Share

บทที่4

Author: Zhaojoi
last update Last Updated: 2025-03-01 21:42:07

หลายเดือนก่อนหน้านี้บดินทร์ใช้ชีวิตสุขสบายอยู่ในคอนโดหรูราคาแพงใจกลางกรุง เขาทำงานในด้านคอมพิวเตอร์เป็นนักพัฒนาโปรแกรม บดินทร์มีหญิงสาวที่คบหากันปีเศษๆ ที่ชื่อว่าพิชญ์นาฏ เธอเป็นน้องสาวของเพื่อนร่วมงานในบริษัท เขาเจอเธอที่งานเลี้ยงของบริษัทโดยบังเอิญ ปกติบดินทร์เป็นคนค่อนข้างเข้ากับคนอื่นได้ยากเพราะคุยกับใครไม่ค่อยเก่ง พิชญ์นาฏเป็นฝ่ายเข้ามาชวนเขาคุยก่อนเธอเป็นคนยิ้มง่ายและหัวเราะง่ายทำอะไรก็ดูสดใสไปหมด แต่เธอไม่เคยหัวเราะเยาะเวลาที่เขาทำอะไรเปิ่นๆ ทำให้เขาชอบเธอได้ไม่ยาก

รู้จักกันสามสี่เดือนเขาจึงลองขอเธอเป็นแฟน และพิชญ์นาฏก็ตอบตกลง งานของเขามักจะขลุกอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ตลอดเวลาบางครั้งงานก็ติดพันจนไม่อยากขยับตัวลุกไปไหนไม่มีเวลาให้อีกฝ่ายพิชญ์นาฏดูเหมือนจะเข้าใจและยอมรับในข้อนี้ได้ เมื่อถึงวันหยุดของเขาบดินทร์จึงชดเชยด้วยการพาเธอไปทานข้าว ดูหนัง หรือช้อปปิ้งตามแต่เธอต้องการ หรือซื้อกระเป๋าหรือรองเท้าเป็นการขอโทษที่เขาไม่ค่อยมีเวลาให้เธอมากนัก

มันควรจะเป็นความรักที่ดีงาม เป็นคู่รักที่น่าจะพัฒนาไปถึงการใช้ชีวิตคู่ด้วยกันได้ หากไม่เป็นเพราะเขาไปร่วมงานเปิดตัวสินค้าของรุ่นน้องที่มหาวิทยาลัยโดยไม่ได้บอกพิชญ์นาฏ ทว่าเขากลับบังเอิญพบเธอที่งานนั่น เธอหัวเราะอย่างร่าเริงดูมีความสุขอีกทั้งยังดูสนิทสนมกับผู้ชายคนหนึ่ง ปกติบดินทร์ไม่ใช่ผู้ชายที่นิยมความรุนแรง หรือหึงหวงเขาต้องการรู้เหตุผลของการที่หญิงสาวมาอยู่ในงานนี้โดยการโกหกเขาและนั่นทำให้เขาคุมอารมณ์ไม่อยู่เดินไปแสดงตัวต่อหน้าพิชญ์นาฏ

“อ้าว...พี่ภาคินมางานนี้ด้วยเหรอคะ?” พิชญ์นาฏร้องทักด้วยสีหน้าตื่นเต้น แต่ดูไม่ตกใจอะไรนัก

“นาทก็มาด้วยหรือครับ?”

“พี่ชายของนาทชวนมาค่ะ” เธออ้างพี่ชายของเธอเสมอ

“ครับ”

บดินทร์พูดอะไรไม่ออก เขาแทบไม่เคยออกงานหรือไปไหนกับพิชญ์นาฏในงานลักษณะนี้ ถ้าไปไหนด้วยกันก็คือไปกันแค่สองคน เขาทั้งมึนงงและสับสน จนเห็นว่าดึกแล้วเขาจึงชวนพิชญ์นาฏกลับด้วยกันและอาสาจะไปส่งเธอที่บ้าน เขาเก็บความอยากรู้ไว้ถามไถ่เมื่ออยู่กันตามลำพัง เขาจึงเอ่ยถึงผู้ชายคนที่พิชญ์นาฏแสดงท่าทีสนิทสนมด้วย

“ผู้ชายคนนั้นเป็นใครเหรอครับ ทำไมดูเธอสนิทกับเขาจัง”

“ก็ไม่มีอะไรนี่คะพี่ภาคิน แค่คนรู้จักกันผ่านๆ”

“แต่นั่งใกล้กัน จนแทบจะกอดกันตัวกลมอยู่แล้วนี่นะ?”

