CRAZY ABOUT ปักใจรักบอดี้การ์ด NC20++

CRAZY ABOUT ปักใจรักบอดี้การ์ด NC20++

last updateTerakhir Diperbarui : 2025-06-08
Oleh:  ฅนบนดอยBaru saja diperbarui
Bahasa: Thai
goodnovel18goodnovel
Belum ada penilaian
64Bab
71Dibaca
Baca
Tambahkan

Share:  

Lapor
Ringkasan
Katalog
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi

'สำหรับผม เด็กดื้อไม่ใช่เด็กแลาด แต่เด็กดื้อก็คือเด็กดื้อ' ‘หนูต้องโตแค่ไหนถึงจะยืนข้างเทนต์ในฐานะคนรักได้คะ’ ‘ตอนนี้ตั้งใจเรียนก่อนนะครับ เป็นเด็กต้องตั้งใจเรียนก่อน’ ‘หนูพิ้งค์ไม่เคยขาดเรียนเลยนะคะ เทนต์บอกให้เรียนเก่ง ๆ หนูพิ้งค์ก็ทำตามที่บอก หนูสอบได้ที่หนึ่งของห้องตลอดเลย’ เด็กสาววัยละอ่อนยิ้มแก้มป่องอวยอย่างภูมิใจ ‘หนูจะได้ของขวัญจากเทนต์อีกไหม’ ‘เอาไว้คุณหนูสอบได้ที่หนึ่งอีกผมก็จะให้อีกครับ’ ‘สัญญาก่อน’ นิ้วก้อยน้อย ๆ ชูขึ้นมาหมายจะเกี่ยวก้อยทำสัญญากับชายหนุ่มทว่าพี่เลี้ยงสาวกลับจูงมือเธอเดินเข้าไปในโรงเรียนก่อน เด็กน้อยหันมามองตาละห้อยพลางเม้มปากแน่น แววตาฉาบด้วยม่านน้ำตาจนแพรวพราว ‘หนูอยากยืนอยู่ข้างเทนต์..เหมือนที่หม่าม้ายืนอยู่เคียงข้างปะป๊า’

Lihat lebih banyak

Bab 1

บทนำ

บทนำ

‘หนูต้องโตแค่ไหนถึงจะยืนข้างเทนต์ในฐานะคนรักได้คะ’

‘ตอนนี้ตั้งใจเรียนก่อนนะครับ เป็นเด็กต้องตั้งใจเรียนก่อน’

‘หนูพิ้งค์ไม่เคยขาดเรียนเลยนะคะ เทนต์บอกให้เรียนเก่ง ๆ หนูพิ้งค์ก็ทำตามที่บอก หนูสอบได้ที่หนึ่งของห้องตลอดเลย’ เด็กสาววัยละอ่อนยิ้มแก้มป่องอวยอย่างภูมิใจ ‘หนูจะได้ของขวัญจากเทนต์อีกไหม’

‘เอาไว้คุณหนูสอบได้ที่หนึ่งอีกผมก็จะให้อีกครับ’

‘สัญญาก่อน’ นิ้วก้อยน้อย ๆ ชูขึ้นมาหมายจะเกี่ยวก้อยทำสัญญากับชายหนุ่มทว่าพี่เลี้ยงสาวกลับจูงมือเธอเดินเข้าไปในโรงเรียนก่อน เด็กน้อยหันมามองตาละห้อยพลางเม้มปากแน่น แววตาฉาบด้วยม่านน้ำตาจนแพรวพราว

‘หนูอยากยืนอยู่ข้างเทนต์...เหมือนที่หม่าม้ายืนอยู่เคียงข้างปะป๊า’

นั่นเป็นคำพูดของเด็กน้อยวัยสี่ขวบครึ่งที่หมายมั่นปั้นมืออยากจะยืนเคียงข้างผู้ชายคนหนึ่งที่ขึ้นชื่อว่าเป็นลูกน้องของพ่อตนเอง ทว่าเธอรู้สึกดีกับเขามาตั้งแต่ตนเองยังเล็กและปักใจรักเขาคนเดียวเสมอมา

“วันนี้ไม่มีเรียน ขอกลับบ้านก่อนได้ไหม” หญิงสาวเจ้าของรอยยิ้มหวานหันมาบอกเพื่อน ๆ ที่นั่งก้มหน้าเล่นเกมอย่างจริงจังให้รับรู้ก่อนที่หนึ่งคนในโต๊ะจะโพล่งขึ้นโดยไม่เงยหน้าขึ้นสบตากับคู่สนทนา

“ไหนพิ้งค์บอกอยากไปกินหมูทะ” โฮปเป็นเจ้าของคำถามนั้นและไออุ่นที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ก็พูดเสริมขึ้นอีกเสียง

“เราพาไปได้นะ อยากกินอยู่พอดีเลย”

“ใช่ ๆ” วอร์รีบพยักหน้ารับอย่างเร็ว ทั้งสามเป็นเพื่อนสนิทของพิ้งค์ เหตุผลที่เธอคบเพื่อนผู้ชายเพราะเบื่อคุยเรื่องจุกจิกกับเพื่อนผู้หญิงคนอื่น ๆ และเธอไม่ชอบนิสัยเพื่อนผู้หญิงบางคนที่ชอบนินทาเพื่อนร่วมห้องเดียวกัน

“อยากไปนะ แต่ไม่มีอารมณ์”

“เป็นไร หนูพิ้งค์ของพวกเราเป็นอะไรครับ” โฮปยกมือขึ้นไปอังหน้าผากเพื่อนรักและทำหน้าครุ่นคิด “ก็ไม่มีไข้ ไหนบอกดิ๊ว่าเบื่ออะไร”

“ไม่รู้ดิ รู้สึกเบื่อนิดหน่อย”

