Share

บทที่11

Author: Zhaojoi
last update Last Updated: 2025-05-13 09:47:17

เพียงขวัญหอบผ้าขี้ริ้วที่ถูพื้นห้องจนสะอาดเรียบร้อยนั่นไปซักแล้วตากผึ่งลม เด็กสาวถอนหายใจเบา ๆ นั่งเท้าคางมองฟ้ากว้างที่เวลานี้มันเต็มไปด้วยดาวบนฟ้า เสียงหัวเราะผ่านลำคอเบา ๆ เธอนึกขำและแปลกใจ บางครั้งดวงดาวที่เธอมองว่ามันงดงาม แค่แหงนหน้ามองฟ้าก็มองเห็นดวงดาวเห็นพระจันทร์แล้ว แต่เปล่าเลย...เรื่องง่ายแค่นี้เราต่างก็หลงลืมอย่างไม่ได้ใส่ใจ ทั้งที่สิ่งสวยงามอยู่ใกล้ตัวเราแท้ ๆ

เสี้ยววินาทีหนึ่ง สมองของเด็กสาวนึกเลยไปไกลถึงแม่ เธอเองก็ไม่ค่อยได้เจอแม่เท่าไรนัก อยากไปหาแต่ก็กลัวว่าแทนที่จะไปเพราะคิดถึงและรักแม่ จะกลายเป็นไปขอเงินเสียมากกว่า ถึงแม่จะไม่ใช่คนดีในสายตาของคนอื่น แต่เพียงขวัญก็รักแม่ของเธอเสมอ ไม่ว่าแม่จะเป็นยังไง แม่ก็คือแม่ของเธอ

เด็กสาวน้ำตาไหลริน แต่เธอเลือกจะแหงนหน้ามองฟ้ากลืนน้ำตาให้กลับไปท่วมที่หัวใจ ไม่อนุญาตให้แม้แต่สายลมหรือดวงดาวเห็นว่าเธอกำลังอ่อนแอ ไม่มีทาง จะไม่ให้ใครทั้งนั้นเห็นว่าเธอเป็นเด็กผู้หญิงขี้แยเด็ดขาด สิ่งเดียวที่เธอรู้สึกว่าแม่ผิดก็คือปล่อยให้เธอเกิดมาบนโลกใบนี้

“ยังไม่นอนอีกเหรอของขวัญ?” เด็กสาวสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงเจ้าของห้องร้องทัก เธอไม่รู้ตัวเลยว่าเขาเดินเข้ามาใกล้เธอได้ถึงขนาดนี้ตั้งแต่ตอนไหน

“เพิ่งถูห้องเสร็จ” เพียงขวัญตอบแล้วหลบสายตาที่จ้องมา

“ขอบใจนะ” บดินทร์ยิ้มอย่างอารมณ์ดี กวาดสายตามองไปรอบ ๆ ห้องซึ่งถูกจัดเป็นระเบียบเรียบร้อยจนเจ้าของเกือบจำห้องตัวเองไม่ได้

“ท่าทางพี่ภาคินจะอารมณ์ดีนะ”

“หน้าพี่มันบอกอย่างนั้นเหรอ?” บดินทร์หัวเราะระรื่นแล้วยกมือขึ้นเสยผมที่ลงมาปรกหน้า

“ผู้หญิงคนนั้นสวยมากเลยนะคะ สวยจนของขวัญเทียบไม่ติดเลย” เพียงขวัญแสร้งพูดขึ้นมาลอย ๆ แต่อีกฝ่ายยิ้มอย่างรู้ทันแล้วโยกหัวของเพียงขวัญเบา ๆ

“พิชญ์นาฏไม่ใช่คนนั้นที่ทำให้พี่ยิ้มซะหน่อย” เขากลับรู้สึกอยากแกล้ง อยากเห็นสีหน้าของอีกฝ่าย เผื่อจะเจอบางสิ่งที่ซ่อนเร้นในใจ

“แต่เธอเป็นแฟนพี่ภาคิน”

เพียงขวัญพูดไม่จบประโยค เพราะสายตาของเขาทำเหมือนกับว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นอดีตไม่ใช่คนรักกัน

“ดีแล้วที่ของขวัญถูห้องให้เรียบร้อยอย่างนี้ พรุ่งนี้นาทจะแวะมาหาที่ห้องพอดี”

