Share

บทที่ 50

Author: Karawek House
last update Last Updated: 2025-09-06 17:57:21

“แต่คุณก็ไม่ตายใช่ไหมล่ะ...และถ้าผมเดาไม่ผิด ที่วันนี้เจ้ากรมการเมืองรอดมาได้ ก็เพราะได้คุณช่วยไว้”

“นี่พูดเรื่องอะไรกัน” เจ้ากรมการคลังถามเสียงเข้ม เหมือนอึดอัดเพราะสภาพการณ์ตรงหน้าเต็มที่

“ญาติผู้น้องท่านเจ้ากรมรายนี้ เกือบเสี่ยงทำให้แผนการที่ผมวางไว้พังพินาศด้วยการส่งคนไปลอบวางยาเจ้ากรมการเมืองในกาน้ำชาน่ะสิ แล้วตอนที่เจ้ากรมการเมืองโดนวางยา ผมเองก็อยู่ที่นั่น กำลังจะดื่มชาจากกาเดียวกันโดยไม่รู้อะไรเลยสักอย่าง”

เจ้าของคฤหาสน์เหลียวมองหน้าคาร์ลทันที

“เราไม่เคยคุยกันเรื่องนี้นี่” เจ้ากรมการคลังเอ่ยเสียงเรียบ

“ครับ ผมตัดสินใจโดยพละการ ต้องขออภัยจริงๆ ” คาร์ล วิลส์ตัน หันมาหาคนเพิ่งเฉียดตายอีกหน “ขอโทษที่ทำให้คุณตกอยู่ในอันตราย คราวต่อไปจะไม่มีแบบนี้แล้ว...ผมจะระวังให้ดี”

“ต้องไม่มีครั้งต่อไป” เจ้ากรมการคลังออกคำสั่งทันที “ปล่อยเรื่องเจ้ากรมการเมืองให้ไซรัสดูแล ขืนใช้วิธีแข็งขืนฝืนกระทำไปจะยุ่งยากในภายหลัง”

“ครับ” คาร์ลยอมตกปากรับคำง่ายๆ ก่อนเดินเข้ามายื่นมือให้ไซรัส พ่อค้าหนุ่มจึงยื่นมือข้างเดียวกันออกไปจับมือข้างนั้น เป็นนัยว่ายอมรับคำขอโทษ “ยินดีที่ได้คุณมาร่วมงาน” คาร์ลยังคงโปรยยิ้มอย่างเป็นมิตร แต่ไซรัสกลับไม่รู้สึกว่าเขาเป็นมิตร

บางทีชายคนนี้อาจกำลังกดเก็บความรู้สึกขุ่นเคือง หรืออาจจะมีอะไรมากกว่านั้นซ่อนอยู่ภายใต้หน้ากาก แต่ตอนนี้ทุกอย่างเพิ่งเริ่มต้น ไม่เหมาะจะมาขัดแย้งกับใครด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง

ปกติเขาเองก็คุ้นชินกับการสวมหน้ากากอยู่แล้ว โดนคนอื่นสวมหน้ากากเข้าหาบ้างจะเป็นไร ขอแค่ไม่ขัดผลประโยชน์กันเอง ไม่มาเกะกะขัดแข้งขัดขาเขา เป็นใช้ได้

สิ่งหนึ่งที่ไซรัสคาใจคือ ขุนนางหนุ่มอนาคตไกลรายนี้ทำเรื่องคราวนี้ลงไปด้วยจุดประสงค์อะไร ทำลงไปเพียงเพราะอยากกำจัดเจ้ากรมการเมืองให้พ้นทางฝ่ายตน หรือเลือกทำแบบนี้เพราะมีเหตุผลลึกล้ำใดซุกซ่อนอยู่

เมื่อกลับถึงตึกสี่ชั้นใจกลางย่านร้านค้า พ่อค้าหนุ่มมอบคำสั่งใหม่ให้อารีแทบจะทันที

“ตรวจสอบเรื่อง ‘คาร์ล วิลส์ตัน’ อย่างละเอียด”

สั่งแล้ว คนที่วิ่งรอกไปคฤหาสน์โน้นคฤหาสน์นี้ทีมาทั้งวันก็กลับเข้าห้องทำงานแล้วลงมือเขียนจดหมายแสนสำคัญพลางคิดใคร่ครวญว่าที่ผ่านมายังมองข้ามอะไรไปอีกหรือไม่