“แล้วยังอยากไปกินหมูทะอยู่ไหม” วอร์ถามบ้าง ทุกคนเลิกสนใจเกมในโทรศัพท์แล้วโฟกัสที่พิ้งค์คนเดียว สายตาพวกเขาที่จ้องมองเธอเคลือบด้วยความเอ็นดูเสียส่วนมาก ทว่าลึก ๆ แล้วกลับรู้สึกเป็นห่วงอยู่เหมือนกัน

“อยากไป แล้วใครจะเป็นคนเลี้ยงพิ้งค์อะ”

“เลือกดิ อยากให้ใครเลี้ยงอะ พวกเราพร้อมเสมอ” ไออุ่นยิ้มแป้นพลางเชิดหน้าให้พิ้งค์เลือกคนเลี้ยงหมูกระทะเย็นนี้ แต่เมื่อเห็นพิ้งค์มองด้วยความลำบากใจเขาจึงคิดอะไรสนุก ๆ ออกแล้วเอาขวดมาวางตรงกลางโต๊ะ “หมุนขวดแล้วกัน ปากขวดหยุดที่ใครคนนั้นเลี้ยง ยุติธรรมดี”

“อืม เห็นด้วย” โฮปพยักหน้าเห็นด้วย

“เอาสิ หมุนเลย” วอร์บอกเสียงเรียบและทุกคนก็จ้องมองขวดที่พิ้งค์กำลังหมุน พอเธอหมุนขวดแล้วทุกคนก็ยิ่งก้มหน้าลงและจ้องปากขวดอย่างกดดันจนกระทั่งขวดหยุดหมุนแต่ทว่าปากขวดดันชี้ไปทางพิ้งค์แต่คนที่ยืนอยู่ด้านหลังพิ้งค์มาสักพักแล้วก็เอ่ยขึ้น

“เป็นผมสินะครับ ที่ต้องเลี้ยงหมูกระทะ” เทนต์มือขวาคนสนิทแฟรงค์เอ่ยขึ้นเสียงเรียบพร้อมกับหยิบขวดน้ำขึ้นไปมองอย่างพิจารณา

“มาทำไม”

“…” เขาจ้องคนถามผ่านรอยยิ้มที่มุมปาก “คงไม่ต้องพูดอะไรซ้ำ ๆ หรอกมั้งครับ” เขามารับเธอแบบนี้ทุกวัน แต่คำถามนั้นก็หลุดออกจากปากคุณหนูเขาทุกวันเหมือนกัน

“วันนี้พิ้งค์จะไปกินหมูกระทะกับเพื่อน เทนต์ไม่ต้องมารับหรอก เดี๋ยวให้โฮปไปส่งบ้านก็ได้”

“ใช่ครับพี่เทนต์ เดี๋ยวพวกผมไปส่งพิ้งค์ที่บ้านเอง” ไออุ่นยิ้มหวานให้มือขวามาเฟียใหญ่แต่ทว่าไม่ได้รับความสนใจจากคู่สนทนาเลย เทนต์ก้มมองคนตัวเล็กซึ่งเขายืนอยู่ด้านหลังเธอจึงเห็นว่าตอนนี้พิ้งค์ทำแก้มป่องอยู่

“ผมคงปล่อยให้คุณหนูไปเล่นซนที่อื่นไม่ได้ เพราะนายสั่งให้ผมมาดูแลคุณหนู”

“โตแล้วนะ”

“ถ้าโตแล้วก็ไม่ควรดื้อนะครับ” ในโต๊ะเงียบงันจนได้ยินเสียงลมพัดผ่าน ไออุ่นกระซิบกระซาบกับโฮปเสียงเบาแทบไม่ได้ยิน

“กูว่าไม่ได้แดกหรอกหมูทะ” โฮปว่า

“เออดิ ดูหน้าพี่เทนต์ดิ เอาจริงนะนั่น” ไออุ่นป้องปากกระซิบตอบและวอร์ก็ยื่นหน้ามากระซิบกระซาบต่อ

“อย่าว่าแต่พี่เทนต์เลย คนของเราก็ใช่ย่อย” เขาบุ้ยปากไปหาพิ้งค์ที่กำลังปั้นปึ่งใส่ลูกน้องหนุ่มอยู่ สามหนุ่มพยักหน้าส่งสัญญาณให้กันแล้วพร้อมใจกันหัวเราะทำลายความเงียบในโต๊ะ

“ฮ่า ๆ ผมว่าเราไปกันหมดนี่เลยดีกว่าไหมครับ ไปกันหลาย ๆ คนสนุกดะ..”

“ไม่”

“อะ..อ้าว?” วอร์อ้าปากค้างเพราะพิ้งค์ปฏิเสธเสียงแข็งพร้อมกับเก็บของใส่กระเป๋าสะพาย เธอลุกขึ้นแล้วเดินออกไปจากโต๊ะทันที “เอ้า พิ้งค์เป็นไรวะ” เขาถามสองหนุ่มที่พร้อมกันส่ายหน้าพรืด ยิ่งอาการพิ้งค์ออกชัดเจนว่ากำลังต่อต้านเทนต์พวกเขาก็ยิ่งไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้นกับสองคนนี้ทั้งที่เมื่อก่อนพิ้งค์ดูปลาบปลื้มเทนต์เอามาก ๆ

หมับ!

