Home / โรแมนติก / เมีย(ลับ)นายทุน / บทที่5 กอดทั้งคืน

Share

บทที่5 กอดทั้งคืน

Author: Noppharat
last update Last Updated: 2025-11-28 20:57:27

บทที่5

กอดทั้งคืน

กลางคืนของกรุงเทพฯ ความเงียบสงัดกลับกล่อมโลกทั้งใบให้หลับใหล มินตรายืนอยู่ริมหน้าต่าง กระชับเสื้อคลุมแพรสีน้ำเงินเข้มแนบอก ร่างบางสะท้อนแสงจันทร์เป็นเงาอ่อนบนกระจกเงา

กลิ่นสบู่อ่อน ๆ จากห้องน้ำยังติดปลายจมูก ภาพของชายหนุ่มที่เดินเข้าไปด้วยท่วงท่าหนักแน่นและเงียบงันยังติดตา เธอก้มมองโทรศัพท์ที่วางหงายอยู่บนโต๊ะ ข้อความสุดท้ายที่ได้รับก่อนเขาเดินเข้าไปอาบน้ำเพียงหนึ่งบรรทัด

K:คืนนี้ อย่าแตะโทรศัพท์ ฉันต้องการเวลากับเธอทั้งคืน

หัวใจเธอเต้นแรงกว่าเดิมไม่ใช่เพราะถ้อยคำหวงแหน แต่เพราะน้ำเสียงในข้อความนั้นแฝงแรงดึงดูดบางอย่างที่ห้ามไม่ได้

เสียงประตูเลื่อนเปิดช้า ๆ กลุ่มไอร้อนจากห้องน้ำลอยออกมาก่อนที่เขาจะก้าวออกมา คิรินทร์สวมชุดคลุมอาบน้ำผืนบาง เส้นผมเปียกชื้นแนบกรอบหน้า ดวงตาคมเข้มหยั่งลึกจับจ้องเธอในความมืดครึ่งหนึ่งของห้อง

เขาไม่ได้พูดทันที แค่เดินเข้าใกล้เรื่อย ๆ

“ยังไม่นอน?”

เขาเอ่ยเสียงนุ่ม ผิดกับบุคลิกที่เธอเคยรู้จักในห้องประชุมมากนัก

“รอคุณค่ะ”

เธอกลืนน้ำลายเบา ๆ ก่อนตอบเขาหยุดห่างเพียงช่วงลมหายใจ ดวงตาของเขามองต่ำลงที่เสื้อคลุมของเธอที่คล้ายหลวมไปนิด ริมฝีปากยกยิ้มเพียงครึ่งหนึ่ง ก่อนเอ่ยเสียงเบาราวกระซิบ

“เสื้อตัวนั้นเหมาะกับเธอมากกว่าที่ฉันคิดนะ”

มินตราหลบตาแต่รอยยิ้มก็แฝงขึ้นบนมุมปาก เธอไม่ตอบรับเพียงด้วยสายตาอายจัดคิรินทร์ขยับอีกก้าว จนเธอถอยหลังจนชิดกระจก เสียงฝ่ามือเขาวางข้างศีรษะเธอเบา ๆ สะท้อนในอกอย่างชัดเจน

“ตอนเย็นเธอรู้ไหมว่าแรงมือนวดของเธอทำอะไรกับฉัน”

เขาเริ่มพูดดวงตาเขามองต่ำลงตรงเรียวคอเธอ

“ไม่รู้ค่ะ”

“เธอทำให้ฉันนึกถึงเธอตลอดทั้งเย็น จนแทบไม่เป็นอันทำงาน”

จุ๊บ!

