Share

โดนเลิกจ้าง

Author: นรมน
last update Last Updated: 2025-03-03 20:57:24

ปกรณ์มองตามเธอจนลับสายตา ความรู้สึกที่ซับซ้อนกำลังตีกันอยู่ในอก เขารู้ดีว่าการปล่อยเธอไปเช่นนี้คือสิ่งที่ควรทำ

 แต่ความคิดอีกด้านกลับย้ำเตือนว่า

เธอคือคนที่เขาไม่อาจปล่อยมือได้ง่ายๆในขณะเดียวกัน หญิงสาวตัวเล็กแต่เต็มไปด้วยความหยิ่งทะนง

พิมพ์ชนกที่เดินกระฟัดกระเฟียดออกมาจากผับของปกรณ์ จู่ๆเสียงแจ้งเตือนของแอปธนาคาร แจ้งมียอดเงินโอนเข้าในบัญชีของเธอ

" คงเป็นค่าจ้าง ทำงานสองวันมั่ง"

หญิงสาวคิดในใจพรางเปิดดูยอดเงินในบัญชีของเธอ พิมพ์ชนกถึงกับตาค้างกับยอดเงินที่โอนเข้ามา

"ห๊ะ! สองแสน!"

พิมพ์ชนกยืนตัวแข็งอยู่หน้าประตูผับ ดวงตาเบิกกว้างมองจอโทรศัพท์มือถือราวกับไม่เชื่อสิ่งที่เห็น

"ใครโอนมาเนี่ย?" เธอพึมพำด้วยเสียงสั่น มือเลื่อนลงมองชื่อผู้โอนที่ปรากฏในแอป

"คุณปกรณ์!"

ชื่อของเจ้าของผับที่เธอเพิ่งเดินออกมาเมื่อครู่ปรากฏชัดเจน

หัวใจของพิมพ์ชนกเต้นแรงด้วยความสับสน ทำไมเขาถึงโอนเงินมาให้เธอเป็นจำนวนมากขนาดนี้?

เธอเม้มปากแน่น ก่อนตัดสินใจหันหลังกลับเข้าไปในผับอีกครั้งเพื่อหาคำตอบ...

พิมพ์ชนกเดินกระแทกส้นรองเท้าเข้ามาในโถงทางเดินของผับ ตรงไปยังห้องส่วนตัวที่เธอเพิ่งออกมาเมื่อครู่

แต่ก่อนที่มือเธอจะเอื้อมถึงประตู เตโช ลูกน้องคนสนิทของปกรณ์ ก็ก้าวมาขวางทางไว้

"คุณพิมพ์ชนกครับ คุณปกรณ์ไม่สะดวกพบใครตอนนี้" เตโชพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ พร้อมแววตาเย็นชา

"ไม่สะดวกงั้นเหรอ?" พิมพ์ชนกสวนกลับอย่างไม่ยอมแพ้

 "แต่ฉันมีเรื่องต้องเคลียร์กับเขา เงินสองแสนที่โอนเข้ามานี่หมายความว่ายังไง!"

เตโชเหลือบมองหน้าจอโทรศัพท์ที่หญิงสาวชูขึ้นมาให้ดู ก่อนตอบด้วยน้ำเสียงเรียบๆ

"คุณปกรณ์บอกไว้แล้วว่าเงินนั้นคือค่าเสียเวลา และค่าชดเชยที่คุณปกรณ์จ่ายให้กับคุณ"

คำตอบนั้นทำให้พิมพ์ชนกถึงกับอึ้ง ความโมโหพุ่งขึ้นมาอีกระลอก เธอจ้องหน้าเตโช

"งั้นหลีกไป! ฉันจะถามเขาเองว่าหมายความว่าอะไร!"

"ขอโทษครับ แต่ผมทำตามคำสั่ง" เตโชยืนนิ่งไม่ขยับ ราวกับเป็นกำแพงเหล็ก

พิมพ์ชนกกัดฟันแน่น หันมองประตูที่อยู่ตรงหน้าอย่างชั่งใจ จะดื้อรั้นต่อไปหรือควรปล่อยเรื่องนี้ไว้ก่อน?

เสียงเอะอะของพิมพ์ชนกที่พยายามเถียงกับเตโชดังลอดเข้ามาในห้องส่วนตัว

ทำให้ปกรณ์ที่กำลังนั่งจิบเครื่องดื่มอย่างสงบถึงกับถอนหายใจ ก่อนลุกขึ้นเดินไปเปิดประตู

"มีเรื่องอะไรกัน ทำไมเสียงดังขนาดนี้?" เสียงทุ้มต่ำของปกรณ์ดังขึ้น พร้อมกับใบหน้าที่ดูรำคาญปนหงุดหงิดเล็กน้อย

พิมพ์ชนกเงยหน้าขึ้นจ้องเขาทันที ดวงตาวาวโรจน์ด้วยความไม่พอใจ

"คุณจะโอนเงินสองแสนมาให้ฉันทำไม? ฉันไม่ได้ต้องการเงินของคุณ!"

