공유

บทที่ 6

작가: ไป๋เสวียน
“อะไรนะ?” เขาคิดว่าตัวเองได้ยินผิดไป

เจียงเส้าชิงตระหนักได้ว่าสองวันที่ผ่านมานี้ เขาทำไม่ดีกับสวีสวี่ในบางเรื่องจริง ๆ

แต่ทำไมเธอถึงได้เอ่ยปากขอหย่าได้ง่าย ๆ แบบนี้?

เขาอธิบายว่า “เถาหลินไม่มีญาติพ่อแม่พี่น้องแล้ว เธอเหลือแค่ลูกสองคนนี้เท่านั้น ตอนนี้เธอกำลังลำบาก ฉันไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องยืนดูอยู่เฉย ๆ ”

สวีสวี่หัวเราะเยาะ “คุณก็เลยต้องช่วยเหลือด้วยตัวเองเหรอ? คนใช้ก็มีเป็นกอง บอดี้การ์ดก็มีเป็นกลุ่ม พอเธอร้องไห้ คุณก็เข้าไปกอด ที่สำคัญที่สุดคือคุณ ในใจของคุณมีเธออยู่ แล้วฉันเป็นตัวอะไร?”

เจียงเส้าชิงหันหลังให้ “เธอเข้าใจผิดแล้ว ฉันบอกแล้วไงว่าเราต่างหากที่เป็นสามีภรรยา คำว่าหย่าต่อไปนี้อย่าพูดบ่อยนัก รีบพักผ่อนเถอะ”

สามีภรรยาอีกแล้ว......

หมายความว่าสามีภรรยาสามารถละเลยอีกฝ่ายได้งั้นเหรอ?

พูดจบ เจียงเส้าชิงก็เดินจากไป ไม่เปิดโอกาสให้สวีสวี่ได้พูดอะไรต่อ

ชั้นล่าง

พ่อบ้านลุงหลินเพิ่งจะสั่งให้คนเก็บกวาดห้องอาหารเสร็จเรียบร้อย “คุณผู้ชายครับ”

เจียงเส้าชิงคิดอยู่ครู่หนึ่ง “พรุ่งนี้ให้พ่อครัวทำปลานึ่ง”

สวีสวี่ชอบทาน แต่เขาไม่ชอบอาหารนึ่ง ดังนั้นหลายปีมานี้พ่อครัวจึงแทบไม่เคยทำเลย

...

วันรุ่งขึ้น

เจียงเส้าชิงออกจากบ้านแต่เช้าตรู่ บริษัทงานยุ่งมาก เขาไม่สามารถอยู่บ้านได้ทุกวัน

ตอนที่สวีสวี่ตื่นนอนลงมาชั้นล่าง ก็เห็นเถาหลินสวมชุดนอนตัวใหม่ที่เธอเพิ่งซื้อมา นั่งอยู่บนโซฟาและสั่งคนใช้ว่าให้ทำอาหารเช้าอะไรบ้าง ส่วนข้อเท้าของเธอที่แพลงเมื่อคืนกลับดูไม่มีอะไรผิดปกติ

“ปลานึ่งเหรอคะ? ฉันจำได้ว่าเส้าชิงไม่ชอบทานปลานึ่งนี่นา”

ลุงหลินกล่าว “คุณผู้หญิงชอบทานครับ คุณผู้ชายเลยอยากให้พ่อครัวทำให้คุณผู้หญิงทาน”

รอยยิ้มของเถาหลินแข็งค้างไปชั่วขณะ “อย่างนั้นเหรอคะ”

เธอหันกลับมา ก็เห็นสวีสวี่เดินลงมาพอดี “สวีสวี่ ตื่นแล้วเหรอ เส้าชิงเพิ่งจะออกไปเอง”

สวีสวี่ก้มหน้าลง ไม่พูดอะไรสักคำ

เถาหลินยิ้มเล็กน้อย “จริงสิ สวีสวี่ วันนี้ฉันไม่ทานข้าวเย็นที่นี่นะ”

สวีสวี่ไม่เข้าใจว่าเธอจะไปไหนแล้วทำไมต้องมาบอกเธอด้วย?

