Home / โรแมนติก / เมีย(ลับ)นายทุน / บทที่8 ใครคนนั้น

Share

บทที่8 ใครคนนั้น

Author: Noppharat
last update Last Updated: 2025-11-28 20:59:27

บทที่8

ใครคนนั้น

หลังจากเช้าอุ่นไอรักผ่านพ้นไป มินตราคิดว่าเขาจะกลับไปใช้ชีวิตแบบเดิมอีกครั้ง เหมือนทุกครั้งที่หมดภารกิจในห้องนอน แต่เปล่าเลยคิรินทร์กลับทำในสิ่งที่เธอไม่ทันตั้งตัว

“ไปเปลี่ยนชุด”

เขาพูดขณะยกกาแฟขึ้นจิบใบหน้ายังเรียบเฉยเหมือนทุกวัน แต่แววตานั้นกลับซ่อนรอยยิ้มบางเบาไว้

“หืม..คุณว่าไงนะคะ”

มินตราเงยหน้าขึ้นจากขนมปังตรงหน้าที่เขาเตรียมไว้ให้ เพราะมีสิ่งที่น่าสนใจมากกว่านั้น

“เราจะไปไหนกันเหรอคะ”

“ฉันอยากพาเธอไปสูดลมทะเล”

เขาตอบเรียบ ๆ ก่อนจะวางแก้วลง

“บนเรือ...ไปทะเลกัน”

“...”

มินตราไม่มีเวลาอึ้งนานก็ต้องเตรียมตัวลุกไปจัดเตรียมสัมภาระ ไม่ถึงชั่วโมงต่อมารถยนต์คันหรูพามาถึงท่าเรือส่วนตัว มินตรายืนกะพริบตาถี่เมื่อเห็นเรือยอชต์สีขาวหรูเทียบท่ารออยู่ คนที่เคยเห็นเรือพวกนี้แค่ในโฆษณา ไม่คิดว่าวันหนึ่งจะได้เหยียบมันจริง ๆ ด้วยเท้าตัวเอง

“นี่คือ...ของคุณ”

เธอถามเสียงอ่อยขณะจับมือเขาขึ้นเรือ

“หึ...เธอเข้าใจถูกแล้วล่ะที่นี่เป็นของฉันทุกอย่าง”

เขาตอบพร้อมกับรั้งมือเธอแน่น บนเรือยอชต์สุดหรู พนักงานต้อนรับและกัปตันล้วนรู้จักเขาดีจนไม่ต้องออกคำสั่งใด ๆ เรือค่อย ๆ เคลื่อนตัวออกจากฝั่งอย่างนุ่มนวล ปล่อยให้สายลมและเสียงคลื่นกล่อมหัวใจของหญิงสาวที่ยังไม่หายตื่นเต้น

คิรินทร์เลือกมุมโซฟาเบาะหนานุ่มใต้ร่มผ้าสีขาว มองออกไปยังทะเลที่ทอดยาวไกลสุดสายตา มือข้างหนึ่งวางบนพนักโซฟา อีกข้างวางบนต้นขาของมินตราอย่างแนบเนียน

“ทำไมถึงพามาล่องเรือคะ”

เธอถามเสียงเบามือกำชายกระโปรงไว้แน่นเพราะอากาศเย็นเฉียบ

“อยากให้เห็นโลกในมุมที่ไม่ต้องหลบซ่อน อุดอู้อยู่แต่ในห้องก็คงเบื่อแย่”

“...”

