Share

บทที่ 15

last update Last Updated: 2025-11-11 06:15:34

หลายวันต่อมา

ตกดึก ณ บ้านเช่าใจกลางเมืองคมกฤษที่อยู่ในอาการมึนเมาเล็กน้อย ก้าวขาลงจากรถคันหรูคู่ใจเดินเข้าไปหยุดตรงหน้าประตูบ้านของปราภัทรสรทั้งน้ำตาคลอเบ้าพลางนึกถึงช่วงเวลาดีๆ ที่เคยมีร่วมกับเธอตลอดเวลาที่รู้จักกันมาด้วยความเจ็บปวดเสียใจ เขาไม่เคยคิดเลยว่าเขากับเธอจะมีจุดจบแบบนี้

ปัง! ปัง! มือหนาทุบลงบนประตูไม้จนเกิดเสียงดังลั่นไปรอบบ้าน พร้อมกับตะโกนเรียกให้ปราภัทรสรออกมาเจอ

"แก้ม! แก้ม! ออกมาหาโอมหน่อย ออกมาให้โอมเห็นหน้าหน่อยนะ!" เสียงทุ้มตะโกนดังลั่น

"พอได้แล้ว!" ปราภัทรสรเปิดประตูออกมาด้วยความโกรธเคือง

"แก้ม" คมกฤษยิ้มกว้างมองหน้าปราภัทรสรอย่างคนละเมอ

"จะมาเสียงดังเอะอะโวยวายทำไม มันดึกมากแล้ว รบกวนคนอื่นเขา เรื่องของเราสองคนมันจบแล้ว กลับไปเถอะ" ร่างบางเอ่ยเสียงราบเรียบมองชายหนุ่มอย่างคนแปลกหน้า

"ไม่ โอมรักแก้มมากรู้ไหม" ร่างหนาเข้าสวมกอดร่างบางเอาไว้ด้วยความรวดเร็ว

"ปล่อยนะโอม! เพี๊ยะ!" ร่างบางผลักร่างหนาออกห่างจากตัวแล้วฟาดฝ่ามือลงบนแก้มสากทั้งน้ำตาคลอเบ้า

"หยุดสักที! หยุดตามมาทำร้ายกันซ้ำแล้วซ้ำเล่าสักที! แก้มไม่คิดเลยนะว่าโอมจะเห็นแก่ตัวขนาดนี้ ตัวเองมีเมียมีลูกอยู่แล้ว ยังจะตามมารังควานคนอื่นไม่รู้จักจบจักสิ้นอีก" ปราภัทรสรมองหน้าคมกฤษน้ำตาไหลอาบแก้ม

"หมายความว่าแก้มรู้แล้วเหรอ ว่าโอมมีลูกกับนา"

"ใช่ รีบกลับไปเถอะ อย่าให้แก้มต้องเกลียดโอมไปมากกว่านี้เลย"

"โอม ขอโทษ โอมรู้ดีว่าไม่มีโอกาสที่เราสองคนจะกลับไปเป็นเหมือนเดิมอีกแล้ว และมันคงใช้เวลาที่เราสองคนจะลืมความเจ็บปวดนี้"

"_____" ปราภัทรสรเลือกที่จะไม่ตอบโต้ปาดเช็ดน้ำตาบนแก้มทิ้งแล้วหายเข้าไปในบ้านทันที

คมกฤษเดินโซซัดโซเซเข้าไปภายในบ้านหลังใหญ่อย่างไม่มั่นคงทั้งกายและใจ จนไปสะดุดตาเข้ากับหญิงสาวที่ยืนรอเขาอยู่ทางขึ้นบันไดในชุดนอนผ้าชาตินสีครีมเนื้อดี

"โอมกลับมาแล้ว" มีนาเดินเข้าไปหาชายหนุ่ม

"____" ร่างหนาเลือกที่จะไม่โต้ตอบแต่กลับเลือกที่จะเดินผ่านหน้าเธอขึ้นบันไดไปเงียบๆ

"จะไม่คุยกับนาสักคำเลยเหรอ หลายวันแล้วนะ ตั้งแต่ที่นาเข้าอยู่ในบ้านหลังนี้ โอมยังไม่ยอมคุยกับนาสักคำเลย" ร่างบางเดินตามหลังชายหนุ่มไปจนถึงหน้าห้องนอนของเขา

