Share

บทที่ 17 กลับมาอีกครั้ง🌾

last update Huling Na-update: 2025-06-24 12:13:29

เช้าวันใหม่ในเมืองกรุง พลปลืตาตื่นขึ้นมาพร้อมแสงแดดอ่อนๆ ที่ลอดผ่านผ้าม่านสีขาว พลเองเขาก็ลุกทำกิจวัตประจำวันและในใจยังคิดถึงคนร่างสูงอย่างเข้มอยู่ตลอต ปัจบันนี้พลเขารู้สึกเหมือนทุกอย่างมันเปลี่ยนไปเพราะไม่ได้เห็นเข้มที่คอยส่งรอยยิ้มหวานดังแดงตะวันในยามเช้า เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่ด้วยความคิดถึงอยู่เต็มอก

วันนี้เขาแต่งตัวในชุดสูทเรียบหรู ดูภูมิฐานแต่ยังคงแฝงความอบอุ่นไว้ในรอยยิ้มหวาน วันนี้เป็นวันแรกที่เขาต้องเข้าบริษัทเพื่อเรียนรู้ธุรกิจของครอบครัวอย่างเต็มตัว และโครงการใหม่ที่เขาคิดไว้ในใจเกี่ยวกับการสร้างโรงแรมที่สะท้อนวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่นของไทย และสร้างแบรนสินค้าของที่ระลึกในธีมภูมิปัญญาอีสานท้องถิ่น และมันกำลังเป็นเป้าหมายหลักของเขาและเป็นสิ่งที่เขาตั้งใจทำสุดๆ โดยเหตุผลหลักก็คือเขาอยากจะช่วยผู้คนที่โคกสะแบงให้ได้มากที่สุด

เพราะเขาถึงแม้จะไปอยู่ที่นั้นได้ไม่กี่วัน แต่ทว่าเขาก็เล็งเห็นถึงความอบอุ่นของคนในหมู่บ้าน และการคอยช่วยสนับสนุนกันอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะพ่อแม่ของเข้มและน้องขิมที่คอยมอบรอยยิ้มให้กับเขาอยู่ตลอด และเข้มเองคนที่เขาหมายหมั้นปั้นมือ ว่าจะเอามาเป็นลูกเขยของนายหัวสิงหากับคุณหญิงฐาให้ได้

เมื่อมาถึงออฟฟิศห้องทำงานของพลตั้งอยู่บนชั้นสูงสุดของอาคารสำนักงานใหญ่ใจกลางกรุงเทพ สะท้อนถึงความหรูหราและความภูมิฐานของผู้บริหารระดับสูง ซึ้งผนังห้องทำจากไม้โอ๊คสีเข้ม พร้อมชั้นวางหนังสือสีขาวที่เต็มไปด้วยหนังสือเกี่ยวกับธุรกิจ การบริหาร และของตกแต่งที่เป็นงานฝีมือพื้นบ้านที่เลขาอย่างนาเธอได้นำมาจากหมู่บ้านโคกสะแบง ไม่ว่าจะเป็นตะกร้าสานและโมบายจากหมู่บ้านโคกสะแบงทั้งหมด

โต๊ะทำงานขนาดใหญ่ทำจากไม้แท้เคลือบเงา บนโต๊ะจัดวางคอมพิวเตอร์ โคมไฟตั้งโต๊ะดีไซน์โมเดิร์น และกรอบรูปภาพถ่ายที่พลถ่ายคู่กับชาวบ้านในช่วงเวลาที่เขาไปอยู่ที่โคกสะแบงเมื่อตอนไปลงพื้นที่ บริเวณหน้าต่างกระจกบานใหญ่ มองเห็นวิวเมืองกรุงเทพได้อย่างกว้างขวาง ผ้าม่านสีขาวโปร่งช่วยกรองแสงธรรมชาติ ทำให้บรรยากาศในห้องดูอบอุ่นและผ่อนคลาย

มุมหนึ่งของห้องถูกจัดเป็นพื้นที่ไว้สำหรับนั่งเล่นและประชุมย่อย มีโซฟาหนังสีเทาเข้ม โต๊ะกระจกใส และชั้นวางของเล็กๆ ที่วางของที่ระลึกจากงานต่างๆ ที่เขาได้ไปร่วมงานมา ไม่ว่าทั้งในประเทศหรือนอกประเมศเขาล้วนมีทั้งหมด บนผนังตรงข้ามโต๊ะทำงาน มีภาพวาดและภาพถ่ายที่สะท้อนวิถีชีวิตชนบท เช่น ทุ่งนาและกิจกรรมพื้นบ้าน ทั้งหมดช่วยเติมเต็มความทรงจำและสร้างแรงบันดาลใจให้กับพลในแต่ละวัน