คำตอบของเขาทำให้เธอชะงัก หัวใจเหมือนถูกลูบด้วยฝ่ามืออุ่นร้อน สายลมเย็นพัดพาเส้นผมเธอปลิวเบา ๆ เขาเอื้อมมือมาเกลี่ยผมให้โดยไม่พูดอะไร ก่อนจะโน้มตัวมากระซิบข้างหู

“ถ้าหนาวก็บอกฉันจะหาวิธีคลายอุ่นให้เธอ”

“อย่าใช้วิธีเมื่อคืนก็พอค่ะ”

เธอตอบพลางหลบสายตาเพราะรู้ว่ารนอายุมากกว่าต้องวนเข้าเรื่องอย่างว่า

“หึ..แสดงว่าเริ่มตามฉันทันแล้วล่ะสิ”

เขายิ้มร้ายก่อนจะกระชับวงแขนรั้งเธอเข้ามาใกล้จนแนบชิด กลิ่นหอมจาง ๆ จากคอเสื้อของเขาทำให้เธอใจสั่น

จุ๊บ!

“อื้ออ”

คิรินทร์ก้มลงแตะจูบเบา ๆ ที่ขมับเธอ แล้วลากปลายจมูกผ่านแนวแก้มไปอย่างจงใจ

“พะ...พอแล้วค่ะเดี๋ยวใครมาเห็น”

เธอขยับตัวหนีแต่เขาไม่ยอมปล่อย

“จะมีใครขึ้นมานอกจากเธอกับฉัน”

คำตอบนั้นทำให้มินตราใจเต้นแรงจนแทบไม่เป็นจังหวะ เธอหลับตาอย่างพยายามกลั้นความรู้สึก แต่ริมฝีปากของเขากลับประทับลงอย่างแผ่วเบาที่สันกราม ไล้ลงมาจนถึงลำคอ

มือของเขาไล้ไปตามแนวแขนของเธอ ก่อนจะประคองใบหน้าเธอขึ้นมาให้สบตาอีกครั้ง ดวงตาของเขาในแสงแดดยามบ่ายเข้มลึกจนเธอไม่อาจต้านทานได้อีกต่อไป

“อยู่เฉย ๆ นะ ฉันแค่อยากทำให้แน่ใจว่าเธอรู้สึกเหมือนฉัน”

แล้วจูบของเขาก็ซ้อนทับลงมาแนบแน่นและซื่อตรงต่อความรู้สึกที่ไม่มีชื่อเรียก แต่กำลังชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ ทุกวินาทีที่พวกเขาอยู่ใกล้กัน

มินตรารู้สึกได้ถึงความอ่อนโยนในน้ำหนักสัมผัสของเขา ทุกอย่างช้าแต่ลึกซึ้ง เหมือนคลื่นทะเลที่ซัดเข้าหาฝั่งไม่รู้จบ เขาใช้ปลายนิ้วลูบไล้ผิวเนียนใต้ชายเสื้อที่ค่อย ๆ ถูกปลดออก ทีละกระดุม ทีละชั้น

“ฉันจะไม่รีบร้อน ขอแค่ให้เธอรับรู้”

คิรินทร์กระซิบชิดริมฝีปากเธอ เขาจูบเธออีกครั้งนุ่มลึกและจงใจชะลอทุกจังหวะจนหัวใจเธอสั่นระรัว เธอวางมือลงบนอกเขา รับรู้ถึงจังหวะเต้นการเต้นของหัวใจที่แรงพอๆ กับของเธอ

ชุดเดรสของเธอหลุดจากบ่าเผยผิวขาวนวลที่สะท้อนแสงแดดทะเลอ่อน ๆ เขาก้มลงจูบไหล่ของเธออย่างหลงใหล แล้วไล่จูบขึ้นมาตามแนวลำคอระหง ไล้ริมฝีปากอย่างระมัดระวัง

มือใหญ่ลูบไล้แผ่นหลังเธอเบา ๆ ลมหายใจร้อนของเขาเป่ารดต้นคอ มินตราเผลอครางออกมาเบา ๆ อย่างห้ามไม่ได้ เขาสบตาเธอ ดึงเธอเข้ามาแนบแน่นอีกครั้ง แล้วจูบอย่างแผ่วเบาเป็นรอบที่สาม

