วันนั้นเป็นงานวันเกิดของบิดา และเป็นช่วงที่เขาเรียนจบปริญญาโทกลับมาจากเมืองนอกพอดี เขาเห็นพลอยพัดชาเดินไปเดินมาอยู่ในงานเพียงลำพัง นอกจากหยุดพูดคุยทักทายคนรู้จักเล็กน้อยแล้วเขาก็ไม่เห็นว่าหญิงสาวจะมากับครอบครัวหรือมากับแฟนจึงทำให้เขาสนใจเธอขึ้นมาทันทีตั้งแต่แรกเห็น
เขาแอบมองเธอเงียบ ๆ จนแน่ใจแล้วว่าหญิงสาวมาคนเดียวแน่นอน จึงตั้งใจจะเข้าไปทำความรู้จัก ทว่าหันไปมองอีกที เขาก็เห็นเธอผลุนผลันออกไปจากห้องจัดเลี้ยงราวกับมีเรื่องด่วน เขาแอบตามไปจนเห็นว่าหญิงสาวไปนั่งทรุดอยู่กับพื้นตรงมุมลับตาคนในสภาพที่ไม่สู้ดีนัก จึงรีบปรี่เข้าไปหาเธอทันทีด้วยความตกใจ
แต่หลังจากนั้น เขาก็ได้รู้ว่าพลอยพัดชาเป็นบุตรสาวของเพื่อนสนิทที่ล่วงลับของบิดาเขาเอง อีกทั้งยังซี้ปึ้กกับธีรนาฏ น้องสาวของเขาอีกด้วยเพราะเรียนมัธยมมาด้วยกันตลอดหกปีเต็ม แต่เพราะเขาไปเรียนต่างประเทศตั้งแต่จบมัธยมต้น จึงไม่เคยเจอหน้าพลอยพัดชามาก่อน พอรู้ว่าเป็นคนกันเอง และบิดาของเขาก็เอ็นดูเธอไม่น้อย จึงทำให้เขาปฏิบัติกับเธอไม่ต่างจากน้องสาวคนหนึ่ง
ตลอดหลายปีมานี้ พลอยพัดชาคอยวิ่งตามเขามาตลอด แต่พอเธอหายหน้าไปร่วมครึ่งเดือน เขากลับรู้สึกเหมือนว่าชีวิตขาดอะไรไปสักอย่าง ยิ่งมาเห็นท่าทีไม่แยแส ราวกับไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาของพลอยพัดชา เขาก็ยิ่งรู้สึกว่านี่มันไม่ถูกต้อง ในอกของเขาอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก เขาไม่ชินที่ถูกเธอเมินใส่
เป็นเพราะธามมัวแต่ตกอยู่ในภวังค์ ส่วนพลอยพัดชาก็มัวแต่มองไปทางนั้นทีทางนี้ที จึงไม่ทันเห็นว่าสายตาของนพฤทธิ์นั้นมีแววซุกซนเจ้าเล่ห์บางอย่าง เขามองสองหนุ่มสาวที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามด้วยแววตาเป็นประกาย ก่อนจะกระแอมขึ้นเบา ๆ แล้วถามพลอยพัดชาว่า
“จะว่าไปแล้วคุณพลอยนี่ก็จัดว่าเป็นคนสวยมาก ๆ คนหนึ่งเลยนะครับ ถึงแม้ว่าเคล็ดลับความงามจะอลังการงานสร้างไปหน่อยก็เถอะ แล้วทำไมถึงไม่คิดเป็นดาราเหมือนคุณนิ้งล่ะครับ”
นพฤทธิ์รู้ก่อนหน้านั้นแล้วว่าผู้จัดการส่วนตัวของนลินทราเป็นน้าแท้ ๆ ของพลอยพัดชา แต่เขาก็อยากรู้ว่าทำไมจินตวาตีถึงไม่ดันหลานสาวตัวเองเข้าวงการบันเทิง
“แหม คุณซีขา ถ้าพลอยเป็นดาราจริง ป่านนี้ยายนิ้งไม่ได้เกิดหรอกค่ะ” พลอยพัดชาลอยหน้าลอยตาตอบ
“กล้าพูด...นิ้งต้องขอโทษคุณซีด้วยนะคะที่ไม่ได้บอกไว้ล่วงหน้าว่าเพื่อนของนิ้งคนนี้ค่อนข้างหลงตัวเองไปนิด ยังไงก็ทนฟังหน่อยนะคะ” นลินทราทำสีหน้าขอโทษขอโพยชายหนุ่ม
“ก็คนมันมีดีให้หลง หรือจะเถียง...ความจริงแล้วพลอยเห็นแก่เพื่อนค่ะ ถึงไม่คิดเข้าวงการ เพราะถ้าพลอยเป็นดาราจริง ๆ ละก็ คงแสดงบทอะไรไม่ได้หรอกค่ะนอกจากบทนางร้าย แล้วยายนิ้งจะไปทำมาหากินอะไรล่ะคะคุณซี” เธอพูดจบ ธามก็หัวเราะออกมาเบา ๆ แล้วพูดว่า
“ข้อนี้เห็นด้วย...นางร้าย”
พลอยพัดชาตวัดตาส่งค้อนให้ชายหนุ่มทันทีพลางพูดเสียงลอดไรฟัน
“ใช่ซี้...”
