เดนีส ศศิภักดีลูกชายคนโตของท่านเจ้าสัวเดรโก ศศิภักดีเข้ารับตำแหน่งท่านประธานที่ดูแลธุรกิจเกี่ยวกับบรรจุภัณฑ์ เป็นพลาสติกและแปรรูปแบบครบวงจรไม่ว่าจะเป็นกระสอบพลาสติก บรรจุภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม พลาสติกแข็งและเคลือบ ท่อพีวีซีและข้อต่อ แกนกระดาษ ผ้าใยสังเคราะห์ ความจริงเขาไม่อยากทำบริษัทพวกนี้ ทั้ง ๆ ที่ธุรกิจในเครือของครอบครัวมีทั้งหมด 8 สายธุรกิจหลัก ครอบคลุม 14 กลุ่มธุรกิจ แต่ไหงเขาถึงได้มาทำพวกบรรจุภัณฑ์ ไอ้พัดเพื่อนที่เติบโตแทบจะเป็นครอบครัวเดียวกันตอนนี้เป็นทั้งน้องเขยตกกระไดพลอยโจนที่สำคัญยังได้นั่งเก้าอี้บริหารธุรกิจสำคัญอย่างธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ทำกำไรเป็นกอบเป็นกำ ไอ้น้องชายฝาแฝดอย่างเดนีนก็รับตำแหน่งดูแลธุรกิจยานยนต์และอุตสาหกรรม ส่วนลูกชายคนโตอย่างเขาได้รับหน้าที่มาขายพวกกล่องพลาสติกพวกนี้เนี่ยนะ! แม้จะเคยประท้วงไปหลายรอบแต่ก็ไม่ได้รับความเห็นใจจากผู้เป็นพ่อ
ได้! งั้นเขาก็จะบริหารในแบบฉบับของคนรุ่นใหม่บริหารในแบบฉบับของเดนีสศศิภักดีงั้นก็เปลี่ยนเครื่องใช้เฟอร์นิเจอร์ในห้องทำงานส่วนตัวเขาก่อนก็แล้วกัน…
เดนีสนั่งเก้าอี้ประธานบริษัทได้เพียงสามเดือนบอร์ดบริหารก็ลุกเป็นไฟเขาถูกโจมตีอย่างหนักในเรื่องประสบการณ์การทำงานประสิทธิภาพในการทำงานรวมไปถึงการใช้เงินบริษัทมือเติบในการตกแต่งห้องทำงานท่านเจ้าสัวหน้าม้านตั้งแต่นั่งเก้าอี้ประธานในการประชุมครั้งนี้เขาแก้ตัวให้ลูกชายไม่ได้สักแอะแต่พอปรายหางตาไปมองไอ้ลูกชายตัวดีที่ทำเป็นทองไม่รู้ร้อนกอดอกนั่งก้มหน้าก้มตานึกว่าจะสำนึกผิดที่ไหนได้…ยังแกล้งหลับใส่ในที่ประชุมเลขาคนใหม่อย่างนิติพลก็กลืนไม่ได้คายไม่ออกนั่นก็เจ้านายนั่นก็ทีมบอร์ดบริหารเขาเป็นเพียงลูกน้องตัวเล็กจ้อยจะเทียบอะไรกับผู้คนที่อยู่ตรงหน้านี้อีกอย่างท่านประธานก็ขยันสร้างเรื่องราวให้เลขาอย่างเขาต้องตามเช็ดตามล้างให้ทุกวันขาข้างหนึ่งไม่แน่ว่