ต้นไม้เล็กๆ อย่างฟิกส์ไทรและมอนสเตอร่า ถูกวางตามมุมต่างๆ เพื่อเพิ่มความสดชื่นและสีสันให้กับห้องทำงาน กลิ่นหอมละมุนของน้ำมันหอมระเหยจากดอกกระดังงาและมะลิที่ลอยมาจากเครื่องกระจายกลิ่น ช่วยสร้างบรรยากาศให้ผ่อนคลาย ผสมกับเสียงเพลงสากลที่เปิดคลอเบาๆ

เรียกได้ว่าทุกอย่างในห้องสะท้อนถึงตัวตนของพลได้อย่างชัดเจน และความตั้งใจที่จะเชื่อมโยงธุรกิจเข้ากับรากเหง้าของตนเอง มือเรียลก็พลอยหยิบโทรศัพท์ราคาเฉียดแสนขึ้นโทรสายตรงหาเลขาส่วนตัวอย่างพี่นา ให้เขามาพบตนในเวลานี้

ก๊อก....ก๊อก

“ขออนุญาตนะคะคุณหนู”

นาเลขาส่วนตัวของพล เธอมาผมยาวตรงสีดำขลับถูกม้วนปลายเล็กน้อยเพื่อเพิ่มความอ่อนหวาน ตามฉบับพี่สาวจีน การแต่งตัวของเธอเน้นความเรียบง่ายแต่ดูดี ชุดสูทเข้ารูปสีเบจหรือเทาอ่อนจับคู่กับกระโปรงทรงดินสอยาวคลุมเข่า รองเท้าส้นสูงสีครีมหรือดำ

เลขาคนนี้ของพลเธอมีบุคลิที่ดูมั่นใจและมีความเป็นมืออาชีพ เธอเป็นคนที่ใส่ใจรายละเอียดเล็กน้อย โดยห้องทำงานของพลก็ได้เธอเป็นคนจัดและออกแบบให้ เรียกได้ว่าเป็นผู้ช่วยที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้บริหารอย่างพลเลยก็ว่าได้

“พี่นาครับ ผมอยากได้สินค้าท้องถิ่นที่สะท้อนวัฒนธรรมแบบแท้ ๆ มาใช้ในโปรเจกต์โรงแรมของเรา พี่นาคิดว่าพอจะทำได้ไหมครับ?”

นาเลขาส่วนตัวของพลเธอเองก็พลางเงยหน้าจากไอแพดเครื่องใหญ่ เมื่อได้ยินคำถามที่ถามขึ้นพร้อมกับยิ้มเล็กน้อยก่อนที่จะตอบออกไปอย่างฉะฉาน

“ทำได้คะคุณหนูไม่ต้องเป็นห่วงเลยนะคะ เรื่องนี้พี่จัดการได้สบายๆ ว่าแต่คุณหนูคิดจะเริ่มหาสินค้าหรือลงพื้นที่จากที่ไหนดีก่อนคะ?” พลเองเมื่อได้ยินเธอถามขึ้นอย่านั้นก็พลางทำให้พลยิ้มกว้าง ก่อนที่ตนจะพูดเสนอด้วยความภาคภูมิใจ

“หมู่บ้านโคกสะแบงครับ ผมอยากสนับสนุนคนที่นั่น และที่สำคัญ... ผมมีความทรงจำดีๆ ที่นั่น อีกอย่างนะครับผมรู้จักผู้ใหญ่ที่เขาทำพวกจัดสาน และการท่อเสื่อ ท้อผ้า และไหมพรม”

นาเองเธอก็พลางจดไอเดียและข้อเสนอของพลองในไอแพดทั้งหมด พร้อมกับพยักหน้าไปมาแต่เมื่อเธอได้เห็นความมุ่งมั่นในดวงตาของคุณหนูของเธอ เธอก็พร้อมที่จะสนับสนุนเต็มที่ เพราะเธอเห็นว่าพลเมื่ออยู่ที่นั่นเขาดูมีความสุขกว่าอยู่ในเมืองเสียอีก

“ได้ค่ะ พี่จะช่วยคุณหนูจัดการเรื่องนี้เอง วางใจได้เลยนะคะ”

“ครับ”

“ว่าแต่พรุ่งนี้เลยไหมคะ เดี๋ยวพี่จะได้ไปจัดคนขับรถและคนไว้ขนสินค้า เผื่อคุณหนูตัดสินใจเอาสินค้ามาเลย เราค่อยจะไม่ได้ไปเสียเที่ยว” พลได้ยินดังนั้นก่อนที่เขาจะพยักหน้าให้กับเลขาสาว

“ครับ ตามนั้น เอ่อพี่นา ผมวานด้วยนะครับไม่ต้องเอาบอดี้การ์ดไปนะครับ ผมอยากเป็นส่วนตัวนิดหนึ่ง”

“ได้คะ ไม่มีปัญหา”

