Mag-log inเวลาผ่านไปเรื่อยๆ ท่ามกลางเสียงเพลงในผับ แต่ดังอยู่ภายนอก มีแค่เสียงเบสเท่านั้นที่เล็ดลอดเข้ามาได้ ทั้งห้องมีแค่พวกเขาสองคน อีกสองคนไม่อยู่แล้ว พวกเขาพากันหายไปตั้งแต่หนึ่งชั่วโมงก่อน ไม่มีวี่แววจะกลับมา นานจนเธอแอบคิดติดตลกว่าบางทีพวกเขาอาจจะไปเข้าห้องน้ำกันที่บ้าน
คนตัวเล็กมองแก้วช็อตที่วางว่างเปล่าเรียงกันอยู่สองแก้วด้วยดวงตาพร่ามัว ส่วนในมือถืออยู่อีกแก้วหนึ่ง และถ้ากระดกเข้าไปอีกคงจะเป็นแก้วที่สาม และแน่นอนเมื่อเหลือบไปเห็นคนข้างกายนั่งเฉยไม่ไหวติง เธอจึงกระดกรวดเดียวหมด ทว่าทันทีที่หมด แก้วใบนั้นก็ถูกฉกไปด้วยมือของเขา
“เต็มที่ได้แค่นี้” เสียงแหบพร่ากระซิบข้างหู “มากกว่านี้เดี๋ยวมันจะไม่สนุก”
ไม่พูดเปล่า แต่มือใหญ่ที่ไม่ได้สากมากถูกยกมาวางไว้บนต้นขาเนียนด้วย พลางใช้ท้องนิ้วหัวแม่มือกดลงมาเบาๆ สลับกับการลูบไล้ไปมา และไม่รู้เพราะอะไรเธอถึงปล่อยให้เขาทำเช่นนั้นไม่คิดจะปัดป่าย
หรือเพราะเธอเมาแล้ว
ทีแรกกะจะดื่มแค่แก้วเดียวตามแผนที่คิดไว้ เพราะเงินแค่นั้นสามารถเอาตัวรอดได้หลังลาออกจากงาน และระหว่างหางานใหม่ แต่ด้วยแรงกดดันจากการถูกคะยั้นคะยอย่างเหนือชั้นจนเกินไป ทำให้เธอปฏิเสธไม่ลง
“ใครบอกคะ สนุกจะแย่อยู่แล้ว”
หญิงสาวหารู้ไหมว่าสตรีที่ดื่มแอลกอฮอล์รวดเดียวติดต่อกันหนึ่งถึงสองแก้วภายในหนึ่งชั่วโมงจะทำให้มึนเมาอย่างรวดเร็ว และเขาก็รู้ข้อนี้ดี ถึงได้ดึงแก้วที่สามจากมือเธอออก เนื่องจากเกรงว่าจะหมดสนุกเอาเปล่าๆ หากปล่อยให้เธอดื่มแบบไม่ควบคุม จากแค่มึนเมา จะกลายเป็นภาระของเขา ไม่คลานก็อ้วก สองอย่าง
“อื้อ ขออีกแก้วนะคะ..”
“เวลาเมาเป็นแบบนี้หรือ..”
“แบบหนาย..”
“น่ารักดี”
เสียงของหญิงสาวอู้อี้เริ่มพูดไม่รู้เรื่อง ดวงตาพร่ามัวมองคนตรงหน้าไม่ชัด ถึงจะจำได้ว่าเขาคือใครแต่เพราะความมึนงงจากฤทธิ์แอลกอฮอล์ทำให้ไม่สามารถควบคุมความคิดได้ ยกตัวอย่างเช่นจิตใต้สำนึกของเธอหยั่งรู้อยู่ตลอด และพยายามเตือนสติว่าแค่เขาเลื่อนมือมาวางตรงต้นขาก็ถือว่าผิดแล้ว เธอจะต้องปกป้องตัวเองด้วยการปัดไป แต่เปล่าเลย สมองถูกควบคุมโดยเครื่องดื่มที่เธอดื่มเข้าไปราวกับเต็มใจอนุญาต ถึงทำในสิ่งที่ตรงกันข้ามกัน
“เค้าหรือตัวเองคะ”
“หึ..”
