ตอนที่12 ออกอาการ
ชาร์วีที่วันนี้เคลียร์งานอยู่ที่บ้านทั้งวันกำลังยืนมองผ่านหน้าต่างจากชั้นบนของบ้าน ไปทางประตูหน้าบ้านเมื่อตอนนี้เลยเวลาที่เด็กในการปกครองต้องกลับถึงบ้านแล้ว
“ขอบคุณนะที่อุตส่าห์แวะมาส่งเรา ไว้เจอกันพรุ่งนี้จ้า” เด็กสาวในชุดนักเรียนสะพายกระเป๋าเดินลงจากรถตู้คันหรูที่ด้านในรถมีชายหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกันนั่งอยู่ด้านในรถคันดังกล่าวด้วย ทั้งสองโบกมือลากันก่อนที่ประตูรถจะปิดลงและขับเคลื่อนตัวออกไป
พลอยใสเดินเข้าบ้านด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ระหว่างทางเดินก็กล่าวทักทายเหล่าบอดี้การ์ดด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะเดินตรงดิ่งไปที่บ้านหลังเล็กเพื่อเก็บกระเป๋าและเปลี่ยนเสื้อผ้า
“ธารา ไอ้ธารา” ชาร์วีตะโกนเสียงดังลงมาจากชั้นสองของบ้านธาราที่กำลังสั่งงานบอดี้การ์ดอยู่ด้านล่างต้องรีบหันไปถามคนเป็นนายทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น
“นายมีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับเสียงดังไปถึงข้างล่าง”
“ทำไมวันนี้พลอยใสถึงไม่นั่งรถตู้ของที่บ้าน” น้ำเสียงโมโหถามออกไปทันทีที่ธาราพูดจบ ธาราถอนหายใจเพราะไม่คิดว่าเรื่องที่ทำให้ชาร์วีหัวเสียจนเสียงดังลั่นบ้านจะเป็นเรื่องของเด็กในปกครอง
“รถของที่บ้านกลับมาถึงตั้งแต่ช่วงเย็นแล้วครับ และอีกอย่างพลอยใสก็แจ้งผมแล้วว่าวันนี้เธอจะกลับบ้านเองไม่ต้องให้คนขับรถของที่บ้านไปรับ เพราะไม่รู้ว่าจะทำงานเสร็จกี่โมงครับ” ธาราบอกคนเป็นนายออกไปตามที่เด็กสาวได้แจ้งเขาไว้ตั้งแต่เมื่อวานตอนเย็น
“กลับบ้านเองโดยให้ผู้ชายมาส่งอย่างนั้นสินะ”
“น่าจะเป็นเพื่อน ๆ ของเธอแหละครับ เห็นในรถก็มีกันตั้งหลายคน” ธาราเองก็เห็นว่าเด็กสาวนั้นลงจากรถตู้คันหรูโดยด้านในรถนั้นยังมีเด็กอีกหลายคนทั้งผู้ชายและผู้หญิง คาดว่าน่าจะเป็นเพื่อนที่ทำงานกลุ่มด้วยกันเพราะใส่ชุดยูนิฟอร์มโรงเรียนเดียวกันกับเด็กสาว
“เพื่อนอย่างนั้นเหรอ นั่งรถมากับเพื่อนผู้ชายเนี่ยนะ” ชาร์วียังไม่ยอมฟังเหตุผลทั้งที่ปกติชายหนุ่มนั้นเป็นคนที่มีเหตุผลมากกว่าใคร
“เพื่อนก็ไม่ได้จำกัดนี่ครับว่าจะต้องมีแต่ผู้หญิง นายส่งเธอเรียนโรงเรียนนานาชาตินะครับไม่ใช่โรงเรียนหญิงล้วน"
“ไอ้ธารา!! มึงอย่ามากวนตีนกู มึงแหกตาดูไหมว่าวันนี้เด็กนั่นกลับบ้านกลับใคร” ชาร์วีเกรี้ยวกราดมากขึ้นเมื่อได้ยินคำตอบของธารา
“นายกำลังตีกรอบให้เด็กมันมากไปนะครับ เด็กควรจะได้มีช่วงเวลาชีวิตกับเพื่อนบ้างตามวัยของเขา” ธาราพยายามบอกเหตุผลอย่างใจเย็นเพราะรู้ดีว่าตอนนี้ยิ่งเถียงกันก็ยิ่งไม่จบ
“แล้วเวลาทั้งวันที่อยู่ในโรงเรียนกูห้ามคุยกับเพื่อนหรือไง ให้ท้ายกันเข้าไปสักวันจะเสียคน” ร่างสูงเดินมาตะโกนใส่หน้าธาราก่อนจะเดินออกไปอย่างหัวเสีย
“ลุคค์!! ลุคค์!! ไอ้ลุคค์!!” เสียงเรียกผู้ช่วยมือซ้ายดังลั่นในขณะที่คนเรียกกำลังเดินลงบันไดมาจากชั้นบนของบ้าน
“ครับนาย” ลุคค์ที่กำลังเตรียมตัวออกไปดูแลความเรียบร้อยที่ผับรีบวิ่งมาตามเสียงเรียกทันทีอย่างตกใจ
“เตรียมรถกูจะไปผับ”
“แล้วพี่ธาราล่ะครับ” ลุคค์ถามอย่างแปลกใจเพราะปกติธารากับชาร์วีจะตัวติดกันตลอดทั้งตอนทำงานและตอนเที่ยว
“ไอ้ธารามันเป็นคนจ่ายเงินเดือนมึงหรือไง” ธาราที่เดินตามเข้ามาได้ยินถึงกับส่ายหัวกับอารมณ์พาลของเจ้านายและหันไปพยักหน้าให้ลุคค์รีบไปทำตามคำสั่งเพราะเกรงว่าหากช้ากว่านี้จะพาลลูกน้องคนอื่นให้เดือดร้อนไปทั่ว
“ครับ ไปเดี๋ยวนี้ครับ นายจะให้เตรียมห้องรับรองด้วยไหมครับหรือจะไปตรวจงานเท่านั้น” ถ้าเป็นปกติคำถามนี้จะไม่หลุดออกจากปากมือซ้ายคนสนิทอย่างแน่นอน แต่เพราะวันนี้อารมณ์ของเจ้านายไม่ปกติจึงถามความต้องการให้ชัดเจนเพราะกลัวจะโดนอาละวาดซ้ำอีก
“มึงคิดว่าอารมณ์กูตอนนี้เอื้อที่จะมานั่งดูเอกสารหรือไง แม่งเลี้ยงเสียข้าวสุกทั้งมึงทั้งไอ้ธารา” พูดจบก็เดินนำหน้าไปที่รถที่เตรียมรอสำหรับมาเฟียหนุ่มตลอดเวลา ในขณะที่ธาราก็รีบเดินตามออกไปอย่างรู้หน้าที่แต่เลือกที่จะขึ้นรถอีกคัน ปล่อยให้ชาร์วีขึ้นไปกับลุคค์แค่สองคนเพื่อเลี่ยงการปะทะอีกรอบ
