LOGINออกจากจวนของหลี่ซูเหยียนแม่ทัพลู่เทียนหรงก็มุ่งหน้าไปโรงเตี๊ยมกลางเมืองหลวงเพื่อทำการบางอย่างให้เสร็จก่อนจะออกเดินทางไปทำธุระสำคัญ
"ทำตามแผน" เขาหันไปบอกคนสนิทเพียงแค่สบตาเป็นอันเข้าใจ ตัดมาทางสายสืบของคุณหนูทั้งสองให้คอยตามส่งข่าวของแม่ทัพลู่เทียนมาบอกว่าตอนนี้แม่ทัพลู่เข้าไปโรงเตี๊ยมหรูของเมืองหลวง ทั้งสองดอกบัวขาวสาวจึงพากันรีบแต่งตัวเพื่อจะไปทำคะแนนให้อยู่ในสายตาของแม่ทัพคนเก่ง ตอนนี้ตัดหลี่ซูเหยียนคู่แข่งไปหนึ่งทำให้นางทั้งสองคนมีความหวังจะเป็นคนพิเศษของท่านแม่ทัพหนุ่มไฟแรง แต่สองสาวนั้นกับกลัวท่านแม่ทัพหลี่ซูหยางเพราะกลิ่นอายรอบตัวน่ากลัวเด็ดขาดทั้งคนสนิทนั้นโหดเหี้ยมมากถ้าท่านแม่ทัพสั่งไม่ชอบอย่าได้หวังจะได้เข้าใกล้ได้ แม้แต่ไป๋อี้หลันจะไปมาหาสู่กับหลี่ซูเหยียนก็ยังไม่กล้าสู้หน้าของแม่ทัพหลี่ซูหยาง แค่มองตานางก็หลบแล้วเพราะกลัวว่าแผนการเข้าหาหลี่ซูเหยียนจะพังแต่กับน้องสาวเขาจะตามใจนางทุกอย่างเพราะรักนางมากจนไม่กล้าขัดใจน้องสาวเลยสักครั้ง แต่เตือนให้ระวังตัวตลอดทำให้ไป๋อี้หลันต้องระวังตัวอย่างมาก ยามนางไปจวนท่านแม่ทัพหลี่ซูหยางถ้าชายหนุ่มยังไม่ไปค่ายทหาร สองสาวได้รับข่าวจากคนของตนเองต่างก็แต่งตัวอย่างสวยงามเพื่อจะพบหน้าท่านแม่ทัพตามข่าว แต่หารู้ไม่ว่าท่านแม่ทัพนั้นได้ออกไปแล้วเพี่อลวงคนคอยส่งข่าวให้สองคุณหนูผู้เป็นอริกับหลี่ซูเหยียน พอลงรถม้าได้สองสาวต่างรีบเข้าโรงเตี๊ยมไปเพื่อจะรอทำให้เหมือนบังเอินมาดื่มน้ำขนมแบบไม่ตั้งใจมาพบท่านแม่ทัพลู่เทียงหลง พอเห็นหน้าคู่ปรับต่างก็เชิดหน้าเมินไปคนละทางแล้วรีบไปโต๊ะใกล้ทางลงจากด้านบนจะมาพบพวกนางพอดี ต่างรอคอยด้วยใจจดจ่ออยากเห็นคนในดวงใจ สั่งขนมน้ำชามาหลายกาก็ไร้วี่แววต่างชะเง้อมองทางลงจากบันไดโรงเตี๊ยมจนคอแทบหักก็ยังไม่มีคนที่ตนรอคอยลงมาจากด้านบนน้ำชาหมดไปสามกา รอแล้วรอเล่าจนตะวันบ่ายค่อย พวกนางยังมีความอดทนและแล้วมีคนเดินขึ้นไปด้านบนโรงเตี๊ยมรูปร่างสูงใหญ่หุ่นเหมือนท่านแม่ทัพลู่เทียนหรง แต่ปิดบังใบหน้าใส่หน้ากากเดินขึ้นไปด้านบน สองสาวคิดว่าท่านแม่ทัพลู่ไปนอกด้านพึ่งจะกลับมาก็รีบลุกขึ้น แล้วค่อยเดินตามขึ้นไปจนถึงชั้นสามแล้วมันเงียบมากมองไปห้องไหนก็ปิดประตูหมด แล้วท่านแม่ทัพอยู่ห้องไหนละนี้ตามมาติดๆยังไม่ทันเลยพอสองคนคิดในใจจบ แต่พอหันมาก็ต้องตกใจแล้วล้มลงหมดสติไป