Masukเดือนต่อมา
หลังจากนรภัฏ ตัดสินใจลาออกจากงาน ท่ามกลางเสียงห้ามของเพื่อน ๆ เขาใช้เงินเก็บทั้งหมดที่มีบินไปเรียนต่อโทที่อังกฤษ เขาตั้งใจว่าจะทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย เพื่อหาเงินส่งตัวเองเรียน เงินเก็บที่มีก็ใช้อย่างประหยัดเพราะฐานะทางบ้านก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไรมากนัก
หลังจากเรียนจบโท นรภัฏทำงานต่ออยู่ที่เมืองนอกเกือบหนึ่งปี เมื่อรวมกับเวลาในการเรียนโทแล้วก็สามปีกว่าที่เขามาใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ เขารู้สึกว่าตนเองมาถึงจุดที่รู้สึกว่าอิ่มตัวในการใช้ชีวิตและทำงานอยู่ที่เมืองนอกแล้ว จึงอยากจะกลับไปใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองไทย เพราะมารดาของเขาก็เริ่มอายุมากขึ้นเรื่อย ๆ อีกอย่างเขาก็อยากมาดูแลมารดาแทนน้องสาวบ้าง เพราะทิ้งให้น้องสาวอยู่กับแม่แค่สองคน
วันนี้น้องสาวเป็นฝ่ายโทร.หานรภัฏ และบอกความจริงว่าเธอกำลังจะแต่งงาน
“แต่งเลยยัยพริม ไม่ต้องรอพี่หรอก ชาตินี้พี่ไม่คิดว่าจะแต่งงานกับใครทั้งนั้น” ภีรดาน้องสาวของนรภัฏ เธอคบหาอยู่กับนักธุรกิจหนุ่มใหญ่มานานหลายปี เธอเคยโทรปรึกษาเรื่องความรักของเธอกับพี่ชายอยู่บ่อย ๆ จนกระทั่งตอนนี้เธอเรียนจบมหาลัยและก็มีหน้าที่การงานที่ดีแล้ว
“ได้แต่พี่ภัฏต้องมางานแต่งพริมนะคะ แล้วพี่ภัฏ จะกลับวันไหนคะ พริมจะได้ไปรับ”
“เร็ว ๆ นี้แหละ แต่น่าจะเป็นปลาย ๆ เดือนหรือไม่ก็ต้นเดือนหน้า พี่จะรีบเคลียร์งานให้เร็วที่สุดนะ”
“ขอบคุณค่ะ พี่ภัฏ”
“กลับไปพี่ก็มีของขวัญจะเซอร์ไพร์ พริมกับแม่ด้วยนะ”
“ของขวัญอะไรเหรอคะ พี่ภัฏ”
“พี่เฉลยเลยก็ได้ ไม่อยากเก็บไว้ล่ะ กลับไทยรอบนี้ พี่ตั้งจะอยู่ยาวเลย”
“แม่จะต้องดีใจมากเลยค่ะ..พี่ภัฏ พริมไม่คิดว่าจะได้ยินคำนี้เลย” ตั้งแต่ที่นรภัฏตัดสินใจเดินทางมาใช้ชีวิตอยู่เมืองนอก ในตอนแรกนั้นเขาปิดกั้นตัวเองทุกอย่าง เพื่อนฝูงไม่มีใครสามารถติดต่อเขาได้เลย รวมไปถึงเขาได้ปิดกั้นการสื่อสารในโลกออนไลน์พวกนั้นทุกช่องทางเพราะไม่อยากรับรู้อะไรที่จะเกิดขึ้นทั้งนั้น จนกระทั่งเวลาผ่านไปเกือบสองเดือนกว่า ๆ เขาได้โทร.หามารดา และน้องสาว ก่อนจะบอกว่าตนเองนั้นสบายดี
ในตอนนั้นนรภัฏแจ้งว่าเขาได้เปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ใหม่และก็กำลังเรียนต่อปริญาโท เขาบอกว่าเขาเรียนไปด้วยทำงานไปด้วย มารดาของเขาก็กลุ้มใจและเป็นห่วงบุตรชายอยู่นานหลายเดือน แต่เธอก็เข้าใจบุตรชายเพราะตอนนั้นนรภัฏเสียใจหนักมาก
หนึ่งเดือนต่อมา
นรภัฏกลับมาอยู่เมืองไทย หลังจากเสร็จสิ้นงานแต่งงานของน้องสาว เขาคิดว่าอีกหน่อยน้องสาวของเขาก็คงย้ายไปอยู่กับสามี และจะไม่มีเวลาดูแลมารดาได้เต็มที่ จึงทำให้นรภัฏตัดสินใจว่าจะนำเงินเก็บทั้งหมดที่ได้จากการทำงานมาเปิดบริษัทเล็ก ๆ ใกล้บ้าน แต่ระหว่างที่กำลังจะเปิดบริษัทขึ้นมา เขาก็ได้เล่าเรื่องนี้ให้น้องสาวฟัง เธอเองกับสามีจึงตกลงกันว่าจะร่วมหุ้นกับพี่ชายในครั้งนี้ด้วย
“ยัยพริม!!! พี่ไม่เห็นด้วยที่น้องเอาเงินมาลงทุนกับพี่มากมายขนาดนี้ สามีจะไม่ว่าเอาเหรอไง เราน่ะเพิ่งแต่งงานกับคุณอรรนพเค้าเองนะ”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ...พี่ภัฏ ก็พี่นพนั่นแหละที่บอกให้พริมเอาเงินมาลงทุนกับพี่”
“งั้นตำแหน่งประธานบริษัทก็คงต้องเป็นของเขาแล้วล่ะ..เงินมากมายซะขนาดนั้น”
“เขาไม่รับหรอกค่ะ เพราะเขาเองก็มีบริษัทของตัวเองที่ต้องดูแลอยู่แล้ว” ภีรดาอธิบายให้พี่ชายฟัง ตั้งแต่ที่พี่ชายเดินทางกลับมาอยู่เมืองไทย น้องสาวและมารดาของนรภัฏก็ดีใจมากแล้ว ภีรดาจึงนำเรื่องนี้ไปปรึกษากับสามีของเธอ ซึ่งสามีของภีรดาเธอรวยอยู่แล้ว จึงอยากจะช่วยพี่เขย ให้เขาได้มีธุรกิจเป็นของตัวเอง
“งั้นพริมนั่นแหละที่จะต้องมาเป็นประธานบริษัทแทนสามี” นรภัฏพี่ชายยื่นคำขาด จึงทำให้น้องสาวอย่างภีรดาไม่มีทางเลือก เธอจึงยอมมาเป็นประธานบริษัทของพี่ชาย โดยนรภัฏเองเขาไปเป็นรองประธานแทน เพราะถ้าไม่เช่นนั้นเขาก็จะไม่ยอมให้น้องสาวและสามีเธอร่วมลงทุนในครั้งนี้ด้วย
ในตอนแรกที่เริ่มก่อตั้งบริษัทนรภัฏฟาร์มาซูติคอล (ประเทศไทย) จำกัด ก็ได้น้องสาวอย่างภีรดาเป็นคนคอยช่วย เธอเป็นสาวเก่ง มีคอนเนคชั่นที่ดี และสามารถดึงลูกค้าได้มากมาย จึงทำให้ บริษัทนรภัฏ ฟาร์มาซูติคอล ที่นำเข้าเครื่องมือแพทย์ ยาและเวชภัณฑ์ ที่ร่วมกันทำกับน้องสาว เติบโตไปได้อย่างรวดเร็ว