เขาไม่ได้เร่งเร้าการกระทำ มีเพียงการสัมผัสอย่างเข้าใจและการประสานความสัมพันธ์ ในยามนั้นไม่ได้เกิดจากไฟราคะเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากความไว้วางใจที่ก่อตัวขึ้นช้า ๆ

เสียงคลื่นและสายลมเป็นฉากหลังของการสื่อสารที่ไม่มีคำพูดใดจำเป็น คิรินทร์ลูบไล้เธอทั้งตัวด้วยความอ่อนโยน

“มิน”

เขาเรียกชื่อเธอเบา ๆ ขณะเคลื่อนไหวเข้าไปเป็นหนึ่งเดียวกันกับร่างกายเธอ มินตรารู้สึกเหมือนถูกละลายภายใต้สัมผัสของเขา หัวใจของเธอไม่ได้แค่ถูกกระตุ้นจากร่างกาย หากแต่ถูกโอบไว้ด้วยความรู้สึกที่ล้นปรี่

เขาอยู่เหนือเธอไม่ใช่เพราะความแข็งแกร่งหรืออำนาจ แต่เพราะเขารู้วิธีทำให้เธอเชื่อว่า เขาจะไม่มีวันปล่อยเธอลอยเคว้ง

แม้จังหวะจะเร่งขึ้นเล็กน้อยเมื่อเธอกระซิบครางชื่อเขาซ้ำ ๆ ด้วยเสียงสั่นพร่า แต่เขาก็ยังคงใช้จังหวะหนักแน่นแต่เนิบช้า ให้เธอรู้ว่าเธอมีความสำคัญแค่ไหน เขาสอดประสานมือเข้ากับมือของเธอ บีบแน่นเพียงพอให้รู้ว่าเขาอยู่ตรงนี้ ไม่ได้ฝัน

มินตราเบียดตัวเข้าหาเขาในทุกช่วงการเคลื่อนไหวยกมือคล้องลำคอเขาไว้แล้วดึงเขาลงมาหอมหน้าผากด้วยรอยยิ้มความรักที่ไม่พูดออกมา กำลังสื่อสารผ่านร่างกายทั้งสองเรือนร่าง

หลังจากช่วงบ่ายบนเรือที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นและความใกล้ชิด คิรินทร์พามินตรากลับขึ้นฝั่งด้วยท่าทีที่เงียบขรึม แต่แฝงความอ่อนโยนในทุกการกระทำ เสียงเครื่องยนต์เบาของรถยนต์หรูทำลายความเงียบสงบระหว่างทางกลับบ้านเล็กน้อย แต่ในหัวใจของมินตรายังคงวาบไหวไม่หยุด

“คุณจะทำแบบนี้กับทุกคนที่เลี้ยงไหมคะ”

เธอถามเบา ๆ ระหว่างรถเลี้ยวเข้าเส้นทางส่วนตัว สายตาจับจ้องวิวข้างทางที่ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นแนวต้นไม้และสนามหญ้า

“หมายถึงอะไร”

คิรินทร์ถามกลับโดยไม่ละสายตาจากถนน แต่เสียงทุ้มของเขาเหมือนสะกิดเข้ามาในใจเธอทันที

“ดูแลเอาใจใส่ พาไปล่องเรือแบบนั้นน่ะค่ะ”

เขาไม่ตอบทันที มีเพียงรอยยิ้มบาง ๆ ที่มุมปากก่อนเขาจะหยุดรถหน้าเพ้นท์เฮ้าส์

“ไม่ใช่ทุกคน และจะไม่มีใครอื่นได้มาผ่อนคลายแบบเธอหรอก”

เขาหันมามองเธอด้วยสายตานิ่งลึกมินตราเงียบไป หัวใจเต้นรัวอย่างประหลาด เธอไม่รู้ว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นแปลว่าอะไรแน่ แต่ไม่กล้าถามต่อ กลัวจะได้คำตอบที่ต่างจากสิ่งที่เธออยากได้ยิน

