แชร์

บทที่2 ต้องมิใช่

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-27 17:50:10

แม้จะเป็นเรื่องมหัศจรรย์เกินกว่าจะเชื่อ และสับสนว่าเป็นจริงหรือไม่ แต่สุดท้ายเฉินอันหนิงก็ยึดเอาความคิดนี้เป็นเหตุผลอธิบายทุกสิ่งที่เกิดขึ้น

นางหวนกลับมาแล้ว… 

หวนกลับมาในวันวานที่ยังคงสงบสุข

นอกจากเสด็จแม่ที่จากไปเพราะอาการเจ็บป่วย ทุกคนยังคงอยู่และเกมชิงอำนาจก็ยังมิได้เริ่ม…มีเพียงการช่วงชิงความโปรดปรานเพื่อตำแหน่งฮองเฮาที่ว่างอยู่เท่านั้น

ดีล่ะ ในเมื่อได้หวนกลับมาในวันคืนเก่า นางจะไม่ยอมให้เหตุการณ์มันเป็นเช่นเดิมอีก

ไม่มีวัน!!!

นางขอเอาชีวิตใหม่เป็นเดิมพัน !

“อะแฮ่ม” ปล่อยให้เงียบกันอยู่ไม่นานเฉินไท่เสียนฮ่องเต้ก็กระแอมขึ้นหลังจากที่เถียงไม่ออกมาครู่ใหญ่ บุรุษสูงศักดิ์กว่าคนทั้งแผ่นดินหันมาหาธิดาองค์โตก่อนจะเอ่ยเสียงอ่อนโยน “พ่อยอมรับว่าพ่อผิด เจ้าก้อนแป้งยกโทษให้พ่อได้หรือไม่ พ่อสัญญาว่าจะไม่ทำผิดต่อเจ้าอีก”

เจ้าก้อนแป้งของโอรสสวรรค์ลอบสูดหายใจหนัก ๆ ทันทีที่คิดได้ว่าตนควรทำสิ่งใด นางเชิดหน้าบ่ายหนีพร้อมทั้งยกมือกอดอกอย่างเอาแต่ใจก่อนจะเอ่ยอย่างแสนงอน “หนิงเอ๋อร์ไม่ยกโทษให้เสด็จพ่อหรอกเพคะ เสด็จพ่อรักน้องคนใหม่มากกว่าหนิงเอ๋อร์”

“โธ่ เจ้าก้อนแป้ง พ่อจะไปรักผู้ใดมากกว่าเจ้าได้”

“แต่เสด็จพ่อผิดสัญญากับหนิงเอ๋อร์เพราะน้องคนใหม่ นั่นก็ยืนยันแล้วว่าเสด็จพ่อรักผู้ใดมากกว่าหนิงเอ๋อร์ เสด็จป้าก็มองออกใช่หรือไม่เพคะ”

“ใช่...การกระทำของฝ่าบาทล้วนชัดเจนอยู่แล้ว” หรงกุ้ยเฟยที่ยืนเงียบอยู่นานส่งเสียงเมื่อหลานสาวขอแรงสนับสนุน องค์หญิงใหญ่แห่งแคว้นเฉินลอบมองพระบิดาที่หันไปมองค้อนผู้เป็นสนมก่อนจะเชิดหน้าแสนงอน

ชาติก่อนแม้จะเย็นชาแต่หรงกุ้ยเฟยออกปากแทนนางอยู่หลายเรื่อง ยามที่นางถูกช่วงชิงช่วงเวลาสำคัญกับฮ่องเต้ไป หากแต่ที่ผ่านมานางกลับมิได้ใช้โอกาสที่หรงกุ้ยเฟยมอบให้มาใช้ให้เป็นประโยชน์เลยสักครั้ง

ไม่ว่าเสด็จพ่อจะผิดสัญญากับนางกี่ครั้งกี่หนเพราะเฉินซูเหมยและมารดาเล่นเล่ห์รั้งตัว นางก็ยอมอภัยให้เสด็จพ่อเสมอ นานวันเข้าพระองค์จึงมิค่อยใส่พระทัยกับนางเท่าทีควร ด้วยรู้ว่าไม่ว่าเกิดเหตุอันใดนางก็จะก้มหน้ายินยอมและไม่ถือสาใด ๆ 