คนใช้ติดตามเจ้านายมาต่างก็สลบไม่มีใครมาช่วยเจ้านายสาวสักคน ตื่นมาอีกทีคนได้แห่มาในห้องตอนคุณหนูทั้งสองกรีดร้องโหยหวนเพราะเปลือยกายนอนกับคุณชายเสเพบุตรชายของเจ้าของโรงเตี๊ยมกับเพื่อนสนิทก๊วนเดียวกัน ผู้คนแตกตื่นกับเสียงร้องของคุณหนูทั้งสองจนวิ่งชนกันออกมาจากในห้องแทบจะไม่ทัน พวกเขาคิดว่าไฟไม้จึงทำให้คนมามุงดูกันเยอะมากจึงทำให้ข่าวดังไปอย่างรวดเร็ว "เจ้าเข้ามานอนกับข้าได้เยี่ยงไรมันเกิดอะไรขึ้นข้าไม่ยอมข้าจะให้ท่านพ่อเอาเรื่องให้ถึงที่สุดเจ้ากล้าล่วงเกินข้าคุณหนูของจวนโยธาฮือ" นางตะโกนเรียกหาสาวใช้เสียงดังลั่น อีกมือหนึ่งจับผ้าห่มคุมกายมองเจ้าคนถ่อยรังแกนางในโรงเตี๊ยม "เอ่อข้าเองก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเหมือนกันจึงมานอนกับคุณหนูปากร้ายไปได้" เสียงของชายหนุ่มพูดขึ้นมาบ้างเพราะโดนถีบตกจากเตียง "คุณหนูเจ้าขาคุณหนูข้าขอโทษข้าไม่รู้ใครตีหัวข้ากับคนขี่รถม้าจนสลบในห้องเก็บของเจ้าค่ะมันเกิดอะไรขึ้นเจ้าคะ" สาวใช้รีบวิ่งเข้าไปช่วยเจ้านายสาวก่อนจะกันคนออกจากห้อง พร้อมคนติดตามข้างกาย ซึ่งคุณหนูทั้งสองต่างก็มีสภาพเดียวกันคิดว่าเจ้าคนเสเพลูกชายของเจ้าของโรงเตี๊ยมวางแผนเล่นงานพวกตน "ข้าจะให้ท่านพ่อมาจัดการให้หมดเลยคอยดู" ไป๋อี้หลันถีบร่างของเจ้าคนถ่อยเพื่อนกินเที่ยวของลูกชายเจ้าของโรงเตี๊ยมแห่งนี้ "ข้าเองก็ไม่รู้ว่ามานอนกับคนสวยปากร้ายอย่างเจ้าได้เยี่ยงไรโอ้ยๆเจ็บ" แถมโดนนางตุบตีจนทนไม่ไหวด่าให้นางกลับไปเช่นเดียวกัน ต่างคนต่างโมโหตะโกนด่ากันไปมาจนสาวใช้ส่วนตัวมาลากออกไปด้วยสภาพดูไม่จืดกันเลยทีเดียว เพราะชายหนุ่มสองคนนั้นเป็นลูกคนมีอันจะกินแต่นิสัยไม่ดีชอบกินชอบเที่ยวสถานบังเทิงกับหอโคมแดงไปวันๆ เพราะมีพ่อแม่รวยจึงเอาแต่ใจไม่ต่างกันกับคุณหนูทั้งสองคนเหมือนกับว่ามุดน้ำมาเจอกันเลย ผู้คนมามุ่งดูต่างพูดกันแล้วหัวเราะไปด้วย กับสภาพดูไม่จืดเลยของสองคู่ชูชื่นในโรงเตี๊ยมดัง แล้วลือกันไปเหมือนไฟลามทุ่งกลบข่าวลือของหลี่ซูเหยียนสนิท ด้านคนสั่งให้จัดการนั่งฟังลูกน้องรายงานจิบน้ำชาในอีกเมืองหนึ่งหลังออกเดินทางมาจากจวนของหลี่ซูเหยียนจึงแกล้งแวะโรงเตี๊ยมให้คุณหนูสองคนติดกับ ให้ทุกข์แก่ท่านทุกข์นั้นถึงตัว อยากมีสามีก็หาให้พวกนางจะได้จบๆไป ไม่มีใครไปทำตัวน่ารำคาญให้ภรรยาตัวน้อยของเขาอีกต่อไป "ทำได้ดีเรื่องงานละสืบไปถึงไหนแล้วได้เรื่องคืบหน้าบ้างหรือเปล่า" เขาหันไปหาคนสนิทออกไปสืบข่าวกันตั้งแต่เช้าพึ่งจะกลับมาเหมือนกันกับตัวของท่านแม่ทัพเอง เขาพึ่งจะอาบน้ำมานั่งรอฟังข่าวในโรงเตี๊ยมทำตัวเป็นพ่อค้าออกไปเล่ขายของ หาข่าวกองกำลังลับของกบฎทุกคนต้องปลอมตัวกันตลอดตอนทำงานด้านนอกนี้คือหอข่าวลับของแม่ทัพลู่เทียนหรงเขาจึงไม่ต้องปลอมตัวในที่ของตัวเอง "เห็นมีคนเข้าออกหมู่บ้านห่างออกไปจากเมืองนี้ถัดไปสามหมู่บ้านมีภูเขาล้อมรอบแต่เหมือนว่าพ่อค้าจะเข้าไปส่งเสบียงทุกอาทิตย์ขอรับท่านแม่ทัพ มีหัวหน้าหมู่บ้านคุมเข้มห้ามคนแปลกหน้าเข้าออกอ้างว่ามีขุนนางจ้างชาวบ้านทำงานเกษตรให้จึงมีคนมาส่งเสบียงให้ตลอด เพราะมีทาสให้ทำงานด้วยเป็นร้อยกว่าคนจึงต้องเข้มงวดไม่อยากให้คนต่างหมู่บ้านหรือพ่อค้าเข้าออก อ้างว่าคนในหมู่บ้านเยอะมากแล้วถ้านับรวมคนของขุนนาง ซึ่งเป็นบิดาของพระสนมมีโอรสคือองค์ชายรองจึงไม่มีคนกล้าเข้ามาวุ่นวายเพราะอำนาจขององค์ชายรองขอรับ" ท่านแม่ทัพ นี้คืองานหนักของท่านแม่ทัพลู่เทียนหรงต้องทำงานให้องค์รัชทายาท พระโอรสของฮองเฮาเพราะจะนั่งบัลลังก์ต่อจากพระบิดาจึงต้องคอยระวังตัวเรื่องของกบฎจะมีแทบทุกสมัยเลย เพราะมีเมียมีลูกเยอะจึงทำให้แก่งแย่งชิงดีกันเพื่อครองบัลลังก์มังกรทำให้พี่น้องต่างมารดาฆ่ากันตายมาเพื่อสิ่งเดียวนี้ แม่ทัพหนุ่มนั่งคุยงงานกับลูกน้องคนสนิทจนดึกวางแผนของการเข้าหมู่บ้านแห่งนั้นไปอีกทางหนึ่ง แต่ต้องอ้อมไปไกลทางด้านหลังจะแยกทีมกันไปสามชุดเมื่อวางแผนจบก็ปาไปเกือบบค่อนคืน ในห้องนอนเขานอนคิดถึงใครบางคนเมื่อคืนยังได้นอนกอดนางทำรักนางไปหลายรอบเขายกยิ้มมุมปาก พอคิดถึงความเร่าร้อนตอนร่วมรักกับนางตอนไม่โดนวางยากำหนัดร่างบอบบางน่ารักซ่อนรูปจนเขาอดใจไม่ไหวกับการใส่ชุดนอนอะไรนั้นของนาง เขายังนำมาด้วยเพราะกลัวนางจะใส่อีกตอนเขาไม่อยู่เมืองหลวง เขาดึงเสื้อมาจากห่อผ้ามายกดูทีละตัว ว่านางไปสรรหามาจากไหน เพราะไม่เคยรู้เรื่องของสาวๆเขาจึงไม่ติดใจสงสัยอะไรว่ามันไม่ใช่เสื้อผ้าของคนในยุคนี้ คืนนี้เขาดมกลิ่นของนางจากเสื้อสายเดี่ยวมันหอมมากจนเขาคิดในใจว่ากลิ่นน้ำหอมชนิดกัน เพราะมันปนกันสองกลิ่น คือกลิ่นของนางเองกับ กลิ่นน้ำยาปรับผ้านุ่มเขาดมแล้วดมอีกจนหลับไป"เหยียนเอ๋อร์น้องตื่นนานหรือยังทานข้าวแล้วหรือพี่จะได้ไปบอกสาวใช้หาอะไรมาให้น้องทาน" เขากอดคนตัวเล็กแล้วยกนางขึ้นนั่งตักกอดหอมด้วยความคิดถึงแม้จะห่างไปไม่นานก็ตาม "อือท่านแม่ทัพอย่าทำตัวรุ่มร่ามสิเจ้าคะอายบ่าวไพร่บ้าง" นางเอามือปิดปากชายหนุ่มเอาไว้ก่อนเขาจะจูบต่อ"ไม่มีคนอยู่บนเรือนนี้หรอกพี่สั่งให้พวกเขาไปพักหมดแล้วนี้คือเรือนหอของเรานะวันนี้คือคืนเข้าหอของเราสองคน ว่าแต่น้องเรียกพี่ผิดนะไม่ใช่ท่านแม่ทัพต้องเรียกว่าท่านพี่ถึงจะถูก" ชายหนุ่มบอกภรรยาตัวน้อยในอ้อมแขนเขาซุกลงซอกคอของนางแทน"พูดใหม่สิน้องหญิง" ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นบอกนางพร้อมทั้งหอมแก้มนวลทั้งสองข้าง "ไม่พูดพี่จูบแล้วนะ"แม่ทัพลู่ขู่นางให้เรียกเขาว่าพี่ให้ได้หลี่ซู่เหยียนเอามือปิดปากเขาไว้ก่อนจะพูด "อย่านะท่านพี่" หึชายหนุ่มหัวเราะเบาๆที่ได้แกล้งนางให้เรียกพี่ได้ "เอาล่ะพี่ไม่แกล้งเหยียนเอ๋อร์แล้วล่ะเรามาคุยกันหน่อยดีไหมว่าสิ่งที่พี่ทำมาทั้งหมดจนถึงวันนี้พี่รักน้องมากนะ ถึงแม้ว่าเราจะเริ่มต้นไม่ดีเลยสักครั้งนับตั้งแต่พี่ได้เจ้าเป็นภรรยาพี่เองก็รู้ใจตัวเองว่ารักน้องหญิงมากจนพี่ไม่อาจขาดน้องไปได้ยิ่งเหยียนเอ๋อร์
และก็ถึงงานแต่งของแม่ทัพลู่เทียนหรงกับคุณหนูหลี่ซูเหยียนจัดขึ้นทำพิธีเช้าในจวนของสองท่านแม่ทัพใหญ่ แต่ไปกินเลี้ยงนั้นเชิญแขกไปบ้านสวนค่าเฟ่มีการแสดงของวงดนตรีจากโรงน้ำชาทั้งคืน แล้วโปรโมทบ้านสวนคาเฟ่ไปด้วยในตัวเลยยิงนกทีเดียวได้สองอย่าง พักบ้านหลังเล็กน่ารักหลายแบบให้เช่าเหมือนโรงเตี๊ยมในเมืองหลวง มีอาหารเครื่องดื่มผลไม้ให้ทานแล้วคิดเป็นรายหัวกินได้ไม่อั้น แต่ห้ามห่อออกต้นกลับบ้านแต่มีบริการขายให้เท่าที่ลูกค้าต้องการซื้อไปฝากคนในจวนของตัวเองได้ไม่จำกัด เล่นเอาลูกค้าของนางจากโรงน้ำชาพากันแห่ไปจองบ้านพักจนเต็ม แถมนางยังใจดีเลี้ยงฟรีงานเลี้ยงตอนค่ำอีกด้วย ผู้คนหลั่งไหลมาก่อนวันงานสำหรับลูกค้ามันคือวันเปิดให้คนเข้าพัก เปิดตัวด้วยความยิ่งใหญ่ มีองค์รัชทายาทมาเป็นประทานในพิธีและค้างคืนในโซนพิเศษสำหรับแขกวีไอพี พี่ชายของนางทำเรือนพักให้พระองค์ไม่ไกลจากเรือนพักสี่หลังท้ายจวนด้านหลังที่ดินของพวกนาง แต่พระองค์เองก็สร้างบ้านพักตากอากาศในที่ดินส่วนพระองค์ใกล้กันกับที่ดินของแม่ทัพหลี่ซูหยางด้วยเช่นเดียวกัน"เหยียนเอ๋อร์เหนื่อยไหมทนเอาหน่อยนะใกล้จะเสร็จพิธีแล้วเราจะออกเดินทางไปบ้านสวนคาเฟ่ของน้องเ