อัยน์นา ยืนมองภาพสาวใช้วิ่งวุ่น ช่วยกันหยิบโน่นส่งนี่ แต่งตัวให้เธอตามคำสั่งแม่เลี้ยงและพี่สาวต่างมารดาแล้ว ก็อดสงสัยไม่ได้ ว่าแม่เลี้ยงกับพี่สาวเห็นเส้นผมเธอเป็นเส้นผมหรือเศษฟางกันแน่ ถึงได้สั่งให้สาวใช้ช่วยกันยี ช่วยกันตีจนเส้นผมสีดำยาวหยักศกทั้งหยิกทั้งฟูเสียยิ่งกว่ารังนก จากนั้นก็เกล้าขึ้นสูง โดยไม่ลืมประโคมร้อยลูกปัด ร้อยเครื่องประดับชิ้นใหญ่ๆ เข้าไปเสียเต็มที่ นัยว่ายิ่งมวยตั้งขึ้นได้สูงเท่าไหร่ก็ยิ่งดูดี ยิ่งดูหรูหรา

ไหนจะชุดกระโปรงสีฟ้าฟูฟ่องชายลากพื้นยาวร่วมสองเมตรนี่อีกล่ะ ดูเผินๆ ก็ดูสวยดูหรูหราดี แต่แต่งแบบนี้จะไม่ประหลาดเกินไปหน่อยหรือ?

เท่าที่เธอจำได้ งานเลี้ยงหนนี้จัดเป็นงานเลี้ยงเต้นรำ ไม่ใช่งานเลี้ยงรับประทานอาหารหรืองานที่เชิญแขกให้ไปนั่งเชิดหน้าประคองทรงผมสวยหรูดูละครเพลง ด้วยทรงผมและกระโปรงแบบนี้ เกิดประเหมาะเคราะห์ดีหรือมีกรรมดลให้เธอต้องออกไปเต้นรำเมื่อไหร่ เธอจะไม่เผลอสะดุดชายกระโปรงตัวเองหรือทำให้ใครสักคนล้มคะมำเพราะโดนชายกระโปรงเธอพันขาหรอกหรือ? ผมเกล้าสูงจนน่ากลัวนี่ก็เหมือนกัน เกิดเดินเหินอยู่ดีๆ แล้วเธอพลาดทำผมตัวเองเกี่ยวโคมไฟระย้า ภาพที่ออกมาคงจะน่าขำพิลึก

แค่นึก ภาพความวินาศสันตะโร ก็ลอยเด่นขึ้นมาเป็นฉากๆ

ดูเท่านี้ก็รู้แล้ว ว่าท่านผู้หญิงแกรนเทรนท์กับพี่สาวต่างมารดาพยายามจะกลั่นแกล้งเธอ ด้วยการจับแต่งตัวด้วยรูปแบบการแต่งตัวที่กำลังเป็นที่นิยมชนิดสุดโต่ง มองเผินๆ ก็ดูสวยเก๋ นำสมัย แต่พิจารณาด้วยสติแล้ว ย่อมเห็นได้ชัดว่าผิดกาละโอกาสอย่างที่สุด ครั้นบอกปัด ครั้นขอลดความ ‘อลังการ น่าตื่นตาตื่นใจ’ ทั้งสามคนก็ไม่ยอม หัวเด็ดตีนขาดอย่างไร ก็ไม่ยอม

นาทีนี้ ‘ท่านหญิงกุหลาบทะเลทราย’ เลยต้องกลายเป็น ‘ตุ๊กตาชุดฟูฟ่อง’ กลายเป็นของเล่นให้สตรีชั้นสูงสามคนจับแต่งตัวเป็นที่สนุกสนาน

“ท่านผู้หญิงคะ แต่งตัวแบบนี้จะดีเหรอคะ” เธอพยายามถามเรียกสติท่านผู้หญิงแกรนเทรนท์เป็นครั้งสุดท้าย ทั้งที่ในใจมัวพะวงเรื่องบิดากับพันธมิตรใหม่อย่างไซรัส ผู้ซึ่งเพิ่งพิสูจน์ตัวเองด้วยวิธีน่าตกใจกลางดึกในเมื่อราวเจ็ดวันก่อน

