ตอนที่13 เพียงกระจกกั้น
“ถ้าหมดธุระก็เชิญกลับไปได้แล้ว” ขณะที่ฉลามกำลังนั่งเคาะนิ้วบนโต๊ะอย่างคนอารมณ์ดีอยู่ ๆ ก็โดนเจ้าของบ้านไล่กลับแบบไม่ทันตั้งตัว
“กลัวความลับรั่วไหลหรือไง พวกกูเป็นเพื่อนมึงนะไม่ใช่ศัตรูเผื่อมึงเข้าใจผิด” ฉลามสวนกลับทันควัน ทุกคนยังนั่งนิ่งไม่มีทีท่าจะลุกกลับออกไปสักคน
“พวกขี้เสือก แค่พวกมึงก้าวขาเข้ามาในบ้านกูก็รู้แล้วว่าตั้งใจมาเสือกโดยเอางานบังหน้า” ชาร์วีด่าสวนกลับไม่ไว้หน้าแม้แต่คนเดียว
“555 มึงยังฉลาดเหมือนเดิมนะไอ้ชาร์ ไอ้ฉลามอุตส่าห์คิดแผนตั้งนานมึงเสือกจับได้ซะงั้น ปะพวกเรากลับเถอะไม่สนุกแล้วว่ะ” อเล็กซ์หัวเราะร่าพร้อมตั้งท่าลุกขึ้น
“อย่าลืมสั่งลาเด็กมันด้วยล่ะ จะไม่อยู่อีกหลายวันเดี๋ยวเด็กมันคิดถึง” ฉลามยังไม่วายหันกลับมาบอกกับชาร์วีที่ตอนนี้กำลังจ้องแผ่นหลังของเพื่อนทั้งสามคิ้วขมวดเข้าหากัน
“นายจะรับกาแฟไหมครับ” ธาราถามขึ้นเมื่อตอนนี้ถึงเวลาอาหารว่างช่วงบ่ายของมาเฟียหนุ่ม
“กลับจากดูไบให้สถาปนิกเข้ามาดูพื้นที่ด้านหลังติดกับบ้านใหญ่ว่าสามารถปลูกบ้านหลังเล็กอีกหลังได้ไหม” ชาร์วีไม่ตอบคำถามธาราแต่กลับสั่งงานออกมาและสร้างความแปลกใจให้บอดี้การ์ดหนุ่มอยู่ไม่น้อย
“นายจะปลูกบ้านอีกหลังเหรอครับ”
“กูพูดไม่ชัดเจนเหรอเมื่อกี้” ชาร์วีถามกลับเสียงราบเรียบ
“ชัดเจนครับ แต่พื้นที่โซนด้านหลังของเราก็ว่างอีกเยอะแยะนายจะสร้างบ้านหลังเล็กตรงนั้นทำไม นายเคยบอกว่าปล่อยว่างไว้เผื่อนายจะสร้างกรงเจ้าชีต้าไม่ใช่เหรอครับ” ธาราถามขึ้นอีกครั้งด้วยความสงสัย
“กูจะสร้างบ้านตรงนั้น ให้สถาปนิกเข้ามาดูพื้นที่แล้วออกแบบบ้านด้วย กูต้องการให้เสร็จโดยเร็วที่สุด” ชาร์วีแจ้งความต้องการชัดเจนออกไปอีกครั้งจนคนที่ยังสงสัยอยู่ต้องเก็บกักความสงสัยไว้ก่อนแล้วรีบจัดการตามที่เจ้านายสั่ง
“ครับ ผมจะรีบจัดการให้เรียบร้อยครับ”
22:00 น. (GMT+7)
“พี่ธาราคะ พี่ธารา” พลอยใสวิ่งหน้าตั้งมาจากด้านหลังบ้านโดยในมือถือถุงกระดาษใบเล็กมาด้วย ธาราที่กำลังจะขึ้นรถก็ต้องหยุดชะงักและหันกลับมาตามเสียงเรียก
“มีอะไรพลอยใสถึงวิ่งมาแบบนี้ เดี๋ยวก็สะดุดล้มเอาหรอก”
