공유

การร่วมมือของสองฝ่าย

작가: zuey
last update 최신 업데이트: 2025-09-25 20:31:03

เซี่ยชิงหลีนั่งลงบนม้านั่งไม้ริมหน้าต่าง แขนขวาของนางมีรอยแดงช้ำตรงปลายข้อศอกถลอกเล็กน้อยจากแรงปะทะ มู่หรงหนานเฟิงนั่งตรงข้าม มือของเขาถือผ้าผืนเล็กกับน้ำสะอาดเตรียมล้างแผลให้ตนเอง

แววตาของเขาในตอนนี้…ว่างเปล่าเสียจนชวนให้นางรู้สึกหนักอึ้งในอก เขากำลังคิดอะไรอยู่…ไม่ต้องเดาก็รู้

ดวงตาคู่นั้นไม่มีเป้าหมาย ไม่มีไฟ ไม่มีแม้แต่ความเคียดแค้น มันคือแววตาของคนที่หมดแรงเดินต่อแม้จะยังยืนอยู่ เซี่ยชิงหลีมองเขาเงียบๆ ปล่อยให้เสียงเช็ดแผลเป็นเพียงสิ่งเดียวที่ดังอยู่ในห้องนั้น

ภาพชายหนุ่มตรงหน้าแตกต่างจากตอนที่นางพบเขาครั้งแรกโดยสิ้นเชิง ตอนนั้นเขาคือเจ้าของหอสุราที่สง่างาม สุขุม และแฝงแรงใจเข้มแข็งในแววตา ทว่าวันนี้…เขาไม่ต่างจากคนที่ถูกบีบจนไม่เหลือทางเดิน

“มีบ้านก็กลับไม่ได้ มีตระกูลแต่ไร้ที่ยืน”

หากเขายังจมอยู่กับความสิ้นหวังเช่นนี้...เขาอาจจะไม่ใช่คู่ค้าที่นางพึ่งพาได้ในวันหน้า

“คุณชายมู่หรง”

เซี่ยชิงหลีเอ่ยเสียงเบา

“ข้าไม่ใช่คนดีมากพอจะให้คำปลอบใจอันเลิศหรู แต่ในโลกแห่งการค้า หากเจ้าหยุดเดินเพียงเพราะเส้นทางข้างหน้ามีคนขวาง…เจ้าจะไม่มีวันไปถึงจุดที่เขาไม่กล้าตามไปเหยียบ”

มู่หรงหนานเฟิงเงยหน้าขึ้นช้าๆ สบตากับหญิงสาว

“เจ้าคิดว่าข้ายังมีที่ให้ยืนอยู่อีกหรือ เจ้ารู้หรือไม่ว่าพวกเขาเป็นใคร น้องชายต่างมารดาที่อายุเท่าข้า ครอบครัวของพวกเขาต่างเป็นขุนนาง ทว่าท่านแม่ของข้ามาจากตระกูลพ่อค้า หลังจากนางตายจากไปพวกเขาก็เข้ายึดทุกสิ่งที่เป็นของนาง บัดนี้ข้าเหลือเพียงหอหว่านหรงให้ดูต่างหน้า แม้ข้าจะมาอยู่ในสถานที่ห่างไกลเพียงนี้แต่พวกเขาก็ไม่คิดปล่อยวางให้ข้าได้มีชีวิตที่ดี”

เซี่ยชิงหลีคลี่ยิ้มบาง ดวงตาแน่วแน่เมื่อได้ฟังสิ่งที่พรั่งพรูออกจากปากของชายหนุ่ม

“ไม่ต้องมีที่ให้ยืนก็ได้ แต่เจ้าจงสร้างที่ของเจ้าเอง…แม้จะต้องเริ่มจากห้องเล็กๆ หลังหอนี้ก็ตาม”