“พี่ภาคินไม่ใช่เจ้าของชีวิตนาทนะคะ นาทจะทำอะไรก็ไม่เห็นจะผิดตรงไหน การที่นาทอยู่ใกล้ผู้ชายคนอื่นนาทผิดเหรอคะ”

“แต่เราคบกันอยู่นะ”

“ก็แค่คบกัน เรายังไม่ได้แต่งงานกันสักหน่อย พี่ภาคินไม่เห็นแก่ตัวไปหน่อยหรือคะ ที่จะไม่ให้นาทได้พิจารณาคนอื่นที่เขาอาจจะดีกว่าพี่ภาคินก็ได้”

“นาท! พี่ไม่คิดเลยว่านาทจะพูดแบบนี้กับพี่”

“ก็เพราะพี่ภาคินคิดไปเองไงคะ ว่านาทจะเป็นแบบนั้นแบบนี้นาทเป็นของนาทแบบนี้ตั้งนานแล้ว จะเอาอะไรกับนาทอีกล่ะคะ?”

“นาท!”

“นาทคิดว่าคืนนี้เราคุยกันไม่รู้เรื่องหรอกค่ะ พี่ภาคินปล่อยนาทอยู่กับเพื่อนดีกว่านะคะ”

บดินทร์เดินจากมาอย่างเงียบๆ ด้วยหัวใจที่สับสน โบกมือเรียกรถแท็กซี่จะกลับที่พัก แต่ปากเจ้ากรรมดันบอกให้คนขับพาเขาไปทิ้งไว้ที่ร้านเหล้าที่ไหนก็ได้สักแห่ง เขาดื่มหนักจนเมามายอย่างที่ไม่เคยเป็นและคืนนั้นเองที่ทำให้เขาได้เจอกับเพียงขวัญ ครั้งแรกที่เจอเพียงขวัญเขายังนึกว่าเธอเป็นหนุ่มน้อยด้วยซ้ำไป

“พี่ค่ะ ลุกไหวไหมคะ?”

พอได้ยินเสียงหวานๆ นั่นแหละ บดินทร์ถึงได้รู้ว่าคนที่ช่วยชีวิตเขาคือเด็กสาวร่างเล็ก ที่มีเส้นผมน้ำตาลปนแดงเป็นประกายเหมือนแดดในยามเช้า เพียงขวัญพาเขามาพักที่บ้านของขิม สาวประเภทสองที่สวยจนผู้หญิงยังอาย เขาได้รับการช่วยเหลือจากคนแปลกหน้า ทำให้เขาเริ่มตั้งคำถามสังคมที่เขาอยู่นั้นมีความจริงใจแค่ไหน คนที่คิดว่ารักกลับมองความรักคนละมุม เพื่อนร่วมงานที่พร้อมจะแทงข้างหลัง กับคนไม่เคยรู้จักกลับดูแลเขาราวกับเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน

เมื่อกลับมาที่พักบดินทร์ตั้งสติได้เขายื่นใบลาออกจากบริษัทที่เจ้าตัวทำงานมาตั้งแต่เรียนจบมหาวิทยาลัย แต่เพราะเขาเป็นคนเก่งมีฝีมือ ผอ.จึงไม่ต้องการให้เขาลาออก เลยยื่นข้อเสนอให้เขาลาพักร้อนแทน แลกเปลี่ยนเป็นพนักงานฟรีแลนซ์ทำงานที่บ้าน โดยทำสัญญาทำงานกับบริษัทเหมือนเดิม

บดินทร์ย้ายที่อยู่เพราะไม่ต้องการให้ใครมาวุ่นวาย เขากลับมาหาขิมและเพียงขวัญอีกครั้ง และได้ที่พักเป็นห้องเช่าในคอนโดเก่าๆ ที่นี่ราคาค่าเช่าไม่แพงนัก แม้จะไม่ได้อยู่หรูหราเท่าที่เขาเคยอยู่ แต่มันกลับทำให้เขามีสมาธิในการทำงานมากขึ้น

เขามีโปรเจคสำคัญที่ต้องทำให้ลุล่วง แต่ก็นั่นแหละ...อุตส่าห์ว่าจะอยู่เงียบๆ เลยนะ แต่เมื่อสองสามวันก่อนพิชญ์นาฏก็มาเคาะประตูห้องเขาโดยที่เขาเองก็ไม่ได้ล่วงรู้มาก่อน

“ไม่ได้เจอกันตั้งหลายเดือนเลยนะคะพี่ภาคิน”

“นาทรู้ที่อยู่ของพี่ได้ยังไง?”