ปกรณ์เลิกคิ้วเล็กน้อยกับท่าทีกราดเกรี้ยวของเธอ ก่อนจะหันไปพยักหน้าให้เตโชเป็นสัญญาณให้ถอยออกไป

"ขึ้นไปคุยข้างในดีกว่านะ "เขาพูดเรียบๆ แล้วเปิดประตูให้เธอเข้าไป

พิมพ์ชนกกัดริมฝีปากแน่น มองเขาด้วยความลังเล ก่อนจะตัดสินใจก้าวเข้าไปในห้อง

ทันทีที่ประตูปิดลง เธอหันขวับมามองเขา "คุณคิดว่าฉันเป็นคนประเภทไหนถึงกล้าโยนเงินมาก้อนโตให้กับฉัน"

ปกรณ์ถอนหายใจอีกครั้ง ยกมือขึ้นลูบหน้าผากตัวเองราวกับกำลังอดทน

"คุณทำงานให้ผม ผมแค่จ่ายค่าตอบแทนที่สมเหตุสมผล"

"สมเหตุสมผล?" พิมพ์ชนกขึ้นเสียง "ฉันทำงานแค่สองวันเองนะ! ค่าชดเชยอะไรนั้นฉันก็ไม่ได้อยากได้สักนิด!"

คำถามนั้นทำให้ปกรณ์จ้องเธอด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป แววตาของเขาเข้มขึ้นและดูเยือกเย็น

"แล้วคุณจะเอายังไง พิมพ์ชนก" เขาพูดเสียงต่ำ ทิ้งความเงียบชวนอึดอัดไว้ใน

พิมพ์ชนกยืดตัวตรง มองเขาด้วยสายตาแน่วแน่

 "ฉันจะไม่รับเงินนี้ และจะโอนคืนให้คุณทุกบาท ถ้าคุณไม่รับคืน ฉันขอทำงานเพื่อชดใช้แทน"

ปกรณ์เลิกคิ้วขึ้น รอยยิ้มบางๆ ผุดขึ้นที่มุมปาก เขาเดินไปหยิบขวดเหล้าขวดหนึ่งจากโต๊ะข้างๆ ก่อนจะวางมันลงตรงหน้าพิมพ์ชนก

"ได้สิ ถ้าคุณอยากทำงานกับผมต่อจริงๆ และอยากให้ผมรับเงินคืน คุณต้องดื่มเหล้าหมดขวดนี้ก่อน"

คำพูดนั้นทำให้พิมพ์ชนกนิ่งไปชั่วครู่ เธอขมวดคิ้วมองขวดเหล้าขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยของเหลวสีอำพัน

"นี่คุณล้อฉันเล่นหรือเปล่า?" เธอถามเสียงเรียบ

"ผมไม่ล้อเล่น" ปกรณ์ตอบพร้อมสายตาที่จริงจัง "ถ้าคุณทำได้ ผมจะให้คุณทำงานต่อ คุณต้องพิสูจน์ให้ผมเห็นว่าคุณคอแข็งแค่ไหน"

พิมพ์ชนกมองเขาอย่างไม่อยากเชื่อ ท่าทางของเขาเหมือนจะลองใจเธอมากกว่าการตั้งเงื่อนไขจริงจัง

แต่เธอก็ไม่อยากยอมแพ้ เธอคิดชั่งใจอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะหยิบขวดเหล้าขึ้นมา

"ได้ ฉันจะดื่มให้คุณดู…ว่าฉันคอแข็งแค่ไหน"

ปกรณ์เลิกคิ้วเล็กน้อย ดูเหมือนจะประหลาดใจที่เธอรับคำท้าจริงๆ

พิมพ์ชนกเปิดฝาขวดออก กลิ่นแอลกอฮอล์ฉุนจัดพุ่งขึ้นมาจนเธอต้องกลั้นหายใจ

เธอยกขวดขึ้นดื่มรวดเดียว ความร้อนแรงของเหล้าแผ่ซ่านไปทั่วลำคอจนเธอต้องเบ้หน้า แต่เธอไม่หยุด

"หยุดเดี๋ยวนี้!" ปกรณ์รีบเอื้อมมือมาคว้าขวดจากเธอ สีหน้าของเขาดูตกใจมาก เขาไม่คิดว่าหญิงสาวจะดื่มมันจริงๆ

"พอแล้ว!"