หนึ่งปีต่อมา
“คุณนรภัฏคะ คุณอะเล็กซานดรา เธอจะขอเลื่อนนัดเป็นพรุ่งนี้ช่วงบ่ายค่ะ” วิชชุดา เลขาฯ สาวเดินเข้ามาบอกเจ้านายพร้อมกับถือแฟ้มเอกสารมาให้เขาเซ็นต์ในคราเดียวกัน เธอนั้นทำงานเป็นเลขาฯ ของนรภัฏมาตั้งแต่รุ่นบุกเบิกที่บริษัทนี้เริ่มก่อตั้งขึ้นมาเลยก็ว่าได้ ในตอนแรกนรภัฏ กับน้องสาว มีพนักงานเพียงไม่กี่คน นรภัฏจึงได้ชวนภานุวัฒน์รุ่นน้องสมัยเรียน ย้ายมาทำงานในตำแหน่งฝ่ายบุคคล และน้องสาวก็ขอให้คนในบริษัทของสามีเธอมาเป็นเลขาฯ ของพี่ชาย และนั่นก็คือวิชชุดา และเธอก็ทำหน้าที่ได้สมกับที่น้องสาวของนรภัฏได้ไว้วางใจ
“ครับเอาตามที่เค้าสะดวกเลย เอ่อ...เดี๋ยวผมจะออกไปทำธุระข้างนอกสักครู่นะ คุณวิยังมีอะไรที่จะให้ผมเซ็นต์เพิ่มอีกรึเปล่า” ชายหนุ่มส่งแฟ้มเอกสาร ที่เพิ่งเซ็นต์เรียบร้อยคืนให้เลขาฯ คนสวยรับไป ช่วงนี้หลายอย่างเขาต้องตัดสินใจแทนน้องสาว เพราะตั้งแต่ที่เธอตั้งท้องจนถึงคลอดลูกคนแรก เธอก็แทบไม่มีเวลามาทำงานเลย
ตอนที่ 33 ยัดเยียดความเป็นผัว NCภาณุวัฒน์พลิกร่างเพื่อปลดตะข้อกางเกงยีนสีเข้มของเขาออก ก่อนจะค่อยๆ ดึงมันออกไปให้พ้นจากขา ตามด้วยเสื้อเชิ้ดที่ถูกถอดออกอย่างรวดเร็วในเวลาต่อมาแม้แก่นกายกลางลำตัวจะยังมีประการขวางกั้นอยู่ แต่เขาก็สามารถใช้มันดุนดันร่องสวาทของเธอจนมันชื้นแฉะได้“อ๊ะ ถอดออกสิ มันจะเลอะกางเกงชั้นในคุณนะ” เธอบอกเขาเมื่อไม่สามารถอดทนต่อแรงกระตุ้นของชายหนุ่มได้ภาณุวัฒน์ก้มลงไปยกเรียวขางามให้ตั้งขึ้นเป็นรูปตัวเอ็ม มันประจักษ์ต่อสายตา น้ำเมือกของเธอไหลนองด้วยความเสียว ร่างกายกระตุกอยู่ตลอดเวลา ขนาดว่ายังไม่ถูกกระตุ้น ภาพร่องสวาทขาวเนียนเกลี้ยงเกลามันทำให้เขาแทบอดใจไม่ไหว ก่อนที่สมองจะเริ่มจินตนาการเอาไว้ว่าเธอต้องฟิตมากๆ อย่างไม่ต้องสงสัย สีข้างในแดงสดตามแบบฉบับของสาวลูกครึ่ง ไรขนอ่อนตามร่างกายลุกชูชัน จากนั้นปลายลิ้นร้อนก็ตวัดไปที่ติ่งเสียวของเธออย่างแผ่วเบา“อ๊ะ คุณนุ ฉันยอมแล้ว อย่าเลียฉันอีกเลย”“ภายในของคุณ คุณสวยงามมาก ผมอยากเป็นเจ้าของ แล้วคุณต้องเป็นของผมคนเดียว..ซาซ่า” ภาณุวัฒน์พร่ำเพ้อออกมาอย่างคนที่ตกอยู่ในภวังค์ห้วงเสน่หาอย่างถอนตัวไม่ขึ้น เมื่อเนินเนื้อสาวจุดหวงแ