“ก็ไม่ยากนี่คะ”

พิชญ์นาฏยักไหล่แล้วเดินไปนั่งลงที่เตียงนอนของเขา เมื่อร่างเพรียวบางนั่งลง กระโปรงที่ยาวเหนือเข่านั่นก็ร่นขึ้นอวดเรียวขาขาวที่เขาเองก็เคยสัมผัส บดินทร์หายใจติดขัด อยากจะมองไปทางอื่น แต่ไม่อาจถอนสายตาจากเรือนร่างที่คุ้นเคยตรงหน้าได้

“แล้วทำไมมาอยู่คอนโดโทรมๆ แบบนี้ล่ะคะ?”

พิชญ์นาฏขยับตัวถอดเสื้อคลุมตัวนอกออก ตอนนี้เธอสวมเพียงชุดเกาะอกสีขาวกับกระโปรงสั้นสีแดงสด ขับเน้นผิวขาวให้น่ามองยิ่งขึ้นกลิ่นน้ำหอมของพิชญ์นาฏทำให้บรรยากาศเก่าๆ กลับมา

“พี่ภาคินโกรธนาทเหรอคะ?” เธอเอ่ยด้วยน้ำเสียงออดอ้อนฟังแล้วชวนใจอ่อน

“เปล่า พี่ไม่ได้โกรธ”

“ถ้าไม่โกรธทำไมยืนห่างจากนาทจังเลยล่ะคะ มาใกล้ๆ นาทหน่อยสิคะ นาทไม่อยากพูดเสียงดัง”

บดินทร์เดินเข้าไปใกล้ แล้วมือเรียวเล็กก็ยื่นออกมาดึงข้อมือของเขา เพราะไม่ทันตั้งตัวเลยเสียหลักล้มลงทาบทับร่างหอมกรุ่น สองแขนกลมกลึงยกขึ้นคล้องคอเขาไว้แน่น แล้วประกบริมฝีปากกดจูบเขาอย่างชำนาญการ รสหวานจากริมฝีปากที่คุ้นเคยทำเอาบดินทร์เคลิ้มและห้ามใจไม่อยู่ และเป็นเช่นนี้ทุกครั้งตั้งแต่เขาคบกับเธอมา หลายครั้งที่มีปัญหากันพิชญ์นาฏจะใช้วิธีนี้เหนี่ยวรั้งเขาไว้ และมันก็ได้ผลเสมอ

“สัญญาได้ไหมว่าจะไม่บอกใครว่าพี่อยู่ที่นี่?”

“ได้ค่ะ แต่มีข้อแลกเปลี่ยนนะคะ” พิชญ์นาฏต่อรองขณะเธอสวมเสื้อผ้าของตัวเองแล้ว

“อะไรครับ?”

“ก็ให้เราเป็นเหมือนเดิมไงคะ แล้วก็ให้นาทมาหาพี่ภาคินบ่อยๆ ด้วย”

“มาบ่อยคงไม่ดี เพราะงานพี่เร่งมาก ยังไงโทรมาก่อนก็แล้วกัน”

“ทำเหมือนคนมีความลับไปได้”

พิชญ์นาฏทำเสียงขึ้นจมูก หญิงสาวหยิบกระเป๋ามาถือไว้ แล้วเขย่งปลายเท้าจูบปากบดินทร์เบาๆ แทนคำบอกลาแล้วเปิดประตูห้องแต่หลังบานประตูบานนั้นคือร่างเล็กของเพียงขวัญที่ยืนรอพร้อมกล่องข้าว เด็กสาวรู้ว่าเจ้าของห้องนั้นมีแขก แต่เขาสั่งข้าวกล่องประจำไว้กำลังจะแขวนมันไว้ที่ลูกบิดประตู แต่ประตูดันเปิดออกเสียก่อน

“เอาข้าวกล่องมาส่งค่ะ” เพียงขวัญพูดตะกุกตะกัก ทั้งๆ ที่เธอเองก็ออกจะชินกับภาพลักษณะนี้เมื่อไปส่งข้าวให้ห้องลูกค้าคนอื่นที่มีคู่รักทว่าไม่ใช่กับผู้ชายที่เธอเพิ่งรู้จักกันคนนี้