พิมพ์ชนกยกมือขึ้นเช็ดปาก น้ำตาคลอจากความแสบในลำคอ แต่เธอยังยิ้มเยาะ 

"คุณเป็นคนตั้งกฎเอง ถ้าฉันทำได้ คุณก็ต้องรักษาสัญญา"

ปกรณ์จ้องเธออยู่นาน ก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆ พร้อมกับพยักหน้า "ตกลง คุณชนะแล้ว"

พิมพ์ชนกรู้สึกถึงความร้อนจากแอลกอฮอล์ที่ยังคงวนเวียนในร่างกาย แม้จะพยายามตั้งสติ

แต่ฤทธิ์ของเหล้าก็ทำให้เธอรู้สึกใจกล้าอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

เธอจ้องมองปกรณ์ที่ยืนอยู่ตรงหน้า ร่างสูงใหญ่ของเขาค่อยๆ ลอยเข้ามาในสายตา

เคราเขียวๆ ที่ขึ้นบางๆ บนกรอบหน้าเพิ่มเสน่ห์ให้กับใบหน้าเข้มๆ ของเขา จนเธอรู้สึกว่ามันไม่ใช่แค่ดุๆ อย่างที่เคยคิด

"ทำไม เมาแล้วเหรอดื่มแค่นี้เองนะ" เสียงทุ้มของปกรณ์ดังขึ้น ทำให้เธอสะดุ้งเล็กน้อย

เธอรีบเบือนหน้าหนี แต่ใจกลับเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ หัวสมองมัวไปหมดจนไม่แน่ใจตัวเอง

"ป่าวเมาซะหน่อย"เธอพูดเสียงเบา เผลอหลบสายตาของเขา

ปกรณ์ยิ้มเล็กน้อยเหมือนจะเข้าใจสิ่งที่เธอหมายถึง แต่สายตาของเขากลับยังคงจับจ้องเธออย่างมั่นคง

ราวกับรอคอยคำตอบหรือคำพูดอะไรบางอย่างจากเธอ

"ไม่เมาแต่ยืนไม่อยู่เนี่ยนะ"เขาถามเสียงต่ำ แต่คำถามนั้นกลับทำให้บรรยากาศในห้องขาดความสงบ

พิมพ์ชนกหยุดหายใจไปชั่วขณะ สายตาของเขาทำให้เธอรู้สึกเหมือนถูกจับจ้องในลักษณะที่ไม่อาจหลีกหนีได้

แต่เธอกลับไม่สามารถตอบคำถามนั้นออกไปได้ทันที ทุกอย่างเหมือนหยุดหมุนเมื่อความรู้สึกบางอย่างในใจเริ่มก่อตัวขึ้น...

พิมพ์ชนกส่ายหัวไปมาอย่างพยายามลืมเลือนความมึนงงจากฤทธิ์เหล้า แต่ความรู้สึกยังคงหมุนวนในสมองจนทำให้เธอเซไปข้างหน้า

"ระวัง!…หน่อยสิคุณ"ปกรณ์ร้องเตือนเสียงดัง ก่อนจะรีบเข้ามาพยุงเธอไว้ทันที

หญิงสาวที่ก้าวไม่ทันก็เกือบจะเซล้มลงไปกองกับพื้น แต่ปกรณ์ยังคงจับเธอไว้ได้แน่น

มือของเขาแข็งแรงและอบอุ่น ทำให้พิมพ์ชนกรู้สึกเหมือนกับถูกดึงกลับมาจากความมืดมิด

ใบหน้าของเขาใกล้เธอมากขึ้นจนเธอรู้สึกถึงลมหายใจของเขาที่สัมผัสใบหน้า

"คุณโอเคไหม?" เขาถามเสียงทุ้ม พร้อมกับใช้มืออีกข้างประคองตัวเธอให้อยู่ในท่าทางที่มั่นคง

พิมพ์ชนกตั้งสติได้เล็กน้อย พยายามยืนตรง แต่มือของเขาที่ประคองเธออยู่ทำให้ใจเธอเต้นเร็วขึ้นอีกครั้ง

"ฉัน... ฉันไม่เป็นไร" เธอกล่าวเสียงสั่นๆ พยายามจะขยับออกจากมือของเขา แต่ทว่ารู้สึกเหมือนจะล้มลงอีกครั้ง

ปกรณ์ไม่ได้ปล่อยมือจากเธอ เขาดึงเธอให้ยืนอยู่ในวงแขนของเขา ใกล้จนแทบจะสัมผัสกัน

"ถ้าผมปล่อยคุณ…ก็คงร่วงไปกองอยู่กับพื้นแน่ๆ" เขาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนลง

"คุณนอนพักก่อนเถอะ ส่างเมาแล้วค่อยกลับห้อง วันนี้ผมให้คุณลาหยุดหนึ่งวันโดยที่ไม่หักค่าแรง"

พิมพ์ชนกรู้สึกเหมือนความอึดอัดและความรู้สึกแปลกๆ ก่อตัวขึ้นในใจ

แต่เธอไม่สามารถต่อต้านเขาได้ในตอนนี้ มือของเขาเหมือนจะเป็นที่พึ่งสุดท้ายในเวลานี้

และเธอก็ไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงรู้สึกปลอดภัยเมื่ออยู่ในอ้อมแขนของเขา...

