะซ่อนรูป
เมฆาเอื้อมมือไปกอบกุมสองเต้าสวย พร้อมกับโน้มใบหน้าลงไปซุกไซ้ตรงซอกคอหอมกรุ่น ภูริตาหลับตาลงหวาดหวั่นจนร่างกายสั่นไหว ดูเหมือนว่าชายหนุ่มจะรู้ว่าเธอกำลังกลัว จึงกระซิบแผ่วเบาที่ข้างใบหูหอมกรุ่น "ไม่ต้องกลัวฉันจะอ่อนโยนกับเธอ" เสียงแหบพร่าบอกออกมาภูริตาขนลุกซู่ เมฆาไม่ปล่อยให้หญิงสาวได้คิดนาน เขาเลื่อนใบหน้าคมเข้มขึ้นไปหาใบหน้าสวยหวาน แล้วก็ก้มลงประกบจูบกับเธอทันที ส่วนสองมือใหญ่ก็เพิ่มแรงบีบคลึงเค้นเต้าอวบให้มากขึ้น ชายหนุ่มซอกซอนลิ้นหนาเข้าไปภายในโพรงปากหวาน ใช้ปลายลิ้นดุนดันหยอกล้อกับลิ้นเล็กอย่างช่ำชอง หญิงสาวหลับตาพริ้มและจูบตอบเขากลับไปอย่างสะเปะสะปะ เธอทำไปตามอารมณ์ความรู้สึกและสัญชาติญาณ แต่ถึงกระนั้นเมฆาก็พอใจเป็นอย่างมาก ภูริตาทั้งสวยทั้งหวานและบริสุทธิ์ผุดผ่อง ชายหนุ่มรู้เพราะว่าเขาผ่านผู้หญิงมาแล้วหลายต่อหลายคน ความไม่ประสีประสาของหญิงสาวช่วยกระตุ้นอารมณ์พิศสวาทของเขาได้เป็นอย่างดี ชายหนุ่มดูดดึงปลายลิ้นเล็กแรงขึ้น "อื้อ" หญิงสาวส่งเสียงอื้อประท้วงเพราะเจ็บ จากที่ตอนแรกตั้งใจจะอ่อนโยนกับเธอ แต่ดูเหมือนว่าเมฆาจะควบคุมตัวเองไม่ไหวแล้ว อารมณ์กฤษณาพุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ แก่นกลางกายก็แข็งขึงจนปวดร้าว คราวนี้เมฆาผละริมฝีปากบางออกจากริมฝีปากอวบอิ่ม เขาเล็งเป้าหมายไปที่สองเต้าอวบใหญ่ที่ตอนนี้มือใหญ่กำลังกอบกุมอยู่ ชายหนุ่มแลบลิ้นออกมาปาดเลียปลายยอดถันสีสวย ค่อย ๆ ละเลียดชิมความหวานไปเรื่อย ๆ "อื้อ.." ภูริตาครางอื้อออกมาเธอไม่รู้ว่าความรู้สึกที่กำลังเผชิญอยู่นี้คืออะไร แต่ว่ามันทำให้หญิงสาวร้อนผ่าวไปทั้งร่าง ร้อนร่านจนต้องร้องครางเพื่อระบายออกมา เมฆาลอบยิ้มอย่างพอใจ เขาชอบเสียงครางหวาน ๆ ของเธอ คราวนี้เมฆาไม่ได้ใช้แค่ปลายลิ้นปาดเลียเม็ดลำไยสีหวานอย่างเดียว แต่ว่าเขาอ้าปากขึ้นและดูดดึงปลายยอดถันเอาไว้ในปาก ชายหนุ่มดูดดึงเม็ดลำไยทั้งสองข้างสลับกันไปมา สองมือบีบคลึงเค้นเนินอกอวบหนักเบาสลับกัน "อาาา คุณเมฆา" ภูริตาครางเรียกชื่อเขา ใบหน้าสวยหวานร้อนผ่าวและแดงก่ำ สองมือกำขยุ้มผ้าปูที่นอนแน่น แหงนเงยใบหน้าขึ้นและหลับตาพริ้ม