“พลอยทำขนมให้ไปทานบนเครื่องด้วยค่ะ นั่งเครื่องบินตั้งหลายชั่วโมงเผื่อพี่ธาราหิว” ถุงกระดาษใบเล็กที่มีกระปุกคุกกี้กล่องเล็กอยู่ด้านในส่งให้บอดี้การ์ดหนุ่มพร้อมกับรอยยิ้มสดใส ชาร์วีที่นั่งมองเหตุการณ์อยู่ด้านในรถถึงกลับขบกรามแน่นเมื่อเห็นเด็กในการปกครองแสดงความห่วงใยกับมือขวาคนสนิทต่อหน้าต่อตาเขาคนที่ให้ข้าวให้น้ำส่งเสียเลี้ยงดู
“ขอบใจมาก งั้นพี่ไปก่อนนะเดี๋ยวนายนั่งรอในรถนานแล้ว”
“โอ๊ะ! คุณชาร์วีไม่ได้ขึ้นรถคันที่ขับออกไปก่อนเหรอคะ” ดวงตากลมโตเพ่งสายตามองผ่านกระจกเข้าไปด้านในเมื่อรู้ว่าคนที่เธออยากเจอนั่งอยู่ด้านในตรงหน้าเธอที่มีเพียงกระจกสีดำกั้น
“นายนั่งอยู่ในรถคันนี้ พี่ไปก่อน อย่าลืมที่พี่บอกไว้ว่าอย่าเถลไถลมีอะไรให้บอกลุคค์ เข้าใจไหม”
“ค่ะ เข้าใจค่ะ” ปากเล็กตอบกลับแต่สายตายังคงจ้องอยู่ที่ประตูรถตรงหน้า
“กลับเข้าบ้านได้แล้วมันดึกมาแล้ว” ธาราพูดกับเด็กสาวอีกครั้งก่อนจะเดินไปเปิดประตูขึ้นไปนั่งตรงตำแหน่งด้านข้างคนขับและรถก็เคลื่อนตัวออกไปโดยมีเด็กสาวยืนมองจนรถเคลื่อนตัวพ้นบริเวณรั้วบ้าน
“กูนึกว่าจะยืนร่ำลากันทั้งคืน” เสียงเรียบของชาร์วีเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงประชด
“คุกกี้ครับ เผื่อนายหิว” ธาราไม่ตอบกลับแต่ยื่นถุงคุกกี้ฝีมือเด็กสาวให้คนเป็นนายที่ตอนนี้กำลังนั่งคิ้วผูกเข้าหากัน จ้องมองธาราผ่านกระจกมองหลังด้วยสายตากรุ่นโกรธ
“เธอทำมาให้มึงไม่ใช่เหรอ ก็แดกเข้าไปซะสิ” ถ้อยคำประชดที่เปล่งออกจากปากหยักบ่งบอกอารมณ์ของคนพูดได้เป็นอย่างดี
“นายก็รู้ว่าเด็กมันตั้งใจทำมาให้นาย ไม่กินผมเอาให้ไอ้เนทนะครับ” ธาราแกล้งลองใจคนเป็นนายตั้งท่าจะส่งถุงคุกกี้ให้เนทที่ทำหน้าที่เป็นคนขับรถในวันนี้
“ไอ้ธารา” เสียงกดต่ำเรียกชื่อมือขวาอีกครั้ง ธาราจำต้องส่งถุงกระดาษใบนั้นให้คนเป็นนายทันที
{เดินทางปลอดภัยนะคะ} ข้อความบนกระดาษโน้ตสีชมพูที่เขียนด้วยลายมือน่ารัก ชาร์วีเมื่อเห็นข้อความถึงกับคลายสีหน้าหงุดหงิดลงทันที
“ระวังน้ำตาลขึ้นนะครับ” ธารายังไม่วายเอ่ยแซวคนเป็นนาย จนเนทที่ทำหน้าที่ขับรถในวันนี้ถึงกับเกร็งที่ต้องมานั่งอยู่ท่ามกลางสงครามประสาทของเจ้านายกับมือขวา และกลัวโดนหางเลขไปด้วยเมื่อเจ้านายโมโห