หญิงสาวลุกขึ้นช้าๆ จัดแขนเสื้อที่ถลอกแล้วหันกลับไปมองเขา

“ข้ายังต้องการคู่ค้าที่ไว้ใจได้ ถ้าท่านยอมให้ความสิ้นหวังพังหอหว่านหรง ข้าก็ต้องหาคนอื่น...แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ข้าอยากทำ”

มู่หรงหนานเฟิงนิ่งเงียบอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะค่อยๆ พยักหน้าช้าๆ แววตาว่างเปล่าค่อยๆ ถูกเติมด้วยแสงสว่างเล็กๆ ไม่ใช่เพราะคำพูดของนางดูยิ่งใหญ่ แต่เป็นเพราะนางยื่นมือเข้ามาในวันที่เขาไม่มีใครเหลียวแล

“ได้…ข้าจะไม่ยอมปล่อยให้พวกเขาทุบทำลายสิ่งที่ข้าเริ่มด้วยสองมือ ข้าจะร่วมมือกับเจ้า…และเดินต่ออีกครั้ง”

เมื่อเซี่ยชิงหลีตัดสินใจยื่นมือเข้ามายุ่งกับหอหว่านหรงแล้ว นางไม่มีทางปล่อยให้ที่นี่ เป็นเพียงแค่ร้านสุราธรรมดา อีกต่อไป

“ในเมื่อข้าต้องเข้าไปเกี่ยวข้องอยู่แล้ว มีหรือ...ข้าจะยอมให้หอหว่านหรงถูกกลืนหายไปโดยง่าย ข้าจะทำให้มัน ‘รุ่งเรือง’ ...จนอีกฝ่ายไม่มีวันกล้าหันกลับมาทำลายอีก!”

นั้นคือคำประกาศท้ารบจากนาง

ภายในเวลาเพียงไม่กี่วันนับจากเหตุวุ่นวาย เซี่ยชิงหลีก็ลงมือวางแผนรื้อปรับโครงสร้างของหอหว่านหรงอย่างเต็มรูปแบบ ทั้งด้านการค้า การบันเทิง และภาพลักษณ์

เปลี่ยนหอหว่านหรงให้กลายเป็น หอแห่งวัฒนธรรมและการพักผ่อน ห้องโถงด้านหน้า ที่เคยเป็นเพียงที่วางโต๊ะเหล้าหนาๆ กับกลิ่นสุราเก่า บัดนี้กลายเป็นเวทีไม้ยกพื้นกลางห้อง มีฉากม่านไหมจางๆ ลายเมฆมงคล ทุกค่ำคืนจะมีการประกวดความสามารถ การเล่นพิน ร่ายกวี ร้องเพลง หรือแม้แต่การแสดงตลก

ผู้ชนะในแต่ละคืนจะได้รับเงินรางวัล “ห้าตำลึง” พร้อมของขวัญเล็กๆ จากร้านผลิตภัณฑ์ของนาง

ลูกค้าทั้งขาจรและขาประจำเริ่มแห่กันเข้ามา บ้างมากินเหล้า บ้างมาเสพศิลป์ หอหว่านหรงเริ่มกลายเป็น ศูนย์กลางวรรณศิลป์ ของอำเภอ หลิงหนานอย่างไม่รู้ตัว

ร้านว่างข้างหอหว่านหรงเปลี่ยนเป็น ซุปเปอร์มาร์เก็ตยุคโบราณ

เซี่ยชิงหลีใช้เงินทุนส่วนตัวซื้อร้านร้างที่อยู่ติดกับหอหว่านหรง

ปรับแต่งภายในให้เป็นพื้นที่โล่ง มีชั้นวางเรียงเป็นระเบียบ จัดวางผลิตภัณฑ์ชำระกายที่นางกับอาเหิงและคนตระกูลหลี่ร่วมแรงสร้างขึ้น

สบู่ก้อนหลากกลิ่น แชมพูสมุนไพร สบู่ซักผ้า กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ รวมถึงของจิปาถะเล็กๆ ที่ดูทันสมัยเกินกว่าจะเป็นของยุคนี้

“เหมือนร้านค้าแปลกๆ จากแดนสวรรค์...”

