______
19:00 น. ประเทศแคนนาดา ทั้งสี่คนเดินทางเข้ามาในโรงแรมระดับห้าดาวก่อนที่พนักงานจะเดินนำขึ้นมายังห้องพักมันเป็นห้องสวีตแบบสองห้องนอนและมีสระน้ำในตัวและมองบรรยากาศตัวเมืองแคนาดาได้สุดลูกหูลูกตา ด้วยห้องที่มีจำกัดทั้งสี่จึงต้องแบ่งกันนอนห้องละสองคนซึ่งมูลี่เลือกห้องติดสระน้ำและริลเองก็คิดว่าเธอควรจะเลือกห้องเดียวกับมูลี่เพราะผู้ชายนอนกับผู้หญิงคงไม่เหมาะมากนัก “ฉันนอนกับคุณมูลี่ก็ได้ค่ะ” “ทำไมเธอไม่ไปนอนอีกห้องละ ฉันไม่ได้อยากรวมห้องกับเธอ” มูลี่พูดพลางเชิดหน้า “งั้น...ในเมื่อมูลี่กับเฟร์สยังไงก็เป็นว่าที่คู่หมั้นกันก็นอนด้วยกันก็ได้ ส่วนพี่จะนอนห้องเดียวกับริล” เมทพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงสดใส...ทำให้เฟร์สถึงกับเลือดขึ้นหน้าเมื่อได้ยินประโยคนั้น กล้าดียังไงถึงจะไปนอนห้องเดียวกับเมียของเขาชายหนุ่มจึงจัดการส่งสายตาโหดไปให้เมียสาวเพื่อบอกให้เธอปฏิเสธสะแต่หญิงสาวกับยังคงทำหน้างงกับเรื่องที่เกิดขึ้น ...ยัยบ้านี่บื้อสะจริง... เขาแอบคิดในใจ “เอิ่มมม คืองั้นริลนอนโซฟาดีกว่าค่ะริลเป็นแค่ผู้ช่วยคุณเฟร์สคงจะไม่เหมาะที่จะใช้ห้องนอน” “ได้ยังไงละ คุณเป็นผู้หญิงนะ อย่างน้อยคุณนอนบนเตียงเดี๋ยวผมจะนอนพื้นเอง โอเคไหมครับ” คุณเมทส่งสายตาหวานให้ริลโดยไม่สนสายตาอีกคู่ที่กำลังโมโหจนเลือดขึ้นหน้าเพราะความหึงหวง เขาเก็บอารมณ์ไม่พูดอะไรไม่ใช่เพราะเขาทนได้แต่เขาแค่ไม่อยากให้เรื่องส่วนตัวปนกับเรื่องงานเท่านั้น แต่ถ้าไอ้คุณเมทยังไม่หยุดล้ำเส้นเขาก็คงไม่จำเป็นต้องอดทน “ผมว่าผมกับริลไปเปิดอีกห้องดีกว่า คงไม่ต้องลำบากใจพวกคุณ”คุณเฟร์สพูดตัดสินใจพลางเชิดหน้า “ถ้าทำอย่างนั้นคุณพ่อคงรู้สึกน้อยใจแย่เขาอุตส่าห์จองที่นี่ไว้ให้เรา” เมทพูดหว่านล้อมคนอารมณ์ร้อนอีกครั้งเพราะรู้ดีว่าเฟร์สค่อนข้างเป็นคนที่เกรงใจผู้หลักผู้ใหญ่แต่ครั้งนี้กลับไม่เป็นดังที่เมทคิดเพราะเจ้าตัวทนไม่ไหวเอ่ยปากสรุปทุกอย่างเอง “ด้วยความให้เกียรติผมว่าคุณเมทกับผมควรนอนที่โซฟาแล้วให้สาวๆ นอนในห้องสบายดีๆ ดีไหมครับ...