ผับ
“นายมึงเป็นห่าอะไรเรียกพวกกูออกมาเสือกไม่พูดไม่จา” มังกรหันไปถามธาราเพราะตั้งแต่โดนโทรเรียกให้มาที่นี่ด่วนก็ยังไม่ได้ยินเสียงเจ้าของผับพูดจาสักคำ มีเพียงเสียงแก้วกระทบกับโต๊ะให้เกิดเสียงดังเพียงเท่านั้น
“เด็กที่บ้านดื้อนิดหน่อยครับ นายเลยอารมณ์เสีย”
“ฮะ! ที่โมโหเกือบฆ่าคนได้เป็นเพราะเด็กที่บ้านดื้ออย่างนั้นเหรอ เด็กคนไหนวะกูอยากเห็นหน้าคนที่ทำให้ไอ้ชาร์หัวเสียได้ขนาดนี้”
“ก็เด็ก….” ยังไม่ทันที่ธาราจะพูดจบชาร์วีจึงโพล่งแทรกขึ้นเสียงดัง
“เรื่องในบ้านกู คนนอกไม่ต้องเสือก”
“แล้วมึงจะโทรเรียกคนนอกอย่างกูมาทำห่าอะไร มานั่งดูมึงแดกเหล้าหรือไงครับคุณชาร์วี” มังกรตอบกลับน้ำเสียงปกติเพราะชินกับคำพูดร้ายกาจของชาร์วีแต่ไหนแต่ไรแล้ว ด้วยความที่คบกันมาตั้งแต่เด็กจนรู้นิสัยใจคอกันเป็นอย่างดี
“นายครับ!!” ลุคค์เปิดประตูพรวดพราดเข้ามาใบหน้าบ่งบอกถึงความไม่ปกติ
“มีอะไร” ธารายืนขึ้นทันที สัญชาตญาณบอกเขาว่าต้องมีอะไรผิดปกติ ขณะที่ชาร์วีเพียงแค่เงยหน้าขึ้นมองสีหน้าเรียบนิ่งไม่แสดงท่าทีตื่นตระหนกตกใจอะไร
“ข้างล่างมีการยิงกันตรงหน้าผับครับ คนยิงเป็นลูกชายรัฐมนตรีไม่พอใจที่การ์ดเราไม่ให้เข้ามาด้านในเพราะตรวจเจออาวุธ จึงชักปืนยิงการ์ดเราบาดเจ็บหนึ่งคน ตอนนี้คนของเรากำลังนำส่งโรงพยาบาลครับ ส่วนคนก่อเหตุผมให้คนของเราคุมตัวไว้ที่ห้องชั้นใต้ดินครับ” ลุคค์รายงานเสียงหอบเพราะหลังจากเคลียร์เรื่องคนเจ็บและคนก่อเหตุเสร็จก็รีบขึ้นมารายงานคนเป็นนายทันที
“ธารามึงจัดการต่อด้วยเอาที่มึงเห็นสมควร สั่งสอนเสร็จโทรบอกพ่อมันมารับด้วยจะได้รู้ว่าลูกที่มันเลี้ยงมาด้วยเงินมหาศาลโตมาแล้วเป็นขยะสังคมมากแค่ไหน” น้ำเสียงเยือกเย็นเอ่ยบอกออกไปพร้อมหยิบแก้วเหล้าขึ้นกระดกจนหมดแก้วแล้วลุกเดินออกจากห้องไปท่ามกลางสีหน้างุนงงของมังกร
“แล้วมันก็ทิ้งกูกลับบ้านหน้าตาเฉย โทรเรียกกูมาเพื่ออะไรไอ้ห่า แม่งอารมณ์เสียแล้วเป็นแบบนี้ทุกที” เสียงตะโกนด่าตามหลัง ชาร์วีเดินตรงดิ่งออกประตูด้านหลังผับและขึ้นรถกลับบ้านทันที
เช้าวันถัดมา
“นายครับเดินทางวันนี้ห้าทุ่มนะครับ คุณมังกรโทรมาแจ้งว่าจะเดินทางไปพร้อมกับเราครับ” ธาราแจ้งรายละเอียดให้มาเฟียหนุ่มทราบก่อนจะยื่นไอแพดมาตรงหน้าชายหนุ่ม
“ข้อเสนอที่ทางนั้นขอเพิ่มเติมมาครับ ผมดูรายละเอียดคร่าว ๆ แล้วไม่ต่างจากที่เราเสนอไปครั้งแรกมากเท่าไหร่”
“โอเค ทำธุรกิจแฟร์ ๆ แบบนี้ก็ดี ส่งข้อมูลนี้ให้ไอ้มังกรหรือยัง”
“คุณมังกรดูเรียบร้อยแล้วครับและเห็นด้วยเหมือนกับนายครับ”
“อือ..เตรียมเอกสารให้เรียบร้อย แล้วความเรียบร้อยภายในบ้านมึงจัดการหมดหรือยัง” ชาร์วีถามขึ้นเมื่อเขาและมือขวาจะไม่อยู่บ้านอีกหลายวัน จะเหลือเพียงลุคค์มือซ้ายคนสนิทดูแลความเรียบร้อยที่นี่แทน
“เรียบร้อยแล้วครับ ลุคค์จะเข้ามาคืนนี้ก่อนที่เราจะออกไปนายไม่ต้องเป็นห่วงครับ”
“แล้วเด็กพวกนั้นรู้หรือเปล่าว่าเราจะไม่อยู่หลายวัน” จู่ ๆ ชาร์วีก็เอ่ยถามขึ้นทั้งที่แต่ก่อนเวลาจะต้องเดินทางไปทำงานที่ต่างประเทศไม่เคยแม้จะบอกกล่าวคนในบ้าน มีเพียงป้าณีคนเดียวเท่านั้นที่ชาร์วีจะบอกว่าเขาเดินทางไปที่ไหน
“นายหมายถึงใครครับ ถ้าคนของเราผมไม่ได้บอกครับมีเพียงลุคค์เท่านั้นที่รู้เรื่องนี้” ธาราตอบกลับตามความจริงเพราะไม่เคยแจ้งให้ลูกน้องคนอื่น ๆ ทราบว่าจะต้องเดินทางไปที่ไหน กี่วัน เพราะทุกคนมีหน้าที่ของตัวเองไม่ได้มีหน้าที่มารับรู้เรื่องของเจ้านาย
“เด็กสามคนนั้น มึงได้บอกพวกเธอหรือยังว่าเราจะไม่อยู่หลายวัน”
“ครับผมบอกพลอยใสไปแล้วว่าผมจะไม่อยู่บ้านหลายวัน มีอะไรด่วนให้ติดต่อไปที่ลุคค์และลุคค์จะแจ้งผมเอง”
“แค่มึง” ชาร์วีถามย้ำอีกครั้ง
“ครับ แล้วนายจะให้ผมบอกว่ายังไงล่ะครับเพราะส่วนมากเด็กจะติดต่อผมโดยตรง ไม่ได้ติดต่อไปที่นายนี่ครับ แค่ผมก็น่าจะเพียงพอ” ธาราแกล้งตอบกลับเพื่อดูปฏิกิริยาคนเป็นนาย เมื่อเริ่มสังเกตได้ว่าทุกวันนี้เจ้านายเริ่มให้ความสำคัญกับเด็กสามคนนั้นมากขึ้น