แต่จนกระทั่งตอนเย็น เธอก็เข้าใจแล้ว

เพราะเจียงเส้าชิงจะพาเถาหลินไปร่วมงานเลี้ยง

เถาหลินยิ้มแล้วพูดว่า “สวีสวี่ คืออย่างนี้นะ ภาษาต่างประเทศของฉันก็พอใช้ได้ งานเลี้ยงที่เส้าชิงจะไปร่วมก็ค่อนข้างสำคัญ ฉันเลยคิดว่าบางทีฉันอาจจะพอช่วยเขาได้บ้าง”

“เพียงแต่ฉันไม่มีชุดราตรีที่เหมาะสม ตอนนี้จะไปหาก็คงไม่ทันแล้ว ต้องโทษฉันเอง ฉันจำได้ว่าในกระเป๋าเดินทางมีชุดราตรีอยู่ แต่หาไม่เจอ”

“ดังนั้นสวีสวี่ พอจะให้ฉันยืมชุดราตรีของคุณได้ไหม?”

เรื่องการขอยืมชุดราตรีนี้ เป็นสิ่งที่เธอตัดสินใจพูดออกมาเอง

เมื่อได้ยินดังนั้น เจียงเส้าชิงก็ขมวดคิ้วอย่างแนบเนียน “มีร้านชุดราตรีเฉพาะอยู่ น่าจะมีไซซ์ของเธอ”

ชุดราตรีของสวีสวี่ล้วนเป็นชุดสั่งตัดพิเศษ มีเพียงชุดเดียวเท่านั้น

เถาหลินชะงักไปเล็กน้อย รีบอธิบาย “ฉันกลัวว่าจะไปไม่ทันน่ะ ก็เลย......”

สวีสวี่เงียบไป

หมายความว่าเจียงเส้าชิงตัดสินใจแล้วว่าภาษาต่างประเทศของเธอไม่ดี ก็เลยจะพาเถาหลินไปร่วมงานด้วย ไม่สนใจใครหน้าไหนถึงขนาดนี้แล้วงั้นเหรอ?

ก็ถูกแล้ว พวกเขามาถึงขั้นที่ต้องคุยเรื่องหย่ากันแล้ว

ไม่จำเป็นต้องใส่ใจอะไรกันอีกต่อไป

สวีสวี่กล่าว “อยู่ในห้องแต่งตัวทั้งหมดนั่นแหละ คุณเลือกตามสบายเลย”

ท่าทีที่ไม่ใส่ใจของเธอทำให้เจียงเส้าชิงรู้สึกไม่สบายใจอยู่บ้าง เขาจึงอธิบายขึ้นมาว่า “มันก็แค่งานเลี้ยงทางธุรกิจ”

สวีสวี่ไม่ได้ตอบอะไร แล้วเดินไปที่ห้องอาหาร

เถาหลินกล่าว “เส้าชิง ห้าโมงแล้วนะ”

เจียงเส้าชิงยังคงมองไปทางห้องอาหาร

ครู่ต่อมา เขาก็หันหลังแล้วเดินออกไปข้างนอก “เธอไปเปลี่ยนชุดราตรีเถอะ”

เถาหลินยิ้มรับ “ค่ะ”

...

ระหว่างทาง

ในหัวของเจียงเส้าชิงเต็มไปด้วยใบหน้าที่เรียบเฉยของสวีสวี่ เมื่อก่อนงานแบบนี้เขามักจะพาสวีสวี่ไปด้วยเสมอ

วันนี้ก็เป็นเถาหลินที่เอ่ยขึ้นมา บอกว่าไม่ได้เข้าร่วมงานเลี้ยงใหญ่โตแบบนี้มานานแล้ว

เมื่อนึกถึงเรื่องราวที่เธอประสบมา เขาก็ทนไม่ได้จริง ๆ ประกอบกับภาษาต่างประเทศของเถาหลินก็ค่อนข้างดี เขาจึงตอบตกลงที่จะพาเธอไปด้วย

“เส้าชิง เดี๋ยวพอกลับไปฉันจะอธิบายกับสวีสวี่เอง ต้องโทษฉันที่ยังคงยึดติดกับอดีต” เถาหลินก้มหน้าลง ถอนหายใจอย่างเศร้าสร้อย

เจียงเส้าชิงได้สติกลับมา

ยึดติดกับอดีต?