มันจะไม่เป็นเช่นนั้นอีก นางจะไม่มองข้ามความหวังดีของหรงกุ้ยเฟยอีก และจะไม่ยอมให้ผู้ใดมาแย่งชิงเสด็จพ่อไปอีก ธิดาองค์โตเช่นนางเป็นที่รักของเสด็จพ่อมาโดยตลอด…และจะเป็นตลอดไป

“หนิงเอ๋อร์จะไม่หายโกรธเสด็จพ่อหรอกนะเพคะ ไม่หายโกรธอย่างแน่นอน”

“โธ่ ลูกรัก พ่อเพียงรู้สึกผิดต่อนาง ที่ปล่อยให้นางเติบโตมานอกวัง มิใช่เพราะพ่อหลงนางจนลืมเจ้า ในโลกนี้มิมีผู้ใดที่พ่อรักมากไปกว่าเจ้า เชื่อพ่อสิ”

“หนิงเอ๋อร์ไม่เชื่อ” นางพูดแล้วก็ล้มตัวนอนและหันหลังให้ หมายมาดว่าจะไม่ยอมหันกลับไป

“โธ่ ลูกรัก พ่อต้องทำเช่นไรเจ้าถึงจะยกโทษให้พ่อ บอกพ่อมาสิ พ่อจะยอมทำทุกอย่าง”

“ทุกอย่างหรือเพคะ”

“ใช่ ทุกอย่างเลย บอกพ่อมาสิ อยากได้สิ่งใด” โอรสสวรรค์ผู้อยู่เหนือคนนับหมื่นพันหากแต่ยอมยกให้พระธิดาอยู่เหนือกว่าตอบไปโดยมิต้องคิด ไม่ว่าสิ่งใด หากเป็นสิ่งที่เจ้าก้อนแป้งต้องการมีหรือเขาจะไม่ยอม นางเป็นลูกคนแรก ซ้ำยังเกิดจากสตรีที่เขารักสุดหัวใจ ไม่ว่าอย่างไรเขาก็รักนางที่สุด และรักที่สุดอย่างแท้จริงมิใช่เพียงลมปาก...หากนางขอบัลลังก์เขาก็พร้อมจะเขียนพระราชโองการยกให้

“เช่นนั้นต่อไปหากเสด็จพ่อจะไปหาฉินเจาอี๋และน้องซูเหมย เสด็จพ่อต้องบอกหนิงเอ๋อร์ก่อน หากหนิงเอ๋อรไม่ยินยอมห้ามเสด็จพ่อไปหาพวกนาง” นางยื่นเงื่อนไขโดยที่ยังไม่ยอมหันกลับมามองบุรุษสูงศักดิ์ ออกจะใจร้ายกับเฉินซูเหมยที่ตอนนี้เพิ่งห้าหนาวอยู่มาก แต่อันหนิงตัดสินใจแล้วว่านางจะไม่แยแสสงสารให้น้องสาวผู้นั้นอีก ต่อให้ต้องมีชื่อเสียงเป็นองค์หญิงใหญ่ผู้ร้ายกาจติดตัวก็ตาม

ชีวิตก่อนเพราะเฉินซูเหมยรั้งเสด็จพ่อเอาไว้ได้นานวันไปผู้คนจึงพูดกันว่าน้องสาวผู้นั้นคือธิดาองค์โปรด ผู้ใดจึงไม่กล้าขัดใจนางและมารดา รวมถึงนางด้วย เพราะอ่อนแอและโง่เขลานางจึงถูกพี่น้องคนอื่น ๆ กลั่นแกล้ง มีเพียงเฉินซูเหมยที่ออกหน้าปกป้องได้ นางจึงต้องพึ่งพางูพิษผู้นั้นและถูกหลอกใช้รับผิดแทนอยู่หลายเรื่อง

