Home / แฟนตาซี / เทวา นาคา / ตอนที่ 2 ถิ่นนาคา

Share

ตอนที่ 2 ถิ่นนาคา

last update Huling Na-update: 2025-12-11 20:39:43

ผมยาวพลิ้วไหวตามสายลมที่พัดผ่านยามสองเท้าของฉันเหยียบอยู่ริ่มฝั่งแม่น้ำโขงฝั่งไทยบริเวณที่เรียกว่าลานพญานาค ไม่ไกลจากฉันมีรูปจำลองพญาศรีสัตตนาคราช"

รูปลักษณะเป็นองค์พญานาค 7 เศียร ประทับพักอิริยาบทสงบนิ่งขดลำตัว 3 ชั้น ตอนนี้ฉันอยู่สุดดินแดนไทยอย่างนครพนม สายตาฉันมองไปฝั่งลาว แม่น้ำโขงดูกว้างใหญ่เหมือนทะเล

            “นายเจ้าขา ขยับเท้าออกห่างมาหน่อย พลาดพลั้งตกน้ำไปเดี๋ยวได้ไปเป็นเมียนาคนาคาพอดี”

            เสียงหวานนั้นไม่ใช่ใครที่ไหน คือแม่เทพพรายตานีที่เก็บมาได้เมื่อสองปีก่อนที่บ้านเจ้าโจ้ ฉันเหลียวหลังไปมองเธอก่อนหันสายตามองฝั่งตรงข้าม

            “ดื้อด้านอะไรเยี่ยงนี้ เตือนแล้วยังไม่ว่าที รีบขวนขวายถอยออกมาเร็ว”

            “จริงจังไปได้ ถึงเป็นเมืองพญานาคใช่ว่าจะโผล่ออกมาคว้าใครต่อใครไปเป็นเมีย เขาก็เลือกเหมือนกัน”

            หญิงสาวผู้สวมเครื่องทรงสีทอง สวมรัดเกล้าประดับพลอยนพเก้า ใบหน้าเต็มด้วยออร่าสว่างมองไปยังน้ำโขง เบ้ปากกล่าวอย่างมีเลศนัยออกมาว่า

            “ใช่เจ้าค่ะ เขาเลือกเหมือนกัน ถ้าไม่เคยเกี่ยวพันเขาไม่มาราวี หากแม้นหนีได้ก็หนีให้พ้นเทอญเจอะเจอเมื่อไหร่ไม่แคล้วพันผูกไม่จบไม่สิ้น”

            ฟังแล้วดูแปลกๆ แม่เทพนี้นับวันมีแต่เรื่องชวนสงสัย สองปีมาแล้วที่รับ She เข้าบ้านปากบอกพรรษาหน้าจะจากไป พอเยี่ยงเข้าพรรษามากราบลาจริงๆ แต่ออกพรรษากลับมาไฉไลบอกว่าไม่อาจสิ้นเยื่อขาดใยต่อฉันได้ ต้องตอบแทนบุญคุณ ตอนอยู่บ้านลำปางเป็นเทพพรายตานี ด้วยอานิสงส์การสะสมบุญและการส่งบุญให้ของผู้คนรอบข้างที่ฉันเข้าไปช่วยเหลือภายใต้การชี้นำของแม่เทพเพ็ญประภา ฉันในสายตาผู้คนรอบข้างดูเหมือนเจ้าเข้าทรงแต่ไม่ใช่เพราะฉันไม่ได้รับขันธ์เป็นร่างทรงของผู้ใด ไม่มีครู           บาอาจารย์เปี่ยมล้นวิชาเหมือนอย่างพ่อฉันที่เป็นศิษย์ของพ่อปู่เสือขาว ภายใต้สายขาวรับแก้ของไม่รับทำของ แต่ด้วยวัย 77 ปี พ่อก็ร้างราเก็บตัวเงียบหลังจากย้ายจากพะเยามาอยู่บ้านสร้างใหม่ที่ลำปาง ก็ไม่ปริปากบอกใครว่าแกมีวิชาอาคมและฉันก็ไม่เหมือนแม่ที่เป็นสายมูไล่ขอหวยไปทั่วแต่ได้มาจริงๆ เพราะเทพพรายตานีพาเข้าบ้านก็บนบานชุดใหญ่ถูกทีเดียวติดกัน 5 งวดออกรถมอเตอร์ไซค์ใหม่สีแดงให้ฉันได้ขับขี่ไปทำงานเพราะคันเก่าทรุดโทรม ตอนแรกงงแม่คะยั้นคะยอให้ไปออกรถทำไม ทีแท้เอาฉันไปบนว่าถ้าถูกจะออก “ล้อเกวียนเหล็กใหม่ให้นาย” มันคือมอเตอร์ไซส์ทีแรกฉันไม่ยอมเอาเพราะสิ้นเปลือง ใครจะไปรู้ว่าเทพพรายก็รักหน้าตาไม่อาจซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์คันเก่าฉันไปที่หน่วยงานที่ฉันทำงานได้ อยากให้ฉันได้คันใหม่ร่วมมือกับแม่ฉันดลบันดาลให้ถูกหวยติดกัน พอรู้เรื่องก็สายไปแล้ว ฉันได้มอเตอร์ไซค์ใหม่ภายใต้ชื่อ “กระทิงแดง”