เธอรู้สึกว่าร่างกายของตัวเองกำลังโอนเอน ศีรษะของเธอไม่สามารถตั้งนิ่งอยู่บนบ่าอย่างสงบสุขได้ แต่กลับเคว้งคว้างไปมาประหนึ่งนั่งอยู่บนเครื่องเล่นยักษ์ตกตึกในสวนสนุก ที่ถูกมันเหวี่ยงไปเหวี่ยงมา นอกจากนั้นเธอยังยิ้มสลับกับหัวเราะอย่างสนุกสนานด้วย
อาคีรามองภาพคนตรงหน้าด้วยดวงตาทรงเสน่ห์ มักดึงดูดเพศตรงข้ามอย่างไม่รู้ตัว ของตัวเองแบบไม่ลดละ หลายครั้งที่เขาเผลอยิ้มตามเธอ เพราะถูกเธอคุกคามด้วยคำพูด ซึ่งคำศัพท์บางอย่างเขาเองยังไม่เข้าใจ อาจเป็นเพราะช่วงอายุที่แตกต่างกัน เขากับเธอห่างกันเป็นสิบปี
และไม่คิดว่าจะมาไกลได้ถึงขนาดนี้ ปกติไม่เมาก็ว่าน่ารักอยู่แล้ว พอเมายิ่งน่ารักเข้าไปใหญ่ ถึงขนาดเขาผู้ไม่เคยหลงใหลในใบหน้าของสตรีนางใดเป็นพิเศษ ยังเผลอยื่นมือไปสัมผัสหน้าของเธอเลย โดยใช้ก้านนิ้วเกลี่ยเบาๆ บนพวงแก้มแดงระเรื่อนั่น ยิ่งหลงไปอีกก็ตอนเจ้าตัวเอียงหน้า เอาแก้มเข้ามาแนบมือเขาเองพร้อมทำหน้าออดอ้อน ราวกับคนเป็นแฟนกัน
“ขออีกแก้วนะ... นะๆ”
“ดื่มอีกแก้ว หนูจะหลับยาวจนถึงเช้า พี่ไม่ได้อยากให้เป็นแบบนั้นครับ”
“ทำไมล่ะ หลับสบายดีออก ไม่ดีหรอ..”
หญิงสาวทำหน้ากระเง้ากระงอดแบบไม่จริงจัง และนั้นก็ทำให้เขานึกมันเขี้ยวขึ้นมา ถึงได้โน้มหน้าเข้าไปใกล้ ทว่ากลับถูกก้านนิ้วเรียวของเธอจิ้มแก้ม และออกแรงดันให้ออกห่างจากตัวเธอ แต่เธอจะรู้ไหมว่าการกระทำนั้น จริตนั้นของตัวเองกำลังทำให้เขาคลั่ง ร่างสูงกัดฟันกรอด เริ่มปวดหนึบตรงกลางกาย เนื่องจากถูกกระตุ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว
“ถ้าอยากหลับสบาย อยากให้เป็นเพราะอย่างอื่นมากกว่า”
มือสากใหญ่เริ่มซุกซนไปเรื่อย จากหน้าขาเปลี่ยนเป็นโคนขา และจากโคนขากำลังจะเข้าไปข้างใน โชคดีที่มือบางตะปบเอาไว้
“ยะ อย่าซนสิคะ ทำแบบนี้ไม่ดีนะ”
เขาถึงกับหายใจติดขัด เสียงของคนตรงหน้าขาดห้วง แต่นั่นไม่ใช่เพราะเสียงหวานที่ห้ามทำให้หยุดชะงักกลางคัน ทว่าเป็นเพราะสติของเขาเอง ที่เพิ่งจะนึกขึ้นมาได้ว่าที่ตรงนี้ไม่เหมาะสมจะทำเรื่องอย่างว่า เขาควรให้เกียรติสถานที่ และควรมีความอดทนให้มากกว่านี้
“ไม่อยากซนเลย แต่หนูสวยมาก”
เสียงคนตัวสูงแหบพร่า เธอเองก็คงรับรู้ได้ถึงอารมณ์กระสันนั้น ถึงได้ส่งยิ้มให้เขา
“ที่นี่ไม่ได้นะคะ”
“ถ้าอย่างนั้น ไปกับพี่นะ”
เขาโน้มหน้ามากระซิบ หญิงสาวที่ดวงตากำลังพร่ามัวปรือตาขึ้นมา สมองของเธอในตอนนี้ขาวโพลน มีเพียงจมูกเท่านั้นที่ได้กลิ่น เธอไม่รู้เขาใช้น้ำหอมกลิ่นอะไร แต่เพียงแค่หอมอ่อนๆ โชยมาจางๆ ก็สามารถล้างสมองทั้งส่วนหน้าและหลังได้แล้ว
“ไปไหนคะ..”