ไม่มีอีกแล้วเหตุการณ์เช่นนั้น

ผู้ที่กุมพระทัยฮ่องเต้ไว้ได้ต้องมิใช่น้องสาวผู้นั้น

“หากเสด็จพ่อไม่รับปาก เช่นนั้นหนิงเอ๋อร์ก็ไม่มีสิ่งใดจะพูดอีกเพคะ ...เสด็จป้าซูหลาน หนิงเอ๋อร์ไปอยู่ตำหนักเสด็จป้าได้หรือไม่เพคะ” นางทำทีหันไปพูดคุยกับหรงกุ้ยเฟยโดยไม่สนใจโอรสสวรรค์อีก การทำเช่นนี้มันได้ผลเป็นอย่างดีทีเดียว เพียงแค่นางไม่ปลายตาไปมองเสด็จพ่อก็ลนลานจนต้องรับปากออกมา

“ลูกรัก พ่อรับปากเจ้า อย่าหมางเมินพ่อเช่นนี้เลย พ่อรับปากแล้ว”

“ทรงแน่พระทัยนะเพคะว่าจะรักษาสัญญากับองค์หญิง” หรงกุ้ยเฟยเอ่ยขึ้นเป็นการถามย้ำ โอรสสวรรค์ตรัสแล้วไม่คืนคำ หากคำที่พูดพระองค์ทำไม่ได้ก็รีบถอนคำพูดเสีย ไม่เช่นนั้นนางนี่แหละจะเป็นผู้เล่นงานพระองค์เอง

สายตาของกุ้ยเฟยตระกูลหรงบอกเช่นนั้น เฉินอันหนิงที่มองผู้เป็นป้าอยู่ทำเพียงลอบยิ้ม นี่คือพยานชั้นดีหากเสด็จพ่อกล้าผิดคำพูด นางมั่นใจว่าต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่…เสด็จพ่อจะไม่มีทางได้ไปหาเฉินซูเหมยอีกแน่

“หึ โอรสสวรรค์พูดแล้วไม่คืนคำ หากเราผิดสัญญากับองค์หญิง เจ้านำไปฟ้องร้องผู้คนทั้งแผ่นดินได้เลยหรงกุ้ยเฟย”

“เสด็จพ่อรับปากแล้วนะเพคะ”

“ใช่แล้วลูกรัก ขอแค่เจ้ายกโทษและไม่หมางเมินใส่พ่อ พ่อทำให้เจ้าได้ทุกอย่าง”

“เช่นนั้น…หนิงเอ๋อร์ยกโทษให้เสด็จพ่อก็ได้เพคะ” เฉินอันหนิงไม่เพียงหันมาหาผู้เป็นพ่อแต่ยังเดินเข้ามากอดอย่างออดอ้อนเอาใจ เพียงได้เห็นท่าทีเช่นนั้นฮ่องเต้ไท่เสียนก็แทบจะละลายลงตรงนั้น

เจ้าก้อนแป้งของเขาช่างน่าเอ็นดูยิ่ง

แล้วเขาจะกล้าทำร้ายนางได้อย่างไรกันเล่า

องค์หญิงพระองค์โตถูกผู้เป็นบิดาอุ้มขึ้นมากอดด้วยความรักใคร่ นางใช้โอกาสนั้นสบตากับหรงกุ้ยเฟยที่คลี่ยิ้มมุมปากมองอยู่ ก่อนจะส่งยิ้มที่เข้าใจกันให้

เป็นรอยยิ้มที่แปลกไปจากปกติ…

เป็นรอยยิ้มที่มีความหมายลึกซึ่งอย่างที่ผู้ใดมิคาดคิด

ความหมายนั้นมิใช่อื่นใด เป็นการบอกว่า…จากนี้ไปพวกเราอยู่ข้างเดียวกัน นางจะไม่อ่อนแออีกแล้ว

และมากไปกว่านั้นอันหนิงอยากจะบอกผู้เป็นป้าเหลือเกินว่าจากนี้ไปเสด็จป้ามิต้องห่วงอันใดนางอีกแล้ว นางจะแข็งแกร่งเพื่อปกป้องน้องสามและพระนางเอง

ผู้ที่จะต้องไปอยู่ตำหนักเย็นต้องมิใช่พระนาง

ผู้ที่ได้รับพระราชทานผ้าขาวก็ต้องมิใช่พระนางเช่นกัน

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เฉินอันหนิง องค์หญิงผู้หวนคืน   บทส่งท้าย