ตอนที่ 32 สอนสวาทสาวลูกครึ่ง NCลูกครึ่งสาวถูกโลมเลียไปทั่วร่างจนรู้สึกเคลิบเคลิ้มและลืมเลือนการต่อต้านเขาไปเสียสนิท ดวงตากลมโตหลับพริ้ม ริมฝีปากห่อเปล่งเสียงครวญครางออกมา ปทุมถันคู่งามสัมผัสความเย็นจากเครื่องปรับอากาศเพียงครู่เดียวก็ต้องอุ่นจนร้อนเมื่อยอดปทุมสีชมพูอ่อนถูกดูดกลืนเข้าอุ้งปากร้อน หญิงสาวผวาเฮือกเมื่อชายหนุ่มแกล้งดูดเม้มแรงๆ“เสียวเหรอคนสวย รับประกันว่าจะได้เจอความเสียวจากผมอีกเยอะ” ภาณุวัฒน์ปลดเข็มขัดที่รัดข้อมือของเธอออก เพราะรู้ว่าเธอไม่กล้าขัดขืน“อ๊ะ อย่าค่ะ ปล่อยซาซ่าเดี๋ยวนี้” เสียงเธอแหบแห้งแผ่วเบาจนไม่หลงเหลือที่ห้ามอะไรคนที่ล่วงเกินเธอได้เลยสักนิด ภาณุวัฒน์ค่อยๆ ผละออกจากเต้านมอวบเต่งตึงของหญิงสาว“ทำไมครับ ทนไม่ได้เหรอ อยากครางก็ครางออกมาสิผมไม่ว่าหรอก เสียวก็บอกกันตรง ๆ” เขาบอกเธออย่างท้าทาย เรียวปากสวยที่ตอนนี้มันสวยน่าจูบมากในสายตาเขา ในเมื่อมันทั้งอิ่มเอิบและแดงจนเขาอดไม่ได้ที่จะต้องประทับริมฝีปากแนบสนิทลงไปอีกครั้งด้วยความเร่าร้อนหญิงสาวเม้มปากสนิทแน่น แต่ขณะที่เธอกำลังจะขาดอากาศเธอก็เผยอริมฝีปากออกมา จนทำให้ลิ้นสากพุ่งเข้าไปภายใน“อื้มมมมม!!!!” เสียงที
ตอนที่ 31 สั่งสอน NCพอมาถึงห้องอะเล็กซานดราก็โวยวายตรงเข้าทุบตีภานุวัฒน์ที่ทั้งเขาไม่รู้เรื่องรู้ราว โดยอะเล็กซานดราใส่ร้ายว่าภานุวัฒน์เป็นคนโทรบอกให้นรภัฏรู้ตัว เขาก็เลยไม่มางานนี้“ผมได้โทรบอก พี่ภัฏเค้าอาจจะรู้ก่อนก็ได้ว่าคุณจะมา” เธอวางแผนไว้ดิบดีสำหรับโอกาสที่จะได้พบกันอีกครั้งโดยไม่ต้องออกหน้าเอง แต่ให้เอกรินทร์รุ่นพี่คนสนิทของเขาเป็นคนชวน เธอมั่นใจว่ายังไงเขาต้องมาสำหรับงานในครั้งนี้ แต่แล้วก็ต้องผิดหวัง“แกต้องรับผิดชอบไอ้นุ แกทำฉันเสียแผน ฮื้ยย!!!” เธอทุบเขาตลอด จนถูกรั้งข้อมือบางเอาไว้ให้หยุดการกระทำ“คุณมีแผนอะไร”“แผนจับเค้าน่ะสิ”“เลิกทำเลว ๆ ซะที