สี่คำนี้ทำให้เขานึกขึ้นมาได้ว่า ทั้งหมดนี้เดิมทีควรจะเป็นของเถาหลิน

พวกเขาไม่มีใครผิด

ยิ่งไปกว่านั้น เขากับเถาหลินเติบโตมาด้วยกัน เธอยังให้กำเนิดลูกที่น่ารักทั้งสองคนแก่เขา ต่อให้เขาจะชดเชยให้เธอมากขึ้นอีกหน่อย สวีสวี่ก็ควรจะเข้าใจ

“อย่าร้องไห้เลย เดี๋ยวเครื่องสำอางก็เลอะหมดหรอก”

เถาหลินยิ้มอย่างอ่อนโยน “ฉันรู้ว่าเส้าชิงดีที่สุด”

...

ภายในงานเลี้ยง

มีบริษัทต่างชาติมากมาย หลังจากที่ธุรกิจด้านเภสัชกรรมในเมืองจูฟื้นตัวขึ้นมาใหม่ บริษัทต่างชาติก็เริ่มจับตามอง

เจียงเส้าชิงครองอันดับหนึ่งในสามมณฑลทางตอนเหนือของเมืองจู ตราบใดที่ยังไม่เข้าไปในเมืองหลวง ก็ถือได้ว่ามีเพียงไม่กี่คนที่เทียบเคียงได้

แต่ถ้าจะเข้าไปในเมืองหลวงฉางจิงจริง ๆ ก็ยังขาดอะไรไปบางอย่าง ดังนั้นเจียงเส้าชิงจึงต้องการนักลงทุนอย่างมาก เพื่อช่วยให้เขาขยายกิจการ

ในขณะนั้น มีคนสองสามคนเดินผ่านมาพอดี ผู้รับผิดชอบโครงการหวังจงจึงแนะนำ “ประธานเว่ย ประธานสวี่ครับ ท่านนี้คือเจียงเส้าชิง เจ้าของเจียงกรุ๊ปครับ ตอนนั้นเขาใช้เวลาแค่ไม่กี่เดือนก็ชนะการประมูลของโรงพยาบาลชั้นนำไปถึงสามแห่ง”

ชายหนุ่มสองคนที่ดูโดดเด่นข้างกายหวังจง ดึงดูดทุกสายตาในบริเวณนั้นทันที

จากการแนะนำของหวังจง ชายหนุ่มทางด้านซ้ายคือเว่ยเย่เฉิง เป็นหนึ่งในเจ้าของบริษัทผู้ส่งออกอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ

ปีนี้อายุยี่สิบเก้า เป็นทายาทของตระกูล บุคลิกโดดเด่น มีความสุขุมรอบคอบ และมีความเฉียบขาดอย่างยิ่ง กิจการของเขามีขนาดใหญ่กว่าเจียงกรุ๊ปประมาณหนึ่งเท่าตัว

ส่วนชายหนุ่มที่อยู่ข้าง ๆ เว่ยเย่เฉิงชื่อว่าสวี่จิ้น เป็นคุณชายใหญ่ของตระกูลผู้ทรงอิทธิพลในเมืองฉางจิง ปัจจุบันเป็นประธานบริษัทร่วมลงทุนอันดับหนึ่งของเมืองฉางจิง

เขาคือพี่ชายแท้ ๆ ของสวีสวี่นั่นเอง

เมื่อได้ยินชื่อเจียงเส้าชิง สวี่จิ้นก็เงยหน้าขึ้น มองใบหน้าของอีกฝ่าย

ก่อนหน้านี้เคยเห็นแต่รูปถ่ายล่าสุดของน้องสาวที่ลูกน้องส่งมาให้ และเคยเห็นหน้าตาของเจียงเส้าชิงมาบ้าง พอมาเจอตัวจริงในวันนี้ ก็ถือว่ามีดีอยู่บ้างเหมือนกัน

แต่ว่า...... ผู้หญิงข้างกายเขาคือใคร?

