Home / รักโบราณ / เพียงนางที่ข้าจะรัก / บทที่ 2/1 เครื่องต่อชีวิตน้อยๆของนาง

Share

บทที่ 2/1 เครื่องต่อชีวิตน้อยๆของนาง

last update Last Updated: 2025-10-05 21:57:39

หากเป็นเมื่อก่อน นางคงตอบรับคำเชิญด้วยความยินดี แต่เมื่อนึกถึงเรื่องที่เขาส่งคนไปที่เมืองตงเฉิงจริงๆตามคาด ความหมั่นไส้อยากเอาคืนว่าที่สามีตัวร้ายสักเล็กน้อยเลยเกิดขึ้นในความคิด

“รบกวนองครักษ์หานเย่ช่วยแจ้งท่านอ๋องให้ที ว่าหลายวันนี้ข้าไม่สะดวกจริงๆ ที่เร่งมาเมืองหลวงก่อนกำหนดคราวนี้ ก็เพราะมีธุระสำคัญต้องจัดการอย่างเร่งด่วน หากมีเวลาเมื่อไหร่ ข้าจะรีบไปพบท่านอ๋องทันที ขอทรงโปรดอภัยให้เหว่ยซินด้วย”

คำตอบที่ได้รับอยู่เหนือความคาดหมายของหานเย่ เพราะปกตินายน้อยเหว่ยไม่เคยปฏิเสธหรือบ่ายเบี่ยงคำเชิญของฉีอ๋อง เห็นทีว่าอีกฝ่ายคงติดธุระสำคัญจริงๆ

หานเย่กลับมารายงานนายเหนือหัวอย่างไม่มีตกหล่น เฟิ่งเสวียนจีฟังแล้วก็พยักหน้าร้บ แม้จะรู้สึกเหมือนถูกขัดใจอยู่กลายๆก็ตาม

หลังจากผ่านไปห้าวัน ในที่สุดเฟิ่งเสวียนจีก็อดทนรอต่อไปไม่ไหว เขาถือวิสาสะเดินเข้าไปถึงห้องทำงานของนายน้อยเหว่ยซินในหอโอสถเหว่ยตี้ หลังทราบว่าอีกฝ่ายเดินเข้าไปในหอโอสถเมื่อครึ่งชั่วยามที่ผ่านมา

เรียวคิ้วงามภายใต้หน้ากากสีเงินกระตุกยิกๆ มองบุรุษตัวโตจอมเผด็จการตรงหน้าอย่างหมดคำพูด ถึงแม้จะพอเดาได้อยู่แล้วว่า เขาต้องบุกมาทวงลูกอาชาเหงื่อโลหิตที่เคยคุยกันไว้แน่ๆ นี่เพิ่งผ่านไปแค่ห้าวันเท่านั้น หมดความอดทนเสียแล้ว เข้าข่ายวัยรุ่นใจร้อนสินะ

ทว่าก็ประจวบเหมาะ มู่ซูซินตั้งใจใช้เรื่องลูกม้า มาเป็นเครื่องต่อชีวิตน้อยๆของนาง ให้อยู่รอดปลอดภัยไปจนถึงหลังแต่งงานอยู่พอดี

แม้ว่าลูกม้าเหงื่อโลหิตจะราคาแพงและหาซื้อไม่ได้ง่ายๆ แต่เมื่อเทียบกับชีวิตอันมีค่าของนางแล้ว ต่อให้มองลงมาจากดวงจันทร์ยังเห็นว่าคุ้มที่จะแลก!

หลังดีดลูกคิดในรางแก้ว นั่งคิดนอนคิดมาหลายวัน มู่ซูซินจึงตัดสินใจวัดดวง เอาลูกม้ามาเป็นโล่กำบังชีวิตจากเงื้อมมือของว่าที่สามี

ร่างบางระบายยิ้มการค้า ก้าวออกมาจากหลังโต๊ะทำงาน เชิญคนตัวโตนิสัยเสียเอาแต่ใจนั่งลงด้วยท่าทางประจบประแจง