าอยู่ในคุกในตารางไปแล้วละมั้งนิติพลใบหน้าจืดเจื่อนหูฟังสองมือจดหัวข้อการประชุมไม่มีตกหล่นสักประโยคแถมยังต้องทำรายงานสรุปการประชุมครั้งนี้ให้กับเจ้านายของเขาที่เอาแต่ตีมึนไม่รู้สึกทุกข์ร้อนถึงหัวข้อการประชุมในวันนี้ที่เกี่ยวกับตัวเองเลยสักนิด…ส่วนเลขาอย่างเขานั้น
“คุณนิติพลยังไงฝากคุณช่วยดูแลท่านประธานให้ดี”
“คะครับๆได้ครับ” ฝ่ามือที่ตบลงบนบ่านั้นน้ำหนักไม่เบาเลยสักนิดเลขาอย่างเขากลายเป็นสนามอารมณ์ของทั้งสองฝั่งไหนจะต้องเป็นหนังหน้าไฟดูแลเอกสารที่ส่งเข้ามาในแต่ละวันเพื่อให้ท่านประธานเซ็นอีกตกเย็นทำหน้าที่จองห้องจองโรงแรมรับสายสลับขบวนรถไฟไม่ให้ชนกัน
นี่มันเกินขอบเขตของงานเลขาหน้าห้องอย่างเขาไปแล้วนิติพลโอดครวญไหนจะตารางงานในแต่ละวันที่เขาต้องจัดให้ดีรายชื่อคู่ค้าใครทำอะไรที่ไหนอย่างไรต้องอ่านให้ฟังในแต่ละวันอ่านจนปากเปียกปากแฉะต่อให้เงินเดือนจะมากมายแค่ไหนก็ไม่อาจจะยื้อเลขามากฝีมืออย่างนิติพลได้อีกต่อไปเขาทนความประสาทแดกของเจ้านายไม่ไหวรวมไปถึงการดูแลกิจวัตรประจำวันแทบจะกลายเป็นบัดเลอร์ไปแล้วไม่ใช่เลขากับเจ้านายเหมือนเลี้ยงลูกอีกคนเสียด้วยซ้ำลูกตัวเองยังไม่ประคบประหงมขนาดนี้เลย
“แกเปลี่ยนเลขาใหม่อีกแล้วเหรอ” ท่านเจ้าสัวเอ่ยถามในเช้าวันถัดมา
“ก็ไม่เชิงหรอกครับคุณนิติพลขอลาออก” ท่านเจ้าสัวพับหนังสือพิมพ์ในมือลงดังพรึบ
“แล้วแกจะทำตัวเกกมะเหรกไปถึงเมื่อไหร่อายุเท่าไหร่แล้ว”
“แล้วยังไงล่ะครับผมไม่เหมาะกับธุรกิจนี้พ่อน่าจะรู้ดี” ท่านเจ้าสัวเลิกคิ้วพลางพยักหน้า
“แล้วแกคิดว่าตัวแกเหมาะกับธุรกิจอะไรล่ะหืม…” สีหน้าราบเรียบแต่น้ำเสียงกลับทรงพลังกดดันลูกชายจนหายใจแทบไม่ออกแต่ก็ยังจะอวดดีอีโก้ที่มีมันค้ำฟ้าเสียจนยอมไม่ได้
“ก็ต้องธุรกิจอีคอมเมิร์ซและดิจิตอลไงล่ะครับ”
“อ้อ! แล้วแกรู้หรือเปล่าว่างานนี้ไม่ได้ง่ายต้องตามให้ทันกระแสทุนนิยมที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วพฤติกรรมคนสมัยใหม่เป็นไงแกรู้?”
