공유

บทที่ 5

작가: ไป๋เสวียน
สวีสวี่เม้มริมฝีปาก แล้วกัดฟัน “คุณไปเถอะค่ะ” ตลอดทั้งคืน สวีสวี่เฝ้าดูแลลูกสาวและลูกชายอยู่ที่โรงพยาบาล ไม่ได้ไปไหนเลยแม้แต่ก้าวเดียว

ส่วนเจียงเส้าชิงและเถาหลินที่บอกว่าจะรีบกลับมา สุดท้ายกลับไม่เห็นแม้แต่เงา

ในใจของสวีสวี่ขมขื่นอย่างยิ่ง

ในรูปภาพที่เป็นข้อความจากไลน์ที่เจียงเส้าชิงส่งให้เถาหลินเมื่อครู่ เขากำลังอยู่ที่บ้าน และคอยถามเถาหลินทุกอย่างว่าถูกต้องหรือไม่

นี่ไม่ใช่ท่าทีที่ปฏิบัติต่อแขก หรือแค่แม่ของลูกอีกต่อไปแล้ว

หรือว่า ในใจของเขายังคงรักเถาหลินอยู่?

ตอนแรกเธอคิดว่าเจียงเส้าชิงแค่ต้องการชดเชยให้เถาหลิน เพราะถึงอย่างไรเธอก็ให้กำเนิดลูกแฝดชายหญิงแก่เขา เจียงเส้าชิงเองก็พูดแบบนั้น

แต่ตอนนี้ ท่าทีที่เขามีต่อเถาหลิน รวมถึงประโยคที่เขาพูดในวันนี้ว่า ‘แม่เลี้ยงก็คือแม่เลี้ยงวันยังค่ำ’ ทำให้เธอรู้สึกว่าหกปีที่ผ่านมานี้ มันเหมือนกับความสัมพันธ์แบบนายจ้างลูกจ้างมากขึ้นเรื่อย ๆ

เหมือนว่าความดีความชั่วของเธอจะขึ้นอยู่กับลูก ๆ ทั้งหมด และหน้าที่ของเธอก็แค่ดูแลลูก ๆ เท่านั้น

ถ้าลูกสบายดี เธอก็คือภรรยาที่ดี แต่ถ้าลูกมีปัญหาอะไรขึ้นมา เธอก็คือแม่เลี้ยงที่ปัดความรับผิดชอบ

ไม่ว่าเธอจะทำได้สมบูรณ์แบบแค่ไหน ก็ไม่สามารถเทียบกับสถานะแม่ผู้ให้กำเนิดของเถาหลินได้

แม้ว่าเถาหลินจะไม่ได้ทำอะไรเลยก็ตาม

สามทุ่มครึ่ง

“คุณแม่ครับ ผมไม่เป็นไรแล้ว พวกเรากลับบ้านกันเถอะนะครับ?” เจียงหวยให้น้ำเกลือเสร็จ เขาไม่อยากอยู่ที่โรงพยาบาลต่อ

สวีสวี่คิดอยู่ครู่หนึ่ง “ก็ได้จ้ะ งั้นเดี๋ยวแม่ไปทำเรื่องออกจากโรงพยาบาลให้ ลูกอยู่กับพี่สาวห้ามออกจากห้องเด็ดขาด เข้าใจไหม?”

“ครับ/ค่ะ!”

สวีสวี่เดินไปแล้วหันกลับมามองทุกสามก้าว

เธอไม่มีคนช่วย เจียงเส้าชิงก็ไม่ได้ส่งพี่เลี้ยงมา เธอจึงกลัวว่าลูกจะหายที่โรงพยาบาล

ดังนั้นเมื่อเดินออกจากห้องผู้ป่วย เธอจึงต้องรบกวนให้พยาบาลช่วยดูลูก ๆ ให้

หลังจากทำเรื่องออกจากโรงพยาบาลเสร็จ เธอก็พาลูกทั้งสองคนเรียกรถกลับบ้าน

...

ณ บ้านตระกูลเจียง ตอนนี้กลับสว่างไสวไปด้วยแสงไฟ หน้าประตูยังมีรถหรูจอดอยู่อีกหลายคัน

สวีสวี่นึกขึ้นได้ว่าเจียงเส้าชิงนัดเพื่อนไว้หลายคน คงจะนัดกันที่บ้านสินะ?

“คุณแม่ครับ รถคันนี้แพงมากเลยใช่ไหม?” เจียงหวยชี้ไปที่รถคันหนึ่งในจำนวนนั้น

สวีสวี่เหลือบมอง “ก็พอใช้ได้นะ”

ในสายตาของเธอ มันก็แค่พอใช้ได้จริง ๆ

รถของเธอเมื่อก่อน แค่หลับตาเลือกมาคันหนึ่ง ก็มีราคาสูงกว่ารถพวกนี้รวมกันแล้ว

เมื่อพาลูกทั้งสองคนเข้าบ้าน สวีสวี่ก็ถึงกับยืนตกตะลึงกับภาพที่เห็นตรงหน้า ในอกและสมองของเธอราวกับมีเสียงระเบิดดังขึ้น!

ในบ้านไม่ใช่แค่มีคน แต่ยังจัดงานเลี้ยงสังสรรค์กันอย่างสนุกสนาน

ประตูเก็บเสียงได้ดีมาก พอเข้ามาในบ้านเธอถึงได้ยินเสียงร้องเชียร์ของคนพวกนั้น

“จูบเลย! จูบเลย!”

“ประธานเจียง อย่าเขินสิ!”

“คุณเถาหลิน ลูก ๆ โตกันขนาดนี้แล้ว ยังจะอายอะไรอีก?”

