Beranda / รักโบราณ / เพียงนางที่ข้าจะรัก / บทที่ 2 เครื่องต่อชีวิตน้อยๆของนาง ตอนต้น

Share

บทที่ 2 เครื่องต่อชีวิตน้อยๆของนาง ตอนต้น

last update Terakhir Diperbarui: 2025-10-05 21:57:39

หากเป็นเมื่อก่อน นางคงตอบรับคำเชิญด้วยความยินดี แต่เมื่อนึกถึงเรื่องที่เขาส่งคนไปที่เมืองตงเฉิงจริงๆตามคาด ความหมั่นไส้อยากเอาคืนว่าที่สามีตัวร้ายสักเล็กน้อยเลยเกิดขึ้นในความคิด

“รบกวนองครักษ์หานเย่ช่วยแจ้งท่านอ๋องให้ที ว่าหลายวันนี้ข้าไม่สะดวกจริงๆ ที่เร่งมาเมืองหลวงก่อนกำหนดคราวนี้ ก็เพราะมีธุระสำคัญต้องจัดการอย่างเร่งด่วน หากมีเวลาเมื่อไหร่ ข้าจะรีบไปพบท่านอ๋องทันที ขอทรงโปรดอภัยให้เหว่ยซินด้วย”

คำตอบที่ได้รับอยู่เหนือความคาดหมายของหานเย่ เพราะปกตินายน้อยเหว่ยไม่เคยปฏิเสธหรือบ่ายเบี่ยงคำเชิญของฉีอ๋อง เห็นทีว่าอีกฝ่ายคงติดธุระสำคัญจริงๆ

หานเย่กลับมารายงานนายเหนือหัวอย่างไม่มีตกหล่น เฟิ่งเสวียนจีฟังแล้วก็พยักหน้าร้บ แม้จะรู้สึกเหมือนถูกขัดใจอยู่กลายๆก็ตาม

หลังจากผ่านไปห้าวัน ในที่สุดเฟิ่งเสวียนจีก็อดทนรอต่อไปไม่ไหว เขาถือวิสาสะเดินเข้าไปถึงห้องทำงานของนายน้อยเหว่ยซินในหอโอสถเหว่ยตี้ หลังทราบว่าอีกฝ่ายเดินเข้าไปในหอโอสถเมื่อครึ่งชั่วยามที่ผ่านมา

เรียวคิ้วงามภายใต้หน้ากากสีเงินกระตุกยิกๆ มองบุรุษตัวโตจอมเผด็จการตรงหน้าอย่างหมดคำพูด ถึงแม้จะพอเดาได้อยู่แล้วว่า เขาต้องบุกมาทวงลูกอาชาเหงื่อโลหิตที่เคยคุยกันไว้แน่ๆ นี่เพิ่งผ่านไปแค่ห้าวันเท่านั้น หมดความอดทนเสียแล้ว เข้าข่ายวัยรุ่นใจร้อนสินะ

ทว่าก็ประจวบเหมาะ มู่ซูซินตั้งใจใช้เรื่องลูกม้า มาเป็นเครื่องต่อชีวิตน้อยๆของนาง ให้อยู่รอดปลอดภัยไปจนถึงหลังแต่งงานอยู่พอดี

แม้ว่าลูกม้าเหงื่อโลหิตจะราคาแพงและหาซื้อไม่ได้ง่ายๆ แต่เมื่อเทียบกับชีวิตอันมีค่าของนางแล้ว ต่อให้มองลงมาจากดวงจันทร์ยังเห็นว่าคุ้มที่จะแลก!

หลังดีดลูกคิดในรางแก้ว นั่งคิดนอนคิดมาหลายวัน มู่ซูซินจึงตัดสินใจวัดดวง เอาลูกม้ามาเป็นโล่กำบังชีวิตจากเงื้อมมือของว่าที่สามี

ร่างบางระบายยิ้มการค้า ก้าวออกมาจากหลังโต๊ะทำงาน เชิญคนตัวโตนิสัยเสียเอาแต่ใจนั่งลงด้วยท่าทางประจบประแจง