ธามยิ้มอ่อนพลางเลิกคิ้วให้หญิงสาวโดยไม่พูดอะไร พลอยพัดชาจึงสะบัดหน้าไปทางอื่น ขณะที่นพฤทธิ์นั้นแววตายิ่งวาววามอย่างถูกใจ เขาหันไปคุยกับนลินทราอย่างทีเล่นทีจริงว่า
“คุณนิ้งครับ ผมว่าสองคนนี้เขาเหมือนแฟนกันเลยเนอะ ว่าไหม ดูสิครับมีงอนกันด้วย”
นพฤทธิ์ยิ้มแป้น ขณะที่นลินทราได้แต่ยิ้มเจื่อนเพราะกลัวใจเพื่อนจะลุกขึ้นมาเกรี้ยวกราด เธอยังไม่ทันพูดอะไรออกไป พลอยพัดชาก็เป็นฝ่ายแก้ไขความเข้าใจผิดนี้ให้ชายหนุ่มฟังเสียก่อน
“เหมือนตรงไหนคะคุณซี ไม่เหมือนสักหน่อย พลอยนับถือพี่ธามเหมือนพี่ชายแท้ ๆ คนหนึ่งเท่านั้นเองค่ะ พี่ธามก็คิดเหมือนกันนั่นแหละ” เธอเน้นคำว่าพี่ชายอย่างจงใจ ก่อนพูดต่อ
“แต่จะว่าไป คุณซีพูดแบบนี้ออกมา ระวังนะคะจะทำให้ใครบางคนไม่พอใจเข้า เขายิ่งซีเรียสกับเรื่องนี้อยู่” ขณะที่พูด พลอยพัดชาก็เหลือบมองคนข้างตัวไปด้วย
ธามยิ้มบาง ๆ พลางยกเบียร์ขึ้นดื่มอึกหนึ่งอย่างอารมณ์ดี ชายหนุ่มเหมือนไม่มีทีท่าจะโต้แย้งอะไร แต่เจ้าตัวกลับขยับไปนั่งเบียดพลอยพัดชา แขนข้างหนึ่งล้ำเส้นไปกินที่ของหญิงสาวจนต้นแขนชิดกัน
ชายหนุ่มวางแก้วเบียร์ลงแล้วหันไปถามพลอยพัดชาด้วยสีหน้ายิ้ม ๆ ว่า
“ใครหรือที่ไม่พอใจ ทำไมพี่ไม่เห็นรู้เรื่อง มีคนซีเรียสกับเรื่องนี้ด้วยหรือ”
พลอยพัดชาหรี่ตามองเขาด้วยความหมั่นไส้ แล้ววันนั้นแมวที่ไหนไล่เธอให้ไปพ้น ๆ หน้าห้องทำงานของเขากัน ทีวันนี้ดันมาทำเป็นลืมเสียได้ คนนิสัยเสีย!
แล้วนี่อะไรกัน ทำไมเธอต้องมานั่งตัวลีบจนแขนจะฝังเข้าไปในผนังอยู่แล้ว!