เธอวาบหวิวไปทั้งร่างโดยเฉพาะตรงบริเวณใจกลางร่างสาว มันร้อนเร่าและเต้นตุบ ๆ หญิงสาวยังรู้สึกอีกว่ามันเปียกชื้นและฉ่ำแฉะ "ครางออกมาเลยไม่ต้องกั๊ก" เมฆาผงกศีรษะขึ้นบอกกับเธอแล้วก็ก้มลงดูดดึงยอดอกสีหวานต่อ ความจริงแล้วภูริตาก็ไม่ได้อยากเปล่งเสียงครางแบบนั้นออกมาหรอก แต่ว่าความเสียวซ่านวาบหวิวมันแล่นพล่านขึ้นมา เธอจึงจำเป็นต้องระบายมันออกมาด้วยเสียงครางกระเส่าแทน ชายหนุ่มยังคงปรนเปรอลิ้นร้อนชื้นให้กับยอดอกหวาน แต่จะว่าไปแล้วเธอก็หวานไปทั้งตัว เขาอยากจะละเลียดชิมไปทั่วทุกส่วนในร่างกายบอบบางนี้ แต่ว่าตอนนี้ขอเน้น ๆ ตรงหน้าอกอวบใหญ่ก่อน เมฆาดูดดึงปลายยอดถันเสียงดังจ๊วบ สองมือก็บีบคลึงเนินอกอวบแรง ๆ จนร่างบางสะดุ้งเพราะความเจ็บ แต่ถึงแม้จะเจ็บแต่มันกลับแทรกความเสียวซ่านและสุขสมให้กับเธออย่างแปลกประหลาด "อือออ..อา" เปล่งเสียงครางแสนหวานออกมาแทบตลอดเวลา กิริยาท่าทางของหญิงสาวที่ทั้งน่ารักและไร้เดียงสานี้ ทำให้เมฆาทนไม่ไหวอีกต่อไป แก่นกายเขาแข็งขึงและปวดร้าว ชายหนุ่มจึงได้ผละริมฝีปากออกจากยอดอกสีหวาน แล้วก็จูบละเลียดไปตามผิวเนื้อนุ่ม ๆ ขาวผ่อง เขาเริ่มจูบตรงใต้ราวนมและจูบเรื่อยลงมาตรงหน้าท้องแบนราบ จนมาถึงแอ่งสะดือแสนสวย ชายหนุ่มจูบวนอยู่ตรงแอ่งสะดือสักพักใหญ่ แล้วก็ขยับมือไปลูบไล้เนินดอกไม้โหนกนูน เส้นไหมสีดำให้สัมผัสที่นุ่มมือสร้างความรัญจวนใจให้ชายหนุ่มเป็นอย่างมาก ภูริตาหนีบขาเข้ามาเมื่อมือใหญ่สัมผัสตรงเนินดอกไม้ เธอเขินอายแต่ก็ซ่านเสียวอยู่ในที เพราะว่านี่เป็นครั้งแรกที่ส่วนสงวนถูกสัมผัสด้วยมือของคนอื่น "แยกขาออก" เมฆาบอกกับเธอเสียงแหบพร่า แต่ว่าหญิงสาวก็ยังไม่ยอมทำตามคำสั่งเขา ชายหนุ่มจึงจับสองขาเรียวแยกออกจากกัน สายตาคมมองโหนกนูนนั้นอย่างตกตะลึง มันสวยงามและน่าสัมผัสมาก ๆ "อย่าเกร็งนะ" บอกกับเธออีกครั้งก่อนที่เขาจะโน้มใบหน้าลงไปซุกไซ้ตรงเนินดอกไม้แสนหวาน สูดดมกลิ่นกายสาวเข้าไปเต็มปอดมันทั้งหอมและบริสุทธิ์ "อ๊าา คุณเมฆา" ภูริตาครางเสียงหวาน สองมือยกขึ้นมาลูบไล้สองเต้าอวบของตัวเองโดยไม่รู้ตัว ใบหน้าแดงก่ำดูแล้วโคตรเซ็กซี่และมีเสน่ห์มาก ๆ นัยน์ตาหรี่ปรือส่ายหน้าไปมากับหมอน