ตอนที่ 4 เจ้านายในความลับ
เด็กสาวในชุดนักเรียนกระโปรงลายสกอตเสื้อนักเรียนสีขาวแขนสั้น เดินตามทางเดินไปขึ้นรถตู้ของบ้านฮาร์เปอร์ที่จอดรออยู่บริเวณลานหน้าบ้านและมีคนขับยืนประจำอยู่ที่รถ
“ตั้งใจเรียนกันให้ดีเพื่ออนาคตที่ดีของตัวเองนะ วันนี้พี่ติดงานสำคัญไม่ได้ไปส่งเดี๋ยวคนขับรถจะพาไป” ธาราที่ติดงานสำคัญกับชาร์วีในตอนเช้าแต่ก็เดินมาส่งเด็กสาวทั้งสามคนขึ้นรถพร้อมให้กำลังใจในวันเปิดเรียนวันแรก หลังจากที่พลอยใสและเพื่อนอีกสองคนขึ้นรถเรียบร้อยแล้วรถตู้สีดำก็แล่นออกจากอาณาจักรบ้านหลังใหญ่มุ่งตรงไปยังโรงเรียนนานาชาติชื่อดังที่มีค่าเทอมแพงติดอันดับต้น ๆ ของประเทศไทย
“ว้าว ทำไมวันนี้ที่โรงเรียนดูครึกครื้นมากเป็นพิเศษนะว่าไหม” แก้วใสพูดขึ้นมาหลังจากที่รถเคลื่อนตัวเข้าสู่บริเวณโรงเรียน ซึ่งกว่ารถตู้ที่พวกเธอนั่งจะหลุดจากการจราจรที่หนาแน่นได้ก็กินเวลาพอสมควรเพราะรถติดตั้งแต่ทางเข้าไปจนถึงด้านในโรงเรียน เนื่องจากเป็นวันเปิดเรียนวันแรก ผู้ปกครองต่างมาส่งลูกหลานด้วยตนเอง
“ก็วันนี้เป็นวันเปิดเรียนวันแรกก็ต้องดูครึกครื้นเป็นธรรมดา ตอนนี้ฉันตื่นเต้นจนอยากจะลงจากรถเดี๋ยวนี้เลย” ผ้าไหมหันไปตอบแก้มใสก่อนจะหันกลับไปมองด้านนอกรถที่ตอนนี้คลาคล่ำไปด้วยกลุ่มนักเรียนและผู้ปกครองมากมาย
“พลอยใส เธอไม่รู้สึกตื่นเต้นบ้างเหรอวันนี้เปิดเรียนวันแรกนะ ดูสิบรรยากาศที่โรงเรียนวันเปิดเทอมช่างน่าเรียนมากเลยฉันกำลังตื่นเต้นที่จะได้เจอเพื่อนใหม่” แก้วใสหันมาถามพลอยใสที่นั่งนิ่งมองออกไปนอกรถไม่แสดงอาการใด ๆ ออกมาเหมือนตัวเธอและผ้าไหม พลอยใสหันมายิ้มให้เพื่อนก่อนจะหันกลับไปมองนอกรถดังเดิมโดยไม่ได้พูดอะไร
“เดี๋ยวแยกกันตรงนี้แล้วเจอกันตอนเย็นตรงจุดที่รถมารับนะ” เมื่อรถมาจอดตรงหน้าตึกและทั้งสามคนลงจากรถกันแล้วพลอยใสก็หันมาบอกกับเพื่อนทั้งสอง พลอยใสเป็นคนเดียวที่ต้องแยกห้องเรียนจากเพื่อนทั้งสองเนื่องจากทางโรงเรียนจำกัดนักเรียนเพียง 20 คนต่อห้อง
“โอเค ๆ ไว้เจอกันตอนเย็นฉันไปก่อนล่ะนะ ไปเถอะแก้มใส” ผ้าไหมตอบพลอยใสอย่างเร่งรีบก่อนจะลากแก้มใสให้รีบเดินเข้าไปด้านในอาคารเรียนเพราะตื่นเต้นที่จะได้เจอเพื่อนใหม่ เหลือเพียงพลอยใสที่ยืนเคว้งอยู่ตรงทางเดินเพียงคนเดียว
เด็กสาวยิ้มให้กำลังใจตัวเองก่อนจะเดินไปเข้าห้องเรียนตามตารางเรียนที่ได้รับมาก่อนหน้านี้ ระหว่างทางที่เดินไปยังห้องเรียนพลอยใสก็เก็บรายละเอียดรอบตัวไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นห้องน้ำ โรงอาหาร ชื่อตึกเรียนแต่ละตึก ทางหนีไฟ เพราะไม่รู้ว่าเพื่อนใหม่ของเธอจะเป็นยังไงจะมีใครเข้ามาเป็นเพื่อนใหม่ของเธอบ้าง แต่ที่แน่ ๆ ทุกคนคือลูกคนรวย ยกเว้นเธอที่เป็นเด็กกำพร้าเพียงแค่โชคดีได้คนอุปการะจึงได้มีโอกาสมายืนอยู่ที่นี่
พลอยใสเดินมาถึงหน้าห้องเรียนตามที่ระบุในตารางเรียนก่อนจะเจอเด็กสาวรุ่นราวคราวเดียวกับเธอที่กำลังยืนอยู่หน้าห้อง
“เอ่อ ขอโทษนะเธอกำลังจะเข้าไปเรียนที่ห้องนี้หรือเปล่า” พลอยใสแสดงความเป็นมิตรทักทายก่อนทั้งที่ก็ไม่แน่ใจว่าคนที่เธอทักจะฟังภาษาไทยเข้าใจหรือเปล่า
“ใช่ เรากำลังจะเดินเข้าไปในห้อง เธอก็เรียนห้องนี้เหมือนกันเหรอ” หญิงสาววัยแรกแย้มหน้าลูกครึ่งแต่พูดไทยชัดเจนตอบกลับพลอยใส
“ถ้าอย่างนั้นเราขอเข้าไปด้วยคนนะเราชื่อพลอยใส”
“ได้สิเราชื่อพิชชี” พลอยใสยิ้มกว้างเมื่อได้รับมิตรตอบอย่างน้อยเธอก็รู้จักพิชชีแล้วหนึ่งคนและลดความกลัวลงไปได้บ้างเมื่อต้องไปเจอกลุ่มเพื่อนที่อยู่ในห้อง
“เธอยิ้มสวยมากนะพลอยใส ตั้งแต่มาอยู่เมืองไทยได้สามปีฉันพึ่งเห็นรอยยิ้มที่สวยมากก็วันนี้” พิชชีที่ตอนแรกกำลังจะเปิดประตูห้องเรียนเดินนำพลอยใสเข้าไปในห้องต้องหันหน้ากลับมามองคนที่พึ่งจะเป็นเพื่อนใหม่ของเธออีกครั้งเพราะรอยยิ้มหวานนั้น
“ขอบคุณนะพิชชีเธอก็สวยมากเหมือนกัน” พลอยใสที่ถูกผู้หญิงด้วยกันชมซึ่ง ๆ หน้าก็รู้สึกเขินจึงต้องชมกลับไป หลังจากนั้นทั้งเธอและพิชชีก็เดินเข้าห้องที่ตอนนี้มีเพื่อนร่วมชั้นอยู่ก่อนแล้วประมาณสิบคนพร้อมกับครูประจำห้อง
