ก่อนจบงานเลี้ยงสายลมแอบปลีกตัวออกมาจากพื้นที่จัดงานก่อน เขามุ่งตรงไปยังลานจอดรถเพื่อไปยืนรอครอบครัวที่นั้นอยู่กับคนขับรถแม้จะรู้ดีว่าการกระทำนี้อาจไม่เหมาะสมนักแต่เขาก็อยากหลีกเลี่ยงสถานการณ์อึดอัดให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้และถ้าเขายังขืนอยู่ในนั้นต่อไปก็อาจถูกบีบบังคับให้ต้องหักหน้าทุกคนอีกครั้ง ไม่นานนักพศินก็เดินตามออกมาพร้อมกับกานดาหลังจากกล่าวลากับสุรศักดิ์และมินตราด้วยสีหน้าบึ้งตึงคิ้วขมวดเข้าหากันบ่งบอกถึงความไม่พอใจ "แกทำอะไรลงไป!" พศินเอ่ยเสียงเข้มพยายามกดเสียงให้ต่ำที่สุดเพื่อไม่ให้คนอื่นได้ยินแต่ก็ยังแฝงไว้ด้วยโทสะ "ทำไมไม่อยู่ลาคุณสุรศักดิ์กับฉันก่อน ที่นี่มันใช่ที่ที่แกจะมาทำตัวแบบนี้ไหม ฮะ!" สายลมนิ่งเงียบ เขาไม่รู้จะตอบอะไรออกให้ในสถานการณ์เช่นนี้มันดีขึ้นจึงทำได้แต่ฟังพ่อของเขาต่อว่าต่อไป"แกรู้ไหมว่าแกกำลังหักหน้าฉัน! หักหน้าคุณสุรศักดิ์! ต่อหน้าทุกคนอยู่และการที่แกทำแบบนี้มันทำให้คุณสุรศักดิ์ไม่พอใจมากแค่ไหนแกเคยรับรู้บ้างไหม" ขณะที่พศินกำลังระบายความโมโหกับลูกชายที่เอาแต่เงียบเหมือนคนไม่รับรู้อะไรกานดาก็รีบเข้ามาห้ามทัพไว้ก่อนโดยเธอจับที่แขนพศินเบา ๆ พร้อมกับส่ายห
ดนตรีบรรเลงในงานเลี้ยงช่วยให้สายลมรู้สึกผ่อนคลายขึ้นบ้างและว่าแม้กายเขาจะอยู่ในงานแต่ใจกลับล่องลอยไปไกลแสนไกลถึงเกรซที่นอนหลับไหลอยู่ที่คอนโดของเธอ งานเลี้ยงนี้้คือภารกิจที่เขาถูกพศินผู้เป็นพ่อบังคับให้มาเพื่อพบปะพูดคุยกับมีนคู่หมั้นในวัยเยาว์ ความสัมพันธ์ที่ถูกผูกมัดไว้ด้วยคำมั่นสัญญาของผู้ใหญ่ตั้งแต่ทั้งคู่ยังจำความไม่ได้ด้วยซ้ำ มีนในวันนี้เติบโตเป็นสาวสะพรั่งเธอพยายามส่งยิ้มและแววตาหวานมาให้เขาตลอดซึ่งสายลมก็ดูออกนะแต่แสร้งทำเป็นไม่สนใจไปงั้น ขณะที่สายลมกำลังจมดิ่งอยู่กับตัวเองเสียงทุ้มแหบห้าวของสุรศักดิ์พ่อมีนก็ดังขึ้นเหมือนต้องการเรียกดึงเขาให้กลับมาสนใจบทสนทนาตรงหน้า"โตเป็นหนุ่มแล้วสินะเรา" สุรศักดิ์เอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม "จำได้ไหม เมื่อก่อนสมัยเด็ก ๆ เราชอบมาเล่นซ่อนแอบกับมีนแล้วก็สายหมอกด้วยกันที่นี่บ่อย ๆ" บทสนทนาเริ่มต้นด้วยเรื่องราวในอดีตที่สดใส ทว่าแววตาของสุรศักดิ์กลับฉายแววบางอย่างที่อ่านได้ยากคล้ายกับกำลังต้องการรือฟื้นความทรงจำในวัยเด็กของพวกเขาเพื่อการบางอย่าง พศินที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามพยายามส่งสายตาคมกริบมาข่มขู่สายลมตลอดเหมือนต้องการบอกให้เขาตอบคำถามทุกค