รุ่งเช้าของวันต่อมา

เสียงรถ SUV Bentley Bentayga 2024 คันหรูเคลื่อนออกจากตัวคฤหาสน์ พลแต่งตัวในชุดแบรนด์เนมตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าตามตำแหน่ง พร้อมกับรถสิบล้อขับตามมาอย่างเคร่งครัด เขามองถนนเบื้องหน้าอย่างกระตือรือร้นด้วยความคิดถึง เขาตื่นเต้นเมื่อจะได้กลับไปยังหมู่บ้านโคกสะแบงที่อบอุ่นกำลังรอเขาอยู่ ซึ่งพลใช้เวลาเดินทางหนึ่งวันเต็มพร้อมกับจอดนอนพักอีกหนึ่งคืน

แสงแดดอ่อนยามสายลอดผ่านช่องหน้าต่างไม้เข้ามาในเถียงนา เสียงไก่ขันดังจากทางในหมู่บ้าน เข้มลืมตาขึ้นอย่างเชื่องช้า ความรู้สึกมึนหนักในศีรษะจากฤทธิ์เหล้ายังคงหลงเหลืออยู่ เขานอนนิ่งอยู่พักหนึ่งก่อนจะพลิกตัวมองไปยังแคร่ไม้หน้าเถียงนา

ดินยังคงนอนอยู่ที่เดิม ท่าทางที่เหนื่อยล้าบอกให้รู้ว่าเพื่อนสนิทของเขาไม่ได้นอนหลับสนิทตลอดทั้งคืน ใบหน้าที่คล้ำไปด้วยหยดเหงื่อทำให้เข้มรู้สึกผิดจนใจหาย

“ดิน... ตื่นเถอะ” เข้มลุกขึ้นเดินโซเซไปหาดิน ก่อนจะยื่นมือไปเขย่าไหล่คนที่กำลังนอนอยู่เบาๆ ดินขยับตัวเล็กน้อย ก่อนจะลืมตาขึ้นด้วยความงัวเงีย

“ตื่นแล้วบ่เข้ม?มึงโอเคขึ้นไป่?” (ตื่นแล้วบ่เข้ม มึงโอเคขึ้นยัง) ดินถามเสียงแหบพร่า พลางปาดเหงื่อบนใบหน้า เข้มนั่งลงข้าง ๆ ก่อนจะถอนหายใจยาว

“ขอบใจมึงนะ... เมื่อคืนกูคงเละเทะมากเลยแมนบ่อ”

“เอ่อ เละสุดๆ เลยละ กูต้องเซ็ดโตให้มึง หาข้าวหาน้ำมาให้ จนกูบ่ได้หลับบ่ได้นอน” (เอ่อ เละสุดๆ เลยละ กูต้องเช็ดตัวให้มึง หาข้าวหาน้ำมาให้ จนกูไม่ได้หลับไม่ได้นอน) ดินพูดปนหัวเราะ แต่แววตายังคงฉายความเป็นห่วงเพื่อนตรงหน้า

“มึงบ่ควรมาลำบากกับกูแบบนี้เด้ดิน” (มึงไม่ควรมาลำบากกับกูแบบนี้นะดิน) เข้มพึมพำเสียงเบา ดวงตาที่เคยแข็งกร้าวเริ่มอ่อนลงด้วยความสำนึก

“กูเป็นหมู่มึงแดะ กูสิปล่อยมึงไว้คนเดียวได้จั่งใด๋?อย่าคิดมากเลยว่ะ” (กูเป็นเพื่อนมึงนะ กูจะปล่อยมึงไว้คนเดียวได้ยังไง อย่าคิดมากว่ะ) ดินตอบพลางยื่นแก้วไปตักน้ำให้เข้ม เข้มรับมาอย่างเงียบๆ พร้อมกับพลอยจิบช้าๆ

แสงแดดที่ลอดผ่านช่องไม้เข้ามาทำให้บรรยากาศในเถียงนาดูอบอุ่นขึ้น ดินลุกขึ้นยืนบิดขี้เกียจ ก่อนจะเดินไปหยิบผ้าห่มที่กองอยู่บนแคร่มาคลุมให้เพื่อน

“เอาเถอะ มึงพักอีกหน่อย ถ้ามีอีหยังกูอยู่แถวๆ นี้เอิ้นได้เด้อ เว้นแต่กูสิไปหาซื้อแนวกิน” (เอาเถอะ มึงพักอีกหน่อย ถ้ามีอะไรกูอยู่แถวๆ นี้นะ เรียกได้นะ เว้นแต่กูจะไปซื้ออาหาร)

“เดี๋ยวกูไปหาอีหยังมาให้กินก่อน แล้วกูจะกลับมา อย่าเฮ็ดอีหยังโง่ๆ เด้อละ” (เดี๋ยวกูไปหาอะไรมาให้กินก่อน แล้วกูจพกลับมา อย่าทำอะไรโง่ๆ นะ)

เข้มเองเขาก็พยักหน้ารับเบาๆ มองเพื่อนที่ขี่รถมอร์ไซค์ออกไป เอ้มเองก็ได้แต่นั่งมองท้องฟ้าพร้อมกับเฝ้าคิดถึงแต่พล และอยากพบเจออีกครั้ง ถ้าได้เจอในครั้งนี้เขาจะไม่ปล่อยพลไปอีกแล้ว