เขาก้มลงจูบที่ไหปลาร้าเธอเบา ๆ แล้วกระซิบต่อชิดผิว

“ตอนนี้ก็ยังนึกอยู่และอยากจะรู้สึกมากกว่านั้นอีก”

มินตรายืนนิ่งร่างกายเธอสั่นบาง ๆ ไม่ใช่เพราะกลัว แต่เพราะทุกสัมผัสจากเขามันจุดไฟร้อนระอุขึ้นทีละน้อย ลามจากผิวกายสู่ใจในจังหวะเดียวกัน

มือของเขาปลดชายเสื้อคลุมของเธออย่างช้า ๆ ไม่มีความเร่งร้อน แต่ชัดเจนในเจตนา เธอปล่อยให้เขาทำโดยไม่ขัดขืน

“ไม่ต้องอายฉันเห็นของเธอมาหมดแล้ว”

เขาพูดคล้ายปลอบ ทั้งที่มือเขาเลื่อนไล้แผ่นหลังเปลือยช้า ๆ

“ฉันมองเธอแบบนี้ไม่ใช่เพราะเธอสวย หรือเด็กกว่า แต่เพราะทุกครั้งที่อยู่ใกล้ ฉันรู้สึกสงบ”

น้ำเสียงเขาชัดเจนอย่างแปลกประหลาดไม่ใช่ผู้ชายเจ้าเล่ห์หรือเสือผู้หญิงที่เธอเคยได้ยินจากข่าวลือ แต่เป็นผู้ใหญ่ที่กล้าพูดทุกความรู้สึกโดยไม่ต้องหลบสายตา

เธอขยับเข้าใกล้ หยิบมือเขาข้างหนึ่งขึ้นจูบเบา ๆ ที่หลังมือ เหมือนจะตอบรับว่าเธอก็รู้สึกไม่ต่างกัน

“คืนนี้ ฉันจะไม่ให้เธอหนีไปไหนทั้งนั้น”

เขากระซิบที่ข้างหู น้ำเสียงนั้นไม่ใช่คำสั่งแต่เป็นคำขอที่แฝงแรงปรารถนา คิรินทร์กอดร่างเธอยกขึ้นอย่างง่ายดาย พาไปวางกลางเตียงกว้าง ผ้าห่มไหมสีหมอกถูกดึงปิดเรียบร้อยเพียงครึ่งหนึ่ง ทว่าก่อนที่เขาจะผละออก

มินตรายกแขนทั้งสองข้างคล้องลำคอแข็งแรงไว้แน่นดึงให้ใบหน้าของเขาก้มลงใกล้จนริมฝีปากแทบชน

“เดี๋ยวสิคะ…คุณยังไม่ได้รับรางวัลเลย”

เธอกระซิบเสียงนุ่มหยักยิ้มขี้เล่นในแสงสลัว ดวงตากลมโตเป็นประกายราวเด็กกำลังอ้อนขนมหวานคิรินทร์เลิกคิ้ว แววตาเข้มกระตุกไหว

“รางวัล?”

เธอไม่ตอบด้วยคำ แต่ขยับปลายนิ้วเกลี่ยสันคิ้วเขาแผ่ว แล้วกดจูบเบา ๆ ที่ปลายคางหนึ่งครั้ง ถอยออกมามองแล้วจุ๊บแก้มซ้ายอีกที เหมือนเด็กแมวน้อยไล้แต้มกลิ่นตัวเองบนเจ้าของ ก่อนหัวเราะคิกให้เขาได้ยินชัด ๆ

จุ๊บ

จุ๊บ

“อย่างนี้ไงคะคนทำงานเก่งต้องได้หอม”

ลมหายใจหวานผสมเสียงหัวเราะคลอหู เขาได้ยินหัวใจตัวเองกระแทกอกจนแทบหลุด

“ยัยตัวแสบ”

เขาพึมพำแต่ปลายนิ้วยกขึ้นเชยคางเธอ ช้อนสบตาก่อนแนบริมฝีปากดูดดื่มตอบกลับ ยิ่งเธออมยิ้มและจูบซุกซนไล้ไปตามสันกราม เสียงทุ้มต่ำในลำคอเขาก็ยิ่งดังราวฟ้าคำราม

“รู้ไหมคะ...เวลาคุณมองด้วยสายตาแบบนั้น มันเหมือนทั้งโลกมีเราแค่สองคน”

เสียงหวานของมินตราแผ่วเบาเหมือนลมโบกเบาในค่ำคืน เธอไล้นิ้วเบา ๆ ไปตามแนวหน้าท้องของเขา คล้ายไม่ตั้งใจ แต่ทุกสัมผัสกลับเจตนาเกินบรรยาย ดวงตาเธอมีรอยยิ้มจาง ทว่าในอกกลับเต้นแรงจนแทบปิดไม่มิด

คิรินทร์สบตาเธออย่างนิ่งลึก ริมฝีปากยกน้อย ๆ ก่อนโน้มใบหน้าลงใกล้จนเสียงกระซิบแทรกผ่านลมหายใจ

“อยากให้ทั้งโลกเหลือแค่เราแบบนี้ทุกคืนเลยไหม”

หมับ!!