พลอยใสพยายามอยู่ใกล้พิชชีตลอดเวลาเพราะอย่างน้อยหากว่าเธอสื่อสารอะไรไปผิด ๆ หรือไม่เข้าใจในสิ่งที่ครูหรือเพื่อนคนอื่นถามจะได้ขอความช่วยเหลือ เพราะพิชชีสามารถพูดภาษาไทยได้
“ดูเธอกังวลอะไรบางอย่างนะ มีอะไรหรือเปล่า” พิชชีถามขึ้นมาเมื่อรู้สึกว่าพลอยใสไม่ค่อยพูดต่างจากคนอื่นที่ทักทายกันเสียงดังและพูดคุยแนะนำตัวกันอย่างสนุกสนาน
“พลอยรู้สึกว่าภาษาพลอยยังไม่เก่งมากก็เลยกังวลนิดหน่อยที่จะพูดกับคนอื่น” พลอยใสบอกความกังวลของเธอไปตรง ๆ เพราะถึงแม้เธอจะสามารถพูดภาษาอังกฤษได้บ้างแล้วจากการที่ชาร์วีส่งครูมาติวตลอดสามเดือนที่ผ่านมา แต่พลอยใสก็ยังไม่มั่นใจเมื่อต้องสื่อสารจริงท่ามกลางเพื่อนส่วนใหญ่ที่เป็นเจ้าของภาษา ซึ่งเมื่อพิชชีได้ฟังก็ยิ้มออกมาและเข้าใจ
“ไม่เป็นไรหรอกพูดออกมาเถอะภาษาอังกฤษไม่ได้น่ากลัว เดี๋ยวพูด ๆ ไปก็พูดคล่องแต่ต้องกล้าพูดกล้าสื่อสารกับเพื่อนคนอื่น ๆ” พิชชีบอกกับพลอยใสเพราะสำหรับเด็กลูกครึ่งอย่างเธอแล้วถือว่าความกล้าแสดงออกคือสิ่งสำคัญ
“ไฮ พวกเธอชื่ออะไรกันบ้างเราชื่อเจ” เด็กหนุ่มตัวสูงแต่ผอมบางเข้ามาทักทายพลอยใสและพิชชีเป็นภาษาอังกฤษ พลอยใสหันไปมองหน้าพิชชีว่าจะตอบเพื่อนหนุ่มผู้มาใหม่ว่ายังไงแต่พิชชีกลับส่งสัญญาณให้พลอยใสเป็นคนตอบ พลอยใสจึงยิ้มก่อนจะตอบเจกลับไปเป็นภาษาอังกฤษตามที่ได้ฝึกมาจากติวเตอร์ชื่อดัง
“เราชื่อพลอยใสและที่ยืนข้างเราชื่อพิชชี ยินดีที่ได้รู้จักนะเจ”
“ชื่อเธอน่ารักเหมือนหน้าตาเธอมากเลยนะ พลอยใส” เด็กหนุ่มชมตรง ๆ ต่อหน้าตามสไตล์ฝรั่ง พลอยใสจึงได้แต่ยิ้ม หลังจากนั้นทั้งสามคนก็พูดคุยกันมากขึ้น ส่วนใหญ่จะเป็นพิชชีและเจที่พูดคุยกันมากกว่า ส่วนพลอยใสจะพยายามจดจำคำพูดต่าง ๆ ที่เพื่อนพูดกันและพยายามทำความเข้าใจประโยคสื่อสารนั้น ระหว่างนั้นก็มีเพื่อนชายอีกคนที่เป็นลูกครึ่งเดินเข้ามาทักทายพลอยใส ชื่อโจเซฟ และก็เป็นอีกหนึ่งคนที่เอ่ยชมถึงรอยยิ้มและความน่ารักของเธอ
วันแรกพลอยใสก็มีเพื่อนแล้วสามคนเป็นลูกครึ่งที่พ่อแม่มีธุรกิจอยู่ที่เมืองไทย แต่ละคนพอรู้ว่าพลอยใสพึ่งจะหัดพูดและเรียนภาษาก็ต่างเสนอตัวอาสาเป็นพี่เลี้ยงจนพลอยใจจากที่กลัวจะต้องใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารเป็นหลัก กลับรู้สึกสนุกที่ได้เรียนรู้
“พลอยขอบคุณทุกคนมากนะที่ช่วยเหลือและเป็นกำลังใจให้ ไว้พรุ่งนี้เจอกันใหม่นะ” เมื่อได้เวลาเลิกเรียนนักเรียนทั้งหมดก็ต่างเดินทยอยออกจากตึกเพื่อไปรอขึ้นรถที่ทางผู้ปกครองส่งมารับยังจุดรับส่ง พลอยใสที่เดินมากับเพื่อนใหม่ทั้งสามจึงไม่ลืมขอบคุณในมิตรภาพและน้ำใจของเพื่อนใหม่ที่มีให้เธอก่อนจะแยกกันกลับ
พลอยใสกลับมาบ้านด้วยหน้าตาสดใสรวมทั้งเด็กสาวอีกสองคนที่ชอบโรงเรียนใหม่นี้มากเพราะมีแต่สังคมลูกคนรวยที่ไม่เคยเจอหรือสัมผัส ทั้งแก้มใสและผ้าไหมต่างเล่าว่าวันนี้ตัวเองไปเจออะไรมาบ้างด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้นดีใจ ในขณะที่พลอยใสนั้นนิ่งเงียบไม่ได้พูดอะไร ก่อนจะรีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าและเข้าครัวเพื่อช่วยทำอาหารเย็นสำหรับทุกคนในบ้าน
“ไปเรียนวันแรกเป็นยังไงบ้างหนูพลอยสนุกหรือเปล่า” แม่บ้านถามพลอยใสเมื่อเด็กสาวเดินเข้าไปช่วยงานในครัวหลังจากเลิกเรียนกลับมา
“ตอนแรกก็กลัวเหมือนกันค่ะป้าณีเพราะพลอยยังพูดภาษาอังกฤษไม่คล่อง แต่โชคดีเจอเพื่อนที่น่ารักคอยช่วยเหลือและช่วยสอนก็เลยเริ่มหายกลัวค่ะ” พลอยใสเล่าไปตามความจริงไม่ได้ใส่สีตีไข่หรือแสดงอาการตื่นเต้นอะไร
“ดีแล้วล่ะ ป้าขอให้หนูเจอแต่เพื่อนที่ดีและขอให้มีความสุขกับการเรียนนะ จะได้เรียนได้เกรดดี ๆ”
“ขอบคุณค่ะป้าณี พลอยจะพยายามเต็มที่ค่ะ” พลอยใสยิ้มจนตาหยีไปให้ป้าณีจนอีกฝ่ายส่ายหัวในความน่ารักของเด็กสาวและยิ้มอย่างเอ็นดู
ตกเย็นพลอยใสก็มานั่งทำการบ้านที่โต๊ะม้าหินอ่อนกลางสวนหย่อมตัวเดิมที่เธอใช้เป็นที่ทบทวนบทเรียนเหมือนทุกวัน ธาราที่กลับมาจากทำงานก็รีบตรงดิ่งมาหาเด็กสาวทันทีเพื่อถามไถ่ถึงการไปเรียนวันแรกเพราะเป็นห่วงกลัวว่าจะถูกรังแก