“ของดีกลิ่นหอมแบบนี้ ขุนนางใช้หรือเปล่า”

“นี่เรียกว่า 'ซุป–เปอะ–หมา–เก็ด' ใช่ไหมแม่”

เสียงลือเสียงเล่าอ้างเริ่มกระจายไปทั่วอำเภอหลิงหนาน แม่บ้าน สาวใช้ ขุนนาง และแม้แต่ภรรยาท่านนายอำเภอก็ยังแวะมาลอง ลูกค้าซื้อสบู่ไปหนึ่งครั้งแล้วกลับมาอีกรอบพร้อมสั่งซื้อให้ทั้งเรือน

เติมวัฒนธรรม = เติมความนิยม

เพื่อสร้างบรรยากาศให้หอหว่านหรงต่างจากหอกุ้ยเซียงที่เน้นเหล้าและหญิงสาว เซี่ยชิงหลีจัดให้ทุกค่ำคืนมี นักเล่าเรื่อง ผลัดเปลี่ยนกันมาเล่าเรื่องเทพเซียน วีรบุรุษ และตำนานที่คนทั่วไปไม่เคยได้ยิน

เรื่องเล่าของ ซุนหงอคงผู้แหกสวรรค์

เรื่องราวของ นาจาผู้ใช้ห่วงทอง

รวมถึงเรื่องปริศนา

หญิงงามผู้กลายเป็นเซียนเพราะกลิ่นสบู่ของนาง

แน่นอนว่าเป็นนางที่เขียนขึ้นด้วยตนเอง เพียงเล่าวันละตอนเท่านั้นลูกค้าที่ติดตามย่อมต้องมาทุกวันเพื่อฟังเรื่องราวตอนต่อไป

เสียงหัวเราะ เสียงซาบซึ้ง เสียงอุทาน และเสียงชื่นชมดังก้องในหอหว่านหรงทุกคืน หอสุราที่เคยใกล้จะล่ม กลับกลายเป็นแหล่งรวมวัฒนธรรมและความสุขของคนทั้งเมือง

แผนของเซี่ยชิงหลีเริ่มเป็นจริง

ภายใต้เปลวตะเกียงและกลิ่นสมุนไพรหอมอ่อนที่ลอยออกจากร้านข้างๆ เซี่ยชิงหลียืนบนระเบียงชั้นสองของหอหว่านหรง มองลูกค้าที่แน่นขนัดในทุกคืน ข้างกายนางคือมู่หรงหนานเฟิงที่ยืนเงียบๆ แต่มีประกายบางอย่างในดวงตาไม่ใช่แค่แสงของโคมไฟ

“ข้าเคยบอกเจ้าบอกแล้วใช่หรือไม่...”

เซี่ยชิงหลีเอ่ยเสียงเบา

“ตราบใดที่ยังยืนอยู่ หอหว่านหรงจะไม่มีวันล้มลงอีก”

เพียงหนึ่งเดือน แต่อานุภาพของการเปลี่ยนแปลงกลับสามารถสั่นสะเทือนทั้งอำเภอหลิงหนาน หอกุ้ยเซียงซึ่งเคยครองตลาดสุรามาช้านานเริ่มเงียบเหงา

แม้จะแก้กลยุทธ์โดยการส่งหญิงงามแต่งกายฉูดฉาดออกมายืนเรียกลูกค้าหน้าร้าน แม้จะลดแลกแจกเหล้า แจกกับแกล้ม ทว่าทุกสายตากลับหันไปที่ หอหว่านหรงที่เปิดไฟสว่างทุกค่ำคืน เสียงปรบมือ เสียงหัวเราะ เสียงพิน เสียงกวี...ไม่เคยขาดหาย