            ไม่นานฉันก็สอบติดราชการโดยการถีบยันทั้งฝ่ามือฝ่าเท้าของหัวหน้าทองสุข และพี่ติ๋ม เพียงเพราะฉันมีโรครุมเร้ากลัวหลุดจากสภาพพนักงานที่การประเมินทุกปี ฉันป่วยบ่อย พ่อกับแม่ก็แก่ชราป่วยทีต้องใช้เงิน หากเป็นข้าราชการใช้สิทธิเบิกตรงได้ อีกอย่างด้วยบารมีที่ช่วยเทพพรายตานีจนสามารถสู่สวรรค์ชั้น   จาตุมหาราชิกาได้สำเร็จจากนั้น She กลับมาหาฉันด้วยข้ออ้างว่าตอบแทนบุญคุณแท้จริงต้องการมาสร้างบุญบารมีจนสามารถเลื่อนขึ้นสู่สวรรค์ดาวดึงส์ มียศตำแหน่งใหม่คือ อัครเทพเพ็ญประภา แต่ฉันต้องมาอยู่จังหวัดที่ไกลที่สุดอย่าง นครพนม จวบจนวันนี้ก็จะครบหนึ่งปี ตามคำขอที่ฉันได้จุดธูปบอกปู่ศรีสัตตนาคราช 

            “พี่สุ กลับกันเถอะแพรวหิวข้าวแล้ว”

            เสียงเรียกนี้คือน้องที่ทำงานราชการในหน่วยสงเคราะห์ที่อยู่บ้านพักเดียวกัน เธอมีรูปร่างเล็ก ตาโตสวยผมยาวประบ่า ชอบใส่เสื้อโชว์สะดือ เป็นคนขอนแก่นแต่ได้บรรจุที่ นครพนม

            “นางนาคีน้อยมาแล้ว ไม่แคล้วนำปัญหามาชวนปวดเศียรเวียนเก้าอยู่ห่างได้ยิ่งดี”

            “แค่เรียกกินข้าวนี้นะ นำปัญหามา”

            แม่เทพเลือกปิดปากเงียบเวลาแพรวมาหาหรือทำอะไรมักชอบพูดเชิงว่าแพรวคือตัวปัญหาตลอดไม่รู้ทำไม ในตอนนี้ฉันไม่เข้าใจแต่ภายหลังฉันจะเข้าว่าทำไมแม่เทพถึงพูดแบบนี้บ่อย ๆ

            “พี่สุ พี่คุยกับเทพเพ็ญประภาอยู่เหรอ”

            ไม่รู้เป็นไงไปอยู่ที่ไหนก็มักมีคนประเภทนี้อยู่รอบตัว แม้จะทำตัวไม่โดดเด่นสุดท้ายก็โดนจับได้ว่าเป็นคนมีเซ็นท์

            “อืม”

            “บ่น เรื่องแพรวอีกรึ”

            “อืม”

            “แม่เทพ แพรวไหว้คะ แม่เทพสบายดีไม๊ค่ะ”