“ท่านอ๋อง พระทัยเย็นๆฟังกระหม่อมอธิบายก่อน พอกระหม่อมได้ยินว่าจะทรงอภิเษกสมรส กระหม่อมก็ตั้งใจจะมอบลูกม้าตัวนี้เพื่อเป็นของขวัญแสดงความยินดีกับท่านอ๋อง ทรงรออีกสักนิดเถิดนะพะย่ะค่ะ กว่าลูกม้าจะหย่านม ก็หลังจากที่ท่านอ๋องอภิเษกผ่านไปได้หนึ่งเดือนพอดี กระหม่อมยังได้ม้าสายพันธุ์จากปอซือ*เพศเมียมาด้วยตัวหนึ่ง ตั้งใจมอบให้พระชายาของท่านอ๋องเป็นของขวัญ เพราะฝึกง่ายเหมาะกับสตรี ถือว่าเป็นเรื่องมงคลฉลองครบรอบวันอภิเษกครบหนึ่งเดือนพอดี เข้าท่าใช่ไหมพะย่ะค่ะ”

นางลงทุนยอมทิ้งเงินจำนวนไม่น้อย เพื่อแลกกับชีวิตเลยนะ ท่านอ๋องได้กำไรเห็นๆ หากทรงรักม้าก็ได้โปรดปล่อยลูกนกลูกกาตัวเล็กๆให้มีชีวิตต่อไปเถอะ นางออกจะน่ารักน่าเอ็นดูแถมอยู่เป็นด้วยนะ

เฟิ่งสวียนจีตกตะลึงกับถ้อยคำของบุรุษตัวบางตรงหน้า คาดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะใจป้ำ ถึงขนาดยกลูกอาชาเหงื่อโลหิตให้เขาเป็นของขวัญแต่งงาน! ผู้เป็นอ๋องรีบประสานมือกล่าวขอบคุณอย่างไม่ลังเล

“นายน้อยเหว่ยช่างมีจิตใจกว้างนัก ข้ารู้สึกเกรงใจยิ่งนัก จึงขอขอบคุณท่านล่วงหน้าไว้ ณ ที่นี้”

และด้วยความหลงใหลในอาชาสายพันธุ์นี้จนขึ้นสมอง เฟิ่งเสวียนจียกเลิกความคิดที่จะสังหารว่าที่ชายาทิ้งก่อนแต่งทันที เขาเรียกหานจิ้งมากระซิบบางอย่าง จากนั้นจึงปั้นหน้าขรึม พยายามเก็บซ่อนรอยยิ้มแห่งความยินดีไว้เต็มกำลัง…

ทว่าภายในใจกำลังคิดว่า เดี๋ยวค่อยหาทางกำจัดนางหลังแต่งเข้าตำหนักก็แล้วกัน หากมู่ซูซินได้ยินความคิดนี้ของเฟิ่งเสวียนจี นางคงกระโดดหยุมหัวเขาอย่างไม่กลัวตาย!

ทั้งคู่สนทนาเรื่องม้าๆกันต่ออีกพักหนึ่งเฟิ่งเสวียนจีจึงขอตัวกลับ ดวงตาคู่งามภายใต้หน้ากากสีเงินมองตามแผ่นกว้างสง่างามด้วยความคิดหลากหลาย เหตุผลที่นางไม่อยากให้ผู้อื่นรู้ตัวตนที่แท้จริงนั่นเป็นเพราะ

~ประการแรก สตรีในยุคสมัยนี้ยังถูกจารีตประเพณีตีกรอบให้อยู่ภายใต้อำนาจของบุรุษ การทำตัวเป็นแม่ไก่ขันแทนไก่โต้ง*ยังไม่เป็นที่ยอมรับ หากทราบว่าแท้จริงนายน้อยเหว่ยซินเป็นสตรี คงยากที่จะเจรจาต่อรองทางการค้า กับบรรดาวาณิชเขี้ยวลากดินทั้งหลายได้อย่างราบรื่น

~ประการที่สอง เพื่อความปลอดภัยของครอบครัว บนเส้นทางการค้ายังมีอำนาจมืดที่มองไม่เห็นแฝงตัวอยู่ หลายคนต้องการสูตรยาของนางซึ่งถือเป็นความลับสูงสุด เพราะหากคนเหล่านั้นรู้ว่านางเป็นลูกเต้าเหล่าใคร ครอบครัวของนางอาจตกเป็นเป้าหมาย นำมาใช้ข่มขู่เพื่อให้นางมอบสูตรยา กระทั่งตัวนางเองยังถูกลอบโจมตีระหว่างเดินทางอยู่หลายหน รถม้าของนางจึงต้องสั่งทำเป็นพิเศษ

