Share

ตอนที่ 7 ทำสัญญาการค้า

last update Terakhir Diperbarui: 2025-01-07 21:00:23

จางซิ่วอิงกลับมาถึงบ้านก็ใกล้เวลาอาหารเย็นเต็มที หญิงสาวเลยเลือกทำบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ได้จากในมิติมาต้มใส่ผักและเนื้อง่าย ๆ เพื่อเพิ่มสารอาหาร ก่อนจะทานจนหมดเกลี้ยงภายในเวลาไม่กี่นาที

ร่างบอบบางอาบน้ำชำระร่างกายด้วยด้วยของใช้ที่นำมาจากในมิติ ซึ่งทำให้ห้องน้ำนั้นหอมฟุ้งไม่ต่างจากกลิ่นกาย

ก่อนนอนไม่ลืมตรวจตราความเรียบร้อยรอบบ้านเช่นเคย ก่อนจะนำเงินที่ขายสินค้าในวันนี้ออกมานับ ซึ่งจำนวนที่ได้ในวันนี้ก็นับว่าเป็นที่น่าพอใจนัก อย่างนี้ความฝันเรื่องบ้านหลังใหม่คงอีกไม่ไกลแล้ว

ในคืนนี้จึงเป็นอีกคืนที่สาวสองในร่างของจางซิ่วอิงหลับไปด้วยความรู้สึกอิ่มอกอิ่มใจ แม้จะเหนื่อยยากลำบากไปสักหน่อยกับการใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ แต่ด้วยหนึ่งสมองและสองมือนี้ลมหนาวจะทำให้ชีวิตของจางซิ่วอิงดีขึ้นให้ได้ ในหัวนั้นวาดฝันอนาคตไปพลาง กระทั่งปิดเปลือกตาลงมุมปากยังคงมีรอยยิ้มเบาบาง

เช้าวันต่อมาจางซิ่วอิงยังคงทำอาหารง่าย ๆ ทาน ก่อนจะออกจากบ้านไปขึ้นเกวียนรอบแรกของวัน โดยไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้างแต่อย่างใด ซึ่งตั้งแต่ขึ้นเกวียนมาเสียงติฉินนินทา และสายตาดูแคลนที่พุ่งมาทางเธออย่างไม่หยุดหย่อนนั้นไม่ได้ทำให้รู้สึกเดือดดาลแต่อย่างใด เธอทำราวกับคนพวกนั้นเป็นอากาศธาตุ ไม่ได้มีค่าให้ใส่ใจแม้แต่น้อย

เมื่อเกวียนจอดที่จุดเดิมจางซิ่วอิงหยิบเงินขึ้นมาจ่ายแล้วเดินเข้าตลาดมืดในทันที หญิงสาวเลือกปูผ้าที่เดียวกับเมื่อวาน จากนั้นจึงเดินไปยังซอกตึกที่ลับตาคนก่อนจะเลือกของต่าง ๆ ออกมาเพื่อเตรียมขาย

วันนี้เธอยังคงเลือกเนื้อหลากหลายส่วนมาวางขายเช่นเดิม ไม่ได้นำผลไม้มาขายแล้วแต่เลือกเป็นนมวัวห้าแกลลอนใหญ่มาแทน

อีกไม่นานก็จะเข้าช่วงฤดูหนาว เธอจึงเลือกเสื้อโค้ดตัวยาวออกมาสิบตัว และเสื้อโค้ดตัวสั้นมาอีกยี่สิบตัว

ก่อนออกจากมิติหางตาดันไปสะดุดเข้ากับกระติกน้ำร้อนลวดลายไม่ได้ทันสมัยมาก เหมาะแก่การขายในยุคนี้ จึงเลือกออกมาอีกสิบอัน นำทั้งหมดใส่กระสอบใบใหญ่และเดินออกจากซอกตึกทำทีเหมือนเดินไปเอาของ

และระหว่างที่หญิงสาวกำลังเรียงของเตรียมขายใกล้จะเสร็จลูกค้ารายแรกของวันก็เดินเข้ามาทันที