"หึ ผู้หญิงไร้ค่าอย่างเธอ ฉันควรจะคุยเรื่องอะไรดีล่ะ" เอ่ยเสียงดุดัน

"อะไรก็ได้ที่โอมพอใจ"

"อย่าคิดไปยุ่งวุ่นวายอะไรกับแก้มอีก" มือหนาจับดึงเปิดประตูห้องออก

"ถึงขนาดนี้แล้ว โอมยังคิดถึงแก้มอีกเหรอ"

"ฉันจะคิดถึงใคร มันก็เรื่องของฉัน ที่ฉันยอมรับลูกในท้อง ยอมให้เธอเข้ามาอยู่ในบ้าน ก็เพราะเห็นแก่คุณแม่ทั้งนั้น"

"เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ไหม ไหนโอมเคยบอกว่าขาดนาไปไม่ได้" มีนามองหน้าคมกฤษน้ำตาคลอเบ้า

"เธอได้ในสิ่งต้องการแล้ว ฉันว่าเธอควรจะพอใจได้แล้วนะ"

"โอมก็รู้ ว่าเพราะอะไรนาถึงได้ทำแบบนี้ ยอมอยู่โดยไม่มีสถานะอะไร ที่นาทำก็เพราะรักโอมอยากอยู่ใกล้ทุกวัน ขอร้องล่ะให้นาอยู่ในสายตาของโอมบ้างนะ"

"กลับห้องไปเถอะ"

"คืนนี้ให้นาอยู่ด้วยนะ" คว้าท่อนแขนแกร่งเอาไว้

"อย่าลืมว่าเธอกำลังท้องอยู่"

"พูดแบบนี้ แสดงว่าโอมเป็นห่วงลูกของเราใช่ไหม"

"เธอแน่ใจนะ ว่าจะทนฉันได้"

"อืม นาทนได้เสมอ"

คมกฤษได้ยินอย่างนั้นก็เดินนำมีนาเข้าไปในห้องนอนตรงหายเข้าไปในห้องน้ำทันทีเพื่อชำระล้างคราบไคลและกลิ่นแอลกอฮอล์ที่ติดตัวมาจากผับชื่อดัง มีนาเห็นอย่างนั้นก็ทิ้งตัวลงบนเตียงนุ่มรอชายหนุ่มออกมา ร่างบางมองสำรวจกวาดสายตาไปรอบห้อง เธอเพิ่งจะเคยเข้ามาในห้องนี้เป็นครั้งแรก ส่วนห้องของเธออยู่ถัดไปจากห้องของชายหนุ่มแค่ไม่กี่ก้าว

"รู้ไหมว่าเธอทำให้ฉันไม่พอใจอยู่หลายเรื่อง" เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นเมื่อก้าวขาออกมาจากห้องน้ำ

"นารู้" เงยขึ้นมองร่างหนาในสภาพผ้าเช็ดตัวพันเอวผืนเดียว

"หึ ฉันไม่น่าเอาผู้หญิงร้ายกาจอย่างเธอเข้ามาในชีวิตเลย คงจะสะใจเธอมากสินะที่หลอกฉันทำเธอท้องได้ แถมลับหลังฉันยังไปตามเยาะเย้ยถากถางตอกย้ำความเสียใจให้แก้มเขาอีก แล้วจะเรื่องที่แอบมาคุยกับคุณแม่โดยที่ฉันไม่รู้เรื่องอีก"

"นาขอโทษ โอมยกโทษให้นานะ นาจะไม่ทำอีกแล้ว" ลุกเข้าไปประชิดร่างหนา

"หึ เชื่อได้เหรอ พ่อแม่เธอก็เหมือนกัน ทันทีที่แม่ฉันเสนอเงินให้ห้าล้านก็ตอบตกลงยอมยกลูกสาวคนเดียวมาอยู่บ้านคนอื่นทั้งๆ ที่ไม่มีสถานะอะไรเลย น่าสมเพชสิ้นดี"

"แต่นากลับคิดว่าท่านสมควรจะได้เงินก้อนนั้น"

"งั้นเหรอ เธอคงจะภูมิใจมากสินะ ที่ถูกพ่อแม่ขายกิน"

"โอมจะคิดอย่างนั้นก็ได้ แต่สำหรับนาขอแค่ลูกได้อยู่สุขสบายเป็นที่รักของคนที่นี้นาก็พอใจแล้ว ใครจะมองนายังไงนาไม่สนใจหรอก"

"แม้จะเป็นแค่นางบำเรอเธอก็ยอมสินะ"

