"จะดื่มอะไรก่อนไหม"
คุณทิวเทพถามฉันหลังจาก นั่งเงียบมาสักพัก
'อะ เอาน้ำส้มก็ได้ค่ะ"
"มาผับแต่ดื่มน้ำส้ม?"
“ฉันคออ่อนค่ะ เลยไม่อยากดื่ม เดี๋ยวคุยไม่รู้เรื่อง”
ฉันบอกเขาไป
"โอเค ฉันสั่งเครื่องดื่มให้ก่อนแล้วกัน"
หลักจากเครื่องดื่มมาเสริฟ ฉัน จึงถามเขาถึงงานที่จะให้ทำ
"งานที่คุณอยากให้ทำคืองานอะไรคะ ฉันสนใจอยากสมัครทำงานค่ะ”
"ฉันต้องการคนมาแกล้งเป็นภรรยาปลอม ๆ เพื่อหลอกพ่อกับแม่ฉัน เพราะฉันไม่อยากโดนคลุมถุงชน"
ฉันแทบสำลักน้ำส้มที่กำลังยกดื่ม แกล้งเป็นภรรยา!? นี่เขาสติดีหรือเปล่าเนี่ย หนุ่มหล่อแบบเขาจะหาใครมาแต่งด้วยก็ได้แค่กระดิกปลายนิ้วเท่านั้น
นอกจากหน้าตาที่ดีแล้วฐานะของเขาเรียกได้ว่าเป็นมหาเศรษฐีคนนึ่งได้เลยนะ อีกอย่างยุคสมัยนี้ยังมีอีกเหรอที่จับคู่คลุมถุงชนเนี่ย ไม่อยากจะเชื่อเลย
"คุณต้องบ้าไปแล้วแน่ ๆ”ทิชาพึมพัมเบา ๆ
"ไม่บ้า ฉันคิดมาดีแล้ว ถ้าเธอตกลงค่าตอบแทน 10 ล้าน แล้วหลังหย่าฉันมีค่าเสียเวลาค่าอื่น ๆ ให้อีกต่างหาก ระยะเวลาคือ 6 เดือน....”
ฉันนั่งอึ้งพูดไม่ออกเลยทีเดียว แต่งงาน? หย่า? เงิน 10 ล้าน? กับคนที่เจอหน้ากันแค่ 2 ครั้งเนี่ยนะ
"ฉันต้องการเวลาคิดค่ะ"
"1 วัน ฉันให้เวลาคิดแค่ 1 วัน"
1 วัน!!!! ให้ตายเถอะ ฉันควรทำไงดีเนี่ยย ชีวิตของยัยทิชาช่างบันเทิงจริง ๆ
"เก็บไปคิดนะ ยัยบ๊อง เธอมีแต่ได้กับได้ ถ้าเธอตกลงฉันจะให้ทุกอย่างที่เธอต้องการ ไม่ว่าจะอะไรก็ตาม”
เขากล่าวแล้วลุกขึ้นทันที พร้อมอมยิ้มที่มุมปาก
หล่ออ่ะ ยิ้มได้มีเสน่ห์มาก
"ไว้เจอกัน อีก 1 วันนะ ยัยบ๊อง"
ในตอนที่เขากำลังเดินออกไป เขาโน้มตัวลงมากระซิบที่ข้างหูฉัน ลมหายใจอุ่น ๆ รดต้นคอ กลิ่นน้ำหอมอ่อน ๆ ที่เข้ากับตัวเขา
พาลทำให้ฉันขนลุกและใจเต้นแรง
มันทำให้ฉันแทบบ้า
"หวังว่าเธอจะตอบตกลงนะ”เขากระซิบ
ทิวเทพลุกออกไปแล้วเหลือแค่ทิชาที่ยังนั่งคิดไม่ตกไว้ที่โต๊ะ เธอนั่งเหม่อพลางคิดถึงสิ่งที่ทิวเทพเสนอ
เพราะเอาจริง ๆ เธอเองค่อนข้างชอบเค้าเลยล่ะ ถึงจะได้เจอกันแค่2ครั้งก็ตาม
เขามีเสน่ห์ดึงดูดเธอเข้าหาได้แบบง่ายดาย เธอใจเต้นแรงทุกครั้งที่มองตาเขา
เธอไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับใคร แต่การแต่งงานก็ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ เช่นกัน ถึงแม้มันจะเป็นระยะเวลา แค่ 6 เดือนก็ตาม
เอาไงดี เอาไงดี
ทิชานั่งคิดไม่ตก แม้แต่น้ำชาเดินมาหา เธอก็ไม่ได้ยิน
"ทิชา"
"....."