“ท่านอ๋อง พระทัยเย็นๆฟังกระหม่อมอธิบายก่อน พอกระหม่อมได้ยินว่าจะทรงอภิเษกสมรส กระหม่อมก็ตั้งใจจะมอบลูกม้าตัวนี้เพื่อเป็นของขวัญแสดงความยินดีกับท่านอ๋อง ทรงรออีกสักนิดเถิดนะพะย่ะค่ะ กว่าลูกม้าจะหย่านม ก็หลังจากที่ท่านอ๋องอภิเษกผ่านไปได้หนึ่งเดือนพอดี กระหม่อมยังได้ม้าสายพันธุ์จากปอซือ*เพศเมียมาด้วยตัวหนึ่ง ตั้งใจมอบให้พระชายาของท่านอ๋องเป็นของขวัญ เพราะฝึกง่ายเหมาะกับสตรี ถือว่าเป็นเรื่องมงคลฉลองครบรอบวันอภิเษกครบหนึ่งเดือนพอดี เข้าท่าใช่ไหมพะย่ะค่ะ”

นางลงทุนยอมทิ้งเงินจำนวนไม่น้อย เพื่อแลกกับชีวิตเลยนะ ท่านอ๋องได้กำไรเห็นๆ หากทรงรักม้าก็ได้โปรดปล่อยลูกนกลูกกาตัวเล็กๆให้มีชีวิตต่อไปเถอะ นางออกจะน่ารักน่าเอ็นดูแถมอยู่เป็นด้วยนะ

เฟิ่งสวียนจีตกตะลึงกับถ้อยคำของบุรุษตัวบางตรงหน้า คาดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะใจป้ำ ถึงขนาดยกลูกอาชาเหงื่อโลหิตให้เขาเป็นของขวัญแต่งงาน! ผู้เป็นอ๋องรีบประสานมือกล่าวขอบคุณอย่างไม่ลังเล

“นายน้อยเหว่ยช่างมีจิตใจกว้างนัก ข้ารู้สึกเกรงใจยิ่งนัก จึงขอขอบคุณท่านล่วงหน้าไว้ ณ ที่นี้”

และด้วยความหลงใหลในอาชาสายพันธุ์นี้จนขึ้นสมอง เฟิ่งเสวียนจียกเลิกความคิดที่จะสังหารว่าที่ชายาทิ้งก่อนแต่งทันที เขาเรียกหานจิ้งมากระซิบบางอย่าง จากนั้นจึงปั้นหน้าขรึม พยายามเก็บซ่อนรอยยิ้มแห่งความยินดีไว้เต็มกำลัง…

ทว่าภายในใจกำลังคิดว่า เดี๋ยวค่อยหาทางกำจัดนางหลังแต่งเข้าตำหนักก็แล้วกัน หากมู่ซูซินได้ยินความคิดนี้ของเฟิ่งเสวียนจี นางคงกระโดดหยุมหัวเขาอย่างไม่กลัวตาย!

ทั้งคู่สนทนาเรื่องม้าๆกันต่ออีกพักหนึ่งเฟิ่งเสวียนจีจึงขอตัวกลับ ดวงตาคู่งามภายใต้หน้ากากสีเงินมองตามแผ่นกว้างสง่างามด้วยความคิดหลากหลาย เหตุผลที่นางไม่อยากให้ผู้อื่นรู้ตัวตนที่แท้จริงนั่นเป็นเพราะ

~ประการแรก สตรีในยุคสมัยนี้ยังถูกจารีตประเพณีตีกรอบให้อยู่ภายใต้อำนาจของบุรุษ การทำตัวเป็นแม่ไก่ขันแทนไก่โต้ง*ยังไม่เป็นที่ยอมรับ หากทราบว่าแท้จริงนายน้อยเหว่ยซินเป็นสตรี คงยากที่จะเจรจาต่อรองทางการค้า กับบรรดาวาณิชเขี้ยวลากดินทั้งหลายได้อย่างราบรื่น

~ประการที่สอง เพื่อความปลอดภัยของครอบครัว บนเส้นทางการค้ายังมีอำนาจมืดที่มองไม่เห็นแฝงตัวอยู่ หลายคนต้องการสูตรยาของนางซึ่งถือเป็นความลับสูงสุด เพราะหากคนเหล่านั้นรู้ว่านางเป็นลูกเต้าเหล่าใคร ครอบครัวของนางอาจตกเป็นเป้าหมาย นำมาใช้ข่มขู่เพื่อให้นางมอบสูตรยา กระทั่งตัวนางเองยังถูกลอบโจมตีระหว่างเดินทางอยู่หลายหน รถม้าของนางจึงต้องสั่งทำเป็นพิเศษ