"ใช่ นายอมได้ทุกอย่าง ถ้าโอมต้องการ" มองหน้าชายหนุ่มอย่างสื่อความหมาย

"ดี งั้นคืนนี้เธอก็ทำหน้าที่บำเรอความใคร่ให้ฉันหน่อยก็แล้วกัน" มือหนาเชยคางมนขึ้นแล้วก้มหน้าลงประกบปิดริมฝีปากบางทันทีบดขยี้อย่างดูดดื่มหิวกระหาย แล้วไปจบลงบนเตียงนุ่มด้วยบทพิศวาสอันเร่าร้อนด้วยความสุขสมใจ

หนึ่งเดือนต่อมา

เวลาพลบค่ำในย่านเศรษฐกิจใจกลางเมืองปราภัทรสรในชุดพนักงานต้อนรับโรงแรมสยามธารา กำลังเดินเลียบไปตามฟุตบาทหลังเลิกงานออกจากกะบ่าย ระหว่างที่ร่างบางเดินไปข้างหน้าเพื่อไปยังวินมอเตอร์ไซด์รับจ้างที่อยู่อีกไม่ไกลนัก ด้านหลังของเธอก็มีชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่เดินตามเธอมาติดๆ

"ส่งกระเป๋ามา!" มีดสั้นปลายแหลมจี้อยู่ตรงเอวบาง

"ว้าย! " ร่างบางตกใจร้องออกมาด้วยความกลัว

"ถ้าไม่อยากตายก็ส่งกระเป๋ามา" เสียงเข้มข่มขู่อยู่ข้างหูบาง

"ปล่อยฉันไปเถอะนะ ฉันไม่มีเงินให้หรอก ช่วย...." ปราภัทรสรเอ่ยเสียงสั่นเครือตัวสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว

"หุบปาก! รีบส่งกระเป๋ามา" มือหยาบปิดปากร่างบางเอาไว้มองซ้ายมองขวาด้วยความหวาดระแวง

"____" ปราภัทรสรไม่ยอมปล่อยกระเป๋าแต่กลับจับกระชับไว้แนบกายแน่นขึ้น

"คงจะอยากตายมากสินะ" มือหนาค่อยๆ จี้ลงน้ำหนักปลายมีดลงบนเอวของเธอเรื่อยๆ

ผวัะ! ตูบ! อยู่ๆ ร่างคนร้ายชั่วทางด้านหลังของเธอก็ถูกกระชากออกไปจากร่าง ด้วยความรวดเร็วพร้อมกับถูกชกเข้าไปที่ใบหน้าจนสลบกลางอากาศลงไปกองแน่นิ่งอยู่กับพื้น

ปราภัทรสรที่อยู่ในอาการตกใจยืนมองร่างโจรที่นอนกองอยู่กับพื้นด้วยความตื่นกลัวตัวสั่นเทา จนชายหนุ่มพลเมืองดีที่เข้ามาช่วยเหลือต้องเป็นฝ่ายเข้าไปหาเธอเอง

"คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหมครับ" เสียงทุ้มที่คุ้นหูเอ่ยถามขึ้น

"ฉันไม่เป็นไรค่ะ" เงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มร่างสูงเบื้องหน้า เธอไม่คาดคิดเลยว่าจะบังเอิญเจอกับชายหนุ่มอีกครั้ง

"คุณนั้นเอง ถึงว่าท่าทางคุ้นๆ " คณากรยิ้มดีใจที่ได้เจอปราภัทรสรอีกครั้ง

"ฉันก็ไม่คิดว่าจะเป็นคุณเหมือนกันค่ะ ขอบคุณมากนะคะ ที่ช่วยฉันไว้ ไม่อย่างนั้นฉันคงแย่แน่ๆ " ปราภัทรสรเอ่ยขอบคุณจากใจจริง เธอไม่คิดเลยว่าคนที่ช่วยเธอจะเป็นคณากร

"ไม่เป็นไรครับ ผมเต็มใจ"

"แล้วเราจะทำยังไงกันต่อคะ" ปราภัทรสรมองร่างคนร้ายที่นอนกองกับพื้นด้วยความโล่งใจ

"เดี๋ยวผมจะโทรให้ตำรวจมาจัดการเองครับ และเราสองคนคงจะต้องไปให้ปากคำที่โรงพักด้วย" คณากรเอ่ยอธิบายโดยมองใบหน้าเนียนไม่วางตา

