LOGINคนที่ผิดหวังจากความรักอย่างเขาปากบอกว่าจะไม่รักใครอีกแล้ว แต่กลับตกหลุมรักยัยเด็กส่งข้าวร้านอาหารหน้าตาบ้านๆเนี่ยนะ ไม่เห็นจะน่าสนใจตรงไหน
View Moreก๊อกๆ ก๊อกๆ!!
เสียงเคาะประตูดังขึ้นกลางดึก เจ้าของห้องชายหนุ่มหน้าตาดีตัดผมสั้นรองทรงเรียบร้อย เงยหน้าขึ้นจากกองเอกสารมากมายตรงหน้า มือหนาขยับแว่นสายตากรอบบางสีเงินวาว ก่อนจะหันไปมองดูนาฬิกาที่ตั้งอยู่บนโต๊ะมุมหนึ่งของห้อง หน้าปัดนาฬิกาชี้บอกเวลากว่าเที่ยงคืนเลยเข้าสู่วันเสาร์สุดท้ายของเดือน
บดินทร์ ลุกขึ้นขยับร่างกายบิดไปมาแก้เมื่อยขบ หลังจากนั่งจ้องอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์และกองเอกสารมากมายตรงหน้าอยู่นานหลายชั่วโมงเขาต้องเคลียร์ให้ทันก่อนวันจันทร์ที่จะถึงนี้ ชายหนุ่มวัยยี่สิบหกปีเศษลุกขึ้นจากเก้าอี้ตัวโปรดเดินย่ำเท้าไปเปิดประตูห้องพักอย่างไม่รีบร้อน โดยไม่สนใจเสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นรัวๆ แม้แต่น้อย
มือเรียวเล็กยกค้างกลางอากาศเมื่อบานประตูเปิดออก เด็กสาวผมสั้นประบ่าฉีกยิ้มเจื่อนๆ ให้เจ้าของห้องมือข้างหนึ่งถือถุงใส่กล่องอาหาร เธอไม่รู้จะทำตัวยังไงเพราะรู้ว่าตัวเองมารบกวนเวลาคนในห้องยามดึก แต่เด็กสาวเพียงแค่ทำตามคำสั่งของญาติผู้พี่
“พี่ขิมให้เอาขนมมาให้ค่ะ”
“อ๋อ...เข้ามาสิ”
ดวงตาคมของบดินทร์มองดูเด็กรุ่นน้องตรงหน้าที่อ่อนกว่าถึงหกปีด้วยความเคยชิน เธอทักทายทันทีที่เห็นเจ้าของห้องเปิดประตูออก บดินทร์เบี่ยงตัวหลบให้คนตัวเล็กเข้ามาในห้องโดยไม่ต้องเอ่ยปากบอกซ้ำ
“งานยุ่งมากเหรอคะ อย่าโหมงานจนเกินตัวนะคะ แล้วนี่กินอะไรหรือยัง?”
เพียงขวัญ เด็กสาวเจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลแดง ดวงตากลมโตน้ำตาลหม่นเมื่อสบตาเหมือนถูกมนต์สะกด ปากกระจับเล็กที่ตั้งแต่เข้าห้องบดินทร์มายังพูดจ้อไม่หยุด แต่นั้นก็ไม่ได้ทำให้เจ้าของห้องอย่างเขารำคาญเลยมีแต่จะเอ็นดูเด็กสาวตรงหน้าเสียมากกว่า
“พี่ขิมเป็นห่วง เห็นวันนี้พี่ภาคินไม่สั่งอะไรมากินเลยทั้งวัน พี่ขิมเลยจัดซาลาเปาให้มาส่งพี่เผื่อจะเอาไว้กินกับกาแฟรอบดึกค่ะ”
“วางไว้ตรงนั้นก็ได้”
มือหนาชี้นิ้วไปที่โต๊ะเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ใกล้กับประตูที่สามารถเดินออกไประเบียงนอกห้องได้
เพียงขวัญทำตามที่บดินทร์สั่ง มือเล็กเปิดฝากล่องออกเผยให้เห็นซาลาเปาอ้วนกลมน่ารับประทานอยู่หกลูกกลิ่นหอมแป้งลอยโชยทั่วบริเวณนั้น บดินทร์เก็บเอกสารบางส่วนเข้าแฟ้ม ก่อนจะหยิบถ้วยกาแฟที่ชงไว้ แล้วเดินมานั่งเก้าอี้ที่บนโต๊ะมีซาลาเปาแสนน่ากินวางไว้อยู่
“เธอไม่มากินด้วยกันเหรอ?”
