หลังจากที่ได้ความร่วมมือจากมิ้นท์และพี่ปกรณ์ในเรื่องการจับตาดูแพรไหมและภูริช อลิสาและคีรินทร์ก็เริ่มปฏิบัติการรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติมอย่างเงียบๆ และรัดกุมที่สุด พวกเขาเข้าใจดีว่าการจะเปิดโปงคนร้ายที่ซับซ้อนเช่นนี้ได้ ต้องใช้ความละเอียดรอบคอบและหลักฐานที่หนักแน่นไร้ข้อโต้แย้ง
ทุกวันหลังจากเลิกงาน แทนที่จะกลับบ้านเพื่อพักผ่อน อลิสาจะตรงมาที่คอนโดของคีรินทร์ทันที ห้องทำงานส่วนตัวของเขาถูกดัดแปลงให้กลายเป็นศูนย์บัญชาการลับชั่วคราว โต๊ะทำงานขนาดใหญ่เต็มไปด้วยเอกสาร แผนผังโปรเจกต์คอมพิวเตอร์ที่เปิดค้างไว้ และเครื่องมือต่างๆ ที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล
คีรินทร์ในฐานะนักธุรกิจผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการและกลยุทธ์ เขาเริ่มตรวจสอบเอกสารสัญญาการจัดซื้อวัสดุของโปรเจกต์อาคารสำนักงานใหญ่ทั้งหมดอย่างละเอียดทุกฉบับ ไล่เรียงตั้งแต่ผู้ผลิต ซัพพลายเออร์ ไปจนถึงยอดเงินที่อนุมัติและเงื่อนไขการชำระเงิน เขามองหาความผิดปกติเล็กๆ น้อยๆ ที่อาจถูกซ่อนไว้ในรายละเอียดปลีกย่อยที่คนทั่วไปมองข้ามไป
“สัญญาฉบับนี้มีข้อแก้ที่ไม่ได้แจ้งให้ฝ่ายกฎหมายทราบ” คีรินทร์ชี้ให้อลิสาดูบรรทัดหนึ่งในเอกสาร
“ปกติแล้วจะต้องมีการเซ็นรับทราบจากทั้งสองฝ่ายและต้องส่งให้ฝ่ายกฎหมายตรวจสอบก่อนเสมอ”
อลิสาในฐานะสถาปนิกผู้รู้รายละเอียดของโปรเจกต์ทุกซอกทุกมุม เธอรับหน้าที่ในการตรวจสอบแผนผังโครงสร้าง ระบบความปลอดภัยของข้อมูล และขั้นตอนการอนุมัติงานที่เกี่ยวข้องกับเทคนิคทางสถาปัตยกรรม เธอรู้ดีว่าภูริชเคยพยายามแทรกแซงงานในส่วนไหนบ้าง และจะใช้ความรู้ความเข้าใจในกระบวนการทำงานของเธอเพื่อหาช่องโหว่เหล่านั้น
“ในส่วนของการสั่งซื้อกระจกพิเศษสำหรับอาคาร” อลิสาพูดพลางเลื่อนหน้าจอคอมพิวเตอร์ให้คีรินทร์ดู “ปกติเราจะสั่งซื้อจากบริษัท A ซึ่งเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงและมาตรฐานสูง แต่ในเอกสารชุดนี้กลับมีการเปลี่ยนไปใช้บริษัท B โดยไม่มีเหตุผลรองรับที่ชัดเจน และราคาที่เสนอมาก็สูงกว่าบริษัท A อย่างไม่มีเหตุผล”
พวกเขาทำงานร่วมกันอย่างเป็นทีมที่สมบูรณ์แบบ คีรินทร์จะมองหาความผิดปกติในแง่ของตัวเลขและกลยุทธ์ทางธุรกิจ ส่วนอลิสาจะตรวจสอบในแง่ของกระบวนการทำงานและข้อมูลทางเทคนิค ทุกๆ วันหลังจากเลิกงาน พวกเขาจะใช้เวลาหลายชั่วโมงจมอยู่กับการวิเคราะห์ข้อมูลที่ซับซ้อนเหล่านี้ แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และช่วยกันต่อจิ๊กซอว์ของแผนการร้ายที่ซ่อนอยู่
