Share

ตอนที่ 5

last update Last Updated: 2025-09-25 14:43:31

หลายวันผ่านไปหลังจากพบกันที่ตลาดเนี่ยฮุ่ยเฟยยังไม่รู้ว่า…ทุกย่างก้าวของนางกำลังถูกจับตา

แต่ไม่ใช่ด้วยเจตนาร้าย

 

ในค่ำคืนที่อากาศแห้งเย็น เรือนหลังเล็กที่อยู่ปลายสุดของจวนเนี่ยเงียบงัน แสงตะเกียงเล่มเดียวแทบไม่อาจไล่ความหนาวของฤดูใบไม้ผลิได้พอ

 

เสื้อผ้าของเนี่ยฮุ่ยเฟยขาดแหว่งที่แขนเสื้อ นอกจากเสี่ยวจูแล้วก็ไม่มีบ่าวรับใช้อีก นางจึงเลือกที่จะทำเอง แม้ว่าจะเย็บผ้าไม่ถนัดนักก็ตาม

 

เงาของนางสะท้อนอยู่บนหน้าต่างกระดาษน้ำมัน แสดงถึงร่างบางที่พยายามเย็บปะเสื้อผ้าเงียบ ๆ ใต้แสงตะเกียง

 

หากแต่สิ่งที่นางไม่รู้คือ มีเงาหนึ่งยืนอยู่บนหลังคาเรือนในความมืดมิดนานนับชั่วยาม

 

หลิงเซ่าเทียนยืนกอดอก จ้องมองแสงไฟในเรือนน้อยนั้นไม่วางตาไม่ใช่เพราะเขาอยากสอดรู้

ไม่ใช่เพราะเขารู้สึกเวทนา แต่เพราะ

 

เนี่ยฮุ่ยเฟยนั้น…แม้จะอยู่เพียงลำพัง ทว่าในแววตาของนางไม่เคยอ้อนวอนสิ่งใดจากโลกเหมือนกับมารดาของนาง

 

เขาเหลือบมองไปทางทิศตะวันตกของจวน ที่เรือนฮูหยินรองและพี่น้องต่างแม่พักอยู่มีเสียงหัวเราะจากงานเลี้ยงหลุดลอดมาเบา ๆ หลิงเซ่าเทียนหันหลังจากหลังคาเรือน และหายตัวไปในความมืดยามราตรี

 

 

แสงอรุณลอดม่านกระดาษสีนวลในเรือนของเนี่ยฮุ่ยเฟย ร่างบางในชุดผ้าฝ้ายสีหม่นแต่งกายเรียบร้อยแล้วตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่าง นางเงยหน้ามองกระจกทองเหลือง ใบหน้าที่ไม่เคยแต่งเติมใด ๆ เหมือนคนทั่วไปในเรือนใหญ่

 

นางถือกล่องไม้งาช้างใบเล็ก เดินตรงไปยัง “เรือนหลัก” ของบิดา

 

ขณะผ่านสวนในจวน เสียงหัวเราะของบรรดาบุตรีบุตรชายจากฟู่ซื่อลอยมาเป็นระยะ แต่นางไม่แม้แต่จะชะลอฝีเท้า

 

หน้าประตูเรือนหลัก มีเพียงบ่าวเฝ้าประตูยืนค้อมศีรษะอยู่

 

“ข้ามาพบท่านพ่อ” นางกล่าวเรียบ ๆ

 

บ่าวรับคำแล้วหายตัวเข้าไป ไม่ถึงครู่ก็กลับมาพยักหน้าช้า ๆ

 

“เชิญด้านในขอรับ …”

 

 

ภายในเรือนเนี่ยหย่งซาน นั่งอยู่หลังโต๊ะทำงาน เขาไม่เงยหน้าขึ้นด้วยซ้ำเมื่อบุตรสาวคนโตยืนอยู่ตรงหน้า

 

“มีเรื่องอะไร?” เสียงเรียบเย็นถามขึ้น ขณะมือยังพลิกกระดาษไม่หยุด

 

เนี่ยฮุ่ยเฟยยกมือขึ้นคารวะ “ลูกอยากขออนุญาตออกไปตลาดเจ้าค่ะ”

 

ปลายนิ้วที่กำลังถือพู่กันของเนี่ยซื่อเหวินหยุดไปเล็กน้อย ก่อนเอ่ยขึ้นโดยไม่แยแส

 

“ไปตลาด เมื่อหลายวันก่อน เจ้าก็เพิ่งจะออกไป?”