เมื่อรถ SUV Bentley Bentayga 2024 ขับเข้ามาถึงในตัวหมู่บ้าน พลเองเขาก็ไม่ได้มุ่งหน้าไปหาพ่อแม่ของเข้มทันที แต่กลับแวะไปหาบ้าน ลุงคำที่เป็นคนทำเครื่องจัดสาร และน้าเหมยที่กำลังนั่งถักไหมพรมอยู่หน้าบ้าน

“อ้าว คุณพล!” น้าเหมยทักด้วยน้ำเสียงดีใจ

“น้าครับ วันนี้ผมมาซื้อของครับ อยากได้สินค้าทั้งหมดของน้าเลย” น้าเหมยได้ยินอย่างนั้นก็ถึงกับตาโตอย่างกับใข่ห่าน พร้อมกับยิ้มกว้าง เธอไม่รอช้าที่จะขนไหมพรมที่เธอถักมาทั้งหมดลงมากองกันอยู่ใต้ถุนบ้านให้กับพล

“เองทั้งหมดเลยบ่ คุณพล!?” (เอาทั้งหมดเลยเหรอ คุณพล) น้าใหม่พูดย้ำเพราะยังไม่เชื่อหูของตัวเองดีนัก

“ใช่ครับ เอาขึ้นรถได้เลย” พลยิ้มก่อนให้เธอก่อนที่จะส่งซิกให้เลขาลงบันทึกไว้ในไอแพดว่าตนเอาอะไรบ้างแล้ว ก่อนจะเรียกทีมงานช่วยขนของขึ้นรถสิบล้อคันใหญ่ และพลเองเขาก็ได้ควักกเงินสดให้หน้าเหมยเป็นเงินราวๆ เกือบหนึ่งล้านบาท

ถัดมา พลได้นำหน้าคนงานมายังบ้านลุงคำที่ตอนนี้มีกลุ่มชาวบ้านที่กำลังจัดสานอยู่ ไม่ว่าจะเป็น กระเป๋าหาบ เสื่อกก กระติบข้าวเหนียว ฯลฯ พลและเลขาต่างพากันยิ้มกว้างเมื่อเห็นงานฝีมือชิ้นงามที่ชาวบ้านทำอย่างตั้งใจ พลเองก็อดที่จะเหมาไม่ได้

“ผมขอเหมาหมดเลยนะครับ ทุกชิ้นที่มี” ชาวบ้านต่างพากันมุงดูเขาด้วยความตื่นเต้น

“ลูกชายบ้านยายปลาพ่อมี คือใจดีแท้” (ลูกชายบ้านยายปลาพ่อมี ทำไมถึงดีจัง)

ชาวบ้านที่ยังไม่รู้เรื่องที่เขาได้กลับบ้านก็ต่างพากันพูดขึ้นว่าเขาเป็นลูกชายของแม่ปลาพี่อมี แต่ทว่าพลเองเขาก็รู้สึกอบอุ่นและคิดถึงพวกท่าน ก่อนที่จะยกมือขึ้นไว้ลาพร้อมกับยื่นเงินให้จำนวนหนึ่งล้านบาท และก่อนไปเขาบอกเล่าถึงแผนการของเขาในการที่จะใช้สินค้าเหล่านี้เป็นจุดขาย และยืนยันว่าจะกลับมาซื้ออีกในอนาคต

และบ้านสุดท้ายคือบ้านคุณแม่สายทอง พลได้ให้คนงานไปซื้อกันเอาเอง เพราะเขาและเลขาจะไปหาพ่อแม่ของเข้ม โดยที่ยังคงเหมือนเดิมคือเขามอบให้บ้านละหนึ่งล้านบาทเท่าๆ กัน

ที่ว่าการผู้ใหญ่บ้าน

รถคันหรูมาจอดลงหน้าบ้าน พร้อมกับพลเห็นพ่อแม่ของเข้มที่นั่งอยู่แคร่ใต้ถุนบ้านกำลังทำอะไรสักอย่าง พลเขารีบเดินเข้าไปหาพ่อแม่ของเข้มที่ใต้ถุนบ้าน พร้อมกับเลขาสาวที่เดินตามมา เมื่อมาถึงพลไม่รอช้าเมื่อพวกท่านหันมา เขาก็พลางก้มลงกราบพร้อมความรู้สึกที่ตื้นตัน

“พลขอโทษนะครับที่ผมไม่ได้มาหาเป็นบ้านหลังแรก... แต่พลอยากให้ลุงมีกับป้าปลารู้นะครับ ว่าพลรักและนับถือพวกท่านเหมือนพ่อแม่แท้ ๆ ผมขอโทษที่โกหกมาตลอด ขอโทษที่ไม่ได้เล่าภูมิหลังให้พวกท่านฟัง ขอโทษครับ” แม่ปลาพ่อมีเองทั้งมองก็พรางโอบกอดพลด้วยน้ำตา จนเลขาที่ตามมาก็ถึงกับกลั่นน้ำตาไม่ได้