“นี่มันต้องเป็นฝีมือภูริชแน่ๆ” อลิสาขบกรามแน่นเมื่อพบความผิดปกติที่เกี่ยวกับการเลือกใช้วัสดุ ซึ่งจะส่งผลให้โปรเจกต์มีต้นทุนสูงขึ้นโดยไม่จำเป็น “เขาคงพยายามยักยอกเงินจากส่วนต่างตรงนี้”
“เป็นไปได้สูงครับ” คีรินทร์พยักหน้า “ข้อมูลที่มิ้นท์กับพี่ปกรณ์ส่งมาก็มีส่วนช่วยให้เราเห็นภาพชัดขึ้นนะ”
ข้อมูลที่มิ้นท์และพี่ปกรณ์รวบรวมมาได้ถูกส่งมาให้พวกเขาเป็นระยะๆ แม้จะเป็นข้อมูลเล็กน้อย เช่น รูปถ่ายการนัดพบบุคคลปริศนาของแพรไหม หรือบันทึกเวลาที่ภูริชใช้โทรศัพท์คุยกับคนภายนอกอย่างมีพิรุธ แต่ข้อมูลเหล่านั้นก็เป็นเหมือนชิ้นส่วนเล็กๆ ที่ช่วยให้อลิสาและคีรินทร์สามารถนำมาเชื่อมโยงและสร้างภาพรวมของแผนการร้ายได้ชัดเจนขึ้น พวกเขาพบว่าบุคคลปริศนาที่แพรไหมนัดพบน่าจะเป็นหนึ่งในผู้มีอิทธิพลในวงการก่อสร้างที่เคยมีประวัติไม่โปร่งใส ส่วนบทสนทนาของภูริชก็สอดคล้องกับการแก้ไขสัญญาและการเปลี่ยนซัพพลายเออร์ที่พวกเขาพบ
บรรยากาศการทำงานร่วมกันเต็มไปด้วยความร่วมมือและความใกล้ชิด แต่ในความตึงเครียดของการทำงานก็ยังคงมีโมเมนต์หวานๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างอลิสาและคีรินทร์
คืนหนึ่ง พวกเขาทำงานจนดึกดื่นเกือบจะเช้า อลิสาที่นั่งพิงไหล่คีรินทร์ขณะที่เธอกำลังวิเคราะห์ข้อมูลอยู่บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ ก็ค่อยๆ เคลิ้มหลับไปโดยไม่รู้ตัวด้วยความเหนื่อยล้าจากการทำงานหนัก
คีรินทร์รู้ตัวเมื่อศีรษะของเธอเอนมาซบไหล่เขาอย่างเต็มที่ เขาก้มลงมองใบหน้าหวานที่หลับพริ้มอย่างอ่อนโยน เขารู้ว่าเธอเหนื่อยมากแค่ไหน และรู้สึกสงสารจับใจ เขาค่อยๆ ใช้มือข้างหนึ่งลูบไล้เส้นผมของเธอเบาๆ ด้วยความรัก ก่อนจะค่อยๆ ปิดคอมพิวเตอร์และเก็บเอกสารอย่างเบามือที่สุด เพื่อไม่ให้รบกวนการนอนของเธอ
เขาค่อยๆ ช้อนตัวอลิสาขึ้นมาในอ้อมแขนอย่างแผ่วเบา ร่างกายของเธอบอบบางแต่กลับรู้สึกหนักอึ้งด้วยความห่วงใยในใจของเขา เขาอุ้มเธอแนบชิดอก แล้วค่อยๆ เดินไปยังห้องนอนอย่างระมัดระวังที่สุด
เขาบรรจงวางเธอลงบนเตียงอย่างอ่อนโยน ห่มผ้าห่มให้เธอจนถึงคอ และจูบหน้าผากเธอเบาๆ “ฝันดีนะครับคนเก่ง” เขาบอกด้วยเสียงกระซิบเบาๆ ก่อนจะไปอาบน้ำและกลับมานอนกอดเธอจากด้านหลังอย่างอ่อนโยน