 

“มีของใช้ส่วนตัวบ้างประการที่ต้องออกไปซื้อเจ้าค่ะ…และ…ลูกอยากแวะดูร้านผ้าทางทิศใต้ด้วย”

 

“ร้านผ้า?” เขาเลิกคิ้ว “หรือว่าคิดจะทำกิจการ?” น้ำเสียงเจือเย้ยบางเบา แฝงความประชดลึก ๆ

 

“ไม่ใช่เจ้าค่ะ ลูกเพียงอยากดูเฉย ๆ เพราะ…ที่นั่นเคยเป็นร้านค้าของท่านแม่มาก่อน จึงอยากเห็นอีกสักครั้ง”

 

เนี่ยหย่งซานละสายตาจากพู่กันเป็นครั้งแรก สายตานั้นเย็นชาราวน้ำแข็ง แต่ก็ไม่ถึงกับโกรธเกรี้ยว

 

“เจ้าจะไปก็ไปเถิด แต่ให้บ่าวคนหนึ่งติดตามไปด้วย และอย่าทำตัวแปลกประหลาดให้ผู้คนครหาอีก”

 

“เจ้าค่ะ…ท่านพ่อ”

 

 

สายลมกลางวันพัดพาเอากลิ่นเกาลัดคั่วและน้ำเชื่อมเข้ามาปะทะจมูกของผู้คนในตลาด เมืองลั่วหลิงช่วงยามซื่อ คึกคักเต็มไปด้วยพ่อค้าและคนเดินทาง

 

เนี่ยฮุ่ยเฟยเดินอย่างเงียบเชียบในชุดเรียบง่ายข้างกายมีบ่าวคนหนึ่งที่บิดาส่งมาคอยเดินตามห่าง ๆ นางไม่สนใจร้านของชำหรืออาภรณ์ลวดลายงามตรงทางเดินเหมือนสตรีทั่วไป สายตาของนางมีเป้าหมายเพียงหนึ่งเดียว ร้านผ้าทางทิศใต้ ร้านที่เคยเป็นของมารดาเมื่อสิบกว่าปีก่อน

 

ขณะเดินมาถึงตรงนั้น หัวใจนางเต้นแผ่ว มือที่กำชายเสื้อแน่น เริ่มเปียกเหงื่ออย่างไม่รู้ตัว

 

ป้ายร้านเดิมถูกเปลี่ยนชื่อเป็น “หงฟางผ้าไหม” ตัวอักษรสีแดงสดทาทับชื่อเก่าที่นางเคยเห็นบิดาเขียนไว้ให้มารดา

บรรยากาศภายในคึกคักด้วยลูกค้าไม่มีแม้แต่เงาของอดีต นางยืนอยู่ตรงข้ามร้าน มองผ่านผู้คนราวกับมองผ่านม่านหมอกในอดีต กลิ่นหอมจากผ้าไหมใหม่ไม่อาจกลบกลิ่นดอกเหมยแห้งที่มารดาเคยชอบแขวนไว้หน้าร้าน

 

“ที่นี่…เคยเป็นของครอบครัวเจ้าหรือ?” เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นด้านข้างนางหันขวับ พบใบหน้าคมเข้มในชุดนักเดินทางยืนมองร้านเดียวกันกับนาง

 

“…ท่านรู้ได้อย่างไร?” นางถามเบา ๆ

 

“ไม่มีใครไม่รู้ แล้วเหตุใดเจ้าถึงมาลอบมองแบบนี้ ทำไมถึงไม่เข้าไปด้านในร้าน “

 

เนี่ยฮุ่ยเฟยถอนหายใจ. “ข้าเพียงอยากเห็นมัน…อีกครั้ง ไม่ได้อยากซื้อสิ่งใด”

 

หลิงเซ่าเทียนเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนกล่าวเสียงเบา “บางสิ่งอาจถูกช่วงชิงไปจากมือเรา

แต่ความทรงจำ…ยังคงเป็นของเจ้าเสมอ”

 

 

หลังได้ยินคำพูดของเขา เนี่ยฮุ่ยเฟยมองเขาครู่หนึ่ง ดวงตาสีดำเข้มของชายหนุ่มแฝงความแน่วแน่ และอ่อนโยนในคราวเดียวกัน

 

“…อยากจิบชาหรือไม่?” เขาเอ่ยขึ้นเบา ๆ ราวกระซิบแต่นางก็ไม่ปฏิเสธ และเดินตามเขาไปที่โรงเตี๊ยมเงียบๆ