“พล... แม่ดีใจเด้อที่ได้พ้อลูกอีก” (พล...แม่ดีใจนะที่ได้เจอพลอีก)

“พ่อ.... กะดีใจเด้อที่ได้พ้อพลอีก” (พ่อ...ก็ดีใจนะที่ได้เจอพลอีก)

ทั้งสามกอดกันด้วยน้ำตาที่เอ่อล้น พร้อมกับความรู้สึกตื้นตัน ก่อนที่เสียงใครที่คุ้นหูจะพูดขึ้น ก็ถึงกับทำให้พลร้องให้ออกมาหนักกว่าเดิม

“อ้ายพลลลล!!!” ขิมที่พึ้งออกมาจากทางหลังบ้าน เมื่อเห็นพลเธอก็ถึงกะวิ่งหน้าตั้งเข้ามากอดด้วยความคิดถึงสุดหัวใจ

“อ้ายพล อ้ายกลับมาแล้วแม่นบ่ กลับมาหาขิมแล้วแมนบ่” (พี่พล พี่กลับมาแล้วใช่ไหม กลับมาหาขิมแล้วใช่ไหม) ขิมเธอพูดพลางสะอื้นหนักจนพลเองก็โน้มตัวลงมาเช็ดน้ำตาให้กับเธอ พร้อมกับโอบกอดและปลอบเธอ

“พี่ไม่ได้กลับมาอยู่ด้วยหรอกนะ แต่พี่สัญญาว่าจะมาเยี่ยมบ่อยๆ นะ อย่าร้องไห้เลย” พลกอดเธอพร้อมกับลูบหัวของเธอไปมาจนสูทตัวแพงก็เปือนเป็นวงไปด้วยรอยน้ำตาของเธอ

แปล๊นๆ ....

เสียงมอเตอร์ไซค์คันเก่าตรงมาด้วยความเร็ว พร้อมกับดินที่ถือปิ้งไก่ในมือ ก่อนจะตะโกนมาตั้งแต่ไกลๆ เมื่อเห็นเข้มที่นั่งเหม่ออยู่

“บักเข้ม! พลกลับมาแล้ว!” (ไอ้เข้ม! พลกลับมาแล้ว) เข้มเองที่นั่งเหม่ออยู่ก็ถึงกับลุกขึ้นทันที ดวงตาเต็มไปด้วยความหวัง พร้อมกับรอยยิ้มกว้าที่แสดงขึ้นในรอบหลายวัน

เมื่อดินมาจอดที่หน้าเถียงนา เข้มเองก็กระโดดก้าวขึ้นด้วยความเร่งรีบ ก่อนที่ดินจะปัดทายรถมอเจอร์ไซค์คันเก่าจนติดเกิดเป็นรอยยางรถ พร้อมกับดินที่ซิ่งสุดขีดตรงกลับมายังบ้าน

เข้มก็ต้องพรานน้ำตาไหลที่เห็นคนที่เขารักมายืนอยู่ตรงหน้าอีกครั้ง ครั้งนี้พลมาในชุดสูทที่ดูภูมิฐาน และกำไลข้อมือเครื่องประดับนับมูลค่าเฉียดหลักสิบล้าน เรียกได้ว่าทิ้งคราบพลคนเดิมที่เคยใช้ชีวิตอยู่ที่นี่อย่างสิ้นเชิง เมื่อรถจอดลงเข้มก็เดินตรงไปยืนตรงหน้าของพลก่อนที่จะจับสองมือของพลขึ้น

“อ้าย....เข้ม”

พลพูดออกมาด้วยน้ำเสียงสั่น พร้อมกับเข้มที่ยื่นมือมาเสยผมพลขึ้นที่ในตอนนี้มีเหงือไหลซึมออกจากไรหน้าผาก พร้อมพลเองที่จับไปยังใบหน้าของเข้ม พบว่าเข้มใต้ตาคล้ำเล็กน้อย แต่ก็เรียกได้ว่าไม่สามารถปิดบังความหล่อได้เลย

“พล...” เข้มพูดเสียงสั่น

“เข้ม... พลขอโทษที่ไม่ได้บอกอะไรเลย” พลยิ้มทั้งน้ำตา

เข้มเองก็พรางดึงพลเข้ามาเข้มกอดไว้นาน ก่อนที่จะบรรจงจูบ ท่ามกลางสายตาของชาวบ้านที่มองด้วยความซาบซึ้ง ก่อนที่ทั้งสองจะผละริมฝีปากออกจากัน พร้อมกับพลจะเดินเข้าไปหาเลขาสาวที่ยืนซับน้ำตาอยู่

“พี่นา พลขออยู่ที่นี่สักคืนได้ไหมครับ”

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • เมียอ้ายเข้ม | ฮักบ่ฮู้ลืม ที่บ้านโคกสะแบง   บทที่ 27 กินดองคำหมั่นสัญญา/บทส่งทาย