“ช่างมันเถอะ โทรเรียกไอ้ลุคค์มาหากูด้วยกูมีเรื่องจะคุยกับมัน”
“นายมีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับ”
“กูต้องการจะคุยกับไอ้ลุคค์ไม่ได้ต้องการจะคุยกับมึง” สายตาคมตวัดจ้องหน้าธาราอย่างขุ่นเคือง น้ำเสียงเจือแววอดกลั้น
“ครับ ผมจะโทรเรียกมันให้ ผมอิ่มแล้วขอตัวนะครับ”
“อย่าลืมกำชับเด็กมันด้วยว่าระหว่างนี้ก็อย่าเถลไถล ไม่อย่างนั้นกูจะลงโทษขั้นเด็ดขาด อย่าหาว่ากูไม่เตือน” ยังไม่ทันที่ธาราจะเดินพ้นห้องอาหาร เสียงเรียบก็พูดขึ้นจนธาราต้องหยุดฝีเท้ายืนฟังอย่างตั้งใจ
“ครับ ผมจะกำชับเด็กทั้งสามคนให้”
บ่ายวันนั้น
“นายครับ คุณฉลาม คุณอเล็กซ์ และคุณเหมันต์มาครับ” ธาราเดินเข้ามารายงานเมื่อตอนนี้มีแขกที่ไม่ได้รับเชิญมาที่บ้าน
“พวกมันมาทำไม” เสียงเรียบถามกลับทันที
“ไม่ทราบครับ”
“พวกกูคิดถึงเพื่อนมาเยี่ยมเพื่อนไม่ได้เหรอวะ” ฉลามตอบกลับไปขณะที่ทั้งสามเปิดประตูห้องทำงานของเจ้าของบ้านเข้ามา
“ไม่มีมารยาท ไม่ได้เชิญเสือกมากันทำไม” แฟ้มเอกสารตรงหน้าถูกปิดและดันออกไปไว้ด้านข้าง ก่อนที่เจ้าของบ้านจะเงยหน้าขึ้นจ้องหน้าเพื่อนทั้งสามอย่างไม่ค่อยยินดีสักเท่าไหร่
“อย่าขี้เสือกให้มากนัก พวกมึงว่างงานขนาดนั้นเลยหรือไง” คำพูดไม่ยี่หระของเจ้าของบ้านพร้อมตั้งท่าจะลุกเดินออกไปโดยไม่คิดจะถามไถ่ถึงจุดประสงค์ที่แท้จริงว่ากลุ่มเพื่อนมาทำไม
“เฮ..เฮนั่งลงก่อนครับคุณชาร์วี ที่พวกผมมาเนี่ยแค่อยากคุยเรื่องกาสิโนสาขาใหม่ที่จะเปิดที่ฮ่องกง เจ้าถิ่นที่นั่นเหมือนจะไม่ค่อยต้อนรับเราสักเท่าไหร่นะ” ฉลามห้ามปรามเมื่อเห็นชาร์วีตั้งท่าจะเดินหนี มือหนายกขึ้นปลดกระดุมเสื้อด้านบนสองสามเม็ดและพับแขนเสื้อขึ้นถึงศอกก่อนจะกลับนั่งลงตำแหน่งเดิมพร้อมกระแทกลมหายใจพรืด
“ถ้าเป็นมิตรกันไม่ได้ก็ต้องเป็นศัตรู ใครมันทำตัวเป็นเจ้าบ้านที่ไม่ดีก็ไม่ต้องคบ” คำตอบของชาร์วีทุกคนต่างคิ้วขมวด จะมีสักครั้งไหมที่พวกเขาขยายธุรกิจแล้วราบรื่นโดยไม่มีปัญหา
“เฮ้อ!! ก็ตามนั้นกูจะได้สั่งคนของกูที่อยู่ที่นั่นเตรียมกำลังคนให้พร้อมวันเปิดกาสิโนวันแรก พวกมึงทุกคนก็ช่วยทำตัวให้ว่างด้วยไม่ใช่ให้กูไปยืนต้อนรับกระสุนอยู่คนเดียว” ฉลามถอนหายใจยกนิ้วขึ้นชี้หน้าเพื่อนทุกคนด้วยสีหน้าจริงจัง
“กลิ่นดินปืนช่างหอมสดชื่นราวกลิ่นกายสาวไม่ปาน เอ้อ! ไอ้ชาร์บ้านมึงรับคนงานผู้หญิงเพิ่มตั้งแต่เมื่อไหร่วะ ปกติบ้านนี้ไม่รับคนงานผู้หญิงไม่ใช่เหรอวะเห็นมีแต่ป้าณีกับแม่บ้านอีกคน ตอนเดินเข้ามากูเจอเด็กผู้หญิงนั่งอยู่ตรงสวนหย่อมขนาดเห็นไกล ๆ ก็หน้าตาน่ารักใช้ได้เลยนะ” เหมันต์ผู้ที่ได้รับฉายาหูตาไวถามขึ้น
“อย่ายุ่งกับคนในบ้านกู” ชาร์วีสั่งห้ามออกไปเสียงดัง
“กูเข้าใจแล้วธารา เจ้านายมึงไม่ได้ตายด้านจริง ๆ” ฉลามเผยรอยยิ้มมุมปากพูดขึ้นเมื่อเห็นปฏิกิริยาตอบกลับของเพื่อนเมื่อพูดถึงเด็กสาวคนนั้น
ตอนที่13 เพียงกระจกกั้น“ถ้าหมดธุระก็เชิญกลับไปได้แล้ว” ขณะที่ฉลามกำลังนั่งเคาะนิ้วบนโต๊ะอย่างคนอารมณ์ดีอยู่ ๆ ก็โดนเจ้าของบ้านไล่กลับแบบไม่ทันตั้งตัว“กลัวความลับรั่วไหลหรือไง พวกกูเป็นเพื่อนมึงนะไม่ใช่ศัตรูเผื่อมึงเข้าใจผิด” ฉลามสวนกลับทันควัน ทุกคนยังนั่งนิ่งไม่มีทีท่าจะลุกกลับออกไปสักคน“พวกขี้เสือก แค่พวกมึงก้าวขาเข้ามาในบ้านกูก็รู้แล้วว่าตั้งใจมาเสือกโดยเอางานบังหน้า” ชาร์วีด่าสวนกลับไม่ไว้หน้าแม้แต่คนเดียว“555 มึงยังฉลาดเหมือนเดิมนะไอ้ชาร์ ไอ้ฉลามอุตส่าห์คิดแผนตั้งนานมึงเสือกจับได้ซะงั้น ปะพวกเรากลับเถอะไม่สนุกแล้วว่ะ” อเล็กซ์หัวเราะร่าพร้อมตั้งท่าลุกขึ้น“อย่าลืมสั่งลาเด็กมันด้วยล่ะ จะไม่อยู่อีกหลายวันเดี๋ยวเด็กมันคิดถึง” ฉลามยังไม่วายหันกลับมาบอกกับชาร์วีที่ตอนนี้กำลังจ้องแผ่นหลังของเพื่อนทั้งสามคิ้วขมวดเข้าหากัน“นายจะรับกาแฟไหมครับ” ธาราถามขึ้นเมื่อตอนนี้ถึงเวลาอาหารว่างช่วงบ่ายของมาเฟียหนุ่ม“กลับจากดูไบให้สถาปนิกเข้ามาดูพื้นที่ด้านหลังติดกับบ้านใหญ่ว่าสามารถปลูกบ้านหลังเล็กอีกหลังได้ไหม” ชาร์วีไม่ตอบคำถามธาราแต่กลับสั่งงานออกมาและสร้างความแปลกใจให้บอดี้การ์ดหนุ่มอยู่ไม่น