“พี่มาเบียดพลอยทำไม” เธอมองเขาตาขวาง แต่คนหน้าตายกลับเลิกคิ้วขึ้นและทำหน้าเหลอหลาราวกับไม่รู้ว่าเธอพูดเรื่องอะไร
“เบียดอะไร เปล่าสักหน่อย พี่ก็นั่งของพี่ดี ๆ” เขาพูดพลางตักกุ้งแม่น้ำใส่จานให้เธอ
“ดีตรงไหน พลอยมีที่นั่งอยู่แค่นี้เองนะ แล้วดูของพี่ซิ” หญิงสาวยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาวัดขนาดของโต๊ะฝั่งที่ตนนั่งอยู่
“เหลวไหล เราก็พูดไปเรื่อย พูดแบบนี้แสดงว่าอยากนั่งตักพี่ละสิ คงไม่ได้หรอกนะพลอย คนเยอะแยะอายเขาเปล่า ๆ และเราก็ไม่ใช่พี่น้องกันสักหน่อย” เขาทำหน้านิ่ง พูดด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อยคล้ายสั่งสอนเธอกลาย ๆ เหมือนตอนทำงานอยู่ที่โรงแรมแล้วเธอขึ้นไปชวนเขากินข้าวกลางวัน
“ใครอยากนั่งตักพี่ พลอยไม่ได้พูดสักหน่อย” เธอเชิดหน้าเถียงเขากลับ
“ไม่พูดแต่ก็คิดใช่ไหมล่ะ พี่รู้หรอกน่า เราน่ะชอบแอบคิดเกินเลยกับพี่”
“คราวนี้ไม่มีเกินเลยแน่นอน พี่สบายใจได้เลยเพราะพลอยเลิกคิดแล้ว” เธอโมโหจนแทบจะพ่นไฟได้
“ให้มันจริงเถอะ แล้วพี่จะรอดู”
เขายิ้มอย่างผู้ที่ถือไพ่เหนือกว่า พลอยพัดชาเห็นแล้วอยากหาอะไรสักอย่างฟาดเขาสักทีให้สมกับความมั่นหน้าของเขา
ขณะที่ทั้งสองคนเถียงกันเบา ๆ อยู่นั้น นลินทราก็มองเพื่อนสนิทด้วยความเป็นห่วงเพราะรู้ดีว่าถึงแม้ภายนอกของพลอยพัดชาจะเหมือนไม่แยแส และโต้ตอบกับธามได้อย่างเป็นปกติ แต่ในใจนั้นคงเจ็บปวดไม่น้อย
เพราะครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่พลอยพัดชางอนจนอีกฝ่ายต้องหาทางทำให้หญิงสาวหายงอนด้วยวิธีการต่าง ๆ นานา ไม่ว่าจะเป็นการซื้อของโปรดมาฝาก หรือการพูดจาเย้าแหย่อย่างที่เห็น และทุกครั้งก็จบลงที่เพื่อนของเธอหายโกรธแต่โดยดีแล้วก็วิ่งตามเขาต่อไป ส่วนธามก็กลับเข้าสู่โหมดปกติคือไม่ใส่ใจพลอยพัดชาเหมือนเคย
ไม่รู้ว่าคราวนี้ พลอยพัดชาจะใจแข็งได้อย่างที่ลั่นวาจาไว้หรือไม่ เพราะหากใจอ่อนอีกก็คงไม่แคล้วต้องเข้าสู่วังวนเดิม ๆ
“คุณนิ้งอย่าห่วงไปเลยครับ ให้พวกเขาปรับความเข้าใจกันนั่นแหละดีแล้ว” นพฤทธิ์หันมาพูดกับเธอเบา ๆ
“ไม่ดีหรอกค่ะ คุณน่ะไม่รู้อะไรซะแล้ว” นลินทราช้อนตาขึ้นแล้วค้อนให้เขาเล็กน้อย
“ผมเป็นเพื่อนธามมานาน ผมรู้ดีที่สุดว่าเขาเป็นคนยังไง ถึงเขาจะไม่แสดงออกอะไรมากมาย แต่ความจริงแล้วเขาแคร์คุณพลอยมากนะครับ”