~ประการที่สาม ต้องทำตัวให้ลึกลับเข้าไว้ หลายคนจะได้ไม่กล้าหาเรื่องทำลายชื่อเสียงหอเหว่ยตี้สุ่มสี่สุ่มห้า เพราะมิอาจคาดเดาว่ามีใครคอยหนุนหลังอยู่บ้าง หอเหว่ยตี้ไม่เพียงขายโอสถให้แคว้นต้าเฟิ่ง แต่ยังขายโอสถบางตัวให้กับแคว้นพันธมิตรอย่างต้าโจวอีกด้วย

กรณีมีผู้สนใจอยากติดต่อทำการค้าด้วย ก็ให้ไปติดต่อผู้ดูแลของหอโอสถเหว่ยตี้ในแต่ละเมือง จากนั้นนายน้อยจะเป็นคนติดต่อพวกเขากลับไป

คำสั่งยกเลิกภารกิจ ส่งไปกับพิราบสื่อสารถึงอาเต๋อ ครั้นสายสืบหนุ่มได้เห็นข้อความในจดหมาย เขาแทบลุกขึ้นมาโห่ร้องด้วยความดีใจ นั่นเป็นเพราะยิ่งนานวันเข้า เขายิ่งเวทนาคุณหนูใหญ่มู่จับใจ

หลังหายจากอาการหัดและอาหารเป็นพิษ สองวันถัดมานางก็ดันเป็นลมล้มพับ ขณะออกมาเดินเล่นรับลมจนพลัดตกสระบัว อะไรจะซวยขนาดนั้น! อาเต๋อเห็นแล้วทำใจสังหารนางไม่ลงจริงๆ!

หากให้เดา นางคงกำลังดวงตก เพราะโดนดาวมฤตยูอย่างฉีอ๋องแทรกเข้ามาในดวงชะตา การตกน้ำจนเกือบม้วยมรณาในครานี้ คงเป็นการฟาดเคราะห์ใหญ่ ฉีอ๋องถึงได้เปลี่ยนใจละเว้นชีวิตน้อยๆของนาง

*******************

*ปอซือ : เปอร์เซีย

*แม่ไก่ขันแทนโต้ง : สตรีที่ทำหน้าแทนบุรุษ หรือสตรีที่ทำตัวเป็นผู้นำ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เพียงนางที่ข้าจะรัก   บทที่ 12/2

    ในระหว่างที่มู่ซูซินเดินไปคอกม้า บ่าวรับใช้ก็กำลังยกฟูกที่นำมาจากเรือนอู่ถง เข้าไปเปลี่ยนในห้องนอนของฉีอ๋องอย่างระมัดระวัง ตามคำสั่งของเหวินกงกง เจ้าของตำหนักเองก็เพิ่งหารือกับกุนซือของตนเสร็จ ทั้งสองเดินไปยังเรือนของเฟิ่งเสวียนจี เพื่อรับมื้อกลางวันที่นั่น ได้ทันเห็นเหวินกงกงยืนคุมบ่าวชาย กำลังย้ายฟูกออกมาจากเรือนของตนพอดี วรกายสูงเดินแยกจากสหาย ตรงเข้าไปถามไถ่ด้วยความฉงน “เหวินกงกง ท่านกำลังทำอะไร ยกฟูกออกมาจากเรือนนอนของข้าทำไม” ครั้นได้ยินเสียงของนายเหนือหัว เหวินกงกงรีบหมุนตัวกลับมา จีบปากจีบคอรายงานด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ “เรียนท่านอ๋อง พระชายาขอให้กระหม่อม นำฟูกที่เรือนอู่ถงมาเปลี่ยนให้ท่านอ๋องพะย่ะค่ะ จะได้ทรงนอนหลับสบายยามค่ำคืน ไม่ต้องลำบากเสด็จไปอาศัยนอนที่เรือนอู่ถง” เฟิ่งเสวียนจีนิ่งอึ้งพูดอะไรไม่ออก คาดไม่ถึงว่ามู่ซูซินจะกล้าสั่งให้เหวินกงกงยกฟูกมาเปลี่ยนให้เขา พรืดด ซ่งเฉินซีได้ยินคำบอกเล่าของเหวินกงกงก็หลุดขำ ชี้พัดจีบในมือชี้ไปที่เฟิ่งเสวียนจีพร้อมทำหน้าตาล้อเลียน “กระหม่อมเพิ่งรู้ว่าที่แท้ท่านอ๋องเป็นคนนอนยาก ฮ่าๆๆ กระหม่อมชักอยากพบหน้าพระชายามู่ขึ้นมาเสียแล้ว