            เทพเพ็ญประภายิ้มร่ายกมือร่ายรำพลางนำพาถ้อยคำสละสลวยว่า

            “จะจรรีไกลห่าง จิตสราญเริงร่านักหนา ต่อไปไม่ขอนำพาพบเจอเจ้าอีกหนา นางนาคีน้อย”

            ใช่แล้ว ฉันกำลังจะจากนครพรมกลับลำปาง ตามคำสัตย์ที่ผู้ใหญ่ท่านหนึ่งให้ฉันไว้ หากช่วยให้ท่านได้ขึ้นเป็นตำแหน่งใหญ่ได้ จะให้ฉันกลับบ้านไปดูแลพ่อแม่

            พานพุ่มดอกบัวหนึ่งคู่บูชาพระธาตุเรื่องนาม พร้อมไหว้ศรีบารมีนาคาเก้าองค์ ก่อนสิ้นตะวันตกดิน ถือศีลก่อนมาได้สมประสงค์

            ไม่เกินครึ่งปีคำสั่งเลื่อนขั้นก็มีมา พร้อมการสั่งโอนย้ายไปช่วยราชการ 6 เดือน ผู้ใหญ่ท่านนั้นช่วยฉันให้กลับบ้านชั่วคราวพร้อมให้คำสัตย์สัญญาว่าจะทำให้ได้อยู่ถาวรภายหลัง ยังไงต้องรีบกลับบ้านไปช่วยพ่อก่อน มีสิ่งผิดปกติ พ่อฉันป่วยหากป่วยธรรมดาฉันคงไม่รีบร้อนกลับ แต่นี้เกิดจากสิ่งที่มองไม่เห็น ลูกสาวของครูพ่อที่ชื่อทอนโทรมาบอกฉันว่าพ่อโดนของ มีฉันคนเดียวที่แก้ไข ฉันต้องรีบไป

            “แม่เทพร่ำลาเธอ อาทิตย์หน้าพี่เหมารถไปขนของกลับบ้าน”

            “แพรวไปด้วยนะ พี่สันที่จะเอารถขนของไปส่งพี่สุ แพรวรู้จัก ขอติดรถไปเที่ยวลำปางด้วยคนน่ะ”

            แม่เทพชะงักงันส่ายหน้าไปมา ออดอ้อนฉันคัดค้านไปให้แพรวไปด้วย

            “อย่านะนาย หากนำนางนาคีน้อยไปสิ่งไม่พึงประสงค์อาจพบเจอ”

            “ช่างเถอะ เจอมาหลายเรื่องอีกสักเรื่องคงไม่เป็นอะไร ไปกินข้าวแล้วกลับบ้านเตรียมแพ็กของ”

            ในคืนวันเพ็ญขณะที่ฉันนอนหลับอยู่บนที่นอนยางพาราปูพื้นชั้นสองของบ้านพัก ได้ปรากฏบุรุษใบหน้างดงามสะอาดตา แต่งตัวด้วยเครื่องทรงสีเงินปรากฎตัวข้างกายฉัน เขาทรุดตัวนั่งชันเข่าข้างหนึ่งเอื้อมมือหมายจะลูบใบหน้าฉัน แต่ก็หยุดการกระทำพลางหันไปทำเสียงดุใส่ร่างที่ปรากฏข้างหลังเขา

            “ข้าบอกเจ้าแล้วมิใช่รึ ให้รีบนำนางกลับใยยังชักพาตัวปัญหาอย่างแพรวพรรณมาใกล้นางอีก”

            “สุริยะกาศ ข้ามีกรรมสัมพันธ์กับนายข้าก็จริง แต่หาได้มีอำนาจขวางกั้นกรรมที่ท่านพยายามปิดกั้นไม่ให้นางพบเจอได้ แม้ภพนี้ไม่พานพบแต่ภพหน้านางก็จำต้องเจอ”

            “ไม่มีภพหน้าอีกแล้ว กลับการมาเป็นมนุษย์ของนาง ข้าจะนำพานางกลับเกตุแก้วมณีจุฬา         ฝึกบำเพ็ญเพียรสู่โสดาบัน ไม่เกิด ไม่เจ็บ เคียงคู่กันตลอดไป”

            “อัครเทพสุริยะกาศ กงกรรมกงเกวียนยังไงก็ไม่อาจหนีพ้นได้ใยท่านต้องพานางหลบหนีอีก”