“ไม่ต้องเสือกห่วงกูให้มากนัก กูไม่ใช่ลูกมึง” ชาร์วีสวนกลับทันควันพร้อมส่งสายตาฟาดฟันผ่านกระจกมองหลัง ก่อนจะหันกลับมาสนใจข้อความบนกระดาษโน้ตที่อ่านวนซ้ำครั้งแล้วครั้งเล่า
“พี่ลุคค์สวัสดีค่ะ” พลอยใสที่กลับจากโรงเรียนเห็นลุคค์กำลังลงจากรถพอดีจึงเดินเข้าไปทักทายสวัสดี
“สวัสดีครับคนสวย วันนี้เรียนเป็นไงบ้างเหนื่อยไหม” ลุคค์หันไปกล่าวทักทายเด็กสาวด้วยรอยยิ้มอบอุ่น นอกจากธาราก็มีลุคค์อีกคนที่ค่อนข้างสนิทกับพลอยใสเพราะบอดี้การ์ดหนุ่มทั้งสองคนค่อนข้างเอ็นดูพลอยใสอยู่ไม่น้อย
“นิดหน่อยค่ะ ช่วงนี้ก็กำลังสอบFinalและเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัย แล้วพี่ลุคค์ล่ะคะช่วงนี้พลอยไม่ค่อยเจอพี่ลุคค์เลย”
“ช่วงนี้พี่ยุ่งงานที่ผับ แต่ช่วงที่นายกับพี่ธาราไม่อยู่พี่ก็จะอยู่ที่บ้านใหญ่ตลอด เราจะได้เจอหน้ากันทุกวันรับรองพลอยต้องเบื่อหน้าพี่แน่ ๆ”
“พลอยไม่มีทางเบื่อหน้าหล่อ ๆ ของพี่ลุคค์แน่นอนค่ะ” เด็กสาวตอบกลับเสียงใส
“ได้โปรดอย่าชมหน้าหล่อ ๆ ของพี่ให้นายได้ยินเด็ดขาด พี่ยังไม่อยากเป็นคนหล่อตกงานตอนนี้ รถคันนี้ก็ยังผ่อนไม่หมด เงินในบัญชีก็ยังไม่พอซื้อเครื่องบินเจ็ต บ้านก็ยังไม่ลงเสา สาวก็ยังไม่ได้กอด พี่ยังอยากมีงานทำต่อไปอยู่ครับ” ลุคค์แกล้งพูดติดตลกจนเด็กสาวหัวเราะออกมากับความตลกขี้เล่นของลุคค์
ครืด ~ ครืด ~ ครืด
เสียงโทรศัพท์สั่นในกระเป๋ากางเกงของบอดี้การ์ดหนุ่มดังแทรกขึ้น
“ครับนาย” ลุคค์รีบรับสายทันทีเมื่อเบอร์ที่โทรเข้ามานั้นคือมาเฟียหนุ่มที่อยู่คนละทวีปห่างกันกว่า 4885 กิโลเมตร
“มึงว่างมากเหรอ งานที่กูสั่งไปถึงไหนแล้ว” เสียงเข้มถามกลับมาตามสาย
“ผมกำลังจะส่งข้อมูลให้นายดูครับ”
“แล้วเมื่อไหร่จะส่งมา กูเห็นมึงยืนคุยกับเด็กนั่นเป็นชั่วโมงแล้ว” ชาร์วีกระแทกเสียงดังมาตามสายอย่างหงุดหงิด ด้วยความที่เจออากาศร้อนของเมืองทะเลทรายส่งผลให้อารมณ์เริ่มร้อนตาม
“นายอย่าหวงของจนหน้ามืดสิครับผมแค่ทักทายกับพลอยใสยังไม่ถึงสิบนาทีเลย แค่นี้นะครับผมจะรีบส่งงานไปให้” ลุคค์พูดจบก็กดตัดสายคนเป็นนายทันที โดยไม่กลัวว่าเจ้านายจะโมโหจนไล่เขาออกหรือไม่เพราะลุคค์กับธาราเรื่องฝีปากกล้าก็อยู่ระดับใกล้ ๆ กัน