ตอนนี้จึงกลายเป็นว่านางกับครอบครัวเดินทางไปบ้านนาคาเฟ่พร้อมกับครอบครัวของคู่หมั้นเพื่อจะพาบิดาไปพักผ่อนด้วย รวมถึงต้องเตรียมงานแต่งของนางด้วยถ้าถึงวันแต่งงานของนางจริงๆโรงน้ำชาก็ต้องปิดคนงานนั้นจะมาร่วมงานของคุณหนูผู้เป็นที่รักของบ่าวไพร่ของจวนแม่ทัพผู้ชุบชีวิตของทาสจนถูกลือ เพราะนางช่วยมาอีกทั้งหมดลูกเล็กเด็กแดงมาทำงานให้นางที่บ้านสวนคาเฟ่ คือซื้อพวกเขามาแบบยกครอบครัวนางสงสารไม่อยากให้คนพลัดพรากจากกันเหมือนนางต้องห่างจากภพเดิมเพราะตายจากมาแบบทันตั้งตัวขบวนของท่านแม่ทัพใหญ่เดินทางออกจากเมืองหลวงด้วยหลายคันรถม้าและออกเดินทางไปพร้อมกันหลี่ซูเหยียนนั่งในรถพร้อมกับสาวใช้ข้างกายของนาง มีม้าของแม่ทัพลู่เทียนหรงขี่ประกบรถม้าของนางไม่ห่าง หลี่ซูเหยียนได้แต่กรอกตามองบนกับคนคลั่งตามนางแทบจะสิงร่างนาง ถ้าไม่ติดว่าเขาไปทำงานในค่ายทหารกับพี่ชายของ นางถ้าเลิกงานจะเห็นหน้าของเขาตัวลอยเดินนำหน้าพี่ชายของนางทุกวันในโรงน้ำชาเพราะนางต้องไปทำงานทุกวันเช่นเดียวกัน ยิ่งกลางคืนยิ่งคึกคักกลางวันจะมีอาหารของคนทำงาน กับพวกพ่อค้าหรือคนมาพักตามโรงเตี๊ยมแล้วมาตามข่าวลือเรื่องอาหารโรงน้ำชาของนางอร่อย มีเพลงให้ฟั
พอองค์รัชทายาทได้เข้าไปเห็นในบ้านสวนคาเฟ่ของสองพี่น้องถึงขั้นไม่ยอมกลับเมืองหลวงพระองค์ประทับค้างคืนด้วยกันกับแม่ทัพลู่เทียนหรงถึงสามวันทั้งขึ้นเขาหาอาหารป่าได้หมูป่าไก่ป่าแม้แต่กวางป่าลงมาทำอาหารทุกมื้อ ยิ่งได้ทานหมูกะทะของหลี่ซูเหยียนแล้วจนพระองค์ไม่อยากเสด็จกลับวังหลวงจนครบกำหนดวันหยุดของแม่ทัพหลี่ซูหยางกับหลี่ซูเหยียน ทุกคนจึงต้องกลับไปทำหน้าที่ของตัวเองทุกคนมีหน้าที่ต้องทำจึงพากันกลับไปสะสางงานของตัวเอง แต่มีอีกคนคือแม่ทัพลู่เทียนหรงนั้นมีวันหยุดต่อแต่เขากับทำตัวตามติดคู่หมั้นตัวน้อยแทบจะสิงร่างกันกับนางไปแล้วหลี่ซูเหยียนนั้นจะด่าจะว่าอะไรไปชายหนุ่มนั้นไม่สนใจเดินหน้าเกี้ยวนางด้วยความหน้าด้านหน้าทน จนนางขี้เกียจจะด่าก็หยุดไปเองถ้าตัดนิสัยเสียเมื่อตอนเจ้าของร่างเดิมมีชีวิตอยู่เพราะเขาไม่เคยเห็นค่าของนางจึงทำให้นางในร่างใหม่เอาคืนชายหนุ่มกับคืนไปได้เยอะพอสมควรจนพี่ชายของนางบอก"เหยียนเอ๋อร์ให้สงสารแม่ทัพลู่เถอะพี่ว่าเราทำโทษเขาจนพอใจแล้วเลิกอาฆาตแม่ทัพลู่แล้วเปิดใจให้กันทำวันข้างหน้าให้มีความสุขดีกว่าไหมพี่ว่า"เพราะตอนนี้นางได้รับสมรสพระราชทานทำยังไงก็ไม่สามารถขัดราชโองการสวรรค์
