Home / โรแมนติก / เมียกาฝาก / ทนได้ก็ทน ทนไม่ได้ก็ไสหัวไป

Share

ทนได้ก็ทน ทนไม่ได้ก็ไสหัวไป

last update Last Updated: 2025-10-17 00:31:43

หลังจากที่ทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยความทุลักทุเล คุณอินทร ก็พาฉัน เดินมาที่บ้านสวนดอกไม้ของท่าน ฉันมองไปรอบๆ บ้านสวนหลังนี้ มันสวยมาก ร่มรื่น มีดอกไม้นานาชนิด โดยเฉพาะกุหลาบ ที่มีทุกสายพันธุ์ เลยก็ว่าได้ มองไปส่วนไหนก็เจอแต่ดอกไม้และต้นไม้ที่ท่านปลูกไว้

"ชอบดอกไม้เหรอเรา" เสียงของคุณอินทรเอ่ยถามฉัน ขึ้น หลังจากที่ฉันไม่ได้เดินตามท่านเข้าไปในบ้าน มัวแต่หยุดมองต้นไม้ ดอกไม้ ที่ปลูกอยู่รอบๆ บ้านของท่าน

"ใช่ค่ะ หนูชอบ คุณท่านปลูกเองเลยเหรอค่ะ"

"บางทีก็ปลูกเอง บางทีก็คนสวน แต่พวกต้นไม้ตรงมุมนั้น ภรรยาของฉันเป็นคนปลูกเอง เขาเป็นคนชอบต้นไม้ และดอกไม้นะ" คุณอินทรเอ่ยบอกฉัน ด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม เมื่อท่านเอ่ยถึงภรรยาที่สุดที่รักของท่าน

"ต่อไปให้เรียกฉันว่า ปู่ นะ เพราะหนูจดทะเบียนสมรสกับหลานชายฉันแล้ว ถือว่าเป็น วิรากุล เต็มตัวแล้ว"

"ค่ะ คุณปู่"

"อีก 3 วัน ปู่จะเดินทางไปรักษาตัวที่ต่างประเทศ ปู่อยากให้หนูย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านวิรากุล พรุ่งนี้เลยนะ ปู่จะได้ไม่ต้องเป็นห่วงหนู"

"แล้วคุณปู่จะไปรักษาตัว นานแค่ไหนค่ะ"

ฉันเอ่ยถามท่านด้วยสีหน้าที่เป็นกังวล คิดไม่ตก เพราะเหมือน สามีตามนิตินัยของฉัน และแม่สามีของฉัน จะไม่ชอบขี้หน้าฉันเอาเสียเลย ฉันคงจะอาศัยอยู่ในบ้านวิรากุล ด้วยความลำบากใจ อย่างแน่นอน คิดแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจด้วยความเหนื่อยล้า

"หนูไม่ต้องกังวลหรอก ถ้าหากมีใครทำอะไรหนู ให้โทรแจ้งปู่ ได้ทันทีเลยนะ หรือถ้าติดต่อปู่ไม่ได้ ก็ให้ติดต่อ เลขาของปู่ก็ได้ เขาอยู่กับปู่ตลอดเวลา"

"หรือหนูจะย้ายมาอยู่บ้านสวนดอกไม้ หลังนี้หล่ะ หนูจะได้สบายใจขึ้น ไม่มีใครกล้ามาวุ่นวายกับหนูแน่นอน"

"หนูอยู่ได้เหรอค่ะ"

ฉันเอ่ยถามคุณปู่ ด้วยท่าทางดีใจเป็นอย่างมาก เพราะฉันไม่อยากไปอยู่ใกล้กับคุณลม กับแม่เขานะสิ เพราะฉันไม่รู้ว่าตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป ฉันจะเจอกับอะไรบ้าง ฉันจะทนอยู่จนครบ 1 ปี ไหม ก็ยังไม่รู้เลย

"อยู่ได้สิ ปู่อนุญาต ดีเสียอีกจะได้มีคนมาดูแลดอกไม้ของคุณย่า"

"ขอบคุณนะค่ะ"

ฉันเอ่ยบอกท่านออกไป ด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม ทั้งที่ในใจของฉัน ไม่ได้ยิ้มแย้มหรอกนะ แต่ฉันไม่อยากให้คุณปู่ ท่านไม่สบายใจ ยิ่งจะเดินทางไปรักษาตัวที่ต่างประเทศอีกด้วย

อีกด้าน....