  • เพียงนางที่ข้าจะรัก   บทที่ 12/1 ไม่เอาปลาแล้วเจ้าจะเอาอะไร

    มู่ซูซินถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก เมื่อรู้ว่าลี่มี่ยังปลอดภัยดีไม่ได้ถูกเฟิ่งเสวียนจีจัดการอย่างที่เคยขู่นางไว้ เพียงแต่ข้องใจว่าไฉนลี่มี่ถึงได้ยอมให้คนตัวโต แอบมานอนบนเตียงแทนที่มันได้อย่างง่ายดาย ดวงตาคู่สวยมองมายังร่างแกร่งที่ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ นอนยิ้มกริ่มหน้าตาสดใสประหนึ่งได้นอนหลับสนิทแปดชั่วโมงขั้นต่ำ “ชายารักมองสามีจริงจังแบบนี้ กำลังคิดอะไรไม่ดีอยู่รึเปล่า” พูดจบก็ขยับนอนตะแคงพิงแขน สาบเสื้อนอนเจ้ากรรมแหวกออกจนเห็นแผ่นอกแกร่งกับหน้าท้องเป็นลอนขาวจั๊วะยั่วยวนสายตาคนมองแต่เช้า “…” มู่ซูซิน เรียกแทนตัวเองว่าสามีด้วย กรี๊ดดด อารมณ์ไหนแต่เช้าเนี่ย ตามไม่ทันโว้ย!! พร้อมกับลอบกลืนน้ำลายไปอึกใหญ่ “ท่านอ๋อง เหตุใดถึงมานอนที่นี่ได้เพคะ ทรงเมาแล้วเดินละเมอมาหรือ” รีบเอาข้อเรื่องเมาขึ้นมาดักคอ นางอยากรู้นักว่าเขาจะแก้ตัวยังไง “ฟูกที่เรือนนี้นอนสบายกว่าฟูกที่เรือนของเปิ่นหวาง” ง่ายๆได้ใจความ แต่ทำคนฟังหน้าเหวอไปอีกรอบ รับสั่งจบก็ลุกออกจากเตียงเพื่อไปล้างหน้าล้างตา ปล่อยให้มู่ซูซินนั่งอ้าปากค้างมองตามแผ่นหลังกว้างตาแป๋ว พูดอะไรไม่ออกไปโดยปริยาย พฤติกรรมของมนุษย์ทั้งสองสร้างความขบ