“คนยุคนี้...ไม่ต้องการแค่สุรานารีอีกต่อไปแล้ว พวกเขาอยากได้ความแปลกใหม่ ความรู้ เรื่องเล่า และกลิ่นสบู่ที่ติดปลอกหมอนของภรรยาที่บ้าน”

ใครเลยจะคาดคิดว่า...ไม่มีหญิงงามออกมารินเหล้า ไม่มีใครให้บริการเย้ายวน แต่หอหว่านหรงกลับครองใจผู้คนด้วยความใส่ใจ ความสะอาด และความคิดสร้างสรรค์

แม้คนทั้งหลิงหนานจะพากันพูดถึงเจ้าของหอหว่านหรงอย่าง มู่หรงหนานเฟิง ทว่าเบื้องหลังของทุกความเปลี่ยนแปลง คือหญิงสาวที่ไม่มีใครเอ่ยถึง เซี่ยชิงหลี

นางไม่ยืนอยู่บนเวที ไม่กล่าวอ้างชื่อ ไม่รับคำชม นางแค่ยืนอยู่เบื้องหลังเงียบๆ สวมเสื้อผ้าธรรมดา ถือสมุดบัญชี และวางกลยุทธ์ทุกค่ำคืน

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • เซี่ยชิงหลี ดรุณีเปลี่ยนชะตาพลิกอนาคต   ความสำเร็จในการร่วมมือ

    ในเช้าตรู่ของวันหนึ่ง หลังจากหอหว่านหรงสามารถยืนหยัดได้อย่างมั่นคง ถึงเวลาที่หญิงสาวต้องกลับบ้านเสียที รถม้าสีเทาเรียบหรูคันหนึ่งแล่นออกจากตัวเมืองหลิงหนาน มุ่งหน้าไปยังหมู่บ้านเล็กๆ ที่เงียบสงบใต้เงาภูเขาเขียวภายในรถม้า เซี่ยชิงหลีนั่งเงียบๆ มือถือกล่องไม้เล็กใส่ของฝากจากในเมือง ข้างกายนางคือมู่หรงหนานเฟิงผู้เงียบไม่แพ้กัน ทว่าแววตากลับอ่อนลงกว่าเมื่อเดือนก่อน“เจ้าแน่ใจหรือว่าเขายังอยากพบข้า”ชายหนุ่มถามเสียงเบา ขณะทอดสายตามองออกไปยังทิวทุ่งข้าวเขียวขจีที่ทอดยาว เซี่ยชิงหลีเหลือบมองเขาดวงตานิ่งสงบ แต่แฝงแววล้อเลียนเล็กน้อย“พี่ชายข้า...อาจไม่พูดออกมาตรงๆ แต่ท่านเองก็ควรรู้ว่าเขาเฝ้ามองข่าวจากหอหว่านหรงทุกคืน”หลังจากได้ร่วมงานกัน หญิงสาวจึงได้รู้ว่ามู่หรงหนานเฟิงใส่ใจพี่ชายของนางไม่น้อย ทว่าสิ่งที่ทั้งสองรู้สึกไม่อาจเอ่ยปากได้โดยง่าย เพียงเพราะเพศเดียวกันจึงไม่สามารถครองคู่หญิงสาวยกยิ้มบางเบาเมื่อยามนึกถึงสิ่งที่พี่ชายของตนกระทำ“ข้าเคยเห็นเขาอ่านแผนการที่ข้าเขียนในกระดาษซ้ำหลายครั้งในทุกคืน เพียงเพราะบนกระดาษแผ่นนั้นมีชื่อของท่านอยู่”มู่หรงหนานเฟิงยิ้มบางๆ ลมหายใจในอกพลันอบอุ่น