บดินทร์เอ่ยถาม เด็กสาวที่เป็นเหมือนเพื่อนต่างวัยตอนนี้ดูเหมือนเจ้าตัวจะกำลังสนใจหนังสือนิตยสารจากต่างประเทศที่เขาเอามาอ่านหารายละเอียดเกี่ยวกับการทำงานของเขา เพื่อใช้เป็นส่วนประกอบในการเสนองานของเช้าวันจันทร์นี้
“ไม่ล่ะค่ะ พี่ขิมแค่ให้ขวัญมาดูว่าพี่ภาคินยังหายใจอยู่หรือเปล่า” น้ำเสียงแหบแห้งเหมือนคนเป็นหวัดพูด โดยที่สายตายังจดจ่อกับเนื้อหาในหนังสือบนมือตน
“ขอบใจมากนะของขวัญ” บดินทร์เอ่ยบอกเบาๆ คล้ายรำพึงอยู่คนเดียว
คนถูกเรียกหันมามองตามเสียงนิดหน่อย แต่เมื่อเห็นอีกฝ่ายยังเพลิดเพลินกับการกินและไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาอีก เธอจึงหันกลับมาสนใจหนังสือจากต่างประเทศที่ตัวเองนั้นก็อ่านไม่ออกแต่ก็ยังพยายามอ่านมันต่อแก้เบื่อ ส่วนเจ้าของห้องนั่งกินซาลาเปาอยู่เงียบๆ โดยที่สายตานั้นยังคงมองเพียงขวัญเป็นระยะ
เด็กสาวที่แต่งตัวเหมือนผู้ชายนั่งอ่านหนังสืออยู่กับพื้นห้อง เสื้อผ้าสีสดตัวใหญ่ทำให้เขานึกถึงเด็กแร็ปเปอร์และฮิปฮอป ถึงแม้ลักษณะการแต่งตัวแบบนี้จะเป็นสไตล์ของเพียงขวัญและเขาเองก็คุ้นชิน แต่บางครั้งเขาก็นึกอยากจับทอมบอยมาแต่งสวยดูบ้าง
อยากรู้นักว่าคนห้าวๆ แบบเพียงขวัญเวลาถูกจับแต่งหน้าใส่กระโปรงจะสวยแค่ไหน
ปีสามต่อมา...“อื้อ...พี่ภาคิน...พอได้แล้ว”เพียงขวัญยกมือขึ้นตีอกบอกกล่าวสามีที่รัก หญิงสาวร่างบางนอนอ้าขาอยู่ใต้อาณัติของชายหนุ่มผู้เป็นสามีของเธอที่กำลังกระแทกแทรกกายใส่เธอตั้งแต่สี่ทุ่มของเมื่อคืน ซึ่งเป็นค่ำคืนของการเข้าหอของเธอและเขา จนถึงตอนนี้จะเช้าของวันใหม่แล้ว สามีสุดที่รักก็ยังไม่ปล่อยให้เธอได้พักหายใจเลยย้อนกลับไปหลังจากเหตุการณ์ทุกอย่างคลี่คลาย บดินทร์ก็ขอเพียงขวัญคบอย่างจริงจัง เขาให้ความซื่อสัตย์และจริงใจกับเด็กสาวที่เขารักมาโดยตลอด ซึ่งเพียงขวัญเองก็เช่นกัน หลังจากที่แม่เคลียร์เรื่องราวทุกอย่างเสร็จก็มารับเธอไปอยู่ด้วยตามที่สัญญาไว้ ซึ่งเธอเองที่โหยหาความรักจากแม่มาตลอดจึงตกลงไปกับท่าน แต่ก็ไม่ลืมมาค้างกับพี่ขิมบ้างเป็นครั้งคราวเธอยังคงเป็นเพียงขวัญคนเดิม