ตอนที่ 64 การปะทะและกับดัก

ตอนที่ 64 การปะทะและกับดัก

หลังจากที่อลิสาและคีรินทร์ได้รวบรวมหลักฐานและวางแผนกับดักไว้อย่างรัดกุม พวกเขาก็เฝ้ารอจังหวะที่เหมาะสมที่สุดเพื่อปิดบัญชีกับแพรไหมและภูริช แต่ในขณะที่ทั้งสองกำลังดำเนินแผนการแก้แค้นอย่างเงียบเชียบอยู่นั้น แพรไหมและภูริชยังคงไม่รู้ตัวเลยว่าหมากทุกตัวของพวกเขาถูกจับตาดูอยู่ พวกเขายังคงมั่นใจในแผนการอันแยบยลของตัวเอง และคิดว่ากำลังจะได้ชัยชนะอันหอมหวาน

แพรไหมผู้ซึ่งเต็มไปด้วยความริษยาและต้องการทำลายอลิสาให้สิ้นซาก ตัดสินใจเดินหน้าแผนการทำลายโปรเจกต์และสร้างความแตกแยกให้กับอลิสาและคีรินทร์เป็นครั้งสุดท้าย

 เธอเลือกใช้วิธีการที่บ่อนทำลายชื่อเสียงโดยตรง โดยการปล่อยข่าวเท็จและสร้างสถานการณ์ความเข้าใจผิดที่กระทบต่องานและชื่อเสียงของอลิสาอย่างรุนแรง ข่าวลือแพร่สะพัดในวงกว้างว่าอลิสาแอบนำข้อมูลความลับของโปรเจกต์ไปเปิดเผยกับบริษัทคู่แข่ง

 แพรไหมยังแอบส่งอีเมลปลอมที่ดูเหมือนว่ามาจากอลิสาไปยังผู้บริหารระดับสูงและผู้ถือหุ้นบางคน โดยเนื้อหาในอีเมลเหล่านั้นสร้างความสงสัยในความสามารถและความซื่อสัตย์ของอลิสา ข่าวเท็จนี้สร้างความปั่นป่วนให้กับบริษัทเป็นอย่างมาก และทำให้อลิสาต้องเผชิญกับแรงกดดันที่ไม่เคยมีมาก่อน

“นี่มันบ้าชัดๆ เลยนะลิซ! ใครมันกล้าปล่อยข่าวแบบนี้” มิ้นท์โวยวายเมื่อได้ยินข่าวลือ เธอกำลังนั่งอยู่ในห้องทำงานของอลิสาในสภาพอารมณ์ฉุนเฉียวสุดขีด “ไม่มีทางที่ลิซจะทำเรื่องแบบนี้ได้อยู่แล้ว!”

อลิสาถอนหายใจเฮือกใหญ่ สีหน้าเธอเคร่งเครียด แต่ดวงตากลับฉายแววแน่วแน่ “นี่แหละคือแผนของแพรไหม เขาคงต้องการให้ลิซเสียเครดิต และถูกไล่ออกจากโปรเจกต์นี้”

ในขณะเดียวกัน ภูริชก็เริ่มดำเนินการในส่วนของเขาด้วยการสร้างสถานการณ์ความเข้าใจผิดที่กระทบต่องานโดยตรง เขาแอบเปลี่ยนแปลงข้อมูลเล็กน้อยในระบบฐานข้อมูลการสั่งซื้อวัสดุ

 ทำให้เกิดความผิดพลาดในการจัดส่งวัสดุสำคัญสำหรับโปรเจกต์ ส่งผลให้การก่อสร้างต้องหยุดชะงักและสร้างความเสียหายให้กับบริษัท เหตุการณ์นี้ทำให้ผู้บริหารระดับสูงหลายคนเริ่มไม่พอใจและมองมาที่อลิสาด้วยความสงสัย

“คุณคีรินทร์ครับ เรื่องการจัดส่งวัสดุผิดพลาดนี่มันเกิดขึ้นได้ยังไงครับ” ผู้บริหารคนหนึ่งถามด้วยน้ำเสียงไม่พอใจในห้องประชุมฉุกเฉิน “นี่มันทำให้เราเสียเวลาไปเยอะมากเลยนะครับ”

คีรินทร์มองไปที่ภูริชที่นั่งยิ้มมุมปากอย่างมีชัย เขารู้ดีว่านี่คือกับดักที่ภูริชสร้างขึ้นมา แต่สิ่งที่ภูริชไม่รู้คือ คีรินทร์และอลิสาได้วางกับดักไว้อย่างชาญฉลาดแล้ว เพื่อล่อให้แพรไหมและภูริชเผยธาตุแท้ออกมา หรือติดกับดักที่เตรียมไว้