“ขอบใจนะของขวัญ” บดินทร์รีบยื่นมือไปรับข้าวกล่องมาถือไว้

“ของขวัญ?” พิชญ์นาฏขมวดคิ้ว

“น้องเขาชื่อเพียงขวัญ ชื่อเล่นว่าของขวัญ” บดินทร์บอกกับแฟนสาวของตน

“ชื่อมีตั้งเยอะตั้งแยะไม่ตั้ง มาตั้งว่าของขวัญ เหมือนเด็กที่พ่อแม่ดีใจที่เธอมาเกิดเป็นลูก พ่อแม่คงรักมากสินะ คนอะไรชื่อโหลชะมัด” พิชญ์นาฏส่ายหน้าไปมา

“เอาเถอะ ชื่อบ้านๆ สมตัวเธอดีออก”

“นาท!” บดินทร์เรียกเหมือนจะปราม แต่หญิงสาวกับเอียงหน้ามาจูบแก้มเขาเบาๆ ต่อหน้าเพียงขวัญแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของในตัวบดินทร์

“นาทกลับก่อนนะคะ แล้วจะมาหาใหม่”

พิชญ์นาฏปรายตามองเด็กสาวเหมือนเธอเป็นเพียงเศษฝุ่นผงแล้วเดินจากไป เพียงขวัญทำหน้าไม่ถูก ก็รู้ว่าชื่อของตัวเองเชยไม่ทันสมัยเหมือนคนอื่น แต่ทำอย่างไรได้...ก็มันเป็นชื่อที่แม่ของเธอตั้งให้นี่นะถึงอยากจะถามว่าทำไมแม่ตั้งชื่อแบบนี้ให้กับเธอ แต่แม่ก็ไม่ค่อยอยู่ให้เจอหน้าได้ถามเสียด้วยสิ ชื่อเหมือนจะเป็นคนที่ถูกรักจากครอบครัวแต่เธอกลับไม่เคยได้มันเหมือนดังชื่อเลยสักนิด

“เดี๋ยวค่อยคุยกันนะ”

บดินทร์รู้สึกเขินถ้าเพียงขวัญจะเข้ามาในห้อง แม้เธอจะเข้าออกห้องเขาเสียอย่างกับว่าเป็นห้องของตัวเองไปแล้ว อาจเพราะเพิ่งเสร็จกิจกรรมกับพิชญ์นาฏไปร่องรอยต่าง ๆ ตามจุดยังไม่ถูกทำความสะอาดหากเด็กแสบนี่เข้ามาคงจะไม่ดี

“เข้าใจแล้ว ถ้าอยากได้อะไรก็โทรสั่งได้นะคะ หรือจะเอาไข่ลวกสักสองฟองก็ได้นะ”

“เด็กแก่แดดนี่” บดินทร์อดไม่ได้ยื่นมือไปเขกหัวเพียงขวัญเบาๆ ด้วยความมันเขี้ยวทีนึง แต่เด็กสาวแลบลิ้นปลิ้นตาใส่อย่างกวนๆ แล้วเดินจากไป

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เมื่อไรเฮียคินจะรับรัก   ตอนพิเศษ