“อ๊าา คะ...คุณคิรินทร์คะหนูจั๊กกะจี้”

คนอายุมากว่าใช้คำพูดยั่วยวนไม่พอยังตอบโต้ด้วยการกระทำ แล้วเขาก็พลิกตัวคร่อมตอบรับเสียงหัวใจเธอทันที

จูบทุกหยดยิ้มที่มุมปาก เธอหัวเราะคิกอีกครั้งก่อนเสียงหัวเราะกลายเป็นเสียงครางหวาน เมื่อแรงจูบและอ้อมแขนผู้ใหญ่รัดรึงย้ำสิทธิ์ครอบครองไว้แน่นกว่าเดิม ทำให้ไฟในอกเขาพลุ่งพล่านยากจะดับลงอีกต่อไป

เขาไม่พูดมากอีกแล้ว เขาเลือกแสดงออกด้วยการสัมผัส สัมผัสที่สื่อว่าเธอไม่ได้เป็นเพียงร่างกายที่เขาครอบครอง แต่เป็นคนที่เขาคิดถึงเสมอแม้ในยามหลับ

เสียงลมหายใจ เสียงเรียกชื่อกันแผ่วเบาเป็นสิ่งเดียวที่ดังอยู่ในห้องนั้นขณะรัตติกาลเดินทางต่อ ผ่านแรงปรารถนาผ่านความไว้วางใจ จนถึงปลายทางของความเหนื่อยอ่อนบนอกของเขา

คิรินทร์โอบเธอไว้แน่น ปลายนิ้วไล้แผ่นหลังช้า ๆ ก่อนจะกระซิบ

“คืนนี้ไม่ต้องคิดอะไรทั้งนั้น แค่หลับตา แล้วปล่อยให้ฉันกอดเธอไว้แบบนี้จนถึงเช้า”

ถึงคำพูดนั้นจะไม่หวานแต่เป็นจริงทุกตัวอักษร และนั่นแหละคือสิ่งที่ทำให้เธอหลับลงโดยไม่ต้องกลัวสิ่งใดอีกเลย

แสงแดดยามเช้าค่อย ๆ เลื้อยผ่านผ้าม่านสีงาช้าง ตกกระทบผิวเนื้อของหญิงสาวที่นอนตะแคงอยู่บนเตียงขนาดคิงไซซ์ กลิ่นหอมจางของผ้าปูเตียงราคาแพงยังแตะจมูก ละมุนละไมไม่ต่างจากอ้อมแขนชายที่โอบกอดเธอไว้แน่นจากด้านหลัง

มินตรา กระพริบตาช้า ๆ ราวกับยังหลงเหลืออยู่ในฝัน หัวใจในอกยังคงเต้นแรงไม่เป็นจังหวะนัก นัยน์ตากลมโตกวาดมองไปรอบห้องก่อนจะหยุดอยู่ที่ใบหน้าคมเข้มของผู้ชายที่กอดเธอไว้

คิรินทร์ยังคงหลับตา ลมหายใจของเขาสม่ำเสมอและแผ่วลึก เส้นผมสีเข้มปรกหน้าผาก ส่วนลมหายใจอุ่น ๆ ที่เป่ารดต้นคอทำให้เธอขนลุกวาบอย่างไม่รู้ตัว

ในยามหลับสนิท เขาดูเด็กลงกว่าเดิม ราวกับลบเส้นขึงเครียดของผู้บริหารระดับสูงทิ้งไปทั้งหมด คิรินทร์ในยามนี้ดูนุ่มนวลเสียจนมินตราอดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้น เกลี่ยเส้นผมเขาออกอย่างเบามือ