“อ๊ะ! อย่ามาจับแขนหนู ปล่อย”

“…” บอดี้การ์ดหนุ่มยอมปล่อยตามที่เด็กสาวสั่งพร้อมกับถอยหลังหนึ่งก้าวเพื่อเว้นระยะห่างจากเธอ แต่ทว่าการกระทำเช่นนั้นกลับทำให้อีกฝ่ายไม่พอใจมากกว่าเดิม

“พิ้งค์จะให้ป๊าเปลี่ยนบอดี้การ์ดชุดใหม่ ไม่ต้องมาทำหน้าที่ตรงนี้แล้วไม่อยากเห็นหน้า”

“…”

“ซื่อบื้อ!” เมื่อเขายังยืนก้มหน้าเงียบไม่ตอบโต้เธอจึงผลักอกแกร่งหนึ่งทีด้วยแรงที่มีแล้วเดินออกมา การกระทำของพิ้งค์ตกอยู่ในสายตาสามหนุ่มจนพวกเขารีบปรี่เข้ามาหาเพื่อจะห้ามปรามทว่าพิ้งค์กลับเดินไปขึ้นรถแล้วขับออกไปโดยไม่รอเทนต์

“เป็นอะไรไหมครับ” ไออุ่นเอ่ยถามคนเป็นพี่พร้อมกับมองรถยนต์หรูที่เคลื่อนตัวออกไปด้วยความเร็ว

“พี่ไปพูดอะไรให้คุณหนูของพวกเราโกรธเนี่ย พักนี้ยิ่งหงุดหงิดบ่อยอยู่” วอร์มุ่นคิ้วถามเทนต์คล้ายว่าจะขอคำอธิบายเหตุการณ์เมื่อครู่จากเขา

“ยังไงพี่ ตกลงทะเลาะอะไรกับพิ้งค์” โฮปขมวดคิ้วถามอีก เพราะเทนต์ยังยืนเงียบไม่พูดอะไรและสุดท้ายเขาก็ยอมพูด

“เปล่าครับ ผมขอตัว”

“ครับ/ครับ/ครับ”

สามหนุ่มพยักหน้าเข้าใจแล้วยืนกอดอกมองเทนต์ที่เดินออกไปจากกลุ่มเขา

“กูว่าเรื่องนี้มีเงื่อนงำ” วอร์หรี่ตามอง

“เงื่อนงำอะไรของมึงไอ้ว้อ” โฮปแย้งขึ้นเสียงขุ่น

“กูชื่อวอร์ วอร์~ ทำลิ้นแบบนี้ วอร์เทอะ!”

“ว้อ”

“ไม่ต้องมาคุยกับกู โกรธยันลูกมึงบวช!”

“ฮ่า ๆ” สองหนุ่มหัวเราะขบขันกับท่าทางกระเง้ากระงอดของเพื่อนรัก ก่อนที่พวกเขาจะกลับไปที่โต๊ะแล้วเก็บของแยกย้ายกันกลับบ้าน

รถยนต์หรูเคลื่อนตัวเข้ามาจอดหน้าคฤหาสน์หลังใหญ่โดยมีชายฉกรรจ์ร่างสูงใหญ่เดินมาเปิดประตูให้ พิ้งค์ถือกระเป๋าเดินจ้ำอ้าวเข้ามาในบ้านด้วยใบหน้าบูดบึ้ง

“ปะป๊า! หนูจะเปลี่ยนบอดี้การ์ดชุดใหม่”

“เดี๋ยว ใจเย็นก่อนลูก” ผู้เป็นพ่อเงยหน้าขึ้นมองลูกสาวอย่างไม่เข้าใจ “ทะเลาะอะไรกับเทนต์อีก”

“หนูเปล่า หนูแค่ไม่ชอบ”

“ไม่ชอบยังไง ก็หนูขอป๊าเองว่าอยากให้เทนต์เป็นบอดี้การ์ดดูแลหนู”

“ตอนนี้หนูไม่อยากได้แล้ว”

“บอกป๊าก่อนว่าทะเลาะอะไรกันหรือเทนต์ทำอะไรให้ไม่พอใจ”

“สวัสดีครับนาย” แฟรงค์ละสายตาจากใบหน้าบูดบึ้งของลูกสาวไปมองลูกน้องคนสนิทที่เพิ่งเดินเข้ามาด้วยท่าทางสุขุมแล้วดึงสายตากลับมามองหนูพิ้งค์เหมือนเดิม

“ยังไง บอกป๊าได้หรือยังว่าอยากเปลี่ยนบอดี้การ์ดทำไม” ผู้เป็นพ่อถามย้ำเพื่อให้ลูกขยายความจาก เมื่อเห็นแววตาคู่นั้นฉายความลังเลเขาจึงหันมาคุยกับลูกน้อง “แล้วมึงไปทำไรให้หนูพิ้งค์ไม่พอใจ”

“ผมเปล่าทำอะไร”

“เฮ้อ…ไปพักไป” เขาบอกเทนต์ด้วยท่าทางเหนื่อยหน่ายก่อนที่จะตบที่ว่างข้างตัวเป็นการบอกให้หนูพิ้งค์ลงมานั่งข้างตนเอง “ไหนเล่าให้ป๊าฟังสิ เทนต์มีปัญหาตรงไหนถึงทำให้หนูไม่อยากได้เขาเป็นบอดี้การ์ดแล้ว” ฝ่ามือหนาผู้เป็นพ่อลูบผมออกจากใบหน้าจิ้มลิ้มของลูกสาวด้วยความรัก และจ้องมองดวงตาคู่สวยที่ฉาบด้วยความลังเลใจ

“หนูไม่ชอบที่เทนต์ซื่อบื้อ”

“หึหึ..” คำตอบที่ได้รับทำเอาแฟรงค์หลุดขำออกมา “หนูคิดแบบนั้นจริงเหรอ”

“ป๊าไม่สังเกตเหรอคะ”

“เทนต์อยู่กับป๊ามานาน ทำไมป๊าจะไม่สังเกต”

“ป๊าก็เห็น”