“แล้วอยากไปที่ไหนครับ” เสียงแหบพร่ายังคงกระซิบต่อเนื่อง คนตัวเล็กหลับตาพริ้มลงทันที เมื่อรู้สึกถึงความร้อนฉ่าจากริมฝีปากที่งับเบาๆ ตรงติ่งหู “แค่หนูบอก ต่อให้เป็นสวรรค์พี่ก็จะพาไป”
ความวาบหวามที่ถูกส่งมากะทันหันยังไม่ทันได้ตั้งรับ ริมฝีปากที่เข้าใจว่าอยู่ตรงข้างแก้มในทีแรก อยู่ดีๆ ก็ถูกเลื่อนมาจ่อตรงอวัยวะเดียวกัน เธอช้อนตามองเข้าไปในดวงตาหรี่แคบทันทีที่เห็นใบหน้าตัวเองอยู่ในนั้นถึงกับตัวแข็งทื่อ จังหวะเกือบตื่นแต่ไม่มีโอกาสจะได้สติ เนื่องจากสมองคิดช้า ริมฝีปากหยักตรงหน้าก็เลื่อนเข้ามาแนบชิดพอดี
ด้วยแรงบดขยี้ที่เบาสลับกับหนักหน่วง ทำให้เธอต้องขมวดคิ้วยุ่ง ความงุนงงผลของการตามไม่ทัน ปลายประสาทรับรู้ถึงกลิ่นเหล้าที่ไม่ใช่ของตัวเอง ประสบการณ์ช่ำชองที่กลายเป็นครูสอนนักเรียนยิ่งทวีคูณความมึนงงให้เธอมากขึ้น ไหนจะตอนรสหวานจากปลายลิ้นร้ายพยายามสอดแทรก ก็ยิ่งทำให้สมองขาวโพลนเสมือนว่านี่ไม่ใช่ตัวเอง ถึงสั่งให้เผยอปากขึ้น ปล่อยให้สิ่งนั้นแทรกเข้ามาได้สำเร็จ และตวัดเกี่ยวอวัยวะเดียวกันจนโพรงปากฉ่ำแฉะ ถึงขั้นเกิดเสียง ไม่พอยังดูดดึงประหนึ่งหยอกเย้าอีก
“อะ อืม”
มือหนาสอดเข้าไปใต้ท้ายทอย นาทีที่คนตัวเล็กตัวอ่อนยวบกำลังปล่อยตัวเองโอนเอน ทิ้งน้ำหนักตัวไว้กับเขา ส่วนอีกมือสอดเข้าไปใต้กระโปรง มันเป็นความเผลอไผลที่เขาเองไม่อาจรู้ แต่พอปลายนิ้วสัมผัสเข้ากับของสงวน ชวนให้เจ้าของสะดุ้ง เขาถึงได้หยุดชะงักค้างไว้ เพื่อดึงสติกลับมา ไม่ใช่ดึงมือออก แค่หยุดนิ่ง ไม่ไหวติง แต่มือยังคงค้างคา
“อื้อออ”
แน่นอนคนที่ไม่รู้ประสีประสา ไม่ได้ช่ำชองอย่างเขาเฉกเช่นเธอถึงกับตัวอ่อนยวบ หายใจไม่ทัน ร่างสูงเห็นเช่นนั้นถึงยอมปล่อย ให้คนตัวเล็กได้หายใจ ก่อนที่จะขาดอากาศ ด้วยการค่อยๆ ถอนริมฝีปากออกอย่างอ้อยอิ่ง และนึกเสียดาย
ดวงตาคมกริบมาตลอดเปลี่ยนเป็นหวานเยิ้มจังหวะทอดมองคนตาปรือ ใบหน้าสะสวยที่มีเส้นผมกำลังปรกหน้า เขาเป็นคนหยิบมันออกให้ และจังหวะเกลี่ยไปทัดหู ขณะยังคงสบตากัน ท้ายที่สุดกลับกลายเป็นเขาที่ตกหลุมพรางซะเอง
“.......!!!”
เพราะเขาจะไม่ให้มันจบแค่คืนนี้ ตัดสินใจแล้วว่าจะห่อเธอกลับไปกินต่อที่บ้าน!