ความซ่านเสียววิ่งพล่านไปทั่วทั้งร่างกาย เมฆาแลบลิ้นออกมาและปัดป่ายไปตามร่องสวาทฉ่ำชื้น มันหวานมากหวานอย่างที่เขาคิด เขาเน้น ๆ ลิ้นตรงตุ่มคริสตัลแสนหวานเพราะรู้ดีว่าตรงนี้เป็นส่วนที่ไวต่อความรู้สึก ภูริตาร้องครางไม่เป็นภาษา เสียงครางของเธอยิ่งไปกระตุ้นอารมณ์ดิบเถื่อนในตัวของชายหนุ่มให้ปะทุขึ้น เมฆาดูดเลียร่องสวาทแสนหวานอยู่เนิ่นนาน เขาคิดว่าหญิงสาวน่าจะพร้อมแล้วจึงได้ส่งนิ้วมือเข้าไปสำรวจถ้าแห่งรักดูก่อน มันคับแน่นมากแต่ว่าเพราะความเชี่ยวชาญของเขาที่คอยเล้าโลมเธออยู่ตลอดเวลา นิ้วแกร่งก็สามารถแทรกเข้าไปในถ้ำสวาทแสนหวานได้ "คุณเมฆา ตาเจ็บ" ภูริตาบอกกับเขาเสียงแผ่ว เธอทั้งเจ็บแต่ก็ซ่านเสียว ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าการแนบชิดกันของชายหญิงมันให้ความรู้สึกแบบนี้นี่เอง "อย่าเกร็ง เดี๋ยวก็หายเจ็บแล้ว" เมฆาบอกกับเธอเสียงแหบพร่า เขาเองก็เจ็บร้าวเช่นกันตรงแก่นกายมันแข็งขึงและร้อนผ่าว แต่ว่าเขาไม่อยากหักหาญเธอเกินไป จึงต้องได้แต่อดทนเอาไว้ก่อน ชายหนุ่มขยับนิ้วแกร่งลองดูมันผลุบเข้าออกในร่องสวาทหวานได้ยากในตอนแรก แต่ก็ค่อย ๆ ง่ายดายขึ้นในตอนหลัง "อื้อ.. อ๊าา" หญิงสาวครางแทบไม่เป็นภาษา สองมือบีบคลึงสองเต้าอวบแรง ๆ เธอวาบหวิวและร้อนร่านไปทั้งร่าง ความเจ็บเริ่มหายไปแล้วเหลือเพียงความเสียวซ่านที่เข้ามาแทนเช้าวันต่อมาภูริตาตื่นขึ้นมาในช่วงเจ็ดโมงครึ่ง ด้วยอาการเวียนหัวและมวนในท้อง จนเธอต้องรีบวิ่งไปอาเจียนในห้องน้ำ เมฆารีบตามไปลูบหลังไหล่ให้ด้วยความเป็นห่วง หญิงสาวอาเจียนออกมามีเพียงลมและน้ำขม ๆ เท่านั้น"ดีขึ้นหรือยัง ไปหาหมอดีกว่า ?""ไม่เป็นไรหรอกค่ะ แค่อาจจะนอนน้อย"เพราะว่าเมื่อคืนนี้กว่าเมฆาจะปล่อยให้เธอนอนได้ก็หกโมงเช้าแล้ว พอตื่นขึ้นมาจึงอึน ๆ มึน ๆ แบบนีี้น่าจะเป็นเรื่องปกติ "อืม..ถ้าอย่างนั้นเราอาบน้ำลงไปทานข้าวเถอะ ป่านนี้ป้าวันทาคงบ่นแย่""ค่ะ"แล้วทั้งสองคนก็อาบน้ำพร้อมกันซึ่งก็ใช้เวลานานเกือบชั่วโมง และพอเมฆากับภูริตาลงไปทานข้าวก็ปรากฎว่าคุณบงกชกับคุณลือชาทานเสร็จเรียบร้อยไปแล้ว พอเห็นนายหัวกับนายหญิงมาแล้วป้าวันทาก็รีบนำข้าวต้มกุ้งมาเสิร์ฟ แต่พอวางถ้วยข้าวต้มลงตรงหน้าของภูริตา เธอก็รีบเอามือปิดปากเพราะรู้สึกเหม็นมาก"อุ๊บ..