ตอนที่14 ใส่ใจทุกรายละเอียด“นายครับ สถาปนิกมาถึงแล้วครับ”“ให้เข้ามา”“ผมต้องการรายละเอียดตามนี้ ออกแบบและส่งรายละเอียดให้ผมภายในพรุ่งนี้ และทีมวิศวกรจะเข้ามาสำรวจพื้นที่และเริ่มก่อสร้างภายในสัปดาห์หน้า ผมต้องการให้เสร็จโดยเร็วที่สุด” ชาร์วีส่งแบบแปลนที่เขาออกแบบไว้คร่าว ๆ ให้สถาปนิกหนุ่มดู“ในส่วนของห้องนอนต้องการให้ตกแต่งรูปแบบไหนครับ”“ห้องสำหรับผู้หญิง ไม่ต้องหวือหวาเฟอร์นิเจอร์เท่าที่จำเป็นแต่เน้นความเป็นส่วนตัวมากที่สุด” ชาร์วีแจ้งความประสงค์กับสถาปนิกชัดเจน“ได้ครับ ผมจะรีบลงรายละเอียดและส่งให้คุณธาราพรุ่งนี้เช้า ถ้างั้นผมขอตัวก่อนครับ”“เชิญ” สถาปนิกหนุ่มลุกขึ้นจากเก้าอี้หลังจากนั่งเกร็งมาสักพัก เมื่อได้รับอนุญาตจากเจ้าของบ้านก็รีบสาวเท้าเดินออกมาทันทีบ้านหลังเล็กสไตล์ทันสมัยก็ก่อสร้างและตกแต่งเกือบแล้วเสร็จพร้อมเข้าอยู่แล้ว พลอยใสได้รับคำสั่งให้เตรียมตัวย้ายเข้ามาอยู่บ้านหลังเล็กที่สร้างขึ้นใหม่นี้โดยธาราให้เหตุผลว่าก้าวเข้าสู่วัยมหาวิทยาลัยแล้วควรที่จะแยกห้องนอนกันเพื่อจะได้ใช้ชีวิตกันอย่างอิสระโดยไม่รบกวนเพื่อนคนอื่น ๆ“เก็บของเสร็จหรือยัง” ธาราเอ่ยถามเด็กสาวขณะที่พลอยใสม
ตอนที่15 ของขวัญชิ้นแรกเมื่อได้รับอนุญาตจากธาราพลอยใสก็เดินกลับไปบอกรุ่นพี่ว่าเธอจะสมัครเป็นตัวแทนคณะเพื่อเข้าร่วมประกวดดาวเดือนของมหาวิทยาลัย ทุกคนต่างยิ้มร่าอย่างมีความสุข“พวกพี่ขอบคุณพลอยใสมากนะ แล้วเจอกันสัปดาห์หน้าหลังกิจกรรมรับน้องเสร็จ”พลอยใสเดินออกมานั่งรอรถเมล์เพราะวันนี้กิจกรรมเลิกค่อนข้างเย็นจึงไม่โทรเรียกรถของที่บ้านฮาร์เปอร์มารับ ด้วยระยะทางจากมหาวิทยาลัยถึงบ้านฮาร์เปอร์นั้นไม่ได้ไกลกันมากนัก นั่งรถเมล์ต่อเดียวก็ถึงพลอยใสจึงเลือกที่จะเดินทางกลับเองในช่วงเย็น“พลอยใสกลับกับพวกเราไหมนี่ก็มืดแล้วนั่งรถเมล์กลับมันอันตราย” รถเก๋งสีขาวจอดตรงป้ายรถเมล์หน้ามหาวิทยาลัย และคนในรถตะโกนเรียกพลอยใสซึ่งเจ้าของรถนั้นคืออาทเพื่อนร่วมคณะที่เข้ามาทักเธอตอนทำกิจกรรมเมื่อตอนบ่าย“ไม่เป็นไรเราเกรงใจ บ้านเราอยู่คนละทางกับบ้านอาท เรานั่งรถเมล์กลับได้สบายมาก” พลอยใสปฏิเสธออกไปด้วยความเกรงใจ แต่เพื่อน ๆ บนรถก็เร้าหรือจนพลอยใสต้องยอมขึ้นรถกลับบ้านด้วย“ขับเพิ่มแค่ยี่สิบกิโลมันไม่ได้เสียเวลาพวกเราขนาดนั้นหรอก อีกอย่างเราเป็นเพื่อนกันแล้วไม่ใช่เหรอ” มุกดาคือเพื่อนที่สนิทกับพลอยใสมากที่สุดเพราะเป็
ตอนที่16 หลงป่าพลอยใสเดินกลับบ้านด้วยใบหน้ามีความสุขใบหน้าเรียวเล็กเผยรอยยิ้มบาง ๆ อยู่บนใบหน้าตลอดเวลา ชาร์วีที่ยืนมองเด็กในการปกครองตั้งแต่ก้าวเท้าลงจากรถจนเด็กสาวเดินผ่านหน้าไป รอยยิ้มที่เขาหลงใหลและแอบมองมาตลอดวันนี้ปรากฏให้เห็นตรงหน้าอีกครั้ง“ผมนำของขวัญของนายให้พลอยใสไปแล้วนะครับ” ธาราเดินขึ้นมารายงานเจ้านายหลังจากที่กลับจากภารกิจพิเศษ คือการพาเด็กในการปกครองกลับบ้านตามคำสั่งของคนเป็นนาย“แล้วเธอว่ายังไง เธอชอบหรือเปล่า”“นายก็เห็นแล้วนี่ครับนายน่าจะดูออกว่าเธอชอบหรือไม่ชอบ ผมขอตัวก่อนนะครับ” ธาราขอตัวกลับห้องทันทีที่รายงานทุกอย่างเสร็จสิ้นมหาวิทยาลัย“วันเสาร์นี้เราก็จะต้องไปรับน้องกันแล้ว ทุกคนเตรียมเสื้อผ้าและของใช้กันหรือยัง รุ่นพี่แจ้งว่าพวกเราจะต้องกางเต็นท์นอนกันเองส่วนเต็นท์จะเช่าของอุทยานหรือสามารถนำเต็นท์ส่วนตัวไปเองก็ได้ ฉันว่าฉันจะเอาเต็นท์ไปเองดีกว่า” กิจกรรมรับน้องกำลังเป็นบทสนทนาหลักของเหล่านักศึกษาปีหนึ่งที่ตื่นเต้นที่จะได้เดินทางไปทำกิจกรรมรับน้องนอกสถานที่“ฉันลืมไปเลยนะเนี่ย” พลอยใสพูดขึ้นเมื่อพูดถึงเรื่องนี้ เพราะเธอเองก็ลืมสนิทเลยว่าต้องเดินทางไปรับน้องใน