เธอค่อย ๆ ดึงปลายผ้าห่มขึ้นมาปิดรอยแดงช้ำตามเนื้อตัวที่ยังเหลืออยู่จากค่ำคืนอันร้อนแรง ริมฝีปากยังคงแต้มรอยยิ้มบางเบา ไม่ใช่เพราะความสุขในแบบเด็กสาว แต่เป็นความอบอุ่นแบบที่เธอไม่เคยได้รับมาก่อนเลยในชีวิต

ไม่ใช่จากพ่อ ไม่ใช่จากใครที่เคยผ่านเข้ามาคิรินทร์คือคนแรกที่ทำให้เธอรู้สึกปลอดภัยแม้ไม่ได้พูดคำว่ารักออกมาตรง ๆ เลยสักครั้ง

มินตราขยับตัวช้า ๆ อย่างใจเย็น พยายามไม่ปลุกชายหนุ่มที่ยังหลับสนิท เธอใช้เวลานานนับนาทีค่อย ๆ หลุดจากอ้อมแขนที่แสนอบอุ่นนั้น ก่อนหยิบเสื้อคลุมบาง ๆ ขึ้นมาสวมทับแล้วเดินเบา ๆ ไปยังมุมห้องนั่งเล่นซึ่งเต็มไปด้วยแสงแดดยามเช้า

โทรศัพท์มือถือที่ถูกชาร์จไว้กะพริบแสงบ่งบอกถึงข้อความใหม่หลายฉบับ เธอลังเลเล็กน้อยก่อนจะกดเปิดดู หน้าจอสว่างขึ้นพร้อมข้อความจากกลุ่มเพื่อนร่วมชั้น

> เห้ย นี่เธอกับใครวะ นายทุนหรอOMG!

> อีมินป้ะ! ฉันตาค้างเลยแม่!!

> “ดูดี ๆ เหมือนจะเป็นรถของบ.นั้นนะ เห็นข่าวแล้วหรือยัง

เธอไถหน้าจอช้า ๆ ภาพที่แนบมากับข้อความค่อย ๆ ปรากฏ มันคือภาพของเธอกับคิรินทร์ตอนลงจากรถหน้าร้านอาหารเมื่อคืน แม้ใบหน้าเธอจะพร่าเพราะถูกเบลอ แต่สำหรับคนที่รู้จักก็ยังคงจำได้ไม่ยาก

มินตราใจเต้นถี่ ความกังวลเกาะกินหัวใจอย่างรวดเร็ว ความรู้สึกที่คล้ายกับมีบางอย่างจะหลุดจากมือเพราะเธอรู้ดีว่าความสัมพันธ์ของเธอกับเขานั้นไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปจะเข้าใจง่าย ๆ

“อย่าเพิ่งตอบโต้อะไรทั้งนั้นปล่อยไว้ก่อน”

เสียงทุ้มต่ำคุ้นหูดังขึ้นจากด้านหลัง ทำเอาหญิงสาวสะดุ้งเล็กน้อย เธอหันไปช้า ๆ เห็นคิรินทร์ยืนพิงกรอบประตู มือข้างหนึ่งถือเสื้อคลุม อีกข้างกำลังขยี้เส้นผมยุ่งน้อย ๆ อย่างคนเพิ่งตื่น

“คุณตื่นนานแล้วเหรอคะ”

มินตราถามเสียงเบาเขาเดินเข้ามาใกล้ คิ้วเข้มเลิกขึ้นเล็กน้อยเมื่อสายตาเห็นข้อความบนหน้าจอมือถือของเธอ ก่อนจะเอื้อมมือมารับโทรศัพท์ไปอ่านเงียบ ๆ มินตรากลั้นหายใจ เพราะความกลัวเริ่มก่อตัวในอก

“ฉันให้ทีมงานจัดการข่าวแล้ว”

เขาวางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะด้วยท่าทางมั่นคง แล้วจึงนั่งลงข้างเธอ มือหนาแนบหลังมือของหญิงสาวแน่นพอให้เธอรับรู้ว่าเขาอยู่ข้างเธอเสมอ

“อย่ากลัว อย่าหนี และอย่ารู้สึกผิดที่ได้อยู่กับฉัน”