"ไอ้พัช" "มึงรีบมาดูใจมันหน่อยซิว่ะ กูนี้จะบ้าตายอยู่แล้ว มันเมาจนหัวทิ่มไปหลายรอบแล้ว แม่ง ตื่นขึ้นมาก็ถามหาแต่เหล้า"

เสียงของ "พีช" เอ่ยบอกคู่แฝดของตัวเองผ่านทางโทรศัพท์ เนื่องจาก พายุ มาหาเขาที่คลับตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว มาถึงมันก็เอาแต่กินเหล้า แล้วก็รำพึงหาแต่คนรักของมันที่หนีไป มันกินจนขวดเหล้ากระจัดกระจายไปทั่ว ห้องพักส่วนตัวของผม

" เอ่อ ๆ เดียวกูแวะเข้าไป เดียวกูโทรตาม "ไอ้พลาย" ด้วย มึงก็ดูแลมันไปก่อนก็แล้วกัน อย่าให้มันกินจน นรก ถามหามันหล่ะ"

"ไอ้ฟาย พวกมึงรีบมาเลย"

ผ่านไปซักพัก....

"ปวดหัวชิบหาย" ผมบ่นพึมพำ พร้อมทั้งยกมือนวดขมับของตัวเอง หลังจากที่ตื่นลืมตาขึ้นมา ก็พบว่าตัวเองนอนอยู่ในห้องพักส่วนตัวของไอ้พีช ผมมาหามันที่คลับตั้งแต่เมื่อวานแล้ว หลังจากที่ผมทะเลาะกับปู่ และท่านก็ยังบังคับให้ผมจดทะเบียนสมรส กับผู้หญิงแพศยาคนนั้น ผมไม่ได้อยากจดทะเบียนสมรสกับผู้หญิงคนนั้นหรอกนะ แต่ผมทนไม่ได้ที่คุณปู่จะยกทุกสิ่งทุกอย่างที่ควรจะเป็นของผมครึ่งหนึ่ง ไปให้ผู้หญิงคนนั้น รวมไปถึงสัมปทานป่าไม้ที่อยู่ทางใต้ของผมไปให้ผู้หญิงคนนั้นอีก ถึงแม้ว่าระยะเวลาการจดทะเบียนสมรส จะแค่ 1 ปีเท่านั้น แต่ผมจะไม่ทนเห็นหน้าผู้หญิงคนนั้นจนครบ 1 ปีหรอกนะ ผมจะทำทุกทางให้ผู้หญิงคนนั้นอยู่ไม่ได้ เป็นฝ่ายขอหย่าไปเอง และเธอก็ต้องออกไปด้วยมือเปล่าเท่านั้น ไม่มีสิทธิ์ในทรัพย์สมบัติของ วิรากุล อย่างแน่นอน.

"ไง กูนึกว่ามึงตายไปแล้วซะอีก"

เสียงของเพื่อนผมทั้ง 3 คนเอ่ยทักผมขึ้นมา เมื่อพวกมันเดินเข้ามาในห้อง ที่ผมนอนอยู่

"แดกอีกไหมว่ะ เดียวกูไปเอามาให้อีก"

"ฉลองหน่อยไหม มีเมียเป็นตัวเป็นตนคนแรกของของกลุ่มเลยนะ"

"พวกมึงเลิกแขวะกูได้แล้ว กูยิ่งกลุ้มๆ อยู่ ไหนจะเรื่องที่เอมหนีไป ไหนจะเรื่องผู้หญิงคนนั้นอีก กูอยากจะบ้าตาย"

"เอาน่า ว่าแต่ผู้หญิงคนนั้นเป็นไงบ้างว่ะ ตรงสเปคมึงไหม เรียบร้อย อ่อนหวาน อ่อนโยน 5555"

"กูไม่ตลก ไอ้พวกเวร"

"แล้วมึงจะเอาไงต่อว่ะ ตอนนี้ผู้หญิงคนนั้นก็ถือว่าเป็นเมียมึงตามกฎหมายแล้วนะเว้ย"

"พวกมึงรอดูแล้วกัน กูจะทำให้ผู้หญิงคนนั้นทนไม่ได้เอง กูเจ็บมากเท่าไร มันต้องเจ็บมากกว่ากูร้อยเท่าพันเท่า ในเมื่ออยากได้ทรัพย์สมบัติกูมากนัก กูจะจัดให้"

พวกเพื่อนๆ ของผมได้แต่มองหน้ากัน หลังจากที่ผมเอ่ยจบ.