ในขณะที่เธอกำลังจะเปิดประตูลงจากรถ เสียงโทรศัพท์มือถือของคิรินทร์ก็ดังขึ้น เขาชำเลืองมองเบอร์ที่โชว์บนหน้าจอ แล้วตัดสินใจกดรับสาย

“ครับ”

เสียงทุ้มต่ำเปลี่ยนไปเล็กน้อย มินตรารู้สึกถึงระยะห่างทันทีโดยไม่ต้องได้ยินปลายสายพูดอะไรเลย

“ตอนนี้เหรอ ได้ เดี๋ยวผมเข้าไป”

เขากดวางสาย และหันมามองเธออีกครั้ง

“...”

“ฉันต้องเข้าออฟฟิศด่วน มีเรื่องประชุมกับบอร์ดกะทันหัน”

“ค่ะ”

“เธอขึ้นไปพักก่อนนะ เดี๋ยวคืนนี้ฉันกลับมา”

มินตราพยักหน้าอย่างเข้าใจ แม้ในใจจะมีคำถามอยู่เต็มไปหมดว่าใครโทรมา ทำไมเขาต้องดูเคร่งเครียดขนาดนั้น

เมื่อเขาขับรถจากไป เธอก็ยืนอยู่หน้าประตูบ้านอย่างเงียบ ๆ แสงแดดยามเย็นส่องผ่านใบไม้ตกต้องใบหน้าเธอ ลมเย็นพัดผ่านปลายผมแต่ไม่ได้ช่วยลดความรู้สึกโหวงในอกได้เลย

เธอก้าวขึ้นบ้านช้า ๆ นั่งลงบนโซฟาตัวยาวในห้องนั่งเล่น เงียบงัน จนกระทั่งเสียงโทรศัพท์ของเธอดังขึ้นบ้างเบอร์ที่ขึ้นไม่ใช่คนรู้จัก แต่เมื่อเธอกดรับสายเสียงปลายสายกลับทำให้หัวใจเธอเต้นผิดจังหวะ

“เธอคือมินตราใช่ไหม”

ปลายสายนั่นเป็นเสียวผู้หญิงที่มินตราไม่คุ้นเคยเลยด้วยซ้ำ

“ค่ะ แล้วคุณเป็นใคร?รู้จักเบอร์ฉันได้ยังไง”

เธอถามทันทีที่ผู้หญิงคนนั้นเว้นช่องว่างให้เธอตอบ

“หึ ก็แค่อยากเตือนว่า อย่าคิดว่าคุณเป็นคนแรก หรือคนเดียวของคุณคิรินทร์นะ”

คำพูดนั้นทำให้เธอเย็นวาบไปทั้งร่าง

“ไม่เชื่อก็ ลองไปค้นในลิ้นชักโต๊ะทำงานของเขาสิ อาจมีบางอย่างที่เขาไม่อยากให้เธอเห็น”

“อะไร..ดะ..เดี๋ยวสิ!!”

ตื้ดๆๆๆๆ

แล้วสายก็ถูกตัดไปอย่างไร้เยื่อใยมินตรานั่งนิ่งอยู่นาน เธอควรทำอย่างไรคำพูดเหล่านั้นอาจเป็นเรื่องโกหก อาจมาจากใครบางคนที่ต้องการทำลายความสัมพันธ์ของเธอกับเขา แต่เธออยากรู้ความจริง

ในคืนนั้นเมื่อความมืดเข้าครอบคลุมบ้านทั้งหลัง และคิรินทร์ยังไม่กลับมา เธอเดินไปที่ห้องทำงานของเขาอย่างช้า ๆ มือสั่นขณะจับลูกบิดประตู

เสียงเปิดลิ้นชักแผ่วเบา แต่หัวใจของเธอดังโครมคราม เธอพบแฟ้มเอกสารบางอย่างซุกไว้ใต้แผ่นเอกสารอื่น ๆ