“เพราะป๊าเห็นไงถึงต้องถามหนู” เขาโอบกอดลูกสาวไว้แล้วอธิบายให้เธอเข้าใจ “บอดี้การ์ดในบ้านเราไม่มีใครซื่อบื้อ เพียงแต่พวกเขาถูกฝึกมาแบบนั้นครับลูก พูดให้น้อยวางตัวกับเจ้านายให้เหมาะสม หูตาต้องไว เพราะถ้าขาดคุณสมบัติพวกนี้ก็ไม่ผ่านการทดสอบ ทุกคนในบ้านต่างถูกฝึกฝนมาอย่างหนัก คนที่ป๊าเลือกให้ดูแลหนูกับหม่าม้าคือคนที่ป๊าไว้ใจที่สุดแล้ว พวกเขาฝึกมาเพื่อคุ้มกันเราจากอันตราย ไม่ได้ถูกฝึกมาเพื่อเอาใจใคร ป๊าอยากให้หนูจำตรงนี้ไว้”

“…”

“ที่นี้เข้าใจแล้วใช่ไหมว่าทำไมเทนต์ถึงต้องทำแบบนั้น”

“…” เด็กสาวพยักหน้าหงึก ๆ แม้ยังรู้สึกขุ่นเคืองในใจเล็กน้อย “หนูไม่ได้เอาแต่ใจสักหน่อย”

“อันนี้พ่อไม่ขอออกความคิดเห็นแล้วกัน”

“งั้นหนูขอตัวก่อนนะคะ”

“หม่าม้าอยู่ในครัว” ชายหนุ่มรั้งใบหน้าจิ้มลิ้มเข้ามาหอมด้วยความรักแล้วปล่อยลูกไปหาแม่ของเธอที่ห้องครัว

หมับ!

“อ๊ะ! หนูพิ้งค์” นางแบบสาวสะดุ้งโหยงเมื่อถูกลูกสาวกอดจากทางด้านหลังโดยที่แม่บ้านก็เห็นดีเห็นงามกับแผนนี้ด้วย

“เสียงคุณแม่เซ็กซี่มากเลยค่ะ”

“ยายลูกคนนี้ แล้ววันนี้ทำไมกลับบ้านเร็วจัง” เด็กสาวยู่ปากแล้วเคลื่อนใบหน้าไปเกลือกกับหน้าอกแม่อย่างออดอ้อน

“ลูกคนนี้อยากทำตัวดีให้หม่าม้าไม่เป็นห่วง”

“จ้ะ” พราวดาวยิ้มประชดลูกสาวก่อนจะดันตัวพิ้งค์ออกห่าง

“หนูเลิกคลาสเร็ว ทีแรกว่าจะไปกินหมูกระทะกับสามเกลอ แต่อารมณ์ไม่ดีก่อนเลยไม่ไป” ผู้เป็นแม่มองริมฝีปากจิ้มลิ้มของลูกสาวผ่านรอยยิ้มบาง ๆ ที่มุมปาก

“ใครกันทำลูกแม่อารมณ์เสีย”

“ก็พอจะมีอยู่ค่ะ”

“งั้นเอาทอดหนังไก่กรอบ ๆ ไปกินเล่น จะได้อารมณ์ดี”

“ว้าว...น่ากินจังเลย เพราะหม่าม้าเก่งแบบนี้ไงป๊าถึงได้หลงหัวปักหัวปำอะ”

“ไม่ต้องมาแซวเลย”

“รักนะคะ” พิ้งค์หอมแก้มแม่ฟอดใหญ่แล้วเดินออกมาจากห้องครัว “อ๊ะ! เดินยังไง…” เธอเม้มปากแน่นก่อนจะเบี่ยงตัวหลบคนตรงหน้าแล้วเดินขึ้นบันไดมา

“คุณหนูครับ”

“…” เธอหยุดยืนฟังแต่ไม่ยอมหันกลับมามองเจ้าของเสียงเรียก “เรียกแล้วไม่พูดจะเรียกทำไม” เธอยอมหันมามองเทนต์ด้วยความหงุดหงิดแต่กลับต้องเป็นฝ่ายอึ้งไปเองที่เห็นเขาถือกล่องของขวัญเล็ก ๆ ไว้ในมือ ก่อนจะส่งมาให้เธอ

“ของขวัญหลังสอบเสร็จครับ”

“ไม่ได้ขอ”

“เด็กดีต้องได้รางวัล”

“ถ้าดีจริง…แล้วเมื่อไหร่หนูจะอยู่ในสายตาเทนต์”

“…”

“ขอบคุณค่ะ” พิ้งค์รับกล่องของขวัญมาถือไว้แล้วเดินขึ้นมาบนบ้าน โดยไม่หันกลับไปมองเทนต์ เธอปิดประตูเสียงดังอย่างประชดประชันเขา

“คุณหนูอยู่ในสายตาผมตลอด...”