“แม่งเอ้ย! ลูกน้องแต่ละคน ให้มันได้อย่างนี้สิวะ” ชาร์วีสบถด่าขึ้นเสียงดังเมื่อถูกมือซ้ายคนสนิทกดตัดสายพร้อมกับข้อความแดกดัน จนมังกรที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เอ่ยถามขึ้น
“หงุดหงิดเรื่องอะไรวะ” มังกรไม่เข้าใจอาการหงุดหงิดของเพื่อนทั้งที่เมื่อครึ่งชั่วโมงก่อนหน้านี้การเจรจาธุรกิจก็ผ่านไปได้ด้วยดี
“เกิดอะไรขึ้นครับนาย” ธาราที่นั่งอยู่ด้านหน้าข้างคนขับหันมาถามคนเป็นนายทันที
“~” ชาร์วีไม่ตอบคำถามเอาแต่จ้องหน้าจอโทรศัพท์อยู่อย่างนั้น
รถยนต์ Toyota Sequoia V8 5.7 ลิตรกำลังโลดแล่นอยู่บนทะเลทรายกว้างสุดลูกหูลูกตา มุ่งหน้าสู่ใจกลางเมืองดูไบด้วยความเร็วเต็มสปีด บรรยากาศภายในรถที่เงียบสงัดมีเพียงเสียงเครื่องยนต์ที่ดังเข้ามาให้ได้ยิน บรรยากาศที่สว่างจ้าและร้อนระอุจากแสงแดดของดวงอาทิตย์ ท้องฟ้ากำลังเปลี่ยนจากสีแดงเป็นสีครามมืดครึ้มเมื่อพระอาทิตย์กำลังจะตกดินและความหนาวเย็นเข้ามาแทน รถยังทำความเร็วสม่ำเสมอโดยมีรถของบอดี้การ์ดอีกสองคันวิ่งประกบหน้าหลังเพื่อรักษาความปลอดภัย
"นายจะออกไปดื่มข้างนอกไหมครับคืนนี้” ธาราถามขึ้นเมื่อทุกคนกลับมาถึงโรงแรมที่พักกลางเมืองดูไบ ที่อู้ฟู่ไปด้วยความหรูหราบ่งบอกฐานะของผู้คนที่อาศัยอยู่เมืองนี้
“ไม่ กูต้องการพักผ่อน พรุ่งนี้เช้าเตรียมเครื่องบินให้พร้อมเราจะบินกลับไทยพรุ่งนี้” สิ้นคำสั่งชาร์วีก็เดินเข้าห้องส่วนตัวทันทีด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์สักเท่าไหร่
“เนท แจ้งนักบินด้วยพรุ่งนี้เราจะเดินทางกลับไทย” ธารายกโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายหาเนทเพื่อแจ้งนักบินเตรียมวางแผนการบินสำหรับวันพรุ่งนี้ และหันไปสั่งงานบอดี้การ์ดที่ทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยอยู่บริเวณโดยรอบทั้งชั้นที่เขาจัดการเช่าเหมาทั้งชั้นเพื่อความเป็นส่วนตัวและง่ายต่อการรักษาความปลอดภัย
“ไอ้ชาร์ล่ะ ไม่ลงมาดื่มด้วยเหรอ” มังกรที่นั่งดื่มอยู่ที่คลับส่วนตัวของแรมโดยมีสาวเอเชียสองสามคนนั่งห้อมล้อมคอยดูแลปรนนิบัติอยู่ข้างกาย เอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นธาราเดินเข้ามาคนเดียวไร้เงามาเฟียหนุ่ม