คีรินทร์ตัดสินใจจัดประชุมสำคัญขึ้นในวันรุ่งขึ้น โดยเชิญผู้บริหารระดับสูง ผู้ถือหุ้น และผู้ที่เกี่ยวข้องกับโปรเจกต์ทุกคนเข้าร่วม รวมถึงแพรไหมและภูริชด้วย หัวข้อการประชุมคือ “การแก้ปัญหาความล่าช้าของโปรเจกต์และการชี้แจงข้อเท็จจริง” ห้องประชุมใหญ่ถูกจัดเตรียมไว้เป็นอย่างดี เก้าอี้ทุกตัวถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบ จอโปรเจคเตอร์ขนาดใหญ่รอการฉายข้อมูลสำคัญ นี่ไม่ใช่แค่การประชุมธรรมดา แต่เป็น “เกมสุดท้าย” ที่จะตัดสินทุกสิ่ง

ก่อนการปะทะครั้งใหญ่จะเริ่มต้นขึ้น ในช่วงเวลาที่คีรินทร์และอลิสากำลังเดินไปยังห้องประชุม บรรยากาศรอบตัวพวกเขานั้นเต็มไปด้วยความตึงเครียดแต่ก็เจือด้วยความรักอันลึกซึ้ง คีรินทร์หันมายิ้มให้อลิสาอย่างอบอุ่น เขาประสานมือกับเธอ กุมมือเธอไว้แน่นอย่างให้กำลังใจ “ไม่ต้องกลัวนะลิซ พี่อยู่ตรงนี้เสมอ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เราจะผ่านมันไปด้วยกัน”

อลิสามองเข้าไปในดวงตาคมกริบของเขา ดวงตาที่เต็มไปด้วยความเชื่อมั่นและกำลังใจที่แผ่ซ่านมาถึงเธอ เธอรู้ว่าเธอไม่ได้อยู่เพียงลำพังในการต่อสู้ครั้งนี้ เธอมีคีรินทร์อยู่เคียงข้างเสมอ เธอยิ้มตอบเขาด้วยความมั่นใจที่มาพร้อมกับความรัก “ลิซไม่กลัวค่ะพี่คี ลิซเชื่อในตัวพี่” การที่ทั้งคู่ต้องเผชิญหน้ากับศัตรูร่วมกัน ยิ่งทำให้ความรักของพวกเขาเปล่งประกายและแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า

ก่อนที่จะก้าวเข้าไปในห้องประชุมที่เต็มไปด้วยสายตาจับจ้อง คีรินทร์หยุดเดินกะทันหัน แล้วหันมาเผชิญหน้ากับอลิสา เขาก้มลงกระซิบข้างหูเธอเบาๆ “ให้รางวัลคนเก่งหน่อย” และในวินาทีที่อลิสายังไม่ทันตั้งตัว เขาก็แอบหอมแก้มเธอเบาๆ อย่างรวดเร็ว แต่นุ่มนวล ราวกับจะเติมเต็มพลังใจให้เธอ

ก่อนที่จะผละออกไปอย่างรวดเร็วและยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์เล็กน้อย อลิสารู้สึกหน้าแดงเล็กน้อย แต่ก็อดอมยิ้มไม่ได้ การกระทำเล็กๆ น้อยๆ นี้ทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายและมีกำลังใจมากขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ

เมื่อทั้งสองก้าวเข้าสู่ห้องประชุม บรรยากาศก็เงียบกริบ สายตาทุกคู่จับจ้องมาที่พวกเขา แพรไหมและภูริชนั่งอยู่ในที่นั่งของตนเอง มองมาที่อลิสาด้วยแววตาดูแคลนและมั่นใจในชัยชนะ

คีรินทร์เปิดการประชุมด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “สวัสดีท่านผู้บริหารและผู้ถือหุ้นทุกท่านครับ วันนี้ผมเรียกประชุมฉุกเฉินเพื่อชี้แจงประเด็นสำคัญเกี่ยวกับความล่าช้าของโปรเจกต์อาคารสำนักงานใหญ่ และข้อกล่าวหาเรื่องการทุจริตที่กำลังเป็นประเด็นอยู่ในขณะนี้”

แพรไหมยิ้มเยาะมุมปาก “คุณคีรินทร์คะ ดิฉันว่าเรื่องนี้มันก็ชัดเจนอยู่แล้วไม่ใช่เหรอคะ ว่าใครกันแน่ที่ทำให้โปรเจกต์มีปัญหา” เธอจงใจเน้นคำว่า “ใคร” พร้อมกับหันไปมองอลิสาอย่างจงใจ

แต่สิ่งที่แพรไหมไม่รู้คือ คีรินทร์ได้ติดตั้งกล้องวงจรปิดขนาดเล็กที่ซ่อนไว้ในห้องประชุม และระบบบันทึกเสียงที่เชื่อมต่อกับหน้าจอขนาดใหญ่ที่เตรียมไว้สำหรับการเปิดโปงครั้งนี้

“ใจเย็นก่อนครับคุณแพรไหม” คีรินทร์กล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบๆ แต่แฝงไปด้วยความเด็ดขาด “ผมอยากให้ทุกท่านดูสิ่งนี้ก่อนครับ”