  • เซี่ยชิงหลี ดรุณีเปลี่ยนชะตาพลิกอนาคต   การร่วมมือของสองฝ่าย

    เซี่ยชิงหลีนั่งลงบนม้านั่งไม้ริมหน้าต่าง แขนขวาของนางมีรอยแดงช้ำตรงปลายข้อศอกถลอกเล็กน้อยจากแรงปะทะ มู่หรงหนานเฟิงนั่งตรงข้าม มือของเขาถือผ้าผืนเล็กกับน้ำสะอาดเตรียมล้างแผลให้ตนเองแววตาของเขาในตอนนี้…ว่างเปล่าเสียจนชวนให้นางรู้สึกหนักอึ้งในอก เขากำลังคิดอะไรอยู่…ไม่ต้องเดาก็รู้ดวงตาคู่นั้นไม่มีเป้าหมาย ไม่มีไฟ ไม่มีแม้แต่ความเคียดแค้น มันคือแววตาของคนที่หมดแรงเดินต่อแม้จะยังยืนอยู่ เซี่ยชิงหลีมองเขาเงียบๆ ปล่อยให้เสียงเช็ดแผลเป็นเพียงสิ่งเดียวที่ดังอยู่ในห้องนั้นภาพชายหนุ่มตรงหน้าแตกต่างจากตอนที่นางพบเขาครั้งแรกโดยสิ้นเชิง ตอนนั้นเขาคือเจ้าของหอสุราที่สง่างาม สุขุม และแฝงแรงใจเข้มแข็งในแววตา ทว่าวันนี้…เขาไม่ต่างจากคนที่ถูกบีบจนไม่เหลือทางเดิน“มีบ้านก็กลับไม่ได้ มีตระกูลแต่ไร้ที่ยืน”หากเขายังจมอยู่กับความสิ้นหวังเช่นนี้...เขาอาจจะไม่ใช่คู่ค้าที่นางพึ่งพาได้ในวันหน้า“คุณชายมู่หรง”เซี่ยชิงหลีเอ่ยเสียงเบา“ข้าไม่ใช่คนดีมากพอจะให้คำปลอบใจอันเลิศหรู แต่ในโลกแห่งการค้า หากเจ้าหยุดเดินเพียงเพราะเส้นทางข้างหน้ามีคนขวาง…เจ้าจะไม่มีวันไปถึงจุดที่เขาไม่กล้าตามไปเหยียบ”มู่หรงหนานเฟิงเงยหน

  • เซี่ยชิงหลี ดรุณีเปลี่ยนชะตาพลิกอนาคต   เขาคือคุณชายจากเมืองหลวง

    อาเหิงเอ่ยอย่างเคืองๆ เซี่ยชิงหลีมองคนต่างวัยทั้งสองที่ไม่ต่างจากเพื่อนในวัยเดียวกันแล้วอดหัวเราะไม่ได้เมื่อถึงร้านเครื่องปั้นดินเผาต้าเหอยิ่น ร้านเก่าแก่ที่มีโรงเผาอยู่ด้านหลัง เซี่ยชิงหลีก็ยื่นกระดาษแบบร่างให้กับเถ้าแก่ผู้เป็นเจ้าของกิจการชายวัยกลางคนผู้มีหนวดเคราสีดำน้ำตาล คิ้วเข้มท่าทางค่อนข้างดุร้าย แต่พอเห็นกระดาษที่หญิงสาวยื่นให้ สีหน้ากลับแปรเปลี่ยนเป็นจริงจังในทันทีแบบที่นางส่งให้ไม่ใช่ไหดินเผาทั่วไป หากแต่เป็นบรรจุภัณฑ์รูปทรงกลมเตี้ย ฝาปิดแน่น ขนาดพอเหมาะสำหรับบรรจุสบู่ แชมพู หรือแป้งสมุนไพร ผิวภายนอกขอให้เผาแบบไม่เคลือบเพื่อให้มีผิวสัมผัสธรรมชาติ แต่ขอฝังตราประทับรูปดอกเหมย ที่มุมหนึ่งของฝาเพื่อเป็นเอกลักษณ์“แบบนี้...ไม่เคยมีใครสั่งมาก่อน แต่ข้าชอบความคิดเจ้านะ ดูเรียบง่ายแต่มีจุดเด่น”เซี่ยชิงหลีประสานมือคำนับ“ข้าขอสั่งทำชุดแรก หนึ่งพันใบก่อนเจ้าค่ะ เพื่อดูทิศทางตลาดหากผลตอบรับออกมาดีข้าอยากร่วมมือกับร้านท่านเป็นคู่ค้าถาวร รับรองข้าจะไม่หันไปหาที่อื่นแน่นอน”เถ้าแก่ขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็พยักหน้าช้า ๆ“หนึ่งพันใบข้าจัดให้ได้ ภายในสิบห้าวัน แต่ขอให้เจ้ามารับด้วยต