ยามเที่ยงคืน...สายลมเงียบสงัด พ่อค้ารายนั้น ส่งบางสิ่งบางอย่างซึ่งจำกัดความได้ว่า เป็นสิ่งมีชีวิตที่ดูคล้ายมนุษย์แต่มีปีกสีดำสนิทเหมือนอีกา มาบินผ่านคฤหาสน์ แล้วยิงธนูส่งสารลายมือไซรัสพร้อมถุงผ้าบรรจุสร้อยเงินห้อยจี้อัญมณีสีนิลเม็ดโตจากกลางอากาศลงปักขอบหน้าต่างห้องทำงานบิดาเธอ...แม่นยำเหมือนเทพเจ้าช่วยจับวาง

“ทำไมยะ” แอนนาเบลถามสวนทันควัน

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เล่ห์รักเจ้าชายอสูร   บทที่ 61

    “ขออภัย ขอผมอกไปสูดอากาศข้างนอกสักครู่” นี่เป็นคำพูดตัดบทขอปลีกตัวที่ไซรัสมองว่าช่างฟังดูทื่อและเสียมารยาทที่สุดเท่าที่เขาเคยทำหลุดจากริมฝีปาก แต่ตอนนี้สมองเขาเริ่มตื้อตันเกินกว่าจะนึกอะไรไหว“สีหน้าคุณดูไม่ดีเลย ไม่สบายหรือเปล่าคะ เราติดต่อขอความช่วยเหลือมหาดเล็กขอให้เขาช่วยจัดห้องพักให้คุณดีไหม”“อย่าให้ใครต้องลำบากเลยครับ ผมแค่มึนหัวนิดหน่อยเท่านั้น” เขาเริ่มนึกถึงสวน นึกถึงต้นไม้รกครึ้ม ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองไม่ปกติก็ยิ่งอยากซ่อนตัวมากขึ้นเท่านั้น“ถ้าอย่างนั้น เราออกไปที่อุทยานกลางดีไหมคะ” สิ่งที่พริสซิลล่าเสนอ ตรงใจเขาพอดี “นะคะ เดินออกไปทางประตูตะวันออก แป๊บเดียวก็ถึงแล้ว เดี๋ยวดิฉันจะพาไป”“เปลี่ยนเป็นบอกทางดีกว่าครับ หายไปด้วยกัน ใครเห็นเข้าจะดูไม่ดี”พริสซิลล่ากัดริมฝีปากอย่างขัดใจ“แต่คุณบอกว่ามึนหัวนี่คะ” เธอจ้องหน้าเขา แววตาบ่งบอกว่าจะไม่ยอมทำตามที่บอกแน่ๆบทจะดื้อ ก็ดื้อดึงขึ้นมาแววตาท่านหญิงผมทองยามนี้ ดูรั้น ไม่ยอมคน คล้ายอัยน์นาอย

  • เล่ห์รักเจ้าชายอสูร   บทที่ 60

    “ตาถั่วน่ะสิ” แอนนาเบลถลึงตาใส่ “เถียงคำไม่ตกฟาก แค่ถามว่าฉันทำหายที่ไหนแล้วช่วยกันหาไม่ได้หรือไง นั่นของแพงมากนะยะ”“แล้วคุณพี่ไปทำตกไว้ที่ไหนล่ะคะ”คำถามสั้นๆ จากอันย์นา ทำเอาท่านหญิงคนรองสะอึกหล่อนกลอกตา ก่อนตอบ“ในสวน”“ในสวน...? สวนไหนคะ”“ก็สวนใกล้ๆ นี่น่ะสิ!” แอนนาเบลแหวใส่ “เอาเป็นว่าหล่อนต้องมาช่วยฉันหา เดี๋ยวนี้!” บอกแล้ว คนอ้างว่าทำของหายก็เดินนำเธอมุ่งหน้าเข้าหาอุทยานที่เต็มไปด้วยพุ่มไม้ดอก ไม้ดัด และซุ้มไม้เลื้อยนานาชนิดแสงสลัวรางจากเสาติดตะเกียง ส่องให้คุณหนูทั้งสองจากตระกูลแกรนเทรนท์เห็นว่าอุทยานแห่งนี้กว้างขวางจนน่าตกใจ“คุณพี่ไปทำหายบริเวณไหนคะ” อัยน์นาถามหลังกวาดสายตามองไปรอบๆเธอแน่ใจว่าคนอย่างแอนนาเบลไม่มีทางทิ้งงานเลี้ยงหรูหราลงมาที่อุทยานซึ่งทั้งมืดสลัว ทั้งกว้างขวาง ทั้งเงียบเชียบ แบบนี้คนเดียวแน่ แต่ครั้นจะพูดว่ารู้ทัน ประเดี๋ยวพี่สาวจอมโวยวายรายนี้ ก็คงส่งเสียงแหลมแสบแก้วหูปฏิเสธคอเป็นเอ็น กลาย