พิมพ์ชนกรู้สึกถึงความมึนงงในหัว ขณะที่มือของปกรณ์ยังประคองเธออยู่

ใจของเธอกลับเต้นแรงและไม่สามารถควบคุมความรู้สึกที่พลุ่งพล่านในตัวเองได้ ฤทธิ์เหล้าทำให้เธอรู้สึกกล้าหาญกว่าปกติ

เธอเงยหน้าขึ้นสบตากับปกรณ์แล้วพูดออกไปด้วยเสียงที่แผ่วเบา แต่หนักแน่นในใจ

"ถ้าฉันขอจูบ... คุณจะทำยังไง"

คำพูดนั้นทำให้ปกรณ์เบิกตากว้าง เขาหยุดหายใจชั่วขณะและมองเธอด้วยความตกใจ ทั้งๆ

ที่เขาเคยคุมสถานการณ์ทุกอย่างได้ แต่ครั้งนี้มันต่างออกไป

เขารู้ดีว่าเธอไม่ใช่คนแบบนี้และฤทธิ์ของแอลกอฮอล์อาจทำให้เธอพูดออกไปโดยไม่คิด

แต่สายตาของเธอที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ ทำให้เขารู้สึกถึงความตั้งใจในคำพูดนั้น

"พิมพ์ชนก..." ปกรณ์พูดชื่อของเธอด้วยน้ำเสียงที่ต่ำลง พร้อมกับก้าวถอยห่างเล็กน้อย เพื่อไม่ให้เธอรู้สึกว่ามันเป็นการยั่วเย้า

เขามองไปที่ริมฝีปากของเธอที่ขยับเล็กน้อย มันทำให้ความรู้สึกภายในตัวเขายิ่งซับซ้อน

ราวกับมีบางสิ่งที่ห้ามไว้ แต่ในขณะเดียวกันมันก็ทำให้เขารู้สึกท้าทาย

"คุณนี่…ช่างไม่รู้อะไรเลยนะพิมพ์ชนก"เขาพูดเสียงแหบแห้ง ดวงตาของเขายังคงจับจ้องไปที่เธอ

แต่กลับพยายามยับยั้งความรู้สึกที่เริ่มผุดขึ้น

พิมพ์ชนกยิ้มบางๆ รู้สึกได้ถึงการต่อต้านในท่าทางของเขา แต่ความกล้าที่เธอมีตอนนี้ไม่ยอมให้เธอถอยหลัง

"ได้ไหม…ฉันขอจูบคุณได้ไหม.." เธอพูดด้วยท่าทางที่ขบขัน แต่ก็ยังเต็มไปด้วยความท้าทาย

ปกรณ์กลั้นหายใจอีกครั้ง ท่าทางของเขายังไม่มั่นใจ แต่ก็ไม่สามารถปฏิเสธคำขอนั้นจากเธอได้...

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เมียเด็กของนายมาเฟีย   อ้อน

    วันนี้ก็เป็นอีกวันที่พิมพ์ชนกกลับมาบ้าน เธอหลีกเลี่ยงไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้กับแม่ เพราะกลัวว่ามันจะทำให้แม่เป็นห่วงและเธอเองก็ยังไม่เข้าใจความรู้สึกของตัวเองทั้งหมด"พิม...คุณปกรณ์เขาไม่ใช่คนที่จะมาดีกับลูกของแม่แบบง่ายๆ นะ เขามีประวัติ...แม่ทำงานกับเขามานานนะลูก"แม่ของเธอหยุดไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วง"แม่ไม่อยากเห็นลูกต้องเจอกับปัญหาจากคนแบบเขา"พิมพ์ชนกถอนหายใจเงียบๆ แม้เธอจะรู้ว่าแม่เป็นห่วง แต่ความรู้สึกที่เธอมีต่อปกรณ์กลับไม่ได้ง่ายเหมือนที่แม่คิดพิมพ์ชนกไม่อยากให้แม่เห็นภาพที่เขาเป็นแบบนั้น แม้แต่เธอก็ยังไม่เข้าใจตัวเองดีพอ"แม่คะ... พิมจะระวังตัวค่ะ อย่าห่วงนะคะ" พิมพ์ชนกตอบเสียงเบา แต่ในใจเธอเริ่มท่วมท้นไปด้วยความลังเลและความไม่แน่ใจแม่ของเธอยิ้มอ่อนโยนแต่ยังคงท่าทางกังวล "แม่แค่ห่วงหนูนะลูก"การสนทนาเงียบลงในบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความห่วงใย แม้พิมพ์ชนกจะอยากให้แม่เข้าใจแต่ก็ยังรู้สึกถึงความซับซ้อนในความสัมพันธ์ของเธอกับปกรณ์ที่ยากจะอธิบายให้ใครเข้าใจได้พิมพ์ชนกคิดคำพูดที่จะตอบแม่อย่างระมัดระวัง ก่อนจะเปิดปากพูดด้วยน้ำเสียงที่พยายามทำให