    หกเดือนต่อมา...ในที่สุดงานมงคลของกู้หลุนอันหนิงกงจู่อันเป็นที่รักของผู้คนและราชวงศ์ก็เกิดขึ้น ฟู่จื่อเหยียนในชุดสีแดงปักเย็บอย่างดีขี่ม้าคู่ใจนำหน้าแห่ขบวนเจ้าสาวอันยาวเหยียดด้วยสีหน้าเต็มเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มกว่าจะมีวันนี้ มิใช่ง่าย ๆ เลย แม้ว่าบิดาของเขาจะใช้หลายคำพูดทำให้ฮ่องเต้ไท่เสียนยินยอมให้เขาและบุตรสาวอันเป็นที่รักออกเรือนได้แต่เหล่าอ๋องมิใช่จะยินยอมง่าย ๆ แม้จะทำสิ่งใดเขาไม่ได้แต่ก็พยายามขัดขวางอย่างถึงที่สุดกว่าที่จะยินยอมให้พี่สาวได้ออกเรือน ก็ล่วงเลยมาถึงครึ่งปีทีเดียวฟู่จื่อเหยียนในตอนที่กลับมาต้าเฉินในฐานะบุตรชายคนโตของสกุลฟู่มิได้มีตำแหน่งใดนอกจากสถานะคุณชายฟู่ แต่ระยะเวลาหกเดือนจากคุณชายฟู่ก็ได้เปลี่ยนแปลงไป ผู้คนเรียกขานเขาว่าแม่ทัพฟู่ อันเนื่องมาจากแม้เหตุการณ์หลายอย่างจะเปลี่ยนไป แต่แคว้นฉีก็ยังดันทุรังจะตีต้าเฉิน เหล่าอ๋องต้องการยื้อเวลาไม่ให้พี่ใหญ่ของตนได้ออกเรือนเร็วเกินไป จึงเสนอให้เขาออกรบและกำราบแคว้นฉีเสียแม้การทำศึกกับฉีไม่ได้ยากเย็น แต่ก็กินเวลาไปหลายเดือน

  • เฉินอันหนิง องค์หญิงผู้หวนคืน   บทที่98 อำลาต้าไห่

    เรื่องราวทุกสิ่งจบลงที่การแต่งตั้งหยางอ้ายฉิงเป็นหยางฮองเฮา ก่อนกำหนดพิธีอภิเษกสมรสในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้าเรื่องงานอภิเษกเป็นเรื่องภายใน ฮ่องเต้ไท่เสียนแม้เอ็นดูไห่ซุนหลิงดั่งบุตรชายแต่ก็ไม่อาจรั้งอยู่ต่อรอถึงงานอภิเษกได้ ครั่นจะเดินทางกลับก่อนแล้วค่อยมาก็ไม่ทันอย่างแน่นอน จึงได้แต่ตัดใจ ไม่รั้งอยู่กำหนดเดินทางกลับต้าเฉินจึงเป็นเช้าวันรุ่งขึ้น หลังเสร็จการประชุมฮ่องเต้และฮองเฮาบอกลาคนเป็นดุจบุตรชายและขอตัวกลับตำหนักรับรองไปแล้ว เหลือเพียงเฉินอันหนิงและจิวหูที่ยังอยู่รับน้ำชากับฮ่องเต้ซุนหลิงและว่าที่ฮองเฮา วันนี้เองที่เฉินอันหนิงได้พูดคุยกับหยางอ้ายฉิงอีกครั้ง ทั้งคู่เข้ากันได้ดีเมื่อได้พูดคุยขอโทษขอโพยที่ต่างล่วงเกินกันในวันแรกที่เจอก่อนที่เฉินอันหนิงจะกล่าวขออภัยที่ไม่อาจอยู่ร่วมงานอภิเษกได้“ขออภัยพี่ใหญ่จิว และคุณหนูหยาง ที่มิอาจอยู่ร่วมงานอภิเษกได้”“อย่าได้คิดมาก ข้ามิใช่คนคิดเล็กคิดน้อย” จิวหลิงพูดแล้วก็ยกยิ้มและเอายคล้ายจะแกล้งเย้า “แต่งานของเจ้ากับเขา ช่วยเผื่อเวลาให้

