LOGINเพียงเพราะ ภัคพิญา ต้องการตอบแทนผู้มีพระคุณ เธอจึงตกปากรับคำแต่งงานกับ ปริภัทร์ "คุณมาทำอะไรที่นี่" ภัคพิญาเอ่ยถามชายหนุ่มตรงหน้าเสียงเรียบแววตาไร้ความรู้สึก พลอยทำให้เขาใจเสียไม่น้อย "ผมมาหาคุณ มารับคุณกลับบ้านของเรา" "เรา...บ้านของเราเหรอคะ" "ใช่ภัคบ้านของเรา" ร่างสูงจ้องมองใบหน้าสวยของเมียครู่หนึ่งแล้วเอ่ยประโยคต่อมา "กลับบ้านเราเถอะ" "บ้านของคุณไม่ใช่บ้านฉัน อีกอย่างฉันไม่มีบ้าน" หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วค่อยๆผ่อนออกมา "แล้วคุณก็ออกไปจากที่นี่ได้แล้ว" "ผมจะไม่ไปไหนทั้งนั้น ถ้าคุณไม่กลับไปกับผม" เธอส่งยิ้มและส่ายหน้าน้อยๆ "คุณไล่ฉัน ฉันก็ออกมาแล้วคุณยังจะเอาอะไรอีกคะ" เธอถามอย่างไม่เข้าใจ "เพราะหนี้ที่ครอบครัวผมจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ยายของคุณไงภัค" เขาหาข้ออ้างที่จะเหนี่ยวรั้งเธอไว้ ในความเป็นจริงแล้ว เขาไม่ต้องการเงินของเธอแม้แต่บาทเดียว สิ่งที่เขาอยากได้คือ 'หัวใจของภัคพิญา'เท่านั้น "ได้ฉันจะใช้หนี้ทั้งหมดให้คุณ แล้วถ้าหากคุณจะกรุณา ช่วยปล่อยฉันไป เหมือนที่ฉันเคยทำให้คุณได้ไหมคะ คุณปริภัทร์"
View Moreเมียนอกสถานะ
ประพันธ์/ผู้แต่ง : ญาดาพัชร์
ออกแบบปก : Baebearr_
จัดรูปเล่ม : ญาดาพัชร์
พิสูจน์อักษร : ปรียาดา
หมวดนิยาย : นิยายรัก โรมานซ์
*ขอสงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับเพิ่มเติม) พ.ศ. 2558 ห้ามให้ผู้ใดละเมิด มิให้คัดลอก ทำซ้ำ ดัดแปลงส่วนใดส่วนหนึ่งของหนังสือ ไม่ว่ากรณีใด ๆ ทั้งสิ้น โดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้เขียนเป็นลายลักษณ์อักษรถือว่าละเมิดลิขสิทธิ์ ยกเว้นเพื่อการอ้างอิง หรือ การประชาสัมพันธ์เท่านั้น
จากใจนักเขียน
สวัสดีค่ะ เจอกันกับเพชรอีกแล้วค่ะ วันนี้เพชรขอส่งนิยายเรื่อง
“เมียนอกสถานะ” มาให้ทุกคนได้รับพี่ปัทไปนอนกอดนะคะ เรื่องนี้เป็นเรื่องราวของความรักที่ไม่ลงรอยกันระหว่าง ปริภัทร์และภัคพิญา ที่เริ่มต้นเรื่องราวของชีวิตคู่ไม่ดีเท่าไหร่นักเมียนอกสถานะ เรื่องนี้พระเอกของเรื่องอย่าง ปริภัทร์ เป็นคนค่อนข้างที่จะปากร้าย ไม่ได้รักนางเอกอย่าง ภัคพิญา ที่ต้องมาแต่งงานกับพระเอกเพื่อแลกกับบางอย่าง ทำทุกวิถีทางที่จะให้นางเอกออกไปจากชีวิต
เรื่องราวของทั้งปริภัทร์และภัคพิญาจะเป็นอย่างไร ติดตามได้ในเมียนอกสถานะ ขอฝากพี่ปัทกับหนูภัคไว้ในอ้อมออกออ้อมใจของพี่ ๆ ด้วยนะคะ รอกันมานานหลายเดือนเลยค่ะ