 

 

โรงเตี๊ยม “เมิ่งหลิ่วชุน” ตั้งอยู่ใกล้ประตูเมืองตะวันตก ภายนอกดูเรียบง่าย ไม่หวือหวา แต่กลับมีแขกประจำเข้าออกอย่างไม่ขาดสาย

 

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เนี่ยฮุ่ยเฟย ดอกไม้ไร้รากที่เบ่งบานอีกครา   ตอนจบ

    ราวกับสวรรค์เบิกฟ้า ลมหายใจในห้องกลับมาไหลเวียนอีกครั้ง หมอตำแยชูเด็กทารกเพศหญิงขึ้น เสียงร้องดังใสแจ๋วดังขึ้นสองสามครั้ง ก่อนเงียบลงเมื่อนางถูกห่อตัวด้วยผ้าขาวสะอาดก่อนจะอุ้มออกมาส่งมอบให้หลิงเว่าเทียนที่ด้านนอก “เป็นคุณหนูน้อยเจ้าค่ะ! สมบูรณ์แข็งแรง!” หลิงเซ่าเทียนมองภาพตรงหน้าด้วยสายตาที่เปี่ยมด้วยความรู้สึกเหนือคำบรรยาย เขารับบุตรีตัวน้อยไว้ในอ้อมแขนเป็นคนแรก ก่อนส่งให้นางผู้เป็นมารดา เนี่ยฮุ่ยเฟยมองใบหน้ากลมมนเล็กจิ๋วของลูก ดวงตาคู่นั้นยังปิดสนิท แต่กลับรู้สึกราวกับสัมผัสถึงดวงวิญญาณเล็ก ๆ ที่มาเติมเต็มหัวใจของนาง “อวี้เหม่ย…ขอต้อนรับเจ้ามาสู่โลกใบนี้…” นางกล่าวด้วยเสียงสั่น เฝ้ามองลูกอย่างหลงใหล ดวงตาคู่นั้นพร่าเลือนด้วยหยาดน้ำใส หลิงเซ่าเทียนก้มลงจุมพิตเบา ๆ ที่หน้าผากภรรยา “เจ้าคือสตรีที่เก่งที่สุดในโลก…” เสียงลมหายใจของทารกน้อยดังปนอยู่กับเสียงเทียนที่ยังคงลุกไหม้แผ่วเบาในห้อง ทั้งห

  • เนี่ยฮุ่ยเฟย ดอกไม้ไร้รากที่เบ่งบานอีกครา   ตอนที่ 24

    หลังยืนยันการตั้งครรภ์ การเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ ก็เริ่มเกิดขึ้น ในครัวใหญ่ ปรับเมนูอาหารใหม่สำหรับสตรีมีครรภ์ เน้นอาหารอ่อน ย่อยง่าย และมีคุณค่าทางโภชนาการ และในเรือนก็ได้รับการตกแต่งใหม่เพิ่มความโปร่งและเงียบสงบ ลดเสียงรบกวน เพื่อให้เนี่ยฮุ่ยเฟยพักผ่อนได้อย่างเต็มที่แม้แต่ในห้องของหลิงจิ่งหาน ถูกแยกออกเป็นห้องเล็ก ๆ ข้างเรือนใหญ่ เพื่อให้พี่เลี้ยงดูแลอย่างใกล้ชิด โดยยังให้เด็กน้อยมาเล่นกับมารดาได้ตามเวลา หลิงจิ่งหานที่ยังพูดไม่คล่องนัก มักยื่นของเล่นให้มารดา บางครั้งก็นำตุ๊กตาผ้าไปวางบนหน้าท้องนางแล้วหัวเราะเสียงใส “เจ้าอยากให้เขาเล่นกับเจ้าใช่หรือไม่?” เนี่ยฮุ่ยเฟยหัวเราะเบา ๆ ขณะลูบผมลูกชาย“อีกไม่นานเจ้าก็จะได้เป็นพี่ชายแล้วนะ…” ในคืนหนึ่ง ขณะทั้งสองสามีภรรยนั่งบนศาลาริมสระ แสงจันทร์ทอดเงาจางบนผิวน้ำ เสียงจักจั่นแว่วจากแนวไม้ไผ่ หลิงเซ่าเทียนจ้องมองหน้าท้องของภรรยา ก่อนจะเอ่ยเสียงนุ่ม “ข้