เธอยังมาช่วยงานในร้านอาหารของพี่ขิมเสมอ แม้ว่าตอนนี้ขวัญข้าวแม่ของเธอจะเป็นหุ้นส่วนกับพี่ขิมแล้ว และได้เปิดร้านอาหารที่ใหญ่โตตามที่พี่ขิมใฝ่ฝันเอาไว้ตลอดเวลาที่บดินทร์และเพียงขวัญคบหากัน ฝ่ายชายไม่เคยล่วงเกินเธอเลย เขาทะนุถนอมเพียงขวัญที่เขารักมากไว้อย่างดี มากสุดก็แค่นอนจับมือ จูบบ้างตามโอกาสที่เหมาะสมจนกระทั่งผ
“อย่านะ! อย่าทำอะไรของขวัญ!” บดินทร์พุ่งตัวเข้าใส่ทันทีที่มีโอกาส แต่เสียงปืนดังขึ้นก่อนที่บดินทร์จะเข้าถึงตัวคนตัวใหญ่คนนั้นได้ปัง!“ของขวัญ!”ร่างของเด็กสาวทรุดฮวบลงพร้อมกับเสียงกรี๊ดของพิชญ์นาฏ บดินทร์รีบเข้าไปประคองช้อนร่างที่เต็มไปด้วยคราบเลือดขึ้นมาไว้แนบอก“ของขวัญ” เขาระส่ำระส่าย ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น“ทำไมต้องทำขนาดนี้?”“อยากให้พี่ภาคินรู้ว่าของขวัญไม่ใช่ขโมย”“พอแล้ว ทั้งหมดเป็นความผิดของพี่เอง งานมันไม่มีความหมายอะไรเลย ถ้าไม่มีของขวัญอยู่ด้วยกัน” บดินทร์มองแขนของเพียงขวัญที่ชุ่มโชกไปด้วยหยาดเลือด มือไม้ของเขาสั่นแต่ก็หยิบโทรศัพท์โทรแจ้งตำรวจ แล้วรีบห้ามเลือดด้วยเสื้อเชิ้ตของเขาทันที“คนพวกนั้นหนีไปแล้วนะ” เพียงขวัญเจ็บแต่ก็ยังอยากให้คนโกงถูกลงโทษ“มันก็แค่เกมคอมพิวเตอร์ เราสร้างใหม่เมื่อไหร่ก็ได้ แต่ของขวัญมีคนเดียว พี่เสียใครไปไม่ได้อีกแล้ว”เสียงไซเรนรถตำรวจมายังทางที่ทั้งคู่อยู่ บดินทร์ประคองร่างของเพียงขวัญไว้ไม่ยอมปล่อย“คุณครับ เราจะพาเธอไปโรงพยาบาลนะครับช่วยหลบให้เจ้าหน้าที่ทำงานด้วยครับ” เสียงบุรุษพยาบาลเข้ามาดึงตัวของบดินทร์ให้ออกห่างจากเพียงขวัญ แล้วร่างที่ชุ่มเล
“ต้นไม้...” เพียงขวัญตะโกนเรียกทันทีที่มาถึงร้านซ่อมรถมอเตอร์ไซค์ของต้นไม้ คนถูกเรียกตกใจ มือที่กำลังวุ่นอยู่กับการบันทึกภาพกล้องโทรทัศน์วงจรปิดอยู่ถึงกับชะงัก“มาพอดีเลย มาดูอะไรนี่สิ เรื่องนี้ไม่ใช่ย่อยเลยนะ เล่นโกงกันหน้าด้าน ๆ เลย”เด็กหนุ่มผมสั้นเกรียนเรียกให้เพียงขวัญเข้ามานั่งใกล้ ๆ ดูภาพเคลื่อนไหวตรงหน้า