“พลอยใสเป็นยังไงบ้างไปเรียนวันแรก” เสียงที่คุ้นหูดังมาจากทางด้านหลังเรียกให้พลอยใสที่กำลังจดจ่ออยู่กับตำราเรียนสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะหันไปมอง
“พี่ธาราสวัสดีค่ะ กลับมาจากทำงานแล้วเหรอคะ” เด็กสาวยกมือไหว้ธาราเหมือนเช่นทุกครั้งที่เจอ
“พึ่งกลับมานี่แหละลงจากรถก็ตรงดิ่งมาหาเราเลย เป็นยังไงบ้างมีเพื่อนใหม่กี่คนแล้ว”
“ก็ดีค่ะ ดีมากเลยเป็นโรงเรียนที่สภาพแวดล้อมดี ที่สำคัญเจอเพื่อนที่ดีมากด้วยค่ะ พอรู้ว่าพลอยยังอ่อนภาษาพวกเขาก็พยายามช่วยกันใหญ่เลย จนตอนแรกที่พลอยกลัวกลับกลายเป็นว่าสนุกที่ได้พูดคุยกับพวกเขา” พลอยใสบอกธาราให้ทราบตามจริงเหมือนที่บอกป้าณี เมื่อฟังสิ่งที่เด็กสาวเล่าธาราก็รู้สึกโล่งใจที่พลอยใสเจอสังคมดี ๆ และมีความสุขกับการเริ่มต้นชีวิตใหม่ในโลกกว้าง
พลอยใสใช้ชีวิตวนลูปอยู่แบบนั้นตลอดระยะเวลาเกือบ 4 ปี โดยที่ไม่เคยเจอชายหนุ่มเจ้าของบ้านสักครั้ง มีเพียงธาราเท่านั้นที่คอยเป็นตัวกลางคอยรับและถ่ายทอดคำสั่งให้เธอและเพื่อนรับทราบในสิ่งที่ชาร์วีหรือที่พวกเธอเรียกว่าคุณวีมอบให้ แม้บางทีเธอก็มีความคิดอยากเจอเขาสักครั้งเพื่อขอบคุณแต่ก็ไม่กล้า ทำได้เพียงแค่รับคำสั่งของเขาจากธาราเพียงเท่านั้น
“คุณชาร์วีคงจะงานยุ่งมากเลยนะคะ ตั้งแต่พลอยและเพื่อนมาอยู่ที่นี่ก็นานหลายปีแล้วแต่ก็ไม่เคยได้เจอตัวจริงคนที่มีพระคุณของตัวเองสักที” พลอยใสพูดกับธาราในเย็นวันหนึ่งหลังจากช่วยงานในครัวเสร็จและกำลังจะเดินกลับห้องพัก พอดีกับที่ธาราเดินมาสอบถามความเป็นอยู่เด็กในอุปการะของเจ้านายเหมือนเช่นเคย
“นายมีธุรกิจหลายอย่างแทบจะไม่มีเวลาพัก มีงานหลายอย่างที่ต้องจัดการ นายไม่มีเวลาว่างมาทำอย่างอื่นหรอกนอกจากงาน” ธาราบอกเด็กสาวที่ตอนนี้เข้าสู่วัยสาวเกือบเต็มตัว
“แล้วแบบนี้คุณวีจะมีเวลาพักผ่อนบ้างหรือเปล่าคะ”
“มีสิถ้านายคิดจะพัก แต่ส่วนใหญ่แทบจะไม่พักวัน ๆ เอาแต่หมกตัวอยู่กับงาน ไม่รู้จะหาเงินไปทำไมมากมายทั้งที่มีอยู่ตอนนี้ก็ใช้ไม่หมด”
“พลอยไม่เคยเห็นแฟนของคุณวีเลย บ้านนี้เขาห้ามผู้หญิงเข้าเหรอคะ” เมื่อนึกขึ้นได้ในสิ่งที่สงสัยมานานจึงเอ่ยถามขึ้น เพราะตั้งแต่เธอเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ก็ไม่เคยเจอผู้หญิงคนไหนเข้าออกบ้านหลังนี้นอกจากเธอและเพื่อนกับพวกแม่บ้านที่อยู่มาก่อนหน้า
“นายไม่เคยมีแฟนหรือแม้แต่คู่ควง พลอยทำการบ้านต่อเถอะพี่ขอตัวไปเคลียร์งานกับนายก่อน” ธารารีบตัดบทเมื่อบทสนทนาเริ่มเปลี่ยนเป็นเรื่องส่วนตัวของเจ้านาย ซึ่งเป็นสิ่งไม่ควรที่เขาและลูกน้องคนอื่น ๆ เอามาพูดถึงแบบนี้ ไม่ว่าจะพูดถึงในทางที่ดีและไม่ดี
“ค่ะ ขอโทษค่ะ” เด็กสาวหน้าเจื่อนลงรู้สึกผิดเมื่อคิดได้ว่าตัวเองกำลังแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมออกไป
“อย่าคิดมากเลย นายโทรตามแล้วพี่ขอตัวก่อน ตรงนี้สะกดผิดนะทวนดูใหม่” ธาราแกล้งหยอกให้เด็กสาวอารมณ์ดี ก่อนจะลูบศีรษะเล็กและหันหลังเดินกลับไปเมื่อโดนเจ้านายโทรตาม
ตอนที่5 เพียงแค่เงาพลอยใสในวัย17 ปี เริ่มโตเป็นสาวเต็มตัว กำลังนั่งหัดเล่นกีตาร์อยู่ที่ม้าหินอ่อนในสวนหย่อมที่เดิมในวันหยุดเมื่อเสร็จจากการทำงานในครัวและทำความสะอาดบ้านหลังใหญ่ตามที่ได้รับมอบหมาย เด็กสาวใช้เวลาว่างระหว่างช่วงกลางวันมานั่งทบทวนบทเรียนและฝึกเล่นดนตรีซึ่งเป็นอีกอย่างที่พลอยใสชอบทำ กีตาร์ตัวโปรดเป็นของชิ้นแรกที่เธอเก็บเงินซื้อเองจากค่าขนมที่ชาร์วีให้ในแต่ละวัน พลอยใสชื่นชอบดนตรีเพราะรู้สึกว่าเสียงดนตรีทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลาย และเธอก็ชอบเสียงกีตาร์โดยเฉพาะแนวอะคูสติก“ทำไมโน๊ตตัวนี้แกะยากจังนะ” พลอยใสพึมพำกับตัวเองเมื่อนั่งแกะโน๊ตเพลงที่ต้องการไม่ได้สักที อีกไม่กี่วันเธอก็ต้องไปสอบกับอาจารย์ที่สอนวิชาดนตรีแล้ว พลอยใสถอนหายใจออกมาเป็นระยะเมื่อการเล่นกีตาร์ของเธอยังไม่เป็นที่พึงพอใจเสียงกีตาร์ดังไปรบกวนการทำงานของเจ้าของบ้านที่วันนี้หยุดทำงานอยู่ที่บ้าน และบังเอิญเปิดหน้าต่างห้องทำงานเพื่อรับลมเย็น ๆ และอากาศบริสุทธิ์ จนต้องหยุดชะงักงานในมือและตั้งใจฟังเสียงกีตาร์ที่ไม่เคยได้ยินในบ้านหลังนี้มาก่อน“ใครมาดีดกีตาร์แถวนี้” ชาร์วีอดไม่ได้ที่จะโผล่หน้าออกมาดูต้นตอของเสียงนั้นแต่