ทุกคนกำลังเล่นกันอย่างสนุกสนาน ไม่ได้สังเกตเลยว่ามีคนเข้ามาที่หน้าประตู

แต่พวกคนรับใช้เห็น พวกเขาอยากจะเตือน แต่ก็กลัวสีหน้าของคุณผู้หญิงในตอนนี้

ทางที่กลุ่มคนยืนอยู่ เจียงเส้าชิงกับเถาหลินยืนหันหน้าเข้าหากัน

เถาหลินยิ้มพลางตำหนิเพื่อน ๆ เหล่านั้น “อย่าเล่นกันสิ เมื่อก่อนฉันกับเส้าชิงเป็นคู่หมั้นกัน แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว”

“นั่นก็เพราะโชคชะตาเล่นตลกไม่ใช่เหรอ ถ้าไม่มีเรื่องราวในตอนนั้น ตอนนี้พวกนายจะมีความสุขขนาดไหน ถือซะว่าเป็นการฉลองที่บริษัทประธานเจียงเข้าตลาดหลักทรัพย์อีกครั้ง และเป็นการกลับมาพบกันของเพื่อนสมัยเด็ก จูบเลย!” เริ่นหาวเพื่อนสนิทของเจียงเส้าชิงกล่าว

เมื่อพูดถึงอดีต เจียงเส้าชิงมองเถาหลินที่กำลังช่วยแก้ต่างให้เขาอยู่ตรงหน้า ดูเหมือนว่าเธอจะคอยคำนึงถึงเขาอยู่เสมอ

แต่เขากลับไม่เคยให้อะไรเธอเลย

เถาหลินยิ้มบาง ๆ “อย่าพูดถึงเรื่องเก่า ๆ เลย ตอนนี้เส้าชิงเก่งขนาดนี้ ฉันก็พอใจมากแล้ว”

คำพูดของเธอยิ่งทำให้ความรู้สึกผิดในใจของเจียงเส้าชิงถาโถมเข้ามาในอก ผลักดันให้เขาขยับใบหน้าเข้าไปหาแก้มของเถาหลินโดยไม่รู้ตัว

“จูบเลย! จูบเลย!” คนอื่น ๆ ยังคงส่งเสียงเชียร์ คนที่เชียร์ดังที่สุดก็คือเริ่นหาวคนนั้น

แต่เพื่อนสนิทอีกคนกลับขมวดคิ้ว ไม่พูดอะไรเลยตลอดเวลา

ทุกคนกำลังรอชมฉากจูบของพวกเขา ในวินาทีนั้นจึงเงียบเสียงลงทันที สายตาที่จับจ้องเป็นประกาย

บรรยากาศโดยรอบจึงเงียบสงบอย่างมาก และทำให้เสียงของสวีสวี่ที่เอ่ยขึ้นมานั้นดังฟังชัดอย่างยิ่ง—

“สนุกไหมคะ?”

คำพูดสามคำที่ราบเรียบและสงบนิ่ง กลับทำให้หัวใจของทุกคนในที่นั้นสั่นสะท้าน

เจียงเส้าชิงได้สติในทันที เขารีบถอยหลังไปสองก้าวเพื่อเว้นระยะห่าง สีหน้าของเถาหลินเองก็ดูทำอะไรไม่ถูกเช่นกัน

ไม่มีใครคาดคิดว่าสวีสวี่จะกลับมาอย่างกะทันหัน

หัวใจของสวีสวี่เจ็บปวดราวกับหลั่งเลือดออกมาทีละน้อย

ถ้าเธอไม่ปรากฏตัว ป่านนี้พวกเขาคงจะจูบกันไปแล้วใช่ไหม?

คนอย่างเจียงเส้าชิง การบังคับเขาไม่มีประโยชน์

ดังนั้นการที่เขาเข้าไปใกล้เถาหลินเมื่อครู่ ลึก ๆ ในใจของเขาต้องเต็มใจอย่างแน่นอน

ที่แท้ เขาก็ยังมีความรู้สึกต่อเถาหลินจริง ๆ

การรับรู้ความจริงข้อนี้ ทำให้สวีสวี่แทบหายใจไม่ออก

เธอต้องดูแลลูก ๆ คนเดียว พวกเขาปากก็บอกว่าจะรีบกลับมา แต่ในความเป็นจริงกลับไม่สนใจไยดี มาพลอดรักกันอยู่ที่นี่ แถมยังจัดงานเลี้ยงกันอย่างสนุกสนาน!

เพื่อน ๆ ของเจียงเส้าชิงเคยเจอสวีสวี่ แต่ก็ไม่บ่อยนัก

คนส่วนใหญ่คิดว่าสวีสวี่เป็นฝ่ายได้เปรียบ อยู่ดี ๆ ก็ได้ลูกแฝดชายหญิงมา แถมยังไม่มีที่มาที่ไปชัดเจน น่าจะมาจากครอบครัวธรรมดา ไม่ได้ทำงาน เป็นแค่แม่บ้านคนหนึ่ง เพียงแต่หน้าตาและบุคลิกโดดเด่นกว่าคนอื่น

ไม่อย่างนั้นจะเข้าตาเจียงเส้าชิง คุณชายสูงศักดิ์อันดับหนึ่งของเมืองจูในอดีตได้อย่างไร?

แต่ถึงอย่างไรตอนนี้เธอก็คือคุณผู้หญิงเจียง การที่พวกเขาทำแบบนี้ก็ถือว่าไม่เหมาะสม

เริ่นหาวหัวเราะแหะ ๆ “พี่สะใภ้กลับมาแล้วเหรอ ไม่ได้อยู่โรงพยาบาลเหรอครับ?”

สวีสวี่ยกยิ้มบาง ๆ สายตากวาดมองไปทางเจียงเส้าชิงกับเถาหลิน “ใช่แล้ว ฉันอยู่ที่โรงพยาบาล”

แล้วพวกคุณกำลังทำอะไรกันอยู่?