คำพูดของเขาราบเรียบ ไม่มีโทนเสียงสูงต่ำที่พยายามปลอบโยน ทว่ากลับทรงพลังจนเธอรู้สึกได้ถึงแรงสั่นสะเทือนในอกตนเอง น้ำตาเอ่อคลอขึ้นมาช้า ๆ อย่างห้ามไม่ได้เธอก้มหน้า หลบสายตาของเขา พลางพูดเบา ๆ ราวกระซิบ

“คุณแน่ใจใช่ไหมคะ ว่ามันจะไม่ทำให้คุณเสียหาย”

คิรินทร์หัวเราะเบา ๆ ก่อนเอื้อมมือเชยคางเธอขึ้นอย่างอ่อนโยน ดวงตานิ่งของเขามีบางอย่างที่หนักแน่นเกินกว่าคำใดจะบรรยายได้

“ฉันเป็นคนขอให้เธอมาอยู่ตรงนี้เองนะมิน เธอไม่ใช่ความลับของฉัน...มีแต่ฉันที่ยังไม่กล้าบอกโลกว่าเธอคือคนสำคัญ”

คำว่าคนสำคัญทำให้หัวใจเธอสั่นวูบ ไม่ใช่เพราะหวั่นไหว แต่เพราะมันหนักแน่นเกินกว่าจะเชื่อว่าเธอจะคู่ควร มินตราไม่ทันได้ตอบเขากลับเปลี่ยนเรื่องทันควันด้วยรอยยิ้มบาง ๆ บนมุมปาก

“มื้อเช้ากินอะไรดี ฉันจะทำให้”

หญิงสาวกลั้นหัวเราะไม่ไหวเลยหลุดขำออกมาทั้งน้ำตา

“คุณทำอาหารเป็นด้วยเหรอคะ”

เขาสบตาเธอยกมุมปากขึ้นน้อย ๆ ก่อนตอบด้วยเสียงนิ่งเรียบแต่แฝงอารมณ์ขัน

“ไม่เป็นหรอกแต่อยากลอง เพราะเธออยู่ที่ฉันเลยอยากดูแล”

มินตราหัวเราะทั้งน้ำตาอีกครั้งแล้วเอนหัวซบลงบนไหล่ของเขา บางทีการอยู่แบบละทิ้งโลกภายนอกมันก็ดีเหมือนกันนะ...หรือมินตราแค่สุขใจตอนได้อยู่กับเขากันแน่

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เมีย(ลับ)นายทุน   บทที่9 ระแวง

    บทที่9ระแวงห้องรับแขกกว้างขวางของเพ้นท์เฮ้าส์ราคาแพงเงียบสงัด จนได้ยินเสียงเข็มนาฬิกาเดินเป็นจังหวะเนิบช้า มินตรายืนกอดอกอยู่หน้าเตาผิงจำลอง ดวงตากลมโตฉายแววลังเลและสั่นไหว ร่องรอยจางบนแก้มยังไม่ทันจางลงจากไอร้อนยามบ่าย แต่ภายในกลับเย็นเยียบยิ่งกว่าอากาศยามค่ำเธอกำลังรอและการรอคอยครั้งนี้ช่างยาวนานเกินกว่าจะนับเวลาได้เพียงชั่วโมงเดียว รถเบนท์ลีย์สีดำคันคุ้นตาแล่นจากรั้วไปตั้งแต่ก่อนพระอาทิตย์ลับฟ้า โดยมีเพียงคำสั้น ๆ ว่ามีประชุมด่วนทิ้งไว้แสงไฟสีอบอุ่นจากหัวบันไดสะท้อนกับโซฟาหนังแท้สีอ่อน เธอลอบมองโทรศัพท์ที่สว่างขึ้นทุก ๆ สิบนาทีจากการแจ้งเตือนของเพื่อนร่วมรุ่น แต่กลับไม่มีแม้เพียงหนึ่งข้อความจากเขา คิรินทร์ วัชรเมธา ชายผู้ที่เธอกำลังฝากหัวใจไว้โดยไม่รู้ตัวแฟ้มบางบนโต๊ะกลางยังอ้าปากเผยรูปถ่ายหญิงสาวปริศนา ผู้มีดวงตาคมลึกและรอยยิ้มบางเฉียบที่เปี่ยมไปด้วยชัยชนะ หน้ากระดาษแนบถ้อยคำทิ้งท้ายว่า ‘ถึงคนที่อยู่ข้างกายฉัน วันนี้ พรุ่งนี้ และอนาคต’ เหมือนจะส่งสารบางอย่างจากอดีตสู่ปัจจุบันหญิงสาวกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก เธอคือใครกันแน่ มินตราเริ่มตั้งคำถามว่า เธอมีสิทธิ์ในหัวใจเขาจริง หรือ