ตอนที่6 แม่ครัวคนใหม่“ตั้งโต๊ะเสร็จแล้วพลอยขอตัวก่อนนะคะ” พลอยใสพูดขึ้นเมื่อจัดเตรียมมื้อเย็นสำหรับเจ้าของบ้านเสร็จเรียบร้อยแล้ว“จ้ะ กลับไปพักผ่อนเถอะลูกทางนี้ป้าจัดการต่อเอง” เด็กสาวที่รู้หน้าที่ของตัวเองดีจึงไม่อยู่รบกวนเวลาส่วนตัวของเจ้าของบ้าน ทั้งที่เธออยากเจอหน้าผู้ปกครองของเธอมากก็ตาม“แขขึ้นไปเชิญคุณวีมาทานข้าว” เท้าเล็กที่กำลังเดินพ้นขอบประตูบ้านหยุดชะงักลงเมื่อได้ยินเสียงป้าณีสั่งแม่บ้านอีกคนให้ไปตามชายหนุ่มลงมาทานข้าว และนั่นจะเป็นโอกาสที่เธอจะได้เจอมาเฟียหนุ่มถ้าเธอหาเรื่องประวิงเวลาเพื่ออยู่ที่นี่ต่อ“~” เด็กสาวยืนคิดอยู่สักพักก็ตัดสินใจก้าวเท้าเดินออกจากบ้านใหญ่ไปโดยไม่หันหลังกลับมามองอีกเลยหลังจากทานมื้อเย็นกับเพื่อน ๆ แล้วเสร็จพลอยใสก็หยิบกีตาร์ตัวโปรดมานั่งแกะโน๊ตต่อจากที่ค้างไว้เมื่อช่วงเย็น เสียงใสของคอร์ดอีไมเนอร์ที่อยู่ในท่อนสุดท้ายช่วยส่งอารมณ์เพลงให้จบลงอย่างสมบูรณ์“เฮ้อ! เสร็จสักที ปวดนิ้วไปหมดแล้ว” นิ้วเรียวเล็กที่ตอนนี้เต็มไปด้วยรอยกดของสายกีตาร์ถูกยกขึ้นสำรวจอีกครั้งหลังจากที่ถูกใช้งานไปอย่างหนักตลอดทั้งวันชาร์วีที่กำลังนั่งดูภาพเคลื่อนไหวพร้อมเสียงผ่าน
ตอนที่7 พบเจอเพียงแค่รูปถ่ายพลอยใสออกมานั่งสูดอากาศบริสุทธิ์ที่สวนหย่อมอย่างเช่นทุกวัน บรรยากาศที่มีลมพัดเอื่อย ๆ เหมาะแก่การนั่งพักผ่อน กุหลาบที่เธอปลูกไว้หลายต้นตอนนี้ออกดอกส่งกลิ่นหอมอ่อน ๆ โชยมาตามลม ท้องฟ้าที่มืดสลัวมีเพียงพระจันทร์และกลุ่มดาวที่ทอแสงสว่างให้เห็นบ้างเป็นบางครั้ง เพราะความสว่างของไฟฟ้าในเมืองหลวงบดบังความสวยงามแท้จริงของกลุ่มดาวหลายล้านดวง“นั่นพี่ธารานี่ กำลังจะออกไปข้างนอกสินะ” ธาราเดินออกมาจากบ้านในชุดเสื้อเชิ้ตสีดำกางเกงยีนสีเดียวกันกับรองเท้าหนังสีดำมันวาว“คุณวี” ชายหนุ่มร่างกำยำเดินตามหลังออกมาในชุดคล้าย ๆ กัน ขายาวหุ่นนายแบบรีบเดินไปขึ้นรถสปอร์ตคู่ใจสีดำที่ธาราขึ้นนั่งประจำคนขับอยู่ก่อนแล้ว“ใช่คุณจริง ๆ สินะ” แม้จะเห็นใบหน้าของชายหนุ่มโดยไม่มีอะไรมาบดบังแต่ด้วยความที่เป็นช่วงเวลากลางคืนจึงไม่สามารถมองเห็นรายละเอียดชัดเจนขนาดนั้นตั้งแต่พลอยใสอยู่ที่บ้านเด็กกำพร้าจนย้ายมาอยู่บ้านหลังนี้เธอรู้เพียงว่าคนที่อุปการะเธอชื่อคุณวีเพียงเท่านั้น เพราะแม่แก้วจะบอกกับเด็ก ๆ เสมอว่าคนใจดีที่ดูแลพวกเธอชื่อคุณวี ไม่มีชื่อจริง ชื่อเต็ม หรือชื่ออื่น ๆ ให้เรียก และตอนนี้เ
ตอนที่8 แรกพบเลิกเรียน“วันนี้จะแวะซื้อขนมที่ไหนหรือเปล่าครับ” ลุงคนขับรถเอ่ยถามทันทีที่พลอยใสก้าวเท้าขึ้นมาบนรถ“เอ่อ..เปล่าค่ะ กลับบ้านเลยค่ะ” พลอยใสตอบกลับแบบงง ๆ ว่ามันเกิดอะไรขึ้น เลยนึกคำพูดของธาราเมื่อเช้าที่บอกกับเธอว่าตอนเย็นในบ้านจะกลับมาปกติเหมือนเดิมบ้านฮาร์เปอร์“วันนี้เรียนเหนื่อยไหมครับ” เสียงบอดี้การ์ดที่ยืนทำหน้าที่อยู่หน้าบ้านเอ่ยทักทายเด็กสาวอย่างเช่นทุกวัน“ไม่เหนื่อยเท่าไหร่ค่ะ พี่ ๆ ล่ะคะ ทำงานกันเหนื่อยไหมคะวันนี้” เสียงเจื้อยแจ้วตอบกลับ บ้านฮาร์เปอร์กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งหลังเจอมรสุมลูกใหญ่จากประมุขของบ้านถูกจัดการไปสี่ทุ่ม“เธอจะออกไปไหนเหรอพลอยใส ผ้าไหมที่ลุกไปเข้าห้องน้ำและกำลังเดินกลับเข้ามานอนถามขึ้นเมื่อเห็นพลอยใสถือผ้าคลุมกำลังจะเดินออกจากห้อง”“พลอยรู้สึกนอนไม่ค่อยหลับน่ะว่าจะออกไปเดินเล่นสักหน่อย ไหมนอนก่อนเลยนะ” พลอยใสบอกกับเพื่อนร่วมห้องนอนของเธอ“อืม ตามใจดึก ๆ ดื่น ๆ ยังจะออกไปเดินเล่นอีกนะเธอนี่ ฉันนอนก่อนล่ะไม่ไหวง่วง” ผ้าไหมพูดพร้อมกับเดินไปขึ้นเตียงปิดโคมไฟหัวเตียงและนอนหลับไปพลอยใสที่เกิดอาการนอนไม่หลับจึงออกมานั่งรับลมเย็น ๆ ช่วงกลางดึ