“แม่ค้า วันนี้มีเสื้อกันหนาวด้วยหรือ?”หญิงสาววัยยี่สิบปลายถามแม่ค้าสาวร่างผอมบาง ทั้งที่ดูอายุไม่เยอะแต่กลับรู้จักค้าขายโดยไม่มีทีท่าว่าจะเคอะเขิน ทำให้เธอรู้สึกชื่นชมเด็กสาวคนนี้ไม่น้อย

เมื่อวานเธอซื้อเนื้อจากร้านนี้ไปแล้ว ภายนอกมองดูว่าคุณภาพดีแล้ว ทว่าตอนแกะออกแล้วนำไปทำอาหารเธอกลับรู้สึกว่ามันทั้งสะอาดและสดใหม่ จึงตั้งใจว่าวันนี้จะมาซื้อไปทำอาหารอีก ด้วยราคาที่ไม่แพงมากนั้นทำให้วันนี้เธอตั้งใจจะซื้อกลับไปอีกมากทีเดียว

“ใช่ค่ะ เสื้อโค้ดกันหนาวบุนวมอย่างดี กันลมและกันน้ำนะคะ ใส่ลุยหิมะได้สบาย ๆ และที่สำคัญอุ่นมากเลยล่ะค่ะ อากาศใกล้หนาวแล้วพี่สาวคนสวยสนใจรับไว้สักตัวหรือไม่คะ?”แม่ค้าสาวได้ที่ก็คลี่ยิ้มกว้างให้กับลูกค้ารายแรกของวัน ก่อนจะอวดอ้างสรรพคุณสินค้าที่นำมาอย่างลื่นไหล และไม่ลืมกล่าวชมอีกฝ่ายตบท้ายเป็นการเอาใจลูกค้า

“เอาสิ! ราคาเท่าไหร่ล่ะ หากแพงมากฉันคงซื้อไม่ไหวหรอกนะ”การซื้อขายที่ตลาดมืดโดยไม่ต้องใช้คูปองร่วมด้วยถือว่าสะดวกมาก แต่ทว่าราคาของสินค้าที่นี่ก็แพงเอาเรื่องเช่นกัน เธออยากซื้อของพวกนี้เตรียมไว้ก่อน เพราะหากเข้าสู่ฤดูหนาวจริง ๆ เสื้อผ้าเหล่านี้ราคาจะแพงขึ้นถึงสามเท่าตัวเป็นอย่างต่ำ ซึ่งหากรอถึงตอนนั้นราคาคงสูงลิบจนเธอเอื้อมไม่ถึงอย่างแน่นอน

“เสื้อตัวสั้นราคาสามร้อยหยวน ส่วนตัวยาวที่พี่สาวถืออยู่ห้าร้อยหยวนค่ะ พี่สาวคนสวยเลือกดูก่อนได้เลย ฉันมีสินค้าไม่มากนะคะ”จางซิ่วอิงบอกราคาไปด้วยน้ำเสียงแน่วแน่ชัดเจน ก่อนจะกล่าวกระตุ้นความต้องการของผู้ซื้อในตอนท้าย

“ฉันลองสวมดูก่อนได้หรือไม่?”แม้ราคานี้นับว่าไม่ได้แพงอะไรสำหรับไป๋เจียวเหม่ย แต่ก็อยากจะสัมผัสเนื้อผ้าและลองสวมดูสักหน่อย

“ลองดูก่อนได้เลยค่ะ เห็นเป็นลูกค้ารายแรก หากพี่สาวคนสวยซื้อสามตัวขึ้นไปฉันแถมกระติกน้ำร้อนให้หนึ่งอันเลยค่ะ”โปรโมชั่นแรกของวันนี้ถูกจัดขึ้นอย่างไม่คิดมาก จางซิ่วอิงเพียงรู้สึกถูกชะตาเลยอยากให้ก็เท่านั้น เพราะอย่างไรสินค้าเหล่านี้ก็ขายได้อยู่แล้ว อีกอย่างเธอไม่มีต้นทุน ต่อให้ลดแลกแจกแถมหนักขนาดไหนเธอก็ยังถือว่ามีกำไรอยู่ดี