ตอนที่17 ฟาดงวงฟาดงาเวลาผ่านไปจากชั่วโมงเป็นสองชั่วโมงจากสองชั่วโมงเป็นสามชั่วโมง ในขณะที่เพื่อนคนอื่นกลับออกไปรวมตัวที่จุดพักกางเต็นท์กันหมดแล้วขาดเพียงแค่พลอยใสที่ยังไม่ออกจากป่ามา“พี่เคน เอาไงดีพี่ผมว่าโทรหาพี่ธาราเถอะนี่มันก็หลายชั่วโมงแล้วนานกว่านี้เกรงว่าจะแย่ไปกันใหญ่” บอดี้การ์ดที่ถูกส่งมาดูแลพลอยใสพูดอย่างร้อนใจ“กูก็คิดแบบนั้น” เคนรีบโทรติดต่อไปยังธาราทันที“ว่าไง” ธารารับสายทันทีที่มีสายเรียกเข้าจากบอดี้การ์ดที่ส่งไปดูแลพลอยใส“พี่ธารา คุณพลอยใสหลงป่าครับ ตอนนี้เจ้าหน้าที่และคนของเราระดมค้นหาหลายชั่วโมงแล้วแต่ยังไม่เจอ” น้ำเสียงร้อนรนของบอดี้การ์ดที่ดังมาจากโทรศัพท์ทำให้ธาราตัวเกร็งขึ้นมาทั่วแผ่นหลัง หลังจากวางสายเสร็จก็รีบรายงานให้ชาร์วีทราบทันที“นายครับคนของเราโทรมาแจ้งว่าพลอยใสหลงป่า ตอนนี้เจ้าหน้าที่และคนของเรากำลังระดมค้นหาแต่ยังไม่เจอครับ” ธารารายงานเสียงเครียด ชาร์วีโยนปากกาในมือที่กำลังเซ็นเอกสารทิ้งทันทีที่ธาราพูดจบพร้อมกับดีดร่างสูงของตัวเองออกจากเก้าอี้ทำงานตัวใหญ่ก่อนจะถามเสียงดังลั่นบ้าน“หายไปตั้งแต่เมื่อไหร่”“สามชั่วโมงที่แล้วครับ”“เตรียมเฮลิคอปเตอร์บินไ
ตอนที่18 อ้อมกอดคนแปลกหน้าที่อยากเจอชาร์วีพร้อมบอดี้การ์ดมือซ้ายและมือขวาใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงก็บินมาถึงอุทยานแห่งชาติเขาแหลม จ.กาญจนบุรี เฮลิคอปเตอร์ลงจอดที่ลานสนามหญ้าของอุทยานโดยมีเจ้าหน้าที่ยืนรออยู่ก่อนแล้ว“เจอคนของผมหรือยัง” คำแรกที่มาเฟียหนุ่มเอ่ยถามหัวหน้าหน่วยทั้งของอุทยานและกองบินพิเศษที่ยืนรออยู่“ผมส่งทีมค้นหาออกไปค้นหาแล้ว อีกไม่นานน่าจะเจอตัวผู้สูญหาย” หัวหน้าหน่วยเฉพาะกิจที่มาควบคุมดูแลตามคำร้องขอของชาร์วีตอบกลับมาเฟียหนุ่ม“เราเหลือเวลาอีกกี่ชั่วโมงครับ” ชาร์วีหันไปถามเจ้าหน้าที่อุทยานว่าที่นี่พระอาทิตย์จะตกในเวลากี่โมง“45 นาทีครับ” คิ้วหนาขมวดเข้าหากันทันทีเมื่อได้ฟังคำตอบ“ผมขอดูแผนที่ป่าหน่อย” เสียงเรียบพร้อมใบหน้าที่นิ่งจนยากจะคาดเดาเอ่ยขอแผนที่ป่ากับเจ้าหน้าที่อุทยาน ก่อนจะรีบกางออกเพื่อดูอาณาเขตป่าบริเวณฯ โดยรอบโดยมีเจ้าหน้าที่ป่าไม้คอยอธิบาย สายตาคมกวาดมองแผนที่อย่างรวดเร็วแต่เก็บทุกรายละเอียด สมองอันเฉียบคมวิเคราะห์ความน่าจะเป็นในจุดที่พลอยใสจะเดินหลงเข้าไปอย่างรวดเร็ว“เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมอีก 5 นาทีเราจะเข้าไปข้างใน” เสียงทรงอำนาจหันมาสั่งลูกน้องดังลั่
ตอนที่19 เจอหน้ากันครั้งแรกชาร์วีรีบสาวเท้าไปยังทิศทางที่คาดว่าเด็กสาวจะอยู่โดยลืมไปว่าเส้นทางที่กำลังเดินอยู่นั้นเต็มไปด้วยหญ้ารกทึบและกิ่งไม้ที่หักลงมาขวางทางเดิน รองเท้าหนังราคาแพงเต็มไปด้วยรอยขีดข่วน เปื้อนโคลนเปื้อนฝุ่นที่เดินลุยมาตลอดทาง“นายครับเดินระวังด้วยครับ” เสียงเตือนจากธาราเมื่อทั้งหมดเดินเข้ามาใกล้จุดที่เห็นแสงไฟ“ทุกคนดับไฟด้วยครับ” เสียงสัญญาณเตือนจากเจ้าหน้าที่ป่าไม้ผู้ที่ชำนาญในการเดินป่าและการเผชิญหน้ากับพวกลักลอบขนสิ่งของผิดกฎหมายเข้ามาช่องทางธรรมชาติทุกคนใช้ความชำนาญเฉพาะตัวในการเดินเข้าหาจุดหมายไม่มีแม้เสียงฝีเท้าให้ได้ยินแม้จะเหยียบกิ่งไม้ การเคลื่อนตัวเข้าหาเป้าหมายที่เงียบที่สุดราวทหารที่ถูกฝึกมาอย่างดี“ธารากล้อง” ชาร์วียื่นมือไปขอกล้องจากธาราเมื่อเข้ามาถึงเป้าหมายในระยะใกล้ ด้วยความมืดเพราะไม่สามารถใช้แสงไฟได้จำต้องอาศัยมองผ่านกล้องส่องทางไกลระบบอินฟราเรดเพื่อที่จะได้มองเห็นเป้าหมายชัดเจน“ใช่เธอไหมครับ” ธาราเอ่ยถามเอาตอบคำตอบทันที“มองไม่เห็นเพราะมีต้นไม้บัง แต่คาดว่าน่าจะใช่เพราะเธอใส่เสื้อสีขาว” มีเพียงหัวไหล่บางที่โผล่พ้นโคนต้นไม้ออกมาให้ได้เห็น แต่ชา