บุคลิกของเจียงเส้าชิงไม่ได้ด้อยไปกว่าใครเลยแม้แต่น้อย เขายื่นมือออกไปหาทั้งสองคนอย่างไม่เย่อหยิ่งและไม่ถ่อมตนมากจนเกินไป “ประธานเว่ย ประธานสวี่ ได้ยินชื่อเสียงมานานแล้วครับ”

เว่ยเย่เฉิงพยักหน้ารับคำ “ประธานเจียง”

ในขณะนั้น สวี่จิ้นจ้องมองเจียงเส้าชิงเขม็ง จับมืออย่างง่าย ๆ “เพิ่งได้ยินว่าบริษัทของประธานเจียงเข้าตลาดหลักทรัพย์ ยินดีด้วยครับ”

เจียงเส้าชิงยิ้มอย่างถ่อมตน “ที่ไหนกันครับ เมื่อเทียบกับประธานสวี่และประธานเว่ยแล้ว ยังห่างชั้นกันมากครับ”

“ไม่หรอก คุณมีความสุขกว่าผมเยอะ” สวี่จิ้นมองเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหมาย “มีภรรยาที่ดี แถมยังมีลูกแฝดชายหญิงอีกด้วย”

เว่ยเย่เฉิงยืนอยู่ข้าง ๆ อย่างสง่างาม ราวกับเป็นผู้ชม เขารู้ว่าเพื่อนของเขาสวี่จิ้นกำลังประเมินน้องเขยคนนี้อยู่

ช่างเถอะ สวี่จิ้นจงใจถามถึงเถาหลิน “ท่านนี้คงจะเป็นคุณผู้หญิงเจียงสินะครับ?”

แก้มของเถาหลินแดงระเรื่อ เธอมองไปที่เจียงเส้าชิงอย่างลังเล

เดิมทีเจียงเส้าชิงไม่อยากจะยอมรับ แต่เขาไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะถามถึงสถานะของเถาหลิน

เขากังวลว่าถ้าสวี่จิ้นรู้ว่าเขาไม่พาภรรยาของตัวเองมางานแบบนี้ จะดูเหมือนไม่ให้เกียรติอีกฝ่าย

เขาจึงทำได้เพียงกล่าวว่า “ใช่ครับ”

เมื่อเถาหลินได้ยินดังนั้น ก็รีบกล่าวทักทายทั้งสองคน “สวัสดีค่ะ ประธานสวี่ ประธานเว่ย”

แต่ไม่รู้เลยว่า ในวินาทีที่สวี่จิ้นได้ยินคำตอบของเจียงเส้าชิง สายตาของเขาก็เปลี่ยนไปแล้ว

เขาตอบรับด้วยน้ำเสียงเย็นชา “อืม”

แล้วสวี่จิ้นก็หันหลังเดินจากไปพร้อมกับเว่ยเย่เฉิง ไม่ได้พูดอะไรต่ออีกเลย

แต่เจียงเส้าชิงก็ไม่ได้ใส่ใจ เขาคิดว่าการที่อีกฝ่ายพูดคุยกับเขามากมาย และให้ความสนใจกับเจียงกรุ๊ปขนาดนี้ ก็แสดงว่าสวี่จิ้นน่าจะสนใจเจียงกรุ๊ปแล้ว

เมื่องานเลี้ยงเลิก ผู้รับผิดชอบโครงการหวังจงก็เดินมาส่งพวกเขาขึ้นรถด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

ใครจะคาดคิดว่า เว่ยเย่เฉิงจะเอ่ยขึ้นมาก่อน “หลังจากพิจารณาโดยรวมแล้ว เว่ยกรุ๊ปตัดสินใจที่จะไม่ร่วมมือกับเจียงกรุ๊ปครับ”

สวี่จิ้นพูดต่อทันที “รายชื่อบริษัทที่อยู่ในเกณฑ์การพิจารณาลงทุน ให้ตัดเจียงกรุ๊ปออกไปได้เลย”

น้องสาวสุดที่รักของเขาอายุยังน้อยก็ต้องไปเป็นแม่เลี้ยงให้กับลูกของเจียงเส้าชิง!