~ประการที่สาม ต้องทำตัวให้ลึกลับเข้าไว้ หลายคนจะได้ไม่กล้าหาเรื่องทำลายชื่อเสียงหอเหว่ยตี้สุ่มสี่สุ่มห้า เพราะมิอาจคาดเดาว่ามีใครคอยหนุนหลังอยู่บ้าง หอเหว่ยตี้ไม่เพียงขายโอสถให้แคว้นต้าเฟิ่ง แต่ยังขายโอสถบางตัวให้กับแคว้นพันธมิตรอย่างต้าโจวอีกด้วย

กรณีมีผู้สนใจอยากติดต่อทำการค้าด้วย ก็ให้ไปติดต่อผู้ดูแลของหอโอสถเหว่ยตี้ในแต่ละเมือง จากนั้นนายน้อยจะเป็นคนติดต่อพวกเขากลับไป

คำสั่งยกเลิกภารกิจ ส่งไปกับพิราบสื่อสารถึงอาเต๋อ ครั้นสายสืบหนุ่มได้เห็นข้อความในจดหมาย เขาแทบลุกขึ้นมาโห่ร้องด้วยความดีใจ นั่นเป็นเพราะยิ่งนานวันเข้า เขายิ่งเวทนาคุณหนูใหญ่มู่จับใจ

หลังหายจากอาการหัดและอาหารเป็นพิษ สองวันถัดมานางก็ดันเป็นลมล้มพับ ขณะออกมาเดินเล่นรับลมจนพลัดตกสระบัว อะไรจะซวยขนาดนั้น! อาเต๋อเห็นแล้วทำใจสังหารนางไม่ลงจริงๆ!

หากให้เดา นางคงกำลังดวงตก เพราะโดนดาวมฤตยูอย่างฉีอ๋องแทรกเข้ามาในดวงชะตา การตกน้ำจนเกือบม้วยมรณาในครานี้ คงเป็นการฟาดเคราะห์ใหญ่ ฉีอ๋องถึงได้เปลี่ยนใจละเว้นชีวิตน้อยๆของนาง

*******************

*ปอซือ : เปอร์เซีย

*แม่ไก่ขันแทนโต้ง : สตรีที่ทำหน้าแทนบุรุษ หรือสตรีที่ทำตัวเป็นผู้นำ

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • เพียงนางที่ข้าจะรัก   ตอนพิเศษ เมื่อองครักษ์มีรักย่อมต้องทุ่มสุดตัว ~4

    เย่เฟิงคล้ายเห็นแสงสว่างที่ปลายทาง รีบพยักหน้ารับด้วยความมั่นใจ ผู้ช่วยแม่ครัวจึงคลายมือออก ปล่อยให้ชายหนุ่มเริ่มนวดแป้งด้วยตนเอง ในขณะที่มือก็กำลังนวดแป้ง ในหัวก็จินตนาการไปว่า ตนกำลังนวดต้นขานุ่มๆของลี่เจินไปด้วย และอาจเป็นเพราะตั้งใจมากไปนิดเลยเผลอคิดดังไปหน่อย ”ขาของเจ้าช่างนุ่มนวลเหลือเกินเจินเอ๋อร์“ ”…“ ทั้งแม่ครัวและผู้ช่วยคิ้วกระตุกยิกๆ พ่อหนุ่มองครักษ์กำลังสิ่งใดอยู่กันแน่!!! จากแป้งสีขาวนวลเวลานี้กลายเป็นก้อนแป้งสีชมพูเข้ม เพราะชายหนุ่มใส่ผงกุหลาบหนักมือไปนิด แต่ไม่เป็นไรแม่ครัวบอกกับเขาอย่างนั้น คราวหน้าค่อยลดปริมาณลง ถึงตอนนี้ แป้งพร้อม ไส้พร้อม ในที่สุดก็มาถึงขั้นตอนการห่อก่อนกดใส่พิมพ์ขนม ผู้ช่วยแสดงวิธีนวดแป้งทั้งสองสีให้กลายเป็นก้อนเดียว รวมไปถึงวิธีแผ่แป้งและห่อไส้ ก่อนนำไปกดใส่พิมพ์ขนมบัวหิมะ “น่ากินมากเลยขอรับ” เอ่ยชื่นชมจบก็ลงมือทำเองบ้าง เพียงแต่… “ทำไมมันยากเย็นอย่างนี้เนี่ย! ทำไมข้าห่อแล้วแป้งถึงแตกไส้ทะลัก ไม่เห็นเรียบเนียนเหมือนของท่านป้าเลย” “…” ผู้ช่วยแม่ครัว ข้าควรเวทนาคนหรือสงสารขนมดีเนี่ย “แรกก็เป็นแบบนี้แหละ ทำบ่อยๆเดี๋ยวก็ชำนาญขึ้