    ปีสามต่อมา...“อื้อ...พี่ภาคิน...พอได้แล้ว”เพียงขวัญยกมือขึ้นตีอกบอกกล่าวสามีที่รัก หญิงสาวร่างบางนอนอ้าขาอยู่ใต้อาณัติของชายหนุ่มผู้เป็นสามีของเธอที่กำลังกระแทกแทรกกายใส่เธอตั้งแต่สี่ทุ่มของเมื่อคืน ซึ่งเป็นค่ำคืนของการเข้าหอของเธอและเขา จนถึงตอนนี้จะเช้าของวันใหม่แล้ว สามีสุดที่รักก็ยังไม่ปล่อยให้เธอได้พักหายใจเลยย้อนกลับไปหลังจากเหตุการณ์ทุกอย่างคลี่คลาย บดินทร์ก็ขอเพียงขวัญคบอย่างจริงจัง เขาให้ความซื่อสัตย์และจริงใจกับเด็กสาวที่เขารักมาโดยตลอด ซึ่งเพียงขวัญเองก็เช่นกัน หลังจากที่แม่เคลียร์เรื่องราวทุกอย่างเสร็จก็มารับเธอไปอยู่ด้วยตามที่สัญญาไว้ ซึ่งเธอเองที่โหยหาความรักจากแม่มาตลอดจึงตกลงไปกับท่าน แต่ก็ไม่ลืมมาค้างกับพี่ขิมบ้างเป็นครั้งคราวเธอยังคงเป็นเพียงขวัญคนเดิม เธอยังมาช่วยงานในร้านอาหารของพี่ขิมเสมอ แม้ว่าตอนนี้ขวัญข้าวแม่ของเธอจะเป็นหุ้นส่วนกับพี่ขิมแล้ว และได้เปิดร้านอาหารที่ใหญ่โตตามที่พี่ขิมใฝ่ฝันเอาไว้ตลอดเวลาที่บดินทร์และเพียงขวัญคบหากัน ฝ่ายชายไม่เคยล่วงเกินเธอเลย เขาทะนุถนอมเพียงขวัญที่เขารักมากไว้อย่างดี มากสุดก็แค่นอนจับมือ จูบบ้างตามโอกาสที่เหมาะสมจนกระทั่งผ

  • เมื่อไรเฮียคินจะรับรัก   บทที่19END

    “อย่านะ! อย่าทำอะไรของขวัญ!” บดินทร์พุ่งตัวเข้าใส่ทันทีที่มีโอกาส แต่เสียงปืนดังขึ้นก่อนที่บดินทร์จะเข้าถึงตัวคนตัวใหญ่คนนั้นได้ปัง!“ของขวัญ!”ร่างของเด็กสาวทรุดฮวบลงพร้อมกับเสียงกรี๊ดของพิชญ์นาฏ บดินทร์รีบเข้าไปประคองช้อนร่างที่เต็มไปด้วยคราบเลือดขึ้นมาไว้แนบอก“ของขวัญ” เขาระส่ำระส่าย ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น“ทำไมต้องทำขนาดนี้?”“อยากให้พี่ภาคินรู้ว่าของขวัญไม่ใช่ขโมย”“พอแล้ว ทั้งหมดเป็นความผิดของพี่เอง งานมันไม่มีความหมายอะไรเลย ถ้าไม่มีของขวัญอยู่ด้วยกัน” บดินทร์มองแขนของเพียงขวัญที่ชุ่มโชกไปด้วยหยาดเลือด มือไม้ของเขาสั่นแต่ก็หยิบโทรศัพท์โทรแจ้งตำรวจ แล้วรีบห้ามเลือดด้วยเสื้อเชิ้ตของเขาทันที“คนพวกนั้นหนีไปแล้วนะ” เพียงขวัญเจ็บแต่ก็ยังอยากให้คนโกงถูกลงโทษ“มันก็แค่เกมคอมพิวเตอร์ เราสร้างใหม่เมื่อไหร่ก็ได้ แต่ของขวัญมีคนเดียว พี่เสียใครไปไม่ได้อีกแล้ว”เสียงไซเรนรถตำรวจมายังทางที่ทั้งคู่อยู่ บดินทร์ประคองร่างของเพียงขวัญไว้ไม่ยอมปล่อย“คุณครับ เราจะพาเธอไปโรงพยาบาลนะครับช่วยหลบให้เจ้าหน้าที่ทำงานด้วยครับ” เสียงบุรุษพยาบาลเข้ามาดึงตัวของบดินทร์ให้ออกห่างจากเพียงขวัญ แล้วร่างที่ชุ่มเล