  • เมีย(ลับ)นายทุน   บทที่8 ใครคนนั้น

    บทที่8ใครคนนั้นหลังจากเช้าอุ่นไอรักผ่านพ้นไป มินตราคิดว่าเขาจะกลับไปใช้ชีวิตแบบเดิมอีกครั้ง เหมือนทุกครั้งที่หมดภารกิจในห้องนอน แต่เปล่าเลยคิรินทร์กลับทำในสิ่งที่เธอไม่ทันตั้งตัว“ไปเปลี่ยนชุด” เขาพูดขณะยกกาแฟขึ้นจิบใบหน้ายังเรียบเฉยเหมือนทุกวัน แต่แววตานั้นกลับซ่อนรอยยิ้มบางเบาไว้“หืม..คุณว่าไงนะคะ” มินตราเงยหน้าขึ้นจากขนมปังตรงหน้าที่เขาเตรียมไว้ให้ เพราะมีสิ่งที่น่าสนใจมากกว่านั้น“เราจะไปไหนกันเหรอคะ”“ฉันอยากพาเธอไปสูดลมทะเล” เขาตอบเรียบ ๆ ก่อนจะวางแก้วลง “บนเรือ...ไปทะเลกัน”“...”มินตราไม่มีเวลาอึ้งนานก็ต้องเตรียมตัวลุกไปจัดเตรียมสัมภาระ ไม่ถึงชั่วโมงต่อมารถยนต์คันหรูพามาถึงท่าเรือส่วนตัว มินตรายืนกะพริบตาถี่เมื่อเห็นเรือยอชต์สีขาวหรูเทียบท่ารออยู่ คนที่เคยเห็นเรือพวกนี้แค่ในโฆษณา ไม่คิดว่าวันหนึ่งจะได้เหยียบมันจริง ๆ ด้วยเท้าตัวเอง“นี่คือ...ของคุณ” เธอถามเสียงอ่อยขณะจับมือเขาขึ้นเรือ“หึ...เธอเข้าใจถูกแล้วล่ะที่นี่เป็นของฉันทุกอย่าง” เขาตอบพร้อมกับรั้งมือเธอแน่น บนเรือยอชต์สุดหรู พนักงานต้อนรับและกัปตันล้วนรู้จักเขาดีจนไม่ต้องออกคำสั่งใด ๆ เรือค่อย ๆ เคลื่อนตัวออกจาก

  • เมีย(ลับ)นายทุน   บทที่7 คำสัญญา

    บทที่7คำสัญญาเพียงแค่ประโยคนั้นหลุดจากริมฝีปากของคิรินทร์ กลิ่นอายของค่ำคืนนี้ก็เปลี่ยนไป แต่มันคือพลังบางอย่างที่แผ่ซ่านออกมาจากตัวเขาแรงปรารถนาอันเงียบงันแต่ทรงพลังมินตรานั่งนิ่งใบหน้าร้อนวูบวาบแต่ไม่กล้าหันไปมองเขา เธอรับรู้ได้ถึงมืออุ่นที่จับมือเธอไว้แน่น และนิ้วโป้งที่เกลี่ยเบา ๆ บนหลังมืออย่างเชื่องช้า ราวกับพยายามกล่อมจิตใจเธอให้ล่องลอยไปตามจังหวะของเขาเมื่อรถจอดที่หน้าเพนต์เฮาส์ เธอยังรู้สึกเหมือนตัวเองไม่ได้เดิน แต่ถูกแรงอ่อนโยนบางอย่างพาเข้าสู่ลิฟต์ส่วนตัวจนถึงชั้นบนสุดประตูลิฟต์เปิดออกโดยไม่มีคำพูดใด ๆ เขาเดินนำหน้าเธอเข้าไปในห้อง ขณะเธอก้าวตามเหมือนถูกสะกดด้วยแรงอธิบายไม่ได้ภายในห้องตกแต่งด้วยแสงไฟสีส้มอมทองที่ส่องจากโคมข้างหัวเตียง กลิ่นหอมของดอกไม้จากเครื่องกระจายกลิ่นลอยคลุ้งในอากาศ ทุกอย่างเหมือนจัดเตรียมไว้สำหรับค่ำคืนนี้ค่ำคืนที่เขาบอกว่าจะทำให้เธอลืมคำดูถูกทั้งปวง คิรินทร์หันกลับมามองเธอในแสงสลัว ดวงตาของเขาเข้มลึกและมั่นคงเหมือนพายุที่ซ่อนอยู่หลังเงาเมฆ"เดินมาหาฉัน มิน"“ค่ะ”เสียงของเขาเรียกเธออย่างแผ่วเบา แต่มันสะเทือนจนเธอรู้สึกได้ถึงแรงสั่นในอก เธอเดินเ