“ฉันเอาแบบสั้นสามตัวนี้ แล้วแบบยาวนี้อีกสามตัว และฉันจะได้กระติกน้ำสองอันถูกต้องหรือไม่?”ไป่เจียวเหม่ยบอกความต้องการ พลางชี้นิ้วไปยังกองผ้าขนาดย่อมที่ตนเองเลือกเอาไว้เมื่อครู่

“ได้ตามนั้นเลยค่ะ ขอบคุณที่อุดหนุนนะคะ”จางซิ่วอิงตอบรับพลางหยิบเสื้อเหล่านั้นขึ้นมาพับให้เรียบร้อย ก่อนจะจัดเรียงใส่ถุงกระดาษที่เธอเตรียมเอาไว้ รวมถึงเนื้ออีกหลายแพ็คที่พี่สาวคนสวยท่านนี้เลือกไว้

ใบหน้าเรียวเล็กฉีกยิ้มกว้างด้วยความดีใจ ก่อนจะส่งมอบสินค้าและรับเงินก้อนใหญ่ของวันนี้มา แสร้งทำทีเป็นเก็บใส่กระเป๋าผ้าคู่ใจทั้งที่ความจริงเงินพวกนี้ได้ลอยหายไปในมิติเป็นที่เรียบร้อยแล้วต่างหาก

หลังจากลูกค้ารายแรกจากไป ผ่านไปเพียงไม่กี่นาทีลูกค้าก็หลั่งไหลเข้ามาที่แผงของจางซิ่วอิงไม่ขาดสาย มีทั้งลูกค้ารายใหม่และรายเก่าจากเมื่อวาน

หญิงสาวร่างผอมบาง ทว่าท่าทางการขายของนั้นกระฉับกระเฉงคล่องแคล่วไม่เบา คำพูดคำจาโต้ตอบกับลูกค้าอย่างฉะฉานไม่มีท่าทีเกรงกลัว เวลาผ่านไปราวชั่วโมงเศษ จากเดิมที่มีของวางเรียงรายจนล้นออกนอกผืนผ้าก็หมดลงจนเหลือเพียงผ้าเปล่า ๆ เท่านั้น

จางซิ่วอิงจึงหยิบผ้าขึ้นมาพับเก็บเข้ากระเป๋าอย่างมีความสุข ก่อนจะเดินออกไปจากตรงนั้น เธอแวะไปยังมุมลับสายตาอีกครั้งหนึ่ง ก่อนจะเลือกของที่จะนำไปให้พี่สาวเยว่วางขายมาถือไว้แล้วเดินตรงไปยังร้านผ้าทันที

“มาแล้วหรือ? นั่งก่อน ๆ”เยว่ผิงอันรีบเดินประกบร่างผอมบางของน้องสาวต่างสายเลือดทันทีที่เห็นเธอปรากฎตัว

“พอดีฉันไปขายของอีกที่เลยมาช้า ขอโทษพี่สาวด้วยนะคะ”เสียงหวานใสกล่าวของโทษอีกฝ่ายพลางก้มหัวเล็กน้อย เพราะวันนี้เธอเลือกขายเสื้อ ลูกค้าที่ซื้อต่างก็ขอลองใส่อยู่หลายคนจึงทำให้ใช้เวลามากกว่าเมื่อวานเล็กน้อย

“ไม่ช้า ๆ ไม่เป็นไรเลย แล้วของที่จะให้พี่ขายคืออะไรเล่า?”เผว่ผิงอันนอนคิดเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้มาตลอดทั้งคืน ก่อนจะปรึกษากับมารดาเมื่อเช้านี้แล้วเห็นตรงกันว่าควรลองดูสักตั้งก็ไม่เสียหาย เช้านี้หญิงสาวจึงค่อนข้างตั้งตารอน้องสาวต่างสายเลือดคนนี้