"ทิชา"
....
"ยัยทิชาาาาาา!!!!!!"
“ห่ะ ว่าไงแก เรียกทำไมเสียงดัง อยู่ใกล้ ๆ กันเอง"
"ฉันเรียกแกตั้งนานแล้วนะ เหม่อไรเนี่ย สรุปว่าไง ได้งานไหม เขาให้แกทำอะไร”
"เอ่อ......เดี๋ยวฉันเล่าให้ฟังทีหลังนะ แกไปส่งฉันหน่อยสิ ฉันเพลีย ๆ อ่ะ เพิ่งออกโรงพยาบาลมาด้วย"
"แปลก ๆ นะ โอเค ๆ ฉันไปส่งแกก่อนก็ได้ แต่พรุ่งนี้แกต้องเล่าให้ฉันฟังนะ"
ฉันยกนิ้วทำท่าโอเค ก่อนจะลุกขึ้นเดินไปรอที่รถ พร้อมกับยัยน้ำชาที่หันไปร่ำลาแฟนหนุ่มของเธอ
"รอด้วยยย ทิชาาาาา"
เมื่อกลับมาถึงบ้าน ยัยดาวเข้าห้องนอนไปแล้ว ฉันยังไม่อยากเล่าให้เพื่อนฟังเลยย่องเข้าห้องไปอาบน้ำเตรียมเข้านอนพร้อมกับความคิดในหัวที่ตีกันยุ่งเหยิงไปหมด
ฉันนอนพลิกไปพลิกมา คิดถึงข้อเสนอของเขา แววตา กลิ่นน้ำหอมอ่อนของผู้ชาย ลมหายใจอุ่น ๆ ที่รดต้นคอ
นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันนะ เขาคิดอะไรของเขากันแน่ ไม่เข้าใจเลย
วันรุ่งขึ้นที่ มหาลัย G
"อะไรนะ!!!!! แต่งงานนน!!!!???”ยัยสามคนนั่นประสานเสียงกันตะโกนน
"ชู่วววว เบา ๆ สิ แค่แต่งงานเพื่อไม่ให้เขาโดนคลุมถุงชนเท่านั้น แถมค่าตอบแทนก็ดีด้วยนะ ระยะเวลา แค่ 6 เดือนเอง
แถมเค้ายังเป็นคนที่ช่วยฉันไว้เมื่อวานด้วย”
ฉันรีบปิดปากเพื่อน ๆ เพราะพวกนางตะโกนเสียงดังมาก
"ฉันว่าก็ดีนะ เขาไม่เคยมีข่าวกับสาว ๆ ที่ไหนเลยนะ แทบไม่มองหน้าใคร หล่อ รวย ด้วย”
นี่ยัยดาวบอก แกห่วงเพื่อนจริงไหมเนี่ย
"เอาเลย ๆ เขาหล่อนะแก ไม่เอาเสียดายแย่”นี่ยัยน้ำชาบอก
"แต่ฉันได้ยินมาว่าเขาเป็นมาเฟียด้วยนะ จะปลอดภัยจริงหรอ ไว้ใจได้แค่ไหน"
“แต่พี่ไทบอกว่าเขาเป็นคนดีนะ”
น้ำชาพูดพลางยิ้มแบบไม่รู้ร้อนรู้หนาว
"ย่ะ ยัยคนติดแฟน แกนี่ซื่อเสมอต้นเสมอปลายจริง ๆ”
ฉันประชดน้ำชา
"ซื่อสัตย์ใช่ม้าาา"
"ซื่อบื้อ”เพวกเราตอบโดยพร้อมเพรียงกัน
"พวกแกนี่มันนน..."