  • เมียเด็กของนายมาเฟีย   บังเอิญเจอ#2

    ปกรณ์นั่งลงที่เก้าอี้ตรงข้ามพิมพ์ชนกในห้อง VIP เขาเอนตัวพิงพนักเก้าอี้อย่างสบายๆ แต่สายตาที่มองมานั้นเจือแววจริงจัง"พิมพ์ชนก" เสียงทุ้มนุ่มของเขาทำให้เธอสะดุ้งเล็กน้อย"คะ?" เธอเงยหน้ามองเขาอย่างระวัง"ฉันมีคำถามที่อยากรู้" เขาเริ่มขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่สายตาของเขานั้นไม่ธรรมดา"เรื่องที่เธอบอกว่าเธอต้องมาหาเงินจ่ายค่าเทอมเอง...มันคงไม่จริงใช่ไหม?"พิมพ์ชนกชะงัก คำถามนี้เหมือนล้วงลึกเข้าไปในส่วนที่เธอไม่อยากพูดถึง"ฉันไม่เข้าใจว่าคุณหมายถึงอะไร" เธอเลี่ยงตอบตรงๆปกรณ์หัวเราะเบาๆ พลางยกคิ้วขึ้น"แม่ของเธอเป็นเลขาฉัน เงินเดือนแม่เธอไม่น้อยเลยนะ แถมยังได้โบนัสปีละหลายเดือนฉันเองก็รู้ดีว่าแม่เธอไม่มีภาระอะไรหนักหนา แล้วทำไมเธอถึงต้องมาทำงานหาเงินเอง?"เธอกัดริมฝีปากเล็กน้อย พยายามควบคุมสีหน้า"ฉันแค่อยากช่วยแม่แบ่งเบาภาระค่ะ"เขาส่ายหน้าเบาๆ ยิ้มมุมปากแบบที่ทำให้เธอรู้สึกเหมือนเขาไม่เชื่อ"เธอไม่ใช่คนโกหกเก่งนะ พิมพ์ชนก" เขากล่าวด้วยน้ำเสียงขรึม "พูดความจริงกับฉันมาเถอะ"พิมพ์ชนกหลบสายตา เธอรู้ดีว่าการปกปิดอะไรจากเขาไม่ใช่เรื่องง่าย"ฉันแค่ไม่อยากเป็นภาระแม่ค่ะ" เธอตอบด้วยเสียงเบา

  • เมียเด็กของนายมาเฟีย   บังเอิญเจอ

    เตโชขับรถมารับพิมพ์ชนกตามปกติในเช้าวันใหม่และไปรับหลังจากเธอเสร็จสิ้นการเรียนที่มหาวิทยาลัยแต่วันนี้จุดหมายปลายทางไม่ใช่หอพักของเธอเหมือนเดิม"วันนี้คุณปกรณ์ให้ผมพาคุณไปที่บริษัทครับ" เตโชพูดขึ้นขณะเลี้ยวรถออกจากมหาวิทยาลัย"บริษัท? มีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะ?" พิมพ์ชนกถามด้วยความสงสัย"อันนี้ผมไม่ทราบครับ แต่คุณปกรณ์กำชับให้ผมมารับคุณไปทันทีที่คุณเรียนเสร็จ" เตโชตอบด้วยสีหน้าเรียบนิ่งตามแบบฉบับของเขาเมื่อรถเคลื่อนเข้าสู่ลานจอดรถของบริษัท พิมพ์ชนกก็สัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่แตกต่างออกไปอาคารสูงและทันสมัยแห่งนี้เต็มไปด้วยพนักงานที่เดินสวนกันไปมา"เชิญครับ" เตโชเปิดประตูรถให้เธอ ก่อนจะพาเธอเดินไปยังลิฟต์ส่วนตัวระหว่างทางสายตาของพนักงานหลายคนจับจ้องมาที่เธอด้วยความสงสัย เพราะไม่เคยเห็นเธอมาก่อนเมื่อถึงชั้นบนสุด ประตูห้องทำงานใหญ่ของปกรณ์เปิดกว้างออก เขายืนรออยู่ด้านใน สวมชุดสูทสีดำที่เสริมให้เขาดูทรงอำนาจยิ่งกว่าเดิม"มานี่สิ พิมพ์ชนก" น้ำเสียงของเขาเรียบนิ่ง แต่กลับดึงดูดใจจนเธออดไม่ได้ที่จะเดินเข้าไปหา"คุณมีธุระอะไรกับฉันหรือคะ?" เธอถามพลางนั่งลงตรงข้ามเขาปกรณ์เอนตัวพิงเก้าอี้ สายตาม