คำพูดนี้ยิ่งทำให้คนเหล่านั้นรู้สึกผิดมากขึ้น

เจียงรั่วรู้สึกโกรธเล็กน้อย “คุณพ่อคะ คุณพ่อบอกว่าจะมาต้อนรับเพื่อนแป๊บเดียว แล้วจะรีบกลับไปที่โรงพยาบาลไม่ใช่เหรอคะ?”

เช่นเดียวกัน เจียงหวยก็ทำเสียงฮึดฮัด “คุณพ่อไม่สนใจชีวิตของผมแล้ว ผมแพ้อาหารจนเกือบจะตายอยู่แล้ว แต่คุณพ่อกลับมาเล่นสนุกอยู่กับคนที่ทำให้ผมต้องเข้าโรงพยาบาล ผมไม่ชอบคุณพ่อแล้ว!”

เพื่อน ๆ ที่อยู่รอบ ๆ มองหน้ากันไปมา

พวกเขาไม่รู้เรื่องนี้

คำพูดของเด็ก ๆ เปรียบเสมือนฝ่ามือที่ตบหน้าเจียงเส้าชิงอย่างจัง

ตอนแรกเขาตั้งใจจะไปหาลูกที่โรงพยาบาลจริง ๆ จึงเปลี่ยนมาจัดงานเลี้ยงที่บ้านแทน แบบนี้จะได้เอาเสื้อผ้าของลูก ๆ ไปเปลี่ยนให้ที่โรงพยาบาลตอนดึก ๆ

แต่เพื่อน ๆ ก็คะยั้นคะยอไม่ให้ไป เริ่นหาวก็เรียกเถาหลินกลับมาอีก ก็เลยทำให้ล่าช้าไป

สวีสวี่มองไปยังทุกคนในห้องนั่งเล่น “พวกคุณคือเพื่อนสนิทของเส้าชิง การที่พวกคุณมาเป็นแขกที่บ้าน ฉันยินดีต้อนรับอย่างยิ่ง แต่บางเรื่อง ฉันก็หวังว่าทุกคนจะวางตัวให้เหมาะสม คุณเถาเป็นแขกของฉันกับเส้าชิง หวังว่าพวกคุณจะปฏิบัติต่อเธออย่างเป็นมิตร”

ความหมายในคำพูดของเธอไม่ต่างอะไรกับการชี้หน้าด่าว่าพวกเขาไร้ยางอาย

ใคร ๆ ก็ฟังออก

แต่พวกเขาก็ได้แต่โกรธแต่ไม่กล้าพูด!

ทันใดนั้นสวีสวี่ก็หันไปมองเถาหลิน “คุณเถาคะ คุณลืมไปแล้วรึเปล่าคะว่า เส้าชิงแต่งงานแล้ว?”

ไม่มีใครคาดคิดว่าสวีสวี่ที่อารมณ์ดีมาตลอด ไม่ว่าจะพูดอะไรก็แค่ยิ้มรับ จะมาพูดจาแข็งกร้าวกดดันแบบนี้ต่อหน้าคนมากมาย

ใช่ มันคือการกดดัน

โดยเฉพาะในสายตาของเริ่นหาวที่เติบโตมาพร้อมกับเจียงเส้าชิงและเถาหลิน เถาหลินคือผู้อ่อนแอ คือคนที่ต้องได้รับการปกป้องดูแล

ส่วนสวีสวี่คือผู้หญิงแข็งแกร่งที่คอยรังแกคนอื่น!

ได้เปรียบแล้วยังจะมาตีหน้าซื่อ!

เถาหลินทำอะไรไม่ถูก “ขอโทษค่ะ ฉันไม่......”

เจียงเส้าชิงเอ่ยขึ้น “สวีสวี่ เธออย่าพูดจาเกินไปหน่อยเลย”

“ฉันเกินไปเหรอคะ?”

ขอบตาของสวีสวี่แดงก่ำ “ฉันดูแลลูกสองคนอยู่ที่โรงพยาบาล พวกคุณกลับจะมาจูบกันที่บ้านโดยไม่สนใจใครหน้าไหน? คำว่ายางอายสะกดเป็นไหมคะ?”

เจียงเส้าชิงตวาด “พอได้แล้ว!”

บรรยากาศโดยรอบเงียบสงบลงทันที

สวีสวี่ยืนนิ่งอยู่กับที่เพราะตกใจกับเสียงของเขา

ตรงหน้าคือใบหน้าที่โกรธเกรี้ยวของเจียงเส้าชิง หางตาก็เห็นสายตาของทุกคนที่กำลังมองดูเรื่องสนุก ข้างหูคือเสียงลูกทั้งสองคนที่เรียกเธอว่าแม่

แต่ในหัวของเธอ กลับฉายภาพวันแต่งงาน วันที่เจียงเส้าชิงจับมือเธอแล้วพูดว่า ‘ผมยินดี’

ความทุ่มเทอย่างหนักตลอดหกปี แลกมากับอะไร?

แลกมากับคำว่าแม่เลี้ยงของเจียงเส้าชิง แลกมากับคำว่าพี่สะใภ้ที่แฝงไปด้วยการเยาะเย้ยของคนอื่น

เธอได้ลองสวมบทบาทต่าง ๆ มากมาย แต่กลับลืมไปเพียงอย่างเดียว คือการใช้ตัวตนของ ‘สวีสวี่’ เพื่อมองความรู้สึกที่เจียงเส้าชิงมีต่อเธอ

มีบางอย่างในใจที่เหมือนจะแตกสลายไปอย่างเงียบ ๆ

หกปี......