ข้างในมีภาพผู้หญิงคนหนึ่งใบหน้าสวยคม นัยน์ตาดุดัน และภาพเธอกับคิรินทร์ในงานเลี้ยงส่วนตัวที่ถูกแอบถ่ายไว้จากมุมไกล

และใต้แฟ้มภาพนั้นมีซองจดหมายแบน ๆ ใบหนึ่ง ที่จ่าหน้าซองว่า ‘ถึงคนที่อยู่ข้างกายฉันไม่ว่าจะวันนี้ พรุ่งนี้ หรืออนาคต’

มินตราชะงักน้ำตารื้นขึ้นมาโดยไม่รู้สาเหตุ เธอยังไม่ได้เปิดซอง แค่คำจ่าหน้าก็มากพอจะทำให้เธอรู้สึกว่าเธอกำลังยืนอยู่กึ่งกลางระหว่างอดีตและอนาคตของชายคนหนึ่ง

ทว่า แล้วเสียงรถที่แล่นเข้ามาหน้าบ้านก็ดังขึ้นอีกครั้ง คิรินทร์กลับมาแล้วเธอควรเก็บซองจดหมายนั้นคืน หรือเปิดมันดี

หรือเธอควรถามเขาตรง ๆ หรือแกล้งทำเป็นไม่รู้มินตราไม่แน่ใจเลยสักอย่าง...

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เมีย(ลับ)นายทุน   บทที่9 ระแวง

    บทที่9ระแวงห้องรับแขกกว้างขวางของเพ้นท์เฮ้าส์ราคาแพงเงียบสงัด จนได้ยินเสียงเข็มนาฬิกาเดินเป็นจังหวะเนิบช้า มินตรายืนกอดอกอยู่หน้าเตาผิงจำลอง ดวงตากลมโตฉายแววลังเลและสั่นไหว ร่องรอยจางบนแก้มยังไม่ทันจางลงจากไอร้อนยามบ่าย แต่ภายในกลับเย็นเยียบยิ่งกว่าอากาศยามค่ำเธอกำลังรอและการรอคอยครั้งนี้ช่างยาวนานเกินกว่าจะนับเวลาได้เพียงชั่วโมงเดียว รถเบนท์ลีย์สีดำคันคุ้นตาแล่นจากรั้วไปตั้งแต่ก่อนพระอาทิตย์ลับฟ้า โดยมีเพียงคำสั้น ๆ ว่ามีประชุมด่วนทิ้งไว้แสงไฟสีอบอุ่นจากหัวบันไดสะท้อนกับโซฟาหนังแท้สีอ่อน เธอลอบมองโทรศัพท์ที่สว่างขึ้นทุก ๆ สิบนาทีจากการแจ้งเตือนของเพื่อนร่วมรุ่น แต่กลับไม่มีแม้เพียงหนึ่งข้อความจากเขา คิรินทร์ วัชรเมธา ชายผู้ที่เธอกำลังฝากหัวใจไว้โดยไม่รู้ตัวแฟ้มบางบนโต๊ะกลางยังอ้าปากเผยรูปถ่ายหญิงสาวปริศนา ผู้มีดวงตาคมลึกและรอยยิ้มบางเฉียบที่เปี่ยมไปด้วยชัยชนะ หน้ากระดาษแนบถ้อยคำทิ้งท้ายว่า ‘ถึงคนที่อยู่ข้างกายฉัน วันนี้ พรุ่งนี้ และอนาคต’ เหมือนจะส่งสารบางอย่างจากอดีตสู่ปัจจุบันหญิงสาวกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก เธอคือใครกันแน่ มินตราเริ่มตั้งคำถามว่า เธอมีสิทธิ์ในหัวใจเขาจริง หรือ