“ก็ไม่เห็นจะมีอะไรยากคนเขาฮิตอะไรก็ไปทำอันนั้น”
“แกคิดว่าทำธุรกิจเหมือนเล่นขายของ?” เดนีสได้แต่กัดฟันเพราะหาข้อโต้แย้งไม่ได้
“แล้วธุรกิจค้าปลีกบรรจุภัณฑ์ไม่ดีตรงไหนแทบจะใช้กันทุกครัวเรือน”
“แล้วทำไมไอ้พัดถึงได้ทำอสังหาฯล่ะครับ” เดนีสเถียงข้างๆคูๆเบะปากเหมือนเด็กเวลาถูกผู้ใหญ่ขัดใจ
“แล้วแกมีดีอะไรที่ฉันจะยกธุรกิจอสังหาฯให้แกคิดว่าตัวเองมีคุณสมบัติอะไรร่ายมาให้ฉันฟังสิบข้อแล้วพัดเขามีข้อด้อยอะไรที่แกคิดว่าแกทำได้ดีกว่าบางทีฉันอาจจะเปลี่ยนใจ…ไม่มีพ่อคนไหนไม่อยากเห็นลูกไม่ประสบผลสำเร็จในหน้าที่การงานวันหน้าแกจะเข้าใจว่าทำไมฉันถึงเลือกธุรกิจนี้ให้และวางใจให้แกดูแลแทนที่จะเป็นคนอื่น” เดนีสหน้ามุ่ยทำได้เพียงแต่ฮึดฮัดยกกาแฟขึ้นมาจิบอย่างไม่สบอารมณ์ก่อนจะลุกไปทำงานไล่หลังไม่กี่ก้าวได้ยินประโยคหนึ่งที่ทำให้เขารู้สึกร้อนๆหนาวๆอย่างบอกไม่ถูก
“ฉันเตรียมเลขาคนใหม่ให้แกแล้วรับรองว่าวินตราจะช่วยแกทำงานอย่างเต็มที่อ้อ! เลขาคนนี้มีมูลค่ามากถึงยี่สิบห้าล้านถ้าแกไล่ออกก็ต้องคูณค่ายกเลิกสัญญาจ่ายค่าชดเชยเป็นสองเท่าตัดบัญชีแก”
“หา…” แล้วเรื่องอะไรเขาจะต้องเสียเงินยี่สิบห้าล้านฟรีๆกับเลขาที่ไม่ได้เลือกแถมราคาแพงหูฉี่ขนาดนี้เลขาบ้าบออะไรคอยดูถ้าประสิทธิภาพงานไม่ได้ครึ่งของราคาค่าจ้างที่เสียไปเขาจะโขกสับด่าเช้าด่าเย็นป่วนประสาทให้อีกฝ่ายต้องจำใจขอลาออกเองเลยคอยดู!
“ไม่มีหาไม่มีแต่อะไรทั้งนั้นต่อจากนี้วินตราคือเลขาคนใหม่ของแกนอกจากฉันแล้วใครหน้าไหนก็ไล่ออกไม่ได้!” เดนีสย่ำเท้าออกจากบ้านด้วยความไม่สบอารมณ์มากกว่าเดิมเลขาบ้าบออะไรค่าจ้างแพงขนาดนั้นแต่เขาก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าคุณเลขาคนใหม่ประสิทธิภาพการทำงานจะสูงตามค่าจ้างที่ได้หรือเปล่ารถสปอร์ตสีแดงเปิดประทุนแบบปีกนกจอดเทียบรออยู่ที่ประตูหน้าบ้านพอเห็นรถยนต์คันโปรดอารมณ์คุกรุ่นเมื่อครู่ก็จืดจางลงไปนิดหน่อยแต่ภายในหัวสมองก็วาดภาพของคุณเลขาคนใหม่เอาไว้มากมายแถมมีแผนกลั่นแกล้งสารพัดผุดขึ้นมาในหัวเขาผิวปากขับรถออกไปอย่างอารมณ์ดี
การกลั่นแกล้งและปั่นหัวเลขาสนุกกว่านั่งทำงานพวกนั้นซะอีก