"โอ๊ย.....เลิกเถียงกันก่อนไหม ช่วยทิชาคิดก่อน มันเครียดจนคิ้วจะผูกกันแล้ว”ดาวบอก
ฉันนั่งฟังพวกมันเถียงกันและคิดตามไปด้วย
"เอางี้ไหมทิชา ถ้าแกอยากทำ ก็ทำ แต่ให้เขาร่างสัญญาชัดเจน ทำข้อตกลงอะไรก็ว่าไป ดีไหมว่ะ"
"นั่นสิ จำนวนเงินที่เขาเสนอ ไม่ใช่น้อย ๆ เลยนะ มันพอให้แกอยู่ได้สบาย ๆ เลยนะ ถ้าแกกลัวไม่ปลอดภัยก็ทำอย่างที่ลดาบอก ร่างสัญญากันไปเลย วินวินทั้งคู่"
"ที่แกยังลังเลเนี่ย เพราะแกกลัวเค้าหรือแกกลัวหลงรักเค้ากันแน่ ทิชา?"
ฉันชะงัก คำพูดของลดา ทำให้ฉันฉุกคิด นั่นสิฉันกลัวอะไรกันแน่นะ กลัวตัวตนของเค้า หรือกลัวหัวใจตัวเอง
"เงียบแบบนี้ แสดงว่าใช่ ทิชา แกหวั่นไหวใช่ไหม"
"บะ..บ้าา ไม่ใช่หรอก"
"หราาาา ไม่ใช่ แล้วทำไมต้องหน้าแดงล่ะ"
"อากาศมันร้อนนน"
"เออ ร้อนก็ร้อน ฉันต้องไปแล้ว ค่อยคุยกันนะ"
"ฉันด้วย ๆ ได้เรื่องไงบอกน้าาาา รักแกน้าาาจุ๊บ ๆ ๆ”
ลดากับน้ำชาแยกออกไปเรียนแล้ว เหลือแค่ฉันกับดาวยังนั่งอยู่ พวกเราเข้าเรียนคณะเดียวกัน
"เอาไงต่อทิชา"
"คงต้องเหมือนลดาบอก ทำสัญญากับเค้าให้เรียบร้อย กันไว้ดีกว่าแก้"
"ถ้าแกว่าแบบนั้น ก็ดีแล้วล่ะ อย่าเครียดล่ะ ไปเถอะ ต้องไปเรียนแล้ว"
"อืมม"
ถึงฉันตกลงที่จะแต่งงานกับคุณทิวเทพ แต่ต้องคุยกับเขาเรื่องสัญญาให้เรียบร้อยก่อน
ฉันพิมพ์บอกลดากับน้ำชาไว้ในกลุ่มพร้อมขอคอนแทคติดต่อคุณทิวเทพจากน้ำชา
ซึ่งยัยนั่นก็ให้มาแบบง่าย ๆ สงสัยอยากให้เพื่อนมีผัวมาก
085889XXXX
"ฮัลโหล"
"สวัสดีค่ะ ใช่คุณทิวเทพไหมคะ ฉัน ทะ...ทิชาเอง"
"ครับ"
"ฉันรับข้อเสนอของคุณค่ะ แต่ฉันอยากทำข้อตกลงเป็นลายลักษณ์อักษร คุณสะดวกไหมคะ"
"ไวดีนี่ ตกลง เย็นนี้ผมจะไปรับคุณ คุณเลิกเรียนกี่โมง"
"15.00 ค่ะ"
"โอเค"
ติ๊ดด
พูดจบปุ๊บ เขาตัดสายฉันทันที
ฉัยยกโทรศัพท์ออกแบบงง ๆ มารับ ? ที่ไหน ยังไง เค้ารู้งั้นหรอว่าฉันเรียนที่ไหน ? นี่ฉันคิดถูกหรือคิดผิดเนี่ย ที่รับข้อเสนอของเขา
LINE สี่สาวแสบทรวง
ทิชา :ฉันตกลงจะรับข้อเสนอคุณทิวเทพนะ เย็นนี้เค้าจะมารับไปคุยเรื่องสัญญา
ลดา :คิดดีแล้วนะ
ทิชา :อืม คงเป็นทางออกที่ดีที่สุดอ่ะ
น้ำชา: เยี่ยม ๆ สู้ ๆ น้าาาแก
ดาว :ยินดีด้วย เพื่อนจะมีผัวแล้ววว
ทิชา: -*-
⁕⁕⁕
special part
ผมรีบวางหูทิชาก่อนที่จะหลุดพิรุธออกไป ในที่สุดเธอก็ตกลง จริง ๆ แล้วพ่อกับแม่ผม ไม่ได้บังคับผมหรอก ท่านรู้ว่าบังคับผมไม่ได้
ผมแค่อยากจะจีบเธอ แต่ผมพูดไม่เก่งแถมไม่ชอบการรอคอย
ผมเป็นมาเฟียและไม่ใช่คนดีเท่าไหร่นัก ถ้าผมอยากได้ผมต้องได้เท่านั้น แม้วิธีการมันจะผิดก็ตาม!!!