วันนี้หลี่ซูเหยียนไม่ได้รีบร้อนตื่นมาแต่เช้านางนอนตื่นสายเพราะอยากพักผ่อนนอนเป็นปลาเค็มสักวันนางจึงไม่ได้รับรู้ว่าตอนนี้ขบวนขององค์รัชทายาทเดินทางมาถึงบ้านสวนคาเฟ่ของนางแล้วรวมถึงขันทีส่วนตัวของฝ่าบาทกำลังมาถึงไล่เรี่ยกัน แม่ทัพลู่เทียนหรงนั้นไม่คิดว่าองค์รัชทายาทจะนำขบวนเสด็จมาถึงแต่เช้าขนาดมากนี้คือยามเฉิน เพราะเมื่อคืนสองแม่ทัพนอนดึกด้วยกันทั้งคู่ตอนนี้กำลังจะพากันทานอาหารมื้อเช้าในศาลาริมแม่น้ำ หลี่ซูเหยียนมาถึงและนั่งหย่อนก้นลงยังไม่ติดพื้นเก้าอี้ดี เสียงคนของแม่ทัพลู่ขี่ม้ามาถึงแล้วรายงานว่า "ท่านแม่ทัพลู่ขอรับ" "ท่านแม่ทัพหลี่ด้วยขอรับตอนนี้ขบวนเสด็จขององค์รัชทายาทมาถึงบ้านสวนคาเฟ่แล้วขอรับ มีขันทีของฝ่าบาทตามขบวนมาด้วยเชิญคุณหนูหลี่ซูเหยียนกับท่านแม่ทัพหลี่ซูหยางออกไปรับราชโอการด่วนขอรับ"!!!"อะไรนะท่านบอกว่าองค์รัชทายาทเสด็จมาเยี่ยงนั้นหรือ " แม่ทัพหลี่ซูหยางรีบถามก่อนจะรีบลุกขึ้นเดินออกไปจากศาลา "เหยียนเอ๋อร์รีบไปรับขบวนเสด็จก่อนแม่ทัพลู่ด้วยไปกันเถอะอย่าให้พระองค์ทรงรอนานเลย"เขารีบเดินไปหาม้าของตัวเองเพื่อจะขี่พาน้องสาวออกไปทางหน้าจวนของบ้านนาคาเฟ่เพราะมันไกลมากคงจ
ตัดมาทางหลี่ซูเหยียนนางไม่ได้รับรู้เลยว่าตอนนี้แม่ทัพลู่นั้นได้ทำการผูกมัดนางเพื่อแสดงความจริงใจว่าเขารักนางมากจนขอไปทูลขอสมรสราชทานยากต่อการหย่าร้างได้ นางนั้นดีใจมากเพราะจะไม่เห็นหน้าของชายหนุ่มกับมื้อค่ำแสนอร่อยกับพี่ใหญ่ของนางสองคน วันนี้จึงมีทั้งไก่ย่างและไก่ใต้น้ำแกงเห็ดป่าใส่ยอดผักหวานอีกเพียงพอต่อทุกคนให้ได้ทานจนอิ่มหนำสำราญกันทุกคนแต่ตอนนี้อีกคนกำลังควบม้ากลับมาให้ทันทานมื้อค่ำกับภรรยาตัวน้อย เหยียนเอ๋อร์พี่จะพิสูนจ์ให้น้องรู้วว่าพี่รักน้องเพียงคนเดียวเป็นฮูหยินของจวนแม่ทัพลู่คนเดียวแล้วและไม่มีวันหย่าร้างจากกันได้ง่ายๆ ป่านนี้นางคงจะกำลังทำอาหารด้วยความสนุกกับคนของนางสินะ พี่กำลังจะกลับไปหาน้องแล้วรอพี่ก่อนนะคนดี เขาคิดคนเดียวก่อนจะรีบควบม้ากลับมาบ้านนาคาเฟ่ของภรรยาสาวตัวน้อย"เหยียนเอ๋อร์มันอร่อยมากเลยพี่ไม่คิดเลยว่าอาหารจากป่านำมาปรุงเป็นอาหารมันจะอร่อยได้มากขนาดนี้" หลี่ซูหยางบอกน้องสาวด้วยรอยยิ้ม"มันยังมีหลายอย่างบนเขานั้นให้พวกเราได้เก็บมากินเยอะแยะมากมายมากเลยละเจ้าค่ะพี่ใหญ่" นางบอกกับพี่ชาย สองพี่น้องนั่งทางอาหารด้วยความอร่อยผ่านไปไม่ถึงเค่อนางต้องหุบยิ้มลง กั







