เข้าสู่ระบบตอนที่ 32
เฟิงหลี่เฉียงสบตากับอาจารย์ของเขา ที่ตอนนี้ดูทรุดโทรมเพราะอดหลับอดนอนมาหลายวัน เขารู้ว่าอาจารย์ต้องการให้มาช่วยหาว่าองค์ชายจูจ้านจีได้รับยาพิษจากแหล่งใด
เขาจึงทูลกับพระชายาว่า “กระหม่อมขอจับชีพจรและตรวจร่างกายขององค์ชายพะยะค่ะ”
ต้วนเจี่ยซินรีบจึงรีบทูลอธิบายเพิ่มว่า “บัณฑิตเฟิงเป็นหมอด้วยพะยะค่ะ”
บัณฑิตเฟิงเดินเข้าไปใกล้เตียง เขาตรวจดูอาการขององค์ชายจูจ้านจี ทั้งการสังเกตสีหน้า เปลือกตา และจับชีพจร และตรวจดูร่องรอยตามร่างกาย ก็ไม่พบความผิดปกติใดๆ หลังจากนั้นก็ซักถามอาการจากคนใกล้ชิด เขารู้ว่าตนเองจะต้องใช้เวลาในการสืบหาข้อมูล
ในวันนั้น เขาจึงขออนุญาตอยู่ในวังเพื่อสืบหาสาเหตุ เขากับต้วนเจี่ยซินและต้วนเหวินเจี่ย แยกย้ายกันออกไปหาสิ่งที่น่าจะเป็นอันตรายต่อองค์ชาย โดยเฉพาะอาหาร และข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ซึ่งก็ไม่พบสิ่งผิดปกติใด และยิ่งทำให้พระชายาสิ้นหวังมากขึ้น ที่จริงแล้วองค์รัชทายาทจูเกาชื่อ ได้ให้ทหารรักษาพระองค์ตรวจสอบความผิดปกติไปด้วย แต่ก็ยังไม่พบสาเหตุ
อย่างไรก็ตาม ในช่วงบ่าย ต้วนเจี่ยซินปลุ
ตอนที่ 32เฟิงหลี่เฉียงสบตากับอาจารย์ของเขา ที่ตอนนี้ดูทรุดโทรมเพราะอดหลับอดนอนมาหลายวัน เขารู้ว่าอาจารย์ต้องการให้มาช่วยหาว่าองค์ชายจูจ้านจีได้รับยาพิษจากแหล่งใดเขาจึงทูลกับพระชายาว่า “กระหม่อมขอจับชีพจรและตรวจร่างกายขององค์ชายพะยะค่ะ”ต้วนเจี่ยซินรีบจึงรีบทูลอธิบายเพิ่มว่า “บัณฑิตเฟิงเป็นหมอด้วยพะยะค่ะ”บัณฑิตเฟิงเดินเข้าไปใกล้เตียง เขาตรวจดูอาการขององค์ชายจูจ้านจี ทั้งการสังเกตสีหน้า เปลือกตา และจับชีพจร และตรวจดูร่องรอยตามร่างกาย ก็ไม่พบความผิดปกติใดๆ หลังจากนั้นก็ซักถามอาการจากคนใกล้ชิด เขารู้ว่าตนเองจะต้องใช้เวลาในการสืบหาข้อมูลในวันนั้น เขาจึงขออนุญาตอยู่ในวังเพื่อสืบหาสาเหตุ เขากับต้วนเจี่ยซินและต้วนเหวินเจี่ย แยกย้ายกันออกไปหาสิ่งที่น่าจะเป็นอันตรายต่อองค์ชาย โดยเฉพาะอาหาร และข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ซึ่งก็ไม่พบสิ่งผิดปกติใด และยิ่งทำให้พระชายาสิ้นหวังมากขึ้น ที่จริงแล้วองค์รัชทายาทจูเกาชื่อ ได้ให้ทหารรักษาพระองค์ตรวจสอบความผิดปกติไปด้วย แต่ก็ยังไม่พบสาเหตุอย่างไรก็ตาม ในช่วงบ่าย ต้วนเจี่ยซินปลุ