ทันใดนั้น จอโปรเจคเตอร์ขนาดใหญ่ด้านหน้าก็เริ่มฉายภาพวิดีโอที่บันทึกเหตุการณ์ต่างๆ ได้อย่างชัดเจน ทั้งภาพที่แพรไหมแอบนัดพบบุคคลปริศนาที่มีประวัติไม่โปร่งใส

การสนทนาทางโทรศัพท์ของภูริชที่เกี่ยวกับแผนการยักยอกเงิน รวมถึงหลักฐานการเปลี่ยนแปลงข้อมูลในระบบฐานข้อมูลการสั่งซื้อวัสดุที่ภูริชเป็นคนทำ

“จากหลักฐานที่ทุกท่านเห็น คุณภูริชคือผู้ที่แอบเปลี่ยนรหัสสั่งซื้อวัสดุ ซึ่งทำให้เกิดความผิดพลาดในการจัดส่ง และส่งผลให้โปรเจกต์ของเราต้องหยุดชะงัก” คีรินทร์ชี้แจงเสียงดังฟังชัด “ส่วนคุณแพรไหม เธอคือผู้อยู่เบื้องหลังการปล่อยข่าวเท็จเพื่อทำลายชื่อเสียงของคุณอลิสา และยังวางแผนร่วมกับคุณภูริชเพื่อฉ้อโกงเงินจากโปรเจกต์นี้ด้วย”

ใบหน้าของแพรไหมและภูริชซีดเผือดลงทันทีเมื่อเห็นหลักฐานที่ถูกเปิดเผยออกมาอย่างไม่ทันตั้งตัว พวกเขาไม่คิดว่าจะมีใครรู้เรื่องทั้งหมดนี้ และไม่คิดว่าคีรินทร์จะสามารถรวบรวมหลักฐานได้แน่นหนาขนาดนี้

“ไม่จริง! นี่มันเป็นการจัดฉาก!” แพรไหมลุกขึ้นโวยวายด้วยเสียงอันดัง ใบหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำด้วยความโกรธและความกลัว

ภูริชเองก็พยายามแก้ตัวอย่างตะกุกตะกัก “ผม...ผมไม่ได้ทำอะไรเลยครับ นี่มันเป็นเรื่องเข้าใจผิด”

แต่หลักฐานที่ปรากฏบนจอภาพนั้นชัดเจนเกินกว่าจะปฏิเสธได้ เสียงพูดคุยของพวกเขาที่บันทึกไว้ในคลิปวิดีโอถูกเล่นซ้ำอย่างชัดเจน ทำให้ทุกคนในห้องประชุมรู้ว่าใครคือคนผิด

คีรินทร์หันไปมองแพรไหมและภูริชด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเยือกเย็น “หลักฐานชัดเจนขนาดนี้ พวกคุณยังจะปฏิเสธอีกเหรอครับ” เขากล่าวพลางสบตาอลิสาที่ยืนอยู่ข้างๆ กัน แววตาของพวกเขาสื่อถึงชัยชนะที่ใกล้เข้ามา

ผู้บริหารและผู้ถือหุ้นต่างพากันแสดงความไม่พอใจและโกรธเคืองต่อการกระทำของแพรไหมและภูริช การปะทะกันเกิดขึ้นอย่างดุเดือด ทั้งการงัดข้อกันด้วยหลักฐาน และการเผชิญหน้ากันโดยตรงในห้องประชุมที่มีผู้มีอำนาจอยู่ด้วย

แพรไหมพยายามแก้ตัวและปัดความรับผิดชอบไปให้อีกฝ่าย แต่หลักฐานของคีรินทร์นั้นสมบูรณ์แบบจนพวกเขาไม่สามารถดิ้นหลุดได้

ในที่สุด ตำรวจที่คีรินทร์ได้ประสานงานไว้ล่วงหน้าก็เดินทางมาถึง และควบคุมตัวแพรไหมกับภูริชไปดำเนินคดีตามกฎหมาย

 การปะทะครั้งนี้จบลงด้วยความพ่ายแพ้อย่างราบคาบของศัตรู และเป็นชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของอลิสาและคีรินทร์ ที่ได้พิสูจน์ความบริสุทธิ์และปกป้องโปรเจกต์รวมถึงความรักของพวกเขาไว้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

อลิสาและคีรินทร์มองหน้ากันและยิ้มอย่างโล่งใจ ความกังวลและความเหนื่อยล้าที่สะสมมานานมลายหายไปสิ้น แทนที่ด้วยความสุขและความภาคภูมิใจที่ได้รับชัยชนะมาด้วยกัน ความรักของพวกเขาที่ต้องผ่านบททดสอบอันหนักหน่วงนี้ ยิ่งเติบโตและแข็งแกร่งขึ้นอย่างไม่มีอะไรมาสั่นคลอนได้อีกต่อไป