เค้าไม่รักก็คือไม่รัก” อะเล็กซานดราอุตส่าห์แต่งตัวทำสวยตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า และกะว่าพอคืนนี้นรภัฏเมาเต็มที่ เธอก็จะลากเขาขึ้นห้องแล้วถ่ายคลิปแบลคเมล์ จับเขาให้อยู่หมัด แต่เขากลับไม่มางานสำคัญแบบนี้ คิดแล้วเธอก็เจ็บใจ แต่ตอนนี้เธอดิ้นอยู่ในอ้อมกอดของภานุวัฒน์“อยากมีมากเหรอไง..ผัว ได้เดี๋ยวฉันจะเป็นผัว ชั่วคราวให้!!!”นรภัฏตัดสินใจขับรถกลับบ้านและไม่อยากไปนอนค้างที่คอนโดของตัวเอง แต่คืนนี้โชคดีที่มารดาของเขาอยู่บ้าน“ภัฏเหรอล
ตอนที่ 30 Mission failedนานแล้วที่นรภัฏไม่ได้เจอกับรุ่นพี่คนนี้ และด้วยความเกรงใจนรภัฏคงไม่กล้าปฏิเสธ และวันนี้เอกรินทร์ก็ได้มีโอกาสมาหานรภัฏถึงที่ทำงานของเขา แต่ไม่พบกับปภาวรินทร์ เพราะวันนี้ภีรดาพาเธอไปลองชุดแต่งงาน“สวัสดีครับพี่ต๊อบ โห!..ไม่เจอกันตั้งนาน พี่สบายดีมั้ยครับ” นรภัฏทักทายรุ่นพี่ที่แวะมาเยี่ยมถึงที่ทำงาน แต่ภาณุวัฒน์ได้บอกเขาเรื่องนี้แล้ว“สบายดี...พี่คิดไม่ถึงเลยว่า แกคิดจะแต่งงานกับเค้าด้วย”“โห่..พี่ ยังไงถ้าผมเจอคนที่ใช่ ผมก็แต่งอยู่แล้วครับ แต่ยังไงพี่ต้องมางานแต่งผมให้ได้นะครับ”“ไม่มีปัญหาไอ้เสือ แล้ววันนี้แฟนแกไปไหนซะละ”“เธอออกไปลองชุดเจ้าสาวกับยัยพริมครับ เดี๋ยวบ่าย ๆ คงกลับ”“ยังไงวันศุกร์นี้ก็อย่าลืมนะ งานนี้เพื่อนพี่ ๆ น้อง ๆ ต้องการฉลองก่อนแต่งให้แก แล้วเจอกันที่เดิมล่ะ”“ครับพี่”พอถึงเย็นวันศุกร์นรภัฏก็ตั้งใจไปตามนัดของเอกรินทร์ เขาบอกให้ภาณุวัฒน์ล่วงหน้าไปก่อน แต่พอไปถึงกำลังจะเดินเข้าไปภายในห้องจัดเลี้ยง นรภัฏก็แอบเห็นอะเล็กซานดราเดินเข้าห้องนั้นไปก่อนหน้าเขา นรภัฏคิดว่าตัวเองตาฝาดและเดาว่ามันเป็นไปไม่ได้ จากนั้นเขาจึงลงมือพิสูจน์ เพราะในห้องนั้นมันเ
ตอนที่ 29 ว่าที่ลูกสะใภ้หลายวันต่อมาหลังจากนรภัฏเปิดตัวปภาวรินทร์แฟนสาว เช้าวันนี้เขาก็จูงมือเธอเดินเข้าไปในออฟฟิศพร้อมกัน พนักงานหลายคนยิ้มรับ และทักทายเธอกันทั่วหน้า คงเป็นความรักที่หวานชื่นของนรภัฏและปภาวรินทร์ที่สามารถปรับความรู้สึกพนักงานในออฟฟิศได้อย่างรวดเร็วถึงเพียงนี้ แม้ก่อนจะมีใครต่อใครคิดว่า