ตอนที่ 31หลังจากนั้น เฟิงหลี่เฉียงก็กลับไปทำงานที่ฮานหลินหยวนตามปกติ ในวันนี้พวกเขามีประชุมกองบรรณาธิการสารานุกรมหย่งเล่อ เพื่อให้แต่ละคนรายงานความคืบหน้าในขณะพวกเขากำลังช่วยกันแนะนำงานเขียนอยู่นั้น เจ้าหน้าที่คนหนึ่งก็เดินเข้ามาเคาะประตู และขออนุญาตบรรณาธิการก่อนพูดว่า “ใต้เท้าเฟิงขอรับ ใต้เท้าซุนหยู่หมิน รองผู้อำนวยการฮานหลินหยวนฝ่ายซ้ายขอเชิญท่านเข้าพบในตอนนี้ขอรับ”ทุกคนชะงัก พวกเขาเดาไม่ออกว่าเป็นเรื่องดีหรือร้าย เฉินจื้อเฟิงตบไหล่เขา ซึ่งเฟิงหลี่เฉียงหันไปยิ้มให้เขา และบอกบรรณาธิการว่า“ข้าขอตัวก่อนขอรับ”เขาเดินขึ้นบันไดไปที่ชั้นสอง เมื่อไปที่ห้องทำงานขนาดใหญ่ จึงเคาะประตู “ใต้เท้าขอรับ ข้าเฟิงหลี่เฉียงขอรับ”“เข้ามา” เสียงของซุนหยู่หมินดังออกมาข้างนอกเมื่อเปิดประตูเข้าไป เขาก็พบซุนหยู่หมินกำลังอ่านเอกสารอยู่ เฟิงหลี่เฉียงก้มลงคำนับ อีกฝ่ายบอกให้เขานั่งลง จากนั้นก็พูดว่า“บัณฑิตเฟิง ข้าเชิญท่านมาในวันนี้ เพราะมีเรื่องอย
ตอนที่ 30เมื่อหันไปมอง ก็พบว่าเป็นต้วนเหวินเจี่ย ลูกชายของต้วนเจี่ยซิน ซึ่งนั่งรถลากผ่านมาเฟิงหลี่เฉียงรีบก้มลงคำนับ “ท่านลุงต้วน”“เจ้าจะไปไหนรึ” อีกฝ่ายถาม“กลับบ้านขอรับ วันนี้เลิกงานเร็ว”ต้วนเหวินเจี่ยพยักหน้า เขาแทบจะไม่ได้พบกับเด็กหนุ่มที่เป็นลูกศิษย์ของพ่อเลย เพราะตัวเขาก็ยุ่ง และตัวของเฟิงหลี่เฉียงก็ชอบพเนจรไปตามสถานที่ต่างๆในตอนนี้เขาเองก็กำลังรีบ จึงบอกว่า “ท่านพ่อจะมาที่เมืองหลวงนะ น่าจะสักอาทิตย์หน้า เจ้าอย่าลืมแวะไปกินข้าวที่บ้านด้วยกัน”เด็กหนุ่มยิ้มด้วยความดีใจ “ข้ากำลังคิดถึงอาจารย์เลย แล้วข้าจะไปเยี่ยมที่บ้านแน่นอน!”จากนั้นทั้งสองก็แยกกันไป เฟิงหลี่เฉียงเดาว่า อาจารย์ต้วนของเขาคงมีธุระที่นี่ อาจจะมารักษาโรคให้ขุนนางหรือเชื้อพระวงศ์บางคน หลายครั้งที่มีคนจากเมืองหลวง เชิญให้อาจารย์เดินทางมารักษาโรคที่นี่แต่สำหรับอาจารย์โม่ชิงเฉิง ระยะหลังนี้ อาจารย์ไม่ค่อยเดินทางมาเมืองหลวงมากนัก และหลังจากที่เฟิงหลี่เฉียงสอบเป็นบัณฑิตได้แล้ว เขาก็ออกเดินทางไปตามสถานที่
ตอนที่ 29ตลอดวันนั้น เฟิงหลี่เฉียงใช้เวลาทั้งที่ห้องสมุดในฮานหลินหยวนและห้องสมุดที่สำนักราชเลขาธิการ เพื่อค้นหาความหมายจากสัญลักษณ์ในเอกสาร เขาค้นพบบางอย่างที่ใกล้เคียง แต่ยังมีสัญลักษณ์บางอย่างที่เขายังหาความหมายไม่ได้ในบ่ายวันหนึ่ง เฟิงหลี่เฉียงรู้ว่า เขาจะนั่งอุดอู้อยู่ในห้องสมุดตลอดเวลาไม่ได้ เขาจึงตัดสินใจออกไปข้างนอกเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ โดยไม่รู้ตัว เขาเดินมาจนถึงริมแม่น้ำแยงซีเกียงที่ไหลผ่านเมืองหลวง ที่ท่าเรือใหญ่ บัณฑิตหนุ่มเห็นผู้คนหลากหลายเดินทางขึ้นลงท่าเรือ เสียงผู้คนและเสียงจากแม่น้ำดังก้องไปทั่วท่าเรือสักพัก เฟิงหลี่เฉียงก็รู้สึกหิว เขาจึงเดินไปที่แผงลอยขนาดเล็กริมท่าเรือ ที่ขายอาหารหลากหลายอย่าง เขาเลือกร้านหนึ่ง จากนั้นจึงสั่งอาหารมานั่งกิน และปล่อยใจให้ล่องลอยไปกับภาพความวุ่นวายที่อยู่เบื้องหน้า เขาไม่ได้ต้องการความเงียบสงบเพื่อให้คิดออก แต่เขาต้องความวุ่นวายเพื่อดึงความสนใจของตนเอง บัณฑิตหนุ่มชอบใช้วิธีเช่นนี้เวลาที่เขาคิดอะไรไม่ออก บางครั้งก็ใช้ความสงบ และบางครั้งก็ใช้ความวุ่นวายแทนใน