ทิวเทพกดโทรศัพท์โทรหาแม่ของเขา พร้อมบอกข่าวดี
"แม่ครับ"
"ว่าไงลูกชาย วันนี้ฝนจะตกไหมเนี่ย ลูกชายคนโตโทรหาแม่เนี่ย"
"ผมหาสะใภ้ให้แม่ได้แล้วนะ แต่แม่ต้องเล่นตามน้ำผมไปก่อนนะครับ"
"ตายแล้ววว นี่ลูกไม่ได้ไปฉุดใครมาใช่ไหม"
"เปล่าครับ นี่แม่เห็นผมเป็นคนยังไงเนี่ย"
"เอาแต่ใจไง ตั้งแต่เด็ก ๆ แล้ว"
"ไม่รู้ล่ะครับ ถ้าแม่อยากได้สะใภ้ แม่ต้องเล่นตามน้ำผมไปก่อนนะ บอกพ่อด้วยนะครับ สวัสดีครับ"
"เดี๋ยว ทิว....."
ติ๊ด........
ผมกดวางสายทันทีที่พูดจบ ผมบอกแล้วไง ถ้าผมอยากได้ ผมต้องได้เท่านั้น ไม่ว่าจะวิธีไหนก็ตาม
End special part
วันรุ่งขึ้นเพื่อน ๆ ที่รู้ข่าวก็แห่กันมาเยี่ยมจนฉันแทบไม่ได้พักทุกคนต่างตกหลุมรักเจ้าสองแฝด“อร๊ายยยย หลานฉันน่ารักมากแก ถ้าฉันมีลูกชายฉันจองนะ”“แกแต่งงานให้ได้ก่อนนะ น้ำชา”มันทำท่าชำเลืองไปทางแฟนมันก่อนจะพูดออกมา“ก็....รออยู่ล่ะนะ....”“พอ ๆ เลิกมาหวานกันเลย เกรงใจคนโสดบ้างงง”ดาวพูดขึ้นก่อนจะหันไปเล่นกับหลาน“น่ารักจริง ๆ หลานน้า โตขึ้นอย่าเหมือนแม่นะ”“ดาววว นี่เพื่อนนะ!”ดูมันบอกลูกฉันสิ ฉันไม่ดีตรงไหนกัน! เหมือนเด็ก ๆ จะเริ่มรำคาญเสียงรอบ ๆ ตัว ทัชชาเริ่มเบะปากก่อนจะร้องไห้เสียงดังออกมา‘อุแว้ อุแว้ อุแว้’และแน่นอนว่าเมื่อคนหนึ่งร้อง อีกคนก็ร้องตามทันที‘แงงงงงงงงง’เสียงร้องของสองแฝดทำให้ทุกคนในห้องเงียบกริบทันที พี่ทิวเดินไปอุ้มลูกมาให้ฉันคนนึ่งและตัวเองอุ้มไว้อีกคนนึ่งก่อนจะออกปากไล่ทุกคนให้ออกไปจากห้อง“ลูกน่าจะหิว ทุกคนออกไปก่อนนะ”บรรดาน้า ๆ ทั้งหลายรีบเดินออกจากห้องไปเหลือเพียงพ่อ แม่ลูกเท่านั้นฉันเปิดเสื้อออกให้นมทัชชาก่อน พอคนโตเงียบคนเล็กก็เงียบตาม ทัชชกรหลับต่อในอ้อมแขนของพี่ทิวดูท่าจะเป็นหนุ่มขี้รำคาญเหมือนพ่อซะด้วย“หนูว่าทัชชกรน่าจะเหมือนพี่ทิวแน่ ๆ เลยค่ะ”“ท