“คุณเป็นเพื่อนเขา คุณก็ต้องเข้าข้างเขาเป็นธรรมดา แต่นิ้งเป็นเพื่อนพลอย นิ้งทีมพลอยค่ะ” เขาไม่ได้มานั่งฟังเพื่อนสนิทร้องไห้ปรับทุกข์ให้ฟังเหมือนอย่างเธอนี่
“อ้าว แล้วผมล่ะ” เขาพูดยิ้ม ๆ แต่สายตามองอย่างสื่อความนัยจนนลินทราต้องหลบตาวูบ และแก้เก้อด้วยการหยิบค็อกเทลมาดื่ม
มิน่าเล่าชายหนุ่มสองคนนี้ถึงได้เป็นเพื่อนสนิทกัน หน้ามึนด้วยกันทั้งคู่
“พลอย” เขาเรียกเธอเสียงพร่า หญิงสาวจึงแกล้งละเลงลิ้นลงบนกล้วยอีกครั้งพลางตอบรับเบา ๆ“ขา พี่อยากทำงานก็ทำไปสิคะ พลอยก็แค่...หิว”พูดจบเธอก็ส่งกล้วยเข้าปากไปอีกครั้ง และเช่นเคยที่เธอไม่ยอมกัดกินมัน แต่กลับเอาออกมาแล้วส่งเข้าไปใหม่อีกสองสามครั้ง จนในที่สุดธามก็พับหน้าจอคอมพิวเตอร์ลงเพื่อปิดเครื่อง ก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง“อุ๊ย!” สายตาของพลอยพัดชาหยุดอยู่ที่เป้ากางเกงเขาทันที เพราะตอนนี้มันเป็นรูปเป็นร่างจนเห็นเด่นชัด“ตื่นแล้วอะ ทำยังไงดีน้า” หญิงสาวใช้นิ้วชี้ลากเบา ๆ ไปตามรอยที่นูนขึ้นมาอย่างยั่วเย้า“ยั่วเก่งดีนักนะ แล้วอย่ามาบ่นละกันว่าปวดขาปวดเอว”เขาพูดจบก็คว้าสูทมาพาดไว้ที่แขนเพื่อเป็นการบังเป้ากางเกงไปด้วย มืออีกข้างก็โอบเอวภรรยาจอมยั่วพลางกระซิบว่า“กล้วยนี้มันไม่อร่อยหรอก ขึ้นไปกินกล้วยกับพี่บนห้องดีกว่า อร่อยกว่าเยอะแถมกินได้ไม่อั้น”พลอยพัดชายิ้มกริ่มพลางทิ้งกล้วยหอมนั้นลงถังขยะทันที จากนั้นก็เดินตามสามีออกจากห้องทำงานแล้วขึ้นลิฟต์ไปที่ชั้นบนสุ
สองปีต่อมาพลอยพัดชามองเงาตัวเองในกระจกแล้วอดยิ้มไม่ได้ ตอนนี้พุงของเธอป่องมากราวกับลูกโป่งใบใหญ่ เธอตั้งครรภ์ได้แปดเดือนแล้ว อีกไม่นานก็จะได้เจอหน้าสาวน้อยที่อยู่ในพุง หญิงสาวรู้สึกตื่นเต้นเสียจนแทบนับวันถอยหลังรอแต่คนที่ตื่นเต้นที่สุดเห็นจะเป็นคนที่กำลังจะได้เป็นพ่อ เพราะตั้งแต่รู้ว่าเด็กในครรภ์เป็นลูกสาว ธามก็ลงทุนจัดห้องไว้รอรับด้วยตัวเอง ตั้งแต่ทาสีผนังเป็นสีชมพูอ่อน ซื้อเตียงและเปลเจ้าหญิงเอาไว้รอ รวมถึงเสื้อผ้าและข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ ก็ล้วนเป็นสีชมพูและไม่ใช่แค่ธามเท่านั้นที่เตรียมห้องไว้รอบุตรสาวคนแรก จินตวาตีก็เช่นกันที่จัดเตรียมห้องไว้รอต้อนรับหลานสาวคนแรกที่จะได้เรียกตนว่าคุณยายหญิงสาวหยิบโลชั่นสำหรับกันรอยแตกลายมาทาเบา ๆ ที่หน้าท้อง เพราะแม้จะใกล้ได้เป็นคุณแม่แล้ว แต่ร่างกายส่วนอื่นของพลอยพัดชาก็ยังคงสภาพเดิม มีเพียงหน้าอกเท่านั้นที่ขยายใหญ่ขึ้นมาอีกเล็กน้อยเพื่อเป็นแหล่งอาหารของเจ้าตัวเล็กในครรภ์ทว่าตอนนี้คนที่ดูจะคลั่งไคล้กับหน้าอกที่ขยายใหญ่ขึ้นของเธอเป็นพิเศษ เห็นจะเป็นสามีของเธออ้อมกอดอบอุ่นจากด้านหล