เขาไม่เพียงแต่ไม่เห็นคุณค่า แต่ยังพาผู้หญิงคนอื่นมาปรากฏตัวในงานสำคัญขนาดนี้ แถมยังกล้าโกหกว่าเป็นภรรยาตัวเองอีก!

รอยยิ้มของหวังจงแข็งค้าง “ทั้งสองท่าน ผมขอทราบเหตุผลได้ไหมครับ?”

สวี่จิ้นข่มความโกรธ “การทำธุรกิจให้ความสำคัญกับความซื่อสัตย์ ประธานเจียงเขาพาผู้หญิงคนอื่นมาอวดในที่สาธารณะ แล้วยังโกหกว่าเป็นภรรยาของตัวเองอีก คนที่มีนิสัยแบบนี้ ผมไม่วางใจที่จะลงทุนด้วยหรอกครับ และประธานเว่ยก็ไม่คิดว่าจะสามารถร่วมมือกับผู้นำองค์กรแบบนี้เพื่อให้ได้ผลประโยชน์ร่วมกันได้”

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • เมื่อคุณลำเอียงไปหารักแรก แม่เลี้ยงคนนี้ก็ขอลาออก   บทที่ 85

    เธอช่างอ่อนโยนและเพียบพร้อมเป็นกุลสตรี เอาใจใส่ทุกเรื่องเพื่อช่วยให้เขาก้าวหน้าอย่างรวดเร็วราบรื่น แล้วยังเป็นแม่แท้ ๆ ของพวกเด็ก ๆเจียงเส้าชิงหัวใจหวั่นไหวขึ้นมาบางทีการกลับมาเริ่มต้นใหม่กับเถาหลินอีกครั้ง อาจจะไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไรอย่างน้อยทุกอย่างก็ถูกต้องสมควรไปตามเหตุผลครอบครัวนี้ก็คงไม่ถึงขั้นวุ่นวายไม่สงบเหมือนอย่างที่ผ่านมาเถาหลินเอ่ยขึ้นอย่างรู้จังหวะ “ฉันคิดว่าถ้าถึงตอนนั้นแล้วพวกเราน่าจะเชิญคู่ค้าจากเป่ยไห่มาเป็นแขกที่บ้านเราได้นะ พวกเราทำความสะอาดใหญ่สักครั้งน่าจะดี?”“เรื่องนี้เธอจัดการเถอะ”เถาหลินพยักหน้า “ได้!”เจียงเส้าชิงเดินไปที่ห้องหนังสือเถาหลินหุบยิ้มทันที “ใครก็ได้ ปลดภาพถ่ายที่แขวนอยู่พวกนั้นลงมาให้หมด แล้วเปลี่ยนเป็นภาพวาดศิลปินดังพวกนี้แทน”ภาพถ่ายที่แขวนอยู่?ก็มีแต่ภาพถ่ายแต่งงานของคุณผู้ชายกับคุณนาย แล้วก็ภาพถ่ายครอบครัวสี่คนเท่านั้นลุงหลินขมวดคิ้ว “รูปพวกนี้ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรนี่ครับ”เถาหลินเงยหน้าขึ้นช้า ๆ “ไม่เข้าใจ คำสั่งของฉันงั้นเหรอ? เปลี่ยนเป็นภาพวาดให้หมด ปล่อยให้ทั้งห้องมีแต่ภาพครอบครัวแบบนี้ รังแต่จะทำให้ยึดติดกับเรื่องความ