  • เมื่อไรเฮียคินจะรับรัก   บทที่18

    “ต้นไม้...” เพียงขวัญตะโกนเรียกทันทีที่มาถึงร้านซ่อมรถมอเตอร์ไซค์ของต้นไม้ คนถูกเรียกตกใจ มือที่กำลังวุ่นอยู่กับการบันทึกภาพกล้องโทรทัศน์วงจรปิดอยู่ถึงกับชะงัก“มาพอดีเลย มาดูอะไรนี่สิ เรื่องนี้ไม่ใช่ย่อยเลยนะ เล่นโกงกันหน้าด้าน ๆ เลย”เด็กหนุ่มผมสั้นเกรียนเรียกให้เพียงขวัญเข้ามานั่งใกล้ ๆ ดูภาพเคลื่อนไหวตรงหน้า เสียงวุ่นวายในร้านทำให้ฟังไม่ถนัดนัก แต่ถ้อยคำของเพื่อนซี้ทำให้เธอสงบลงทันที“คนเรานี่มันรู้หน้าไม่รู้ใจจริง ๆ เลย สวย ๆ แบบนั้นไม่น่าทำอะไรแบบนี้ได้ ขโมยผลงานของคนอื่นมาเป็นชื่อของตัวเอง” ต้นไม้สรุปจากการดูภาพกล้องวงจรปิด เขาสนิทกับเจ้าของร้านมาก และมากพอที่จะขอสำเนาภาพคืนนั้นที่พิชญ์นาฏมาที่ร้าน เขาได้ยินเรื่องที่พิชญ์นาฏต่อรองราคาซื้อขายเกมคอมพิวเตอร์ที่บดินทร์เป็นคนออกแบบกับผู้ชายที่คลอเคลียอยู่ด้วยกันเขาได้ยินชัด แต่ต้องการหาหลักฐานมายืนยันสิ่งที่ได้ยิน จึงไปขอดูภาพจากกล้องวงจรปิดของร้าน ซึ่งมันบอกทุกอย่างได้ชัดเจนมากกว่าคำพูดของเขา“เพื่อเงินไงต้นไม้ ของขวัญเองก็ไม่เข้าใจว่าสังคมสมัยนี้เป็นยังไง” เด็กสาวบ่นพึมพำ“แล้วของขวัญจะทำยังไง?”“พี่ภาคินเขาคงไม่เชื่อว่าแฟนตัวเอง

  • เมื่อไรเฮียคินจะรับรัก   บทที่17

    วันจันทร์ที่แสนสดใส แม้ตามถนนจะยังมีน้ำนองอยู่บางที่ แต่ท้องฟ้าก็สดใส เช้านี้เพียงขวัญรู้สึกมึน ๆ หัวนิดหน่อย แต่ก็รีบวิ่งมาที่ห้องของบดินทร์เหมือนเช่นทุกวัน ทว่าก็ยังช้ากว่าที่เจ้าของห้องออกไปแล้ว แต่เธอก็ไม่ได้มีปัญหากับการเข้าห้องของเขามากนักเพราะเขาให้กุญแจสำรองไว้ เธอนั่งอ่านหนังสือ เล่นเกมคอม และทำความสะอาดให้เจ้าของห้องด้วยเช่นเคย“ของขวัญ”เสียงเรียกชื่อของเธอดังขึ้นจนคนที่เผลอหลับอยู่ที่โซฟาสะดุ้งตื่น เธออยากจะยิ้มให้เหมือนทุกครั้ง แต่เมื่อเห็นสีหน้าที่ดูโมโหโกรธเคืองใครมาจ้องเขม็งที่ตัวเธอ เพียงขวัญก็ทำได้เพียงแค่นิ่งเงียบราวกับเป็นใบ้“ของขวัญขโมยตัวเก็บข้อมูลงานของพี่ไปใช่ไหม?”“พี่ภาคินพูดอะไร ของขวัญไม่รู้เรื่องนะคะ พี่ภาคินพูดอะไรน่ะ?” เด็กสาวส่ายหน้าสั่นระริก ผมยาวที่คลอเคลียไหล่สะบัดไปมา“วันก่อนที่พี่กลับมาพี่เห็นของขวัญเพิ่งลงมาจากชั้นบนของห้องพี่ แล้วรีบออกไปไหนกับผู้ชายคนนั้น” น้ำเสียงเกือบจะตะคอกพร้อมกับใบหน้าที่ชะโงกเข้ามาถาม ราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ“ผู้ชายคนไหน?”“ก็นายต้นไม้อะไรนั่นไงล่ะ”“ไม่ใช่นะ ที่ของขวัญไปกับต้นไม้เพราะวันนั้นของขวัญต้องรีบไปสน. ไปดูพ่อ”