Tampilkan Lebih Banyak
Bab Selanjutnya
Unduh

Bab terbaru

Bab Lainnya

Komen

Tidak ada komentar
64 Bab
บทนำ
บทนำ‘หนูต้องโตแค่ไหนถึงจะยืนข้างเทนต์ในฐานะคนรักได้คะ’‘ตอนนี้ตั้งใจเรียนก่อนนะครับ เป็นเด็กต้องตั้งใจเรียนก่อน’‘หนูพิ้งค์ไม่เคยขาดเรียนเลยนะคะ เทนต์บอกให้เรียนเก่ง ๆ หนูพิ้งค์ก็ทำตามที่บอก หนูสอบได้ที่หนึ่งของห้องตลอดเลย’ เด็กสาววัยละอ่อนยิ้มแก้มป่องอวยอย่างภูมิใจ ‘หนูจะได้ของขวัญจากเทนต์อีกไหม’‘เอาไว้คุณหนูสอบได้ที่หนึ่งอีกผมก็จะให้อีกครับ’‘สัญญาก่อน’ นิ้วก้อยน้อย ๆ ชูขึ้นมาหมายจะเกี่ยวก้อยทำสัญญากับชายหนุ่มทว่าพี่เลี้ยงสาวกลับจูงมือเธอเดินเข้าไปในโรงเรียนก่อน เด็กน้อยหันมามองตาละห้อยพลางเม้มปากแน่น แววตาฉาบด้วยม่านน้ำตาจนแพรวพราว‘หนูอยากยืนอยู่ข้างเทนต์...เหมือนที่หม่าม้ายืนอยู่เคียงข้างปะป๊า’ นั่นเป็นคำพูดของเด็กน้อยวัยสี่ขวบครึ่งที่หมายมั่นปั้นมืออยากจะยืนเคียงข้างผู้ชายคนหนึ่งที่ขึ้นชื่อว่าเป็นลูกน้องของพ่อตนเอง ทว่าเธอรู้สึกดีกับเขามาตั้งแต่ตนเองยังเล็กและปักใจรักเขาคนเดียวเสมอมา“วันนี้ไม่มีเรียน ขอกลับบ้านก่อนได้ไหม” หญิงสาวเจ้าของรอยยิ้มหวานหันมาบอกเพื่อน ๆ ที่นั่งก้มหน้าเล่นเกมอย่างจริงจังให้รับรู้ก่อนที่หนึ่งคนในโต๊ะจะโพล่งขึ้นโดยไม่เงยหน้าขึ้นสบตากับคู่สนทนา“ไหนพิ้
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-06-08
Baca selengkapnya
บทที่ 1
บทที่ 1พิ้งค์วางกล่องของขวัญไว้บนชั้นที่เคยเก็บกล่องของขวัญกล่องอื่น ๆ เธอก้าวถอยหลังหนึ่งก้าวแล้วมองกล่องพวกนั้นด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง หากแต่สมองกำลังคิดวิเคราะห์ในสิ่งที่เจอมาเมื่อครู่ กล่องเหมือนกันทุกครั้ง ไม่มีข้อความและไม่มีสีสันอะไรเลย ก็แค่กล่องที่ห่อด้วยกระดาษสีน้ำตาลที่ไม่รู้ว่าข้างในนั้นใส่อะไรไว้เพราะเธอไม่เคยคิดจะเปิดดู“ปีหน้าก็คงจะได้แบบเดิม” เธอทิ้งท้ายด้วยน้ำเสียงเชิงตัดพ้อแล้วหันหลังเดินกลับไปที่โต๊ะทำงาน นั่งกินหนังไก่ทอดจนหมดแล้วค่อยเปิดอ่านข้อความจากไลน์กลุ่มเพื่อน ๆH (โฮป) : โอเคไหมP (พิ้งค์) : โอเคดิ แล้วกลับกันยังไงW (วอร์) : กลับรถไอ้โฮปอะ เออแล้วทะเลาะกับพี่เทนต์ไหมเนี่ยวอร์พิมพ์ข้อความนั้นถามพิ้งค์ในแช็ตกลุ่มP (พิ้งค์) : เปล่าO (ไออุ่น) : งั้นพรุ่งนี้แก้มือไหม เดี๋ยวอุ่นเลี้ยงเองP (พิ้งค์) : เอาดิ อยากกินอยู่เหมือนกันแต่ก็กลัวอ้วนW (วอร์) : อย่ามาพูดเลย เมื่อตอนเที่ยงยังกินไม่บันยะบันยังอยู่เลยP (พิ้งค์) : 5555 อืม ๆ ไปอาบน้ำแล้วนะแช็ตส่วนตัว H (โฮป)พิ้งค์ : แกถามไรหน่อยดิโฮป : ไง ไมไม่พิมพ์ในแช็ตกลุ่มพิ้งค์ : มีเรื่องอยากถามนิดหน่อยอะโฮป : ว่ามา
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-06-08
Baca selengkapnya
บทที่ 2
บทที่ 217:00พิ้งค์เดินโงนเงนเข้ามาในบ้านพร้อมกับปิดปากหาวหวอด ๆ ด้วยความเหนื่อยล้า ทว่าสองเท้าต้องหยุดชะงักกับสิ่งที่อยู่เบื้องหน้า“เที่ยวไหนมาอีก แม่ได้ข่าวว่าลูกเลิกคลาสเร็วกว่าทุกวันนะ” พราวดาวกดเสียงต่ำถามลูกสาวที่ยืนนิ่งงันอยู่กับที่ ขณะเดียวกันผู้เป็นพ่อก็เดินเข้ามาโอบไหล่ลูกสาวไว้“หม่าม้าทำหน้าเครียดมากเดี๋ยวริ้วรอยขึ้นนะ” แฟรงค์เย้าหยอกภรรยาเพื่อเบี่ยงความสนใจของพราวดาวมาที่ตัวเอง“กองหนุนมาแล้วนี่ แม่ไม่ดุแล้วก็ได้” เมื่อแม่ทำท่าจะงอนเธอจึงรีบเดินไปกอดเอวแม่ไว้“โอ๋..