นรภัฏจะไม่มีทางคบหากับเลขาฯ สาวคนนี้ในฐานะคนรักได้ เพราะนรภัฏนั้นทั้งหล่อทั้งรวยที่มีพร้อมทุกอย่าง จะมาลงเอยกับลูกน้องตัวเองที่เป็นแค่เลขาฯ จน ๆ คนหนึ่งได้อย่างไร มันไม่เหมาะสมด้วยประการทั้งปวงปภาวรินทร์ตรวจดูความเรียบร้อยของตัวเองในกระจก หลังเลิกงานวันนี้นรภัฏจะพาเธอไปหามารดาของเขา นรภัฏขับรถมาเรื่อย ๆ จนถึงหน้าบ้านหลังใหญ่มีรั้วสูง เด็กรับใช้ที่อยู่บริเวณนั้นก็รีบเดินมากดรีโมทเพื่อเปิดประตูให้นรภัฏขับรถเข้าบ้านทันทีปภาวรินทร์มองไปรอบๆ ด้วยความตื่นตาตื่นใจ บ้านหลังเดิมที่เมื่อห้าปีที่แล้ว เธอมาหานรภัฏที่นี่ เพื่อจะบอกกับเขาว่า..เธอยกเลิกหมั้นกับเจ้าสัวปรเมศวร์แล้วบ้านหลังใหญ่ในเมือง มีบริเวณกว้างขวาง ร่มรื่นด้วยต้นไม้ มีสระว่ายน้ำ มีมุมพักผ่อนหย่อนใจ ไม่ได้อยู่ในสลัมเหมือนอย่างก
ตอนที่ 28 เปิดตัวภรรยาลับร่างระหงได้ส่วนในชุดทำงานกระโปรงบานสีครีมอ่อน ๆ ที่ก้าวลงจากรถพร้อมชายหนุ่มร่างสูงที่ดูสง่าผ่าเผย ทั้งคู่ตกเป็นเป้าสายตาของชาวบ้านในระแวกนั้น โดยเฉพาะร้านขายของชำของป้าดาที่มีกลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงาน นั่งดื่มกันอยู่หน้าร้าน ก่อนที่หญิงชราเจ้าของร้านจะร้องทักหญิงสาวที่กำลังจะเดินเข้าบ้าน“ฝ้ายเองรึ! แหม่!!!..ป้าก็นึกว่าใคร เดี๋ยวนี้มีแฟนมาส่งประจำเลยนะ”“ยังไม่ปิดร้านอีกเหรอคะป้า” เมื่อเธอร่ำลาแฟนหนุ่มเสร็จเรียบร้อยจึงหันมาทักทายหญิงชราที่บ้านติดกัน“ป้าก็กำลังจะปิดเนี่ยแหละแต่ไอ้พวกนี้สิ ยังนั่งโก๊งเหล้ากันอยู่เล้ย! เอ่อ..แล้วเมื่อตอนเย็นเห็นผู้หญิงแต่งตัวสวยเชียวนะ..มาหาคุณยายของฝ้าย ป้าก็ไม่รู้หรอกว่าเป็นใคร ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย คงไม่ใช่คนแถวนี้หรอก” ปภาวรินทร์ทำหน้างง แต่เธอไม่ได้ถามต่อ ก่อนจะเดินเข้าบ้านไปกลุ่มชาวบ้านที่นั่งจับกลุ่มโก๊งเหล้ากันอยู่ในร้านของป้าดา เมื่อหญิงสาวเดินเข้าไปในบ้าน นรภัฏก็ขับรถออกไป จากนั้นเสียงวิพากษ์วิจารณ์ทั้งหลายก็ดังตามมา“สงสัยจะรวยไม่ใช่เล่นนะแม่ แฟนของฝ้ายคนนี้” สวยลูกสาวคนเล็กของป้าดาเอ่ยกับมารดาของเธอ ในใจก็นึกอิจฉา เพรา