เหม็นจังเลยค่ะป้า""เหม็นอะไรคะ เหม็นข้าวต้มเหรอ ?"ภูริตาไม่ตอบแต่เธอพยักหน้าแทน เมฆาที่กำลังตักข้าวต้มเข้าปากก็มองเธอด้วยความเป็นห่วง แล้วเขาก็เล่าอาการของหญิงสาวให้ป้าวันทาฟัง"เมื่อเช้าก็อ้วกแบบนี้ไปรอบนึงแล้วครับป้า""เอ๋..แบบนี้มันน่าจะผิดปกติแล
"คือ..หนูแค่รู้สึกไม่สบายใจที่บางทีนายหัวเค้าก็เย็นชากับหนูมากเกินไป หนูก็รู้แหละว่าเขาไม่ได้รัก เพราะว่าที่เราต้องมาแต่งงานกันก็เพราะสถานการณ์มันบังคับ แต่หนูก็อดน้อยใจไม่ได้ค่ะป้า"ภูริตาบอกเล่าความรู้สึกของเธอให้ป้าวันทาฟังด้วยน้ำเสียงเศร้า ๆ แต่ว่าป้าวันทากลับยิ้มกว้างออกมา เพราะมองออกว่าผัวเมียคู่นี้รักกัน แต่กลับไม่ยอมบอกให้อีกฝ่ายได้รับรู้"คุณตาคะ..ไม่แปลกหรอกที่เราจะรู้สึกน้อยใจสามี บางทีนายหัวก็งานยุ่งเกินไปจริง ๆ นั่นแหละ แถมยังเอาใจผู้หญิงไม่เป็นจึงดูเหินห่างเย็นชามากไป แต่ว่าป้าเอาหัวเป็นประกันเลยนะคะว่า นายหัวน่ะรักคุณตา""จริงเหรอคะ จะเป็นไปได้ยังไง เขาไม่เคยพูดออกมาเลยนะ ?""จริงสิคะ ถ้าเขาไม่พูดเราก็ถามสิ แล้วก็อีกอย่างนะคะหากเรารู้สึกยังไงก็ควรบอกเขาเหมือนกัน""เอาแบบนั้นเหรอคะป้า"ป้าวันทาพยักหน้าให้นายหญิงรัว ๆ เพื่อเป็นการยืนยัน ภูริตาเองก็คิดหนักเธอยอมรับกับตัวเองว่าเธอรักเขา แต่ที่ไม่กล้าพูดออกไปนั่นก็เป็นเพราะว่าเธอกลัวว่าเขาจะปฏิเสธ ภูริตาเข้านอนด้วยจิตใจที่ว้าวุ่นหยิบมือถือขึ้นมาดูหลายครั้ง คิดจะโทรไปหาเมฆาแต่ก็กลัวว่าจะรบกวนการทำงานของเขาจึงไม่ได้โทร คืนนั้
คุณบงกชมองดูลูกสาวที่กำลังช่วยนายดำทำงานอย่างขะมักเขม้น ท่านเองก็ไม่รู้หรอกว่าจะดีใจหรือเสียใจดี เพราะว่าตั้งแต่นลินีได้แต่งงานกับนายดำนั้นก็ดูเปลี่ยนไปมาก จนเหมือนไม่ใช่นลินีคนเดิม"คุณท่าน..