“นายบอกว่าต้องการพักผ่อนครับ” ธาราตอบกลับสั้น ๆ ก่อนจะนั่งลงดื่มเงียบ ๆ โดยมีเนทเป็นคนทำหน้าที่ชงเหล้าให้
“เด็กคนนั้นดูไร้เดียงสาเกินกว่าที่จะยืนเคียงข้างไอ้ชาร์นะ” อยู่ ๆ มังกรก็พูดขึ้น สายตาคมตวัดขึ้นมองหน้าและกระดกเหล้าในแก้วรวดเดียวหมด
“เธอแข็งแกร่งกว่าที่คุณคิด และอีกอย่างเด็กคนนั้นก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับนายนอกจากเป็นเด็กในอุปการะแค่นั้นครับ”
“มึงโตมากับไอ้ชาร์ตั้งแต่เด็ก มึงอย่าบอกกูว่ามึงดูไม่ออกว่าไอ้ชาร์มันสนใจเด็กคนนั้นพิเศษกว่าคนอื่น” มังกรจ้องหน้าธาราและพูดขึ้นน้ำเสียงหนักแน่น
“เป็นเรื่องส่วนตัวของนายครับ” ธาราเลือกตัดบททันที
“กูไม่ได้สนใจเรื่องชาติกำเนิดของเด็กคนนั้น ถ้าเด็กคนนั้นสามารถยืนเคียงข้างไอ้ชาร์ได้ทุกคนก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร จะยินดีด้วยซ้ำที่คนเย็นชาอย่างไอ้ชาร์จะรักคนอื่นเป็น”
“เรื่องของกูไม่ต้องให้คนอื่นมาคิดแทน และอีกอย่างกูก็ไม่ได้คิดอะไรกับเด็กคนนั้น กูมีหน้าที่แค่ส่งเสียพวกเธอให้เรียนจบและมีอนาคตที่ดีตามความต้องการของพ่อกูเท่านั้น” ชายหนุ่มร่างสูงในชุดเสื้อเชิ้ตสีดำกางเกงสแลกสีดำสวมรองเท้าหนังมันวับเดินมาหย่อนสะโพกนั่งลงโซฟาตรงตำแหน่งที่ว่างฝั่งตรงข้ามธารา
“งั้นกูขอเด็กคนนั้นมาดูแลต่อได้ไหม รู้สึกถูกชะตากับเด็กมันมาก”
“อย่ายุ่งกับคนของกู” เสียงเหี้ยมบอกเสียงลอดไรฟันออกไป สายตาคมดุบ่งบอกว่าหมายความตามที่พูด
ตอนที่ 40 เปลี่ยนบรรยากาศ+ครอบครัว (จบ)“คุณจะให้หนูทำตรงนี้เลยเหรอคะ” พลอยใสถามกลับไม่เต็มเสียงนักเพราะตอนนี้ทั้งสองนั่งอยู่บนรถ และชาร์วีเองก็ทำหน้าที่เป็นคนขับซึ่งตอนนี้รถกำลังแล่นด้วยความเร็ว“ฉันทนต่อไปไม่ไหวแล้ว เธอจะปล่อยให้ผัวเธอลงแดงตายตรงหน้าเลยหรือไง อยากเป็นหม้ายอย่างนั้นเหรอ”“มันจะไม่อันตรายแน่นะคะ คุณอดทนอีกหน่อยได้ไหมคะ” พลอยใสพยายามต่อรองกับชาร์วีถึงแม้จะสงสารชายหนุ่มมากก็ตาม“ถ้าอดทนได้ฉันจะขอร้องเธอแบบนี้เหรอ หรือต้องให้ฉันจอดรถข้างทางแล้วลากเธอไปกระแทกเบาะด้านหลังรถ” ชาร์วีพูดขึ้นเมื่อความอดทนของเขานั้นแทบจะเหลือไม่ถึงหนึ่งเปอร์เซ็นต์“คุณตั้งใจขับรถดี ๆ นะคะ”“อมมันสักทีพลอยใส