  • เมีย(ลับ)นายทุน   บทที่6 หนูก็แค่เด็กคนหนึ่งที่เอาตัวแลกเงิน

    บทที่6หนูก็แค่เด็กคนหนึ่งที่เอาตัวแลกเงินแสงแดดสายแกว่งไกวบนเคาน์เตอร์หินอ่อนสีครีมในครัวเปิดโล่งด้านตะวันออก กลิ่นกาแฟคั่วสดจากเครื่อง เอสเพรสโซ่แตะจมูกตั้งแต่ทางเดิน มินตราสวมเสื้อเชิ้ตผู้ชายตัวยาวสีขาวล้วน ก้าวเท้าเบา ๆ ยืนพิงกรอบประตู มองภาพเบื้องหน้า คิรินทร์ในเสื้อยืดสีเทาอ่อนตัวเดียว กางเกงลำลองสีน้ำตาลเข้มขยับมีดครัวหั่นเบคอนอย่างตั้งอกตั้งใจราวเชฟมืออาชีพเขาไม่ใช่มืออาชีพเห็นได้จากวิธีหยิบมีดแข็ง ๆ แต่แค่ภาพชายผู้บริหารที่เมื่อคืนยังเด็ดขาดในห้องประชุม ตอนนี้ยืนหันหลังให้เธอสะบัดกระทะก็เพียงพอจะทำให้ใจเธออุ่นวาบเสียงช้อนกระทบแก้วดังกรุ๋งกริ๋ง เขาหันมารับรู้สายตาหญิงสาว แล้วยกยิ้มมุมปากที่ทำให้กล้ามแก้มเขาเป็นคลื่น“ตื่นแล้วเหรอ คนขี้เซา ฝากอุ่นนมให้ทีสิ” เขาพูดเสียงนุ่มสอดสายตาอบอุ่นแม้ยังถือมีดมินตรายิ้มและพยักหน้าเข้าใจก่อนเดินไปเปิดเตาเล็ก เคลื่อนหม้อนมอย่างคล่อง เธอเติมผงโกโก้ลงไปเล็กน้อยให้สีละมุน แล้วคนด้วยช้อนเงิน ยกขึ้นดมกลิ่นหอมละมุนทำให้เธอนึกถึงบ้านครั้งยังเด็กคิรินทร์จับเบคอนเรียงลงกระทะ เสียงฉ่าเบา ๆ ดัง เคล้าเสียงขนมปังเด้งจากเครื่องปิ้งอัตโนมัติราวจังหวะด