จาก อาคีรา เบญ xxx-xxx000-0ดวงตากลมหรี่แคบเนื่องจากรู้สึกแสบร้อนหลังไม่ได้กะพริบมาหลายวิ ขณะเปิดดูรายการธุรกรรมในธนาคารของตัวเอง และพบว่าใครเป็นคนโอนมา ไม่ต้องคิดนานก็รู้ทันทีว่าเป็นเขา คู่กรณีของเธอเมื่อคืนมันเยอะเกินจนเธอเป็นกังวล และไม่กล้านำออกมาใช้ แม้ตามข้อตกลงก่อนหน้านี้จะเป็นแก้วละห้าหมื่น แต่เชื่อว่าเธอคงไม่ได้ดื่มเยอะจนเขาต้องจ่ายเป็นแสน และต่อให้เป็นค่านั่งดริงก์ทั้งคืน ครึ่งล้านก็ไม่น่าจะถึง อีกอย่างเธอไม่เชื่อว่าคนโอนให้จะไม่มีอะไรแอบแฝงด้วย!ด้วยความกลัวบวกกับความไม่สบายใจ เธอจึงเปิดอินเตอร์เน็ตเข้าไปหาชื่อของเขา เพียงพิมพ์แค่ชื่อไม่ทันได้พิมพ์นามสกุล รูปของเขาก็โชว์หราเต็มจอ ตึกบ้าน คอนโด โครงการเป็นหมื่นล้าน ราวกับจะต้องเรียกเขาว่าเจ้าอสังหาริมทรัพย์!“.....!!”พะแพงในตอนนี้คือช็อคไปแล้ว เธอนั่งตัวแข็งทื่อ หากแต่นิ้วนั้นกำลังเลื่อนดูไปเรื่อยๆ ภาพเขายืนโดดเด่นรวมกลุ่มอยู่กับนักธุรกิจด้วยกัน ส่วนใหญ่ผู้คนเหล่านั้นต่างมีดีกรีเป็นคนชั้นสูง ซึ่งไม่ใช่เจ้าของก็เป็นทายาทอย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่เพียงแค่นั้น บางรูปเขายังถ่ายกับดารา หรือนักร้องชื่อดังด้วย ในขณะบางคนเธอยังเป็นแฟนค
คนตัวเล็กถูกกระชากออกจากโซฟาเกือบหัวคะมำ โดยร่างสูงที่อยู่ๆ ก็ทนไม่ไหวขึ้นมา เขาต้องการจะพาเธอไปที่พัก ซึ่งอยู่ห่างจากที่นี่ไม่มาก หากแต่จังหวะนั้นเหนือเมฆผลักประตูเข้ามาซะก่อน และนั่นทำเขาหัวเสียไม่น้อย“เฮ้ยๆ จะพาน้องเขาไปไหน”“โรงแรม..”อีกมือที่ว่างดันคนยืนขวางประตูให้ถอยห่าง ทว่ากลับต้องฉุนอีกครั้งเมื่อถูกเขายื้อแขนเอาไว้ และไม่มีทีท่าจะว่าจะหลบไป แรงนั้นกระชากคนตัวเล็กจังหวะพุ่งไปข้างหน้าแต่ถูกกระชากกลับมาข้างหลังถึงกับเวียนหัว โชคดีที่เขาคว้าทันจังหวะหันไปเห็น และกลัวเธอจะล้มจึงโอบเอวไว้“ใจเย็นก่อนไอ้เสือ” ทั้งที่รู้ยิ่งเมาเพื่อนของเขาจะยิ่งหัวร้อน การไปขวางทางกันแบบนั้นมีแต่เสี่ยงจะเสียชีวิต หากแต่จำเป็นต้องทำเพราะความเป็นห่วง ดูท่าเพื่อนเขาเองก็เมาไม่เบา ถึงได้ขาดสติลากเด็กออกจากร้านอย่างประเจิดประเจ้อแบบนี้ “ใจเย็นแล้วฟังกูก่อน มึงจะลากน้องเขาไปแบบนี้ไม่ได้ มึงดูสภาพน้องเขาด้วย กล้องวงจรปิดเต็มไปหมด อยากโดนข่าวดราม่ารึไง เรามันนักธุรกิจดังนะโว้ย”คราวนี้เขานิ่ง ประหนึ่งกำลังฉุกคิดตามคำเตือนเพื่อน หันมองคนตัวเล็ก ที่ขนาดทรงตัวยืนยังต้องใช้การบังคับจากเขาเลย และเมื่อเห็นด้วยร