"ค่ะ" ร่างบางพยักหน้ารับ

หลังจากที่ตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุพาคนร้ายขึ้นรถไป ทั้งสองคนก็ตามไปให้ปากคำที่โรงพักต่อ พอเสร็จทั้งสองคนก็พากันเดินออกมาหยุดตรงหน้าโรงพัก

"ขอบคุณอีกครั้งนะคะ ที่ช่วยฉันไว้" ปราภัทรสรเอ่ยขึ้น

"ดึกมากแล้วให้ผมไปส่งที่บ้านนะครับ"

"ก็ได้ค่ะ" ร่างบางยิ้มรับ

"แต่ตอนนี้ผมรู้สึกหิวจังเลย ไปทานข้าวเป็นเพื่อนผมหน่อยได้ไหมครับ ก๋วยเตี๋ยวข้างทางสักถ้วยก็ยังดี" คณากรใช้มือกุมจับท้องของตนเอง

"ได้ค่ะ ฉันก็หิวแล้วเหมือนกัน ให้ฉันเป็นเจ้ามือนะคะ ถือว่าเป็นการตอบแทนที่คุณช่วยฉันไว้นะคะ"

"ไม่เป็นไรครับ"

"ถ้าฉันไม่ได้ทำอะไรเลย ฉันคงจะไม่สบายใจแน่ๆ "

"งั้นก็ได้ครับ" คณากรยิ้มรับ

ระหว่างทางที่รถคันหรูแล่นไปข้างหน้าหาร้านก๋วยเตี๋ยวทาน ปราภัทรสรก็ต่อสายหายายบัวทันทีเพื่อเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้หญิงสูงวัยทราบและจะรีบกลับบ้านให้เร็วที่สุด ซึ่งยายบัวก็โล่งใจเมื่อรู้ว่าหลานสาวปลอดภัยเพราะมีคณากรช่วยเอาไว้ได้ทัน

เมื่อเลือกร้านได้แล้วทั้งสองคนก็ไปนั่งทานก๋วยเตี๋ยวด้วยกัน ซึ่งปราภัทรสรสั่งแค่ชามเดียวส่วนคณากรสั่งมาทีเดียวสามชาม ท่าทางที่คล่องแคล่วของชายหนุ่มมันทำให้หญิงสาวสนใจ ดูภายนอกเธอก็จะพอดูออกว่าชายหนุ่มคงจะมีฐานะอยู่พอสมควร แต่กลับทำตัวติดดินทานง่ายๆ ไม่ถือตัว

"สั่งมาตั้งสามชามจะทานหมดเหรอคะ" เสียงหวานเอ่ยขึ้น

"หมดสิครับ ผมหิว" คณากรยิ้มมุมปากพลางปรุงก๋วยเตี๋ยวไปด้วย

"ค่ะ ทานให้อร่อยนะคะ"

"ครับ ผมไม่คิดเลยว่าวันนี้เราจะเจอกันอีก"

"ฉันก็เหมือนกันค่ะ ไม่เคยคิดเลย"

"ครับ งั้นต่อไปนี้เราเป็นเพื่อนกันนะครับ"

"ได้สิคะ"

"ทานเยอะๆ นะครับ เดี๋ยวผมไปส่ง"

"ค่ะ"

"รู้ไหม ว่าผมไม่เคยทานข้าวแบบมีความสุขเท่าวันนี้เลย"

"เอ่อ หมายว่ายังไงคะ" ปราภัทรสรขมวดคิ้วมุ่น

"เปล่าครับ ผมว่าคุณควรจะระวังตัวเองให้มากขึ้นนะ เวลาเดินแถวนั้น" คณากรรีบเปลี่ยนเรื่องคุย

"ค่ะ ฉันจะระวังตัวให้มากขึ้น"

"จะว่าอะไรไหมครับ ถ้าผมจะขอเบอร์ของคุณไว้ แลกเบอร์กันได้ไหมครับ"

"_____" ร่างบางนั่งนิ่งเงียบ

"ถ้าไม่สะดวกก็ไม่เป็นไรครับ ผมเข้าใจ" คณากรก้มหน้าลงซดน้ำซุปก๋วยเตี๋ยวแก้เขิน

"ถ้าคุณทานไม่อิ่มสั่งเพิ่มอีกได้นะคะ"

"พอแล้วครับ เดี๋ยวพุงจะแตกเอา" คณากรเทก๋วยเตี๋ยวชามที่สามลงรวมกับชามที่สองที่เพิ่งทานหมด