  • เมียเด็กของนายมาเฟีย   นั่งเฝ้า

    ค่ำคืนเดียวกัน ปกรณ์นั่งอยู่ในห้องส่วนตัวของผับรอบโต๊ะใหญ่มีชายหนุ่มอีกสามคนที่แต่ละคนล้วนเป็นนักธุรกิจชื่อดังในแวดวงสังคมแต่ภายใต้ภาพลักษณ์เหล่านั้น ทุกคนต่างเป็นคนสำคัญในโลกธุรกิจมืด"นายดูไม่ค่อยมีสมาธิเลยนะกรณ์" หนึ่งในนั้นเอ่ยขึ้น เป็นชายหนุ่มผมยาวเรียบแปล้ในชุดสูทไร้ที่ติชื่อว่า ธีรธร เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการฟอกเงินและเป็นคนที่มีเครือข่ายใหญ่ในหลายประเทศปกรณ์ละสายตาจากแก้วเหล้าตรงหน้า ก่อนจะยิ้มมุมปาก "ก็แค่เหนื่อยนิดหน่อย เรื่องของที่เราส่งไปใต้เรียบร้อยดีไหม?""เรียบร้อยกว่าเดิมด้วยซ้ำ" ชายอีกคนตอบขึ้น เป็นชายหนุ่มผิวเข้มชื่อ คณิน เจ้าของท่าเรือที่ใช้เป็นทางผ่านของสินค้าผิดกฎหมาย"แต่ข่าวจากตำรวจเริ่มเข้มขึ้นนะ เราอาจต้องลดปริมาณในล็อตหน้าลง" ธีรธรพูดพร้อมโยนแฟ้มเอกสารไปให้ปกรณ์ปกรณ์รับมาเปิดดูด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง เขาไม่ใช่คนพูดมากในที่ประชุมแบบนี้ แต่ทุกคำพูดของเขามักชี้นำการตัดสินใจของทั้งกลุ่ม"ทำเหมือนเดิม แต่ระวังมากขึ้น ถ้าตำรวจเริ่มได้กลิ่น เราต้องหาวิธีเบี่ยงเบนความสนใจพวกมันไปที่อื่น"ชายหนุ่มคนสุดท้ายที่นั่งเงียบมานาน ชื่อว่า อัคคี ซึ่งเป็นผู้จัดการด้านอาวุธผิด

  • เมียเด็กของนายมาเฟีย   ตามส่ง

    ขวัญข้าวนั่งไขว่ห้างอยู่ที่ม้านั่งหน้าคณะ พลางก้มมองโทรศัพท์ในมือแต่หางตาเหลือบเห็นรถคันหรูจอดเทียบอยู่ไม่ไกล เธอเลิกคิ้วสงสัย ก่อนจะเห็นพิมพ์ชนกเปิดประตูรถลงมา"เฮ้ย! ยัยพิม!" ขวัญข้าวลุกพรวดขึ้นมา มองเพื่อนรักด้วยสายตาแปลกใจปนสงสัยพิมพ์ชนกยืนปรับกระโปรงพลางส่งยิ้มเจื่อนๆ ให้เพื่อน แต่ยังไม่ทันพูดอะไร เสียงขวัญข้าวก็ลอยมาอีก"รถใครอะ? หรือว่า..."เธอหยุดพูดเมื่อเห็นชายร่างสูงในชุดเสื้อเชิ้ตสีเข้มและกางเกงสแลคสุดเนี้ยบก้าวลงมาจากฝั่งคนขับปกรณ์ยืนตรงหน้ารถ มองพิมพ์ชนกด้วยสายตานิ่งๆ แต่กลับมีแววเจ้าเล่ห์ที่ทำให้ขวัญข้าวแทบหลุดกรี๊ด"โอ๊ยยย! นี่ใครกันยะ หล่อขนาดนี้?" ขวัญข้าวถามเสียงสูง ยืนจ้องปกรณ์ราวกับตื่นเต้นเกินเหตุพิมพ์ชนกรีบหันไปมองเขาแล้วขมวดคิ้ว "คุณกลับไปได้แล้วค่ะ!"ปกรณ์ยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย "โอเคครับ แต่ถ้าคุณต้องการอะไร โทรหาผมนะ พิมพ์"คำพูดนั้นทำเอาขวัญข้าวหันมามองพิมพ์ชนกตาโต "เดี๋ยวนะ! เขาเรียกเธอว่าอะไรนะ?"พิมพ์ชนกหน้าแดง เธอรีบดันขวัญข้าวให้ถอยออกมา ก่อนจะหันไปพูดกับปกรณ์เสียงดุ"กลับไปเถอะค่ะ แล้วไม่ต้องมาแถวนี้อีก!"ปกรณ์หัวเราะเบาๆ "ได้สิ แต่ผมไม่สัญญานะว่าจะไม