“โอ๊ยย พี่ทิว หนูปวดท้องง”กลางดึกคืนหนึ่ง ทิชาตื่นขึ้นมาจากความเจ็บปวดที่ท้อง ร่างบางนอนกุมท้อง อีกมือก็เอื้อมไปเขย่าเรียกสามีที่นอนอยู่ข้างๆ“ทิชา เป็นอะไรครับ จะคลอดเหรอ”“ปวดท้องงง โอ้ยยยย”“ไอ้นัท เตรียมรถ”ทิวเทพตะโกนลั่นบ้านเรียกให้นัทที่มาทำงานเตรียมออกรถไปโรงพยาบาล ร่างสูงประคองทิชาลงจากเตียงเบา ๆ แต่พอเธอลุกขึ้นยืนน้ำคร่ำก็ไหลออกมาจนเขาตกใจ‘ซ่า.......’“ทิชา!”“พะ พี่ทิว หนูปวด โอ้ยยยย”เขาก้มลงช้อนตัวทิชาวิ่งออกจากห้องทันทีพอขึ้นรถมาได้ อาการปวดก็ยิ่งถี่กว่าเดิม มันทั้งปวด ทั้งบิดในเวลาเดียวกัน มือเล็กปัดป่ายไปทั่วจนคว้าหมับ! เข้ากับผมดำสลวยของทิวเทพ ก่อนจะออกแรงขยุ้มจนร่างสูงสะดุ้งไปด้วย“ทิชา ใจเย็น ๆ นะ หายใจลึก ๆ ”“โอ้ยยย เงียบไปเลย มาปวดเองไหมล่ะ ปวดจะตายอยู่แล้ว!”ทิวเทพถึงกับอึ้งไปเลยเขาไม่เคยได้ยินเธอขึ้นเสียงใส่เขามาก่อนแม้แต่ครั้งเดียว เขาบีบมือเธอเพื่อให้กำลังใจพร้อมกับเร่งนัทให้ขับไวขึ้น ทิชาออกแรงดึงผมเขาเต็มที่จนเขาขมวดคิ้วแน่น“โอ้ยยย เร็วกว่านี้ได้ไหม!!!”ทิชาตะโกนเร่งดังลั่นรถ เธอจะไม่ไหวแล้วสองแฝดถีบท้องตุบ ๆ ราวกับจะออกมาให้ได้ สัญชาตญาณความเป็นแม่สั่งใ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก ๆ“นายครับ ผมมีเรื่องจะแจ้งให้ทราบครับ”นนท์ที่อยู่ในสภาพร้อนใจเคาะห้องรับแขกเรียกเจ้านายไม่หยุดไม่ต่างจากคน 2 คนที่อยู่ในห้อง ทิชาผลักทิวเทพออกเต็มแรงด้วยความตกใจ“พะ พี่ทิว พี่นนท์มาค่ะ”ทิวเทพสบถออกมาเล็กน้อย ก่อนจะไปหยิบผ้ามาให้ทิชาคลุมตัวไว้ ท่าทางเขาหัวเสียน่าดูที่โดนขัดจังหวะจนทิชาอดหัวเราะออกมาไม่ได้“คิก คิก ไม่ทำหน้าแบบนั้นสิคะ พี่นนท์อาจจะมีเรื่องด่วนก็ได้นะ”“ถ้ามันไม่ด่วนอย่างที่หนูบอก พี่จะหักเงินเดือนมัน”ทิวเทพพูดพร้อมกับจัดผ้าคลุมขาของทิชาไว้ก่อนจะเดินไปเปิดประตูให้ลูกน้องเข้ามา“นายครับ!!!!”“เออ กูได้ยินแล้ว!”‘แกร๊ก’พอประตูเปิดนนท์ก็พรวดพราดเข้ามาด้านในด้านท่าทีลุกรี้ลุกลนจนทิวเทพแปลกใจ นนท์ทำงานข้างกายเขามานานไม่เคยเห็นมันเป็นแบบนี้“มีอะไร?”“เรื่องนายเข้มครับ....”