ตอนที่9 คลั่งหลังจากสั่งลูกน้องติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่มเติมบริเวณสวนหย่อม พลอยใสก็อยู่ในสายตาของชาร์วีตลอดเวลาที่เด็กสาวออกมานั่งทบทวนบทเรียนหรือเล่นกีตาร์ยามว่างจากการช่วยงานที่บ้านใหญ่วันถัดมาวันนั้นพลอยใสเปลี่ยนจากม้าหินกลางสวนหย่อมมานั่งศาลากลางสระบัวแทนเพราะน้ำค้างค่อนข้างแรง ในขณะที่ชาร์วีก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดูกล้องวงจรปิดทันทีหลังจากกลับมาจากทำงานแต่มองกล้องมุมไหนก็ไม่สามารถมองเห็นเป้าหมายที่อยากเจอ ชายหนุ่มจึงต้องละจากหน้าจอโทรศัพท์กดเปิดLaptopและไล่ดูกล้องตัวอื่น ๆ ที่ติดอยู่รอบ ๆ บริเวณนั้น“ยัยตัวแสบ แอบหนีมานั่งอยู่นี้เอง” ชาร์วีที่เจอเป้าหมายนั่งอยู่ศาลากลางสระบัวที่เปิดไฟสว่างจ้ารอบบริเวณ แต่ด้วยกล้องตัวที่ส่องไปนั้นติดอยู่ระยะค่อนข้างไกลจึงไม่สามารถมองเห็นใบหน้าเด็กสาวได้ชัดเจน“ธาราเข้ามาหาฉันหน่อย”“นายมีอะไรด่วนหรือเปล่าครับ” ธารารีบเข้ามาพบเจ้านายทันทีที่ถูกเรียก“พรุ่งนี้สั่งคนมาติดกล้องตรงบริเวณสระบัวเพิ่มด้วย” ชาร์วีสั่งสิ่งที่ต้องการออกไปโดยไม่บอกเหตุผลว่าทำไม ทั้งที่ภายในบ้านตอนนี้ก็มีกล้องติดอยู่บริเวณรอบ ๆ เกือบร้อยตัวกระจายอยู่ทั่วบริเวณรอบ ๆ บ้าน ยกเ
ตอนที่10 หวงเด็กในการปกครองวันต่อมาชาร์วีสั่งลูกน้องให้ยืนเฝ้าพลอยใสและรุ่นพี่ ธาราเดินเข้าไปเจอเลยต้องทักท้วง“นายให้คนคอยประกบขนาดนั้นพลอยใสจะไม่มีสมาธิในการติวหนังสือนะครับ เด็กเขาติวหนังสือนะครับไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมาย”“ในเมื่อกูให้มึงดูแลแต่มึงหละหลวมกูก็ต้องจัดการเอง แล้วการที่เจ้าของบ้านจัดคนดูแลความปลอดภัยให้เด็กในความปกครองมันก็ไม่ได้แปลกตรงไหนเพราะที่นี่บ้านกู” ชาร์วีใช้อำนาจในความเป็นเจ้าของบ้านตอกกลับมือขวาด้วยความหงุดหงิด เพราะเคืองธาราอยู่ก่อนแล้วเรื่องที่อนุญาตให้รุ่นพี่พลอยใสมาติวหนังสือโดยไม่รายงานเขาก่อน“ครับ แล้วแต่นายเลยครับถ้าเด็กมันอึดอัดแล้วขอออกไปติวข้างนอกผมก็คงห้ามไม่ได้แล้วล่ะครับ” ธารายังไม่วายที่จะจุดชนวนให้คนเป็นเจ้านายโมโหเพิ่มเพราะค่อนข้างไม่เห็นด้วยที่ชาร์วีรุกล้ำความเป็นส่วนตัวเด็กแบบนั้น“ถ้าถึงเวลานั้นกูคือคนที่จะบอกว่าอนุญาตหรือไม่” ร่างสูงเดินไปนั่งบนโต๊ะเพื่อทำงานต่อโดยไม่สนใจมือขวาอีกต่อไป ธาราจึงได้แต่ส่ายหัวกับการใช้อำนาจของเจ้านายเช้าวันหยุดที่ความจริงแล้วชาร์วีมีนัดคุยงานแต่เนื่องจากวันนี้ชายหนุ่มมีเรื่องสำคัญกว่าที่ต้องจัดการจึงส่งธาราให้
ตอนที่11 หลบหน้า“มึงจะมาจ้องจับผิดอะไรกูธารา” เมื่อถูกถามแบบจับผิดคนที่ไม่บริสุทธิ์ใจเหมือนเดิมก็ทำท่าหงุดหงิดขึ้นมา“กูไม่ได้ว่าอะไรถ้ามึงจะสนใจเรื่องความปลอดภัยของเด็กแต่ที่กูเห็นมันเกินความจำเป็นไปหรือเปล่า ที่นี่ในบ้านไม่ใช่ข้างนอกที่ต้องให้คนไปยืนเฝ้าตลอดเวลาแบบนั้น ทำเหมือนเด็กมันเป็นนักโทษไปได้” ธาราพูดในสิ่งที่เขารู้สึก ไม่มีใครชอบให้มีคนยืนคุมตลอดเวลาหรอกแต่ที่พลอยใสไม่พูดเพราะเธอเกรงใจประมุขของบ้านชาร์วีหันมองหน้าธาราก่อนจะยกแก้วบรั่นดีขึ้นจิบโดยไม่พูดอะไรต่อ ธาราเองก็หัวเสียที่อีกฝ่ายเอาแต่เงียบไม่สะทกสะท้านกับคำเตือนของเขา“กูพอใจที่จะทำ และอีกอย่างไอ้พวกนั้นมันก็ไม่ได้ไปรบกวนอะไรเด็กนั่นด้วย แค่ยืนเฉย ๆ คิดซะว่าเป็นรูปปั้นประดับศาลาแล้วกัน” ชาร์วีพูดขึ้นหลังจากที่ต่างฝ่ายต่างเงียบมาสักพัก ก่อนที่มาเฟียหนุ่มจะหยิบเสื้อคลุมขึ้นมาสวมและเดินออกจากห้องไป“เธอว่าวันนี้เราจะเจอคุณวีไหมแก้มใส” ผ้าไหมพูดกับแก้มใสในขณะที่ทั้งคู่นัดกันมาดักรอเจ้าของบ้านอยู่มุมด้านหลังของตึกใหญ่ที่เชื่อมระหว่างตึกเล็ก หลังจากที่เห็นรูปชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาในมือถือของพลอยใสเมื่อวันก่อนและสอบถามจึงไ