พลอยพัดชากับนลินทรายืนมองผืนน้ำสีเขียวมรกตด้วยแววตาระยิบระยับ นานมากแล้วที่ไม่ได้มาเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ เพราะฉะนั้นมาทะเลครั้งนี้พวกเธอจะต้องเก็บเกี่ยวความสุขเอาไว้เติมพลังชีวิตให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้“พี่ธามไปไหนน่ะ” นลินทราถามถึงแฟนหนุ่มของเพื่อน“ไม่รู้สิ เห็นมีโทรศัพท์มาเมื่อกี้แล้วก็เดินไปคุยที่อื่นน่ะ” พลอยพัดชาตอบก่อนจะหันไปโบกมือให้จินตวาตีที่กำลังนั่งทาครีมกันแดดอยู่ในที่ร่ม“น้าจินนี่เอาชุดว่ายน้ำกับพร็อพมาเพียบเลยแก ทั้งหมวกเอย ผ้าคลุมเอย คือนางไม่ได้จะมาเล่นน้ำหรอก แต่จะมาเพื่อถ่ายรูปโดยเฉพาะ เห็นบอกว่าจะเก็บไว้ดูตอนแก่” พลอยพัดชาได้ที จึงแอบเม้าท์ผู้เป็นน้า“ว่าแต่น้าจินนี่ ตัวเองก็เหมือนกันนั่นแหละ อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะยะ มาเที่ยวแค่สี่วันแต่กระเป๋าเดินทางตั้งสองใบ อีบ้า ทำอย่างกับจะมาอยู่เป็นเดือน” นลินทราค้อนให้เพื่อน พลอยพัดชาจึงได้แต่หัวเราะคิกคักทั้งสองสาวเห็นว่าเริ่มมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติออกมาที่ชายหาดกันบ้างแล้วจึงหันไปมองหน้ากัน“ฉันว่าเราไป
“เจ้าค่า...คราวนี้ก็ออกกันยกแผงเลยสิคะ”“ใช่ ตอนนี้ให้ฝ่ายบุคคลของส่วนกลางประกาศรับพนักงานใหม่แล้ว ส่วนคนที่จะไปแทนตำแหน่งของพิษณุกับโชคชัยนั้น พี่ว่าจะลองคุยกับคุณพ่อดูว่าจะคัดเลือกคนเก่ง ๆ ของที่นี่ไปประจำอยู่สาขานั้นดีไหม ถือเป็นการเลื่อนตำแหน่งไปในตัว แล้วพลอยล่ะเป็นไงมั่ง”“ตอนนี้ที่ร้านได้พนักงานใหม่มาเพิ่มแล้วค่ะ หน่วยก้านดีใช้ได้ ไลฟ์สดเก่งด้วยเพราะเขาเคยไลฟ์ขายเสื้อผ้ามาก่อนก็เลยคล่องมากตอนอยู่หน้าจอ ส่วนน้าจินนี่อาการดีขึ้นมากแล้ว เริ่มให้พวกพี่เลี้ยงที่ดูแลศิลปินเข้าไปคุยเรื่องงานโดยตรงในห้องพักได้แล้วค่ะ เพราะจะได้ช่วยฟื้นความจำด้วย”“พูดถึงเรื่องนี้ก็นึกถึงไอ้ก้าว ตอนนี้ฝากขังไว้ที่เรือนจำแล้วละ รอศาลตัดสินโทษ แต่คิดว่าคงติดคุกไม่นานหรอก ไม่กี่ปี แต่เรื่องของเพื่อนพลอยนี่สิ กว่าคดีจะเสร็จสิ้นคงอีกนานเลย น่าจะเป็นปี”พลอยพัดชาได้ยินอย่างนั้นก็รู้ทันทีว่าเขาหมายถึงกนกลดา“ว้าย อย่ามาพูดอย่างนี้นะ นางไม่ใช่เพื่อนพลอยสักหน่อย แค่คนรู้จักยังไม่อยากจะเป็นเลย เท่ากับว่าตอนนี้นางกับพ่อก็ยัง