บรรยากาศภายในรถเงียบสงบแต่ดูอึมครึมมากทั้งพศินและสายลมเหมือนกำลังแผ่รังสีใส่กันอยู่ตลอดเวลาจนคนบนรถทุกคนได้รับผลกระทบความกดดันจากพวกเขาไปพร้อม ๆ กัน สายฟ้าล้วงเอาโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงออกมาโทรหาภรรยา"ค่ะ""ผมจะถึงแล้วนะ""ได้ค่ะเดี๋ยวดาออกไปรับนะคะ""ผมโทรบอกดาแล้วนะครับพ่อ ฟังจากเสียงรอบข้างตอนนี้น่าจะมีคนถึงงานกันบ้างแล้ว""อืม จริง ๆ วันนี้แกน่าจะให้หนูมุกดามาพร้อมพวกเรานะจะได้ดูไม่น่าเกียจ""ผมบอกแล้วครับแต่ดาเขาอยากมาช่วยดูแลความเรียบร้อยในงานให้ที่บ้านก่อนก็เลยขอกลับไปนอนบ้าน 2 วันแล้ว" "ช่วยทำตัวเป็นสามีที่ดีหน่อยนะเพราะถ้าเกิดหนูดาเขาทนแกไม่ไหวขอหย่าเมื่อไหร่แกเจอฉันเล่นแน่""ครับพ่อ" สายลมเบะปากเล็กน้อยเพราะรู้สึกแย่กับคำที่พ่อสอนพี่ชายทั้ง ๆ ที่ตัวเองก็ยังเป็นสามีที่ดีไม่ได้แต่กลับสอนให้ลูกเป็นสามีที่ดีให้กับคนที่ลูกไม่ได้เลือกด้วยซ้ำบ้านสุขนิรันดร์"คุณแม่ขาเดี๋ยวดาขอตัวออกไปรับพี่สายฟ้าก่อนนะคะ""จ่ะ รีบมานะ""ค่ะ""ให้มีนไปเป็นเพื่อนไหมคะพี่ดา""ไม่เป็นไรจ่ะ" มุกดาลุกออกจากโต๊ะเพื่อไปรอรับครอบครัวสามีที่กำลังจะมาถึง ไม่นานรถตู้สีดำเงาสวยราคาแพงก็ขับเข้ามาจอดในบ้านโด
สายลมนอนแผ่อยู่บนเตียงด้วยความเบื่อหน่าย เขารู้สึกอึดอัดและคิดถึงเกรซมากจนไม่อยากทำอะไร 5 วันที่ผ่านมาที่เขาต้องอยู่คนเดียวทำได้แค่โทรคุยกับเกรซบ้างหลังเธอเลิกงานและนั่นเป็นความสุขเดียวของเขาในตอนนี้เลย เขารู้สึกซึ้งใจมาก ๆ ที่เวลาเกรซโทรมาแล้วถามถึงปัญหาที่เขาเจอ เธอพยายามช่วยเขาคิดวิธีแก้ไขทุกอย่างเพราะยังเข้าใจอยู่ว่าที่สายลมหายไปเป็นเพราะปัญหาธุรกิจจริง ๆ สายลมทั้งซึ้งใจและรู้สึกผิดอยู่นัย ๆ ที่ต้องโกหกเกรซแบบนี้บางทีเขาก็แอบน้ำตาไหลออกมาเลย เขาอยากพุ่งเข้าไปในโทรศัพท์แล้วดึงเกรซเข้ามากอดให้หายคิดถึงพร้อมกับสารภาพทุกอย่างอย่างจริงใจแต่เขาก็ทำไม่ได้ตืด ตืด ตืด (เสียงโทรศัพท์)สายลมรีบลุกขึ้นคว้าโทรศัพท์ด้วยความดีใจเพราะคิดว่าเกรซโทรมาแต่เมื่อเห็นชื่อปลายสายเป็นพ่อตัวเองเขาก็หุบยิ้มทันที"ครับ""พรุ่งนี้บ่าย 3 มาที่บ้านด้วยอย่าสายล่ะ""พ่อมีอะไรหรือเปล่าครับ""ไม่มีฉันจะโทรตามแกเหรอ! มาให้ตรงเวลาด้วยอย่าให้ฉันต้องรอแกนะ""เฮ่อ~ ครับ" สายลมรับปากทั้ง ๆ ที่ในใจอยากจะปฏิเสธมากและทันทีที่วางสายพ่อไปเกรซก็โทรเข้ามาหาเขาทันที"ฮัลโหลครับ""เมื่อกี้โทรไปแล้วติดสาย...คุยกับใครอยู่เหรอ""ผม