ยังไงก็แค่วันเดียวคุณเมทคงไม่ถึงกับนอนไม่หลับหรอกนะครับ” ชายหนุ่มพูดเหน็บแนมปนท้าทายจนคนโดนพูดถึงกับหัวเราะในลำคอ เมทดูออกตั้งแต่แรกว่าชายหนุ่มหึงหวงตัวริลอย่างออกนอกหน้า และเขาก็รู้ว่าริลเองเป็นหนึ่งในคู่หมั้นแต่ใครจะยอมละในเมื่อหญิงสาวก็ถูกใจเขาขนาดนี้ และน้องสาวเขาก็หลงรักชายหนุ่มจนสุดใจถ้าเขาทำให้ริลหันมารักเขาได้ทุกอย่างมันก็จะลงตัว ในเมื่อเขากล้าเปิดศึกท้าทายขนาดนี้ก็ย่อมได้ “แน่นอนสิครับ โซฟาออกจะกว้าง^_^” ทั้งสี่ก็จัดการแยกย้ายกันเก็บของเข้าที่พักโดยเฟร์สจับจองโซฟาหน้าโทรทัศน์ส่วนเมทจำใจต้องไปนอนโซฟาที่ติดกับหน้าต่างแทน ส่วนของส่วนตัวของเฟร์ส เมทต้องจำใจยอมให้เฟร์สเข้าไปใช้ห้องของริลเพื่ออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า...โดยเฟร์สให้ข้ออ้างว่าเขาและริลเป็นเจ้านายลูกน้องกันและของใช้ทุกอย่างในทริปนี้ริลเป็นคนจัดเตรียมให้ ส่วนตัวเขาเองต้องไปใช้ห้องรวมกับน้องสาว น่าหมั่นไส้นักจะหวงกันอะไรหนักหนาเขาเองก็อยากจะเชยชมดอกไม้ดอกนี้บ้างกลิ่นของมันช่างเชิญชวนนักเชียว ถ้าเขาได้เจอผู้หญิงคนนี้ก่อนคงไม่ปล่อยให้ถึงมือคนเจ้าชู้อย่างเฟร์สแน่นอน ปึก! เสียงกระแทรกกระเป๋าดังขึ้นจนตัวหญิงสาวที่นั่งอยู่ถึงกับสะดุ้งหันมองชายหนุ่มร่างสูงที่ยืนถอนหายใจรัวๆ เพื่อไล่อารมณ์ขุ่นเคืองอยู่ด้านหน้าประตู “อยากต่อยคนชะมัด กล้าดียังไงมาท้าทายฉัน” “เอิ่ม...พูดเรื่องอะไรเหรอคะ” หญิงสาวยังคงงุนงงกับคำพูดของชายหนุ่มเพราะเมื่อครู่เธอไม่คิดว่าการพูดคุณของคุณเมทและเฟร์สเป็นการท้าทายกันเลยแม้แต่น้อยหรืออาจจะเพราะเธอมัวแต่สนใจกับสิ่งรอบตัวที่ไม่เคยได้เห็นและสัมผัสมาก่อนจึงทำให้ไม่ได้ใส่ใจคำพูดของสองหนุ่มนัก “ก็ไอ้เมทมันตั้งใจกวนประสาทฉัน โดยการเลือกห้องนอนเดียวกับเธอไง” เมื่อฟังจบเหมือนหญิงสาวจะเริ่มเข้าใจทุกอย่างแล้วชายหนุ่มกำลังโมโหเพราะเกิดหึงหวงเธอขึ้นมานั้นเองแต่ที่เขารู้สึกอย่างนั้นคงเพราะตอนนี้เธอเป็นของเล่นชิ้นโปรดเท่านั้นคงจะหลงดีใจไปว่าเขาให้ความสำคัญกับเธอคงไม่ได้ “แต่สุดท้ายเขาก็ไม่ได้นอนนี่ค่ะ คุณก็ไม่เห็นต้องอารมณ์เสียเลย” “มันแค่เริ่มต้นเท่านั้นแหละ คืนนี้มันต้องแอบเข้าห้องเธอแน่ ไม่รู้ละยังไงฉันก็จะนอนห้องนี้กับเมียฉัน” หญิงสาวอึ้งไป หัวใจเต้นแรงขึ้นทันทีเมื่อชายหนุ่มพูดออกมาเต็มปากว่าเธอคือเมียเขาและแอบใจชื้นไปกับคำนั้นอย่างอดไม่ได้ แต่ถ้าเขาทำแบบนั้นคงไม่ดีแน่เพราะเดี๋ยวคุณเมทเอาเรื่องนี้ไปบอกพ่อเขามันอาจจะเกิดปัญหาก็ได้ “อย่าดีกว่าค่ะ เดี๋ยวจะเกิดปัญหากันเปล่าๆ” “นี่เธอมีใจให้มันหรือไงถึงได้ห้ามฉัน” “มะ ไม่ใช่นะคะคือ....” “ฉัน จะ นอน กับ เธอ…” ชายหนุ่มเดินย่างสามชุกเข้ามาหน้าตัวหญิงสาวก่อนจะดึงตัวหญิงสาวให้ขึ้นไปนั่งบนตักแล้วฝั่งจมูกโด่งลงบนแก้มนวลโดยไม่สนใจคนนั่งบนตักว่าจะเขินจนหน้าแดงขนาดไหนในใจหญิงสาวกำลังเต้นแรงไปกับทุกสัมผัสของเขาอย่างบอกไม่ถูก “ฉันขี้หวงมากเลยรู้ไหม…” “...เอิ่ม...คือ” “ฉันหวงมาก…” ชายหนุ่มเริ่มฝั่งจมูกรั่วเข้าที่ผิวนวลทั่วใบหน้าอีกครั้งก่อนจะบรรจงจูบเข้าที่ซอกคอขาวเบาๆ เป็นการเร้าอารมณ์ริมฝีปากนุ่มร้อนนาบเข้าที่เนื้อขาวเนียนแล้วใช้แรงดูดมันขึ้นจนเนื้อติดตามขึ้นมาชนกับไรฟันสวย หญิงสาวได้แต่นั่งตัวสั่นด้วยความรู้สึกตื่นเต้นและประหม่าจนแทบจะไม่มีแรงผลักเขาออกไปทำให้คนตัวสูงยิ้มออกมาอย่างชอบใจที่อย่างน้อยเมียเขาก็ยังหวั่นไหวแค่กับเขาคนเดียว “ชอบมันหรือเปล่า…” “คะ?” “ชอบไอ้เมท...หรือเปล่า” “ปะ เปล่าค่ะ” “ดีมาก ถ้าชอบฉันจัดการเธอแน่” ชายหนุ่มพูดพร้อมดันร่างบางให้นอนราบลงบนเตียงนุ่มตามมาด้วยร่างสูงใหญ่ตามขึ้นมาคร่อมร่างเธอไว้ก่อนเขาจะทาบริมฝีปากนุ่มลงมาอย่างเร้าอารมณ์อีกครั้งรอบนี้เขาทั้งดูดเม้มและบดขยี้มันลงมาอย่างรุนแรงจนริลแทบจะหายใจไม่ทันต้องยกมือเล็กตีเข้าที่แผงอกหนาเพื่อให้เขาปล่อย ถ้าปล่อยให้เขาครอบครองเธอตอนนี้มันคงกินเวลาไปนานจนอีกสองคนสงสัยเป็นแน่ “พอก่อนนะคะ ทำแบบนี้ไม่ดีเลยนะ” “อืม...