พลอยพัดชาตื่นขึ้นมาช่วงสายเพียงลำพังบนเตียงนอนหลังใหญ่ ไม่รู้ธามไปไหน แต่เดาว่าเขาคงลงไปออกกำลังกายที่ฟิตเนสของโรงแรมตามเคยหญิงสาวพาร่างที่เมื่อยขบของตนไปเข้าห้องน้ำเพื่ออาบน้ำชำระร่างกาย ครึ่งชั่วโมงถัดมาเธอก็เดินออกจากห้องน้ำด้วยความสดชื่น แต่แล้วสายตาของเธอก็หยุดอยู่ที่กล่องกำมะหยี่สีแดงกล่องใหญ่บนเตียง ดูแล้วเหมือนกล่องใส่เครื่องประดับที่สามารถใส่ได้หลายชิ้นทั้งแหวน สร้อยคอ สร้อยข้อมือ กำไล และต่างหู“หรือว่าจะเป็นกล่องใส่นาฬิกาของพี่ธาม” เธอรู้ว่าธามเป็นคนที่ชอบสะสมนาฬิกา ก็เลยคิดว่าเขาคงหยิบมาเลือกใส่จึงไม่ได้สนใจมันอีก จากนั้นก็เดินไปที่ตู้เสื้อผ้าแล้วหยิบชุดของตนออกมาสวม“จะไม่เปิดดูหน่อยหรือ” เสียงทุ้มดังขึ้นจากหน้าประตูห้องนอน หญิงสาวจึงหันไปมองตามเสียง ธามยืนเปลือยท่อนบน ใส่เพียงกางเกงลำลองอยู่บ้านสบาย ๆ กำลังยืนกอดอกและส่งยิ้มมาให้“กล่องนาฬิกาของพี่ธามรึเปล่าล่ะคะ”“ไม่ใช่ กล่องนั้นของพลอยทั้งกล่องเลย”พลอยพัดชาเบิกตากว้าง “ถามจริง”เธอแขวนชุดไว
“เม็ดสีเหลืองคือพลอยปลอม วิธีสังเกตอย่างง่ายเลยก็คือให้ดูประกายของมันเวลาส่องกับแสง ถ้ามีประกายรุ้งคือปลอมชัวร์ เป็นพลอยที่สังเคราะห์ขึ้นมา และอีกวิธีที่สังเกตด้วยตาเปล่าได้ก็คือให้ดูที่เส้นของพลอย พลอยบางเม็ดมันจะมีเส้นตรงเรียง ๆ กันเป็นแถบให้เห็นกันเลย แต่บางเม็ดเราก็อาจจะต้องใช้ลูปหรือกล้องส่องพระขยายดูข้างในว่ามันมีเส้น ๆ พวกนี้ไหม จำไว้ว่าต้องเป็นเส้นตรงเท่านั้น ถ้ามีเส้นโค้งให้เห็นนั่นคือปลอม และถ้าใช้ลูปส่องดูแล้วมีฟองอากาศหรือรูปร่างกลม ๆ เหมือนโดนัทกระจายอยู่ นั่นก็ปลอมเหมือนกัน” พลอยพัดชาลองให้วนิตาใช้ลูปส่องพลอยดูด้วยตัวเอง“เส้นหรือแถบสีในเนื้อพลอยมันก็เหมือนลายนิ้วมือของคนเรานั่นแหละ แต่ละเม็ดก็จะแตกต่างกันไป ไม่มีเม็ดไหนที่เหมือนกันหรอก”พลอยพัดชาอธิบายพลางเดินไปหยิบถ้วยสีขาวในตู้มารองน้ำแล้วกลับมานั่งที่เดิม“และอีกวิธีที่ง่ายในการดูด้วยตาเปล่าก็คือการจุ่มน้ำ” เธอหยิบพลอยเม็ดสีเขียวมาจุ่มลงไปในน้ำแล้วถามว่า“นิตาเห็นอะไรไหม”“เห็นค่ะ มันเป็นแถบสีเป็นเส้น ๆ” วนิตาตอบ&