“ก็เป็นของพวกนี้ค่ะ พี่สาวเยว่คิดว่าพอจะขายได้หรือเปล่าคะ?”น้ำเสียงนุ่มละมุนอ่อนโยนตอบกลับไป จางซิ่วอิงพูดไปอย่างนั้นเองทั้งที่มั่นใจอย่างเต็มเปี่ยมว่ามันจะขายได้ดีอย่างแน่นอน

ก่อนจะหยิบกิ๊บติดผมแบบเป๊าะแป๊ะในโลกอนาคตลวดลายต่าง ๆ ราวห้าสิบคู่ขึ้นมากองบนโต๊ะ รวมถึงกิ๊บขนาดใหญ่ และผ้าผูกผมสีสันลวดลายสวยงามอีกกองหนึ่งและบอกราคาแต่ละอย่างให้อีกฝ่ายรู้

“ฮ๊ายยยย!! นี่มันยิ่งกว่าขายได้เสียอีก”เยว่ผิงอันโบกมือไปมา พลางหยิบกิ๊บคู่หนึ่งขึ้นมา สีสันและลวดลายแปลกตาเช่นนี้เธอไม่เคยเป็นมาก่อน แต่ต้องยอมรับตามตรงว่าสวยมากทีเดียว ทั้งยังแพ็คใส่ห่อมาอย่างดีดูน่าซื้อไม่น้อย หากเป็นเธอเองเธอก็คงซื้อเอาไว้อย่างไม่ต้องคิดให้มากความ

“งั้นเหรอคะ?”ใบหน้าเล็กเรียวแสร้งแสดงสีหน้าแปลกใจ ราวกับสิ่งที่วางตรงหน้าคือสิ่งที่หาได้ทั่วไป

เมื่อมองเห็นโอกาสรอดของร้านมีหรือที่เยว่ผิงอันจะรอช้า ภายในใจนั้นเชื่อเด็กสาวตรงหน้าไปมากกว่าครึ่งแล้ว ว่าจางซิ่วอิงคนนี้และสินค้าที่นำมาจะสามารถแก้วิกฤตของร้านผ้าแห่งนี้ได้อย่างแน่นอน

“พี่ตกลงทำสัญญากับเธอวันนี้เลยแล้วกัน เดี๋ยวพี่จะร่างสัญญาให้เธอเดี๋ยวนี้ล่ะ รอก่อนนะ”พูดเสร็จก็เดินไปยังโต๊ะทำงานอีกมุมหนึ่งที่ห่างออกไปหลายก้าว ก่อนจะค้นหากระดาษอย่างดีและปากกาขึ้นมา

“คะ? ทะ…ทำไมพี่ตัดสินใจเร็วนักล่ะคะ”ดวงตาคู่สวยกระพริบขึ้นลงปริบ ๆ แม้จะเป็นสิ่งที่คาดเดาไว้อยู่แล้ว แต่การได้ทำสัญญากันตั้งแต่ยังไม่เริ่มวางขายสินค้าก็ออกจะเหนือความคาดหมายของจางซิ่วอิงไปสักหน่อย เธอจึงถามขึ้นอย่างนึกแปลกใจ

“พี่บอกตามตรงว่าพี่รู้สึกถูกชะตากับเธอ อีกอย่างของพวกนี้ก็น่าสนใจไม่น้อย ทั้งรูปแบบที่แปลกใหม่ ทั้งสีสันที่ยังไม่มีใครทำแน่นอนในระแวกนี้ หรือเธอไม่อยากร่วมการค้ากับร้านเล็ก ๆ อย่างพี่”