  • เพียงนางที่ข้าจะรัก   ตอนพิเศษ เมื่อองครักษ์มีรักย่อมต้องทุ่มสุดตัว ~3

    ไม่ใช่เพียงแค่หานจิ้งที่เดินหน้าเกี้ยวพานลี่อิ่งอย่างเปิดเผย แม้แต่องครักษ์เงาขั้นหนึ่งอย่างเย่เฟิง ก็ขอฉีอ๋องย้ายตำแหน่งงานมาเป็นองครักษ์ขั้นหนึ่งของพระชายามู่ซูซินแทน เหตุผลหลักคือเขาทำงานให้พระชายาจนคุ้นเคยไปแล้ว ส่วนเหตุผลรองคือหัวใจของเขาเฝ้าติดตามลี่เจินไปแล้วนั่นเอง เรียกกลับมาเท่าไหร่หัวใจเจ้ากรรมก็ไม่ยอมเชื่อฟัง เย่เฟิงเลยตั้งปณิธานว่า เขาจะไม่ยอมแพ้องครักษ์รุ่นน้องอย่างหานจิ้งเด็ดขาด ชีวิตนี้เขาต้องได้แต่งลี่เจินเป็นภรรยาผูกผม! หากทำไม่ได้ก่อนอายุสามสิบ เย่เฟิงจะไปออกบวชมันให้มันรู้แล้วรู้รอด! ครัวหลักของตำหนักเว่ยจง แม่ครัวฝ่ายขนมหวานมุมปากกระตุกยิกๆ ขณะยืนมององครักษ์ของพระชายากวนแป้งทำขนมบัวหิมะกุหลาบ “เอ่อ ท่านองครักษ์เจ้าคะ กวนแป้งไม่ต้องออกแรงขนาดนั้นก็ได้เจ้าค่ะ ค่อยๆทำไป ท่านเล่นกวนแรงและเร็วแบบนี้ แป้งมันก็กระเด็นออกจากกระทะหมดสิเจ้าคะ แล้วจะเหลือให้กินไหมเนี่ย! โอย ข้าจะเป็นลม” พูดจบก็ยกยาดมขึ้นมาสูดเข้าปอดดัง ฟื้ด... บรรดาสาวใช้ในโรงครัวยกมือป้องปากหัวเราะคิกคักด้วยความเอ็นดูในตัวเย่เฟิง คาดไม่ถึงว่าองครักษ์หน้าเข้มผู้นี้ จะยอมลงทุนมาเรียน