ผัวเธอจะใจขาดตายอยู่แล้ว”มือเล็กเอื้อมไปปลดเข็มขัดและกระดุมกางเกงพร้อมกับรูดซิปลง แท่งเนื้อสีแดงก่ำถูกควักออกมาพ้นจากบ็อกเซอร์ราคาแพงมาสัมผัสกับอุณหภูมิที่หนาวเย็นภายในรถ“อ่าส์ ปากเธอทำให้ฉันคลั่งได้เลยนะ” เสียงร้องครางออกมาเมื่อปลายลิ้นสัมผัสกับส่วนหัวที่บานราวดอกเห็ด“คุณต้องการมากขนาดนั้นเลยเหรอคะ เราแค่จูบกันเองนะ” เสียงหวานเอ่ยถามสลับกับดูดเลียแท่งเนื้อที่ผลิตน้ำหล่อลื่นสีใสออกมาไม่ขา
ตอนที่ 39 คลั่ง“ชาร์ถ้ามึงจะขับช้าขนาดนี้มึงไม่ต้องซื้อมาให้เปลืองเงินหรอกนะรถคันละสามสิบสี่สิบล้าน” ธาราพูดขึ้นน้ำเสียงหงุดหงิดเมื่อวันนี้มาเฟียหนุ่มมาทำหน้าที่คนขับรถด้วยตัวเอง“มึงจะรีบไปไหน ขับรถเร็วมันอันตราย” เป็นคำตอบที่ฟังดูไม่จริงใจเอาซะเลย เพราะความเร็วที่ชาร์วีใช้ประจำเวลาที่จับพวงมาลัยเองต้องไม่ต่ำกว่าหนึ่งร้อยยี่สิบ“ฟังดูตอแหลนะ ถ้ามึงไม่รีบก็จอดรถแล้วเดินไปกูจะขับไปกับพลอยใสแค่สองคน อีกสิบนาทีไอ้ลุคค์ก็จะขึ้นร้องเพลงแล้วเดี๋ยวพาพลอยใสไปไม่ทัน” ธาราที่หมดความอดทนกับการถ่วงเวลาโง่ ๆ ของเจ้านายด่าออกไปโดยไม่เกรงใจว่าชาร์วีนั้นคือเจ้าของรถ“รถคันนี้ของกู ถ้ามึงรีบก็ลงไปเรียกแท็กซี่”“ถ้างั้นก็จอดรถกูกับพลอยใสจะลงไปเรียกแท็กซี่เอง”“ถ้าหนูไปไม่ทันพี่ลุคค์ร้องเพลงรางวัลที่เราตกลงกันไว้เป็นโมฆะค่ะ”บรึ๊น! บรึ๊น! บรึ๊น!สิ้นเสียงพลอยใสรถยนต์คันหรูก็เร่งความเร็วขึ้นไปแตะที่ระดับปกติที่ควรจะเป็นหรืออาจจะเร็วไปด้วยซ้ำ ฝีมือการขับรถของชาร์วีที่ชำนาญเรื่องการทำความเร็วก็สามารถพาพลอยใสมาทันเวลาที่ลุคค์ขึ้นร้องเพลงพอดี“ไอ้ธาราทำไมมึงพาเมียกูเดินเบียดผู้คนเข้ามาแบบนี้ ประตูด้านหลังมี
ตอนที่ 38 อำนาจเปลี่ยนมือของขวัญวันแต่งงานที่ชาร์วีมอบให้ภรรยาตัวน้อยของเขาทั้งคืนจนเกือบสว่าง ส่งผลให้หญิงสาวนอนหมดแรงและตื่นขึ้นมาอีกทีในช่วงบ่ายของวันใหม่“คุณอื้อ..คุณวี” ดวงตากลมโตกะพริบไล่แสงเพื่อปรับโฟกัสสายตา มาเฟียหนุ่มนั่งพิงหัวเตียงพร้อมกับถือไอแพดอยู่ในมือ“ตื่นแล้วเหรอ..