อย่าขัดใจฉันสิ” “แต่เราต้องไปทานข้าวแล้วนะคะ” “เธอขัดใจฉันเพราะมันใช่ไหม” คนตัวสูงทำเสียงแข็ง “เปล่าค่ะ แต่คนอื่นเขาจะคิดยังไงละคะ แค่เราใช้ห้องด้วยกันแบบนี้สองคนนั้นคงคิดว่าเรา…” “ก็คิดถูกละนี่ ผัวใช้ห้องเดียวกับเมียแปลกตรงไหน อย่าดื้อสิ!” คนตัวสูงยังคงพยายามล่วงเกินเมียสาวอย่างไม่ย่อท้อโดยใช้มือหนาสอดลูบเขามาระหว่างขาเนียนทั้งสองข้างจนนิ้วเรียวไปโดนจุดเสียวเมื่อรู้สึกว่าคนตรงหน้าจะไม่ยอมฟังหญิงสาวจึงต้องใช้ไม้ตายห้ามปรามเขาเอาไว้ “ถ้าไม่หยุดฉันจะไม่ยอมให้อีกต่อไปเลย” “เธอห้ามฉันไม่ได้หรอก” “ก็ลองดูสิคะ” หญิงสาวทำหน้าเคร่งบ่งบอกว่าเธอจริงจังจนคนตัวสูงส่งสายตาค้อนก่อนจะยอมลุกหนีเข้าห้องน้ำไปอย่างหงุดหงิดก่อนจะร้องโวยวายออกมาจากห้องน้ำอย่างหัวเสียอย่างน้อยถึงเขาจะโกรธแต่ก็ยังดีที่เธอจะไม่ต้องเหนื่อยกายตอนนี้ ก๊อกๆ หญิงสาวที่โล่งใจได้เพียงชั่วครู่ก่อนที่เสียงประตูจะดังขึ้นเรียกความสนใจให้ริลลุกไปเปิด เธอจัดการจัดเสียผ้าหน้าผมให้เรียบร้อยก่อนจะเดินตรงไปเปิดประตูภาพตรงหน้าคือเมทถือถ้วยน้ำชากลิ่นหอมยิ้มให้เธออยู่ “พอดีพี่ได้ชาอู่หลงชั้นดีมาก็เลยอยากจะให้ริลได้ชิม” “พี่? เอิ่ม…” “ไม่ได้เหรอ ฉันไม่ชอบให้ริลเรียกฉันว่าคุณ ฉันอยากให้ริลเรียกฉันว่าพี่ได้ไหม” เมทยังคงส่งสายตาอ้อนวอนจนหญิงสาวใจอ่อนต้องยอมเรียกไปตามใจเพราะกลัวว่าถ้าขืนขัดใจขึ้นมาจะส่งผลต่อเรื่องงานของชายหนุ่มในห้องน้ำ “คะ พี่เมทแล้วชานี่คือ?” “ลองชิมดูสิหอมและนุ่มมากเลยนะ” “ริลไม่ชอบดื่มชา!” ไม่ทันที่ริลจะเอื้อมมือไปรับแก้วน้ำชาจากเมทก็มีเสียงเข้มดังออกมาจากด้านหลัง เฟร์สเดินเข้ามาประชิดหญิงสาวในสภาพร่างกายเปลือยท่อนบนมีน้ำหมาดๆ ตามร่างกายก่อนที่เขาจะโอบเอวเธอเข้าหาตัวแสดงความเป็นเจ้าของอย่างเต็มที่ เมทได้แต่หัวเราะในลำคอกับภาพที่เห็น ...เฟร์สเวลาหึงนี่มันน่าตลกสะจริง.... ยิ่งทำให้เขาอยากแกล้งชายขี้หวงมากขึ้นไปอีกหลายเท่าแถมยังอยากรู้ไปมากกว่าเดิมว่าผู้หญิงคนนี้มีดีอะไรถึงขั้นทำให้คนอย่างเฟร์สต้องหวงจนออกนอกหน้าเพียงนี้ “ถ้าน้องริลลองได้ชิม พี่เมทคนนี้รับรองว่าน้องริลจะต้องติดใจแน่นอน” รอยยิ้มหวานเคลือบยาพิษที่ส่งให้ตัวหญิงสาวในอ้อมกอดทำให้ชายหนุ่มผู้เป็นเจ้าของยิ่งเกิดอารมณ์โมโหจนแทบเก็บไว้ไม่อยู่ กล้าดียังไงมานับญาติกับเมียของเขา! ส่วนหญิงสาวได้แต่มองใบหน้าของชายสองคนสลับไปมาอย่างร้อนใจเพราะดูจากบรรยากาศมาคุในตอนนี้ริลรับรองได้เลยว่าถ้ายังไม่รีบแยกทั้งสองคนออกจากกันเฟร์สคงตรงเข้าไปต่อยหน้าเมทแน่นอน ใจยังหวังลึกๆ ว่าชายหนุ่มจะไม่ระเบิดอารมณ์โมโหออกมาจนเสียการเสียงาน “ว่าไงคะน้องริล?” “เอิ่ม…” “ออกไป!” “คุณเฟร์สไม่พูดแบบนี้สิค่ะ” หญิงสาวลูบเข้าที่แผงอกหนาหวังให้ชายหนุ่มที่ตอนนี้อารมณ์เดือดพล่านใจเย็นลง เมทเอาแต่แหย่ให้เฟร์สโกรธแถมยังทำท่าขำแบบนี้ยังไงละ....ชายหนุ่มถึงได้โมโหจนเลือดขึ้นหน้าแบบนี้ “ใจร้ายจริงนะ หวงผู้ช่วยขนาดนี้เชียวแบบนี้น้องสาวผมเสียใจแย่เลย” “จะเสียใจหรือไม่มันก็ไม่ใช่เรื่องของฉัน ออกไปได้ละ ไม่ต้องมาเคาะอีก” ปังชายหนุ่มปิดประตูเสียงดังก่อนที่จะลากหญิงสาวเข้าไปในห้องและจัดการล็อกประตู ทิ้งไว้เพียงแต่ชายหนุ่มรูปงามที่กำลังยืนหัวเราะร่ากับท่าทีที่หึงหวงของคนที่ขึ้นชื่อว่าจอมเจ้าชู้ “หึ น่าสนใจจริงๆ ผู้หญิงคนนี้ฉันน่ะอยากจะลองสักครั้งจริงๆ หึ หึ” คนโดยปิดประตูใส่ยืนยิ้มเย้ยด้วยความสนุก เขาไม่ได้เล่นอะไรสนุกๆ แบบนี้มานานมากแล้วด้วยสิ“ไหนว่าจะกลับบ้านไงแล้วนี่คุณพาฉันมาที่ไหน…”“นี่บริษัทลิบิน”“หะ? ละ แล้วมาทำไม หรือว่าอันดาเขา…”“มันบอกหมดแล้ว เธอคิดว่าคนอย่างฉันจะปล่อยให้ไอ้เพื่อนบ้านี่ใช้ชีวิตสบายๆ ทั้งที่หลอกฉันขนาดนี้น่ะเหรอ?”พูดแล้วเฟร์สก็โกรธจนลมออกหู ให้ตายเหอะ! ไม่คิดว่าเพื่อนรักจะทำกับเขาได้ขนาดนี้“กลับเถอะ เราก็ดีกันแล้วนิ นะๆ” ริลทำหน้าอ้อนเพราะไม่อยากให้ลิบินต้องโดนอะไรจากเฟร์ส แต่มันสายไปแล้วเมื่อร่างที่คุ้นเคยเปิดประตูเข้ามา ลิบินที่เห็นเฟร์สอยู่กับริลก็ได้แต่กลืนน้ำลายลงคอทันที“อะ อ้าว ดีกันแล้วเหรอ ดีๆ เพื่อนรักมีความสุขก็ดี”ลิบินเดินเข้ามากอดเฟร์สอย่างพยายามเก็บอาการ ใจหวังว่าเจ้าเพื่อนรักจะไม่รู้ว่าตัวเองมีส่วนกับเรื่องนี้“หึๆ เพื่อนรักแกก็รู้ดีว่าฉันรักแกมาก มีอะไรก็ช่วยตลอดตอนที่ทะเลาะกับคะน้าก็ฉันนี่แหละที่ช่วยให้คืนดีกัน….เพราะฉะนั้น…”“พะ เพราะฉะนั้น? ....”“ฉันเห็นแกเหนื่อยมากที่ต้องฟังคำบ่นของคะน้าบ่อยๆ เลยส่งคะน้า....ไปพักผ่อนเมาดีฟกับนายแบบชั้นนำซักสามสี่วันน่ะนะ”“ห๊า! แก....อย่ามาหลอกฉันวันนี้ตอนเช้าคะน้าเพิ่งมาส่งฉัน”“ใช่ไง ไม่สงสัยเหรอว่าทำไมอยู่ๆ คะน้าถึงอาสามาส่งแกที่ทำงาน