ดูเหมือนว่าเธอควรจะก้าวออกจากบทบาทของแม่เลี้ยงและคุณผู้หญิงเจียง และกลับมาเป็นตัวของตัวเองได้แล้ว

น้ำตาของผู้หญิงช่างเจ็บปวด เธอยิ้มแล้วพยักหน้า “ดีค่ะ พวกคุณทำกันต่อเลย”

หัวใจของเจียงเส้าชิงราวกับถูกใครบางคนบีบไว้ เขาคว้าตัวสวีสวี่โดยสัญชาตญาณ แต่เธอกลับเบี่ยงตัวหลบ

มือของเขาจึงค้างอยู่กลางอากาศทั้งอย่างนั้น

เจียงรั่วรีบเข้าไปขวางเธอ “คุณแม่จะไปไหนคะ? พาหนูกับน้องไปด้วยสิคะ”

เจียงเส้าชิงที่ได้สติก็เริ่มมีอารมณ์ขึ้นมา

เขาเดินเข้าไปอุ้มเจียงหวย แล้วดึงมือเจียงรั่วไว้ “พ่อจะอยู่กับพวกลูกเอง”

เถาหลินเข้าไปใกล้ลูกทั้งสองคน แล้วปลอบด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “แม่ก็อยู่ตรงนี้นะ”

คำพูดที่เข้ากันดีของพวกเขายิ่งทำให้สวีสวี่ตระหนักได้อย่างชัดเจนว่า ต่อให้บ้านนี้ไม่มีเธอ ก็ไม่มีทางแตกแยก

พวกเขาต่างหากที่เป็นครอบครัวสี่คน

ส่วนเธอก็คือส่วนเกิน

ทางด้านห้องนั่งเล่น เซี่ยงเยี่ยนเฉินเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวที่ไม่ได้ร่วมโห่ร้องรีบลุกขึ้น “ขอโทษนะครับพี่สะใภ้ เมื่อกี้เริ่นหาวดื่มมากไปหน่อย พูดจาไม่รู้จักขอบเขต อย่าโกรธเลยนะครับ”

เริ่นหาวยังอยากจะเถียงอะไรบางอย่าง แต่ก็ถูกเซี่ยงเยี่ยนเฉินถลึงตาใส่

ยังก่อเรื่องไม่พออีกเหรอ?

“พวกเรากลับก่อนนะครับ” เซี่ยงเยี่ยนเฉินลากเริ่นหาวออกไปข้างนอก คนอื่น ๆ ก็ตามไปด้วย

เมื่อขึ้นรถ เริ่นหาวก็ทนไม่ไหว “นี่นายเป็นอะไรของนาย? ทำไมต้องไปว่าเถาหลินด้วย? แล้วยังขอโทษผู้หญิงคนนั้นอีก? คนที่อยู่ดี ๆ ก็ได้ผลประโยชน์แบบนั้น สมควรได้รับความเคารพเหรอ?”

เซี่ยงเยี่ยนเฉินบอกให้คนขับรถออกรถ “ถ้านายยังเป็นแบบนี้อีก ต่อไปเราก็ไม่ต้องเป็นเพื่อนกันแล้ว”

เริ่นหาวไม่เข้าใจ “นายทำอะ......”

เซี่ยงเยี่ยนเฉินพูดขัดจังหวะ “ไม่ว่าสวีสวี่จะเป็นยังไง นายจะชอบหรือไม่ชอบ ตอนนี้เธอก็คือภรรยาของเส้าชิง ภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย! แล้วเถาหลินมาอยู่ที่บ้านคนอื่นแบบนี้มันหมายความว่ายังไง? นายยังเชียร์ให้เขาจูบกันอีก นายบ้าไปแล้วเหรอ?”

เริ่นหาวไม่คิดว่าตัวเองผิด “คนธรรมดาคนหนึ่งได้แต่งงานกับเจียงเส้าชิง ก็ถือว่าเป็นบุญแล้ว! แถมยังได้ลูกที่น่ารักมาอีกสองคน เธอมีหน้าที่ต้องดูแลอยู่แล้ว จะมาโกรธทำหน้าบึ้งตึงทำไม?”

“ก็เพราะว่าเธอสามารถเลี้ยงดูเด็กสองคนมาได้ด้วยตัวเอง รักเหมือนลูกในไส้! ถ้าเปลี่ยนเป็นน้องสาวนาย นายคิดว่าน้องสาวนายจะทำได้ไหม?”

เริ่นหา “ถ้าน้องสาวฉันกล้าไปเป็นแม่เลี้ยง ฉันจะตีให้ตาย......”

พูดไปได้ครึ่งหนึ่ง เริ่นหาวก็เงียบปากไปทันที

ขณะเดียวกัน หน้าประตูบ้านตระกูลเจียง

สวีสวี่กำลังจะจากไป แต่ตอนที่เดินมาถึงโถงทางเข้า ก็บังเอิญเหลือบไปเห็นโทรศัพท์มือถือเครื่องหนึ่งที่ไม่รู้ว่าเป็นของใครลืมทิ้งไว้บนชั้นวางรองเท้า

หน้าจอโทรศัพท์ยังคงสว่างขึ้นพร้อมกับรูปถ่าย เจียงเส้าชิงที่อยู่ในรูปนั้นดูเหมือนจะยังอยู่มัธยมปลาย

แต่สิ่งที่สะดุดตาที่สุดคือ เสื้อเชิ้ตที่เขาใส่ถ่ายรูปตัวนั้น เหมือนกับเสื้อของเถาหลินในรูปทุกประการ ดูเหมือนจะเป็นเสื้อคู่รัก

และเสื้อเชิ้ตตัวนั้นเจียงเส้าชิงยังคงเก็บไว้จนถึงทุกวันนี้ ถึงแม้จะใส่ไม่ได้แล้ว แต่ก็มักจะนำมารีดอย่างดีแล้วแขวนไว้ในห้องแต่งตัว ไม่ยอมให้คนรับใช้คนไหนแตะต้อง

เธอรู้ว่าเสื้อเชิ้ตตัวนั้นสำคัญกับเจียงเส้าชิงมาก และเคยเดาว่าอาจจะเป็นของขวัญจากแม่ของเขา แต่ไม่เคยคิดเลยว่า......