ผมขึ้นมาบนรถคิดทบทวนก่อนว่าจะเอายังไงต่อดีเพราะขืนวันนี้ผมกลับไปคอนโดพี่เกรซพ่ออาจจะรู้ได้ในไม่ช้าแน่ว่าผมกำลังคบกับใครอยู่เพราะผมมั่นใจว่ายังไงซะช่วงนี้พ่อต้องให้คนคอยติดตามดูผมแน่ ๆ จนกว่าเขาจะมั่นใจว่าผมไม่มีใครจริง ๆ ถึงจะเลิกตาม ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาพี่เกรซทันทีและระหว่งรอสายอยู่ผมก็มองออกไปด้านนอกเห็นบอดี้การ์ดของพ่อหลายคนแอบเหช่มองมาที่รถผมเป็นระยะ"ฮัลโหล" เสียงอันสดใสของพี่เกรซช่วยฮีลใจผมจากการมีปากเสียงกับพ่อไปเมื่อกี้ไม่น้อยเลย"พี่ทำอะไรอยู่อ่ะ" ผมไม่รู้จะเริ่มเข้าประเด็นจากตรงไหนเลยพยายามหาเรื่องอื่นคุยก่อน"ก็ทำงานน่ะสิมีอะไรหรือเปล่า" "คือ...วันนี้...""เป็นอะไรหรือเปล่าเนี่ย" "เปล่าครับ ผมแค่จะโทรมาบอกอ่ะว่าวันนี้ผมคงไม่ได้กลับไปทานข้าวกับพี่แล้ว""ทำไมอ่ะ""ผมมีธุระต้องจัดการนิดหน่อย...อาจจะ...ไม่ได้ไปหาพี่สักพัก" แม้ว่าการพูดออกไปตรง ๆ สำหรับใครมันอาจจะไม่ได้ยากแต่สำหรับผมมันยากมากเพราะผมรู้จักพี่เกรซดี เธอเป็นคนคิดมาก ความใจดีของเเธอถ้ามีให้กับผมมันจะทำให้เธอลำบากซะเอง ผมรู้ว่าถ้าผมสารภาพกับพี่เกรซตรง ๆ พี่เกรซต้องเข้าใจผมแน่และเธออาจยอมทำให้สิ่งที่ผมไม่ต้องกา
"แล้วที่เรียกผมกลับมามีเรื่องด่วนหรือเปล่า""ทำไม ที่นี่ก็บ้านของแกถ้าฉันไม่มีธุระอะไรแกก็จะไม่กลับมาเลยใช่ไหม" "เอาเป็นว่าวันนี้พ่อมีอะไรจะพูดกับผมดีกว่าครับ" ผมเริ่มชักสีหน้าใส่พ่ออีกครั้งเพราะรู้สึกไม่โอเคที่เขาไม่เข้าประเด็นสักที"ปีหน้าแกก็จะจบแล้วใช่ไหม""ครับ""ดี! งั้นหลังจากนั้นแกก็หมั้นเลยแล้วค่อยมาเริ่มกับทำงานกับฉัน รอให้เจ้าสาวแกเรียนจบก่อนจากนั้นถึงค่อยแต่งกัน""ผมไม่แต่ง" ผมกะไว้แล้วไม่มีผิดเลยว่าพ่แจะต้องเรียกผมมาคุยเรื่องนี้แน่ ๆ"ไม่ได้! แกกับหนูมีนหมั้นกันมาตั้งนานแล้วไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ" "ผมบอกพ่อแล้วไงว่าผมไม่ได้ชอบมีน ตอนนั้นพ่อก็รับปากผมแล้วว่าถ้าสายฟ้ามันแต่งกับพี่มุกดาแล้วพ่อจะไม่บังคับผมเรื่องมีนอีก""ใช่ ฉันพูดกับแกแบบนั้นแต่แกดูซิ พี่ชายแกมันแต่งงานมาจะ 3 ปีแล้วตอนนี้วี่แววหนูมุกดาจะท้องยังไม่มีเลยแล้วแบบนี้พวกเราจะทำยังไง" "จะต้องทำอะไรอีกอ่ะ ครอบครัวเราก็ไม่ได้ยากจนจะต้องอยากแต่งงานกับบ้านนั้นอะไรนักหนา" ผมโกรธมากที่พ่อผิดคำพูดกับผม"ฉันไม่ได้อยากได้เงินจากบ้านหลังนั้นแต่ที่ต้องทำแบบนี้เพราะฉันอยากได้ความมั่นคงจากอำนาจตำรวจของพ่อหนูมุกดาต่างหาก ที่ผ่านมา