  • เซี่ยชิงหลี ดรุณีเปลี่ยนชะตาพลิกอนาคต   ทดลองทำสบู่

    ณ ตอนนี้ เซี่ยชิงหลีกำลังยืนอยู่หน้าหม้อต้มสมุนไพรใบใหญ่ กลิ่นใบมะกรูดแห้งผสมกับกลิ่นหอมอ่อนของกลีบดอกบัวที่กำลังเคี่ยวเข้ากันลอยคลุ้งอบอวลไปทั่วลานด้านหลังเรือนมือเรียวของหญิงสาวคนไปอย่างต่อเนื่องด้วยไม้พาย ในขณะที่เหงื่อผุดซึมบนหน้าผากอย่างไม่อาจเลี่ยงผ่านไปแล้วหลายวัน...ตั้งแต่เช้าจรดค่ำ นางทดลองผสมอัตราส่วนใหม่ ลองอุณหภูมิที่ต่างกัน ทดลองการตาก การกวน การแยกชั้นของน้ำมันกับสมุนไพรทุกครั้งที่ล้มเหลว สบู่จับตัวไม่ขึ้นหรือแชมพูกลายเป็นน้ำเหนียวข้นกลิ่นเหม็นเปรี้ยวนางก็ต้องเริ่มใหม่...ตั้งแต่ต้นยามตะวันบ่ายคล้อย สายลมเอื่อยพัดชายแขนเสื้อที่เลอะเปื้อนของนางอย่างแผ่วเบา เซี่ยชิงหลีค่อยๆ วางไม้พายลงพลางถอนหายใจเงียบๆ และทรุดตัวนั่งพิงข้างถังน้ำอย่างเหนื่อยล้าสายตาของนางทอดมองสบู่ก้อนเล็กๆ ที่พอใช้การได้ก้อนแรกในรอบหลายวัน กลิ่นหอมของมันยังอ่อนนัก รูปทรงไม่สวย เนื้อไม่เนียนแต่มัน...สามารถชำระล้างได้จริง“ทำไมกันนะ…”ร่างบางพึมพำกับตนเองเบาๆ เสียงนั้นแฝงไว้ทั้งความเหนื่อยล้าและเศร้าสร้อย“คนอื่นพอเกิดใหม่ก็มีกระบี่เทพติดมือ มีพลังปราณฟ้าฟาด ฝึกแค่ไม่กี่วันก็กวาดล้างทั้งตระกูลศัตรู…