"ยายมีนา วันนี้เธอไม่ทำโอเหรอ เห็นรีบๆ มี Order ขนมเข้ามาหล่ะสิ"

เสียงยายจิน เพื่อนร่วมแผนกเอ่ยทักฉัน ที่กำลังจะเก็บกระเป๋ากลับบ้านในช่วงเลิกงานสี่โมงเย็น

"มีธุระต้องไปจัดการด่วนนะ"

ฉันไม่ได้บอกเพื่อน ๆ ว่าวันนี้ฉันจะย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านวิรากุล ซึ่งเป็นบ้านของผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทแห่งนี้ การจดทะเบียนสมรสของฉันและคุณพายุ มีคนรับรู้แค่ไม่กี่คนเท่านั้น มีเพียง ครอบครัววิรากุล และคุณภีมภพ ที่เป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ของบริษัทที่ฉันทำงานอยู่นั้นเอง ที่คุณภีมภพรู้เรื่องการจดทะเบียนสมรสระหว่างฉันกับคุณพายุ ก็เนื่องจากเขาเป็นญาติสนิทกัน ที่จริงเขาน่าจะรู้ตั้งแต่วันที่ ที่คุณพายุมายื่นขอเสนอให้ฉันที่บริษัทตั้งแต่วันแล้วมั้ง ส่วนเพื่อนๆ ของฉัน และคนในบริษัทไม่มีใครทราบซักคน ว่าฉันจดทะเบียนสมรสกับคุณพายุแล้ว เพราะฉันไม่ได้บอกใครเลย ฉันไม่ต้องการให้คนอื่นรับรู้ ไม่อยากตอบคำถามต่างๆ นาๆ ว่าคนอย่างฉันที่เป็นเพียงพนักงานต็อกต๋อย ทำยังไงถึงได้ไปจดทะเบียนสมรสกับผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท

หลังจากที่ฉันเก็บข้าวของและเสื้อผ้าที่จำเป็นบางส่วนเรียบร้อยแล้วนั้น ฉันก็เดินออกมาบอกกล่าวกับป้าพร ซึ่งป้าพรก็รับรู้เรื่องราวที่ฉันต้องแต่งงานและจดทะเบียนสมรสแล้ว ซึ่งป้าพรเขาก็ดีใจนะ ที่มีคนดูแลฉันแล้ว ฉันจะได้ไม่ต้องอยู่คนเดียวเหมือนที่ผ่านมา แต่ใครจะไปรู้ว่าความเป็นจริงมันไม่ใช่ อย่างที่ทุกคนคิดเลยซักนิด ฉันไม่รู้เลยว่านับตั้งแต่นี้ไป ชีวิตฉันจะเป็นยังไง