  • เมีย(ลับ)นายทุน   บทที่8 ใครคนนั้น

    บทที่8ใครคนนั้นหลังจากเช้าอุ่นไอรักผ่านพ้นไป มินตราคิดว่าเขาจะกลับไปใช้ชีวิตแบบเดิมอีกครั้ง เหมือนทุกครั้งที่หมดภารกิจในห้องนอน แต่เปล่าเลยคิรินทร์กลับทำในสิ่งที่เธอไม่ทันตั้งตัว“ไปเปลี่ยนชุด” เขาพูดขณะยกกาแฟขึ้นจิบใบหน้ายังเรียบเฉยเหมือนทุกวัน แต่แววตานั้นกลับซ่อนรอยยิ้มบางเบาไว้“หืม..คุณว่าไงนะคะ” มินตราเงยหน้าขึ้นจากขนมปังตรงหน้าที่เขาเตรียมไว้ให้ เพราะมีสิ่งที่น่าสนใจมากกว่านั้น“เราจะไปไหนกันเหรอคะ”“ฉันอยากพาเธอไปสูดลมทะเล” เขาตอบเรียบ ๆ ก่อนจะวางแก้วลง “บนเรือ...ไปทะเลกัน”“...”มินตราไม่มีเวลาอึ้งนานก็ต้องเตรียมตัวลุกไปจัดเตรียมสัมภาระ ไม่ถึงชั่วโมงต่อมารถยนต์คันหรูพามาถึงท่าเรือส่วนตัว มินตรายืนกะพริบตาถี่เมื่อเห็นเรือยอชต์สีขาวหรูเทียบท่ารออยู่ คนที่เคยเห็นเรือพวกนี้แค่ในโฆษณา ไม่คิดว่าวันหนึ่งจะได้เหยียบมันจริง ๆ ด้วยเท้าตัวเอง“นี่คือ...ของคุณ” เธอถามเสียงอ่อยขณะจับมือเขาขึ้นเรือ“หึ...เธอเข้าใจถูกแล้วล่ะที่นี่เป็นของฉันทุกอย่าง” เขาตอบพร้อมกับรั้งมือเธอแน่น บนเรือยอชต์สุดหรู พนักงานต้อนรับและกัปตันล้วนรู้จักเขาดีจนไม่ต้องออกคำสั่งใด ๆ เรือค่อย ๆ เคลื่อนตัวออกจาก

  • เมีย(ลับ)นายทุน   บทที่7 คำสัญญา

    บทที่7คำสัญญาเพียงแค่ประโยคนั้นหลุดจากริมฝีปากของคิรินทร์ กลิ่นอายของค่ำคืนนี้ก็เปลี่ยนไป แต่มันคือพลังบางอย่างที่แผ่ซ่านออกมาจากตัวเขาแรงปรารถนาอันเงียบงันแต่ทรงพลังมินตรานั่งนิ่งใบหน้าร้อนวูบวาบแต่ไม่กล้าหันไปมองเขา เธอรับรู้ได้ถึงมืออุ่นที่จับมือเธอไว้แน่น และนิ้วโป้งที่เกลี่ยเบา ๆ บนหลังมืออย่างเชื่องช้า ราวกับพยายามกล่อมจิตใจเธอให้ล่องลอยไปตามจังหวะของเขาเมื่อรถจอดที่หน้าเพนต์เฮาส์ เธอยังรู้สึกเหมือนตัวเองไม่ได้เดิน แต่ถูกแรงอ่อนโยนบางอย่างพาเข้าสู่ลิฟต์ส่วนตัวจนถึงชั้นบนสุดประตูลิฟต์เปิดออกโดยไม่มีคำพูดใด ๆ เขาเดินนำหน้าเธอเข้าไปในห้อง ขณะเธอก้าวตามเหมือนถูกสะกดด้วยแรงอธิบายไม่ได้ภายในห้องตกแต่งด้วยแสงไฟสีส้มอมทองที่ส่องจากโคมข้างหัวเตียง กลิ่นหอมของดอกไม้จากเครื่องกระจายกลิ่นลอยคลุ้งในอากาศ ทุกอย่างเหมือนจัดเตรียมไว้สำหรับค่ำคืนนี้ค่ำคืนที่เขาบอกว่าจะทำให้เธอลืมคำดูถูกทั้งปวง คิรินทร์หันกลับมามองเธอในแสงสลัว ดวงตาของเขาเข้มลึกและมั่นคงเหมือนพายุที่ซ่อนอยู่หลังเงาเมฆ"เดินมาหาฉัน มิน"“ค่ะ”เสียงของเขาเรียกเธออย่างแผ่วเบา แต่มันสะเทือนจนเธอรู้สึกได้ถึงแรงสั่นในอก เธอเดินเ