“พ่อครับแม่ครับอยู่ไหนครับ” ก่อนจะได้ยินเสียงแทรกเข้ามา“อย่าให้พ่ออยู่กับแม่ไม่งั้นแม่จะไม่สบาย”“หา” เดนีสหน้าตื่นก่อนจะแง้มประตูแอบฟังต่อ สามพี่น้องพยักหน้าให้กัน“จริงแม่จะเสียงแหบและบ่นปวดเอวแล้วก็มีรอยยุงกัดเยอะด้วย” สามพี่น้องปรึกษาหารือกันเหมือนกำลังคุยเรื่องโลกแตกวินตราหัวเราะน้อยๆในลำคอก่อนจะมองพ่อหมาที่เงี่ยหูฟังลูกๆคุยกันสมน้ำหน้า! “พ่อชอบเล่นกับแม่แรงๆสงสารแม่พวกเราต้องปกป้องแม่ให้พ้นจากเงื้อมมือพ่อ” สามพี่น้องชูกำปั้นใส่กันสักพักแม่บ้านและพี่เลี้ยงก็มาตามเพราะปู่ย่ามารับไปเล่นบ้านใหญ่สามคนดีใจใหญ่เพราะว่าจะได้เจอลูกพี่ลูกน้องอีกหลายคนก่อนจะเฮโลลงบันไดไปข้างล่างเดนีสหัวคิ้วกระตุกโพล่งด่าในใจ ‘ไอ้ลูกเวร’ ส่วนวินตราหัวเราะท้องแข็งอยู่ข้างหลังเขาเมื่อเดนีสปิดประตูห้องสนิทพร้อมกับสีหน้าไม่สู้ดี “มิน่าพักหลังถึงทำตัวเป็นปรปักษ์กับฉันขนาดนั้นที่ไหนได้!” เดนีสโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงแต่ภรรยาสุดที่รักกลับขำจนตัวงอสองตาแดงเรื่อเพราะว่าหัวเราะมากจนเกินไป“ขำมากหรือไง”“ฮ่าๆฮ่า” วินตรายังขำไม่หยุดก่อนจะอุ้มภรรยาทุ่มลงบนเตียงกว้างด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์“อย่าหวังว่าคราวนี้จะรอด” “มะ
ส่วนวินตรากับเดนีสเองก็ถอนหายใจเช่นกันยังดีที่เดนอนอยู่อนุบาลสามส่วนแฝดพี่อีกคนอยู่คนละห้องไม่งั้นเรื่องราวคงวุ่นวายมากกว่านี้เป็นแน่พี่ชายทั้งสองหวงน้องสาวยังกะอะไรดีไม่น้อยไปกว่าพ่อหมาเลยนั่นคือเรื่องแรกแล้วก็มีเรื่องราวมากมายตามมาเป็นพรวนวีรกรรมสุดแสบที่ทำเอาวินตราหัวหมุนเป็นประจำโดยเฉพาะลูกชายคนโตที่ถอดแบบเขาออกมามากที่สุดวันนี้นัดกันว่าจะทานมื้อค่ำด้วยกันแต่เดนีสแวะไปเอาเค้กร้านโปรดที่เจ้าสามแสบชอบเลยช้ากว่ากำหนดการที่บอกเอาไว้ว่าจะตั้งโต๊ะอาหารหนึ่งทุ่มตรงแต่ตอนนี้ทุ่มครึ่งพ่อหมายังไม่เห็นแม้แต่เงาเดนอนวัยห้าขวบกอดอกรออยู่บนเก้าอี้ก่อนจะใช้นาฬิกาดิจิตอลของตัวเองต่อสายหาปลายทางวินตราเองก็นั่งรออย่างใจเย็นเช่นกัน“พ่อฮะจะกลับกี่โมงครับ” “อีกสิบนาทีถึงน่าไอ้ลูกชาย” “ระยะทางจากบริษัทถึงบ้านสามสิบห้าไฟแดงแต่ละแยกสองถึงสามนาทีถ้าขับด้วยความเร็วคงที่น่าจะกลับมาก่อนเวลาหนึ่งทุ่มตรงด้วยซ้ำ”“เฮ้! ไอ้ลูกหมาพ่อมีธุระนิดหน่อยตอนนี้จะถึงบ้านแล้วครับ” แม้น้ำเสียงตอนต้นจะติดโวยวายนิดหน่อยตามนิสัยของเจ้าตัวแต่พอเจอวินตราดุไปก่อนหน้าเลยอ่อนลงแต่ไอ้ลูกชายตัวดีเหมือนกำลังซักฟอกเขาเดนีสขุ่นเคือง