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เมียกาฝาก   ฟ้ากับเหว

    ร่างสูงใหญ่ นั่งกุมขมับอยู่ในห้องทำงานใหญ่ของตนเอง ในหัวของเขา พยายามนึกคิดว่าเอมมิกาจะหนีไปอยู่ที่ไหน จะไปต่างประเทศตามที่เธอบอกไว้ในจดหมายจริงหรือเปล่า หรือเธอจะแอบไปอยู่ที่ไหนซักแห่งในประเทศเกือบ 2 สัปดาห์ที่ผ่าน ผมได้พยายามตามหาเอม ไม่ว่าจะในประเทศ หรือต่างประเทศ จ้างนักสืบฝีมือดีๆ ก็ยังไม่มีใครสามารถตามหาคนรักของผมเจอซักที ตอนนี้ผมมืดแปดด้าน ไม่รู้จะไปตามหาที่ไหน โทรไปสอบถามพ่อกับแม่ของเธอ ก็ได้รับคำตอบกลับมาด้วยประโยคเดิมๆ คือ เอมไม่ติดต่อกลับมาที่บ้านเลย ไม่รู้ว่าตอนนี้เอมจะเป็นยังไงบ้าง จะเสียใจมากแค่ไหนในทุกๆ วันกิจวัตรประจำวันของผมคือ ทำงาน และตามหาเอม เท่านั้น ตั้งแต่วันที่ผมไปส่งคุณปู่ขึ้นเครื่องเพื่อเดินทางไปรักษาตัวที่ต่างประเทศ ตัวผมเองก็ไม่ได้กลับบ้านอีกเลย มีแต่โทรไปสอบถามความเป็นอยู่ของแม่ผมเท่านั้น เหตุผลหลักๆ คือผมไม่อยากเห็นหน้าผู้หญิงคนนั้น คนที่เข้ามาทำลายความสุขในชีวิตผม ผมเกลียด ผมไม่อยากที่จะมองหน้าเลยด้วยซ้ำ ทุกครั้งที่ผมเข้าบริษัท ผมก็จะไม่เดินไปถามไถ่สารทุกข์ สุขดิบ ของพนักงานแต่ละแผนกเหมือนแต่ก่อน เพราะผมไม่อยากเจอหน้าของผู้หญิงคนนั้นในบริษัท ไม่มีใครท

  • เมียกาฝาก   ไม่ได้เป็นที่ต้องการ

    บ้านวิรากุล....ฉันขับรถมาถึง บ้านวิรากุลในช่วงเกือบค่ำ ก่อนหน้านั้นคุณปู่ ได้โทรถามฉัน ว่าฉันถึงไหนแล้ว จะมาทันทานข้าวเย็นด้วยกันไหม ฉันจึงบอกท่านไปว่าใกล้ถึงแล้ว น่าจะทันเวลาอาหารเย็นพอดี ที่จริงท่านจะให้แม่บ้านและคนรถมาช่วยฉันขนของนะ แต่ฉันปฏิเสธท่านไป เพราะของมันไม่เยอะ ฉันไม่ได้ขนย้ายไปทั้งหมด บางส่วนฉันก็เอาไว้ที่บ้านนั้นแระ เผื่อวันไหน ฉันกลับมานอนค้างที่บ้าน จะได้ไม่ต้องลำบากขนไป ขนมาเมื่อฉันเดินเข้ามาในบ้าน ฉันก็ยกมือไหว้ คุณปู่ และคุณแม่ ของคุณพายุ ทันที"สวัสดีค่ะ ขอโทษนะค่ะ ที่ทำให้ทุกคนรอ""มาวันแรก ก็เสียมารยาทเลยนะ ไม่รู้จักกาละเทศะ ปล่อยให้ผู้ใหญ่รออยู่ได้" นางพิมพาเอ่ยตำหนิ ลูกสะใภ้ ที่นางไม่ต้องการขึ้น"มาๆ หนูมีนามานั่งตรงนี้ จะได้ทานข้าวกัน" คุณปู่เอ่ยบอกฉัน ให้ฉันเดินไปนั่งที่เก้าอี้ ข้างๆ คุณพายุพรึบ!!"ผมขอตัวนะครับ ทานไม่ลง"ฉันยังเดินไปไม่ถึงเก้าอี้ข้างๆ คุณพายุเลยด้วยซ้ำ เขาก็ลุกขึ้น แล้วเดินออกไปจากโต๊ะรับประทานอาหารทันที นี้เขาคงรังเกียจฉันมากเลยสินะ แม้กระทั่งทานข้าว เขายังไม่อยากทานด้วยเลย มื้อแรกของการทานข้าวที่ วิรากุล ก็อึดอัดใจเสียแล้วหลังจากที่ทาน