ทิวเทพกำลังจะห้ามไม่ให้นนท์พูดต่อ แต่ว่าไม่ทันแล้วทิชาที่นั่งอยู่ในห้องได้ยินซะก่อน“เกิดอะไรขึ้นคะ พี่นนท์?”“เอ่อ คือ”นนท์หันมองผู้เป็นนายเพื่อขอความเห็นในเมื่อเธอได้ยินแล้ว ไม่มีประโยชน์ที่จะปิดบังทิชาอีกต่อไปเขาจึงพยักหน้าให้นนท์พูดได้เลย“นายเข้ม เสียแล้วครับ ที่ชายแดน”ทิชายกมือป
หลังจากนั้นมาทุกอย่างก็เป็นอย่างที่ทิวเทพคิดไว้ เขาต้องพาทิชาไปด้วยทุกทีเพราะเธอติดเขาแจ ถ้าเขาออกไปไหนโดยไม่พาเธอไปเธอก็จะร้องไห้จนเขาต้องรีบกลับมาหาตอนนี้ทิชาท้องได้ 5 เดือนแล้ว เธอตัดสินใจแล้วว่าจะลองมาเจอปู่กับย่าของเธอสักครั้งถึงจะอยากเลี่ยงมากแค่ไหนแต่ก็คงเลี่ยงไม่ได้และเท่าที่แม่บอกก็คือท่านรู้สึกผิดกับเรื่องที่ทำลงไปไม่น้อยเลย“พร้อมไหมครับ”มือบางเย็นและสั่นเล็กน้อย ทิวเทพจับมือทิชาไปกุมไว้มอบความอุ่นใจให้กับเธอร่างบางหันมาส่งยิ้มให้เขา นี่เป็นอีกเหตุผลที่เธอยอมมาเจอท่านทั้งสองเพราะทิวเทพเองก็มีส่วนพูดให้เธอได้คิดไม่น้อย‘พี่ว่าหนูควรไปเจอท่านซักครั้งแล้วค่อยตัดสินใจดีไหมครับ อย่างไรท่านก็เป็นญาติผู้ใหญ่นะ’‘ลองดูนะครับ เดี๋ยวพี่ไปกับหนูเอง’นี่เป็นบทสนทนาที่ทำให้ทิชามาจอดรถหน้าบ้านของพ่อเธอเวลานี้“ไปกันเถอะค่ะพี่ทิว”ทิชาบอกพร้อมสูดหายใจลึก ๆ ก่อนจะลงจากรถไปหาพ่อกับแม่ที่ยืนรออยู่“สวัสดีค่ะ พ่อ แม่”“มาแล้วเหรอลูก เข้าไปด้านในกัน ปู่กับย่ารอเจออยู่”พ่อเดินเข้ามาสวมกอดเธอก่อนจะพาทุกคนเข้าไปในบ้าน ในห้องรับแขกมีร่างสูงอายุของชายหญิงสองคนรอนั่งอยู่ เมื่อทิวเทพและทิชาก้าวม
“พี่ทิวคะ หนูขอออกไปเที่ยวกับเพื่อน ๆ นะคะ”เสียงหวาน ๆ เรียกเขามาแต่ไกลพร้อมกับเดินมากอดแขนเขาที่นั่งดื่มอยู่ที่บาร์“หืมม จะไปไหนกัน ให้พี่ไปด้วยไหม”ทิวเทพวางแก้วเหล้าลงพร้อมกับยกมือลูบหัวเธออย่างเอ็นดู ตั้งแต่ท้องเธอก็อ้อนเขามากกว่าปกติ สงสัยถ้าลูกสาวออกมาคงจะติดพ่อน่าดู“ไม่ล่ะคะ อยากเที่ยวกันตามภาษาสาว ๆ”“งั้น ให้นนท์ขับรถให้นะ ลูก ๆ อย่าดื้อกับแม่นะครับ”ทิวเทพก้มลงไปพูดกับลูบท้องเธอเบา