ในอีกคืนหนึ่งที่พวกเขาต้องทำงานจนถึงเที่ยงคืน อลิสาเริ่มรู้สึกง่วงและอ่อนเพลีย ดวงตาเริ่มปรือลงเล็กน้อย คีรินทร์เห็นท่าไม่ดี เขาลุกไปที่ครัว และกลับมาพร้อมกับกาแฟร้อนๆ สองแก้ว กลิ่นหอมของกาแฟช่วยให้อลิสารู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาบ้าง
“กาแฟครับคนดี” คีรินทร์ยื่นแก้วให้เธอ พร้อมกับใช้มืออีกข้างลูบหัวเธอเบาๆ อย่างปลอบโยน “สู้ๆ นะ อีกนิดเดียวเราก็จะได้รู้เรื่องทั้งหมดแล้ว”
อลิสารับแก้วกาแฟมาจิบ รสชาติขมอมเปรี้ยวช่วยทำให้เธอตื่นตัวขึ้นมาได้บ้าง “ขอบคุณนะคะพี่คี” เธอยิ้มให้เขาอย่างอ่อนล้า แต่แววตาเต็มไปด้วยความซาบซึ้งใจ
คีรินทร์นั่งลงข้างๆ เธอ แล้วจ้องเข้าไปในดวงตาของเธออย่างลึกซึ้ง แววตาของเขาเต็มไปด้วยความรักและความเข้าใจที่ส่งตรงมาถึงเธอ ทำให้อลิสารู้สึกเหมือนมีพลังบางอย่างส่งมาถึงใจ
เธอรู้ว่าเขาอยู่เคียงข้างเธอเสมอ ไม่ว่าเธอจะรู้สึกท้อแท้แค่ไหน การได้เห็นแววตาที่เต็มไปด้วยกำลังใจของเขา ก็ทำให้เธอพร้อมที่จะสู้ต่อไป
“อย่าเครียดมากนะครับ” คีรินทร์พูดพลางเอื้อมมือไปบีบมือเธอเบาๆ “ถ้าเหนื่อยก็พักบ้างนะ พี่ไม่อยากให้ลิซไม่สบาย”
อลิสาพยักหน้า เธอกำลังรู้สึกถึงความอบอุ่นที่แผ่ซ่านมาจากมือของเขา มันเป็นความรู้สึกที่ปลอบประโลมหัวใจได้อย่างประหลาด
การทำงานร่วมกันภายใต้สถานการณ์กดดันเช่นนี้ กลับยิ่งทำให้ความรักของพวกเขาลึกซึ้งและแข็งแกร่งขึ้น
พวกเขาไม่ได้แค่ทำงานเพื่อโปรเจกต์ แต่ทำงานเพื่อปกป้องความรักและความสุขของกันและกัน ทุกๆ รายละเอียดที่พวกเขาค้นพบ ทุกๆ ช่องโหว่ที่พวกเขาระบุได้ ล้วนเป็นเหมือนชิ้นส่วนของจิ๊กซอว์ที่กำลังจะประกอบรวมกันเป็นภาพใหญ่ และภาพใหญ่นั้นก็คือชัยชนะที่พวกเขาจะได้รับร่วมกัน ด้วยความรักที่เป็นพื้นฐานที่มั่นคงที่สุด
ในที่สุดหลังจากใช้เวลาหลายวันหลายคืน พวกเขาก็สามารถรวบรวมหลักฐานและวางแผนกับดักที่จะมัดตัวแพรไหมและภูริชได้อย่างสมบูรณ์แบบ มันเป็นแผนที่ซับซ้อนแต่มีประสิทธิภาพ และมันจะนำไปสู่การเปิดโปงครั้งใหญ่ที่กำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้า
ตอนพิเศษ งานวิวาห์ของธาราและอิงดาวเสียงดนตรีไทยบรรเลงอย่างไพเราะเสนาะหู กลิ่นหอมของดอกมะลิและดอกกล้วยไม้ลอยคลุ้งไปทั่วบริเวณเรือนไทยโบราณที่ถูกประดับประดาอย่างงดงามด้วยผ้าไหมสีทองและดอกไม้นานาพันธุ์ แสงแดดยามเช้าสาดส่องลงมากระทบกับเครื่องประดับทองคำที่เจ้าสาวสวมใส่ ส่องประกายเป็นประกายระยิบระยับวันนี้เป็นวันสำคัญ วันที่หัวใจสองดวงจะผูกพันกันชั่วนิรันดร์ วันวิวาห์ของธาราและอิงดาวหลังจากที่ทั้งคู่ตัดสินใจเปิดเผยความรู้สึกที่แท้จริงที่มีต่อกัน เรื่องราวความรักของพวกเขาก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับความกังวลของครอบครัว ความไม่เข้าใจของคนรอบข้าง และแรงกดดันจากขนบธรรมเนียมประเพณีคีรินทร์และอลิสาพ่อแม่ของธารา รู้สึกประหลาดใจและกังวลใจอย่างมากเมื่อลูกชายสารภาพว่าเขารักอิงดาวเกินกว่าคำว่าน้องสาว“ธาราลูก ลูกแน่ใจหรือ” อลิสาถามด้วยน้ำเสียงกังวลใจในวันนั้น “อิงดาวเป็นลูกพี่ลูกน้องของเรานะลูก”คีรินทร์เองก็เสริม “เรื่องแบบนี้มันละเอียดอ่อนนะลูก มันอาจจะทำให้เกิดเรื่องไม่สบายใจกับครอบครัวเราได้”ทางด้านมิ้นท์และปกรณ์ พ่อแม่ของอิงดาว ก็รู้สึกไม่ต่างกันนัก โดยเฉพาะมิ้นท์ที่เป็น
ตอนที่ 131 ธาราสารภาพรักอิงดาว (ตอนจบ)สายลมยามค่ำคืนในกรุงเทพฯ พัดเอื่อยๆ เข้ามาในห้องนั่งเล่นที่เงียบสงบของธารา แสงไฟจากโคมไฟหัวเตียงสลัวๆ ส่องกระทบกับใบหน้าของธาราและอิงดาวที่นั่งอยู่บนโซฟาตรงข้ามกัน บรรยากาศเงียบงัน มีเพียงเสียงลมหายใจของทั้งคู่ที่ได้ยินหลังจากวิกฤตการณ์ทางธุรกิจเริ่มคลี่คลาย และอิงดาวได้ยุติความสัมพันธ์กับพฤกษ์ไปแล้ว ความใกล้ชิดระหว่างธาราและอิงดาวก็เพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด พวกเขาทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด และใช้เวลาส่วนตัวร่วมกันบ่อยขึ้น สัญญาณจากใจที่ทั้งคู่ส่งออกมาเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ แต่กำแพงที่มองไม่เห็นของความเป็นลูกพี่ลูกน้องก็ยังคงกั้นขวางอยู่วันนี้หลังจากที่พวกเขาเพิ่งกลับจากการทานอาหารค่ำด้วยกัน ธารารู้สึกว่านี่คือช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดที่จะพูดความในใจออกไป เขารู้สึกว่าเขาไม่สามารถเก็บงำความรู้สึกนี้ไว้ได้อีกต่อไปแล้ว ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร เขาก็พร้อมที่จะเผชิญหน้าธาราสูดหายใจเข้าลึกๆ พยายามรวบรวมความกล้าทั้งหมดที่เขามี“อิงดาวครับ พี่มีเรื่องสำคัญอยากจะคุยกับอิงดาว” ธารากล่าวด้วยน้ำเสียงที่จริงจังจนอิงดาวรู้สึกได้อิงดาวหันมามองธารา ใบหน้าข