  • เพียงนางที่ข้าจะรัก   บทที่ 11/2

    
 แผนการมาดักรอพบฉีอ๋องในวันนี้นับว่าไม่สูญเปล่า นอกจากฝ่ายชายจะยอมให้นางอาศัยรถม้า เขายังทิ้งพระชายาที่เพิ่งอภิเษกได้เพียงไม่กี่วันให้กลับตำหนักเว่ยจงไปคนเดียว แล้วเลือกมากินมื้อเย็นกับนางที่นี่แทน ฉู่ฟางอิ๋งรู้สึกราวกับตนเป็นผู้ชนะ “คุณหนูฉู่อิ่มแล้วหรือ เปิ่นหวางเห็นเจ้ากินไปเพียงไม่กี่คำเท่านั้น ไม่กินอีกสักหน่อยเล่า เจ้าดูเหมือนซูบผอมไปนะ” เขาพูดไปตามที่เห็นเมื่อเดือนก่อนนางยังดูมีเนื้อหนังมากกว่านี้ ภายในใจของฉู่ฟางอิ๋งลิงโลด แผนอดข้าวอดน้ำมาระยะหนึ่ง จนทำให้ร่างกายซูบผอมลงเหมือนคนตรอมใจถือว่าไม่เหนื่อยเปล่า ฉีอ๋องสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงนี้จริงๆ “ขอบพระทัยท่านอ๋องที่ทรงห่วงใย อิงเอ๋อร์อิ่มแล้วเพคะ คงเป็นเพราะช่วงนี้ไม่ค่อยอยากอาหารเท่าใดนัก” “เจ้าซูบผอมแบบนี้ใต้เท้าฉู่ไม่เป็นห่วงแย่หรือ” ฉู่ฟางอิ๋งเม้มปาก สีหน้าเผยถึงความน้อยใจยามนึกถึงบิดา “ช่วงนี้ท่านพ่อถ้าไม่อยู่ที่ทำงาน ก็เก็บตัวเงียบอยู่แต่ในห้องหนังสือหลังกลับมาจากในวัง กระทั่งข้าวปลาก็ไม่ออกมากิน พ่อบ้านต้องยกไปให้ที่นั่น มีบางวันที่ออกไปกับพี่ใหญ่จนมืดค่ำถึงกลับจวน อิ๋งเอ๋อร์กับท่านแม่แทบจะไม่ได้เห็นหน้า

  • เพียงนางที่ข้าจะรัก   บทที่ 11/1 ลี่มี่เกลียดคนจำพวกนี้น่ะคุณหนูฉู่

    นอกจากรับสั่งถามมู่ซูซินเสียงลอดไรฟัน เฟิ่งเสวียนจียังเผลอปล่อยไอสังหารออกมาบางส่วน ทำหญิงสาวบอบบาง ผู้มีสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรงเป็นช่วงเวลาอย่างฉู่ฟางอิ๋งแทบหายใจไม่ออก ใบหน้างามเริ่มซีดเป็นไก่ต้มยกมือกุมหน้าอกคล้ายจะเป็นลม พระชายาฉีอ๋องผู้ใจกว้างดั่งมหาสมุทร รีบฉวยโอกาสเบี่ยงเบนความสนใจของสามีอารมณ์แปรปรวนอย่างแนบเนียน “ตายแล้ว คุณหนูฉู่ ทำไมหน้าซีดขนาดนี้ล่ะ ท่านหน้ามืดอีกแล้วหรือ หานเย่! บอกให้สาวใช้ของคุณหนูฉู่เข้ามาด้านในหน่อย คุณหนูฉู่ตื่นเต้นดีใจที่ได้เจอท่านอ๋องจนลมจับแน่ะ” “…” เฟิ่งเสวียนจี 0_0! ฉู่ฟางอิ๋ง หลังจากจิกกัดคู่สร้างคู่สมไปคนละคำ มู่ซูซินรีบกุลีกุจอหยิบยาดมสมุนไพรขึ้นมาจ่อจมูกตนเอง สูดกลิ่นเสียงดัง ฟื้ดดดด ไม่ส่งให้ฉู่ฟางอิ๋งทันที “ข้าดมให้ดูก่อนว่าไม่มีพิษ เพื่อความบริสุทธิ์ใจ” เกิดมีคนตั้งใจใส่ร้ายว่าถูกพิษจากยาดมของนาง จะได้มีคำแก้ต่างรวมทั้งพยานตัวโตข้างๆมายืนยัน เสี่ยวจู สาวใช้ของฉู่ฟางอิ๋งก้าวเข้ามาด้านในรถม้าพอดี มู่ซูซินจึงส่งยาดมให้ “เอาให้คุณหนูของเจ้าดม อาการหน้ามืดจะได้ดีขึ้น” สาวใช้กล่าวขอบคุณพระชายาฉีอ๋อง รีบนั่งลงจ่อยาดมให้เจ้านายด้วยความเป็นห่ว