  • เมียเด็กของนายมาเฟีย   ท้าทาย#2

    เช้าวันใหม่มาเยือน พร้อมกับแสงแดดอ่อนๆ ส่องลอดผ่านม่านหน้าต่างในห้องที่เงียบสงบพิมพ์ชนกค่อยๆ ลืมตาขึ้นอย่างอ่อนล้า แต่ก็ต้องเบิกตากว้างเมื่อสัมผัสได้ถึงอ้อมกอดอุ่นๆ ที่โอบล้อมตัวเธออยู่เธอหันไปมองด้านข้าง ใบหน้าคมเข้มของปกรณ์อยู่ใกล้จนเธอรู้สึกถึงลมหายใจอุ่นๆของเขาที่พัดผ่านแก้ม เธอหน้าแดงทันทีที่นึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมา"นี่ฉัน...ทำอะไรลงไปเนี่ย" พิมพ์ชนกพึมพำเบาๆ กับตัวเอง มือบางพยายามดึงตัวออกจากอ้อมแขนของเขาแต่ชายหนุ่มกลับกระชับกอดแน่นขึ้นโดยไม่ลืมตา"จะรีบไปไหนล่ะ พิมพ์" เสียงทุ้มต่ำของปกรณ์ดังขึ้นพร้อมรอยยิ้มจางๆ บนใบหน้า ทำเอาหญิงสาวยิ่งหน้าแดงกว่าเดิม"ปล่อยฉันได้แล้ว" เธอพยายามดันตัวเขาออก แต่เขากลับหัวเราะเบาๆ"เมื่อคืนยังไม่เห็นพูดแบบนี้เลย" ปกรณ์แกล้งเย้าด้วยน้ำเสียงขี้เล่นคำพูดนั้นทำให้พิมพ์ชนกสะอึก เธอจ้องหน้าเขาอย่างโกรธเคือง แต่ความทรงจำบางส่วนเมื่อคืนกลับผุดขึ้นมาในหัว ทำให้เธอพูดไม่ออกปกรณ์มองสีหน้าของเธอที่เปลี่ยนไป ก่อนจะลดรอยยิ้มลง ดวงตาของเขาสบกับเธออย่างจริงจัง"เมื่อคืนคุณเป็นคนเริ่มนะ" เขายิ้มๆบอกด้วยน้ำเสียงหยอกล้อพิมพ์ชนกนิ่งไป หัวใจของ

  • เมียเด็กของนายมาเฟีย   ท้าทาย 18+

    ปกรณ์รู้สึกถึงความร้อนที่พุ่งเข้ามาจากความรู้สึกที่พยายามยับยั้งอยู่ภายใน เขามองเธอด้วยความลังเลเพียงชั่วครู่ดวงตาสีดำขลับหรี่ลงเล็กน้อย เขารู้ว่าเธอเมาและพูดไปตามอารมณ์แต่บางสิ่งในตัวเขากลับรู้สึกเหมือนถูกกระตุ้นอย่างไม่สามารถห้ามได้"พิมพ์ชนก..." เขาพึมพำชื่อของเธออีกครั้งด้วยเสียงทุ้มต่ำ ก่อนจะยื่นมือไปจับใบหน้าของเธอเบาๆด้วยท่าทางที่เต็มไปด้วยความอ่อนโยนต่างจากปกติพิมพ์ชนกเงยหน้าขึ้น มองเขาในระยะใกล้จนสามารถสัมผัสได้ถึงลมหายใจของเขาที่ใกล้ชิดริมฝีปากของเขายังคงห่างจากเธอเพียงเสี้ยววินาที ขณะที่เธอก็ยืนนิ่ง มันเหมือนทุกอย่างหยุดลงและหัวใจของเธอก็เต้นแรงจนรู้สึกเหมือนจะออกจากอกปกรณ์สูดหายใจลึกๆ ก่อนที่เขาจะโน้มตัวเข้ามาช้าๆ จนริมฝีปากของเขาแตะกับริมฝีปากของพิมพ์ชนกอย่างเบาๆเขาไม่รีบร้อน แต่รู้สึกถึงความร้อนแรงจากการสัมผัสครั้งนี้ แม้จะเป็นเพียงสัมผัสแผ่วเบาพิมพ์ชนกตอบรับการจูบของปกรณ์ด้วยความไม่ประสีประสา ริมฝีปากของเธอขยับอย่างเก้ๆ กังๆแต่เต็มไปด้วยความตั้งใจ ปกรณ์สัมผัสได้ถึงความเขินอายและความไร้เดียงสาในท่าทางของเธอ เขาอดไม่ได้ที่จะกระตุกยิ้มบางๆ ที่มุมปาก"คุณ...ไม่เค