“อย่างนั้นเอาตามที่พี่ว่าเลยค่ะ แหะ ๆ”หญิงสาวยิ้มเจื่อนพลางตอบตกลงในทันที

เมื่อตกลงกันได้แล้วจางซิ่วอิงจึงลงชื่อในสัญญาทั้งสองฉบับ ภายใต้เงื่อนไขเดิมที่คุยกันไว้เมื่อวาน หลังจากนั้นจึงแนะนำวิธีโปรโมทสินค้าให้พี่สาวเยว่ผิงอันอีกด้วย ซึ่งอีกฝ่ายก็ยินดีทำตามที่เธอบอก แม้จะมีคำถามอยู่บ้างแต่พอเธออธิบายพี่สาวเยว่คนนี้ก็รับฟังอย่างตั้งใจ นับว่าเป็นคู่ค้าที่พร้อมเติบโตไม่น้อย

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 65 ชีวิตที่สมบูรณ์แบบ (จบ)

    ภายในบ้านหลังสีขาวขนาดกลางในย่านการค้าสำคัญ เสียงหัวเราะพูดคุยของคนที่อาศัยอยู่ในบ้าน ช่วยทำให้บรรยาของบ้านหลังนี้ดูอบอุ่นไม่น้อยในช่วงเช้าอากาศสดใสจางซิ่วยืนมองหน้าท้องที่เริ่มนูนเล็กน้อยของตนเองผ่านกระจกเงาบานใหญ่ ใบหน้าเอิบอิ่มของคุณแม่ยังสาวนับวันยิ่งสวยขึ้นจนผิดหูผิดตาตอนนี้เธอตั้งครรภ์ได้สี่เดือนแล้ว หลังจากที่เจ้าสองแสบเข้าโรงเรียนได้ไม่นาน สามีอย่างหยางซีห่าวที่ขยันบอกรักภรรยาเป็นทุนเดิมอยู่แล้วก็ขยันมากขึ้นอีกหลายเท่า จนผ่านไปสองเดือนเจ้าหัวผักกาดหัวที่สามก็ถือกำเนิดขึ้นมาในท้องของเธอในที่สุด“ผมต้องไปแล้วครับ คุณก็อย่าหักโหมนะครับ ผมเป็นห่วง”ชายหนุ่มเอ่ยเตือนภรรยาประโยคเดิมเช่นทุกวัน น้ำเสียงนุ่มทุ้มฟังดูอบอุ่น ทั้งแววตาที่มองภรรยานั้นอ่อนโยนกว่าตอนที่อยู่ต่อหน้าผู้ใต้บังคับบัญชาเป็นไหน ๆเพราะภรรยาของเขานั้นขึ้นชื่อเรื่องความขยันขันแข็ง ในแต่ละวันเธอทั้งทำงานนอกบ้าน ทำอาหาร เลี้ยงลูก

  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 64 สะสางความแค้น

    จางซิ่วอิงยังต้องอยู่รักษาตัวที่โรงพยาบาลต่ออีกหนึ่งสัปดาห์ ซึ่งก็ทำให้ลูกน้อยทั้งสองต้องอยู่กับเธอด้วย หยางซีห่าวก็เช่นกัน เขาทำเรื่องลางานถึงหนึ่งเดือนเพื่อมาดูแลภรรยาและลูกน้อยทั้งสองด้วยตนเอง“เด็ก ๆ ป้ามาแล้ววววว!!”เยว่ผิงอันส่งเสียงเรียกหลานทั้งสองก่อนที่ตัวเองจะเข้ามาในห้องเสียอีก เธอเข้ามาเยี่ยมหลาน ๆ พร้อมกับสามีที่ถือของพะรุงพะรังตามหลังมาจางซิ่วอิงยิ้มให้กับคนเห่อหลานทั้งสองเล็กน้อย ก่อนจะให้สามีรับข้าวของเหล่านั้นและนำไปเก็บไว้ก่อน“ผมฝากดูแลเธอและเด็ก ๆ ด้วยนะครับ แล้วผมจะรีบกลับมา”หยางซีห่าวพูดขึ้นอย่างเป็นกังวล วันนี้เขากับพี่ภรรยามีธุระที่ต้องไปสะสางจึงต้องฝากเธอกับลูกไว้กับพี่สะไภ้เสียก่อนจางซิ่วอิงยังไม่หายดีนัก ส่วนลูกทั้งสองแม้จะเป็นเด็กเลี้ยงง่ายแต่การมีคนคอยช่วยเหลือย่อมดีกว่า เขาไม่อยากให้ภรรยาเหนื่อยจนเกินไป“ไปจัดการ