เวลาผ่านไปเรื่อยๆ ท่ามกลางเสียงเพลงในผับ แต่ดังอยู่ภายนอก มีแค่เสียงเบสเท่านั้นที่เล็ดลอดเข้ามาได้ ทั้งห้องมีแค่พวกเขาสองคน อีกสองคนไม่อยู่แล้ว พวกเขาพากันหายไปตั้งแต่หนึ่งชั่วโมงก่อน ไม่มีวี่แววจะกลับมา นานจนเธอแอบคิดติดตลกว่าบางทีพวกเขาอาจจะไปเข้าห้องน้ำกันที่บ้านคนตัวเล็กมองแก้วช็อตที่วางว่างเปล่าเรียงกันอยู่สองแก้วด้วยดวงตาพร่ามัว ส่วนในมือถืออยู่อีกแก้วหนึ่ง และถ้ากระดกเข้าไปอีกคงจะเป็นแก้วที่สาม และแน่นอนเมื่อเหลือบไปเห็นคนข้างกายนั่งเฉยไม่ไหวติง เธอจึงกระดกรวดเดียวหมด ทว่าทันทีที่หมด แก้วใบนั้นก็ถูกฉกไปด้วยมือของเขา“เต็มที่ได้แค่นี้” เสียงแหบพร่ากระซิบข้างหู “มากกว่านี้เดี๋ยวมันจะไม่สนุก”ไม่พูดเปล่า แต่มือใหญ่ที่ไม่ได้สากมากถูกยกมาวางไว้บนต้นขาเนียนด้วย พลางใช้ท้องนิ้วหัวแม่มือกดลงมาเบาๆ สลับกับการลูบไล้ไปมา และไม่รู้เพราะอะไรเธอถึงปล่อยให้เขาทำเช่นนั้นไม่คิดจะปัดป่ายหรือเพราะเธอเมาแล้วทีแรกกะจะดื่มแค่แก้วเดียวตามแผนที่คิดไว้ เพราะเงินแค่นั้นสามารถเอาตัวรอดได้หลังลาออกจากงาน และระหว่างหางานใหม่ แต่ด้วยแรงกดดันจากการถูกคะยั้นคะยอย่างเหนือชั้นจนเกินไป ทำให้เธอปฏิเสธไม่ลง“ใค
เอาเข้าจริงเธอก็เกร็งไม่ใช่น้อย เมื่อมาอยู่ตรงจุดนี้ จุดที่ตอบตกลงเขาไปแล้ว ร่างบางยืนประจันหน้ากับเขา ด้วยชุดเดรสสั้นสีแดงที่ระดับของชายผ้าพ้นเข่ามาคืบนึง เธอจำได้ชุดนี้ยิ้มเคยใส่ และเธอก็เอ่ยปากชมว่าหล่อนสวย แต่หารู้ไม่เมื่อมาอยู่บนตัวเธอกลับสวยยิ่งกว่า มันทั้งเซ็กซี่และเย้ายวนในเวลาเดียวกันท่ามกลางการมองอยู่ของชายชุดดำที่แค่นั่งเฉยๆ ยังดูน่าค้นหา เขามองเธอนับตั้งแต่เดินเข้ามา มองตั้งแต่วินาทีแรกที่สบตากัน ด้วยสายตานี้ แววตานี้ไม่เปลี่ยนแปลง ซึ่งแน่นอนตอนนี้ที่เธอได้มายืนอยู่ตรงหน้าเขา ไม่ว่าด้วยกลอุบายใดของใคร นั่นหมายความว่าไปเปิดทางให้เขาได้เดินเข้ามาแล้วกึ่งหนึ่ง“จะ จะให้นั่งตรงไหนคะ”เสี่ยคิระเลิกคิ้วสูง คำถามของเธอราวกับปลุกเขาตื่นจากภวังค์ ขณะจ้องมองคนตรงหน้าแบบตาไม่วางตา เธอสวยมาก สวยชนิดที่ว่าไม่สามารถละสายตาไปไหนได้“ตรงนี้ก็ได้”มือหนาตบเบาะตรงที่ว่างข้างๆ พลางกระเถิบไปฝั่งซ้ายที่มีลลิสานั่งอยู่และหล่อนก็กระเถิบหลีกให้ตามสัญชาตญาณไปประชิดกับอีกคน ปลุกให้อีกคนหลุดจากการเหม่อลอยตื่นตามกัน ละสายตาจากการมองแก้วบรั่นดีในมือมาสนใจพวกเขาทั้งหมด แต่พอสายตาไปปะทะกับคนคู่นั้น ถึง