"คิกๆ ค่ะ" ปราภัทรสรยิ้มหัวเราะขบขัน

"ผมชอบเวลาคุณยิ้มหัวเราะจังเลย มันเหมือนโลกใบนี้มันสดใสขึ้นมาอีกหลายเท่า"

"คุณก็พูดเกินไปค่ะ "

"รู้ไหม ว่าคุณไม่เหมือนผู้หญิงคนอื่นเลย มันมีอะไรพิเศษมากกว่านั้น" คณากรเอ่ยความรู้สึกออกไปตรงๆ

"ฉันก็เป็นแค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งค่ะ ที่มีทั้งสุขและทุกข์เข้ามา ไม่ได้พิเศษไปกว่าใคร ไม่ได้มีหน้ามีตาทางสังคม ก็แค่ผู้หญิงจนๆ คนหนึ่งที่ทำงานหากินไปวันๆ แค่นั้น"

"ผมเข้าใจครับ ว่าแต่ที่บ้านคุณอยู่กับใครบ้างครับ"

"ฉันอยู่กับยายสองคนค่ะ"

"ครับ" ชายหนุมยิ้มรับ

หลังทานก๋วยเตี๋ยวกันอิ่มคณากรก็บึ่งรถไปส่งปราภัทรสรถึงหน้าบ้านเช่าของเธอ ทันทีที่รถจอดนิ่งสนิทคณากรก็รีบลงมาจากรถเพื่อเปิดประตูให้เธอด้วยความรวดเร็ว

"ขอบคุณค่ะ" ร่างบางเอ่ยด้วยรอยยิ้ม

"คุณเชื่อเรื่องพรหมลิขิตไหมครับ" เสียงทุ้มเอ่ยขึ้น

"เชื่อค่ะ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันคงจะไม่ใช่เรื่องบังเอิญ" ร่างบางมองหน้าชายหนุ่ม

"ครับ ผมก็คิดแบนั้น คุณรีบเข้าบ้านเถอะ" คณากรหมุนตัวหันหลังให้ร่างบางหมายจะเดินไปขึ้นรถ

"เดี๋ยวก่อนสิคะ"

"ครับ" ขานรับหันไปหาหญิงสาว

"ฉันเปลี่ยนใจ จะแลกเบอร์กับคุณค่ะ"

"ยินดีมากครับ" คณากรรีบหยิบมือถือในกระเป๋าออกมาทันที

หลังจากที่ทั้งสองคนแลกเบอร์กันเสร็จต่างคนก็ต่างแยกย้ายกัน คณากรบึ่งรถกลับคอนโดที่ใช้อาศัยซุกหัวนอนแทนบ้านหลังใหญ่โตประจำตระกูลอย่างมีความสุขในรอบหลายเดือนที่ผ่านมา ส่วนปราภัทรสรทันทีที่เปิดประตูเข้าไปในบ้านยายบัวก็เดินเข้ามาโผกอดเธอด้วยความเป็นห่วงเป็นใยตามประสาคนแก่

ภายในห้องนอนอันแสนธรรมดาบนเตียงไม้ปราภัทรสรทิ้งตัวลงนอนด้วยหวาดหวั่นนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเธอ เธอหวังว่าต่อไปเธอจะไม่เจอเหตุการณ์เสี่ยงถึงชีวิตแบบนี้อีก ถ้ามีอีกครั้งเธอคงจะไม่โชคดีแบบนี้อีกแน่ๆ ได้แต่ถอนหายใจและหลับตาลงสู่ห้วงนิทรา ทางด้านคณากรกำลังนั่งพิงหัวเตียงอยู่ในห้องนอนกว้างพร้อมกับมองจ้องเบอร์โทรศัพท์ของปราภัทรสรอยู่อย่างนั้น เขาหวังว่าจะมีโอกาสได้เจอเธออีกและสานต่อความรู้สึกของเขาที่มีต่อเธอ ตั้งแต่เกิดมาเขาไม่เคยรู้สึกชอบผู้หญิงคนไหนมากเท่าเธอมาก่อนเลย มันเหมือนมีแรงดึงดูดบางอย่างทำให้เขาอยากจะเข้าใกล้เธอ และเขาจะต้องทำให้ตัวเองอยู่สายตาของเธอคนเดียวให้ได้ คณากรยิ้มกว้างแล้วทิ้งตัวลงนอนอย่างมีความหวัง
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เมียรอง   บทที่ 31