ตอนที่ 28“ตอนนี้พวกเรามีปัญหาที่ยังแก้ไขไม่ได้ เรากำลังหาหลักฐานเกี่ยวกับพรรคบัวขาว เราพบเบาะแสว่ากำลังมีการเคลื่อนไหวอยู่ในเมืองหลวง แต่ยังไม่สามารถหาหลักฐานได้ว่า กลุ่มคนเหล่านี้มาจากพรรคบัวขาวนี้จริงหรือไม่ และทำไปเพื่ออะไร” เว่ยจงตัดสินใจเล่า เขาเชื่อใจเพื่อนรุ่นพี่ของเขา และเชื่อใจลูกศิษย์ของรุ่นพี่ด้วย และที่สำคัญ เขาตรวจสอบประวัติของเฟิงหลี่เฉียงมาแล้ว“ท่านจะให้ข้าช่วยอย่างไรขอรับ” บัณฑิตหนุ่มถามโดยไม่สะทกสะท้านใดๆ“เจ้าไม่กลัวรึ” ผู้กองเว่ยถามตรงๆ เด็กหนุ่มส่ายหน้า และไม่ตอบอะไรต้าหวงเหลียนหัวเราะหึหึ “เจ้าเด็กคนนี้มันเสือซ่อนเล็บ เจ้าอย่าประมาทไป”เมื่อได้ยินคำพูดแบบนี้ เว่ยจงเลิกคิ้วสูง แต่ก็โล่งใจขึ้น เพราะท่าทางภายนอกของบัณฑิตคนนี้ดูสุภาพ สง่างาม เหมือนบัณฑิตคงแก่เรียนทั่วไป แต่ถ้ามีจิตใจกล้าหาญด้วย ก็ยิ่งดีกับงานของเขาเว่ยจงจึงเล่าเรื่องให้ฟังว่า ในตอนนี้ พวกเขาเฝ้าติดตามสมาชิกของพรรคบัวขาวมานาน และล่าสุดพบการเคลื่อนไหวที่บ้านหลังหนึ่งบริเวณชานเมือง พวกเขาจึงปลอมตัวและซุ่มดูอยู
ตอนที่ 27ในอีก 4-5 วันต่อมา ต้าหวงเหลียนก็กลับมาอีกครั้ง เมื่อเห็นลู่เหยาหลง เขาก็ถามด้วยความสนใจ เฟิงหลี่เฉียงซึ่งกำลังสอนหนังสือเด็กชาย ก็เล่าเรื่องให้ฟังเมื่อรู้เช่นนั้น อาจารย์ของเขาจึงพูดว่า “อืมม งั้นข้าจะลองสอนวิชาให้เอง แต่เจ้าต้องตื่นแต่เช้านะ”เด็กชายตาเป็นประกาย “ได้ครับ ข้ายินดีตื่นขอรับ!”ตอนนี้อาการเจ็บป่วยของเด็กชายดีขึ้นมากแล้ว แผลตามตัวตกสะเก็ด และเริ่มออกกำลังเบาๆ ได้แล้วเมื่อมีคนมาเพิ่มอีก เฟิงหลี่เฉียงจึงยกห้องนอนของเขาให้อาจารย์ ส่วนตัวเองย้ายไปนอนในห้องหนังสือ โดยยกเตียงที่ห้องรับแขกเข้าไป เพราะลู่เหยาหลงบอกเองว่า เขาจะปูผ้านอนที่ห้องรับแขก ซึ่งตอนนี้เข้าหน้าร้อนแล้ว อากาศจึงไม่หนาวอีกต่อไป เฟิงหลี่เฉียงคิดว่าเขาจะต้องออกไปซื้อเฟอร์นิเจอร์เพิ่ม และนึกได้ว่า เขาไม่ได้ยินข่าวของเซี่ยเหมยเซียงมาระยะหนึ่งแล้ว จึงคิดจะแวะไปซื้อของที่ร้านและสอบถามข่าวคราวด้วยในเช้าวันเสาร์ทั้งสามคนออกไปฝึกวิชา โดยลู่เหยาหลงฝึกร่างกายให้แข็งแรงก่อน ในขณะที่อาจารย์และศิษย์สองคนฝึกการต่อสู้ด้วย






![จะไม่ทนกับบทบาทนางร้าย [รีไรท์ตอนจบ]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)