หิวน้ำไหม” ชาร์วีวางไอแพดในมือลงรีบพยุงหญิงสาวให้ลุกขึ้นนั่ง“กี่โมงแล้วคะ” หลังจากดื่มน้ำไปอึกใหญ่ก็เอ่ยถามขึ้นเพราะมองจากแสงที่ลอดผ่านม่านสีขาวเข้ามาบ่งบอกว่าเป็นช่วงสายหรือไม่ก็ช่วงบ่ายของวัน“บ่ายสองแล้ว หิวข้าวหรือเปล่า”“บ่ายแล้วเหรอคะ ทำไมคุณไม่ปลุกหนูล่ะคะ”“ปลุกทำไม เมื่อคืนเธอใช้พลังงานไปตั้งเยอะนอนหลับพักผ่อนเอาแรงน่ะดีแล้ว คืนนี้จะได้มีแรงทำต่อ” ชาร์วีพูดขึ้นสีหน้าเรียบนิ่ง“พอเลยค่ะ หนูไม่ไหวแล้วคุณกินจุเกินไป”“ไม่ไหวเหรอ ก็เห็นเรียกร้องเอาอีกหนูต้องการคุณอยู่ไม่ใช่เหรอ”“หยุดพูดเลยนะคะ” ใบหน้าเรียวเล็กซุกเข้าที่อกแกร่งด้วยความอายเมื่อถูกพูดถึงกิจกรรมรักที่เร่าร้อนเมื่อคืนที่ผ่านมา“ไปอาบน้ำไปจะได้ลงไปทานข้าว ธารามันขึ้นมาตามหลายรอบแล้ว” น้ำเสียงอ่อนนุ่มที่ชาร์วีใช้พูดกับหญิงสาวเป็นน้ำเสียงท
ตอนที่ 37 คืนเข้าหอคืนเข้าหอ“เหนื่อยไหมหืม..” เสียงทุ้มอบอุ่นเอ่ยถามขณะที่กำลังช่วยภรรยาตัวน้อยถอดชุดเจ้าสาวหลังจากเสร็จจากงานเลี้ยงฉลองค่ำคืนนี้“นิดหน่อยค่ะ แต่มีความสุขมากกว่า” เสียงหวานตอบกลับไปตามที่รู้สึกรอยยิ้มแห่งความสุขฉายเด่นชัดอยู่บนใบหน้าหญิงสาวตั้งแต่งานเริ่มจนถึงป่านนี้ ความสุขที่เธอไม่เคยได้รับ วันนี้ชาร์วีเป็นคนเข้ามาเติมเต็มส่วนที่เธอขาดทั้งหมด“ขอบคุณนะคะ ที่เข้ามาเป็นความสุขของหนู” ร่างบางหันหน้ากลับมาสบตากับสามีหมาด ๆ ของเธอ“เธอก็เข้ามาเป็นความสุขของฉันเหมือนกัน ฉันมีของขวัญแต่งงานให้เธอด้วยนะ” แขนแกร่งรั้งเอวคอดเข้าหาตัวและโอบกอดไว้หลวม ๆ ใบหน้าคมก้มลงกระซิบข้างใบหู“ของขวัญอะไรคะ” ดวงตากลมโต แพขนตางอนเหลือบขึ้นมองสบตาก่อนจะเอ่ยถามออกไปสีหน้าตื่นเต้น“ไปอาบน้ำให้เสร็จก่อน แล้วค่อยมาแกะของขวัญของฉัน” น้ำเสียงเจ้าเล่ห์ตอบกลับไป พร้อมกับอุ้มร่างบางในท่าเจ้าสาวเดินเข้าห้องน้ำไป“คุณจะอาบน้ำพร้อมหนูเลยเหรอคะ”“อาบพร้อมกันนี่แหละจะได้ไม่เสียเวลา ฉันอยากให้เธอแกะของขวัญจะแย่หรือจะแกะในห้องน้ำเลยก็ได้นะ”“หนูก็อยากเห็นของขวัญที่คุณจะให้หนูแล้วค่ะ” แววตาใสซื่อไม่ทันคนข