ตอนที่ 20 เก็บอาการไม่อยู่“นายครับอาหารเย็นพร้อมแล้วครับ” หลังจากอาบน้ำเสร็จชาร์วีก็นั่งเอนหลังพักสายตาตรงโซฟาห้องรับแขก“อือ..แล้วพลอยใสล่ะ” เมื่อมองอาหารบนโต๊ะมีเพียงสองที่จึงเอ่ยถามขึ้น“พลอยใสเธอบอกว่าจะนั่งทานในห้องครับ” ธาราแจ้งความประสงค์ของหญิงสาวให้คนเป็นนายทราบ“ไปเรียกเธอออกมาทานตรงนี้” เสียงทุ้มเอ่ยบอกออกไปน้ำเสียงหงุดหงิดและลุกขึ้นไปนั่งรอตรงเก้าอี้ที่อยู่หัวโต๊ะพลอยใสในชุดคนไข้สีขาวเดินออกมาสีหน้าประหม่าเล็กน้อย สะโพกกลมมนค่อย ๆ หย่อนลงตรงเก้าอี้ที่ฝั่งขวาของมาเฟียหนุ่มโดยธารานั่งลงฝั่งซ้ายตรงข้ามหญิงสาว“ทานให้มันเยอะ ๆ กว่านี้ผอมจนจะไม่มีแรงเดินอยู่แล้ว” เสียงเรียบปนดุเอ่ยขึ้นเมื่อพลอยใสวางช้อนลงและกำลังยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม“หนูอิ่มแล้วค่ะ”“ทานเข้าไปยังไม่ถึงสิบคำบอกอิ่ม ไม่กี่ชั่วโมงก็ย่อยหมดแล้วหรืออยากให้หมอให้น้ำเกลืออีกรอบ” เสียงทุ้มแกล้งขู่ออกไปเพราะรู้ดีว่าเด็กในการปกครองนั้นกลัวเข็มมากแค่ไหน“ไม่แล้วค่ะ พลอยเอ่อ..หนูทานหมดเลยก็ได้ค่ะ” คนตัวเล็กรีบหยิบช้อนตักข้าวต้มเข้าปากคำโตจากที่รู้สึกอิ่มมากแล้วก็ต้องจำใจฝืนทานต่อจนหมด“ส้มที่ปอกอยู่ในจานทานให้หมด ไม่งั้นฉัน
ตอนที่ 40 เปลี่ยนบรรยากาศ+ครอบครัว (จบ)“คุณจะให้หนูทำตรงนี้เลยเหรอคะ” พลอยใสถามกลับไม่เต็มเสียงนักเพราะตอนนี้ทั้งสองนั่งอยู่บนรถ และชาร์วีเองก็ทำหน้าที่เป็นคนขับซึ่งตอนนี้รถกำลังแล่นด้วยความเร็ว“ฉันทนต่อไปไม่ไหวแล้ว เธอจะปล่อยให้ผัวเธอลงแดงตายตรงหน้าเลยหรือไง อยากเป็นหม้ายอย่างนั้นเหรอ”“มันจะไม่อันตรายแน่นะคะ คุณอดทนอีกหน่อยได้ไหมคะ” พลอยใสพยายามต่อรองกับชาร์วีถึงแม้จะสงสารชายหนุ่มมากก็ตาม“ถ้าอดทนได้ฉันจะขอร้องเธอแบบนี้เหรอ หรือต้องให้ฉันจอดรถข้างทางแล้วลากเธอไปกระแทกเบาะด้านหลังรถ” ชาร์วีพูดขึ้นเมื่อความอดทนของเขานั้นแทบจะเหลือไม่ถึงหนึ่งเปอร์เซ็นต์“คุณตั้งใจขับรถดี ๆ นะคะ”“อมมันสักทีพลอยใส ผัวเธอจะใจขาดตายอยู่แล้ว”มือเล็กเอื้อมไปปลดเข็มขัดและกระดุมกางเกงพร้อมกับรูดซิปลง แท่งเนื้อสีแดงก่ำถูกควักออกมาพ้นจากบ็อกเซอร์ราคาแพงมาสัมผัสกับอุณหภูมิที่หนาวเย็นภายในรถ“อ่าส์ ปากเธอทำให้ฉันคลั่งได้เลยนะ” เสียงร้องครางออกมาเมื่อปลายลิ้นสัมผัสกับส่วนหัวที่บานราวดอกเห็ด“คุณต้องการมากขนาดนั้นเลยเหรอคะ เราแค่จูบกันเองนะ” เสียงหวานเอ่ยถามสลับกับดูดเลียแท่งเนื้อที่ผลิตน้ำหล่อลื่นสีใสออกมาไม่ขา
ตอนที่ 39 คลั่ง“ชาร์ถ้ามึงจะขับช้าขนาดนี้มึงไม่ต้องซื้อมาให้เปลืองเงินหรอกนะรถคันละสามสิบสี่สิบล้าน” ธาราพูดขึ้นน้ำเสียงหงุดหงิดเมื่อวันนี้มาเฟียหนุ่มมาทำหน้าที่คนขับรถด้วยตัวเอง“มึงจะรีบไปไหน ขับรถเร็วมันอันตราย” เป็นคำตอบที่ฟังดูไม่จริงใจเอาซะเลย เพราะความเร็วที่ชาร์วีใช้ประจำเวลาที่จับพวงมาลัยเองต้องไม่ต่ำกว่าหนึ่งร้อยยี่สิบ“ฟังดูตอแหลนะ ถ้ามึงไม่รีบก็จอดรถแล้วเดินไปกูจะขับไปกับพลอยใสแค่สองคน อีกสิบนาทีไอ้ลุคค์ก็จะขึ้นร้องเพลงแล้วเดี๋ยวพาพลอยใสไปไม่ทัน” ธาราที่หมดความอดทนกับการถ่วงเวลาโง่ ๆ ของเจ้านายด่าออกไปโดยไม่เกรงใจว่าชาร์วีนั้นคือเจ้าของรถ“รถคันนี้ของกู ถ้ามึงรีบก็ลงไปเรียกแท็กซี่”“ถ้างั้นก็จอดรถกูกับพลอยใสจะลงไปเรียกแท็กซี่เอง”“ถ้าหนูไปไม่ทันพี่ลุคค์ร้องเพลงรางวัลที่เราตกลงกันไว้เป็นโมฆะค่ะ”บรึ๊น! บรึ๊น! บรึ๊น!สิ้นเสียงพลอยใสรถยนต์คันหรูก็เร่งความเร็วขึ้นไปแตะที่ระดับปกติที่ควรจะเป็นหรืออาจจะเร็วไปด้วยซ้ำ ฝีมือการขับรถของชาร์วีที่ชำนาญเรื่องการทำความเร็วก็สามารถพาพลอยใสมาทันเวลาที่ลุคค์ขึ้นร้องเพลงพอดี“ไอ้ธาราทำไมมึงพาเมียกูเดินเบียดผู้คนเข้ามาแบบนี้ ประตูด้านหลังมี
ตอนที่ 38 อำนาจเปลี่ยนมือของขวัญวันแต่งงานที่ชาร์วีมอบให้ภรรยาตัวน้อยของเขาทั้งคืนจนเกือบสว่าง ส่งผลให้หญิงสาวนอนหมดแรงและตื่นขึ้นมาอีกทีในช่วงบ่ายของวันใหม่“คุณอื้อ..คุณวี” ดวงตากลมโตกะพริบไล่แสงเพื่อปรับโฟกัสสายตา มาเฟียหนุ่มนั่งพิงหัวเตียงพร้อมกับถือไอแพดอยู่ในมือ“ตื่นแล้วเหรอ..หิวน้ำไหม” ชาร์วีวางไอแพดในมือลงรีบพยุงหญิงสาวให้ลุกขึ้นนั่ง“กี่โมงแล้วคะ” หลังจากดื่มน้ำไปอึกใหญ่ก็เอ่ยถามขึ้นเพราะมองจากแสงที่ลอดผ่านม่านสีขาวเข้ามาบ่งบอกว่าเป็นช่วงสายหรือไม่ก็ช่วงบ่ายของวัน“บ่ายสองแล้ว หิวข้าวหรือเปล่า”“บ่ายแล้วเหรอคะ ทำไมคุณไม่ปลุกหนูล่ะคะ”“ปลุกทำไม เมื่อคืนเธอใช้พลังงานไปตั้งเยอะนอนหลับพักผ่อนเอาแรงน่ะดีแล้ว คืนนี้จะได้มีแรงทำต่อ” ชาร์วีพูดขึ้นสีหน้าเรียบนิ่ง“พอเลยค่ะ หนูไม่ไหวแล้วคุณกินจุเกินไป”“ไม่ไหวเหรอ ก็เห็นเรียกร้องเอาอีกหนูต้องการคุณอยู่ไม่ใช่เหรอ”“หยุดพูดเลยนะคะ” ใบหน้าเรียวเล็กซุกเข้าที่อกแกร่งด้วยความอายเมื่อถูกพูดถึงกิจกรรมรักที่เร่าร้อนเมื่อคืนที่ผ่านมา“ไปอาบน้ำไปจะได้ลงไปทานข้าว ธารามันขึ้นมาตามหลายรอบแล้ว” น้ำเสียงอ่อนนุ่มที่ชาร์วีใช้พูดกับหญิงสาวเป็นน้ำเสียงท