  • เนี่ยฮุ่ยเฟย ดอกไม้ไร้รากที่เบ่งบานอีกครา   ตอนที่ 22

    ฤดูใบไม้ผลิเดินทางเข้าสู่กลางฤดู กลีบดอกเหมยเริ่มปลิดปลิวตามลมอ่อน ๆ ยามเช้า ในจวนหลิงที่เคยวุ่นวาย ตอนนี้กลับเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะเบา ๆ และเสียงเด็กทารกร้องจ๊อกแจ๊ก ยามรุ่งอรุณอาบแสงแดดสีทองที่เลื้อยผ่านม่านบาง เสียงนกร้องเจื้อยแจ้วดังคลอไปกับเสียงทารกน้อยที่กำลังส่งเสียงเรียกผู้เป็นแม่ในแบบของเขา ภายในเรือนกลาง เนี่ยฮุ่ยเฟยนั่งพิงเบาะนิ่มด้วยท่าทางอ่อนโยน บนตักของนางมีเด็กชายตัวน้อยวัยไม่ถึงเดือน เขากำลังดูดนมจากอกของมารดา แก้มเล็ก ๆ แดงปลั่ง มือเล็กกำแน่นจิกชายเสื้อของมารดาไว้แน่น “ค่อย ๆ ดื่มนะลูก… อย่าหายใจเร็ว” เสียงกระซิบของนางอ่อนโยนดั่งเสียงลมพัดในฤดูใบไม้ผลิ ดวงตาของนางจับจ้องใบหน้าของทารกน้อยด้วยแววตาเปี่ยมรัก หลังจากป้อนเสร็จ นางอุ้มลูกขึ้นพาดไหล่ ตบหลังเบา ๆ ให้เรอ เมื่อเสียงเรอดัง “เอิ๊ก” เล็ก ๆ ออกมา นางถึงกับหัวเราะเบา ๆ พลางยิ้มด้วยความเอ็นดู ในขณะนั้นเอง บานประตูบานใหญ่ของเรือนก็เปิดออก เสียงฝีเท้าคุ้นเคยที่หนักแน่นและมั่นคงดังขึ้น

  • เนี่ยฮุ่ยเฟย ดอกไม้ไร้รากที่เบ่งบานอีกครา   ตอนที่ 23

    เมื่อบุตรชายมีอายุครบหนึ่งปี หลิงเซ่าเทียนจึงจัดพิธีเรียกว่า “จัวโจว” โดยวางสิ่งของต่าง ๆ ไว้ให้เด็กเลือก เพื่อทำนายอนาคตในศาลาหลังสวนมีผืนผ้าไหมปูลาดอย่างประณีต บนผ้านั้นมีสิ่งของเรียงราย:• พู่กันและม้วนกระดาษ (หมายถึงนักปราชญ์)• ลูกคิด (หมายถึงพ่อค้า)• ดาบไม้ (หมายถึงนักรบ)• ถุงใส่เงินทอง (หมายถึงความมั่งมี)• หยกก้อนเล็ก (หมายถึงโชคดี) หลิงจิ่งหานถูกอุ้มให้นั่งกลางวงอย่างระมัดระวัง ทุกสายตาจับจ้องขณะเขาเหลือบมองของตรงหน้า สายตาเปล่งประกายอยากรู้ ทันใดนั้น… เขาคลานตรงไปยัง พู่กัน แต่ยังไม่ทันหยิบ ก็มองเห็นลูกคิดไม้ข้าง ๆ จึงเปลี่ยนใจไปหยิบมันขึ้นมาแทน และยิ้มแฉ่งราวพอใจ เสียงหัวเราะดังขึ้นทันที “ฮ่าๆๆ เจ้าตัวแสบของเราจะเป็นพ่อค้าที่เก่งกาจหรือไม่เนี่ย” หลิงเซ่าเทียนหัวเราะ ขณะยกบุตรขึ้นสูงแล้วหมุนเบา ๆ“อย่างไรพ่อก็ขอให้เจ้าเติบโตอย่างมีสติปัญญา สุขภาพแข็งแรงพอ”