ไม่งอนหนูนะคะ หนูแค่ไปเที่ยวเล่นกับพวกสามผู้พิทักษ์มาเอง”“โฮป วอร์ ไออุ่นน่ะเหรอ” แฟรงค์เลิกคิ้วถามลูกสาว“ใช่ค่ะ พวกเขาดูแลหนูดีมาก ๆ เลยนะคะ”“อืม ป๊าไว้ใจสามคนนั้น” แฟรงค์ลูบหัวลูกสาวด้วยความเอ็นดู นัยน์ตาดุดันฉาบด้วยความอ่อนโยนในยามที่จดจ้องใบหน้าจิ้มลิ้ม “ไปพักเถอะ เดี๋ยวป๊าเคลียร์กับหม่าม้าหนูเอง”“ค่ะ” หญิงสาวขยิบตาส่งสัญญาณให้ผู้เป็นพ่อแล้วจึงรีบเดินออกมาจากตรงนั้น จังหวะที่จะก้าวเท้าเดินขึ้นบันไดขั้นแรกหางตากลับเหลือบเห็นเทนต์ที่กำลังเดินมาทางนี้เธอจึงหันหน้าไปมองเขา “โฮปบอกว่าเทนต์มองเขาด้วยสายตาดุ
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-06-08
Baca selengkapnya
บทที่ 3
บทที่ 315:00รถยนต์หรูเคลื่อนตัวมาจอดใต้ต้นไม้ใหญ่ที่ประจำขณะที่สายตาคมจ้องมองกลุ่มนักศึกษาที่นั่งอยู่โต๊ะหินอ่อนมุมพักผ่อนข้างอาคารเรียน หนึ่งในนั้นคือกลุ่มของพิ้งค์“โน้น…พี่เทนต์มารอแล้ว” วอร์เชิดหน้าไปทางรถยนต์หรู ขณะเดียวกันไออุ่นกับโฮปชะเง้อมองตามแล้วดึงสายตากลับมาจ้องพิ้งค์“เอ๋…หรือว่าเพราะพี่เทนต์นะที่ทำให้ตัวเล็กของเราอารมณ์ดีทั้งวัน” โฮปยกยิ้มแซวเพื่อนรัก“อะไร อย่ามาหาเรื่อง” หญิงสาวรีบออกตัวแม้ที่โฮปพูดมาจะเป็นความจริงทั้งหมดก็เถอะ เธอเอี้ยวหน้าไปมองเทนต์แล้วเอ่ยบอกเพื่อน “ยังเหลือเวลาเยอะ ไปเล่นสเก็ตบอร์ดกันปะ”“ยังไม่เข็ดอีก เดี๋ยวเข่าก็แหกอีก” วอร์จิ๊ปากใส่เป็นเชิงดุ ๆ คนที่กำลังทำตาปริบ ๆ อ้อนเพื่อนให้พาไปเล่นสเก็ตบอร์ด“อยากเล่นให้เก่งอะ นะ ๆ ไปนะ”“เล่นมาอ้อนกันแบบนี้ใครมันจะไปทนไหว โฮปมึงไปเอาอุปกรณ์ที่ห้องมาแล้วกัน หอมึงอยู่ใกล้สุดแล้ว เดี๋ยวกูกับพิ้งค์กับไอ้วอร์ไปรอที่ลานสเก็ต”“โอเค งั้นขอตัวนะ แล้วเจอกัน” โฮปเดินออกไปจากกลุ่มเพื่อน พิ้งค์กับวอร์หันมองหน้ากันแล้วอมยิ้ม“มีแผนร้ายอะไร ไม่ต้องเลยนะสองคนเลย” ไออุ่นส่ายหน้าอย่างระอาใส่เพื่อนทั้งสอง“เปล่า งั้นเราไป
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-06-08
Baca selengkapnya
บทที่ 4
บทที่ 4รอยยิ้มบนใบหน้าจิ้มลิ้มไม่อาจทำให้เขาหวั่นไหวหรือคิดอะไรเกินเลยไปมากกว่านั้น เพราะในสายตาเขาพิ้งค์คือเด็กคนหนึ่งที่เจ้านายมอบหมายหน้าที่ให้ดูและ และเขาคือคนที่แฟรงค์ไว้ใจที่สุด“อยากกินเฟรนช์ฟรายด์ ป้อนด้วยพิ้งค์ไม่มีมือหยิบแล้ว” บอดี้การ์ดหนุ่มหันมองทางซ้ายและขวาก่อนที่จะหยิบเฟรนซ์ฟรายด์มาป้อนใส่ปากหญิงสาว “อร่อย..”“รีบกินเถอะครับ”“รีบกินเดี๋ยวก็ติดคอ”“ทำแบบนี้ไม่เหมาะ อย่าขอให้ผมทำแบบนี้อีก” เธอยังยิ้มหน้าบานเพราะการกระทำของเทนต์มันสวนทางกับคำพูด แม้จะดุเธอแต่มือเขาไม่ว่างเว้นในการหยิบเฟรนช์ฟรายด์ป้อนใส่ปากเลยจนกระทั่งโฮปกับวอร์เดินกลับมานั่งลงบนม้านั่งข้างพิ้งค์“เลอะหมดแล้ว มาเดี๋ยวเช็ดให้” ด้วยความที่ไม่ได้มองวิ่งที่อยู่ในมือเทนต์วอร์จึงหยิบทิชชูไปหมายจะเช็ดปากให้พิ้งค์ จังหวะที่เอี้ยวตัวมาแต่กลับต้องชะงักทุกการกระทำเพราะเขาเหลือบเห็นทิชชูในมือเทนต์และรู้สึกเสียวสันหลังวาบเหมือนกำลังถูกจ้องด้วยรังสีอำมหิต “เออเช็ดเองดีกว่า”“เอ้า!” คนตัวเล็กตั้งท่าจะเอียงหน้าให้ก็หลุดเสียงอถทานเมื่อเห็นโฮปกลับไปนั่งตัวตรงแถมยังเอาทิชชูซับเหงื่อให้ตัวเองหน้าตาเฉย แต่พอช้อนตามองคนตรงก็พอ
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-06-08
Baca selengkapnya
บทที่ 5