ตอนที่ 37 คืนเข้าหอคืนเข้าหอ“เหนื่อยไหมหืม..” เสียงทุ้มอบอุ่นเอ่ยถามขณะที่กำลังช่วยภรรยาตัวน้อยถอดชุดเจ้าสาวหลังจากเสร็จจากงานเลี้ยงฉลองค่ำคืนนี้“นิดหน่อยค่ะ แต่มีความสุขมากกว่า” เสียงหวานตอบกลับไปตามที่รู้สึกรอยยิ้มแห่งความสุขฉายเด่นชัดอยู่บนใบหน้าหญิงสาวตั้งแต่งานเริ่มจนถึงป่านนี้ ความสุขที่เธอไม่เคยได้รับ วันนี้ชาร์วีเป็นคนเข้ามาเติมเต็มส่วนที่เธอขาดทั้งหมด“ขอบคุณนะคะ ที่เข้ามาเป็นความสุขของหนู” ร่างบางหันหน้ากลับมาสบตากับสามีหมาด ๆ ของเธอ“เธอก็เข้ามาเป็นความสุขของฉันเหมือนกัน ฉันมีของขวัญแต่งงานให้เธอด้วยนะ” แขนแกร่งรั้งเอวคอดเข้าหาตัวและโอบกอดไว้หลวม ๆ ใบหน้าคมก้มลงกระซิบข้างใบหู“ของขวัญอะไรคะ” ดวงตากลมโต แพขนตางอนเหลือบขึ้นมองสบตาก่อนจะเอ่ยถามออกไปสีหน้าตื่นเต้น“ไปอาบน้ำให้เสร็จก่อน แล้วค่อยมาแกะของขวัญของฉัน” น้ำเสียงเจ้าเล่ห์ตอบกลับไป พร้อมกับอุ้มร่างบางในท่าเจ้าสาวเดินเข้าห้องน้ำไป“คุณจะอาบน้ำพร้อมหนูเลยเหรอคะ”“อาบพร้อมกันนี่แหละจะได้ไม่เสียเวลา ฉันอยากให้เธอแกะของขวัญจะแย่หรือจะแกะในห้องน้ำเลยก็ได้นะ”“หนูก็อยากเห็นของขวัญที่คุณจะให้หนูแล้วค่ะ” แววตาใสซื่อไม่ทันคนข
ตอนที่36 สู่ขอชาร์วีในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวดูแปลกตาจูงมือเดินมากับพลอยใสและมีธารามือขวาคนสนิทเดินตามหลังมาห้องรับแขกที่มีป้าณีและแขกคนสำคัญของบ้านฮาร์เปอร์คือ แม่แก้ว คนที่ดูแลพลอยใสเมื่อตอนที่เธออาศัยอยู่ที่บ้านเด็กกำพร้า“แม่แก้วสวัสดีค่ะ แม่แก้วสบายดีนะคะ” หญิงสาวนั่งลงกับพื้นตรงหน้าผู้มีพระคุณที่เลี้ยงดูเธอมา“แม่สบายดีจ้ะ” หญิงสูงวัยที่แก่ขึ้นตามกาลเวลาตอบกลับเสียงเบา มือเหี่ยวย่นยกขึ้นลูบศีรษะทุยด้วยความรัก“ลุกขึ้นเถอะลูก”“มานั่งลงตรงนี้” เสียงทุ้มเอ่ยเรียกเมื่อหญิงสาวทำตัวไม่ถูกว่าเธอต้องนั่งลงตรงไหน จะนั่งด้านบนตรงโซฟา หรือลุกไปยืนข้าง ๆ ธาราที่ด้านหลังร่างอรชรลุกขึ้นนั่งข้าง ๆ ชายหนุ่มในที่ที่เธอไม่คุ้นเคยมาก่อน เป็นครั้งแรกที่เธอมีโอกาสนั่งข้างชายหนุ่มเจ้าของบ้านต่อหน้าลูกน้องและคนในบ้านอย่างวันนี้“ดิฉันในฐานะผู้ใหญ่ของบ้านนี้ขอเข้าเรื่องที่เชิญคุณแก้วมาวันนี้เลยนะคะ” ป้าณีผู้ใหญ่ที่เลี้ยงดูชาร์วีมาตั้งแต่เด็กพูดขึ้น“อย่างที่เคยแจ้งให้คุณแก้วทราบก่อนหน้านั้นว่าตอนนี้คุณวีและพลอยใสอยู่ในฐานะสามีและภรรยา ทางเราจึงอยากสู่ขอกับผู้ใหญ่ให้ถูกต้องตามประเพณีไทย คุณแก้วในฐานะที่เ
ตอนที่35 เสือสาวเวลาผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงบทรักในห้องน้ำจบลง และกำลังเริ่มขึ้นอีกครั้งบนเตียง“เอาสิ เธออยากจัดการฉันยังไงก็ทำตามอย่างที่ต้องการได้เลย” ชายหนุ่มนอนแผ่หลาความเป็นชายตั้งโด่ล่อตาล่อใจเสือสาว“ถ้าหนูทำอะไรผิด คุณจะไม่ลงโทษหนูแบบแก้มใสใช่ไหมคะ” พลอยใสถามขึ้นขณะที่กำลังคลานขึ้นไปบนตัวชายหนุ่ม“เอาอะไรคิด ฉันจะเอาเมียตัวเองไปให้คนอื่นทำไม โดนกระแทกจนเสียสติแล้วหรือไง” ชาร์วีว่ากลับพร้อมยกคนตัวเล็กลอยขึ้นนั่งบนตัก“ก็แก้มใสทำผิดคุณยังลงโทษเธอแบบนั้นเลย”“ผู้หญิงคนนั้นบ้าเซ็กขนาดไหนเธอไม่รู้เหรอพลอยใส เพื่อนเธอมันชอบไปปาร์ตี้เซ็กหมู่หลายครั้งแล้ว แล้วที่เธอเห็นในห้องใต้ดินนั้นผู้หญิงคนนั้นก็เป็นคนเริ่มเองฉันไม่ได้บังคับ” ชาร์วีเล่าความจริงที่เขารับทราบมาตลอดว่าเด็กในการปกครองชอบไปปาร์ตี้มั่วเซ็กอยู่บ่อยครั้ง แต่เขาก็ไม่อยากเข้าไปยุ่งเพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัว“แก้มใสนะเหรอคะ ชอบไปปาร์ตี้เซ็กหมู่” พลอยใสถามกลับอย่างไม่อยากเชื่อที่ชายหนุ่มพูด“ใช่ ถ้าฉันจะบอกว่าผู้หญิงคนนั้นนอนกับผู้ชายมานับร้อยคนเธอจะเชื่อหรือเปล่า”“ไม่ค่ะ หนูไม่เชื่อเด็ดขาด” พลอยใสส่ายหัวไม่เชื่อสิ่งที่ชาร์ว