            “ข้าคือฐานรองรับแก้วมณีรัตนาวดี คู่ครองของนาง”

            “นั้นคือภพเบื้องบนของท่านกับข้า แต่ยามนี้นางคือมนุษย์นามกุสุมา พรเพ็ญ และก่อนหน้าภพของท่าน นางคือผู้ใดท่านรู้แจ้งแก่ใจ”

            “เพราะข้ารู้ ถึงส่งเจ้าให้กลับมาอยู่ข้างกายนางนำนางบำเพ็ญเพียร ช่วยเหลือมนุษย์กลับคืนสู่เกตุแก้วมณีก่อนที่ผู้นั้นจะตื่นขึ้นมา”

            เทพเพ็ญประภาประสานตากับอัครเทพสุริยะกาศ พลางถอนหายใจออกมา

            “ข้าจะทำสุดความสามารถ นำพานางกลับเรือนนายพ่อนายแม่”

            “เจ้าต้องทำให้ได้ หาใช่สุดความสามารถเพียงอย่างเดียว หากพานางกลับเรือนได้สิ้นอายุขัยนาง ข้าจะมารับนางกลับคืน”

            พูดจบหันมามองฉันที่หลับสนิทอีกครา ก่อนเลือนลับหายไป เหลือเพียงเพ็ญประภาไว้ให้ดูแลอารักขาฉัน

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • เทวา นาคา   บทที่ 5 กงกรรมขับเคลื่อน

    ท่ามกลางตึกอำนวยการในศาลากลางจังหวัดลำปาง ผู้คนมากมายต่างเดินไปมา เสียงรอบข้างดังไปตามจังหวะชีวิตประจำวันของคนทำงานราชการ วันนี้วันจันทร์ต้องใส่เครื่องแบบราชการสีกากี พอฉันสแกนนิ้วแล้ว เสียงสวัสดีกับไม่มีออกจากปากของคนในห้องงานบริหาร ฉันเงยหน้ามองทุกคนในห้องกวาดสายตาไปรอบๆ มีแต่คนหลบสายตาฉัน “ยุ้ย เกิดเรื่องอะไร” ฉันยิงคำถามไปยังหัวหน้าฝ่ายบริหาร คนตัวเล็กกว่าฉัน ผอมบาง ยุ้ยไม่ตอบส่งสายตาแบบสังเวทให้ฉัน ก่อนจะเดินไปไปหยิบแฟ้มที่มีเอกสารอยู่ด้านใน “พี่เอาไปอ่านเองเถอะ” ฉันถือแฟ้มเดินเข้าห้องงานบัญชี แผนกฉัน คนรูปร่างสันทัด อวบอิ่ม ผมยาวประบ่าคือพี่ติ้มมองแฟ้มในมือฉัน “อะไร” ฉันไม่ตอบแต่เปิดแฟ้มหยิบเอกสารมาอ่าน ทุกบรรทัดทุกตัวอักษรทำให้ฉันเคร่งเครียดระคนความโกรธ จนเผลอขยำกระดาษ พี่ติ๋มจับมือฉันแกะเอากระดาษออกมาอ่าน “หนังสือคำสั่งนิ ให้นางสาวจารุวรรณ วงศ์วาน ลงในหน่อยงานเรา แล้วสุล่ะ” ใช่หนังสือโยกย้ายไม่มีชื่อฉัน สัญญาบ้าๆ ที่ผู้ใหญ่บอกฉันให้มาช่วยราชการการ 6 เดือน แล้วจะให้ลงตำแหน่งจริง ตอน