“วันนี้คุณไม่ต้องไปส่งผมนะ เดี๋ยวผมจะแวะไปที่ที่หนึ่งก่อน”“ได้ค่ะ ของที่ท่านประธานสั่งดิฉันไว้ถูกส่งไปตามที่บอกเรียบร้อยแล้วค่ะ”“โอเค พอดีเลยวันนี้ผมจะเข้าไปเช็กดูถ้าขาดเหลืออะไร ขอรบกวนคุณอีกรอบแล้วกันนะ”“ได้ค่ะ”“ขอบใจมาก”อันดาขับรถออกจากบริษัทมุ่งหน้าไปคอนโดลับที่แม่ของเฟร์สซ่อนริลไว้ แต่พอขับมาได้ครึ่งทางเขากลับรู้สึกว่ารถรอบๆ ตัวเขาตอนนี้มีลักษณะการขับที่แปลกๆ เหมือนรถทั้งสามคันที่ประกบทั้ง ซ้าย ขวา หน้า หลัง นี่พยายามขับไปทางเดียวกับเขาตลอด“ใช่แน่ๆ ต้องเป็นเฟร์สแน่”เมื่อสังเกตจนมั่นใจว่าคนในรถต้องมีเจตนาตามเขาก็ไม่แปลกเลยที่เขาจะรู้ได้ทันทีว่าใครเป็นคนบงการ ไหนคุณหญิงบอกว่าเฟร์สยอมถอยห่างจากริลโดนดี ทำไมอยู่ถึงมาส่งคนตามเขาแบบนี้ปึก!ก้อนกระดาษกลมๆ ถูกปาเข้าที่กระจกฝั่งคนขับ เมื่ออันดาหันไปตามเสียงก็เจอว่าเฟร์สกำลังกอดอกยิ้มให้เขาอยู่ ขนเขาลุกอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนเพราะความกลัว สมองก็รับรู้ได้ทันทีว่าเฟร์สกำลังคิดจะทำอะไม่ดีกับเขาแน่“จอดรถ เดี๋ยว นี้!”กระบอกปืนสีดำถูกเล็งมาทางเขา นาทีนั้นวิญญาณอันดาจะออกจากร่างให้ได้“แย่แล้วอันดา จะเอาถึงตายเลยเหรอ งืออออ”อันดาใจสั่น ค
สามวันที่เฟร์สขังตัวเองไว้ในห้องมืดๆ เขาไม่ยอมกินไม่นอนเอาแต่นั่งร้องไห้ด้วยความช็อกกับเหตุการณ์ที่ผ่านมา ใจเขาเจ็บปวด มันเจ็บจนไม่รู้จะผ่านเวลาแบบนี้ไปได้ยังไง ด้านนอกประตูมีคุณหญิงที่ในใจก็แอบห่วงลูกชายเฝ้าอยู่ไม่ห่างเธอกลัวว่าคนที่ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้อย่างเฟร์สจะคิดทำร้ายตัวเองขึ้นมา“คุณหญิงคะ? คุณเฟร์ส”“ฉันรู้น่า บางครั้ง….การที่เรานั่งสั่งสอนก็ไม่เท่ากับให้เขาได้เจอประสบการณ์จริง สิ่งที่ฉันทำมันอาจจะทำให้ลูกเจ็บนะ...เธออย่าลืมว่าคนเป็นแม่เจ็บกว่าลูก แต่นี่ เป็นสิ่งที่เขาควรได้รับเขาจะได้รู้ว่าการเห็นแก่ตัวมันส่งผลแย่แค่ไหน”คุณหญิงพูดให้ป้าแม่บ้านฟังเป็นการระบายความทุกข์ใจ เธอรู้สึกสงสารลูกมากแต่...