  • เล่ห์รักเจ้าชายอสูร   บทที่ 59

    “คุณจืดชืดจนใครต่อใครอิจฉา...จืดชืดเสียจนผมละสายตาจากคุณไม่ได้”กระทั่งคำพูดเชิงลบแบบนี้ ยังใช้เกี้ยวพาราสีผู้หญิงได้...เชื่อเขาเลยอัยน์นาพยายามเตือนตัวเองว่าชายคนนี้เป็นจอมเสแสร้ง ทั้งที่เกิดขัดเขินขึ้นมาจนแก้มตึง“ข่าวว่าท่านผู้หญิงสั่งตัดชุดราตรีสีฟ้าสดใสให้คุณสวมมางานนี้...เพราะอะไรถึงกลายเป็นสีทองไปได้” จู่ๆ เขาก็ชวนเปลี่ยนหัวข้อพูดคุยเสียอย่างนั้นไม่เปลี่ยนเรื่องเปล่า ยังมองเสไปทางอื่นชั่วครู่อีกด้วยคุณหนูเจ้ากรมการเมืองไม่ถึงกับรับความเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ทัน เพียงแต่รู้สึกชัดเจน ว่าเขาจงใจพาเธอออกจากบทสนทนาเกี้ยวพาราสีที่ตัวเขาเองเป็นคนเริ่ม ชวนให้สงสัยว่าภายใต้ใบหน้าสวมหน้ากากยิ้มแย้ม เป็นมิตร พ่อค้ารายนี้ คิดอะไรอยู่ในใจท่ามกลางบรรยากาศคลอเคล้าเสียงดนตรี อัยน์นาเผลอจ้องมองนัยน์ตาสีดำ นิ่ง นาน“ความลับค่ะ” เธอเลือกตอบสั้นๆ เพราะไม่อยากพูดเรื่องตัวเองให้ใครฟังเกินจำเป็น“น่าเสียดาย ที่ผมจะไม่มีโอกาสทำความรู้จักช่

  • เล่ห์รักเจ้าชายอสูร   บทที่ 58

    คิดได้ไม่เท่าไหร่ สายตาคมกริบก็สังเกตเห็นชายหนุ่มร่างสูง ผิวขาว รูปร่างสมส่วน สวมชุดสีดำ ขลิบขอบปกคอเสื้อไล่ยาวมาถึงชายด้วยดิ้นเงิน ดูเข้มขรึม น่าเกรงขามเธอจำเขาได้ดี...ถึงวันนี้เขาจะแต่งกายเป็นทางการผิดหูผิดตา แต่นัยน์ตาสีดำกับเส้นผมยาวเหยียดสีเดียวกันและท่าทีทรงอำนาจดุจราชาอย่างนี้ จะเป็นใครไปไม่ได้ นอกเสียจากพ่อค้าน่าสงสัยวันนี้ไซรัสไม่ได้รวบผมต่ำอย่างทุกที แต่ปล่อยให้มันพลิ้วสยาย ติดจะดูเป็นทรงผมที่ดูสบายๆ เกินเหตุ แต่กลับน่ามองอย่างที่สุดเธอส่งยิ้มให้แล้วเดินตรงไปหาเขาทันที‘วันนี้คุณหนูอัยน์นาก็ยังต้องเป็นมิตรที่ดีต่อไซรัส’ นั่นเป็นสิ่งที่เธอบอกตัวเอง เมื่อเกิดแปลกใจที่สองขาพาร่างกายเข้าใกล้เขาโดยไม่แม้แต่จะหยุดคิดไซรัสเองก็คลี่ยิ้มน้อยๆ ให้เธอเช่นกันภาพเหล่านี้ ทำให้บรรดาสาวน้อยสาวใหญ่ในวงสังคมพึงพอใจ...นัยว่าหมดคู่แข่งไปอีกราย แต่ไม่ใช่พริสซิลล่าตอนเห็นอัยน์นาเต้นรำกับเจ้าชาย เธออาจจะริษยา แต่ก็ยังรู้สึกดีกว่าตอนนี้ ตอนที่น้องสาวต่างมารดาพุ่งตรงเข้าหาผู้ชายที่เธอพึงใจโดยไม่หยุดคิดเล