ตอนที่ 130 สัญญาณจากใจหลังจากอิงดาวยุติความสัมพันธ์กับพฤกษ์ เธอกลับมาใช้ชีวิตปกติ แต่ก็ยังคงใช้เวลาอยู่กับธารามากขึ้น พวกเขาทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด และใช้เวลาส่วนตัวร่วมกันบ่อยขึ้น ความรู้สึกระหว่างธาราและอิงดาวเริ่มเปลี่ยนไปอย่างละเอียดอ่อน มีสัญญาณบางอย่างที่บ่งบอกถึงความรู้สึกที่ซ่อนอยู่ภายในใจของทั้งคู่ ไม่ว่าจะเป็นการมองตาที่ยาวนานกว่าปกติ การสัมผัสกันโดยบังเอิญที่ทำให้ใจเต้นแรง หรือบทสนทนาที่ลึกซึ้งเกินกว่าความเป็นพี่น้อง ธารายังคงไม่กล้าสารภาพความรู้สึกที่แท้จริงออกไป แต่อิงดาวเองก็เริ่มรู้สึกได้ถึงบางสิ่งบางอย่างที่เปลี่ยนแปลงไปในความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งสอง บทสรุปของตอนนี้จะทิ้งท้ายไว้ให้ผู้อ่านลุ้นว่าความสัมพันธ์ของธาราและอิงดาวจะก้าวไปในทิศทางใดต่อไปในอนาคตสายลมยามเย็นพัดโชยอ่อนเข้ามาในระเบียงคอนโดมิเนียมของธารา แสงไฟจากตึกสูงระยิบระยับราวกับดวงดาวบนผืนฟ้า อิงดาวนั่งจิบชาอยู่บนเก้าอี้หวายตัวโปรดของธารา ส่วนธารากำลังง่วนอยู่กับการจัดเตรียมอาหารว่างเล็กๆ น้อยๆ หลังจากการทำงานร่วมกันอย่างหนักหน่วงเพื่อแก้ไขวิกฤตการณ์ทางธุรกิจของ ‘มั่งคั่งแลนด์’ บรรยากาศเงียบสงบและผ่อนคลาย
ตอนที่ 129 ความรักที่ต้องเลือกอิงดาวเริ่มทบทวนความสัมพันธ์กับพฤกษ์ เธอตระหนักว่าพฤกษ์อาจไม่ใช่คนที่เธอต้องการจริงๆ ในยามยาก และความรู้สึกที่เธอมีต่อพฤกษ์อาจเป็นเพียงความประทับใจชั่วคราว เธอตัดสินใจที่จะยุติความสัมพันธ์กับพฤกษ์ ทำให้ธารารู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก แต่เขาก็ยังคงเก็บงำความรู้สึกของตัวเองไว้ เพราะยังคงสับสนกับกำแพงของความเป็นพี่น้องที่คอยกั้นขวางพวกเขาอยู่ค่ำคืนหนึ่งที่ฝนตกหนัก เสียงฟ้าคำรามก้องสะท้อนความรู้สึกภายในใจของอิงดาวที่กำลังปั่นป่วน เธอทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาตัวโปรดในห้องนั่งเล่นของเธอ ดวงตาเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างที่มืดมิด มือถือวางคว่ำหน้าอยู่ข้างๆ เธอไม่ได้แตะต้องมันเลยตลอดหลายชั่วโมงที่ผ่านมา เพราะเธอกำลังจมดิ่งอยู่กับความคิดของตัวเองวิกฤตการณ์ทางธุรกิจที่ถาโถมเข้ามาได้กลายเป็นบททดสอบที่สำคัญสำหรับชีวิตของอิงดาว และรวมถึงความสัมพันธ์ของเธอกับพฤกษ์ด้วย ในช่วงที่เธอต้องเผชิญกับความยากลำบากที่สุด พฤกษ์ไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคาดหวังเธอจำได้ว่าเธอเคยรู้สึกประทับใจในตัวพฤกษ์มากแค่ไหน เขาเป็นคนฉลาด มีเสน่ห์ มีความมั่นใจ และดูเหมือนจะเข้าใจเธอในหลายๆ เรื่อง แต่เมื่อวิก