  • เมีย(ลับ)นายทุน   บทที่5 กอดทั้งคืน

    บทที่5 กอดทั้งคืน กลางคืนของกรุงเทพฯ ความเงียบสงัดกลับกล่อมโลกทั้งใบให้หลับใหล มินตรายืนอยู่ริมหน้าต่าง กระชับเสื้อคลุมแพรสีน้ำเงินเข้มแนบอก ร่างบางสะท้อนแสงจันทร์เป็นเงาอ่อนบนกระจกเงา กลิ่นสบู่อ่อน ๆ จากห้องน้ำยังติดปลายจมูก ภาพของชายหนุ่มที่เดินเข้าไปด้วยท่วงท่าหนักแน่นและเงียบงันยังติดตา เธอก้มมองโทรศัพท์ที่วางหงายอยู่บนโต๊ะ ข้อความสุดท้ายที่ได้รับก่อนเขาเดินเข้าไปอาบน้ำเพียงหนึ่งบรรทัด K:คืนนี้ อย่าแตะโทรศัพท์ ฉันต้องการเวลากับเธอทั้งคืน หัวใจเธอเต้นแรงกว่าเดิมไม่ใช่เพราะถ้อยคำหวงแหน แต่เพราะน้ำเสียงในข้อความนั้นแฝงแรงดึงดูดบางอย่างที่ห้ามไม่ได้ เสียงประตูเลื่อนเปิดช้า ๆ กลุ่มไอร้อนจากห้องน้ำลอยออกมาก่อนที่เขาจะก้าวออกมา คิรินทร์สวมชุดคลุมอาบน้ำผืนบาง เส้นผมเปียกชื้นแนบกรอบหน้า ดวงตาคมเข้มหยั่งลึกจับจ้องเธอในความมืดครึ่งหนึ่งของห้อง เขาไม่ได้พูดทันที แค่เดินเข้าใกล้เรื่อย ๆ “ยังไม่นอน?” เขาเอ่ยเสียงนุ่ม ผิดกับบุคลิกที่เธอเคยรู้จักในห้องประชุมมากนัก “รอคุณค่ะ” เธอกลืนน้ำลายเบา ๆ ก่อนตอบเขาหยุดห่างเพียงช่วงลมหายใจ ดวงตาของเขามองต่ำลงที่เสื้อคลุมของเธอที่คล้ายหลวมไปนิด

  • เมีย(ลับ)นายทุน   บทที่4 ของขวัญ

    บทที่4ของขวัญฟ้าเช้าวันใหม่ส่องลอดผนังกระจกของเพนต์เฮาส์ เหลือบแสงอุ่นไล้ไหลตามพื้นไม้สักจนเกิดริ้วละมุนราวผืนผ้าทอทอง มินตรานั่งนิ่งงันที่ปลายโซฟา ทว่าดวงตากลมกลับขุ่นมัวคล้ายหมอกเช้าเพราะน้ำตาที่ค้างขอบชั่วครู่เธอไม่แน่ใจว่าหลับไปตอนไหน ความอ่อนแรงทำให้สติเลือนหายราวฝัน หากสิ่งแรกที่เห็นตอนลืมตา คือกล่องสีน้ำตาลสันเรียบวางอยู่บนโต๊ะกระจกตรงหน้า ไม่มีโบ ไม่มีการ์ด ไม่มีแม้กระดาษแทรกบอกชื่อผู้ส่ง แต่มินตรากลับรู้ว่าของสิ่งนี้ผู้ให้คือใครมินตราไม่รีบเปิด แต่ทอดมองกล่องนั้นชั่วครู่พลันสูดลมหายใจเข้าลึกๆ พอจะให้หัวใจที่ถูกขยี้ด้วยคำพูดเมื่อคืนคลี่คลาย ก่อนปลายนิ้วเรียวจะค่อย ๆ แกะปมริบบิ้นออกฝากล่องถูกยกอย่างช้า ช้า จนแสงเช้าสาดลงบนเนื้อในกระดาษสา เผยให้เห็นบางสิ่งที่ทำให้ลมหายใจเธอติดขัดอีกครั้งเช็กเงินสดยอดหกหลักวางเรียงอย่างราบเรียบอยู่ในซองขาวไร้ตัวหนังสือ และเหนือเช็กนั้นคือแฟ้มแผ่นบางพิมพ์ตราโรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง ในนั้นแนบสัญญาค่ารักษาครบวงจร ลงลายเซ็นคิรินทร์ วัชรเมธาชัดเจน เส้นหมึกเรียบกริบราวคมมีด แต่ตวัดปลายอักษรอย่างอ่อนโยนจนชวนให้คิดว่าเจ้าของลายเซ็นคงตั้งใจมอบมากกว่า

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status