พอคลอดสองแฝดปุ๊ปคุณแม่ลูกสามอย่างวินตราก็ปิดอู่ทันทีอีกทั้งเดนีสเองก็ยินยอมพร้อมใจทำหมันเพื่อเป็นการให้คำมั่นสัญญาไปในตัวว่าเขาจะไม่ออกนอกลู่นอกทางจะรักแม่หมาเพียงคนเดียวไม่มีลูกนอกสมรสที่ไหนอีก!เดนอนวัยสองขวบเป็นพี่คนโตของสองแฝดชาย-หญิงซึ่งผู้ชายเป็น (New Male) เหมือนวินตราชื่อเดโนส่วนน้องเล็กเป็นเพศหญิงชื่อเดเลเนเป็นรุ่นหลานสามเดอ้อ…ห้าเดถ้านับลูกสาวของเดนิมที่ชื่อเดล่าและลูกชายชื่อเดโลเข้าไปด้วยเมื่อเด็กห้าคนมารวมตัวกันเมื่อไหร่ผู้ใหญ่ก็มักจะปวดหัวทุกทีคุณปู่คุณย่าก็พลอยหมั่นดูแลสุขภาพเพราะลูกชายคนสุดท้องอย่างเดนีนก็แว่วๆว่ากำลังจะมีหลานตัวน้อยให้ศศิภักดีเองเช่นกัน วินตราทำหน้าที่ของผู้บริหารและแม่ที่ดีได้อย่างไม่มีบกพร่องและสร้างสิ่งแวดล้อมในที่ทำงานสำหรับแม่ลูกอ่อนด้วยกลายเป็นว่าบริษัทในเครือศศิภักดีต่างเป็นบริษัทที่คนหนุ่มสาวรุ่นใหม่ต้องก็อยากจะตบเท้าเข้าทำงานและฝากชีวิตไว้ที่นี่กันทั้งนั้นเพราะผู้บริหารคำนึงถึงพนักงานเป็นหลักจึงทำให้เกิดสภาพแวดล้อมที่ดีต่อทุกเพศสภาพและทุกสถานะ ตอนนี้พวกเขาย้ายออกมาอยู่บ้านใหม่ที่ไม่ไกลจากบ้านใหญ่คุณปู่คุณย่าไปหาได้สะดวกและฝากหลานได้สะดวกเช่น
“อื้อ” ความจริงเดนีสอยากจะถ่ายภาพนี้ของวินตราเอาไว้ แต่เขาก็กลัวว่าจะหลุดออกไป จึงทำได้เพียงบันทึกภาพสุดแสนอีโรติกนี้เข้าสู่สมองให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เมื่อวินตรากระตุกเขาก็อมยิ้มดึงหางแมวออกดังเปาะ ก่อนกิจกรรมจะเริ่มวินตราได้ปูเตียงด้วยผ้าที่สั่งซื้อพิเศษ กันน้ำ พวกเขาเลยสามารถทำกิจกรรมเข้าจังหวะอย่างว่าได้สนุกสุดเหวี่ยง เมื่อช่องทางหลังขยายได้ที่แล้ว เดนีสก็ส่งลิ้นร้อนเข้าไปแหย่รูนั้นที่หุบอ้า ๆ อย่างเชื้อเชิญ แลบเลียช่องทางเหมือนเลียไอศกรีมรสโปรด ตวัดลิ้นเร็วช้าสลับกันตามแต่ใจจะนำพา วินตรากระเถิบตัวหนี ไม่ไหว! เขาเสียวแทบขาดใจ แถมเสียงครวญครางก็ดังขึ้นเรื่อย ๆ พร้อมกับอารมณ์วาบหวามที่กำลังพุ่งขึ้นสูงทุกวินาที แถมพ่อหมายังยกซดน้ำหวานจากช่องทางเหมือนตายอดตายอยาก วินตราเขยิบหนีครางเสียงกระเส่า“มะไม่ไหวอะ” ร่างกายเกร็งกระตุกส่วนหน้าหลั่งออกมาจนเปรอะเปื้อนไปทั่วหน้าขาและผ้าปูที่นอนแถมพ่อหมายังไม่หยุดระรัวลิ้นอีกวินตราหันไปกระชากผมที่เอาแต่ซุกก้นของเขาอย่างหื่นกระหายให้เงยหน้าขึ้นมา“เข้ามาได้แล้ว” เดนีสยันเข่าข้างนึงกับเตียงจับบั้นเอวนั้นที่แอ่นเชื้อเชิญเขาอย่างน่ารักค่อยๆสอดใส