  • เมีย(ลับ)นายทุน   บทที่6 หนูก็แค่เด็กคนหนึ่งที่เอาตัวแลกเงิน

    บทที่6หนูก็แค่เด็กคนหนึ่งที่เอาตัวแลกเงินแสงแดดสายแกว่งไกวบนเคาน์เตอร์หินอ่อนสีครีมในครัวเปิดโล่งด้านตะวันออก กลิ่นกาแฟคั่วสดจากเครื่อง เอสเพรสโซ่แตะจมูกตั้งแต่ทางเดิน มินตราสวมเสื้อเชิ้ตผู้ชายตัวยาวสีขาวล้วน ก้าวเท้าเบา ๆ ยืนพิงกรอบประตู มองภาพเบื้องหน้า คิรินทร์ในเสื้อยืดสีเทาอ่อนตัวเดียว กางเกงลำลองสีน้ำตาลเข้มขยับมีดครัวหั่นเบคอนอย่างตั้งอกตั้งใจราวเชฟมืออาชีพเขาไม่ใช่มืออาชีพเห็นได้จากวิธีหยิบมีดแข็ง ๆ แต่แค่ภาพชายผู้บริหารที่เมื่อคืนยังเด็ดขาดในห้องประชุม ตอนนี้ยืนหันหลังให้เธอสะบัดกระทะก็เพียงพอจะทำให้ใจเธออุ่นวาบเสียงช้อนกระทบแก้วดังกรุ๋งกริ๋ง เขาหันมารับรู้สายตาหญิงสาว แล้วยกยิ้มมุมปากที่ทำให้กล้ามแก้มเขาเป็นคลื่น“ตื่นแล้วเหรอ คนขี้เซา ฝากอุ่นนมให้ทีสิ” เขาพูดเสียงนุ่มสอดสายตาอบอุ่นแม้ยังถือมีดมินตรายิ้มและพยักหน้าเข้าใจก่อนเดินไปเปิดเตาเล็ก เคลื่อนหม้อนมอย่างคล่อง เธอเติมผงโกโก้ลงไปเล็กน้อยให้สีละมุน แล้วคนด้วยช้อนเงิน ยกขึ้นดมกลิ่นหอมละมุนทำให้เธอนึกถึงบ้านครั้งยังเด็กคิรินทร์จับเบคอนเรียงลงกระทะ เสียงฉ่าเบา ๆ ดัง เคล้าเสียงขนมปังเด้งจากเครื่องปิ้งอัตโนมัติราวจังหวะด