  • เมื่อไรเฮียคินจะรับรัก   บทที่16

    ขวัญข้าวมองลูกสาวที่ตัวเองแทบไม่ได้เลี้ยงแล้วก็ยิ้มภูมิใจ เธอจำใจต้องทำตัวโหดร้ายไม่รักลูกสาวทั้งที่เธอรักเพียงขวัญมาก แค่เพราะเธอกลัวว่าเพียงขวัญจะต้องมาใช้ชีวิตเหมือนเธอ เธอก้าวพลาดตั้งแต่วัยรุ่น ตั้งท้องกับผู้ชายที่เธอไม่รู้จักชื่อเลยด้วยซ้ำ ยิ่งพอลูกคลอดมาแล้วรู้ว่าเป็นผู้หญิง ขวัญข้าวยิ่งกลัวว่าลูกจะต้องเจอเหมือนเธอจึงให้ญาติช่วยเลี้ยง แต่ก็มารู้ทีหลังว่าเงินที่ส่งไปให้เป็นค่ากินค่าใช้จ่ายนั้นแทบไม่ได้ถึงตัวของลูกสาวเธอเลยด้วยซ้ำ เพราะพวกเขาก็เอาเงินหรือนมที่เธอส่งมาไปให้ลูกหลานของตัวเองกินเพียงขวัญจึงเติบโตมาแบบอด ๆ อยาก ๆ จนเธอตัดสินใจพาเพียงขวัญมาอยู่ด้วย แต่ก็ดันเจอพ่อเลี้ยงลวนลาม เธอไม่กล้าเอาเรื่องกับแฟนใหม่เพราะยังต้องพึ่งพาเขา แต่จะให้อยู่แบบนั้นก็ไม่ได้ ขิมจึงเป็นทางออกเดียวของเธอในตอนนั้น ถ้าไม่มีขิมเธอก็ไม่รู้ว่าเพียงขวัญจะโตมาเป็นอย่างไร จะหนีพ้นวงจรแบบเดียวกันกับเธอได้หรือไม่ แต่ตอนนี้ขวัญข้าวมั่นใจว่าลูกสาวของเธอจะมีรอยเท้าของตัวเอง ไม่โสมมอย่างที่เธอเคยก้าวพลาดมาขิมรับหน้าที่ดูแลจัดการทุกอย่างให้กับเพียงขวัญและนัดทุกคนกลับไปเลี้ยงฉลองที่ร้าน แต่ขวัญข้าวขอตัวไปจัด

  • เมื่อไรเฮียคินจะรับรัก   บทที่15

    เช้าวันอาทิตย์ที่แสนธรรมดามาถึง ปกติร้านของขิมจะหยุดแค่วันที่ 1 และวันที่ 16 ของทุกเดือนไม่ว่าจะตรงกับวันอะไรก็ตาม แต่วันนี้ขิมปิดร้านเตรียมตัวพาเพียงขวัญที่ถูกจับแต่งองค์ทรงเครื่องไปประกวดร้องเพลงเพียงขวัญในชุดกระโปรงน่ารัก รองเท้าบูตส์สีน้ำตาล เธอดูสวยและโดดเด่นกว่าใครทั้งหมด จะดีกว่านี้ถ้าใบหน้าแบบลูกครึ่งของเพียงขวัญมีรอยยิ้มแบบมั่นใจ ไม่ใช่รอยยิ้มแหย ๆ อย่างที่เป็นอยู่นี่“พี่ล่ะอ่อนใจกับแกจริง ๆ เลยยัยของขวัญ”“โถ่...พี่ขิม ก็ของขวัญอายนี่คะ”“จะอายอะไรเล่า เราไม่ได้ไปทำอะไรเลวร้ายเสียหน่อย” ขิมอยากจะโดดขึ้นเวทีเสียเอง แต่ที่ขึ้นไม่ได้เพราะเธอเสียงไม่ดีน่ะสิ ถ้าแค่ลิปซิงค์แล้วเต้นโชว์ก็ยังพอไหว“ไม่ต้องคิดเรื่องอื่นหรอก คิดแค่ว่าเราทำแล้วมีความสุขก็พอ พี่ไม่ได้อยากให้ของขวัญไปเอารางวัลอะไร แต่อยากให้ของขวัญเป็นตัวของตัวเอง”“ถ้าของขวัญไม่ได้รางวัลก็ไม่เป็นไรใช่ไหมคะ?” เด็กสาวถามย้ำอีกครั้ง“แน่นอน พี่ขอให้ของขวัญทำเต็มที่ก็พอ เลิกเดินหลังค่อมได้แล้ว เชิดหน้ามองโอกาสตรงหน้าดีกว่ามาโทษชะตาที่เราลิขิตเองไม่ได้”“ขอบคุณค่ะพี่ขิม”“เอาให้สนุกเลยนะ พี่จะรอเชียร์อยู่ข้างล่าง”“เต็มที่

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status