  • เทวา นาคา   ตอนที่ 4 เปิดประตูกรรม

    เอวังวันทา อาระหังมังสา วิทาเทมิ อุทะทามา เวระมะสิ กุฑะมะกะ สองมือกูถือง้าว สองเท้าเหยียบอาทิตย์ พิชิตทำลาย พยัคฆ์สาอาสัญจงบรรลัยสิ้นพัน ขอถอดถอนมนต์ตราสิ้นคณาฤทธิ์มนตราตลอดไปเอ๋ย พรู แรม 15 ค่ำ เดือน 12 มันคือวันพระเดือนดับ อาคมถูกเป่าออกไปโดยปูเสือขาวในร่างของฉันที่อยู่ในชุดขาวนุ่งโจงกระเบน ฉันนั่งขัดสมาธิหยดเทียนลงขันเงิน หรือสลุงเงิน ดอกเทียนที่หยดลงน้ำไม่มีแตกแสดงถึงการสัมฤทธิ์ในมนต์ตราถอดถอนอาคมสมิงพรายแดงผู้ซึ่งเคยเป็นศิษย์สำนักเดียวกับพ่อของฉัน สองมือฉันจับมีดหมอถอดออกจากด้าม ก่อนทำพิธีตัดรูปปั้นเสือดินเหนียวตากแห้งที่พี่ทอนลูกสาวผู้เป็นอาจารย์ของพ่อฉันปั้นให้ตามคำสั่งของปูเสือขาวที่ผ่านร่างฉันบอกกล่าวเขา มีดเจ็ดป่าช้าลงอาคมตัดหัวเสือ ร่ายมนต์ตราถลกหนัง พอวางมีดจับเทียนส่องจึงรับรู้ได้ว่า เสือสมิงสิ้นฤทธิ์แล้วเหลือเพียงความเป็นคนธรรมดาทีไม่มีวิธีอาคม “อีหนูมึงให้กูใช้ร่างเพื่อช่วยลูกหลานเนรคุณหน่อยเถอะ ร่างมึงสะอาด จิตใจเมตตาเป็นแรงอำนาจแห่งการไว้ชีวิตผู้ที่คิดใช้ไสยเวชทำร้ายพ่อมึง

  • เทวา นาคา    ตอนที่ 3 คำเตือน

    ลานพญานาค เช้าของการเดินทางกลับบ้านฉันหยิบธูป 16 ดอก บอกกล่าวปู่ศรีสัตตนาคราช ทำไมต้อง 16 ดอก ไม่ใช่ไหว้ 16 ชั้นฟ้า แต่คนที่นี้เชื่อว่าใครที่เกิดวันพฤหัสบดีต้องจุดธูป 16 ดอกเพราะนี้คือพญานาคประจำวันเกิดวันพฤหัสบดี คือ พญาศรีสัตตนาคราช เป็นพญานาคที่มี 7 เศียร และเป็นพญานาคราชประจำลุ่มแม่น้ำโขง ความเชื่อคือผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดีมีพญานาคองค์นี้คอยปกป้องคุ้มครอง และการบูชาจะช่วยเสริมดวงชะตา ตอนมาพ่อของฉันกราบไหว้ท่านฝากฝั่งฉันให้อยู่ที่นี้ ตอนนี้จะกลับก็ต้องบอกกล่าวเขาเรียกว่าไปลามาไหว้ ควันธูปลวยลิ้วปากฉันสวดบทไหว้ที่เจ้าหน้าที่จัดเตรียมไว้ตรงหน้า ก่อนจะปักธูปลงกระถางใหญ่ ก้มกราบ พอเงยหน้าขึ้นปรากฎร่างชายชราในชุดขาว ผอม ม้วยผมอย่างกับพราหมณ์ ยิ้มให้ฉัน ก่อนหันไปทางรถพี่สันที่บรรทุกข้าวของฉันอยู่ สายตาจดจ้องไปยังเพ็ญประภาที่ไม่ยอมลงรถมาด้วยทั้งสองประสานสายตาก่อนปู่จะกล่าวออกมาด้วยถ้อยคำอันน่าฉงนว่า “นี้คือแดนดินถิ่นนาคา หากแม้นไม่ไหว้สาข้าก็ขออย่าขัดขวางผู้ผูกกรรมร่วมชาติกับสายเลือดแห่งพญานาคานาคี” “วิถีแห่งกรรมหมุนเวียน ข้ามิอาจขัดได้แต่หน้าที่คุ้มกันภัยไม่อาจวาง