บดินทร์ไม่ได้บอกทั้งหมด พูดได้แค่ว่าตอนนี้พิชญ์นาฏเป็นแค่แฟนเก่าเท่านั้น ก็เพิ่งมีโอกาสได้คุยกัน แต่ความคิดเราสวนทางกันคงไปด้วยกันไม่ได้ จบกันน่าจะดีกว่ายื้อไว้ให้เสียเวลาเปล่า

“ก็ดี พรุ่งนี้ของขวัญจะไม่มารบกวนก็แล้วกัน”

เพียงขวัญเอ่ยทำเหมือนไม่ใส่ใจ ทั้งที่ในใจมันตรงกันข้าม เธอเดินสะบัดหน้าหนี ยังก้าวไปได้ไม่กี่ก้าว ร่างของเธอก็ถูกดึงไว้ก่อนด้วยมือแข็งแกร่งของบดินทร์

“มาก็ได้ ทำไมทำหน้าแบบนั้น ไม่ดีใจเหรอที่พี่คนนี้ของของขวัญกำลังมีความสุข?”

“ดีใจ แต่จะดีใจมากกว่าถ้าพี่ภาคินปล่อยแขนของของขวัญเสียที” เพียงขวัญพยายามสะบัดข้อมือออก

แต่บดินทร์กลับนึกสนุกกับท่าทีแสนงอนซื่อใส เขาไม่ยอมปล่อยเธอไปง่าย ๆ และเด็กสาวก็ดิ้นขลุกขลักซ้ำยังทำหน้างออีก เขากำลังจะหัวเราะออกมา แต่แล้วเพียงขวัญก็ออกแรงผลักเขาเต็มแรง มือแกร่งที่จับไว้ไม่ปล่อยรั้งร่างของเด็กสาวทำให้เสียหลักล้มลงทับเขาอย่างไม่ทันตั้งตัว

“ว้าย!!!”

เพียงขวัญร้องเสียงหลง ร่างของเธอทับอยู่บนร่างหนาของบดินทร์ ใบหน้าหวานร้อนผ่าวขึ้นมาทันทีเมื่อรู้ตัวว่าเขาและเธอได้แนบชิดกันขนาดไหน

“โอ๊ย!”

“พี่ภาคินเป็นอะไรหรือเปล่า ให้ตามรถพยาบาลไหมคะ?” เธอยันตัวเองขึ้นจากร่างของเขาแล้วช่วยพยุงให้ลุกขึ้นนั่ง

“ไม่รู้สิ เจ็บที่หลังจัง หลังพี่หักหรือเปล่าก็ไม่รู้” บดินทร์พูดพลางกลั้นหัวเราะ แต่พอเห็นสีหน้าอมทุกข์ของอีกฝ่าย เขาก็ยื่นมือไปลูบศีรษะของเธอเบา ๆ

“เป็นห่วงพี่เหรอ?”

“ก็เป็นห่วงน่ะสิ”

เพียงขวัญสะบัดหน้าหนี แต่แล้วเธอก็ต้องประหลาดใจเมื่อเขาเอื้อมมือมารั้งศีรษะของเธอเอาไว้ แล้วโน้มหน้าเข้ามาประทับริมฝีปากที่หน้าผากของเธอเบา ๆ

มันเป็นวินาทีสั้น ๆ แต่ดูยาวนานในความรู้สึก ดวงตากลมโตเบิกกว้างอย่างตกใจ ริมฝีปากเผยอขึ้นเหมือนจะพูดอะไรออกมาสักอย่าง แต่ก็เปล่งเสียงไม่ออกสักคำ บดินทร์เหมือนถูกสะกดนิ่งอยู่ที่ริมฝีปากช่างเจรจา เขาค่อย ๆ โน้มหน้าเข้าไปใกล้ อยากสัมผัสริมฝีปากนั้นด้วยริมฝีปากของเขา

เขาอยากจูบเธอ!