เธอก็ต้องทำการใช้แผนนี้มันเสี่ยงมากที่จะทำให้เฟร์สเสียริลไปตลอดการที่ริลได้อยู่คนเดียวถ้าเธอไม่ได้รักเฟร์สจริง โอกาสที่เธอจะใช้เวลานี้ทำใจก็ลืมเรื่องทั้งหมดก็มีมาก“คุณหญิงจะใช้เวลานานขนาดไหนคะ? ถ้าคุณเฟร์สคิดมากจน….”“ฉันก็ไม่รู้หรอก แต่ยังไงก็ช่วยดูเขาตลอดแล้วกัน”“ได้ค่ะ”ระหว่างที่คุณหญิงกำลังจะเดินออกมาเธอก็พบเข้ากับโชนที่แอบยืนฟังอยู่นานแล้ว โชนที่กำลังสับสนกับสิ่งที่ได้ยิ
…………………“ฉันมีสิ่งที่อยากจะพูดค่ะ….”"ว่ามาสิ”“ฉันช่วยคุณในการดัดนิสัยลูกชายได้ จริงอยู่ที่ฉันเองก็รู้สึกดีกับเขาในบางครั้งแต่ฉันไม่สามารถอยู่กับคนที่เห็นฉันเป็นแค่ที่ระบายความใคร่ได้หรอกค่ะ….ถึงแม้วันหนึ่งเขาจะเปลี่ยนเป็นคนที่ดีขึ้น....แต่สิ่งที่เขาทำกับฉัน....ฉันไม่เคยลืมและไม่สามารถยอมรับได้จริงๆ”คุณหญิงถอนหายใจยาว ตามที่คิดไว้อยู่แล้วว่าตัวหญิงสาวคงไม่ให้อภัยลูกนิสัยไม่ดีของเธอ แต่ถึงคุณหญิงจะถูกใจตัวริลมากเท่าไหร่แต่ถ้าเจ้าตัวมีอคติต่อกันมากกว่าความรัก เธอก็ต้องยอมรับในการตัดสินใจของผู้หญิงคนนี้“...ฉันรู้ว่าเธอเจ็บ”“ค่ะ เพราะฉันเป็นมนุษย์คนหนึ่งมีความคิดความรู้สึก อย่างน้อยถ้าเขาเจ็บปวดเพราะฉันมันจะทำให้เขาได้รับรู้บ้างว่าสิ่งที่เขาทำเวรกรรมมันจะสนองยังไง เขาจะได้รู้จักกับคำว่าทรมานสะบ้าง ฉันไม่ได้แค้นอะไรมากหรอกนะคะ….แต่ฉันเองก็อยากให้บทเรียนเขาเหมือนกัน”“ถ้าเธอไม่คิดที่จะอยู่กับเขา….ฉันก็ทำอะไรไม่ได้”ฉันอยู่ในร้านอาหารเดิมแต่คู่สนทนาเปลี่ยนไป ต่อหน้าฉันตอนนี้ไม่ใช่คุณหญิงแต่เป็นลิบินและอันดาเจ้านายของฉัน ลิบินจะเป็นคนเชื่อมแผนทุกอย่างโดยเข้าไปขอร้องให้อันดามาช่วยเรื่องนี้
ริลถูกพาตัวมายังสถานที่ที่คุ้นเคยบ้านของเฟร์สนั้นเอง เขาลากเธอผ่านหน้าบรรดาแม่บ้านที่มองมายังเธออย่างแปลกใจคงไม่มีใครคิดว่าเธอจะกลับมาที่นี่อีก ริลทั้งดิ้นทั้งพยายามดึงแขนตัวเองออกให้ได้จนมันแดงไปหมดแต่มันก็เสียแรงเปล่า เพราะตอนนี้ริลถูกพามาถึงห้องนอนของเฟร์สเรียบร้อยเขาจัดการปิดประตูขังเธอไว้ด้านในแล้วล็อกประตูปัง! ปัง!