ทางด้านเดนีสหลังจากทานมื้อเย็นกับพวกห้าสิงห์เขาก็แวะไปเอาของเล่นที่สั่งไว้เพื่อมาเล่นกับภรรยาโดยเฉพาะแต่รถดันติดเสียนี่…มาช้าเป็นชั่วโมงทั้งๆที่นัดกันดิบดีพอมาถึงห้องก็ต้องแปลกใจที่ข้างในมืดสนิทเดนีสเปิดไฟก่อนจะหอบกล่องอย่างทุลักทุเลเข้าไปในห้องนอนของตัวเองพร้อมกับเตรียมจะจ๊ะเอ๋แม่หมากลับกลายเป็นว่าแม่หมาหลับไปแล้วซะงั้น…เพราะแบบนี้เลยเปลี่ยนแพลนกะทันหันย่องเบาเหมือนแมวหนีไปอาบน้ำยังไงก็ต้องได้กินของหวานแหละน่าเดนีสผิวปากอาบน้ำขัดตัวอย่างสบายใจเฉิบพอเขาออกจากห้องนำ้มาเท่านั้นแหละ…เรนเดียร์ตัวน้อยที่แกล้งหลับกำลังหันมามองเขาด้วยสายตาทรงเสน่ห์อย่างล้นเหลือเรียวปากยังชุ่มฉ่ำไปด้วยลิปกลอสนั่งขาแบะเป็นตัวเอ็มหันหลังให้เขานั้น…เดี๋ยวก่อนนะก็ว่าละทำไมภาพนี้มันคุ้นๆโปสเตอร์นั้นรูปเมียรักเขานี่เองให้ตายจะบอกไอ้พวกนั้นไม่ได้เด็ดขาดจะได้ลืมๆไป “วินตรา!” เดนีสตะโกนเสียงเข้ม“อย่าบอกว่านายแบบคือนาย”“ใช่” เดนีสอ้าปากค้างก่อนจะสาวเท้าไปหาคุณภรรยากระโดดทับด้วยความหึงหวง “อะไอ้บ้าเจ็บ” “เจ็บสิจะได้จำ” เดนีสขบย้ำๆที่หัวไหล่มนอย่างมันเขี้ยวตอนนี้แม่หมาสวมเพียงเกาะอกแดงตัวจิ๋วที่กระชากนิดเดียวก็คงจะ
“ทำได้ทำได้แน่นอนฉันจะไม่สปอยลูกอีก” มือขวายกสามนิ้วแต่มือซ้ายกลับไขว้กากบาทอยู่ด้านหลังพอเห็นเมียรักไม่พูดอะไรก็ปรี่เข้าไปคลอเคลียขอความเห็นใจทันที“ฉันรู้ฉันผิดเอาเป็นว่าวันหลังจะไม่แอบให้ขนมอีกถ้าลูกหิวต้องหิ้วท้องรอเพราะไม่ทำตามกติกากลุ่มโอเคไหม?” วินตรากอดอกเหลือบตามองอย่างคาดโทษก่อนจะถอนหายใจออกมาแรงๆ “เด็กคนหนึ่งกว่าจะโตต้องเลี้ยงทั้งหมู่บ้านต้องเคารพกติกากลุ่มลูกเรามักน่ารักสำหรับเราเสมอแต่ใช่ว่าจะน่ารักสำหรับคนอื่นที่สำคัญหากไม่สอนให้เขาเคารพกฎหมู่กฎระเบียบเล็กๆน้อยๆพวกนี้จะสอนเขาเมื่อไหร่?”“ฉันรู้ๆฉันผิดไปแล้ว” พ่อหมาแทบจะกราบกรานเขย่าแขนเมียตัวเองขอความเมตตา “วันหลังฉันจะให้ตายตัดสินจะถามนายก่อนโอเคไหม” วินตราถอนหายใจก่อนจะสงบสติอารมณ์“วันหลังห้ามทำอีก” “ฉันจะจำไว้และจะไม่ทำอีก” ก่อนจะเข้าไปจุมพิตกระหม่อมภรรยาโอบกอดหลวมๆแม้ปากจะบอกว่าเข้าใจแต่สุดท้ายพ่อหมาก็คือพ่อหมาต่างก็ขบคิดหาวิธีที่ไม่ให้แม่หมาจับได้กลยุทธ์แพรวพราวมากขึ้นกลายเป็นถือหางลูกชายสุดๆในอีกยี่สิบกว่าปีให้หลังมีเพียงใบหน้าและแววตาที่เหมือนผู้เป็นแม่แต่นิสัยใจคอเหมือนรวมเอายีนด้อยและเด่นของพ่อแม่เข้าด้วยกั