  • เมื่อคุณลำเอียงไปหารักแรก แม่เลี้ยงคนนี้ก็ขอลาออก   บทที่ 84

    เจียงเส้าชิงถามขึ้น “ทำไมไม่มีความสุขล่ะ?”“ฉัน…” เถาหลินคิดจะพูดอะไรบางอย่างแต่เจียงรั่วกลับชิงพูดขึ้นมาก่อน “หนูกับน้องกินหวานเยอะเกินไปไม่ได้ แต่เธอกลับบังคับให้พวกเรากิน สุดท้ายพวกเรายังกินไม่ทันอิ่ม เธอก็บอกให้พวกเราไปกันได้แล้ว“คุณน้าพี่เลี้ยงก็บอกแล้วว่าพวกเรายังกินกันไม่เสร็จ แต่เธอกลับพูดทำนองว่าถึงหิวก็ไม่ตายหรอกประมาณนี้ค่ะ”เรื่องเลียนแบบคำพูดคำจา ถือเป็นพรสวรรค์ทีเดียวเชียวล่ะอย่างน้อยเจียงรั่วก็สื่อสารสิ่งที่ต้องการออกมาได้ครบถ้วนชัดเจนไม่บกพร่อง แล้วไม่ได้กล่าวหาเถาหลินเกินไปเลยสักคำเถาหลินหน้าซีดเผือด “เส้าชิง นายอย่าเข้าใจฉันผิดนะ ฉันก็แค่เป็นห่วงกลัวว่าพวกลูก ๆ จะกินมากไปแล้วท้องอืด เดิมทีก็กินหวานมากไปไม่ได้อยู่แล้ว ก็เลยให้ชิมนิดหน่อยแค่พอรู้รสชาติให้หายอยากก็พอแล้ว”เจียงเส้าชิงกอดลูกสาวไว้ “รั่วรั่ว ลูกเข้าใจคุณแม่ผิดไปแล้ว คุณแม่จะพูดว่าพวกลูกถึงหิวก็ไม่ตายได้ยังไง”“ใช่จ้ะ แม่รักพวกลูกขนาดนี้ ไปรับไปส่งพวกลูกที่โรงเรียน แล้วยังพาพวกลูกไปกินของอร่อยอีกนะ” เถาหลินเอ่ยเจียงรั่วคิดถึงคำพูดของป้าเฉียนขึ้นมาได้ ก็เถียงเลียนแบบ “ไม่ใช่หน้าที่ของคุณรึไง?”

  • เมื่อคุณลำเอียงไปหารักแรก แม่เลี้ยงคนนี้ก็ขอลาออก   บทที่ 83

    คำตอบนี้เพียงพอจะอธิบายได้แล้วว่า เขาได้ยินมันทั้งหมดแล้วร่างกายของสวีสวี่ยังอ่อนแอ เสียงพูดแผ่วหวิว “ขอโทษนะ เมื่อกี้ฉันแค่…”เว่ยเย่เฉิงหัวเราะเบา ๆ “อืม ฉันรู้”เรื่องนี้ให้พูดยังไงก็น่าอายเกินไป สวีสวี่จึงเอ่ยขึ้นว่า “ถ้าพี่มีงานก็ไปทำงานเถอะ ที่นี่มีคนคอยดูแลอยู่”ก็มีงานต้องทำจริง แต่ว่าในเมื่อออกมาแล้ว ก็ไม่มีเหตุผลให้กลับไปแล้วไม่นานสวี่จิ้นก็กลับเข้ามาพร้อมกับบอดี้การ์ด แล้วยังหิ้วยาบำรุงร่างกายมากมายมาด้วย“พวกเรายังมีธุระ ฉันทิ้งคนให้เธอเรียกใช้ได้ตามสบาย” สวี่จิ้นให้บอดี้การ์ดสองคนของตัวเองอยู่เฝ้าที่นี่“ไม่ต้องหรอกค่ะ ที่ศูนย์พักฟื้นหลังคลอดก็มีคนคอยดูแลอยู่” สวีสวี่พูดขึ้น“อย่าดื้อนักเลย เวลาแบบนี้ขืนไม่ดูแลบำรุงร่างกายให้ดี หลังจากนี้มีเรื่องให้เธอต้องร้องไห้แน่” สวี่จิ้นถลึงตามองเธอสวีสวี่หัวเราะออกมา “ขอบคุณนะคะพี่”“ไปแล้วนะ”เว่ยเย่เฉิงลุกขึ้นยืน ก่อนออกไปก็ไม่ลืมหันกลับมามองเธอ “กินยาให้ตรงเวลาด้วย”สวีสวี่พยักหน้าอย่างว่าง่าย “อืม ๆ”หลังจากออกจากห้องคนของศูนย์พักฟื้นหลังคลอดก็เดินเข้ามาหาสวี่จิ้น “ประธานสวี่คะ พวกเราเก็บพวกรกและสิ่งอื่น ๆ ไปแช่