บดินทร์ชะงักแล้วผงะถอยห่าง แค่วินาทีสั้น ๆ แต่เขาเกือบจะจูบเพียงขวัญเข้าให้แล้ว เขายกมือขึ้นเสยผมอย่างไม่รู้ว่าจะเอามือตัวเองไปไว้ตรงไหน กลัวว่ามันจะไปคว้าเอาคนตรงหน้ามาจูบอย่างที่ใจคิด ทางของขวัญเองก็ทำอะไรไม่ถูก เธอลุกขึ้นยืนแล้วชี้ไปที่ประตูห้อง

“ถ้าพี่ภาคินไม่เป็นอะไรแล้ว ของขวัญขอกลับก่อนนะคะ”

“อืม”

เขาพยักหน้าให้ เพียงขวัญรีบเดินออกไป เขามองจนบานประตูปิดลงแล้วจึงเดินไปล็อกประตู เขายืนพิงบานประตูแล้วครุ่นคิดถึงความรู้สึกของตัวเอง มันเป็นแค่อารมณ์พาไปหรือเพราะเขารู้สึกแบบนั้นจริง ๆ เขาไม่เคยคิดจะหลอกหรือล่อลวงเพียงขวัญเลยสักนิด เธอดีกับเขามากมายเสียจนเขารู้สึกอยากตอบแทนความรู้สึกดี ๆ ที่เธอมีให้ แต่อีกเสี้ยวของหัวใจมันบอกว่าเขารู้สึกกับเธอมากกว่าพี่ชายและน้องสาว ความรู้สึกแบบนั้นมันก่อตัวขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไรกัน

บดินทร์ได้แต่เสยผมยุ่ง ๆ อย่างไม่เข้าใจอาการของหัวใจตัวเองดีนัก แต่แล้วก็นึกถึงใบหน้าสวยของพิชญ์นาฏ สำหรับเขามันชัดเจนแล้วว่าเขากับเธอไม่สามารถไปต่อกันไกลเกินกว่านี้ได้ บดินทร์เดินมายังโต๊ะทำงานอีกครั้ง ที่เวลานี้สะอาดเรียบร้อย หนังสือถูกเก็บเข้าชั้นอย่างเป็นระเบียบ แล้วเขาก็นึกถึงผลงานชิ้นโบว์แดงที่อยู่ในลิ้นชัก อดไม่ได้ที่จะหยิบแผ่นซีดีที่เขาก๊อปงานที่จะนำเสนอในเช้าวันจันทร์ขึ้นมาดู ถ้างานชิ้นนี้ผ่านการพิจารณาจากบริษัท เงินทุนจากญี่ปุ่นนั่นล่ะก็...งานนี้ไม่ใช่แค่ชื่อเสียง แต่หมายถึงจะสามารถไต่เต้าระดับงานของเขาได้ด้วย

“อยากให้ถึงพรุ่งนี้เช้าเร็ว ๆ จัง จัดการเรื่องงานให้จบแล้วจะได้ไม่ต้องเจอนาทอีก” เขาพึมพำกับสายลมยามดึก แล้วใบหน้าของเขาก็ฉาบไปด้วยความสุขเมื่อคิดถึงร่างอ่อนนุ่มและใบหน้าที่แดงจัดของเด็กสาวคนนั้น

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เมื่อไรเฮียคินจะรับรัก   ตอนพิเศษ

    ปีสามต่อมา...“อื้อ...พี่ภาคิน...พอได้แล้ว”เพียงขวัญยกมือขึ้นตีอกบอกกล่าวสามีที่รัก หญิงสาวร่างบางนอนอ้าขาอยู่ใต้อาณัติของชายหนุ่มผู้เป็นสามีของเธอที่กำลังกระแทกแทรกกายใส่เธอตั้งแต่สี่ทุ่มของเมื่อคืน ซึ่งเป็นค่ำคืนของการเข้าหอของเธอและเขา จนถึงตอนนี้จะเช้าของวันใหม่แล้ว สามีสุดที่รักก็ยังไม่ปล่อยให้เธอได้พักหายใจเลยย้อนกลับไปหลังจากเหตุการณ์ทุกอย่างคลี่คลาย บดินทร์ก็ขอเพียงขวัญคบอย่างจริงจัง เขาให้ความซื่อสัตย์และจริงใจกับเด็กสาวที่เขารักมาโดยตลอด ซึ่งเพียงขวัญเองก็เช่นกัน หลังจากที่แม่เคลียร์เรื่องราวทุกอย่างเสร็จก็มารับเธอไปอยู่ด้วยตามที่สัญญาไว้ ซึ่งเธอเองที่โหยหาความรักจากแม่มาตลอดจึงตกลงไปกับท่าน แต่ก็ไม่ลืมมาค้างกับพี่ขิมบ้างเป็นครั้งคราวเธอยังคงเป็นเพียงขวัญคนเดิม เธอยังมาช่วยงานในร้านอาหารของพี่ขิมเสมอ แม้ว่าตอนนี้ขวัญข้าวแม่ของเธอจะเป็นหุ้นส่วนกับพี่ขิมแล้ว และได้เปิดร้านอาหารที่ใหญ่โตตามที่พี่ขิมใฝ่ฝันเอาไว้ตลอดเวลาที่บดินทร์และเพียงขวัญคบหากัน ฝ่ายชายไม่เคยล่วงเกินเธอเลย เขาทะนุถนอมเพียงขวัญที่เขารักมากไว้อย่างดี มากสุดก็แค่นอนจับมือ จูบบ้างตามโอกาสที่เหมาะสมจนกระทั่งผ