  • เพียงนางที่ข้าจะรัก   บทที่ 10/2

    ทุกคนในห้องหันขวับมองเฟิ่งเสวียนจีเป็นตาเดียว แม้แต่ลี่มี่ที่กำลังปล่อยให้หยางซื่อเกาพุงยังรีบลุกขึ้นมาจ้องชายหนุ่มด้วยอีกตัว มู่ซูซินเอียงหน้ามองเขาตาค้าง เพียงแค่ระยะเวลาสองสามวันฉีอ๋องทำนางตกตะลึง ประหลาดใจ แปลกใจ สติหลุดและอีกหลากหลายอารมณ์ไปไม่รู้จักกี่ครั้งแล้ว “ทรงถามความคิดเห็นของหม่อมฉัน?” ตำหนักก็ของเขาจะมาถามความเห็นนางทำไม “อืม มู่เหยียนเป็นน้องชายของพระชายา เปิ่นหวางจึงให้เจ้าเป็นคนตัดสินใจ” คนฟังแทบไม่เชื่อหูตนเอง ฉีอ๋องเพิ่งบอกว่าให้นางเป็นคนตัดสินใจ จริงดิ! อารมณ์สามีให้เกียรติภรรยาว่างั้น แต่ไม่ดีกว่า บุรุษตรงหน้ายิ่งหาความแน่นอนทางอารมณ์ไม่ได้ ขอกลับไปทำข้อตกลงกับเขาให้เรียบร้อยก่อน เพื่อความปลอดภัยในชีวิตของน้องชาย ตรองได้ดังนั้นมู่ซูซินจึงหันไปพูดกับมู่เหยียนแทน “เสี่ยวเหยียน พี่ใหญ่ขอกลับไปหารือกับท่านอ๋องก่อนนะ ได้คำตอบอย่างไรพี่ใหญ่จะส่งคนมาบอก” มู่เหยียนเป็นเด็กฉลาดรู้ความ เขาไม่งอแงเอาแต่ใจ หากพี่สาวขอหารือกับพี่เขยก่อนเขาก็ไม่มีปัญหา ผ่านไปพักหนึ่งเฟิ่งเสวียนจีจึงชวนชายากลับ มู่ซูซินร่ำลาครอบครัว รับลี่มี่มาจากอ้อมแขนของมู่เหยียน ที่เพิ่งก

  • เพียงนางที่ข้าจะรัก   บทที่ 10/1 ทรงถามความคิดเห็นของหม่อมฉัน?

    ลี่มี่ได้ยินเสียงในความคิดของเฟิ่งเสวียนจี มันเงยหน้าจ้องตามู่ซูซินคล้ายสื่อสารบางอย่าง หญิงสาวหน้าตาเลิ่กลั่ก ก้มกระซิบกับแมวของตน “เขาคิดอย่างนั้นจริงๆ หรือลี่มี่” เมี้ยว ลี่มี่ส่งเสียงหวานตอบรับ พร้อมหรี่ตามองนางทาสของมันด้วยสายตาจับผิด และนี่คือความลับอีกหนึ่งเรื่องของมู่ซูซิน ลี่มี่หาใช่แมวปกติ แต่เป็นแมวพิเศษที่ยมทูตมอบให้นางตอนอายุครบสิบปี หลังมื้อกลางวันที่จวนตระกูลมู่ พ่อตากับลูกเขยสูงศักดิ์ก็พากันไปเดินหมาก ร่วมกับการเสวนาเรื่องอาชากันอย่างถูกคอ ปล่อยให้มู่ซูซินได้ใช้เวลากับคนที่เหลือในครอบครัว องครักษ์สองหานลอบพยักหน้าให้กันอย่างโล่งอก ในชีวิตของฉีอ๋องนอกจากอาชาและการทำศึก…หมากล้อม อาหารและสุรารสเลิศ คือสิ่งที่ทรงโปรดปราน นับว่าคนตระกูลมู่มาถูกทางเลยทีเดียว ภายในเรือนส่วนตัวของหยางซื่อ เมื่อประตูของเรือนปิดลง ลี่อิ่ง ลี่เจิน รวมถึงองครักษ์ตระกูลหยาง หรือพูดให้ถูกว่าองครักษ์ของหอเหว่ยตี้ได้เข้าประจำที่ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครเข้าใกล้เรือน ขณะที่นายใหญ่และนายน้อยของหอเหว่ยตี้กำลังหารือเรื่องสำคัญ “ซินเอ๋อร์ เรื่องที่ลูกสงสัย คนของเราสืบมาได้ว่า พ่อลูกตระกูลฉู่แอบติด

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status