จะเป็นเสื้อคู่รักกับเถาหลิน

ความจริงที่ไม่คาดฝันนี้ ราวกับไม้หน้าสามที่ฟาดเข้าที่ศีรษะของเธออย่างจัง!

น้ำตาของสวีสวี่เอ่อล้นออกมาจากขอบตา หัวใจก็ราวกับถูกกรีดเป็นแผล เจ็บปวดจนพูดไม่ออก ได้แต่ก้าวเท้าเดินออกจากบ้านไป

เจียงเส้าชิงเห็นเธอเดินจากไป ก็พูดกับเถาหลินว่า “เธอพักผ่อนก่อนเถอะ”

“คุณแม่!” เจียงรั่วกับเจียงหวยกลับวิ่งออกไปตามสวีสวี่ก่อน

สวีสวี่ที่ยังเดินไปได้ไม่กี่ก้าวก็ถูกเจียงรั่วดึงไว้ เธอก้มหน้าลง น้ำตาอาบแก้ม “วันนี้แม่จะไปนอนบ้านเพื่อน พวกลูกอยู่ที่บ้านต้องเชื่อฟังนะ”

“ไม่เอา!” เจียงหวยรีบห้ามทันที

เจียงรั่วปกป้องสวีสวี่อย่างเต็มที่ “ถ้าจะไปก็ต้องเป็นเธอคนนั้นไปสิ ทำไมแม่ต้องไปด้วยล่ะคะ คุณแม่เป็นแม่ของพวกเรา เป็นคุณผู้หญิงของที่นี่นะคะ!”

สวีสวี่ชะงักไป

ใช่แล้ว เธอต่างหากที่เป็นคุณผู้หญิงของที่นี่

แต่เจียงเส้าชิงกลับตบหน้าเธอครั้งแล้วครั้งเล่า

เจียงเส้าชิงที่ตามมาได้ยินคำพูดของลูกสาว ถึงได้ตระหนักว่าลูก ๆ ต่อต้านเถาหลินมากแค่ไหน และรักสวีสวี่มากเพียงใด

ในหัวของเขาก็ผุดภาพสวีสวี่ที่เคยดูแลลูกทั้งสองคนจนไม่ได้หลับไม่ได้นอนขึ้นมา

ความทุ่มเทของสวีสวี่ตลอดหลายปีมานี้ ทุกคนต่างก็เห็นกันหมด

“สวีสวี่”

หญิงสาวไม่ได้เงยหน้า

เสียงเรียกของเขา ทำให้เธอหวนนึกถึงเช้าวันนั้นที่เจอกันครั้งแรกที่คลาสฝึกอบรม

น้ำตาของสวีสวี่ยิ่งไหลไม่หยุด “คุณยังรักเธออยู่ไหม?”

เจียงเส้าชิงเงียบ

สวีสวี่หัวเราะอย่างขมขื่น

เขากล่าวว่า “จะรักหรือไม่รัก ตอนนี้เธอก็คือภรรยาของฉัน เราต่างหากที่เป็นสามีภรรยากัน”

สายตาของสวีสวี่สั่นไหวขึ้นมาทันที “ที่คุณมีให้ฉัน...... ก็แค่หน้าที่ของสามีภรรยางั้นเหรอคะ? คุณ......”

สวีสวี่ที่เติบโตมาอย่างคุณหนูสูงศักดิ์ผู้เพียบพร้อม แทบจะแตกสลายกับความจริงข้อนี้

ที่แท้เวลาที่คนเราสิ้นหวังถึงขีดสุด มันจะพูดอะไรไม่ออกจริง ๆ

วินาทีนี้สวีสวี่อยากจะถามเขาอีกครั้งเหลือเกินว่า งั้นที่คุณแต่งงานกับฉัน ก็แค่เพื่อให้ฉันช่วยดูแลลูกสองคนของคุณงั้นเหรอ?

ราวกับเธอเพิ่งตื่นจากฝันร้าย ทันใดนั้นก็ตระหนักได้ว่า เธอคงจะคิดผิดไปจริง ๆ

ผิดที่ตอนนั้นไม่ยอมฟังคำทัดทานของพ่อแม่และพี่ชาย

ผิดที่หลังแต่งงานก็เอาแต่หมกมุ่นอยู่กับเขาและลูกทั้งสองของเขา

ผิดที่ทิ้งหน้าที่การงาน สูญเสียคุณค่าในตัวเอง จนในสายตาของเขามีประโยชน์แค่ ‘หน้าที่ในการดูแลลูก’ เท่านั้น!

ก้าวผิดไปก้าวหนึ่ง จนผิดไปหมดทุกก้าว

เธอเคยคิดว่าพ่อแม่คือกรงขัง ดังนั้นเพื่อเขา เธอจึงดิ้นรนออกมา

แต่ความเป็นจริงกลับบอกเธออย่างโหดร้ายว่า นั่นคือสิ่งที่คอยปกป้องชีวิตของเธอ คือศักดิ์ศรีของเธอ

น้ำตาของเธอไหลออกมาไม่หยุด

เจียงเส้าชิงขมวดคิ้วแน่น “สวีสวี่ เธอ......”

เธอไม่เคยร้องไห้แบบนี้มาก่อน ตลอดหกปีที่แต่งงานกันมา ไม่เคยเลยสักครั้ง

ทันใดนั้นหัวใจของเจียงเส้าชิงก็บีบรัดแน่น อยากจะเข้าไปกอดเธอ

ในตอนนั้นเอง เสียงของเถาหลินก็ดังขึ้นมา “สวีสวี่คะ เดี๋ยวฉันอธิบายให้ฟังนะ คุณอย่าเพิ่งไป......”