  • เมียกาฝาก   ทนได้ก็ทน ทนไม่ได้ก็ไสหัวไป

    หลังจากที่ทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยความทุลักทุเล คุณอินทร ก็พาฉัน เดินมาที่บ้านสวนดอกไม้ของท่าน ฉันมองไปรอบๆ บ้านสวนหลังนี้ มันสวยมาก ร่มรื่น มีดอกไม้นานาชนิด โดยเฉพาะกุหลาบ ที่มีทุกสายพันธุ์ เลยก็ว่าได้ มองไปส่วนไหนก็เจอแต่ดอกไม้และต้นไม้ที่ท่านปลูกไว้"ชอบดอกไม้เหรอเรา" เสียงของคุณอินทรเอ่ยถามฉัน ขึ้น หลังจากที่ฉันไม่ได้เดินตามท่านเข้าไปในบ้าน มัวแต่หยุดมองต้นไม้ ดอกไม้ ที่ปลูกอยู่รอบๆ บ้านของท่าน"ใช่ค่ะ หนูชอบ คุณท่านปลูกเองเลยเหรอค่ะ""บางทีก็ปลูกเอง บางทีก็คนสวน แต่พวกต้นไม้ตรงมุมนั้น ภรรยาของฉันเป็นคนปลูกเอง เขาเป็นคนชอบต้นไม้ และดอกไม้นะ" คุณอินทรเอ่ยบอกฉัน ด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม เมื่อท่านเอ่ยถึงภรรยาที่สุดที่รักของท่าน"ต่อไปให้เรียกฉันว่า ปู่ นะ เพราะหนูจดทะเบียนสมรสกับหลานชายฉันแล้ว ถือว่าเป็น วิรากุล เต็มตัวแล้ว""ค่ะ คุณปู่""อีก 3 วัน ปู่จะเดินทางไปรักษาตัวที่ต่างประเทศ ปู่อยากให้หนูย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านวิรากุล พรุ่งนี้เลยนะ ปู่จะได้ไม่ต้องเป็นห่วงหนู""แล้วคุณปู่จะไปรักษาตัว นานแค่ไหนค่ะ"ฉันเอ่ยถามท่านด้วยสีหน้าที่เป็นกังวล คิดไม่ตก เพราะเหมือน สามีตามนิตินัยของฉัน และแม่สาม

  • เมียกาฝาก   เผชิญหน้า

    2 วันต่อมา....อะไรนะครับ !!"เอมไปต่างประเทศ ไปทำไมครับ แล้วทำไมเอมไม่บอกผมเลย"หลังจากที่เขา เดินทางกลับจากไปดูงานที่สัมปทานป่าไม้ ที่อยู่ทางภาคใต้ เขาก็ได้รับข่าวร้าย ว่าคนรักของเขา หนีไปพักใจที่ต่างประเทศ"แล้วเอมไปประเทศไหนครับ ไปอยู่กับใคร ผมจะไปตามเอมกลับมาเอง""ยายเอมไม่ได้บอกพ่อกับแม่ไว้ว่าจะไปอยู่ประเทศไหน ทิ้งแต่จดหมายนี้ไว้" แม่ของหญิงสาวเอ่ยไปพร้อมกับบีบน้ำตา เพื่อให้แฟนหนุ่มของลูกสาวนางเห็นอกเห็นใจ และเลิกสงสัย ในการหายตัวไปของลูกสาวนาง เพราะในความเป็นจริงแล้วนั้น ลูกสาวของนางหนีไปอยู่เมืองนอกกับคู่ขาคนล่าสุด ที่ต่างประเทศนั้นเองตลอดระยะทางที่เขาขับรถจากบ้านของแฟนสาว เพื่อที่จะไปบ้านของตัวเอง เขาพยายามติดต่อเพื่อนหรือคนรู้จักของแฟนสาวเขาทุกคน เพื่อที่จะสอบถามว่าแฟนสาวของเขาไปอยู่ที่ไหน มีใครพบเจอไหม แต่นั้นก็ไม่มีใครสามารถให้คำตอบกับเขาได้เลยซักคน เมื่อเขานึกย้อนกลับไปถึงใจความในจดหมายที่แฟนสาวของเขาได้เขียนระบายเอาไว้ นั้นคือคุณปู่และผู้หญิงคนนั้น ต้องการให้เธอหลีกทางให้กับงานแต่งงาน ระหว่างเขา และผู้หญิงคนนั้น หากเธอไม่ทำตาม คนที่จะเดือดร้อนก็คือตัวของเขาเอง เธอจึงไม่