มองอะไรอยู่คะ ? ได้เวลาทานข้าวแล้วค่ะ"คุณบงกชหันไปตามเสียงเรียก ก่อนจะยกมือขึ้นมาปาดน้ำตาที่มันไหลลงมาที่หางตา แล้วก็เดินตามภูริตาไปยังโต๊ะทานข้าว ซึ่งตอนนี้มีเมฆาแล้วก็คุณลือชานั่งรออยู่ก่อนแล้ว หญิงสาวขยับเก้าอี้ให้คุณบงกชนั่ง แล้วเธอก็ขยับไปนั่งข้าง ๆ เมฆา หลังจากนั้นทุกคนก็เริ่มลงมือทานข้าวเช้าทั้งคุณบงกชและคุณลือชายังได้รับสิทธิ์ในการทานข้าวร่วมโต๊ะกับเมฆา รวมทั้งได้อาศัยอยู่บนบ้านใหญ่เพราะว่าภูริตาเป็นคนขอเอาไว้ มีเพียงนลินีคนเดียวที่ย้ายลงไปอยู่บ้านพักคนงานกับนายดำผู้เป็นสามีหลังจากทานข้าวเช้าเสร็จแล้วเมฆาก็ออกไปทำงาน ส่วนภูริตาก็ช่วยป้าวันทาทำงานบ้าน เพราะว่าตอนนี้แจ่มใสได้ย้ายไปเรียนในเมืองแล้ว เธอจึงมาคอยช่วยป้าวันทาอีกแรง เพราะว่าขาดลูกมือคนเก่งอย่างแจ่มใสไป"แม่ตา..ฉันขอคุยด้วยหน่อยสิ"คุณบงกชเดินมาเรียกภูริตาที่กำลังช่วยป้าวันทาตากปลาแห้งและกุ้งแห้ง หญิงวัยกลางคนรีบส่งสายตาห้ามนาย
วันนี้เป็นวันที่เกาะเมฆินทร์มีงานเลี้ยง เพราะว่าเมฆาเลี้ยงฉลองให้กับแจ่มใสที่เธอจะไปเรียนต่อในเมือง ทุกคนในเกาะต่างก็กินดื่มกันอย่างสนุกสนานรวมทั้งนลินีด้วย สถานที่จัดงานก็คือริมชายหาด"คุณเมฆาคะ ตาขอตัวก่อนนะคะไม่ไหวตาง่วงแล้ว""อืม..ไปนอนเถอะ เดี๋ยวฉันตามไป"งานเลี้ยงยังคงมีทีท่าว่าจะไม่เลิกราง่าย ๆ แม้เวลาจะผ่านไปดึกแค่ไหนก็ตาม จนภูริตาง่วงนอนขนาดเธอไม่ได้ดื่มนะเนี่ย จึงได้ขอตัวกลับเข้าบ้านเพื่อไปนอน แจ่มใสเองพอเห็นภูริตากลับแล้วเธอก็กลับบ้าง มีหลายคนทยอยกันกลับไม่ว่าจะเป็นคุณบงกชกับคุณลือชารวมทั้งป้าวันทาด้วย แต่ก็ยังมีคนงานอีกหลายคนที่ยังอยู่กินดื่มต่อและหนึ่งในนั้นก็คือนลินี เธอลอบยิ้มออกมาอย่างดีใจเมื่อเห็นว่าภูริตาเดินเข้าบ้านไปแล้ว นังเด็กแจ่มใสนั่นก็ด้วย ดีเลยเธอจะได้ลงมือตามแผนสักทีเวลาผ่านไปจนเลยเที่ยงคืนไปแล้ว ตอนนี้มีหลายคนที่นอนหลับไปตามชายหาด จนกระทั่งเหลือคนงานไม่กี่คน เมฆาที่มีอาการมึนเมาเล็กน้อยก็เตรียมจะเดินเข้าบ้าน นลินีจึงถือโอกาสนี้รีบชงเหล้าจนเต็มแก้ว และใส่ผงอะไรบางอย่างลงไปในเหล้าแก้วนั้น แล้วเธอก็เดินไปดักหน้าของน้องเขยเอาไว้"คุณเมฆาคะ ให้เกียรตินีหน่อยนะ