  • เมื่อคุณลำเอียงไปหารักแรก แม่เลี้ยงคนนี้ก็ขอลาออก   บทที่ 82

    เจียงเส้าชิงถูกดันให้ออกไปข้างนอกแววตาของเขาเย็นชาถึงขีดสุด แถมยังแฝงด้วยความผิดหวังและความดูแคลนอย่างไม่มีสิ้นสุดในที่สุดเธอก็ยอมรับแล้วว่าเธอนอกใจ ทรยศต่อครอบครัวนี้!งั้นก็หมายความว่าทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมานี้ เป็นแค่ข้ออ้างที่เธอคิดจะใช้เพื่อหนีไปจากเขาอย่างนั้นเหรอ?-เพียงครึ่งนาทีถัดมา สวีสวี่ได้ยินเสียงฝีเท้าแว่วดังขึ้นมาอีกครั้ง เธอลืมตาอย่างหงุดหงิด “นี่คุณยังจะ…”เสียงของเธอพลันชะงักไปเป็นเว่ยเย่เฉิงเองเหรอเขาสวมชุดสูทรองเท้าหนัง รูปร่างสูงโปร่งผึ่งผาย บุคลิกเคร่งขรึมและมั่นคงใจเย็น ผมสั้นเรียบแบบนั้นกลับยิ่งขับให้เขาดูเป็นอิสระไม่ยึดติดกับภาพลักษณ์ของผู้มีตำแหน่งสูงส่งแววตาของเว่ยเย่เฉิงนิ่งเรียบ “ทำไมถึงผ่าตัดเร็วนักล่ะ?”สิ้นเสียงนั้น เงาของสวี่จิ้นพลันปรากฏขึ้นมา จากด้านหลังของเขาหัวใจของสวีสวี่สั่นสะท้าน“พี่คะ…”สวี่จิ้นเดินเข้ามาอย่างจนใจ หยุดยืนอยู่ข้างเตียงคนไข้ก่อนจะยื่นมือเข้าไปสวมกอดเธอเอาไว้น้ำตาของสวีสวี่ไหลพรั่งพรูออกมา เธอสะอึกสะอื้นจนไหล่สั่นไปหมด“ไหนว่าจะไม่ร้องไห้ไม่ใช่เหรอ?” สวี่จิ้นถอนหายใจออกมาปล่อยให้เธอร้องไห้