ตอนที่12 ออกอาการชาร์วีที่วันนี้เคลียร์งานอยู่ที่บ้านทั้งวันกำลังยืนมองผ่านหน้าต่างจากชั้นบนของบ้าน ไปทางประตูหน้าบ้านเมื่อตอนนี้เลยเวลาที่เด็กในการปกครองต้องกลับถึงบ้านแล้ว“ขอบคุณนะที่อุตส่าห์แวะมาส่งเรา ไว้เจอกันพรุ่งนี้จ้า” เด็กสาวในชุดนักเรียนสะพายกระเป๋าเดินลงจากรถตู้คันหรูที่ด้านในรถมีชายหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกันนั่งอยู่ด้านในรถคันดังกล่าวด้วย ทั้งสองโบกมือลากันก่อนที่ประตูรถจะปิดลงและขับเคลื่อนตัวออกไปพลอยใสเดินเข้าบ้านด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ระหว่างทางเดินก็กล่าวทักทายเหล่าบอดี้การ์ดด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะเดินตรงดิ่งไปที่บ้านหลังเล็กเพื่อเก็บกระเป๋าและเปลี่ยนเสื้อผ้า“ธารา ไอ้ธารา” ชาร์วีตะโกนเสียงดังลงมาจากชั้นสองของบ้านธาราที่กำลังสั่งงานบอดี้การ์ดอยู่ด้านล่างต้องรีบหันไปถามคนเป็นนายทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น“นายมีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับเสียงดังไปถึงข้างล่าง”“ทำไมวันนี้พลอยใสถึงไม่นั่งรถตู้ของที่บ้าน” น้ำเสียงโมโหถามออกไปทันทีที่ธาราพูดจบ ธาราถอนหายใจเพราะไม่คิดว่าเรื่องที่ทำให้ชาร์วีหัวเสียจนเสียงดังลั่นบ้านจะเป็นเรื่องของเด็กในปกครอง“รถของที่บ้านกลับมาถึงตั้งแต่ช่วงเย็นแล้วครับ และอี
ตอนที่ 40 เปลี่ยนบรรยากาศ+ครอบครัว (จบ)“คุณจะให้หนูทำตรงนี้เลยเหรอคะ” พลอยใสถามกลับไม่เต็มเสียงนักเพราะตอนนี้ทั้งสองนั่งอยู่บนรถ และชาร์วีเองก็ทำหน้าที่เป็นคนขับซึ่งตอนนี้รถกำลังแล่นด้วยความเร็ว“ฉันทนต่อไปไม่ไหวแล้ว เธอจะปล่อยให้ผัวเธอลงแดงตายตรงหน้าเลยหรือไง อยากเป็นหม้ายอย่างนั้นเหรอ”“มันจะไม่อันตรายแน่นะคะ คุณอดทนอีกหน่อยได้ไหมคะ” พลอยใสพยายามต่อรองกับชาร์วีถึงแม้จะสงสารชายหนุ่มมากก็ตาม“ถ้าอดทนได้ฉันจะขอร้องเธอแบบนี้เหรอ หรือต้องให้ฉันจอดรถข้างทางแล้วลากเธอไปกระแทกเบาะด้านหลังรถ” ชาร์วีพูดขึ้นเมื่อความอดทนของเขานั้นแทบจะเหลือไม่ถึงหนึ่งเปอร์เซ็นต์“คุณตั้งใจขับรถดี ๆ นะคะ”“อมมันสักทีพลอยใส ผัวเธอจะใจขาดตายอยู่แล้ว”มือเล็กเอื้อมไปปลดเข็มขัดและกระดุมกางเกงพร้อมกับรูดซิปลง แท่งเนื้อสีแดงก่ำถูกควักออกมาพ้นจากบ็อกเซอร์ราคาแพงมาสัมผัสกับอุณหภูมิที่หนาวเย็นภายในรถ“อ่าส์ ปากเธอทำให้ฉันคลั่งได้เลยนะ” เสียงร้องครางออกมาเมื่อปลายลิ้นสัมผัสกับส่วนหัวที่บานราวดอกเห็ด“คุณต้องการมากขนาดนั้นเลยเหรอคะ เราแค่จูบกันเองนะ” เสียงหวานเอ่ยถามสลับกับดูดเลียแท่งเนื้อที่ผลิตน้ำหล่อลื่นสีใสออกมาไม่ขา
ตอนที่ 39 คลั่ง“ชาร์ถ้ามึงจะขับช้าขนาดนี้มึงไม่ต้องซื้อมาให้เปลืองเงินหรอกนะรถคันละสามสิบสี่สิบล้าน” ธาราพูดขึ้นน้ำเสียงหงุดหงิดเมื่อวันนี้มาเฟียหนุ่มมาทำหน้าที่คนขับรถด้วยตัวเอง“มึงจะรีบไปไหน ขับรถเร็วมันอันตราย” เป็นคำตอบที่ฟังดูไม่จริงใจเอาซะเลย เพราะความเร็วที่ชาร์วีใช้ประจำเวลาที่จับพวงมาลัยเองต้องไม่ต่ำกว่าหนึ่งร้อยยี่สิบ“ฟังดูตอแหลนะ ถ้ามึงไม่รีบก็จอดรถแล้วเดินไปกูจะขับไปกับพลอยใสแค่สองคน อีกสิบนาทีไอ้ลุคค์ก็จะขึ้นร้องเพลงแล้วเดี๋ยวพาพลอยใสไปไม่ทัน” ธาราที่หมดความอดทนกับการถ่วงเวลาโง่ ๆ ของเจ้านายด่าออกไปโดยไม่เกรงใจว่าชาร์วีนั้นคือเจ้าของรถ“รถคันนี้ของกู ถ้ามึงรีบก็ลงไปเรียกแท็กซี่”“ถ้างั้นก็จอดรถกูกับพลอยใสจะลงไปเรียกแท็กซี่เอง”“ถ้าหนูไปไม่ทันพี่ลุคค์ร้องเพลงรางวัลที่เราตกลงกันไว้เป็นโมฆะค่ะ”บรึ๊น! บรึ๊น! บรึ๊น!สิ้นเสียงพลอยใสรถยนต์คันหรูก็เร่งความเร็วขึ้นไปแตะที่ระดับปกติที่ควรจะเป็นหรืออาจจะเร็วไปด้วยซ้ำ ฝีมือการขับรถของชาร์วีที่ชำนาญเรื่องการทำความเร็วก็สามารถพาพลอยใสมาทันเวลาที่ลุคค์ขึ้นร้องเพลงพอดี“ไอ้ธาราทำไมมึงพาเมียกูเดินเบียดผู้คนเข้ามาแบบนี้ ประตูด้านหลังมี