สุดท้ายนี้ขอขอบคุณพี่ ๆ นักอ่านที่น่ารักและคอยสนับสนุนนิยายของญาดาพัชร์ นักเขียนตัวน้อย ๆ เสมอมา เพชรจะพยายามเขียนงานออกมาให้ดีที่สุดนำคอมเมนต์ทุกคอมเมนต์ของนักอ่านทุกท่านไปปรับปรุงให้ดีขึ้นค่ะ
ขอบคุณด้วยรักจากใจ
ญาดาพัชร์
คนที่ตั้งใจง้อเมียพยายามเอาอกเอาใจตามใจเธอทุกอย่าง มองตามแผ่นหลังของว่าที่คุณแม่อย่างเธอนั้นมาล้มลงนอนอยู่บนเตียงก่อนที่จะหลับไป หลังจากนั้นชายหนุ่มก็เดินออกมาโทรศัพท์ข้างนอกเพื่อไม่ให้รบกวนการพักผ่อนของทั้งคู่ จนเวลาล่วงเลยผ่านไปจนกระทั่งจนจะเย็นแล้วจึงเดินเข้าไปปลุกบอกจะพาออกไปหาอะไรกิน“พิณตื่นก่อนเย็นแล้วเดี๋ยวค่อยมานอนต่อ ลุกมาพี่จะพาไปหาอะไรกินก่อน”คนที่เพิ่งตื่นใหม่ ๆ ได้แต่พยักหน้ารับแล้วค่อยๆ ลุกไปล้างหน้าล้างตาออกไปกับเขา วันนี้เธอตั้งใจว่าจะไม่ดื้อกับเขา เธอเองอยากมาพักผ่อนไม่อยากจะทะเลาะกับทีปกร“หยุดก่อนครับพิณ” ชายหนุ่มเอ่ยเสียงนุ่มพร้อมทั้งหันหน้ามามองคนตัวเล็ก เขาสังเกตเห็นได้ชัดว่าเธอกำลังทำตัวไม่ถูก“อะไรเหรอคะ หยุดทำไมไหนว่าจะไปกินข้าว” เธอถามด้วยความสงสัยเพราะทีปกรพาเธอมาตรงที่ที่พนักงานมาบอกว่าไม่สามารถเข้าได้เมื่อตอนบ่าย แต่ช่วงเย็นกลับถูกพามาที่นี่“รอแปปหนี่งปิดตาก่อนเดี๋ยวพี่พาไปที่นึง”“ไม่ปิดได้ไหม” หญิงสาวต่อรอง“ปิดเถอะพีไม่พาพิณไปขายหรอก” เขาตอบกลับอย่างหยอกเย้าแล้วหยิบผ้าปิดตาที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงข้างหลังออกมาผูกปิดเข้ากับตาของหญิงสาว พร้อมทั้งเช็กว่าเ
สถานที่ท่องเที่ยวที่เขาจะพาเธอไปนั้นอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯมากนัก เพราะมันเป็นที่ที่เธอกดเซฟเก็บเอาไว้ค่อนข้างที่จะหลายคลิป แต่เขาเลิกที่นี่เพราะเดินทางไม่ไกลมาก แต่กว่าจะถึงพิณณิตาก็บ่นเขาไปหลายยก“ถึงแล้ว” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นเมื่อรถแล่นเข้ามาถึงสถานที่แห้งหนึ่งที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติและมันเป็นที่ที่อยากจะมาพักผ่อน ไม่คิดว่าเขาจะรู้ว่าพาเธอมา“ทำไมไม่บอกว่าจะพามาที่นี่” เธอหันไปมองหน้าเขาที่ยิ้มกริ่มที่เมียยอมคุยด้วย“ถ้าบอกเขาจะเรียกว่าเซอร์ไพรส์เหรอ”ว่าที่คุณแม่ไม่ตอบอะไรได้แต่มองไปข้างหน้าอย่างชื่นชมธรรมชาติและรีสอร์ตที่ตกแต่งอย่างเข่ากันจนเขามาจอดอยู่ที่หน้าบ้านพักหลังหนึ่งที่ค่อนข้างใหญ่กว่าหลังไหน ๆ“พิณจะเข้าไปพักในห้องหรือออกไปเดินเล่น”“เดี๋ยวฉันเอาของเข้าไปเก็บที่ห้องก่อนแล้วค่อยออกไปเดินเล่น” เธอบอกพร้อมทั้งเดินไปยังหลังรถที่ชายหนุ่มยัดกระเป๋าเธอเอาไว้ แต่ก็ถูกเขาห้ามและถึงกระเป๋าเสื้อผ้าที่เขาเป็นคนเก็บเองกับมือมาถือเอง และเดินไปจัดการเรื่องห้องพักและสิ่งที่ตัวเองต้องเตรียมอีกเล็กน้อยทางด้านของคนที่ถูกลากมาแหล่งท่องเที่ยวที่ตัวเองอยากมาถึงขั้นเก็บอาการไม่อยู่จนต้องยกโทรศัพท