  • เมียเด็กของนายมาเฟีย   โดนเลิกจ้าง

    ปกรณ์มองตามเธอจนลับสายตา ความรู้สึกที่ซับซ้อนกำลังตีกันอยู่ในอก เขารู้ดีว่าการปล่อยเธอไปเช่นนี้คือสิ่งที่ควรทำ แต่ความคิดอีกด้านกลับย้ำเตือนว่าเธอคือคนที่เขาไม่อาจปล่อยมือได้ง่ายๆในขณะเดียวกัน หญิงสาวตัวเล็กแต่เต็มไปด้วยความหยิ่งทะนงพิมพ์ชนกที่เดินกระฟัดกระเฟียดออกมาจากผับของปกรณ์ จู่ๆเสียงแจ้งเตือนของแอปธนาคาร แจ้งมียอดเงินโอนเข้าในบัญชีของเธอ" คงเป็นค่าจ้าง ทำงานสองวันมั่ง"หญิงสาวคิดในใจพรางเปิดดูยอดเงินในบัญชีของเธอ พิมพ์ชนกถึงกับตาค้างกับยอดเงินที่โอนเข้ามา"ห๊ะ! สองแสน!"พิมพ์ชนกยืนตัวแข็งอยู่หน้าประตูผับ ดวงตาเบิกกว้างมองจอโทรศัพท์มือถือราวกับไม่เชื่อสิ่งที่เห็น"ใครโอนมาเนี่ย?" เธอพึมพำด้วยเสียงสั่น มือเลื่อนลงมองชื่อผู้โอนที่ปรากฏในแอป"คุณปกรณ์!"ชื่อของเจ้าของผับที่เธอเพิ่งเดินออกมาเมื่อครู่ปรากฏชัดเจนหัวใจของพิมพ์ชนกเต้นแรงด้วยความสับสน ทำไมเขาถึงโอนเงินมาให้เธอเป็นจำนวนมากขนาดนี้?เธอเม้มปากแน่น ก่อนตัดสินใจหันหลังกลับเข้าไปในผับอีกครั้งเพื่อหาคำตอบ...พิมพ์ชนกเดินกระแทกส้นรองเท้าเข้ามาในโถงทางเดินของผับ ตรงไปยังห้องส่วนตัวที่เธอเพิ่งออกมาเมื่อครู่แต่ก่อนที่มือเธอจะ

  • เมียเด็กของนายมาเฟีย   ลวนลาม

    พิมพ์ชนกเดินไปยังโต๊ะอื่นเพื่อให้บริการตามหน้าที่ ขณะที่เธอวางแก้วเครื่องดื่มลงบนโต๊ะหนึ่งในลูกค้า ซึ่งดูเหมือนจะดื่มหนักไปแล้ว ยื่นมือมาคว้าข้อมือของเธอ"น้องคนสวย ทำไมไม่มานั่งกับพี่บ้างล่ะ?จ๊ะ" เสียงของชายคนนั้นดังขึ้นพร้อมกับเสียงหัวเราะของเพื่อนร่วมโต๊ะทั้งเชียร์และแซวกันอย่างสนุกพิมพ์ชนกสะดุ้งและพยายามดึงมือกลับ แต่เขากลับจับไว้แน่นกว่าเดิม "ปล่อยฉันนะ!" เธอพูดเสียงแข็ง พยายามถอยห่างชายคนนั้นยิ้มเยาะและพูดอย่างไม่ใส่ใจ "อย่าดื้อสิ แค่นั่งคุยด้วยนิดหน่อยเอง ทำเป็นเล่นตัวไปได้!"เสียงของพิมพ์ชนกดังเริ่มดึงดูดความสนใจของลูกค้าโต๊ะอื่น และพี่พนักงานบางคนเริ่มมองมาแต่ยังลังเลที่จะเข้ามายุ่ง เพราะชายคนนั้นดูเหมือนจะเป็นลูกค้าขาประจำที่มีอิทธิพลพอสมควร ปกรณ์ที่ยืนมองอยู่บนชั้นสองเห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง สายตาของเขาเปลี่ยนเป็นเย็นชาและแข็งกร้าว เขาหันไปสั่งลูกน้องทันที"เตโชไปจัดการ อย่าให้มันแตะต้องเธออีกแม้แต่นิดเดียว" น้ำเสียงของเขาเด็ดขาดจนเตโชรีบปฏิบัติตามชายร่างใหญ่ในชุดสูทดำสองคนเดินตรงไปที่โต๊ะนั้นทันที หนึ่งในพวกเขาคว้าข้อมือของชายที่ลวนลามพิมพ์ชนก บีบแรงจนเขาต้องปล่อยมือ"

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status