“อ๊า—”

เถาหลินที่ควรจะขึ้นไปพักผ่อนข้างบนกลับออกมา เธอรีบวิ่งลงบันได แต่กลับพลาดท่าข้อเท้าแพลง

เมื่อได้ยินเสียงร้อง เจียงเส้าชิงก็หันกลับไปทันที “หลินหลิน?!”

ดูเหมือนเถาหลินจะข้อเท้าแพลงอย่างแรง เจ็บจนเหงื่อผุดขึ้นที่หน้าผากทันที “ขยับไม่ได้ เจ็บ......”

เจียงเส้าชิงตรงเข้าไปอุ้มเถาหลินขึ้นมา แล้วขับรถมุ่งหน้าไปโรงพยาบาลทันที ไม่มีการหยุดชะงักแม้แต่วินาทีเดียว

เสียงเครื่องยนต์ของรถดังอยู่ข้างหู

ส่วนสวีสวี่ที่ยืนอยู่ที่เดิม กลับรู้สึกเจ็บปวดในอกจนด้านชา

ความหวังและการปลอบใจตัวเองทั้งหมดของเธอ แตกสลายลงอย่างสิ้นเชิง

...

กลางดึก

เพราะในบ้านมีแต่คนรับใช้ สวีสวี่จึงไม่สามารถจากไปทั้งแบบนั้นได้ ทำได้เพียงดูแลลูกทั้งสองคนที่ง่วงจนทนไม่ไหวให้หลับไปก่อน

ข้างเตียงเล็ก สวีสวี่ลูบมือเล็ก ๆ ของเจียงรั่ว ทุกครั้งที่ลูกสาวปกป้องเธอ เธอก็รู้สึกว่าหลายปีที่ผ่านมานี้ไม่ได้สูญเปล่า

และในขณะเดียวกัน เธอก็ได้สัมผัสถึงรสชาติของการถูกลูก ๆ ผูกมัดไว้

ทันใดนั้นประตูก็ถูกคนผลักเปิดออก

เจียงเส้าชิงกลับมาแล้ว

สวีสวี่เหลือบมองเขา แต่ไม่ได้พูดอะไร

“ลูก ๆ หลับกันหมดแล้วเหรอ?”

“อืม” สวีสวี่ลุกขึ้นเดินออกจากห้องเด็กเล็ก

เธอหันข้างให้เจียงเส้าชิง “เรามาคุยกันหน่อยเถอะ”

เจียงเส้าชิงเม้มริมฝีปาก ไม่ได้พูดอะไร

ณ ห้องนอนใหญ่

สวีสวี่นั่งลง พูดอย่างเด็ดขาดและชัดเจน “หย่ากันเถอะ”
이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • เมื่อคุณลำเอียงไปหารักแรก แม่เลี้ยงคนนี้ก็ขอลาออก   บทที่ 85

    เธอช่างอ่อนโยนและเพียบพร้อมเป็นกุลสตรี เอาใจใส่ทุกเรื่องเพื่อช่วยให้เขาก้าวหน้าอย่างรวดเร็วราบรื่น แล้วยังเป็นแม่แท้ ๆ ของพวกเด็ก ๆเจียงเส้าชิงหัวใจหวั่นไหวขึ้นมาบางทีการกลับมาเริ่มต้นใหม่กับเถาหลินอีกครั้ง อาจจะไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไรอย่างน้อยทุกอย่างก็ถูกต้องสมควรไปตามเหตุผลครอบครัวนี้ก็คงไม่ถึงขั้นวุ่นวายไม่สงบเหมือนอย่างที่ผ่านมาเถาหลินเอ่ยขึ้นอย่างรู้จังหวะ “ฉันคิดว่าถ้าถึงตอนนั้นแล้วพวกเราน่าจะเชิญคู่ค้าจากเป่ยไห่มาเป็นแขกที่บ้านเราได้นะ พวกเราทำความสะอาดใหญ่สักครั้งน่าจะดี?”“เรื่องนี้เธอจัดการเถอะ”เถาหลินพยักหน้า “ได้!”เจียงเส้าชิงเดินไปที่ห้องหนังสือเถาหลินหุบยิ้มทันที “ใครก็ได้ ปลดภาพถ่ายที่แขวนอยู่พวกนั้นลงมาให้หมด แล้วเปลี่ยนเป็นภาพวาดศิลปินดังพวกนี้แทน”ภาพถ่ายที่แขวนอยู่?ก็มีแต่ภาพถ่ายแต่งงานของคุณผู้ชายกับคุณนาย แล้วก็ภาพถ่ายครอบครัวสี่คนเท่านั้นลุงหลินขมวดคิ้ว “รูปพวกนี้ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรนี่ครับ”เถาหลินเงยหน้าขึ้นช้า ๆ “ไม่เข้าใจ คำสั่งของฉันงั้นเหรอ? เปลี่ยนเป็นภาพวาดให้หมด ปล่อยให้ทั้งห้องมีแต่ภาพครอบครัวแบบนี้ รังแต่จะทำให้ยึดติดกับเรื่องความ