“เปิดนะ จะขังฉันไว้แบบนี้ไม่ได้ คนมีงานมีการทำนะ!”“ตะโกนไปก็เท่านั้น อยู่ในนั้นจนกว่าจะคิดได้ว่าไม่ควรมาเก่งกับคนอย่างฉัน”ปัง ปัง“ปล่อยฉันออกไปนะ!”ริลพยายามเคาะประตูเรียกร้องความสนใจจากคนด้านนอกแต่เขากลับเงียบไปเหมือนกับว่าเขาไม่ได้อยู่ตรงนั้นแล้ว ริลทรุดตัวลงด้วยความเหนื่อย มือที่เคาะประตูอย่างแรงนี้กำลังแดงขึ้นและบวมร้อนจากอาการเจ็บจนทำให้เธอต้องหยุด“อยากร้องไห้จริงๆ …”เธอบ่นกับตัวเองแต่ถึงจะอยากร้องมากแค่ไหนเธอก็ต้องกลืนมันลงไป เธอสัญญาแล้วว่าจะไม่อ่อนแออีก ดังนั้นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเธอจะไม่ใช้น้ำตาแก้ปัญหาอีกแล้ว ตอนนี้เธอกำลังคิดหาทางออกทางหนึ่งที่เธอคิดได้คือปืนหน้าต่างหนีแต่มันกลับไม่เป็นอย่างหวัง.....เมื่อเธอวิ่งไปมองที่หน้าต่างมองไปเห็นผู้ชายสองสามคนย
“สวัสดีริล” “สวัสดีค่ะคุณอันดา” “มีของมาส่งน่ะ ที่โต๊ะ” “ขอบคุณค่ะ” เช้าวันนี้ริลตื่นมาพบว่าซาตานเมื่อคืนได้หายตัวไปอีกแล้ว แต่มันก็ไม่แปลกสำหรับเธอหรอก เพราะสิ่งที่เขาต้องการจากก็แค่ระบายความใคร่เท่านั้น ไม่น่าเจอกันเลยจริงๆ ถือว่าให้หมามันกินแล้วกัน! “ใครส่งมานะ” ริลสะบัดความคิดแย่ๆ แล้วมาสนใจกล่องพัสดุเล็กๆ ที่ไม่มีชื่อผู้ส่ง เปิดดูข้างในกลับพบว่ามีซองสีชมพูห่อกระดาษอะไรสักอย่างไว้ภายใน O__O!!!! นะ นี่มัน รูป หญิงสาวหน้าชาแล้วรีบถือของสิ่งนั้นเดินเข้าห้องน้ำทันที ก่อนจะหันดูให้แน่ใจว่าไม่มีใครตามเธอมาแล้วจริงๆ ….นี่มันอะไรกัน…. ในซองเต็มไปด้วยรูปเปลือยของเธอและเฟร์สเต็มไปหมดภาพมีทั้งมองเห็นใบหน้าและมีถึงขั้นมองเห็นหน้าอกของเธอชัดเจน นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน เขาทำแบบนี้ทำไม! ตืด… ระหว่างที่กำลังโมโหจนน้ำตาไหล โทรศัพท์ในกระเป๋าเสื้อก็สั่นขึ้นเมื่อเธอหยิบมันขึ้นมาดูก็พบว่าชื่อที่แสดงเป็นเบอร์ที่ไม่รู้จัก ริลกลืนความโมโหทั้งหมดลงคอไปเพื่อทำตัวให้ปกติที่สุดก่อนจะรับสายนั้น “ฮะ ฮัลโหลค่ะ” (ไง ทำไมไม่แบ่งคนอื่นดูบ้างละ หุ่นสวยๆ ของเธอกับหุ่นล่ำๆ ของฉันน่ะ) “คุณเฟร์ส!!” (ยังจ