หลังจากที่ได้คำตอบของพิณณิตาทำเอาคนตัวโตขึ้นกับลอบยิ้มราวกับตัวเองกำลังมีแผนการอะไรบางอย่างที่ต้องเร่งดำเนินการและสร้างความประทับใจให้กับแม่ของลูกให้เร็วที่สุด เขาจะต้องคว้าโอกาสนี้เอาไว้สร้างสิ่งประทับใจให้ทั้งสองแม่ลูก ไม่นานจึงกดส่งข้อความหาลูกน้องของตัวเองให้จัดการเรื่องนี้ให้ก่อน และเตรียมการวางแผนในขั้นต่อไปหลังจากที่คิดว่าจะทำอย่างไรให้คนตัวเล็กให้อภัยคืนดีกับเขาและให้คำสาบานกับตัวเองเลยว่าจะไม่มีวันทำให้เธอเสียใจอีก ทีปกรปล่อยเวลาให้ผ่านไปสักระยะให้เมียทำงานตามที่ตัวเองชอบและตัวเขาก็คอยช่วยหยิบจับเช่นเคย จนวันหนึ่งที่พอถึงเวลาสมควรแล้วเพราะเหมือนว่าร่างกายของคนตัวเล็กอ่อนแอต้องการพักผ่อน“ช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์นี้มีรับออร์เดอร์อีกไหม”“ไม่มีค่ะ” เธอตอบเขาทั้งที่ยังคงหลับตานิ่ง ในจังหวะนั่นทีปกรที่อยู่ได้คำตอบแล้วจึงเดินเข้าไปในห้องนอนของหญิงสาวใช้เวลาเพียงไม่นานก็ออกมาพร้อมกระเป๋าใบหนึ่งที่มีของใช้ของเธอเต็มไปหมด ในระหว่างที่เขาอยู่ในห้องก็ส่งข้อความให้ผู้ร่วมขบวนการได้รับรู้ว่าตอนนี้กำลังเดินทางไป ด้วยความแข็งแรง“ปะไปกันเถอะ”“จะไปไหน คุณอยากไปก็ไปเถอะ” เธอบอกปัดอย่างเหนื
14[ final ]เป็นเวลาหลายสัปดาห์ที่คนหน้าด้านหน้าทนอย่างทีปกรเข้ามาอาศัยอยู่ที่ห้องของพิณณิตาโดยที่เจ้าของห้องอย่างเธอไม่ได้เต็มใจแม้แต่นิด ยิ่งเธอนั้นเห็นหน้าเขาก็ยิ่งหงุดหงิด หญิงสาวยังคงทำงานปกติโดยการเปิดรับออร์เดอร์เหมือนเดิม แต่รับไม่เยอะเหมือนเมื่อก่อน ถึงแม้ว่ามีชายหนุ่มให้มากวนอารมณ์ให้หงุดหงิดก็ตาม ทว่าคนหน้ามึนก็ไปช่วยเธอถือของซื้อของมาทำอาหารส่งลูกค้าที่สั่งจองเอาไว้ คอยช่วยถือช่วยหยิบจับอะไรต่อมิอะไรมากมายแต่ทว่าว่าที่คุณแม่ก็ยังเหม็นหน้าทีปกรอยู่ดี ทางแก้เพียงทางเดียวก็คือให้ชายหนุ่มใส่หน้ากากอนามัยเอาไว้ตลอดถอดออกและเห็นหน้าเขาก็จะอาเจียนเหมือนทุกครั้ง“ตรงนี้เสร็จแล้วเอาไปไว้ไหนเหรอ”“เอาไว้ที่เดิมเดี๋ยวแพรเอาไปส่ง” เธอตอบเพียงแค่นั้นแล้วหันไปจัดการกับอาหารอีกสี่ห้ากล่องของคนที่อาศัยอยู่ที่นี่“แล้วอันที่ทำละเอาไปส่งที่ไหน” ทีปกรเอียงหน้ามาถามเมียทั้งที่คำถามพวกนี้เขาถามเป็นประจำทุกวันตั้งแต่เธอเริ่มกลับมารับทำข้าวกล่องอีกครั้ง และมันเป็นบางครั้งที่เธอจะตอบ“ของคนที่อยู่ที่นี่แหละ เดี๋ยวเขาลงไปรับข้างล่าง”ชายหนุ่มพยักหน้ารับอย่างเข้าใจแต่ก็ยังคงป้วนเปี้ยนวนเวียนอยู่ข