  • เนี่ยฮุ่ยเฟย ดอกไม้ไร้รากที่เบ่งบานอีกครา   ตอนที่ 21

    รุ่งเช้าวันถัดมา หลิงเซ่าเทียนส่งอวี๋เหยียนกับสายลับคนสนิทเดินทางไปทางเหนือ เพื่อสืบความเคลื่อนไหวของกลุ่มขุนนางชายแดน อีกกลุ่มหนึ่ง ส่งเข้าเมืองหลวงอย่างลับเพื่อเตรียม ‘พยาน’ ที่เคยถูกปิดปากในอดีต เขาไม่ได้รอการโจมตีเขากำลัง ‘เตรียมสวนกลับ’ ในเวลาและสถานที่ที่เขาเลือกอย่างไรก็ตามภายในโรงน้ำชาร้างนอกประตูเมือง ชายวัยกลางคนสวมชุดหรูหราแต่ปิดหน้าอยู่ในเงา กำลังพูดกับคนรับใช้ข้างกาย “หลิงเซ่าเทียน…ไม่ยอมตายเหมือนพ่อมัน เช่นนั้น…เราคงต้องทำให้มันทรมานเสียก่อนจะตาย”หลายวันต่อมา ขณะที่ท้องฟ้าเมืองหลวงขมุกขมัว ท่ามกลางม่านเมฆสีเทาหนักอึ้งรถม้าคันหนึ่งแล่นเข้าสู่ประตูวังหลวงอย่างเงียบงันภายในรถม้า ไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก “อวี๋เหยียน” มือซ้ายของหลิงเซ่าเทียน และ ชายชรา คนที่หายไปจากแผ่นดินมานานกว่า 10 ปี ผู้เคยเป็น “เจ้ากรมอาลักษณ์” ที่อยู่ใต้คำสั่งของบิดาหลิงเซ่าเทียนเมื่อครั้งยังมีอำนาจ เขาคือหนึ่งในคนไม่กี่คน ที่รู้แผนปลอมเอกสารและใส่ร้ายตระกูลหลิงเมื่อ 13 ปีก่อน และเป็นคนเดียวที่…หนีรอดมาได้ “ข้าคิดว่าจะตายอย่างคนไม่มีชื่อ…แต่ในเมื่อผู้มีบุญคุณยังมีชีวิต ข้าจะขอเอาชีวิตที่เหลือ ทำให้ความ

  • เนี่ยฮุ่ยเฟย ดอกไม้ไร้รากที่เบ่งบานอีกครา   ตอนที่ 20

    ภายในจวนตระกูลหลิงเอง สาวใช้คนหนึ่งที่เพิ่งเข้ามาใหม่ ถูกส่งตัวให้รับหน้าที่ในครัวท่าทางว่าง่าย พูดน้อย ไม่สะดุดตาแม้แต่น้อย นางมักเงียบงันและหลบในเงามืดของเรือนแต่ในคืนหนึ่ง ขณะที่เรือนอาหารเตรียมมื้อเย็นสำหรับฮูหยินตั้งครรภ์ นางแอบใส่ “สิ่งบางอย่าง” ลงในหม้อต้มยาจีนอย่างแผ่วเบาก่อนรีบหายตัวไปจากมุมครัวอย่างไร้ร่องรอยทว่า… เงาร่างหนึ่งยืนอยู่เหนือหลังคาใกล้ศาลาเงียบดวงตาคู่นั้นจับจ้องทุกการเคลื่อนไหว และใบหน้าที่หลบอยู่ภายใต้หน้ากากสีเงิน คือสายลับผู้หนึ่งที่หลิงเซ่าเทียนสั่งให้จับตามองทุกสิ่งในจวนของเขาเอาไว้เมื่อหลิงเซ่าเทียนกลับถึงจวนก่อนเวลา และทันทีที่ก้าวเข้าไปในห้องอาหาร เขากลับหยุดนิ่งทันทีก่อนจะเอ่ยกับซูหรูด้วยเสียงเรียบแต่แฝงความเย็น“นำยาทั้งหมดไปเททิ้ง และนำภาชนะไปให้ท่านหมอตรวจทันที”เนี่ยฮุ่ยเฟยมองเขาอย่างประหลาดใจ หลิงเซ่าเทียนเดินเข้าไปนั่งใกล้ ลูบมือนางเบา ๆ ก่อนเอ่ย“มีคนต้องการให้เจ้ากับลูก…ไม่ได้อยู่ต่อในโลกนี้”เนี่ยฮุ่ยเฟยหน้าซีดลงช้า ๆ นางไม่เอ่ยสิ่งใด เพียงแต่เงียบงัน มือแน่นิ่งในมือเขาหลิงเซ่าเทียนเงยหน้าขึ้น ดวงตาคมดุดันดุจพยัคฆ์ใต้เงาเมฆ“ข้าเคยยอมให้ค

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status