ตอนที่34 คลั่งรักบอดี้การ์ดร่างกำยำนับสิบคนเดินเข้ามาตามเสียงเรียกคนเป็นนาย แก้มใสเห็นดังนั้นก็รู้สึกตื่นเต้น หันไปมองหน้าบอดี้การ์ดที่กำลังมองเธอด้วยสายตาหื่นกระหาย“แสดงฝีมือลีลาบนเตียงของเธอให้ฉันดูหน่อยสิ ว่าจะเร้าใจพอที่ฉันจะพาขึ้นเตียงด้วยหรือเปล่า”“คุณวี แต่ว่า..”“ฉันไม่ถือสาเรื่องนี้ เอาสิแสดงให้ฉันเห็นว่าเธอเก่งมากแค่ไหน”หญิงสาวค่อย ๆ คลานเข่าเข้าไปหาบอดี้การ์ดที่ยืนรายล้อมรอบตัวเธอ มือบางค่อย ๆ ปลดเข็มขัดแล้วรูดซิปกางเกงและควักแท่งเนื้อที่ขยายตัวเต็มที่พร้อมใช้งานออกมา ปากบางค่อย ๆ กลืนกินแท่งเนื้อนั้นราวไอติมแท่งโปรด น้ำลายผสมน้ำหล่อลื่นไหลเปื้อนมุมปาก ขณะที่เธอกำลังใช้ปากอยู่นั้นบอดี้การ์ดคนที่เหลือที่ตอนนี้ปลดเปลื้องเสื้อผ้าพร้อมภารกิจเสพสวาทครั้งนี้ก็เดินเข้าหาเธอ บั้นท้ายงอนถูกกางออกลิ้นสากส่งเข้าไปสัมผัสทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เต้าอวบทั้งสองข้างถูกดูดกินด้วยบอดี้การ์ดอีกสองคน แก้มใสร้องครางออกมาด้วยความสุขสม เธอกลายเป็นคนติดเซ็กหมู่มาหลายปีตั้งแต่ครั้งเรียนอยู่ปีหนึ่งที่เธอมีโอกาสได้เข้าร่วมปาร์ตี้สวิงกิ้งและเธอก็ติดใจและทำบ่อยทุกครั้งที่คนในกลุ่มจัดขึ้นภาพหญิงสาว
ตอนที่33 จัดการการเดินทางไปยังประเทศต่าง ๆ ของพลอยใสได้สิ้นสุดลงพร้อมกับประสบการณ์มากมายที่เธอได้สัมผัส เครื่องบินลำใหญ่ของฮาร์เปอร์กำลังเทคออฟออกจากสนามบินฮ่องกงมุ่งหน้าสู่ประเทศไทยเมืองไทยร่างบางนอนหลับในอ้อมแขนแกร่งของชาร์วีตั้งแต่ขึ้นรถมายังไม่ถึงสิบนาที ร่างกายเพลียจากการนั่งเครื่องเป็นเวลานานและเวลาที่ต่างกันของแต่ละประเทศจึงทำให้ร่างกายปรับเวลานอนไม่ทันจึงเกิดสภาพอย่างที่เห็น“นายไม่ปลุกเธอเหรอครับ” ธาราหันไปถามคนเป็นนายที่กำลังตั้งท่าจะอุ้มหญิงสาวลงจากรถ“ไม่”“นายจะอุ้มเธอเข้าบ้านไปแบบนี้ บอดี้การ์ดจะพากันเอาไปพูดเอาได้นะครับ” ธาราเอ่ยเตือนเพราะความสัมพันธ์ของเจ้านายกับเด็กในการปกครองที่เปลี่ยนไปทุกคนในบ้านยังไม่มีใครทราบ“ใครมันกล้าเอาไปพูดกูจะไล่ออกให้หมด” เสียงกร้าวบอกออกไปพร้อมกับอุ้มหญิงสาวลงจากรถเดินเข้าบ้านใหญ่ไป ท่ามกลางสายตาของบอดี้การ์ดและแม่บ้านคนเก่าคนแก่อย่างป้าณี“คุณวีพลอยใสเป็นอะไรคะ”“ไม่ได้เป็นอะไรครับ” คำตอบสั้น ๆ ที่ไม่ขยายความให้คนถามเข้าใจ ก่อนจะอุ้มหญิงสาวเดินผ่านหน้าขึ้นไปยังชั้นสองของบ้านซึ่งเป็นห้องส่วนตัวของมาเฟียหนุ่ม“คุณธาราพลอยใสเป็นอะไรคะ ทำ
ตอนที่32 ไหว้พ่อแม่หลังจากเสร็จธุระเรื่องงานที่เมืองหลวงแล้วชาร์วีก็พาหญิงสาวไปบ้านที่ตั้งอยู่ชานเมืองห่างไกลผู้คนเฮลิคอปเตอร์ขึ้นบินจากกรุงลอนดอนทะยานสู่เขตนอกเมืองที่โอบล้อมด้วยทะเลและภูเขา คฤหาสน์หลังใจที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางทุ่มหญ้าเขียวขจี เฮลิคอปเตอร์ลงจอดที่ลานหญ้าบริเวณหน้าบ้าน“ที่นี่บ้านคุณเหรอคะ” ดวงตากลมโตมองสำรวจบริเวณรอบ ๆ ที่ล้อมรอบด้วยธรรมชาติไกลสุดลูกหูลูกตา“ใช่ บ้านของแด๊ดกับมัม” ร่างสูงเดินนำเข้าไปด้านในที่มีคนดูแลบ้านมายืนรอต้อนรับตรงประตูทางเข้า“สวัสดีค่ะนาย/นายหญิง” ทั้งหมดก้มหัวให้และกล่าวทักทายชายหนุ่มเมื่อเดินผ่านไป รวมทั้งกล่าวทักทายพลอยใสด้วย“สวัสดีค่ะคุณธารา” อยู่บ้านนี้ธาราจะอยู่ในฐานะลูกชายบุญธรรมของบ้านฮาร์เปอร์เพราะครั้งยังเด็กธาราและชาร์วีเกิดและโตที่นี่ ก่อนที่พ่อของชาร์วีจะวางมือจากธุรกิจที่นี่และย้ายถิ่นฐานไปอยู่เมืองไทย“ชาร์วีมึงจะให้พลอยใสพักห้องไหน” ธาราถามขึ้นเมื่อเดินเข้ามาหย่อนสะโพกลงนั่งตรงโซฟาห้องรับแขก“นอนกับกู”“ไอ้ชาร์” ทั้งสองฟาดฟันกันด้วยสายตา ต่างไม่มีใครยอมใคร“พลอยใสขึ้นห้อง” พลอยใสจำเป็นต้องเดินตามชาร์วีขึ้นไปชั้นบนซึ่งเป็นห้