    “โห่ ฮิ้ว โห่ ฮิ้ว โห่ อิ้ว โห่ ฮิ้ว โห่ ฮิ้ววว”ยามเช้าของโคกสะแบงพร้อมกับเสียงโห่ของผู้ใหญ่มีดังขึ้น ปนกับเสียงกลองยาวดังสะท้อนไปทั่วหมู่บ้าน เป็นสัญญานบอกเล่าถึงงานมงคลที่ทุกคนต่างรอคอย บ้านของพ่อใหญ่มีและแม่ปลาถูกตกแต่งด้วยผ้าสีสดใสและดอกไม้พื้นบ้าน และยังมีกลิ่นหอมของอาหารพื้นเมืองลอยมาแตะจมูกเพิ่มบรรยากาศแห่งความสุข และเหลาแม่ครัวที่ทำอาหารกันอย่างขยันขันแข็งเพราะวันนี้มีแขกเยอะไม่ว่าจะเป็นคนในหมู่บ้านอื่น หรือพนักงานบริษัทของพลก็ต่างมาร่วมพิธีมงคลนี้ พร้อมกับนักข่าวที่ตีข่าวกันอย่างทั่วหน้า“โห่ ฮิ้ว โห่ ฮิ้ว โห่ อิ้ว โห่ ฮิ้ว โห่ ฮิ้ววว”เสียงของผู้ใหญ่มีดังขึ้นอีกครั้งท่ามกลางขบวนแห่ พลอยู่ในชุดพื้นบ้านสีขาวทอง พร้อมกับผ้าขาวม้าคาดเอวเสริมความงามแบบชาวอีสาน พลเขานั่งอยู่บนหลังลอล่าควายเผือกตัวงาม ที่ถูกตกแต่งด้วยพวงมาลัยดอกดาวเรืองรอบคอและผ้าคลุมลายไทยดูวิจิตรตระการตาด้านหลังลอล่า เผยให้เห็นเข้มในชุดพื้นบ้านสีเข้ม คาดผ้าขาวม้าแบบเดียวกับพล นั่งซ้อนท้ายพลด้วยรอยยิ้มกว้าง มือหนาก็พลอยจับเชือกบังคับลอล่าไว้อย่างมั่นคง พร้อมกับใบหน้าหวานของพลหันมายิ้มให้คนรักเป็นระยะ และไม่ลืมท

  • เมียอ้ายเข้ม | ฮักบ่ฮู้ลืม ที่บ้านโคกสะแบง   บทที่ 26 สินสอด

    ทุกเช้านั้น ทุกอย่างเหมือนปกติที่โคกสะแบงพร้อมกับเสียงไก่ขันที่ปลุกคนในบ้านได้เป็นอย่างดี เข้มกับพลยังคงนอนหนุนตักกันอยู่บนแคร่ไม้หน้าเถียงนา พร้อมกับสัมผัสอุ่นที่กระทบเขาใบหน้าพลที่ลืมตาตื่นขึ้น ในขณะที่ใบหน้าหล่อก็หอมแก้ม หอมหน้าฝาก และปากของคนร่างเล็กไปมาด้วยความหลงใหล“เช้าแล้วตื่นเร็วครับ”เข้มพูดขึ้นพร้อมกับริมฝีปากที่พลอยเข้ามากดจูบเบาๆ พลที่ค่อยลุกขึ้นนั่งก็พลอยจ้องที่ใบหน้าหล่อของอีกฝ่ายพร้อมกับซุกหน้าลงอกแกร่งด้วยความที่ไม่สดใสสักเท่าไร“นี่ขี้เซานะเรา” เข้มพูดขึ้นพร้อมกับยิ้มมุมปปากหน่อยๆ ฝามือหนาก็พลอยลูบที่ศรีษะไปพลางๆ“ผมง่วงมากรู้สึกเพรียจังเลยครับพี่เข้ม” พลพูดขึ้นเสียงอู้อี้พร้อมกับเข้มที่ยิ้มกว้างขึ้นด้วยความชอบใจ“มาตื่นๆ จะพากลับบ้าน”เข้มเขย่าตัวพลเบาๆ แต่ทว่าคนร่างเล็กที่ซุกอกก็เปลี่ยนมาเอาคางฝังลงที่ไหล่กว้าง เข้มเองก็ส่ายหัวไปมาพร้อมกับอุ้มพลขึ้นพร้อมกับพาขึ้นรถมอไซค์คันเก่าขณะที่พลก็ยังตื่นไม่ดี“นี่พลตื่นก่อนสิเดี๋ยวตกรถ”“อือออ....”พลตอบแบบครางในลำคอจนทำให้เข้มเองก็ถึงกลับคิดหนัก ก่อนที่ร่างสูงจะก้าวขึ้นรถแบบเก้ๆ กังๆ พร้อมกับมือที่ยื่นแขนเล็กให้เข้ามาโอบกอ