  • เมื่อไรเฮียคินจะรับรัก   บทที่19END

    “อย่านะ! อย่าทำอะไรของขวัญ!” บดินทร์พุ่งตัวเข้าใส่ทันทีที่มีโอกาส แต่เสียงปืนดังขึ้นก่อนที่บดินทร์จะเข้าถึงตัวคนตัวใหญ่คนนั้นได้ปัง!“ของขวัญ!”ร่างของเด็กสาวทรุดฮวบลงพร้อมกับเสียงกรี๊ดของพิชญ์นาฏ บดินทร์รีบเข้าไปประคองช้อนร่างที่เต็มไปด้วยคราบเลือดขึ้นมาไว้แนบอก“ของขวัญ” เขาระส่ำระส่าย ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น“ทำไมต้องทำขนาดนี้?”“อยากให้พี่ภาคินรู้ว่าของขวัญไม่ใช่ขโมย”“พอแล้ว ทั้งหมดเป็นความผิดของพี่เอง งานมันไม่มีความหมายอะไรเลย ถ้าไม่มีของขวัญอยู่ด้วยกัน” บดินทร์มองแขนของเพียงขวัญที่ชุ่มโชกไปด้วยหยาดเลือด มือไม้ของเขาสั่นแต่ก็หยิบโทรศัพท์โทรแจ้งตำรวจ แล้วรีบห้ามเลือดด้วยเสื้อเชิ้ตของเขาทันที“คนพวกนั้นหนีไปแล้วนะ” เพียงขวัญเจ็บแต่ก็ยังอยากให้คนโกงถูกลงโทษ“มันก็แค่เกมคอมพิวเตอร์ เราสร้างใหม่เมื่อไหร่ก็ได้ แต่ของขวัญมีคนเดียว พี่เสียใครไปไม่ได้อีกแล้ว”เสียงไซเรนรถตำรวจมายังทางที่ทั้งคู่อยู่ บดินทร์ประคองร่างของเพียงขวัญไว้ไม่ยอมปล่อย“คุณครับ เราจะพาเธอไปโรงพยาบาลนะครับช่วยหลบให้เจ้าหน้าที่ทำงานด้วยครับ” เสียงบุรุษพยาบาลเข้ามาดึงตัวของบดินทร์ให้ออกห่างจากเพียงขวัญ แล้วร่างที่ชุ่มเล