  • เฉินอันหนิง องค์หญิงผู้หวนคืน   บทที่97 ไม่มีคำปฏิเสธ

    “เห็นได้ชัดว่าท่านยังโง่งมอยู่ ท่านจะป้อนยาล้ำค่าที่มีเพียงหกเม็ดให้พี่ใหญ่ได้อย่างไรกัน นั่นคือของสำคัญของท่านนะ” เป็นเฉินไป๋เสวี่ยที่มาห้ามเอาไว้ ในขณะที่สถานการณ์รอบข้างคลี่คลายลงได้แล้วด้วยฝีมือของหานอ๋องและเหล่าองครักษ์ร่วมมือกับคนของพรรคเมฆาสุริยันต์เฉินไป๋เสวี่ยส่ายหน้าพร้อมกับกำข้อมือของผู้เป็นศิษย์สำนักเดียวกันเอาไว้แน่น ไม่ยอมปล่อยให้จิวหูได้ทำตามใจ เขาเป็นศิษย์หมอเทวดาย่อมรู้ว่ายาลูกกลอนในมือของอีกฝ่ายนั้นเป็นยาล้ำค่าที่สามารถรักษาคนที่อาการสาหัสให้ฟื้นคืนได้ ทว่าสิ่งนั้นมีเพียงน้อยนิด หลายปีก่อนเจ้าสำนักโอวหยางเหวินหลงปรุงยาขึ้นมาได้หกเม็ด เก็บเอาไว้เองหนึ่งเม็ดและมอบให้กับลูกศิษย์ทั้งห้าคนละเม็ดและไม่คิดจะปรุงเพิ่มอีก หวังให้ศิษย์ใช้ยานี้เมื่อถึงคราวคับขันแต่คราวคับขันนั้นมิใช่ให้ใช้กับผู้อื่น...คนผู้นี้ไม่รักชีวิตถึงขั้นจะแลกเพื่อพี่สาวของเขาเชียวหรือ หากวันหน้าเป็นอันใดไปจะทำอย่างไรเล่า“ยานี้ไม่สำคัญอันใด ถ้าไม่มีนาง ต่อให้ต้องแลกกับโลกใบนี้เพื่อนาง ข้าก็จะแลก” ไม่มีสิ่งใดม

  • เฉินอันหนิง องค์หญิงผู้หวนคืน   บทที่96 มีคนร้าย

    รถม้าเคลื่อนไปแล้ว แต่ชายหนุ่มยังคงยืนนิ่งอยู่ ไม่ได้เข้าไปภายในตำหนักรับรอง และไม่ได้จากไปที่ใดมิใช่เพราะลังเลอันใดอีก แต่เพราะกำลังขบคิดกับคำของอาจารย์ สิ่งที่อาจารย์ตักเตือนเขาและเหล่าเศิษย์พี่น้องไม่เคยไม่เชื่อ ด้วยว่าอาจารย์ไม่เคยมองสิ่งใดผิดพออาจารย์เอ่ยเช่นนี้ เขาก็ชักสังหรณ์ใจไม่ดีเสียแล้ว“อะ พี่ใหญ่” ไม่ทันจะได้คิดสิ่งใดมากไปกว่านั้นเสียงเรียกจากด้านหลังก็ดังขึ้น“เหยาเหยา” จิวหูส่งเสียงให้น้องสาวที่ส่งเสียงเรียกก่อนจะได้เห็นว่าด้านหลังของฟู่จื่อเหยายังมีเฉินอันหนิง เฉินลี่หลิน และอ๋องทั้งสอง กับฟู่จื่อหมิงและฟู่จื่อหลิงอยู่ด้วย“จะออกไปที่ใดกัน”“หอเมฆาเจ้าค่ะ พี่ใหญ่ก็ไปด้วยกันนะเจ้าคะเหยาเหยาอยากอยู่กับพี่ใหญ่” ฟู่จื่อเหยามิได้ชักชวนแต่ดึงแขนผู้เป็นพี่ให้เดินตามเหล่าเชื้อพระวงศ์ทั้งสี่ที่เดินนำไปก่อนแล้ว นั่นย่อมหมายถึงนางไม่เปิดโอกาสให้จิวหูได้ปฏิเสธ บุรุษผู้ไม่มีสิ่งใดให้ต้องลังเลอีกก้าวตามไปด้วยโดยไร้คำใดโต้แย้ง