ตอนที่ 128 เมื่ออิงดาวต้องการที่พึ่งจากวิกฤตการณ์ทางธุรกิจ อิงดาวรู้สึกท้อแท้และเปราะบางมาก เธอเริ่มรู้สึกว่าพฤกษ์ไม่ได้ให้กำลังใจเธอเท่าที่ควร หรือไม่เข้าใจในสิ่งที่เธอกำลังเผชิญหน้า อิงดาวหันมาพึ่งพาธารามากขึ้นเธอระบายความในใจและความกังวลให้กับธาราฟัง ธารารับฟังด้วยความเข้าใจและให้กำลังใจน้องสาวอย่างเต็มที่ เขากอดอิงดาวแน่นเพื่อปลอบประโลม เมื่ออิงดาวได้อยู่ในอ้อมกอดของธารา เธอกลับรู้สึกปลอดภัยและอบอุ่นอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน ธาราเองก็รู้สึกเจ็บปวดที่เห็นอิงดาวเสียใจ แต่ก็มีความสุขที่ได้อยู่เคียงข้างเธอเสียงฝนพรำนอกหน้าต่างห้องทำงานของอิงดาวในค่ำคืนที่เงียบสงัด สะท้อนกับหยาดน้ำตาที่คลออยู่เต็มดวงตาของเธอ รายงานตัวเลขผลประกอบการที่แสดงถึงการขาดทุนอย่างต่อเนื่องวางแผ่บนโต๊ะ เหมือนเป็นกระจกสะท้อนความรู้สึกท้อแท้และเปราะบางในใจของเธอ วิกฤตการณ์ทางธุรกิจที่ถาโถมเข้ามาไม่หยุดหย่อน ทำให้อิงดาวรู้สึกเหมือนกำลังจมดิ่งลงสู่ก้นบึ้งของความสิ้นหวังเธอพยายามที่จะเข้มแข็ง พยายามที่จะยิ้มและให้กำลังใจทีมงาน แต่ลึกๆ แล้ว เธอกำลังรู้สึกโดดเดี่ยวและเหนื่อยล้าเกินกว่าจะรับไหว เธอพยายามโทรหาพฤกษ์
ตอนที่ 127 โอกาสที่ใกล้ชิดเกิดวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ในวงการอสังหาริมทรัพย์ ทำให้ธุรกิจของอิงดาวได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ธาราในฐานะพี่ชายและผู้บริหารที่มีประสบการณ์ตัดสินใจเข้ามาช่วยเหลืออิงดาวอย่างเต็มที่ พวกเขาต้องทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อแก้ไขปัญหา วิกฤตการณ์นี้กลายเป็นโอกาสที่ทำให้ธาราและอิงดาวได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้น และได้เห็นความสามารถและความมุ่งมั่นของกันและกันอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น ธารารู้สึกดีใจที่ได้อยู่เคียงข้างอิงดาวในยามยาก แต่ก็เจ็บปวดที่ต้องเห็นอิงดาวเสียใจจากปัญหาที่เกิดขึ้นเช้าวันหนึ่ง ท้องฟ้ากรุงเทพฯ ดูจะมืดครึ้มกว่าปกติ คล้ายกับเมฆหมอกที่ปกคลุมบรรยากาศในวงการอสังหาริมทรัพย์ที่กำลังเผชิญหน้ากับพายุลูกใหญ่ ข่าวใหญ่พาดหัวตามหน้าหนังสือพิมพ์และเว็บไซต์ข่าวธุรกิจ: “เศรษฐกิจโลกชะลอตัวหนัก ส่งผลกระทบตรงต่อภาคอสังหาริมทรัพย์” “ธนาคารเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อ ผู้ซื้อชะลอการตัดสินใจ”มาตรการที่เข้มงวดขึ้น รวมถึงภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โดยรวม และแน่นอนว่า ‘มั่งคั่งแลนด์’ ของอิงดาวก็ได้รับผลกระทบอย่างจัง โครงการที่กำลังพัฒนาหลายแห่