  • เมีย(ลับ)นายทุน   บทที่5 กอดทั้งคืน

    บทที่5 กอดทั้งคืน กลางคืนของกรุงเทพฯ ความเงียบสงัดกลับกล่อมโลกทั้งใบให้หลับใหล มินตรายืนอยู่ริมหน้าต่าง กระชับเสื้อคลุมแพรสีน้ำเงินเข้มแนบอก ร่างบางสะท้อนแสงจันทร์เป็นเงาอ่อนบนกระจกเงา กลิ่นสบู่อ่อน ๆ จากห้องน้ำยังติดปลายจมูก ภาพของชายหนุ่มที่เดินเข้าไปด้วยท่วงท่าหนักแน่นและเงียบงันยังติดตา เธอก้มมองโทรศัพท์ที่วางหงายอยู่บนโต๊ะ ข้อความสุดท้ายที่ได้รับก่อนเขาเดินเข้าไปอาบน้ำเพียงหนึ่งบรรทัด K:คืนนี้ อย่าแตะโทรศัพท์ ฉันต้องการเวลากับเธอทั้งคืน หัวใจเธอเต้นแรงกว่าเดิมไม่ใช่เพราะถ้อยคำหวงแหน แต่เพราะน้ำเสียงในข้อความนั้นแฝงแรงดึงดูดบางอย่างที่ห้ามไม่ได้ เสียงประตูเลื่อนเปิดช้า ๆ กลุ่มไอร้อนจากห้องน้ำลอยออกมาก่อนที่เขาจะก้าวออกมา คิรินทร์สวมชุดคลุมอาบน้ำผืนบาง เส้นผมเปียกชื้นแนบกรอบหน้า ดวงตาคมเข้มหยั่งลึกจับจ้องเธอในความมืดครึ่งหนึ่งของห้อง เขาไม่ได้พูดทันที แค่เดินเข้าใกล้เรื่อย ๆ “ยังไม่นอน?” เขาเอ่ยเสียงนุ่ม ผิดกับบุคลิกที่เธอเคยรู้จักในห้องประชุมมากนัก “รอคุณค่ะ” เธอกลืนน้ำลายเบา ๆ ก่อนตอบเขาหยุดห่างเพียงช่วงลมหายใจ ดวงตาของเขามองต่ำลงที่เสื้อคลุมของเธอที่คล้ายหลวมไปนิด

  • เมีย(ลับ)นายทุน   บทที่4 ของขวัญ

    บทที่4ของขวัญฟ้าเช้าวันใหม่ส่องลอดผนังกระจกของเพนต์เฮาส์ เหลือบแสงอุ่นไล้ไหลตามพื้นไม้สักจนเกิดริ้วละมุนราวผืนผ้าทอทอง มินตรานั่งนิ่งงันที่ปลายโซฟา ทว่าดวงตากลมกลับขุ่นมัวคล้ายหมอกเช้าเพราะน้ำตาที่ค้างขอบชั่วครู่เธอไม่แน่ใจว่าหลับไปตอนไหน ความอ่อนแรงทำให้สติเลือนหายราวฝัน หากสิ่งแรกที่เห็นตอนลืมตา คือกล่องสีน้ำตาลสันเรียบวางอยู่บนโต๊ะกระจกตรงหน้า ไม่มีโบ ไม่มีการ์ด ไม่มีแม้กระดาษแทรกบอกชื่อผู้ส่ง แต่มินตรากลับรู้ว่าของสิ่งนี้ผู้ให้คือใครมินตราไม่รีบเปิด แต่ทอดมองกล่องนั้นชั่วครู่พลันสูดลมหายใจเข้าลึกๆ พอจะให้หัวใจที่ถูกขยี้ด้วยคำพูดเมื่อคืนคลี่คลาย ก่อนปลายนิ้วเรียวจะค่อย ๆ แกะปมริบบิ้นออกฝากล่องถูกยกอย่างช้า ช้า จนแสงเช้าสาดลงบนเนื้อในกระดาษสา เผยให้เห็นบางสิ่งที่ทำให้ลมหายใจเธอติดขัดอีกครั้งเช็กเงินสดยอดหกหลักวางเรียงอย่างราบเรียบอยู่ในซองขาวไร้ตัวหนังสือ และเหนือเช็กนั้นคือแฟ้มแผ่นบางพิมพ์ตราโรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง ในนั้นแนบสัญญาค่ารักษาครบวงจร ลงลายเซ็นคิรินทร์ วัชรเมธาชัดเจน เส้นหมึกเรียบกริบราวคมมีด แต่ตวัดปลายอักษรอย่างอ่อนโยนจนชวนให้คิดว่าเจ้าของลายเซ็นคงตั้งใจมอบมากกว่า

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status