  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 63 พรข้อสุดท้าย

    สายลมวูบหนึ่งพัดผ่านร่างโปร่งแสงไปอย่างแรงจนผมยาวพลิ้วไสวไปตามแรงลม จางซิ่วอิงเผยรอยยิ้มยินดีออกมาในทันที เธอเข้าใจว่าคุณยายรับรู้ความปรารถนาของเธอแล้วจึงเอ่ยพรข้อที่สามออกไป“พรข้อสุดท้ายฉันขอให้ฉันและลูก ๆ ปลอดภัยค่ะ ขอโอกาสให้ฉันได้คลอดพวกเขา ให้พวกเขาได้ออกมาใช้ชีวิตบนโลกอย่างปลอดภัยด้วยนะคะ”คำอ้อนวอนปนเสียงสะอื้นไห้ของหญิงสาวลอยหายไปตามสายลม ก่อนจะได้รับรู้ได้ถึงลมอีกระลอกหนึ่งพัดผ่านร่างของเธอไปอย่างรวดเร็ว สายลมแรงนี้ไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกหนาวเหน็บ แต่ทว่ากลับทำให้รู้สึกถึงความอบอุ่นที่โอบรอบตัวเธอเอาไว้ต่างหาก“พรของหล่อนถูกใช้หมดแล้วนะ ต่อจากนี้ยายขอให้หล่อนมีชีวิตที่ดี”เสียงของหญิงชราดังแว่วอยู่ไกล ๆ จางซิ่วอิงพยายามมองหาเจ้าของเสียงแต่ก็ไม่พบ ทว่าเมื่อมองไปยังหน้าห้องคลอดที่มีร่างของเธอนอนนิ่งอยู่ กลับเห็นเด็กชายหญิงหน้าตาน่ารักยืนยิ้มแฉ่งให้เธออยู่

  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 62 คลอดฉุกเฉิน

    ซ่งเฟยหลงประกาศกร้าวพร้อมยกปืนขึ้นเล็งไปยังผู้ก่อเหตุทั้งหมด อันธพาลสี่คนที่ถูกจ้างมาให้คอยช่วยเหลือหวงไฉ่หง เมื่อเห็นชายในชุดเครื่องแบบทหารพร้อมปืนก็หวาดกลัวจนต้องยกมือขึ้นเหนือหัว ก่อนจะคุกเข่าลงกับพื้นตามคำสั่ง แม้แต่หวงไฉ่หงเองที่เป็นเพียงชาวบ้านชนบทมีหรือจะกล้าขัดขืนพันโทซ่งเฟยหลงย้ายมาประจำการที่นี่ในวันนี้ซึ่งเขาไปรายงานตัววันแรก พอเรียบร้อยแล้วก็เจอเข้ากับลูกน้องเก่าอย่างหยางซีห่าวกำลังออกจากค่ายพอดี เขาจึงขอติดรถออกมาด้วยเพื่อหาบ้านพักชั่วคราว ระหว่างรอทำเรื่องขอบ้านพักสวัสดิการ ซึ่งหยางซีห่าวก็รับปากว่าจะพาไปดูบ้านพัก แต่ขอไปรับภรรยาที่กำลังท้องแก่เสียก่อน แต่เมื่อรถเข้ามาจอดภาพเหตุการณ์อุกฉกรรจ์นี้ก็ทำให้เขาต้องเร่งฝีเท้าวิ่งมาจากรถที่จอดอยู่อีกด้านทว่าจากที่ซ่งเฟยหลงคิดว่าเป็นเหตุการณ์ของชาวบ้านธรรมดาทั่วไปคงไม่ใช่แล้ว เพราะลูกน้องอย่างหยางซีห่าวรีบวิ่งไปประคองหญิงท้องแก่ พร้อมตะโกนเรียกชื่อภรรยาดังลั่น“ซิ่วอิง ภรรยา!”