    ณ คอนโดหรูปราภัทรสรกำลังนั่งจ้องหน้าจอโน๊ตบุคดูแบบบ้านด้วยความตื่นเต้น โดยมีคณากรนั่งอยู่ข้างๆ คอยตอบข้อสงสัยของเธออยู่ไม่ห่าง ระหว่างนั้นชายหนุ่มก็ฉวยโอกาสจูบหอมคลอเคลียเธอไปด้วย ถึงแม้หญิงสาวจะเอ่ยห้ามแต่ชายหนุ่มก็ไม่ยอมหยุดการกระทำ "ถ้าพี่ไม่ยอมหยุด แก้มจะกลับเดี๋ยวนี้เลยนะคะ" มองค้อนชายหนุ่ม

  • เมียรอง   บทที่ 30

    สองวันต่อมา ณ โรงแรมสยามธาราตรงเคาร์เตอร์พนักงานต้อนรับ ทันทีที่ปราภัทรสรเดินเข้ามาฝนทิพย์กับยุพินก็เอ่ยถามเรื่องที่เธอลางานไปเที่ยวขึ้นมาทันที "เป็นยังไงบ้าง เที่ยวสนุกไหม" ฝนทิพย์เอ่ยถามขึ้น "อืม ก็สนุกดีจ้ะ" ปราภัทรสรยิ้มรับ "ไปกับใครบ้างเหรอ" ยุพินเอ่ยถามด้วยความอยากรู้อีกคน "ไปกับ

  • เมียรอง   บทที่ 29

    เมื่อไร้สิ่งปกปิดกีดขวางใดๆ ร่างแกร่งก็ค่อยๆ จูบลูบไล้สำรวจเรือนร่างขาวเนียนเปลือยเปล่าใต้ร่างสร้างความวาบหวามให้เธอเป็นอย่างมาก เมื่อร่างแกร่งเห็นว่าร่างบางพร้อมและตอบสนองสัมผัสจากเขาด้วยความเสียวซ่าน ก็รีบส่งตัวตนอันแข็งแรงเข้าไปเติมเต็มความสุขให้เธออย่างสมบูรณ์พร้อมกับเปล่งเสียงแหบพร่าครางกระเส่า

  • เมียรอง   บทที่ 28

    เช้าวันใหม่ปราภัทรสรลืมตาตื่นขึ้นในช่วงสายของวันพร้อมกับกวาดสายตามองไปรอบห้องพักหรู ร่างบางค่อยๆ ยันตัวลุกขึ้นนั่งนึกถึงเรื่องเมื่อคืนระหว่างเธอกับคณากรด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม เพราะเหตุนี้จึงทำให้เธอตื่นสายกว่าปกติ กว่าคณากรจะปล่อยเธอกลับห้องนอนเวลาก็ล่วงเลยไปจนถึงตีหนึ่งแล้ว "ตื่นแล้วเหรอลูก วันนี้ทำ

  • เมียรอง   บทที่ 27

    "หมายความว่ายังไงคะ" ร่างบางยืนตัวแข็งทื่อ "แหวนแทนใจจากผม สวมเอาไว้นะ" พูดพลางหยิบแหวนออกมาจากกล่อง จับมือข้างซ้ายของปราภัทรสรเอาไว้แล้วสวมแหวนเพชรลงบนนิ้งนางของเธออย่างเบามือ "ฉันไม่คิดเลยว่าตนเองจะมีค่าพอ สำหรับคุณมากมายถึงขนาดนี้" ร่างบางมองชายหนุ่มตรงหน้าน้ำตาคลอเบ้า "คุณมีค่ามากที่สุดสำห

  • เมียรอง   บทที่ 26

    ณ คอนโดหรูใจกลางเมืองปราภัทรสรยืนนิ่งมองภาพวาดตนเองอยู่อย่างนั้นไม่ไหวติ่ง จนคณากรเข้าไปสวมกอดเธอจากทางด้านหลังพลางขโมยหอมแก้มเนียนฟอดหนึ่ง "คุณเอาอีกแล้วนะ" ร่างบางยกมือขึ้นแตะแก้มตนเองด้วยความตกใจเพราะยังไม่เคยชินสัมผัสจากชายหนุ่ม "ทำไมเหรอ" กอดกระชับร่างบางแน่นขึ้น "ยังจะมาทำหน้าชื่ออีก ปล่

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status