  • เมื่อคุณลำเอียงไปหารักแรก แม่เลี้ยงคนนี้ก็ขอลาออก   บทที่ 81

    ช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา ฉายชัดเจนในห้วงความคิดของเขาตระกูลเจียงจำเป็นต้องมีสวีสวี่เขาเองก็ขาดสวีสวี่ไม่ได้เหมือนกันเซี่ยงเยี่ยนเฉินรีบเข้ามา เห็นเจียงเส้าชิงในสภาพแบบนี้ ก็เอ่ยปากพูดปลอบไม่ออก“เจียงเส้าชิง นายไม่ควรปกป้องเถาหลินซ้ำแล้วซ้ำเล่าแบบนี้เลยนะ ถ้าเปลี่ยนเป็นสวีสวี่บ้าง นายจะรู้สึกยังไงเหรอ?”เจียงเส้าชิงคิดไปถึงเว่ยเย่เฉิงสวีสวี่กับผู้ชายคนนั้นแค่อยู่ในขั้นคลุมเครือ เขาก็รับไม่ได้แล้วเจียงเส้าชิงเงยหน้าขึ้น “ทำไมนายถึงยอมให้เธอทำแท้ง?”“ฉันเข้าไปยุ่งกับการตัดสินใจของเธอไม่ได้หรอก!”เซี่ยงเยี่ยนเฉินหมดคำจะพูดกับเขาจริง ๆ ก่อนจะกล่าวต่อว่า “ตอนนี้ยังไม่สาย ตราบใดที่นายตัดขาดความสัมพันธ์กับเถาหลิน สวีสวี่อาจจะยกโทษให้นายก็ได้นะ เธอรักนายขนาดนั้น ถึงขั้นยอมเป็นแม่เลี้ยงให้ลูก ๆ ของนายด้วยซ้ำ เรื่องนี้ นายปฏิเสธได้เหรอ?”เจียงเส้าชิงเหลือบสายตามองไปยังห้องผ่าตัดหัวใจสั่นไหวระรัวเขาดูเหมือนกำลังหวาดกลัวอยู่จริง ๆ-สวีสวี่พอฟื้นขึ้นมา ก็ค้นพบว่าที่แห่งนี้ไม่ใช่โรงพยาบาลแต่เป็นศูนย์พักฟื้นหลังคลอดลูกของเธอ…ไม่อยู่แล้วสินะ?หัวใจพลันเจ็บแปลบขึ้นมาทันทีไ

  • เมื่อคุณลำเอียงไปหารักแรก แม่เลี้ยงคนนี้ก็ขอลาออก   บทที่ 80

    วันนี้เป็นวันเปิดภาคเรียกของเด็กทั้งสองคน ดังนั้นพวกเขาจึงมีเรียนแค่ครึ่งวันเจียงเส้าชิงอยู่หน้าประตูโรงเรียนรอรับพวกเด็ก ๆ เพื่อออกไปกินข้าวกลางวันด้วยกันเพราะอยู่ใกล้กันมาก เถาหลินจึงได้ยินเสียงร้อนรนจากคนปลายสายที่โทร.เข้ามา เหมือนกำลังพูดถึงเรื่องสวีสวี่อะไรสักอย่างเธอกำมือแน่นเจียงเส้าชิงสีหน้าตระหนก “อยู่ที่นายเหรอ?”“ถูก!”“ช่วยขวางไว้ที! ฉันจะรีบไปเดี๋ยวนี้!”โทรศัพท์ถูกตัดไป หลินเถาเอ่ยขึ้นว่า “เส้าชิง พวกลูก ๆ จะออกมากันแล้วนะ”ทางนี้คือพวกลูก ๆ อีกทางคือสวีสวี่ที่กำลังจะทำแท้ง…ในใจเจียงเส้าชิงสับสนร้อนรุ่มอยู่ไม่เป็นสุขสิบกว่าวินาที ท้ายที่สุดเขาก็ตัดสินใจลงจากรถ “เธอรับพวกเด็ก ๆ ไปกินข้าวแทนที”เขาเลือกสวีสวี่เกิดอะไรขึ้นกับสวีสวี่ ถึงทำให้เขาร้อนใจขนาดนั้นได้?เถาหลินนิ่งไปเล็กน้อยเธอคิดไม่ถึงเลยสักนิด มาถึงขั้นนี้แล้ว เจียงเส้าชิงจะยังใส่ใจสวีสวี่มากขนาดนั้นอีกหรือลูกทั้งสองคนของเธอจะไม่ได้อยู่ในใจของเขาเลยสักนิด?เถาหลินมองเข้าไปในรั้วโรงเรียนด้วยสายตาลุ่มลึกทิ้งให้เธอดูแลเด็กสองคนตามลำพังแบบนี้ มันต้องเหนื่อยขนาดไหนกันนะ?เถาหลินมองว่าลำพังตน

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status