  • เซี่ยชิงหลี ดรุณีเปลี่ยนชะตาพลิกอนาคต   ความกลมเกลียวของสตรีตระกูลหลี่

    คำพูดนั้นทำให้หลายคนเบิกตากว้าง จินละห้าร้อยเหวิน ไม่ใช่จำนวนเล็กๆ สำหรับชาวบ้านเลย“หลีเอ๋อ...แล้วพวกเราล่ะ”“เวลาว่างของทุกคน…ข้าอยากให้มาเรียนรู้วิธีบดสมุนไพรเตรียมวัตถุดิบไว้สำหรับการทำยาสีฟันชุดใหญ่ เราจะเริ่มขายที่อำเภอหลิงหนานก่อน”ทุกคนเริ่มมองหน้ากันด้วยความตื่นเต้น ต่างมองเห็นแววความหวังที่ไม่เคยเห็นมาก่อน มันกำลังเริ่มเปล่งประกายในดวงตาของพวกเขา หญิงสาวหันไปมองฟ้ากว้างพลางวางหมากต่อในใจ“และแน่นอน...หากจะส่งขายในเมืองหลิงหนาน ข้าคงต้องขอความร่วมมือจากคนผู้นั้น มู่หรงหนานเฟิง เจ้าของหอหว่านหรงที่ตระกูลหลี่ของเราเคยร่วมมือทำการค้า”เมื่อได้ยินชื่อของมู่หรงหนานเฟิง เซี่ยจื่ออี้ก็นิ่งไปทันที“หลีเอ๋อ น้องทำการค้ากับคุณชายมู่หรงหรือ”เซี่ยชิงหลีหัวเราะน้อยๆ นางลืมไปแล้วว่าก่อนหน้านี้มู่หรงหนานเฟิงเคยบอกว่ารู้จักกับพี่ชายของนาง ตัวนางเองหลังจากกลับมาจากอำเภอหลิงหนานก็ลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิท“พี่ใหญ่ข้ายังไม่ได้บอกท่านใช่หรือไม่ มู่หรงหนานเฟิงบอกว่าจะมาเยี่ยมท่านที่นี่ คิดว่าหลังจากกลับมาที่เรือนจะบอกท่านแต่ข้ากลับลืมไปเสียได้”เมื่อได้ยินน้องสาวบอกว่ามู่หรงหนานเฟิงเอ่ยถึงตนทั้งยัง

  • เซี่ยชิงหลี ดรุณีเปลี่ยนชะตาพลิกอนาคต   ความรู้สึกของเซี่ยจื่ออี้

    บัดนี้เซี่ยชิงหลีมองชายชราในทางที่ดีขึ้นกว่าเดิมเพียงเพราะเขาเอ่ยปากชมสามีของนาง“ท่านจะเข้ามาดื่มชาในเรือนก่อนหรือไม่”“ไม่เป็นไรข้ายังมีธุระต่อ ที่มาวันนี้เพียงต้องการมาขอบคุณเจ้าอย่างจริงใจสักครั้งเท่านั้น อีกอย่างข้าอยากให้เจ้ารับสิ่งของเหล่านี้จากข้า ถือเสียว่าเป็นของขวัญสำหรับงานแต่งของเจ้าสองคน”คำพูดนั้นราวกับมีระเบิดถูกปามาที่นาง เสียงบึ้มดังขึ้นในหัวพลันใบหน้าของหญิงสาวเห่อร้อนและแดงก่ำอย่างห้ามไม่อยู่ ชายชรามองหลานสะใภ้ตัวน้อยด้วยสีหน้าชอบใจ นานแล้วที่ตนไม่ได้เอ่ยเล่นหัวกับลูกหลานหากวันหน้าหลานชายผู้นี้ไม่มีทางหายดี แต่เขาได้แต่งงานกับหญิงสาวที่ดีเช่นนั้นตนก็วางใจ เซี่ยชิงหลีมองหีบไม้มากมายตรงหน้า นางตัดสินใจเพียงชั่วอึดใจก่อนพยักหน้ารับ“เช่นนั้นข้าจะขอรับเอาไว้ ขอบคุณท่านเจ้าค่ะ”“ท่านอันใดกัน ต่อไปเจ้าเรียกข้าว่าท่านปู่เมิ่งก็พอ”ชายชรากลับขึ้นรถม้าไปด้วยสีหน้าอิ่มเอม ในที่สุดภาระที่เคยหนักอึ้งในหลายเดือนนี้ก็ได้ถูกวางลงแล้วต่อไปก็จัดการตัวต้นเรื่องที่ทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายเหล่านี้ขึ้น ชายชราตัดสินใจกลับเมืองหลวงเพื่อจัดการกับคนที่เป็นสาเหตุให้หลานชายของตนต้องกลายเป็นค

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status