"เสร็จหรือยัง ? เร็ว ๆ หน่อยสิ ฉันง่วงแล้ว"เมฆาเอ่ยเร่งภูริตาที่กำลังเป่าผมอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง เขารู้สึกว่าช่วงนี้หญิงสาวจะดูสวยมากเป็นพิเศษ ดูมีน้ำมีนวลอย่างไรก็ไม่รู้ ทำให้เขาอดใจไม่ไหวจนต้องจับเธอกดให้จมเตียงแทบทุกคืนหญิงสาวมองค้อนเขาหน้าแดง พลางคิดในใจว่านายหัวนี่ช่างหื่นกามเสียจริง ๆ ไอ้ที่บอกว่าง่วงน่ะไม่ใช่หรอก น่าจะอยากทำอย่างอื่นมากกว่า แต่ว่าวันนี้คงไม่ได้เพราะว่ารอบเดือนเธอมาภูริตาเป่าผมต่ออีกหน่อยก็เก็บไดร์เป่าผม สางผมยาวสลวยนั้นอีกสองสามทีจึงได้ปีนขึ้นไปบนเตียงกว้าง มือหนารีบคว้าร่างอวบอิ่มให้เข้ามาอยู่ในอ้อมกอดทันที แล้วก็ขยับตัวขึ้นมาคร่อมทับหญิงสาวเอาไว้ ก้มใบหน้าลงไปซุกไซ้ซอกคอหอมกรุ่นเบา ๆ"อื้อ..คุณเมฆาคะ คืนนี้ไม่ได้ค่ะตามีรอบเดือน""อะไรกัน เพิ่งมีไปไม่ใช่หรือไง ?""ก็นั่นมันของเดือนที่แล้วนี่คะ""ฉันไม่เชื่อ"เมฆาโต้เถียงกับภูริตาอย่างหงุดหงิด เขาไม่เชื่อหรอกว่าเธอจะมีรอบเดือนจริง ๆ ก็เขาจำได้ว่าเพิ่งจะมีไปนี่นา ซึ่งความจริงแล้วคำว่าเพิ่งของชายหนุ่มก็คือเมื่อสี่สัปดาห์ก่อนหน้า แต่เขาคิดว่าเธอไม่อยากมีอะไรกับเขามากกว่าเมื่อไม่เชื่อเมฆาจึงต้องพิสูจน์ เขาล้ว
เช้าวันต่อมาภูริตาก็ได้มาบอกคุณบงกชกับคุณลือชาและนลินีว่า นายหัวเมฆาอนุญาตให้ทั้งสามคนอยู่ที่นี่ได้ตลอดไป พร้อมทั้งได้จัดห้องให้กับนลินีห้องใหม่ด้วย"จริงเหรอยัยตา ?""จริงสิคะคุณนี""ไม่เสียแรงที่ฉันเลี้ยงเธอมา"คุณบงกชพูดกับภูริตา หญิงสาวก็ได้แต่นิ่งเงียบเช่นเคย แล้วก็ขอตัวไปช่วยคนงานตากปลาหมึกตากกุ้งเหมือนเช่นทุกวัน นลินีเบ้ปากตามหลังน้องสาวบุญธรรมไป พลางคิดในใจถ้าหากเธอรวบหัวรวบหางเมฆาได้เมื่อไหร่ เธอจะให้ภูริตาย้ายไปอยู่ที่บ้านพักคนงานทันทีสามคนของบ้านหวังรักษณ์มาอยู่ที่นี่ก็ไม่ได้ช่วยหยิบจับทำงานอะไรเลย กินนอนไปวัน ๆ แถมยังจิกหัวใช้ป้าวันทากับแจ่มใสอีกด้วย จนเด็กสาวต้องบ่นกับแม่ขณะที่กำลังช่วยกันทำกับข้าว"โอ๊ยแม่ ! หนูจะทนไม่ไหวแล้วนะ เบื่อสามคนพ่อแม่ลูกนั้นมากเลย""เออ..ทน ๆ เอาหน่อยเถอะวะ ยังไงเขาก็เป็นครอบครัวคุณภูริตา อีกหน่อยเอ็งก็จะได้ไปเรียนหนังสือแล้วไม่ใช่เหรอ ?""ก็เพราะว่าเป็นพ่อกับแม่แล้วก็พี่สาวของคุณตานี่แหละ ฉันถึงได้ทน"แจ่มใสบอกออกมาตอนนี้เธอญาติดีกับภูริตาแล้ว เพราะว่าเมียนายหัวนั้นดีกับเธอมาก ๆ และพอรู้ว่าเด็กสาวจะไปเรียนต่อยังได้แนะนำเกี่ยวกับเรื่องเรียนให้