ตอนที่ 38 อำนาจเปลี่ยนมือของขวัญวันแต่งงานที่ชาร์วีมอบให้ภรรยาตัวน้อยของเขาทั้งคืนจนเกือบสว่าง ส่งผลให้หญิงสาวนอนหมดแรงและตื่นขึ้นมาอีกทีในช่วงบ่ายของวันใหม่“คุณอื้อ..คุณวี” ดวงตากลมโตกะพริบไล่แสงเพื่อปรับโฟกัสสายตา มาเฟียหนุ่มนั่งพิงหัวเตียงพร้อมกับถือไอแพดอยู่ในมือ“ตื่นแล้วเหรอ..หิวน้ำไหม” ชาร์วีวางไอแพดในมือลงรีบพยุงหญิงสาวให้ลุกขึ้นนั่ง“กี่โมงแล้วคะ” หลังจากดื่มน้ำไปอึกใหญ่ก็เอ่ยถามขึ้นเพราะมองจากแสงที่ลอดผ่านม่านสีขาวเข้ามาบ่งบอกว่าเป็นช่วงสายหรือไม่ก็ช่วงบ่ายของวัน“บ่ายสองแล้ว หิวข้าวหรือเปล่า”“บ่ายแล้วเหรอคะ ทำไมคุณไม่ปลุกหนูล่ะคะ”“ปลุกทำไม เมื่อคืนเธอใช้พลังงานไปตั้งเยอะนอนหลับพักผ่อนเอาแรงน่ะดีแล้ว คืนนี้จะได้มีแรงทำต่อ” ชาร์วีพูดขึ้นสีหน้าเรียบนิ่ง“พอเลยค่ะ หนูไม่ไหวแล้วคุณกินจุเกินไป”“ไม่ไหวเหรอ ก็เห็นเรียกร้องเอาอีกหนูต้องการคุณอยู่ไม่ใช่เหรอ”“หยุดพูดเลยนะคะ” ใบหน้าเรียวเล็กซุกเข้าที่อกแกร่งด้วยความอายเมื่อถูกพูดถึงกิจกรรมรักที่เร่าร้อนเมื่อคืนที่ผ่านมา“ไปอาบน้ำไปจะได้ลงไปทานข้าว ธารามันขึ้นมาตามหลายรอบแล้ว” น้ำเสียงอ่อนนุ่มที่ชาร์วีใช้พูดกับหญิงสาวเป็นน้ำเสียงท
ตอนที่ 37 คืนเข้าหอคืนเข้าหอ“เหนื่อยไหมหืม..” เสียงทุ้มอบอุ่นเอ่ยถามขณะที่กำลังช่วยภรรยาตัวน้อยถอดชุดเจ้าสาวหลังจากเสร็จจากงานเลี้ยงฉลองค่ำคืนนี้“นิดหน่อยค่ะ แต่มีความสุขมากกว่า” เสียงหวานตอบกลับไปตามที่รู้สึกรอยยิ้มแห่งความสุขฉายเด่นชัดอยู่บนใบหน้าหญิงสาวตั้งแต่งานเริ่มจนถึงป่านนี้ ความสุขที่เธอไม่เคยได้รับ วันนี้ชาร์วีเป็นคนเข้ามาเติมเต็มส่วนที่เธอขาดทั้งหมด“ขอบคุณนะคะ ที่เข้ามาเป็นความสุขของหนู” ร่างบางหันหน้ากลับมาสบตากับสามีหมาด ๆ ของเธอ“เธอก็เข้ามาเป็นความสุขของฉันเหมือนกัน ฉันมีของขวัญแต่งงานให้เธอด้วยนะ” แขนแกร่งรั้งเอวคอดเข้าหาตัวและโอบกอดไว้หลวม ๆ ใบหน้าคมก้มลงกระซิบข้างใบหู“ของขวัญอะไรคะ” ดวงตากลมโต แพขนตางอนเหลือบขึ้นมองสบตาก่อนจะเอ่ยถามออกไปสีหน้าตื่นเต้น“ไปอาบน้ำให้เสร็จก่อน แล้วค่อยมาแกะของขวัญของฉัน” น้ำเสียงเจ้าเล่ห์ตอบกลับไป พร้อมกับอุ้มร่างบางในท่าเจ้าสาวเดินเข้าห้องน้ำไป“คุณจะอาบน้ำพร้อมหนูเลยเหรอคะ”“อาบพร้อมกันนี่แหละจะได้ไม่เสียเวลา ฉันอยากให้เธอแกะของขวัญจะแย่หรือจะแกะในห้องน้ำเลยก็ได้นะ”“หนูก็อยากเห็นของขวัญที่คุณจะให้หนูแล้วค่ะ” แววตาใสซื่อไม่ทันคนข
ตอนที่36 สู่ขอชาร์วีในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวดูแปลกตาจูงมือเดินมากับพลอยใสและมีธารามือขวาคนสนิทเดินตามหลังมาห้องรับแขกที่มีป้าณีและแขกคนสำคัญของบ้านฮาร์เปอร์คือ แม่แก้ว คนที่ดูแลพลอยใสเมื่อตอนที่เธออาศัยอยู่ที่บ้านเด็กกำพร้า“แม่แก้วสวัสดีค่ะ แม่แก้วสบายดีนะคะ” หญิงสาวนั่งลงกับพื้นตรงหน้าผู้มีพระคุณที่เลี้ยงดูเธอมา“แม่สบายดีจ้ะ” หญิงสูงวัยที่แก่ขึ้นตามกาลเวลาตอบกลับเสียงเบา มือเหี่ยวย่นยกขึ้นลูบศีรษะทุยด้วยความรัก“ลุกขึ้นเถอะลูก”“มานั่งลงตรงนี้” เสียงทุ้มเอ่ยเรียกเมื่อหญิงสาวทำตัวไม่ถูกว่าเธอต้องนั่งลงตรงไหน จะนั่งด้านบนตรงโซฟา หรือลุกไปยืนข้าง ๆ ธาราที่ด้านหลังร่างอรชรลุกขึ้นนั่งข้าง ๆ ชายหนุ่มในที่ที่เธอไม่คุ้นเคยมาก่อน เป็นครั้งแรกที่เธอมีโอกาสนั่งข้างชายหนุ่มเจ้าของบ้านต่อหน้าลูกน้องและคนในบ้านอย่างวันนี้“ดิฉันในฐานะผู้ใหญ่ของบ้านนี้ขอเข้าเรื่องที่เชิญคุณแก้วมาวันนี้เลยนะคะ” ป้าณีผู้ใหญ่ที่เลี้ยงดูชาร์วีมาตั้งแต่เด็กพูดขึ้น“อย่างที่เคยแจ้งให้คุณแก้วทราบก่อนหน้านั้นว่าตอนนี้คุณวีและพลอยใสอยู่ในฐานะสามีและภรรยา ทางเราจึงอยากสู่ขอกับผู้ใหญ่ให้ถูกต้องตามประเพณีไทย คุณแก้วในฐานะที่เ
ตอนที่35 เสือสาวเวลาผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงบทรักในห้องน้ำจบลง และกำลังเริ่มขึ้นอีกครั้งบนเตียง“เอาสิ เธออยากจัดการฉันยังไงก็ทำตามอย่างที่ต้องการได้เลย” ชายหนุ่มนอนแผ่หลาความเป็นชายตั้งโด่ล่อตาล่อใจเสือสาว“ถ้าหนูทำอะไรผิด คุณจะไม่ลงโทษหนูแบบแก้มใสใช่ไหมคะ” พลอยใสถามขึ้นขณะที่กำลังคลานขึ้นไปบนตัวชายหนุ่ม“เอาอะไรคิด ฉันจะเอาเมียตัวเองไปให้คนอื่นทำไม โดนกระแทกจนเสียสติแล้วหรือไง” ชาร์วีว่ากลับพร้อมยกคนตัวเล็กลอยขึ้นนั่งบนตัก“ก็แก้มใสทำผิดคุณยังลงโทษเธอแบบนั้นเลย”“ผู้หญิงคนนั้นบ้าเซ็กขนาดไหนเธอไม่รู้เหรอพลอยใส เพื่อนเธอมันชอบไปปาร์ตี้เซ็กหมู่หลายครั้งแล้ว แล้วที่เธอเห็นในห้องใต้ดินนั้นผู้หญิงคนนั้นก็เป็นคนเริ่มเองฉันไม่ได้บังคับ” ชาร์วีเล่าความจริงที่เขารับทราบมาตลอดว่าเด็กในการปกครองชอบไปปาร์ตี้มั่วเซ็กอยู่บ่อยครั้ง แต่เขาก็ไม่อยากเข้าไปยุ่งเพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัว“แก้มใสนะเหรอคะ ชอบไปปาร์ตี้เซ็กหมู่” พลอยใสถามกลับอย่างไม่อยากเชื่อที่ชายหนุ่มพูด“ใช่ ถ้าฉันจะบอกว่าผู้หญิงคนนั้นนอนกับผู้ชายมานับร้อยคนเธอจะเชื่อหรือเปล่า”“ไม่ค่ะ หนูไม่เชื่อเด็ดขาด” พลอยใสส่ายหัวไม่เชื่อสิ่งที่ชาร์ว