  • เมื่อคุณลำเอียงไปหารักแรก แม่เลี้ยงคนนี้ก็ขอลาออก   บทที่ 84

    เจียงเส้าชิงถามขึ้น “ทำไมไม่มีความสุขล่ะ?”“ฉัน…” เถาหลินคิดจะพูดอะไรบางอย่างแต่เจียงรั่วกลับชิงพูดขึ้นมาก่อน “หนูกับน้องกินหวานเยอะเกินไปไม่ได้ แต่เธอกลับบังคับให้พวกเรากิน สุดท้ายพวกเรายังกินไม่ทันอิ่ม เธอก็บอกให้พวกเราไปกันได้แล้ว“คุณน้าพี่เลี้ยงก็บอกแล้วว่าพวกเรายังกินกันไม่เสร็จ แต่เธอกลับพูดทำนองว่าถึงหิวก็ไม่ตายหรอกประมาณนี้ค่ะ”เรื่องเลียนแบบคำพูดคำจา ถือเป็นพรสวรรค์ทีเดียวเชียวล่ะอย่างน้อยเจียงรั่วก็สื่อสารสิ่งที่ต้องการออกมาได้ครบถ้วนชัดเจนไม่บกพร่อง แล้วไม่ได้กล่าวหาเถาหลินเกินไปเลยสักคำเถาหลินหน้าซีดเผือด “เส้าชิง นายอย่าเข้าใจฉันผิดนะ ฉันก็แค่เป็นห่วงกลัวว่าพวกลูก ๆ จะกินมากไปแล้วท้องอืด เดิมทีก็กินหวานมากไปไม่ได้อยู่แล้ว ก็เลยให้ชิมนิดหน่อยแค่พอรู้รสชาติให้หายอยากก็พอแล้ว”เจียงเส้าชิงกอดลูกสาวไว้ “รั่วรั่ว ลูกเข้าใจคุณแม่ผิดไปแล้ว คุณแม่จะพูดว่าพวกลูกถึงหิวก็ไม่ตายได้ยังไง”“ใช่จ้ะ แม่รักพวกลูกขนาดนี้ ไปรับไปส่งพวกลูกที่โรงเรียน แล้วยังพาพวกลูกไปกินของอร่อยอีกนะ” เถาหลินเอ่ยเจียงรั่วคิดถึงคำพูดของป้าเฉียนขึ้นมาได้ ก็เถียงเลียนแบบ “ไม่ใช่หน้าที่ของคุณรึไง?”

  • เมื่อคุณลำเอียงไปหารักแรก แม่เลี้ยงคนนี้ก็ขอลาออก   บทที่ 83

    คำตอบนี้เพียงพอจะอธิบายได้แล้วว่า เขาได้ยินมันทั้งหมดแล้วร่างกายของสวีสวี่ยังอ่อนแอ เสียงพูดแผ่วหวิว “ขอโทษนะ เมื่อกี้ฉันแค่…”เว่ยเย่เฉิงหัวเราะเบา ๆ “อืม ฉันรู้”เรื่องนี้ให้พูดยังไงก็น่าอายเกินไป สวีสวี่จึงเอ่ยขึ้นว่า “ถ้าพี่มีงานก็ไปทำงานเถอะ ที่นี่มีคนคอยดูแลอยู่”ก็มีงานต้องทำจริง แต่ว่าในเมื่อออกมาแล้ว ก็ไม่มีเหตุผลให้กลับไปแล้วไม่นานสวี่จิ้นก็กลับเข้ามาพร้อมกับบอดี้การ์ด แล้วยังหิ้วยาบำรุงร่างกายมากมายมาด้วย“พวกเรายังมีธุระ ฉันทิ้งคนให้เธอเรียกใช้ได้ตามสบาย” สวี่จิ้นให้บอดี้การ์ดสองคนของตัวเองอยู่เฝ้าที่นี่“ไม่ต้องหรอกค่ะ ที่ศูนย์พักฟื้นหลังคลอดก็มีคนคอยดูแลอยู่” สวีสวี่พูดขึ้น“อย่าดื้อนักเลย เวลาแบบนี้ขืนไม่ดูแลบำรุงร่างกายให้ดี หลังจากนี้มีเรื่องให้เธอต้องร้องไห้แน่” สวี่จิ้นถลึงตามองเธอสวีสวี่หัวเราะออกมา “ขอบคุณนะคะพี่”“ไปแล้วนะ”เว่ยเย่เฉิงลุกขึ้นยืน ก่อนออกไปก็ไม่ลืมหันกลับมามองเธอ “กินยาให้ตรงเวลาด้วย”สวีสวี่พยักหน้าอย่างว่าง่าย “อืม ๆ”หลังจากออกจากห้องคนของศูนย์พักฟื้นหลังคลอดก็เดินเข้ามาหาสวี่จิ้น “ประธานสวี่คะ พวกเราเก็บพวกรกและสิ่งอื่น ๆ ไปแช่

  • เมื่อคุณลำเอียงไปหารักแรก แม่เลี้ยงคนนี้ก็ขอลาออก   บทที่ 82

    เจียงเส้าชิงถูกดันให้ออกไปข้างนอกแววตาของเขาเย็นชาถึงขีดสุด แถมยังแฝงด้วยความผิดหวังและความดูแคลนอย่างไม่มีสิ้นสุดในที่สุดเธอก็ยอมรับแล้วว่าเธอนอกใจ ทรยศต่อครอบครัวนี้!งั้นก็หมายความว่าทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมานี้ เป็นแค่ข้ออ้างที่เธอคิดจะใช้เพื่อหนีไปจากเขาอย่างนั้นเหรอ?-เพียงครึ่งนาทีถัดมา สวีสวี่ได้ยินเสียงฝีเท้าแว่วดังขึ้นมาอีกครั้ง เธอลืมตาอย่างหงุดหงิด “นี่คุณยังจะ…”เสียงของเธอพลันชะงักไปเป็นเว่ยเย่เฉิงเองเหรอเขาสวมชุดสูทรองเท้าหนัง รูปร่างสูงโปร่งผึ่งผาย บุคลิกเคร่งขรึมและมั่นคงใจเย็น ผมสั้นเรียบแบบนั้นกลับยิ่งขับให้เขาดูเป็นอิสระไม่ยึดติดกับภาพลักษณ์ของผู้มีตำแหน่งสูงส่งแววตาของเว่ยเย่เฉิงนิ่งเรียบ “ทำไมถึงผ่าตัดเร็วนักล่ะ?”สิ้นเสียงนั้น เงาของสวี่จิ้นพลันปรากฏขึ้นมา จากด้านหลังของเขาหัวใจของสวีสวี่สั่นสะท้าน“พี่คะ…”สวี่จิ้นเดินเข้ามาอย่างจนใจ หยุดยืนอยู่ข้างเตียงคนไข้ก่อนจะยื่นมือเข้าไปสวมกอดเธอเอาไว้น้ำตาของสวีสวี่ไหลพรั่งพรูออกมา เธอสะอึกสะอื้นจนไหล่สั่นไปหมด“ไหนว่าจะไม่ร้องไห้ไม่ใช่เหรอ?” สวี่จิ้นถอนหายใจออกมาปล่อยให้เธอร้องไห้