เสียงวุ่นวายในร้านทำให้ฟังไม่ถนัดนัก แต่ถ้อยคำของเพื่อนซี้ทำให้เธอสงบลงทันที“คนเรานี่มันรู้หน้าไม่รู้ใจจริง ๆ เลย สวย ๆ แบบนั้นไม่น่าทำอะไรแบบนี้ได้ ขโมยผลงานของคนอื่นมาเป็นชื่อของตัวเอง” ต้นไม้สรุปจากการดูภาพกล้องวงจรปิด เขาสนิทกับเจ้าของร้านมาก และมากพอที่จะขอสำเนาภาพคืนนั้นที่พิชญ์นาฏมาที่ร้าน เขาได้ยินเรื่องที่พิชญ์นาฏต่อรองราคาซื้อขายเกมคอมพิวเตอร์ที่บดินทร์เป็นคนออกแบบกับผู้ชายที่คลอเคลียอยู่ด้วยกันเขาได้ยินชัด แต่ต้องการหาหลักฐานมายืนยันสิ่งที่ได้ยิน จึงไปขอดูภาพจากกล้องวงจรปิดของร้าน ซึ่งมันบอกทุกอย่างได้ชัดเจนมากกว่าคำพูดของเขา“เพื่อเงินไงต้นไม้ ของขวัญเองก็ไม่เข้าใจว่าสังคมสมัยนี้เป็นยังไง” เด็กสาวบ่นพึมพำ“แล้วของขวัญจะทำยังไง?”“พี่ภาคินเขาคงไม่เชื่อว่าแฟนตัวเอง
วันจันทร์ที่แสนสดใส แม้ตามถนนจะยังมีน้ำนองอยู่บางที่ แต่ท้องฟ้าก็สดใส เช้านี้เพียงขวัญรู้สึกมึน ๆ หัวนิดหน่อย แต่ก็รีบวิ่งมาที่ห้องของบดินทร์เหมือนเช่นทุกวัน ทว่าก็ยังช้ากว่าที่เจ้าของห้องออกไปแล้ว แต่เธอก็ไม่ได้มีปัญหากับการเข้าห้องของเขามากนักเพราะเขาให้กุญแจสำรองไว้ เธอนั่งอ่านหนังสือ เล่นเกมคอม และทำความสะอาดให้เจ้าของห้องด้วยเช่นเคย“ของขวัญ”เสียงเรียกชื่อของเธอดังขึ้นจนคนที่เผลอหลับอยู่ที่โซฟาสะดุ้งตื่น เธออยากจะยิ้มให้เหมือนทุกครั้ง แต่เมื่อเห็นสีหน้าที่ดูโมโหโกรธเคืองใครมาจ้องเขม็งที่ตัวเธอ เพียงขวัญก็ทำได้เพียงแค่นิ่งเงียบราวกับเป็นใบ้“ของขวัญขโมยตัวเก็บข้อมูลงานของพี่ไปใช่ไหม?”“พี่ภาคินพูดอะไร ของขวัญไม่รู้เรื่องนะคะ พี่ภาคินพูดอะไรน่ะ?” เด็กสาวส่ายหน้าสั่นระริก ผมยาวที่คลอเคลียไหล่สะบัดไปมา“วันก่อนที่พี่กลับมาพี่เห็นของขวัญเพิ่งลงมาจากชั้นบนของห้องพี่ แล้วรีบออกไปไหนกับผู้ชายคนนั้น” น้ำเสียงเกือบจะตะคอกพร้อมกับใบหน้าที่ชะโงกเข้ามาถาม ราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ“ผู้ชายคนไหน?”“ก็นายต้นไม้อะไรนั่นไงล่ะ”“ไม่ใช่นะ ที่ของขวัญไปกับต้นไม้เพราะวันนั้นของขวัญต้องรีบไปสน. ไปดูพ่อ”