  • เมียกาฝาก   จัดการขั้นเด็ดขาด

    บ้าน เอมมิกา....“ ยายเอม เรื่องแต่งงานไปถึงไหนแล้ว แกจะได้แต่งกับ ตาลมหรือเปล่า ตอนนี้เงินทองเราแทบจะไม่เหลือแล้วนะ ไหนจะเจ้าหนี้ก็มาทวงที่บ้านทุกวัน” “ ที่เราเป็นแบบนี้ ก็เพราะ พ่อกับแม่ ไม่ใช่เหรอค่ะ ถ้าพ่อกับแม่ไม่ไปเข้าบ่อน พวกเราจะอยู่ในสภาพนี้ไหม” “แกจะมาบ่นให้มันได้อะไรขึ้นมา ฉันให้แก ไปเร่งรัดให้ฝั่งนั้นรีบมาสู่ขอแก เพื่อที่แกจะได้เข้าไปเป็นสะใภ้หมื่นล้าน จะได้เอาเงินมาหมุน แค่นี้ก็ยังทำไม่ได้ ไหนบอกว่า ตาลม รักแกนัก รักแกหนาไง แล้วทำไมป่านนี้ ยังไม่มาสู่ขอซักที” “คุณพ่อกับคุณแม่ก็ทราบ ว่าทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับใคร ถ้าไม่มีปู่ของเขาคอยขัดขวาง ป่านนี้ เอมก็ได้แต่งงานกับลมไปแล้ว ไม่ต้องมาคอยนั่งเอาอก เอาใจ คนนั้น คนนี้อยู่แบบนี้หรอกค่ะ พ่อกับแม่คิดว่าเอม อยากทำนักหรือไง” “แล้วตอนนี้คุณปู่ของลม ก็ยังมาบังคับให้ลม แต่งงานและจดทะเบียนสมรส กับอีบ้าที่ไหนอีกก็ไม่รู้ มันเลยทำให้ทุกอย่างยิ่งยากไปหมด” “เมื่อไหร่จะตายๆ ไปซักที อยู่ไปก็ขัดขวางความสุขของคนอื่น” เอมมิกาบ่นออกมา ด้วยท่าที ที่ไม่ต้องรักษากิริยา หรือแอ๊บอีกต่อไป ทุกครั้งที่เธอไปเจอครอบครัวของ พายุ หรือแม้กระทั้ง พายุเอง

  • เมียกาฝาก   เท่าไรจบ

    วันต่อมา....ฉันขับรถมาทำงานด้วยอาการเบลอๆ เนื่องจากนอนไม่หลับทั้งคืน เพราะมั่วแต่นอนคิด นั่งคิด กับเรื่องที่รับรู้มาเมื่อวานนี้ หลังจากที่ฉันเลิกงานช่วง 2 ทุ่ม คุณอินทรได้ให้เลขาของเขา นำเอกสารสำคัญมาส่งให้ฉัน และกำชับให้ฉันรีบเปิดอ่านทันที"หนูมีนา ฉันไม่เคยลืมสัญญา ที่ให้ไว้กับแม่ของหนูเลยนะ และฉันก็คิดว่ามันถึงเวลาแล้ว ที่ต้องทำทุกอย่างให้มันถูกต้อง ตลอดเวลาที่ผ่านมา ถึงหนูมีนา จะไม่เคยร้องขอความช่วยเหลือจากฉันเลยก็ตาม แต่ฉันเองก็อยากจะให้สิ่งที่ดีที่สุดกับหนู เพื่อทดแทนกับสิ่งที่แม่ของหนูได้เคยช่วยเหลือภรรยาของฉัน ฉันอยากให้หนูมีนา แต่งงานกับหลานชายคนเดียวของฉัน เพื่อที่จะได้มีสิทธิ์ในทรัพย์สมบัติของฉันคนละครึ่ง กับหลานชายของฉัน ฉันอยากให้หนูมีนา สุขสบาย ไม่ต้องทนทำงาน เป็นพนักงานบริษัทไปเรื่อยๆ แบบนี้ หวังว่า หนูมีนาจะไม่ปฏิเสธคำขอร้องของฉันนะ""อินทร วิรากุล"ฉันรู้จัก คุณอินทร วิรากุล เนื่องจากก่อนที่แม่ของฉันจะเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ แม่ของฉันเคยบริจาคเกล็ดเลือดช่วยเหลือภรรยาของท่าน ซึ่งในเวลานั้น ถ้าไม่ได้เกล็ดเลือดของแม่ฉัน ภรรยาของท่านก็คงเสียชีวิตไปแล้ว ดังนั้น คุณอินทรจึ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status