  • เฉินอันหนิง องค์หญิงผู้หวนคืน   บทที่95 ที่แท้เป็นเช่นนี้

    เฉินอันหนิงเป็นฝ่ายก้าวนำบุรุษหน้ากากออกไปด้านนอกก่อนจะนำเขาไปยังสวนด้านหลังซึ่งเงียบสงบ แค่เพียงหยุดเดินบทสนทนาก็เริ่มต้นขึ้นจากฝ่ายของผู้หยั่งรู้ฟ้าดินในทันที“เขายังสบายดีได้ ย่อมเพราะชะตาของท่านยังปลอดภัย”“หมายความว่าอย่างไรหรือเจ้าคะ?”“เจ้าสามจะอยู่รอดปลอดภัยหรือไม่ขึ้นอยู่ที่ชะตาของท่าน”คำบอกเล่าของคนตรงหน้ามิได้แตกต่างจากหนิงอันมากนัก ทว่าสิ่งเหล่านั้นเป็นเรื่องรองในใจของนาง เฉินอันอันหนิงมองสบตาคู่คมกริบก่อนจะสอบถามออกไปโดยตรง “ท่านพอจะบอกได้หรือไม่ ว่าเหตุใดข้าจึงได้รับโอกาส”“ต้าเฉินมีมังกรและหงส์เพลิงพิทักษ์อยู่ เรื่องนี้ข้าคงไม่ต้องบอกท่านกระมัง”ตำนานมังกรและหงส์พิทักษ์ต้าเฉิน ผู้คนทั้งต้าเฉินล้วนเคยได้ยิน ยิ่งมีตำนานว่าราชวงค์คือลูกหลานของมังกรและหงผู้พิทักษ์ นางย่อมได้ยินมาตั้งแต่เด็ก ๆ ในชาติก่อนแล้ว เฉินอันหนิงไม่ได้มีคำถามใด ๆ นางพยักหน้าให้เท่านั้นอีกฝ่ายก็บอกเล่าต่อ “ยามใดที่ต้าเฉินลุกเป็นไ

  • เฉินอันหนิง องค์หญิงผู้หวนคืน   บทที่94 เซียนทวน

    “เมื่อก่อนข้าคิดว่าฮวาเอ๋อร์จะรักกับฟู่เสวียน แต่นางกลับเลือกหยวนจิ้ง ชะตาของคนเราช่างแปลกนัก” ฮ่องเต้ไท่เสียนที่ผายมือเชิญแขกผู้มาเยือนให้ไปนั่งเอ่ยก่อนจะหัวเราะอย่างขบขันขึ้นมาและพูดต่อถึงโชคชะตาที่เล่นตลก “ส่วนฟู่เสวียน ไปตกหลุมรักบุตรสาวเซียนทวนจนถึงขั้นขโทยบุตรสาวผู้อื่นกลับบ้าน”“ห๊า ท่านพ่อ...ท่านแม่เป็นถึงบุตรสาวเซียนทวนเชียวหรือเจ้าคะ” ฟู่จื่อเหยาแทรกขึ้นก่อนมองบิดาด้วยความสงสัย ทั้งยังหันไปสะกิดพี่สาวบุตรธรรมเพื่อบอกเล่า “พี่หญิง ท่านแม่เป็นบุตรสาวเซียนทวนล่ะ”“บิดาเจ้ายังไม่ได้ตอบเลย” เฉินลี่หลินแทรกขึ้นบ้างแต่สายตาก็บ่งบอกว่าสนใจเรื่องนี้เช่นกันด้วยอายุนาง ในยามเด็กนางย่อมทันฟู่ฮูหยินที่ผู้คนกล่าวว่างดงามเป็นที่ต้องตาของบุรุษ และรับรู้เพียงแค่นั้นมาโดยตลอด...เรื่องที่ว่าฟู่ฮูหยินเป็นบุตรสาวเซียนทวนแห่งสำนักเฟยผิง นั่นย่อมน่าสนใจไม่เพียงแค่เฉินลี่หลินที่สนใจ เฉินอันหนิงเองก็คิดไม่ต่างกันและนั่นทำให้สายตาแทบทุกคู่มองไปยังฟู่เสวี

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status