  • เล่ห์รักเจ้าชายอสูร   บทที่ 57

    นานมากแล้วที่เสียงเพลงหวานซึ้งจากเครื่องสายดังกังวานใสขับกล่อมผู้คน และทำหน้าที่ต่างเสียงบอกจังหวะก้าวขาให้คู่เต้นรำที่เหลืออยู่เพียงคู่เดียวเท่านั้น“เธอเต้นเก่งมาก” คู่เต้นหนุ่มกระซิบแผ่วเบาในจังหวะที่อัยน์นาต้องหมุนตัวเข้าใกล้เขาอย่างช่วยไม่ได้“ไม่หรอกค่ะ เพราะคุณเต้นเก่งมากกว่า” เธอหมายความตามนั้นจริงๆถ้ามีใครมาถามว่าชายตรงหน้าเต้นรำเก่งแค่ไหน อัยน์นากล้าบอกทันทีว่าชายคนนี้เต้นเก่งมาก มากจนสามารถเปลี่ยนให้คนเต้นรำพอได้อย่างเธอกลายเป็นคนที่เหมือนเต้นเก่งได้ในพริบตาอยู่ในวงแขนเขา เธอก็ไม่ต่างจากขนนก ได้แต่ล่องลอยพลิ้วไหวไปตามสายลมทุกฝีเท้า ทุกการก้าวเดิน ทุกท่วงท่าการหมุนที่เขาชี้นำ ทำให้เธอได้รับเสียงปรบมือจากแขกในงานเป็นระยะเวลานี้ ใครต่อใครล้วนไม่กล้าก้าวขาเข้ามาเต้นเทียบเคียง พวกเขาเอาแต่เฝ้ามองเธอกับคู่เต้น...นั่นเป็นเรื่องที่น่าอึดอัดที่สุด“ฉันไม่เคยเห็นหน้าเธอมาก่อน” นักเต้นหนุ่มบอกพลางยกแขนส่งให้เธอหมุนตัวใต้การควบคุมอีกครั้ง “

  • เล่ห์รักเจ้าชายอสูร   บทที่ 56

    กว่าตระกูลแกรนเทรนท์จะมาถึงประตูท้องพระโรงที่ใช้เป็นสถานที่จัดงานเลี้ยงหนนี้ งานเลี้ยงก็เริ่มไปนานแล้วอย่างที่ท่านผู้หญิงว่า สร้างความพึงพอใจให้ท่านผู้หญิง พริสซิลล่า และแอนนาเบลไม่น้อยงานเลี้ยงหนนี้ จัดเป็นงานเลี้ยงเต้นรำอย่างที่อัยน์นาเคยได้ข่าวมันเป็นงานเลี้ยงขนาดใหญ่ ภายในท้องพระโรงกว้างขวางปูพรมสีแดงจัดผู้คนมากมายในชุดหรูหราต่างจับคู่เต้นรำ บ้างก็พูดคุย ยิ้มแย้มผู้คนและการแต่งกายว่าน่าประทับใจแล้ว ต้นเสาและเพดานโค้งสีขาวสลักลายละเอียดอ่อน โคมไฟระย้าคริสตัลขนาดใหญ่ใจกลางเพดาน สายประดับคริสตัลที่ห้อยทิ้งตัวเป็นสาย ช่อดอกลิลลี่สีขาวดอกใหญ่จำนวนนับไม่ถ้วน ทหารยืนยามและบริกรในชุดหรูหรา วงดนตรีเล่นสดขนาดมหึมา เครื่องดื่มสีสันแปลกตามากกว่าสิบชนิด ม้านั่งบุกำมะหยี่สีแดงเข้มขาตั้งฉลุลายแบบเดียวกับเพดานดูเรียบหรูรับกับพื้นพรมและผนัง อาหารและของว่างนับร้อยชนิดจัดไว้เป็นคำๆ ประดับประดาด้วยผงสีทองสวยเด่น แต่ละรายละเอียดในงานเลี้ยงล้วนดูสวยงามมีระดับจนไม่อาจนิยามเพียงสั้นๆ ได้ว่า ‘น่าประทับใจ’“เข้าไปตอนนี้ต้องเด่นแน่ๆ ”

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status