พะแพงเพิ่งเข้าใจถึงความรู้สึกคอแห้ง กลืนก้อนแข็งติดคอก็คราวนี้ เป็นสิ่งที่มาพร้อมๆ กับความตกใจ และอีกมากมายที่ไม่สามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้ ใบหน้าของเธอร้อนวูบขณะสบตากับเขา ร่างสูงในชุดดำทั้งชุดจ้องเขม็งมา ราวกับว่าเขานั้นนั่งรออยู่ก่อนแล้ว“พี่ยิ้ม?”คนตัวเล็กหันไปเค้นเสียงใส่รุ่นพี่ วินาทีแรกยังคงมองหล่อนในแง่ดีอยู่ คิดว่าไม่รู้เรื่องราว แต่พอได้ยินประโยคนั้นจากปากของเกียรติ แทบจะล้มทั้งยืน“ยิ้มไปพูดอีท่าไหนน้องถึงยอมมา” เขาทำราวกับเป็นเรื่องน่าขัน พลันหันไปทางอีกคนที่เอาแต่นั่งทำหน้าเรียบ แต่ไม่คิดจะละสายตาออกไปจากเธอ “ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวก่อนนะครับเสี่ย”“จะรีบไปไหน อยู่ฉลองวันเกิดด้วยกันก่อน”เห็นได้ชัดว่าเกียรติหน้าถอดสี เมื่อไม่ได้รับการอนุญาตจากเขา แต่ขอให้อยู่ต่อเพื่อฉลองวันเกิดให้กับเพื่อน ความคิดที่ต้องการหลบหลีกไม่กล้าเผชิญหน้ากับพะแพงจึงหายไปทันที เสมือนคิระรู้ ถึงได้ยกยิ้มริมฝีปากหยัก จังหวะรินบรั่นดีเพิ่มในแก้วตัวเองอย่างพอใจ“จะไปบอกเด็กให้นำค็อกเทลชุดพิเศษสำหรับวันเกิดมาให้น่ะครับ”“ไม่ต้องหรอก กูกับเพื่อนไม่ดื่มค็อกเทล”จังหวะนั้นถ้าสังเกตจะเห็นว่าลลิสาเพื่อนของเข
เกียรติชะลอรถช้าลงขณะถึงที่หมายและกำลังเลี้ยวเข้าซองจอดที่ประจำของตัวเอง หน้าจอโทรศัพท์กะพริบถี่แจ้งหมายเลขของคนคุ้นเคย ที่พักนี้โทรบ่อยซะจนน่าใจหาย เริ่มเป็นห่วงชีวิตของตัวเองและกังวลมากขึ้น ถึงชะตากรรมที่เสี่ยงขาดสะบั้นในไม่ช้านี้ทันทีที่เขาเห็นชื่อถึงกับใช้เกียร์ถอยไม่ถูก กว่าจะหาองศาจอดให้เรียบร้อย สายนั้นก็ถูกตัดไปเองโดยอัตโนมัติ ก่อนจะโทรกลับในเวลาไล่เลี่ยกัน“ขอโทษทีครับคุณปุณ ผมกำลังจอดรถถึงร้านพอดี มีอะไรให้ผมรับใช้หรือครับ”(เปล่า แค่จะบอกว่านายกูอยู่ร้านมึง)ได้ยินอย่างนั้นเจ้าของร้านถึงกับหูดับทันที พร้อมใบหน้าร้อนวูบ ใจสั่นอัตโนมัติราวกับคนหิวจัดแต่ไม่มีเวลากิน“ครับ? ตอนนี้นะเหรอครับ”(ใช่ นายพาเพื่อนไปจัดงานวันเกิด กูรอรับอยู่ข้างนอก ส่วนข้างในยกให้เป็นหน้าที่ของมึง ดูแลดีๆ ล่ะ ถ้าเป็นไปได้อย่าขัดใจนาย เขาเพิ่งจะทะเลาะกับพี่ชายมา)นี่ไม่ใช่การขู่ แต่เป็นการบอกกล่าวและตักเตือน ประหนึ่งว่าอาจเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นได้ ถ้ามีบางอย่างผิดพลาด เผลอทำนายเขาไม่พอใจ เกียรติหน้าเสีย จังหวะนั้นการพาตัวเองไปข้างหน้าแทบจะลอยไปมากกว่าเดิน โชคดีที่ขาไม่สะดุดจนพาตัวเองล้มลงให้ขายขี้หน้าลูก