  • เมื่อไรเฮียคินจะรับรัก   บทที่18

    “ต้นไม้...” เพียงขวัญตะโกนเรียกทันทีที่มาถึงร้านซ่อมรถมอเตอร์ไซค์ของต้นไม้ คนถูกเรียกตกใจ มือที่กำลังวุ่นอยู่กับการบันทึกภาพกล้องโทรทัศน์วงจรปิดอยู่ถึงกับชะงัก“มาพอดีเลย มาดูอะไรนี่สิ เรื่องนี้ไม่ใช่ย่อยเลยนะ เล่นโกงกันหน้าด้าน ๆ เลย”เด็กหนุ่มผมสั้นเกรียนเรียกให้เพียงขวัญเข้ามานั่งใกล้ ๆ ดูภาพเคลื่อนไหวตรงหน้า เสียงวุ่นวายในร้านทำให้ฟังไม่ถนัดนัก แต่ถ้อยคำของเพื่อนซี้ทำให้เธอสงบลงทันที“คนเรานี่มันรู้หน้าไม่รู้ใจจริง ๆ เลย สวย ๆ แบบนั้นไม่น่าทำอะไรแบบนี้ได้ ขโมยผลงานของคนอื่นมาเป็นชื่อของตัวเอง” ต้นไม้สรุปจากการดูภาพกล้องวงจรปิด เขาสนิทกับเจ้าของร้านมาก และมากพอที่จะขอสำเนาภาพคืนนั้นที่พิชญ์นาฏมาที่ร้าน เขาได้ยินเรื่องที่พิชญ์นาฏต่อรองราคาซื้อขายเกมคอมพิวเตอร์ที่บดินทร์เป็นคนออกแบบกับผู้ชายที่คลอเคลียอยู่ด้วยกันเขาได้ยินชัด แต่ต้องการหาหลักฐานมายืนยันสิ่งที่ได้ยิน จึงไปขอดูภาพจากกล้องวงจรปิดของร้าน ซึ่งมันบอกทุกอย่างได้ชัดเจนมากกว่าคำพูดของเขา“เพื่อเงินไงต้นไม้ ของขวัญเองก็ไม่เข้าใจว่าสังคมสมัยนี้เป็นยังไง” เด็กสาวบ่นพึมพำ“แล้วของขวัญจะทำยังไง?”“พี่ภาคินเขาคงไม่เชื่อว่าแฟนตัวเอง

  • เมื่อไรเฮียคินจะรับรัก   บทที่17

    วันจันทร์ที่แสนสดใส แม้ตามถนนจะยังมีน้ำนองอยู่บางที่ แต่ท้องฟ้าก็สดใส เช้านี้เพียงขวัญรู้สึกมึน ๆ หัวนิดหน่อย แต่ก็รีบวิ่งมาที่ห้องของบดินทร์เหมือนเช่นทุกวัน ทว่าก็ยังช้ากว่าที่เจ้าของห้องออกไปแล้ว แต่เธอก็ไม่ได้มีปัญหากับการเข้าห้องของเขามากนักเพราะเขาให้กุญแจสำรองไว้ เธอนั่งอ่านหนังสือ เล่นเกมคอม และทำความสะอาดให้เจ้าของห้องด้วยเช่นเคย“ของขวัญ”เสียงเรียกชื่อของเธอดังขึ้นจนคนที่เผลอหลับอยู่ที่โซฟาสะดุ้งตื่น เธออยากจะยิ้มให้เหมือนทุกครั้ง แต่เมื่อเห็นสีหน้าที่ดูโมโหโกรธเคืองใครมาจ้องเขม็งที่ตัวเธอ เพียงขวัญก็ทำได้เพียงแค่นิ่งเงียบราวกับเป็นใบ้“ของขวัญขโมยตัวเก็บข้อมูลงานของพี่ไปใช่ไหม?”“พี่ภาคินพูดอะไร ของขวัญไม่รู้เรื่องนะคะ พี่ภาคินพูดอะไรน่ะ?” เด็กสาวส่ายหน้าสั่นระริก ผมยาวที่คลอเคลียไหล่สะบัดไปมา“วันก่อนที่พี่กลับมาพี่เห็นของขวัญเพิ่งลงมาจากชั้นบนของห้องพี่ แล้วรีบออกไปไหนกับผู้ชายคนนั้น” น้ำเสียงเกือบจะตะคอกพร้อมกับใบหน้าที่ชะโงกเข้ามาถาม ราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ“ผู้ชายคนไหน?”“ก็นายต้นไม้อะไรนั่นไงล่ะ”“ไม่ใช่นะ ที่ของขวัญไปกับต้นไม้เพราะวันนั้นของขวัญต้องรีบไปสน. ไปดูพ่อ”