ตอนที่36 สู่ขอชาร์วีในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวดูแปลกตาจูงมือเดินมากับพลอยใสและมีธารามือขวาคนสนิทเดินตามหลังมาห้องรับแขกที่มีป้าณีและแขกคนสำคัญของบ้านฮาร์เปอร์คือ แม่แก้ว คนที่ดูแลพลอยใสเมื่อตอนที่เธออาศัยอยู่ที่บ้านเด็กกำพร้า“แม่แก้วสวัสดีค่ะ แม่แก้วสบายดีนะคะ” หญิงสาวนั่งลงกับพื้นตรงหน้าผู้มีพระคุณที่เลี้ยงดูเธอมา“แม่สบายดีจ้ะ” หญิงสูงวัยที่แก่ขึ้นตามกาลเวลาตอบกลับเสียงเบา มือเหี่ยวย่นยกขึ้นลูบศีรษะทุยด้วยความรัก“ลุกขึ้นเถอะลูก”“มานั่งลงตรงนี้” เสียงทุ้มเอ่ยเรียกเมื่อหญิงสาวทำตัวไม่ถูกว่าเธอต้องนั่งลงตรงไหน จะนั่งด้านบนตรงโซฟา หรือลุกไปยืนข้าง ๆ ธาราที่ด้านหลังร่างอรชรลุกขึ้นนั่งข้าง ๆ ชายหนุ่มในที่ที่เธอไม่คุ้นเคยมาก่อน เป็นครั้งแรกที่เธอมีโอกาสนั่งข้างชายหนุ่มเจ้าของบ้านต่อหน้าลูกน้องและคนในบ้านอย่างวันนี้“ดิฉันในฐานะผู้ใหญ่ของบ้านนี้ขอเข้าเรื่องที่เชิญคุณแก้วมาวันนี้เลยนะคะ” ป้าณีผู้ใหญ่ที่เลี้ยงดูชาร์วีมาตั้งแต่เด็กพูดขึ้น“อย่างที่เคยแจ้งให้คุณแก้วทราบก่อนหน้านั้นว่าตอนนี้คุณวีและพลอยใสอยู่ในฐานะสามีและภรรยา ทางเราจึงอยากสู่ขอกับผู้ใหญ่ให้ถูกต้องตามประเพณีไทย คุณแก้วในฐานะที่เ
ตอนที่35 เสือสาวเวลาผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงบทรักในห้องน้ำจบลง และกำลังเริ่มขึ้นอีกครั้งบนเตียง“เอาสิ เธออยากจัดการฉันยังไงก็ทำตามอย่างที่ต้องการได้เลย” ชายหนุ่มนอนแผ่หลาความเป็นชายตั้งโด่ล่อตาล่อใจเสือสาว“ถ้าหนูทำอะไรผิด คุณจะไม่ลงโทษหนูแบบแก้มใสใช่ไหมคะ” พลอยใสถามขึ้นขณะที่กำลังคลานขึ้นไปบนตัวชายหนุ่ม“เอาอะไรคิด ฉันจะเอาเมียตัวเองไปให้คนอื่นทำไม โดนกระแทกจนเสียสติแล้วหรือไง” ชาร์วีว่ากลับพร้อมยกคนตัวเล็กลอยขึ้นนั่งบนตัก“ก็แก้มใสทำผิดคุณยังลงโทษเธอแบบนั้นเลย”“ผู้หญิงคนนั้นบ้าเซ็กขนาดไหนเธอไม่รู้เหรอพลอยใส เพื่อนเธอมันชอบไปปาร์ตี้เซ็กหมู่หลายครั้งแล้ว แล้วที่เธอเห็นในห้องใต้ดินนั้นผู้หญิงคนนั้นก็เป็นคนเริ่มเองฉันไม่ได้บังคับ” ชาร์วีเล่าความจริงที่เขารับทราบมาตลอดว่าเด็กในการปกครองชอบไปปาร์ตี้มั่วเซ็กอยู่บ่อยครั้ง แต่เขาก็ไม่อยากเข้าไปยุ่งเพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัว“แก้มใสนะเหรอคะ ชอบไปปาร์ตี้เซ็กหมู่” พลอยใสถามกลับอย่างไม่อยากเชื่อที่ชายหนุ่มพูด“ใช่ ถ้าฉันจะบอกว่าผู้หญิงคนนั้นนอนกับผู้ชายมานับร้อยคนเธอจะเชื่อหรือเปล่า”“ไม่ค่ะ หนูไม่เชื่อเด็ดขาด” พลอยใสส่ายหัวไม่เชื่อสิ่งที่ชาร์ว