บทที่ 5หลายนาทีที่เทนต์ลงมือต้มบะหมี่ให้หญิงสาวและในที่สุดเขาก็ยกออกมาเสิร์ฟเธอที่โต๊ะอาหารด้านนอกห้องครัว“หนูจำได้ว่าเทนต์เคยทำไข่เจียวให้กิน”“ครับ”“ทำตั้งเยอะ ไม่กินด้วยกันเหรอคะ” พิ้งค์เงยหน้าถามคนตัวสูงที่ยืนนิ่งอยู่ข้าง ๆ ดวงตากลมโตกะพริบปริบ ๆ อย่างออดอ้อน“ไม่ครับ ไม่หิว”“งั้นนั่งเฝ้าจนกว่าจะกินหมดได้ไหม” ไม่ว่าเปล่าแต่มือน้อย ๆ ยังจับชายเสื้อเขาและออกแรงดึงเบา ๆ เป็นการอ้อนให้เขานั่งเป็นเพื่อนเธอกินบะหมี่ เทนต์จับมือเรียวดึงจากชายเสื้อแล้วเลื่อนเก้าอี้นั่งลงข้าง ๆ เมื่อเห็นว่าพิ้งค์ลงมือกินแล้วก็ลุกไปเอาน้ำดื่มมาให้ “อร่อย..”“ครับ”“อยู่กันสองคนนะ เลิกทำเย็นชาใส่หนูได้แล้ว ยิ้ม…” เธอวางตะเกียบกับช้อนลงแล้วยื่นมือไปบีบแก้วสากและทำให้เขาคลี่ยิ้มแต่เป็นยิ้มแข็ง ๆ ของคนหน้านิ่ง “ไม่แกล้งแล้วก็ได้ ยิ้มอย่างกับโดนบังคับ” เธอทอดถอนใจอย่างเหนื่อยหน่าย“รีบกินเถอะครับ ดึกมากแล้วด้วย” เสียงเข้มเอ่ยบอกคนตัวเล็กที่ทั้งทำหน้าบึ้งทั้งกินบะหมี่ พิ้งค์บึนปากใส่ชายหนุ่มก่อนจะจัดการอาหารตรงหน้าจนหมด“เดี๋ยวหนูล้างเอง”“แพ้น้ำยาล้างจานไม่ใช่หรือไง เดี๋ยวผมจัดการเอง” คนอื่นฟังประโยคนั้นอาจจ
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-06-08
Baca selengkapnya
บทที่ 6
บทที่ 6นานหลายนาทีที่ทั้งสามคนนั่งจิบชาในยามเช้าจนกระทั่งลูกสาวตัวน้อยขอตัวออกมาจากสวนหลังบ้านเพื่ออาบน้ำชำระร่างกาย ผ่านไปหลายนาทีจนพิ้งค์เดินลงมาข้างล่างอีกครั้ง เธอหยุดยืนอยู่ตรงหน้าเทนต์ทีี่ยืนกุมมืออยู่“วันนี้ต้องพาหนูไปที่ไหนอีกเหรอ” รอยยิ้มซุกซนปรากฎขึ้นบนใบหน้าจิ้มลิ้มแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางบาง ๆ ทว่าเทนต์กลับยกมือขึ้นมาแล้วค่อย ๆ แตะลงที่หน้าผากมนราวกับว่าจะบุบสลายแล้วดันตัวพิ้งค์ออกห่าง “เข้าใกล้แค่นี้เองนะ ป๊าสั่งให้หนูเลิกแยกเขี้ยวใส่เทนต์ หนูก็ทำถูกแล้วนี่”“ไม่ได้หมายความแบบนั้น”“แล้วแบบไหน หนูเป็นเด็กไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร” ประโยคนั้นเขาอยากจะหัวเราะออกไปเสียจริงแต่ทำได้แค่จ้องแววตาซุกซน เธอเป็นเด็กที่โตเกินวัยต่างหาก “มองหน้าอยากหาเรื่องหรืออยากหาแฟนคะ อื้อ! เทนต์หนูเจ็บนะ” เธอถูกเขาตีปลายจมูก มันไม่ได้แรงอะไรเลยแต่ความเล่นใหญ่ของพิ้งค์ก็ทำเอาเจ้าของการกระทำต้องหยุดชะงักแล้วรีบหันไปมองด้วยความเป็นห่วง แต่พอเห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์เขาก็รีบเดินหนีเธอเดินตามหลังเทนต์มาจนกระทั่งเท้าหยุดชะงักด้วยเพราะคนที่เดินตามดันหยุดกะทันหัน แรงกระแทกเบา ๆ ทำเอาเธอเซถอยหลังเกือบล้มแต่ถูก
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-06-08
Baca selengkapnya
บทที่ 7
บทที่ 7กรามแกร่งขบเข้าหากันแน่น การกระทำของพิ้งค์เมื่อครู่เขาไม่เคยชอบสักนิด“ผู้หญิงที่ทำตัวน่ารักให้ผู้ชายมอง แบบนั้นน่าจะดีกว่าผู้หญิงที่เป็นฝ่ายเข้าหาผู้ชายก่อนนะครับ”“จะเหน็บแนมหนูยังไงก็เชิญเถอะ เพราะหนูไม่ได้มั่วอ่อยใครไปทั่ว หนูอ่อยแค่เทนต์คนเดียวเท่านั้นแหละ” แม้เขาไม่สนใจเธอก็ไม่แคร์“อย่าทำให้ผมลำบากใจ”“เรื่อง?” สีหน้าเธอไม่ค่อยสลด บอดี้การ์ดหนุ่มแสยะปากแล้วเชยคางมนขึ้นมาสบตาตรง ๆ“เพราะบางทีผู้หญิงใจง่ายอาจเป็นได้แค่ของเล่นชั่วคราวเท่านั้น….” ประโยคนั้นทำเอานัยน์ตาเธอเบิกกว้าง ผู้ชายคนนี้ไม่ได้ง่ายอย่างที่เธอคิดไว้เลย “เพราะงั้นเลิกวุ่นวายกับผม เพราะถ้าหมดความอดทนเมื่อไหร่ผมไม่ไว้หน้าใครทั้งนั้น”“แม้แต่ป๊าก็ไม่เหรอ”“ครับ..” คนตัวเล็กกะพริบตาปริบ ๆ จ้องใบหน้าดุดันทว่าเธอไม่ได้แสดงออกถึงความหวาดกลัวที่เขาข่มขู่เลยสักนิด“ก็ได้ หนูจะไม่วุ่นวายกับเทนต์”“จำคำพูดตัวเองให้ได้ด้วยล่ะ อย่าให้ต้องเตือนความจำ” ชายหนุ่มละมือออกจากปลายคางแล้วหันหลังเดินไปนั่งที่โซฟารับแขกภายในห้องทำงาน พิ้งค์กระตุกยิ้มอย่างมีแผนร้ายกาจแล้วนั่งทำงานต่อจนถึงเวลากลับบ้านหนึ่งชั่วโมงเต็มที่ต่างคนต่า
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-06-08
Baca selengkapnya
บทที่ 8
บทที่ 8ทั้งสองนั่งดื่มไวน์ด้วยกันจนถึงเวลาที่พีร์เจต้องไปเป่าเค้ก พิ้งค์พยักหน้าให้ผู้เป็นน้องแล้วเดินตามหลังเขาไป“มาแล้ว เป่าเค้กเลยลูก” แม้จะอายุมากแล้วแต่หมอพีทหรือลุงพีทของเธอก็ยังมีใบหน้าที่อ่อนเยาว์และยังหล่อเหลาจนสาว ๆ หลายคนหลงทอดสะพานแต่พอรู้ว่าเขามีครอบครัวที่อบอุ่นและเป็นคนที่รักภรรยามากก็ต่างอกหักทิพย์กันเป็นแถว“พี่พีร์” เสียงหวานใสของเด็กสาววัยมัธยมต้นดังขึ้นทำให้ทั้งสองต้องหันไปมอง พายอาร์เดินเข้ามาหาผู้เป็นพี่และไม่ลืมที่จะยกมือไหว้พิ้งค์ “น้องพายเอาของขวัญมาให้ค่ะ”“น่ารักจัง” พิ้งค์ยืนมองความน่ารักของสองพี่น้องก่อนจะละสายตาไปมองคนที่ยืนอยู่ด้านหลัง เธอถอยออกมาหนึ่งก้าวแล้วเอียงตัวไปหาเทนต์พร้อมกระซิบบอกเขา “พรุ่งนี้เรียนบ่าย ไม่ต้องไปส่งหนูที่มหา’ลัยนะ เดี๋ยวให้โฮปมารับที่บ้านค่ะ”“เรื่องนั้นต้องไปบอกนายเองนะครับ ผมมีหน้าที่ไปรับไปส่งคุณหนูเท่านั้น และไม่อยากขัดคำสั่ง” คนตัวเล็กเงยหน้ามองเจ้าของคำพูดแสนเย็นชาเมื่อครู่อย่างไม่เข้าใจ ทั้งที่เขาไม่ได้อยากอยู่ใกล้เธอแต่พอบอกจะไปกับเพื่อนกลับยกคำสั่งพ่อมาอ้างซะงั้น“งั้นพิ้งค์ขอขับรถไปเอง เย็นพรุ่งนี้มีนัดกับเพื่อน”“…”
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-06-08
Baca selengkapnya
บทที่ 9
บทที่ 9เธอกระซิบข้างใบหูเขาเสียงพร่าก่อนที่จะขบเม้มติ่งหูเบา ๆ แล้วผละใบหน้าออกมามองสบตากับเทนต์ตรง ๆ ใบหน้าหล่อเหลาอยู่ใกล้แค่ไม่กี่เซนติเมตรแต่กลับรู้สึกห่างไกลจนเธอเองที่เป็นคนละสายตาไปมองทางอื่น“ช่วยอย่าทำเป็นไม่สนใจหนูได้ไหม” พิ้งค์โน้มตัวเข้าไปกอดเขาไว้แนบแน่นแล้วค่อย ๆ จูบที่ลำคอหนา สัมผัสอุ่นนุ่มของริมฝีปากจิ้มลิ้มทำเขาต้องขบกรามแน่น“อย่าทำแบบนี้ครับ” เทนต์เลี้ยวรถมาจอดริมฟุตพาทในขณะที่คนบนหน้าตักกำลังสอดฝ่ามือเข้ามาในเสื้อเขา ลูบไล้ไปมาเบา ๆ ที่แผงอกแกร่ง“หนูต้องการเทนต์…ให้หนูอยู่ข้างเทนต์ได้ไหม”“อย่าทำแบบนี้” เขาดันตัวเธอออกห่างแล้วจ้องหน้า นัยน์ตาสีดำขลับฉาบด้วยม่านน้ำตาบาง ๆ สั่นระริกจ้องเขากลับอย่างไม่ลดละ ความต้องการและสิ่งที่เธอปรารถนาบอกชัดในแววตาคู่นั้น“ทำไมต้องห้าม..ในเมื่อเทนต์ก็รู้ว่าหนูชอบ” น้ำเสียงที่เปล่งออกมาเจือด้วยความน้อยอกน้อยใจ ทว่าเขากลับไม่ได้สนใจจะมองใบหน้าเธอเลยเบือนหน้าหนี “เพราะงั้น…เทนต์อย่าทำเย็นชาใส่หนูได้ไหม” คราวนี้เธอขืนตัวออกจากพันธนาการเขาแล้วจับประคองใบหน้าคมคายไว้ด้วยสองมือ“จะทำอะไร” เขาถามเสียงเข้มพลางมุ่นคิ้วมองเธอ ไม่ทันได้ตั้งตั
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-06-08
Baca selengkapnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status