  • เพียงนางที่ข้าจะรัก   ตอนพิเศษ เมื่อองครักษ์มีรักย่อมต้องทุ่มสุดตัว ~2

    กร๊ากกกก เสียงหลุดขำของหานเย่ลอยมาตามลม องครักษ์หนุ่มนึกภาพยวนยางบนผ้าเช็ดหน้าผืนนั้นที่สหายรักนั่งปักมาทั้งคืน ซึ่งมองอย่างไรก็เหมือนลูกเจี๊ยบหัวโตผิดขนาดสองตัวหันหน้าแยกเขี้ยวใส่กัน หานจิ้งสูดหายใจยาวอยากตามไปบีบคอสหายรักใจแทบขาด แต่พอนึกถึงภาพปักบนผ้าเช็ดหน้าผืนนั้นเขาก็มิอาจถือโทษที่หานเย่หลุดขำออกมา เหวินกงกงพอมีฝีมือด้านการเย็บปักถักร้อยอยู่บ้าง เดินมาขอดูผ้าเช็ดหน้าผืนดังกล่าว พอได้เห็นสภาพก็ถึงกับหน้ากระตุก ไม่เพียงแค่ลายปักจะอดสู แต่การมีหยดเลือดติดเป็นหย่อมๆนี่มันคืออะไร?! โอย ขันทีอย่างเขาหมดคำจะกล่าว ”เดี๋ยวตอนบ่ายเจ้าไปหาข้าที่เรือน ข้าจะช่วยแนะนำวิธีปักผ้าที่เริ่มจากลายง่ายๆไปก่อน ว่าแต่ลายนี้คือ เอ่อ เจ้าปักลายอะไรรึอาจิ้ง” เขามองไม่ออกจริงๆ “ลายยวนยางขอรับท่านกงกง” หานจิ้งตอบกลับมาเสียงอ่อย “…” เหวินกงกง เวรกรรมที่แท้คือยวนยางหรอกรึ ทีแรกนึกว่าปีศาจลูกเจี๊ยบ เหวินกงกงรู้สึกผิดขึ้นมาจับจิตที่มองลายบนผ้าเช็ดหน้าผิดไปมาก เลยยกมือตบบ่าหานจิ้งเบาๆเป็นการปลอบใจ ‘ข้าขอโทษนะอาจิ้งที่เข้าใจผิด’ หลังกินข้าวกลางวันเสร็จเรียบร้อย หานจิ้งก็ตามไปที่เรือนขอ

  • เพียงนางที่ข้าจะรัก   ตอนพิเศษ เมื่อองครักษ์มีรักย่อมต้องทุ่มสุดตัว ~1

    ตำหนักเว่ยจง หลังผ่านเหตุการณ์สำคัญเรื่องกบฏเยี่ยนอ๋องมาได้ เจ้าของตำหนักก็เลิกปิดกั้นความรู้สึกตัวเองและหันมาสนทนากับคนรอบตัวมากขึ้น กระทั่งเอ่ยปากถามไถ่ความเป็นอยู่ของบ่าวไพร่ในตำหนักด้วยตนเอง ทั้งที่เมื่อก่อนฉีอ๋องไม่เคยสนใจเรื่องบ่าวไพร่ในตำหนักเลยสักนิด ปล่อยให้เหวินกงกงดูแลจัดการธุระในส่วนนี้แทน จนเมื่อพระชายามู่ซูซินถามสามีว่า เขาทราบหรือไม่ว่าบ่าวไพร่ในตำหนักมีกี่คน “…” เฟิ่งเสวียนจี นั่นสินะเขาไม่เคยนับจริงๆด้วย หลายวันต่อมา บ่าวไพร่ของแต่ละเรือนแต่ละฝ่าย ได้ถูกเรียกมาพบเพื่อแนะนำตัวกับฉีอ๋องอย่างเป็นทางการ เจ้าของตำหนักถึงประจักษ์ว่า เขามีบ่าวไพร่ทั้งหมดเกือบร้อยชีวิตทำงานอยู่ในตำหนักเว่ยจง!! ทั้งที่จำนวนคนก็มากขนาดนี้ แต่เหตุไฉนตำหนักของเขาถึงได้ดูวังเวงนัก ไม่เข้าใจเลยจริงๆ นั่นเป็นเพราะเจ้าตัวลืมไปว่า ตำหนักของตนกว้างใหญ่ขนาดไหน อันที่จริงสมควรมีบ่าวไพร่มากกว่านี้ด้วยซ้ำ แต่เพราะเหวินกงกงรู้ใจนายเหนือหัว เรื่องที่ไม่ชอบให้มีคนวุ่นวายในตำหนักมากจนเกินไป ถึงได้จ้างบ่าวไพร่ในจำนวนเท่าที่จำเป็น ไม่ได้จ้างไว้ประดับบารมีเหมือนเชื้อพระวงศ์ตำหนักอื่นๆ ที่ค