  • เมื่อคุณลำเอียงไปหารักแรก แม่เลี้ยงคนนี้ก็ขอลาออก   บทที่ 81

    ช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา ฉายชัดเจนในห้วงความคิดของเขาตระกูลเจียงจำเป็นต้องมีสวีสวี่เขาเองก็ขาดสวีสวี่ไม่ได้เหมือนกันเซี่ยงเยี่ยนเฉินรีบเข้ามา เห็นเจียงเส้าชิงในสภาพแบบนี้ ก็เอ่ยปากพูดปลอบไม่ออก“เจียงเส้าชิง นายไม่ควรปกป้องเถาหลินซ้ำแล้วซ้ำเล่าแบบนี้เลยนะ ถ้าเปลี่ยนเป็นสวีสวี่บ้าง นายจะรู้สึกยังไงเหรอ?”เจียงเส้าชิงคิดไปถึงเว่ยเย่เฉิงสวีสวี่กับผู้ชายคนนั้นแค่อยู่ในขั้นคลุมเครือ เขาก็รับไม่ได้แล้วเจียงเส้าชิงเงยหน้าขึ้น “ทำไมนายถึงยอมให้เธอทำแท้ง?”“ฉันเข้าไปยุ่งกับการตัดสินใจของเธอไม่ได้หรอก!”เซี่ยงเยี่ยนเฉินหมดคำจะพูดกับเขาจริง ๆ ก่อนจะกล่าวต่อว่า “ตอนนี้ยังไม่สาย ตราบใดที่นายตัดขาดความสัมพันธ์กับเถาหลิน สวีสวี่อาจจะยกโทษให้นายก็ได้นะ เธอรักนายขนาดนั้น ถึงขั้นยอมเป็นแม่เลี้ยงให้ลูก ๆ ของนายด้วยซ้ำ เรื่องนี้ นายปฏิเสธได้เหรอ?”เจียงเส้าชิงเหลือบสายตามองไปยังห้องผ่าตัดหัวใจสั่นไหวระรัวเขาดูเหมือนกำลังหวาดกลัวอยู่จริง ๆ-สวีสวี่พอฟื้นขึ้นมา ก็ค้นพบว่าที่แห่งนี้ไม่ใช่โรงพยาบาลแต่เป็นศูนย์พักฟื้นหลังคลอดลูกของเธอ…ไม่อยู่แล้วสินะ?หัวใจพลันเจ็บแปลบขึ้นมาทันทีไ

  • เมื่อคุณลำเอียงไปหารักแรก แม่เลี้ยงคนนี้ก็ขอลาออก   บทที่ 80

    วันนี้เป็นวันเปิดภาคเรียกของเด็กทั้งสองคน ดังนั้นพวกเขาจึงมีเรียนแค่ครึ่งวันเจียงเส้าชิงอยู่หน้าประตูโรงเรียนรอรับพวกเด็ก ๆ เพื่อออกไปกินข้าวกลางวันด้วยกันเพราะอยู่ใกล้กันมาก เถาหลินจึงได้ยินเสียงร้อนรนจากคนปลายสายที่โทร.เข้ามา เหมือนกำลังพูดถึงเรื่องสวีสวี่อะไรสักอย่างเธอกำมือแน่นเจียงเส้าชิงสีหน้าตระหนก “อยู่ที่นายเหรอ?”“ถูก!”“ช่วยขวางไว้ที! ฉันจะรีบไปเดี๋ยวนี้!”โทรศัพท์ถูกตัดไป หลินเถาเอ่ยขึ้นว่า “เส้าชิง พวกลูก ๆ จะออกมากันแล้วนะ”ทางนี้คือพวกลูก ๆ อีกทางคือสวีสวี่ที่กำลังจะทำแท้ง…ในใจเจียงเส้าชิงสับสนร้อนรุ่มอยู่ไม่เป็นสุขสิบกว่าวินาที ท้ายที่สุดเขาก็ตัดสินใจลงจากรถ “เธอรับพวกเด็ก ๆ ไปกินข้าวแทนที”เขาเลือกสวีสวี่เกิดอะไรขึ้นกับสวีสวี่ ถึงทำให้เขาร้อนใจขนาดนั้นได้?เถาหลินนิ่งไปเล็กน้อยเธอคิดไม่ถึงเลยสักนิด มาถึงขั้นนี้แล้ว เจียงเส้าชิงจะยังใส่ใจสวีสวี่มากขนาดนั้นอีกหรือลูกทั้งสองคนของเธอจะไม่ได้อยู่ในใจของเขาเลยสักนิด?เถาหลินมองเข้าไปในรั้วโรงเรียนด้วยสายตาลุ่มลึกทิ้งให้เธอดูแลเด็กสองคนตามลำพังแบบนี้ มันต้องเหนื่อยขนาดไหนกันนะ?เถาหลินมองว่าลำพังตน

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status