  • เมียอ้ายเข้ม | ฮักบ่ฮู้ลืม ที่บ้านโคกสะแบง   บทพิเศษ🌾

    “ขออมนะครับ” “อืม” เมื่อได้รับคำอนุญาตพลเองก็ไม่รีบร้อน ปากเล็กคอยใช้ปลายลิ้นเรียวเลียสัมผัสไปยังยอดสีน้ำตามที่แข็งเป็นไตของคนตรงหน้า จนเข้มเองก็พลอยครางงึมงำออกจากลำคอ ใบขณะที่ริมฝีปากเรียวก็เคลื่อนขึ้นมายังลูกกระเดือกใหญ่ที่แงเป็นก้อน ปากหล็กก่อนที่จะพูดมันเบาๆ พร้อมกับดูเม้มไปตามคอแกร่งที่มีเส้นเลือดปูดขึ้นมาเล็กน้อย ในขณะที่มือยังลูบคลึงไปมาที่เป้ากางเกงในตัวเล็ก ที่ในตอนนี้เขาได้ปลุกมังกรใหญ่ขึ้น พลพลอยลูบขึ้นลงจนตอนหัวมังกรใหญ่ก็เริ่มโพล่พ้นจากหัวกางเกง รวมถึงของเขาเองที่แข็งขึ้นไม่ต่างกัน พลผลักร่างสูงให้นอนลงราบลง พร้อมกับก้นเรียวงอนพลอยขยับขึ้นลงที่มังกรใหญ่ที่ในตอนนี้หัวโพล่พ้นสีแดงแตกพรานจากหัวกางเกง มือเล็กก็อดไม่ได้ที่จะสัมผัสมันอีกครั้ง “ซี๊ดดด เมียค้าบบ” “ค้าบบบ เสียวเหรอครับ” “อืม” พลพูดพร้อมกับใช้มือที่ค่อยๆ ถกกางเกงชั้นในตัวแน่นลงพร้อมกับเผยมังกรใหญ่ที่ตอนนี้ มีเส้นเลือดที่ปูดโปนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด พร้อมกับปลายนิ้วเรียวที่สัมผัสที่น้ำใสที่พึ่งไหลออกจากปลายส่วนหัว พร้อมกับริมฝีปากของพลที่ริ้มเลียต่ำลงมาเรื่อยๆ ปลายนิ้วเรียวเล็กก็เลียไปตามร่องลึกของลอนซิกแพ็กที

  • เมียอ้ายเข้ม | ฮักบ่ฮู้ลืม ที่บ้านโคกสะแบง   บทที่ 24 ใส่เบ็ดพลขี่หลังลอล่า🌾

    เช้าวันใหม่มาเยือนพร้อมกับแสงแดดอ่อนๆ ที่ส่องลอดผ่านผ้าม่านเข้ามา พลเองก็พลางลุกขึ้นจากที่นอนด้วยความรู้สึกสดชื่น ก่อนที่เข้มเจ้าเก่าเจ้าเดิมจตะเดินตรงมาพร้อมกับกดจูบที่ริมฝีปากเรียวเล็กนั้นเบาๆ พร้อมกับพูดขึ้นชวนอีกฝ่ายเพราะเขาจะไปใส่เบ็ดพร้อมกับพาลอล่าไปเดินออกกำลังกาย "คุณเมียครับ พี่จะไปใส่เบ็ดจะไปด้วยไหมถ้าไม่ไปรอพี่บ้านนะ" เข้มพูดพลางยิ้มให้กวนๆ พร้อมกับมือที่เสยผมที่ปกใบหน้าใสของพลออก พลเองที่ได้ยินคำว่า "เมีย" ตัวเขาเองก็พลอยหน้าแดงเถือกขึ้น แต่ทว่าก็ยังทำเป็นกลบเกลื่อนความเขินตัวเองไปพลางๆ “ไปๆ ไปครับ” พลที่ทำอะไรไม่ได้นอกจากหัวใจที่เต้นโครมคราม พลเองรีบไปอาบน้ำแต่งตัวตามเข้มไปทันที โดยที่วันนี้พลใส่เสื้อยืดตัวหลวมกับกางเกงขาสั้นพอดีตัว ส่วนเข้มเองก็มาในลุคสุดคูล โดยสวมเพียงแค่ผ้าขาวม้ามัดเอวห้อยถุงผ้าย่ามเก่าๆ พร้อมถอดเสื้อโชว์แผงอกแน่นล่ำจนพลอดไม่ได้ที่จะหันมองบ่อยๆ "มองอะไรขนาดนั้น เดี๋ยวก็คิดเงินซะเลย" เข้มเขาพูดเอ่ยแซวพลด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนที่เท้าแกร่งจะสตาร์ทรถมอเตอร์ไซค์พร้อมกับพลที่ขึ้นซ้อนท้าย ก่อนที่จะออกตัวไป เมื่อขับออกมายังทุ่งนากว่างสายลมยามเช้าก็พลอ