  • เพียงนางที่ข้าจะรัก   ตอนพิเศษ ความฝันบอกเหตุ ตอนปลาย

    เมืองตงเฉิง จวนเจ้าเมือง เรือนไฉอวี้ ค่ำคืนเดียวกันกับที่ฉีอ๋องฝันถึงงูขาวตัวหอม หญิงสาวรูปร่างหน้าตางดงามราวปีศาจจิ้งจอกจำแลง วางตำราสมุนไพรในมือลงก่อนขยับตัวไปดับตะเกียงข้างหัวเตียงเพื่อเข้านอน “ราตรีสวัสดิ์ลี่มี่ ขอให้นอนหลับฝันดีนะ” เสียงหวานบอกแมวสาวตัวอวบในอ้อมกอดจูบเหม่งมันไปหนึ่งที จากนั้นจึงหลับตาลง เมี้ยว… “ฝันดีซินเอ๋อร์ “ ลี่มี่แลบลิ้นเลียแก้มใสของนางทาสไปหนึ่งทีเพื่อเป็นการแสดงความรัก ผ่านไปไม่นานจังหวะหายใจของมู่ซูซินก็สม่ำเสมอ แสดงถึงว่านางเข้าสู่ห้วงนิทราไปแล้ว ลี่มี่ลืมตาโพลงในความมืด ขยับตัวออกจากอ้อมกอดของหญิงสาว เดินไปนั่งบนกรอบหน้าต่างเงยหน้ามองดวงจันทร์ในค่ำคืนนี้ “หิวจัง อยากกินขนมไหว้พระจันทร์ไส้คัสตาร์ดไข่เค็ม พรุ่งนี้ขอให้ซินเอ๋อร์ทำให้กินดีกว่า” ในขณะที่ลี่มี่กำลังนึกถึงขนมไหว้พระจันทร์อยู่นั้น มู่ซูซินก็กำลังเข้าสู่ห้วงฝันอันแปลกประหลาด นางกำลังยืนอยู่กลางทุ่งลาเวนเดอร์ขนาดใหญ่ เหมือนที่เคยไปเที่ยวมาเมื่อชาติที่แล้ว บนท้องฟ้าสีครามสดใส ก้อนเมฆสีขาวปุกปุยรูปร่างมองไปแล้วเหมือนหัวใจดวงเล็กๆ ลอยเต็มท้องฟ้า แสงแดดอบอุ่นอาบไล้ผิวขาวเนียนละออของนาง มู่

  • เพียงนางที่ข้าจะรัก   ตอนพิเศษ ความฝันบอกเหตุ ตอนต้น

    แดนเหนือ ค่ายพยัคฆ์อหังการ ในที่สุดการต่อสู้อันยาวนานระหว่างแคว้นต้าเฟิ่ง กับชนเผ่านอกด่านทั้งหมดของแดนเหนือได้สิ้นสุดลง ความเสียหายที่ทั้งสองฝ่ายต้องเผชิญ หนักหนาสาหัสไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน ทว่าผู้ที่กำชัยชนะในสงครามใหญ่ครั้งนี้คือแคว้นต้าเฟิ่ง ซึ่งมีฉีอ๋อง เฟิ่งเสวียนจีเป็นผู้นำทัพ หลังเสร็จศึกได้ครึ่งเดือน ในขณะที่ฉีอ๋องกำลังนอนหลับพักผ่อนอยู่ในกระโจมบัญชาการ ของค่ายพยัคฆ์อหังการในคืนพระจันทร์เต็มดวง จู่ๆ บรรยากาศโดยรอบพลันหยุดนิ่ง เฟิ่งเสวียนจีคล้ายถูกมือที่มองไม่เห็นฉุดกระชากอย่างแรง จากที่กำลังนอนหลับอยู่บนเตียงในยามค่ำคืน บัดนี้ตัวเขายืนอยู่กลางทุ่งสมุนไพรกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา ท้องฟ้าสีครามสะอาดสดใส มีปุยเมฆสีขาวลอยอยู่ประปราย แสงแดดสีทองอบอุ่นโลมไล้ผิวกาย กลิ่นหอมเย็นสดชื่นเฉพาะตัวของสมุนไพร ช่วยให้ชายหนุ่มรู้สึกผ่อนคลายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เรือนกายสูงหันมองไปรอบๆ สายตาก็ประสบเข้ากับต้นอู๋ถงต้นใหญ่ บริเวณใต้ต้นมีแคร่ไม้ไผ่ตั้งอยู่ ร่างสูงตัดสินใจเดินไปที่นั่นหย่อนตัวลงบนแคร่ ตั้งใจว่าจะนอนเล่นที่นี่สักพักเพื่อซึมซับความรู้สึกอันแสนจะรื่นรมย์นี้ เขาใช้แขนของตนแทนหมอน

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status