หลังจากที่อาเจียนอย่างหนักหน่วงจนแทบจะหมดไส้หมดพุงแล้ว คนที่อาสาอยากมาดูแลเมีย แต่หลัก ๆ เขาต้องการที่จะง้อเมียให้เมียให้อภัยในความผิดของตน ร่างสูงพาเธอมาล้างปากล้างหน้าล้างตาให้สดชื่นขึ้นมาบ้าง ร่างที่มีน้ำมีนวลขึ้นมายอมให้ชายหนุ่มประคองเธอไปนั่งที่โซฟาอย่างว่าง่าย เพราะตอนนี้เธอไม่มีแรงเอาเสียเลย“ไหวหรือเปล่า” เขานั่งลงข้าง ๆ คนที่อ่อนแรกถามอย่างเป็นห่วงว่าเมียจะเป็นอันตรายกับตัวเธอและลูกน้อยเธอหหันมามองหน้าชายหนุ่มด้วยความขุ่นเคืองก่อนที่จะวิ่งกลับเข้าไปที่เดิมอีกจนเขาต้องวิ่งตามเข้าไปดูด้วยความเป็นห่วง แต่ก็ต้องหยุดชะงักเพราะคนที่อยู่ในห้องน้ำชี้หน้าร้องห้ามจนเขาหยุดแทบไม่ทัน“หยุดอยู่ตรงนั้นเลยนะ ไม่ต้องก้าวเข้ามา”“ทำไทแต่พี่เป็นห่วง”“ฉันเหม็นหน้าคุณ”“เหม็นหน้าพี่เนี่ยนะ” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นราวกับไม่เชื่อในสิ่งที่พิณณิตาบอกยังคงดึงดันที่จะเดินเข้าไปในห้องน้ำ เพื่อที่จะลูบหลังให้แต่ก็ต้องหยุดอีกครั้งเพราะเธอห้ามเขาเสียงแข็งพร้อมมองด้วยสายตาขุ่นเคือง“ก็บอกว่าไม่ต้องเข้ามาไง ออกไปให้ห่าง ๆ เลย” เธอชี้นิ้วสั่งเข้าพร้อมทั้งโบกมือปัด ๆ ให้ทีปกรขยับออกไปให้ห่าง ๆ จากตน“พอไหมขนาดนี้”
“ปากไม่ตรงกับใจเลยนะเพื่อนฉันเนี่ย” เธอเอ่ยหลังจากที่เพื่อนเข้าห้องไปแล้วก่อนจะหันเอาของที่ขนขึ้นมาย้ายจากห้องของเธอมากลับมาที่ห้องของว่าที่คุณแม่ และย้ายของส่วนหนึ่งจากที่นี่กลับไปที่ห้องของตัวเองเหมือนกัน เพราะดูเหมือนว่าการที่เธออยู่ที่นี่นานก็ไม่ค่อยจะดีบางทีอาจจะมีคนมาง้อเมียก็ได้จากการที่เธอแอบได้ยินเจ้านายคุยโทรศัพท์ครั้งก่อนว่าทางทีปกรตั้งตอนนี้เตรียมตัวที่จะเดินหน้าง้อเมียอย่างเต็มที่แล้ว“ยัยพิณฉันกลับห้องก่อนนะ” แพรดาวที่เก็บของเสร็จของตนเองที่ย้ายมาแล้วลงกล่องเรียบร้อยแล้วจึงร้องตะโกนบอกว่าที่คุณแม่แสนงอนที่เข้าไปในห้องเมื่อไม่นาน ก็ต้องเดินออกมาเพื่อมาส่งเพื่อนสนิทพร้อมทั้งขอบคุณเจ้าตัวที่มาอยู่เป็นเพื่อนตั้งแต่เธอตั้งแต่ออกจากโรงพยาบาลเมื่อคราวที่แล้วและจนถึงตอนปัจจุบันนี้“จะกลับเหรอแพร ไม่อยู่กินข้าวเย็นหน่อยเหรอ”“ไม่หรอก เดี๋ยวออกไปงานเลี้ยงวันเกิดพี่ที่ทำงานน่ะพอดีแกเลี้ยงวันเกิดย้อนหลังวันนี้”ว่าที่คุณแม่พยักหน้ารับพร้อมใบหน้าเศร้า ๆ น้อย ๆ ใจเธอนั้นก็อยากจะออกไปหาอะไรกินข้างนอกบ้าง“ว่าแต่ยัยพิณ ฉันลืมถามแกเลยท้องมาสามเดือนมีอาการแพ้ท้องบ้างไหม”“มีบ้างก็แพ้ปกติ
Comments