ๆ“โอเคค่ะ เดี๋ยวหนูมานะคะ”ร่างบางเดินออกไปขึ้นรถโดยมีสายตาของสามีมองตามไม่หยุดถ้าเพื่อนเขาไม่ทักขึ้น คงไม่ยอมละสายตาออกมา“เฮ้ย หวานไม่เกรงใจพวกกูเลยนะ สนใจงานก่อนครับเพื่อน”“นั่นดิ กลับมาคุยเรื่องงานก่อนไหม”เขายิ้มออกมาก่อนจะหันมาคุยกับเพื่อนต่ออีกรอบ««««»»»»ทิชาเดินยิ้มออกมา จริง ๆ อยากให้เขาไปด้วยแต่ก็เข้าใจว่าเขาคงมีธุระคุยกับเพื่อนเลยเลือกที่จะไปกันเองตามประสาสาว ๆเวลาเมาท์จะได้เมาท์ง่าย ๆ ด้วยนนท์ขับรถพาทุกคนมุ่งตรงไปยังห้างหรูใจกลางเมือง ซึ่งก็ไม่ใช่ที่ไหนไกล มันคือห้าง Timeless นั่นเอง“พี่นนท์ไปหาอะไรทำก่อนได้เลยนะคะ เดี๋ยวเสร็จแล้วทิชาโทรเรียก”“ได้ครับ ผมจะรอแถว ๆ นี้นะครับ”
หลังจากที่เธอสงบสติอารมณ์ได้แล้ว นนท์ก็พาทิชามุ่งตรงไปที่บ้านทันที เมื่อมาถึงรถสปอร์ตที่คุ้นตาก็จอดอยู่มันคือรถพ่อแม่ทิชา ซึ่งมันก็ทำให้เธอแปลกใจเล็กน้อยว่าท่านมาทำอะไรกันที่นี่?“สวัสดีค่ะ คุณพ่อ คุณแม่”ทิชายกมือไหว้ผู้ใหญ่ที่นั่งอยู่ในห้อง ซึ่งมีทั้งพ่อแม่เธอและเขารวมทั้งทิวเทพกับเทวาเองนั่งอยู่ด้วย เทวาอาการดีขึ้นมาแล้ว เหลือแค่รักษาแขนที่หักเท่านั้น“สวัสดีค่ะพี่เทวา เป็นยังไงบ้างคะ”“ดีขึ้นเยอะแล้วครับ ขอบคุณที่เป็นห่วงนะแล้วก็ยินดีด้วยนะ”เทวายื่นกล่องของขวัญที่เตรียมไว้ให้เธอ ทิชากล่าวขอบคุณก่อนจะรับมาแล้วเดินไปนั่งข้าง ๆ สามี“ว่าแต่พ่อกับแม่มาทำอะไรที่นี่คะ?”“เปล่าหรอก พ่อกับแม่ค้างที่นี่น่ะ เมื่อคืนเรามาคุยกันต่อนิดหน่อย”ทิชาอดคิดไม่ได้ว่าไอ้การคุยกันนั่นคงไม่ใช่มาดื่มกันต่อหรอกนะ....แต่เหมือนทุกคนจะรู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่ ทุกคนเลยพร้อมใจกันเข้าเรื่องทันที“ที่แม่ให้มาหาวันนี้ก็ไม่มีอะไรหรอก แม่มีของจะให้แม่ของทิวเทพหยิบเอกสารส่งให้เธอเปิดดู ด้านในเป็นโฉนดที่ดินพร้อมบ้านที่ตั้งอยู่แถบชานเมือ ทว่าทำเลดีมากแถมราคายังแพงสุด ๆ“นี่มันไม่มากไปเหรอคะคุณแม่ทิชาพูดออกมาอย่างเกรงใจ