  • เทวา นาคา   ตอนที่ 2 ถิ่นนาคา

    ผมยาวพลิ้วไหวตามสายลมที่พัดผ่านยามสองเท้าของฉันเหยียบอยู่ริ่มฝั่งแม่น้ำโขงฝั่งไทยบริเวณที่เรียกว่าลานพญานาค ไม่ไกลจากฉันมีรูปจำลองพญาศรีสัตตนาคราช" รูปลักษณะเป็นองค์พญานาค 7 เศียร ประทับพักอิริยาบทสงบนิ่งขดลำตัว 3 ชั้น ตอนนี้ฉันอยู่สุดดินแดนไทยอย่างนครพนม สายตาฉันมองไปฝั่งลาว แม่น้ำโขงดูกว้างใหญ่เหมือนทะเล “นายเจ้าขา ขยับเท้าออกห่างมาหน่อย พลาดพลั้งตกน้ำไปเดี๋ยวได้ไปเป็นเมียนาคนาคาพอดี” เสียงหวานนั้นไม่ใช่ใครที่ไหน คือแม่เทพพรายตานีที่เก็บมาได้เมื่อสองปีก่อนที่บ้านเจ้าโจ้ ฉันเหลียวหลังไปมองเธอก่อนหันสายตามองฝั่งตรงข้าม “ดื้อด้านอะไรเยี่ยงนี้ เตือนแล้วยังไม่ว่าที รีบขวนขวายถอยออกมาเร็ว” “จริงจังไปได้ ถึงเป็นเมืองพญานาคใช่ว่าจะโผล่ออกมาคว้าใครต่อใครไปเป็นเมีย เขาก็เลือกเหมือนกัน” หญิงสาวผู้สวมเครื่องทรงสีทอง สวมรัดเกล้าประดับพลอยนพเก้า ใบหน้าเต็มด้วยออร่าสว่างมองไปยังน้ำโขง เบ้ปากกล่าวอย่างมีเลศนัยออกมาว่า “ใช่เจ้าค่ะ เขาเลือกเหมือนกัน ถ้าไม่เคยเกี่ยวพันเขาไม่มาราวี หากแม้นหนีได้ก็หนีให้พ้นเทอญเจอะเจอเมื่อไหร่ไม่แคล

  • เทวา นาคา   ตอนที่ 1 เทวาพบเจอ

    แสงไฟสีขาวบนเพดานเลื่อนผ่านตามทางเดินที่เตียงเข็นคนไข้ผ่าตัดอย่างฉันไปสู่ห้องผ่าตัดขนาดเล็ก ความหนาวเย็นยะเยือกเข้าสู่ผิวกายแทรกซึมสู่กระดูกข้างใน ฉันได้แต่มองไปรอบๆ เมื่อเตียงเข็นมาหยุดที่ห้องผ่าตัดห้องหนึ่งในโรงพยาบาล พร้อมเสียงพยาบาลบอกว่า “หยุดรอต้องนี้ก่อน เดี๋ยวไปเตรียมเครื่องมือให้คุณหมอก่อนคะ” ใช่ ฉันกำลังจะเข้าสู่การผ่าตัดมดลูกแบบส่องกล้อง มดลูกที่ไม่เคยผ่านการใช้งานใดๆ มาก่อน ตัดทิ้งเหลือแต่รังไข่สองข้างเอาไว้ เพราะมดลูกโตและหมอสูติวินิจฉัยว่าเกินเยียวยาต้องตัดทิ้ง ทำให้ฉันเป็นสาวพรหมจรรย์ตลอดชีพ 37 ปีมานี้สูญสิ้นทุกอย่างไม่แม้แต่คำว่าแม่ ฉันก็ไม่อาจได้รับโอกาสเป็นได้ ตลกสิ้นดีรู้งี้ฉันน่าจะหัดอ่อยเหยื่อกินตับผู้ชายเล่นตั้งแต่แตกเนื้อสาว ไม่ปล่อยให้ตัวเองเฉ่ามาถึงตอนนี้ เฮ้ย...ได้แต่คิดทำไม่ได้เพราะฉันเกิดมาไม่เหมือนชาวบ้าน เพราะอะไรเหรอ ก็เพราะฉันเป็นคนที่เกิดมามีดวงตาที่สามตั้งแต่เกิด ไอ้ที่ชาวบ้านมองไม่เห็นกันหรือที่เรียกกันง่ายๆ ว่า ผี นั้นแหละ ฉันสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเนื้อ ไม่ใช่แค่ผี พระภูมิเจ้าที่ นางไม้ นางตะเคียน นางตานี เห็น

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status