  • เมื่อไรเฮียคินจะรับรัก   บทที่16

    ขวัญข้าวมองลูกสาวที่ตัวเองแทบไม่ได้เลี้ยงแล้วก็ยิ้มภูมิใจ เธอจำใจต้องทำตัวโหดร้ายไม่รักลูกสาวทั้งที่เธอรักเพียงขวัญมาก แค่เพราะเธอกลัวว่าเพียงขวัญจะต้องมาใช้ชีวิตเหมือนเธอ เธอก้าวพลาดตั้งแต่วัยรุ่น ตั้งท้องกับผู้ชายที่เธอไม่รู้จักชื่อเลยด้วยซ้ำ ยิ่งพอลูกคลอดมาแล้วรู้ว่าเป็นผู้หญิง ขวัญข้าวยิ่งกลัวว่าลูกจะต้องเจอเหมือนเธอจึงให้ญาติช่วยเลี้ยง แต่ก็มารู้ทีหลังว่าเงินที่ส่งไปให้เป็นค่ากินค่าใช้จ่ายนั้นแทบไม่ได้ถึงตัวของลูกสาวเธอเลยด้วยซ้ำ เพราะพวกเขาก็เอาเงินหรือนมที่เธอส่งมาไปให้ลูกหลานของตัวเองกินเพียงขวัญจึงเติบโตมาแบบอด ๆ อยาก ๆ จนเธอตัดสินใจพาเพียงขวัญมาอยู่ด้วย แต่ก็ดันเจอพ่อเลี้ยงลวนลาม เธอไม่กล้าเอาเรื่องกับแฟนใหม่เพราะยังต้องพึ่งพาเขา แต่จะให้อยู่แบบนั้นก็ไม่ได้ ขิมจึงเป็นทางออกเดียวของเธอในตอนนั้น ถ้าไม่มีขิมเธอก็ไม่รู้ว่าเพียงขวัญจะโตมาเป็นอย่างไร จะหนีพ้นวงจรแบบเดียวกันกับเธอได้หรือไม่ แต่ตอนนี้ขวัญข้าวมั่นใจว่าลูกสาวของเธอจะมีรอยเท้าของตัวเอง ไม่โสมมอย่างที่เธอเคยก้าวพลาดมาขิมรับหน้าที่ดูแลจัดการทุกอย่างให้กับเพียงขวัญและนัดทุกคนกลับไปเลี้ยงฉลองที่ร้าน แต่ขวัญข้าวขอตัวไปจัด

  • เมื่อไรเฮียคินจะรับรัก   บทที่15

    เช้าวันอาทิตย์ที่แสนธรรมดามาถึง ปกติร้านของขิมจะหยุดแค่วันที่ 1 และวันที่ 16 ของทุกเดือนไม่ว่าจะตรงกับวันอะไรก็ตาม แต่วันนี้ขิมปิดร้านเตรียมตัวพาเพียงขวัญที่ถูกจับแต่งองค์ทรงเครื่องไปประกวดร้องเพลงเพียงขวัญในชุดกระโปรงน่ารัก รองเท้าบูตส์สีน้ำตาล เธอดูสวยและโดดเด่นกว่าใครทั้งหมด จะดีกว่านี้ถ้าใบหน้าแบบลูกครึ่งของเพียงขวัญมีรอยยิ้มแบบมั่นใจ ไม่ใช่รอยยิ้มแหย ๆ อย่างที่เป็นอยู่นี่“พี่ล่ะอ่อนใจกับแกจริง ๆ เลยยัยของขวัญ”“โถ่...พี่ขิม ก็ของขวัญอายนี่คะ”“จะอายอะไรเล่า เราไม่ได้ไปทำอะไรเลวร้ายเสียหน่อย” ขิมอยากจะโดดขึ้นเวทีเสียเอง แต่ที่ขึ้นไม่ได้เพราะเธอเสียงไม่ดีน่ะสิ ถ้าแค่ลิปซิงค์แล้วเต้นโชว์ก็ยังพอไหว“ไม่ต้องคิดเรื่องอื่นหรอก คิดแค่ว่าเราทำแล้วมีความสุขก็พอ พี่ไม่ได้อยากให้ของขวัญไปเอารางวัลอะไร แต่อยากให้ของขวัญเป็นตัวของตัวเอง”“ถ้าของขวัญไม่ได้รางวัลก็ไม่เป็นไรใช่ไหมคะ?” เด็กสาวถามย้ำอีกครั้ง“แน่นอน พี่ขอให้ของขวัญทำเต็มที่ก็พอ เลิกเดินหลังค่อมได้แล้ว เชิดหน้ามองโอกาสตรงหน้าดีกว่ามาโทษชะตาที่เราลิขิตเองไม่ได้”“ขอบคุณค่ะพี่ขิม”“เอาให้สนุกเลยนะ พี่จะรอเชียร์อยู่ข้างล่าง”“เต็มที่

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status