ตอนที่34 คลั่งรักบอดี้การ์ดร่างกำยำนับสิบคนเดินเข้ามาตามเสียงเรียกคนเป็นนาย แก้มใสเห็นดังนั้นก็รู้สึกตื่นเต้น หันไปมองหน้าบอดี้การ์ดที่กำลังมองเธอด้วยสายตาหื่นกระหาย“แสดงฝีมือลีลาบนเตียงของเธอให้ฉันดูหน่อยสิ ว่าจะเร้าใจพอที่ฉันจะพาขึ้นเตียงด้วยหรือเปล่า”“คุณวี แต่ว่า..”“ฉันไม่ถือสาเรื่องนี้ เอาสิแสดงให้ฉันเห็นว่าเธอเก่งมากแค่ไหน”หญิงสาวค่อย ๆ คลานเข่าเข้าไปหาบอดี้การ์ดที่ยืนรายล้อมรอบตัวเธอ มือบางค่อย ๆ ปลดเข็มขัดแล้วรูดซิปกางเกงและควักแท่งเนื้อที่ขยายตัวเต็มที่พร้อมใช้งานออกมา ปากบางค่อย ๆ กลืนกินแท่งเนื้อนั้นราวไอติมแท่งโปรด น้ำลายผสมน้ำหล่อลื่นไหลเปื้อนมุมปาก ขณะที่เธอกำลังใช้ปากอยู่นั้นบอดี้การ์ดคนที่เหลือที่ตอนนี้ปลดเปลื้องเสื้อผ้าพร้อมภารกิจเสพสวาทครั้งนี้ก็เดินเข้าหาเธอ บั้นท้ายงอนถูกกางออกลิ้นสากส่งเข้าไปสัมผัสทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เต้าอวบทั้งสองข้างถูกดูดกินด้วยบอดี้การ์ดอีกสองคน แก้มใสร้องครางออกมาด้วยความสุขสม เธอกลายเป็นคนติดเซ็กหมู่มาหลายปีตั้งแต่ครั้งเรียนอยู่ปีหนึ่งที่เธอมีโอกาสได้เข้าร่วมปาร์ตี้สวิงกิ้งและเธอก็ติดใจและทำบ่อยทุกครั้งที่คนในกลุ่มจัดขึ้นภาพหญิงสาว
ตอนที่33 จัดการการเดินทางไปยังประเทศต่าง ๆ ของพลอยใสได้สิ้นสุดลงพร้อมกับประสบการณ์มากมายที่เธอได้สัมผัส เครื่องบินลำใหญ่ของฮาร์เปอร์กำลังเทคออฟออกจากสนามบินฮ่องกงมุ่งหน้าสู่ประเทศไทยเมืองไทยร่างบางนอนหลับในอ้อมแขนแกร่งของชาร์วีตั้งแต่ขึ้นรถมายังไม่ถึงสิบนาที ร่างกายเพลียจากการนั่งเครื่องเป็นเวลานานและเวลาที่ต่างกันของแต่ละประเทศจึงทำให้ร่างกายปรับเวลานอนไม่ทันจึงเกิดสภาพอย่างที่เห็น“นายไม่ปลุกเธอเหรอครับ” ธาราหันไปถามคนเป็นนายที่กำลังตั้งท่าจะอุ้มหญิงสาวลงจากรถ“ไม่”“นายจะอุ้มเธอเข้าบ้านไปแบบนี้ บอดี้การ์ดจะพากันเอาไปพูดเอาได้นะครับ” ธาราเอ่ยเตือนเพราะความสัมพันธ์ของเจ้านายกับเด็กในการปกครองที่เปลี่ยนไปทุกคนในบ้านยังไม่มีใครทราบ“ใครมันกล้าเอาไปพูดกูจะไล่ออกให้หมด” เสียงกร้าวบอกออกไปพร้อมกับอุ้มหญิงสาวลงจากรถเดินเข้าบ้านใหญ่ไป ท่ามกลางสายตาของบอดี้การ์ดและแม่บ้านคนเก่าคนแก่อย่างป้าณี“คุณวีพลอยใสเป็นอะไรคะ”“ไม่ได้เป็นอะไรครับ” คำตอบสั้น ๆ ที่ไม่ขยายความให้คนถามเข้าใจ ก่อนจะอุ้มหญิงสาวเดินผ่านหน้าขึ้นไปยังชั้นสองของบ้านซึ่งเป็นห้องส่วนตัวของมาเฟียหนุ่ม“คุณธาราพลอยใสเป็นอะไรคะ ทำ
ตอนที่32 ไหว้พ่อแม่หลังจากเสร็จธุระเรื่องงานที่เมืองหลวงแล้วชาร์วีก็พาหญิงสาวไปบ้านที่ตั้งอยู่ชานเมืองห่างไกลผู้คนเฮลิคอปเตอร์ขึ้นบินจากกรุงลอนดอนทะยานสู่เขตนอกเมืองที่โอบล้อมด้วยทะเลและภูเขา คฤหาสน์หลังใจที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางทุ่มหญ้าเขียวขจี เฮลิคอปเตอร์ลงจอดที่ลานหญ้าบริเวณหน้าบ้าน“ที่นี่บ้านคุณเหรอคะ” ดวงตากลมโตมองสำรวจบริเวณรอบ ๆ ที่ล้อมรอบด้วยธรรมชาติไกลสุดลูกหูลูกตา“ใช่ บ้านของแด๊ดกับมัม” ร่างสูงเดินนำเข้าไปด้านในที่มีคนดูแลบ้านมายืนรอต้อนรับตรงประตูทางเข้า“สวัสดีค่ะนาย/นายหญิง” ทั้งหมดก้มหัวให้และกล่าวทักทายชายหนุ่มเมื่อเดินผ่านไป รวมทั้งกล่าวทักทายพลอยใสด้วย“สวัสดีค่ะคุณธารา” อยู่บ้านนี้ธาราจะอยู่ในฐานะลูกชายบุญธรรมของบ้านฮาร์เปอร์เพราะครั้งยังเด็กธาราและชาร์วีเกิดและโตที่นี่ ก่อนที่พ่อของชาร์วีจะวางมือจากธุรกิจที่นี่และย้ายถิ่นฐานไปอยู่เมืองไทย“ชาร์วีมึงจะให้พลอยใสพักห้องไหน” ธาราถามขึ้นเมื่อเดินเข้ามาหย่อนสะโพกลงนั่งตรงโซฟาห้องรับแขก“นอนกับกู”“ไอ้ชาร์” ทั้งสองฟาดฟันกันด้วยสายตา ต่างไม่มีใครยอมใคร“พลอยใสขึ้นห้อง” พลอยใสจำเป็นต้องเดินตามชาร์วีขึ้นไปชั้นบนซึ่งเป็นห้