  • เมียอ้ายเข้ม | ฮักบ่ฮู้ลืม ที่บ้านโคกสะแบง   บทที่ 23 ก้อยไข่มดแดง🌾

    ยามเช้า แสงอ่อนจากดวงตะวันส่องผ่านผ้าม่านสีซีดบนบ้านไม้สองชั้น พร้อมกับเสียงหมาหอนและเสียงไก่งขันดังขึ้นพลอยทำให้ดวงตาเล็กปลืตาตื่นขึ้น พลขยับตัวเล็กน้อยพร้อมมกับความรู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่กำลังแตะอยู่ที่แก้มเบาๆ พร้อมกับสิ่งที่คอยรบกวนอยู่บนใบหน้า ก่อนที่เสียงทุ้มๆ คุ้นเคยจะดังขึ้นกระซิบข้างหู "ตื่นได้แล้วครับ คนขี้เซา เดี๋ยวจะสายเอา" "อื้อ..." พลครางงึมงำ พร้อมกับแขนเล็กที่กอดหมอนข้างแน่นไม่ยอมปล่อย จนเข้มเองที่เห็นอย่างนั้นตนก็อดที่จะยิ้มขำออกมาไม่ได้ มือหนาก็พลอยยื่นมือไปขยี้เส้นผมยุ่งเบาๆ อย่างเอ็นดู ก่อนที่หน้าหน้าหล่อจะโน้มลงไปกระซิบอีกครั้ง "ถ้าลุกช้า เดี๋ยวพี่จับซั่มเลยดีไหม" คำขู่ที่ไม่จริงจังอะไรมากก็พลอยทำให้พลเด้งตัวลุกขึ้นมาทันที พร้อมกับแก้มแดงเรื่อ จนเข้มเองก็อดที่จะยิ้มกว้างออกมาไม่ได้กับท่าทางรีบร้อนของพล "อ้ายเข้มนี่! ขู่ตลอดเลย!" "ไม่ขู่ก็ไม่ยอมตื่นนี่ครับ ไปล้างหน้าล้างตาได้แล้ว พ่อกับแม่รออยู่" ไม่นานพลก็พลอยเดินตามแบบคนไม่ค่อยสดใสนัก เดินตามเข้มลงมาที่ชั้นล่าง พร้อมกับหย่อนตัวนั่งลงที่เสื่อผืนใหญ่ข้างๆ กันกับเข้ม และขิมเองเธอก็นั่งขัดสมาธิอยู่ข้างๆ พ่อ

  • เมียอ้ายเข้ม | ฮักบ่ฮู้ลืม ที่บ้านโคกสะแบง   บทที่ 22 ขอลูบได้ไหม🌾

    พลเดินถือผ้าขนหนูสะอาดและสบู่หอมนกแก้วสีเขียวก้อนเล็กก้อนโปรด พร้อมกับเท้าเล็กเดินไปที่ห้องน้ำหลังบ้านพร้อมกับเข้มที่เดินถอดเสื้อโชว์หุ่นล่ำๆ ให้พลดูเล่นเป็นอาหารตา บรรยากาศรอบข้างก็เต็มไปด้วยเสียงจิ้งหรีดร้องเบาๆ ประสานกับสายลมเย็นที่พัดผ่าน ทำให้บรรยากาศดูผ่อนคลาย "น้ำที่นี่เย็นนะ จะไหวไหม? ถ้าไม่ไหวพี่จะไปต้มน้ำให้จะได้อาบแบบอุ่นๆ" เข้มถามพลพลางยิ้ม พร้อมกับจ้องที่ใบหน้าหวาน ที่ในตอนนี้ก็พลางส่งยิ้มหวานให้กับตน ก่อนที่เสียเจื้อแจ้วของอีกฝ่ายจะพูดขึ้น "ไหวสิ ผมอยู่ที่นี่ก็ต้องชินบ้างล่ะครับ" พลตอบพร้อมหัวเราะ ก่อนที่มือเล็กจะยื่นไปสัมผัสที่กรอบหน้าคมขึ้นรูปของเข้ม พร้อมกับสายตาคมของคนตัวสูงมองมาทางพลอย่างมีเล่ห์นัย ก่อนที่เมือเล็กจะจับมือของเข้มพร้อมกับจูงมือเดินตามตนไปที่ห้องน้ำ เมื่อพลและเข้มเข้ามาในห้องน้ำ พร้อมกับเผยให้เห็นห้องน้ำที่ประกอบไปด้วยโอ่งมังกรที่น้ำครึ่งโอ่ง ก่อนที่มือเล็กจะเอื้อมไปเปิดน้ำจากโอ่งพร้อมกับตักน้ำขึ้นลูบตัว พร้อมกับความรู้สึกเย็นที่ซึมผ่านผิวหนัง แต่แทนที่จะทำให้พลหนาว แต่ทว่ามันกลับสดชื่นอย่างประหลาด เพราะแผงอกและซิกแพ็กที่ชัดเจนของเข้มบวกกันหยดน้ำที

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status