  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 61 เรื่องราววิ่งเข้าหา

    กาลเวลาหมุนเวียนเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ไม่ทันไรจางซิ่วอิงก็อุ้มท้องเจ้าหัวผักกาดมาได้จนถึงแปดเดือนแล้ว เพราะขนาดท้องที่ใหญ่กว่าปกติของคุณแม่ลูกแฝดทำให้การเดินเหินค่อนข้างเป็นไปอย่างยากลำบากโดยปกติแล้วการมาทำงานของจางซิ่วอิงจะต้องมีพี่ชายหรือสามีอยู่ด้วยเพื่อคอยระมัดระวังหากเกิดเหตุไม่คาดคิด แต่ทว่าเมื่อวานโรงงานผลไม้กระป๋องของเธอที่อยู่ต่างเมืองมีปัญหาพี่ชายอย่างจ้าวคุนจึงรับอาสาไปดูแทนส่วนสามีนั้นติดภารกิจตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งอันที่จริงเขาทำภารกิจนี้เรียบร้อยแล้วตั้งแต่เมื่อวาน แต่ต้องอยู่ต่ออีกนิดเพื่อทำเรื่องลาหยุดงานมาดูแลเธอจนกระทั่งคลอด ซึ่งคนเป็นภรรยาเองก็เข้าใจและไม่ได้เร่งรัดอะไรจากคนเป็นสามี เพราะอย่างไรวันนี้เธอก็ตั้งใจจะมาทำงานวันสุดท้ายอยู่แล้ว ท้องเธอโตมากและใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว การเดินทางไปทำงานคงไม่สะดวกนัก หลังจากนี้จึงตั้งใจว่าจะให้พี่สะไภ้เอางานส่วนของเธอมาให้ที่บ้านแทนจางซิ่วอิงเดินไปยังลานจอดรถโดยมีพี่สะไภ้คอยประคองอย

  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 60 เจ้าหัวผักกาดมาแล้ว

    “ฉุนเหรอคะ?” คำพูดของเจ้านายสาวทำเอาแม่บ้านซุนคิดหนัก หญิงวัยกลางคนขมวดคิ้วเข้าหากันจนเป็นปม พยายามนึกถึงอาหารแต่ล่ะจานว่าเธอทำผิดพลาดที่ตรงไหนกัน มีส่วนผสมอะไรที่ผิดแปลกหรือพิศดารจึงได้ทำให้เจ้านายอาเจียนออกมาจนหมดไส้หมดพุงเช่นนี้“ขอโทษด้วยนะคะ ฉันไม่ได้ว่าอาหารของป้าซุนไม่ดี แต่ว่าฉันได้กลิ่นแล้วรู้สึกเวียนหัวมากจริง ๆ”หญิงสาวกล่าวขอโทษแม่บ้านทั้งน้ำตาคลอหน่วย เธอเห็นแก่ความทุ่มเทของป้าซุนที่พยายามรังสรรอาหารหลากหลายอย่างเพื่อเอาใจเธอ แต่กลิ่นแบบนั้นเธอไม่สามารถทนได้จริง ๆแม่บ้านวัยกลางคนได้รับคำยืนยันเช่นนั้นก็คิดหนัก แต่ก็ทำได้เพียงพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ เห็นทีฝีมือการทำอาหารของเธอคงตกเสียแล้ว พลันวิ่งเข้าไปเตรียมยาดมและยาหอมมาให้กับเจ้านายเพื่อบรรเทาอาการเยว่ผิงอันที่ยืนอยู่ข้างกันกับคู่หมั้นหนุ่มพอฟังอยู่ไม่ไกลนั้นรู้สึกแปลกใจกับน้องสาวขึ้นมาในทันที อาหารบนโต๊ะนั้นแน่นอนว่าล้วนเป็นอาหารอย่างดี ถูกรังสรรขึ้นมาจนหน

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status